ถ้าปู่อยู่ที่นี่ คืนนี้คนพวกนี้ไม่กล้าจองหองขนาดนี้หรอกในอีกด้านหนึ่งทางอีกด้านหนึ่งของถนน เซี่ยเจี๋ยลงจากรถด้วยสีหน้าเคร่งเครียดถนนข้างหน้าถูกปิดกั้นด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคันชายชุดสูทสีดำหลายสิบคนก้าวลงจากรถบรรทุกหัวหน้าเป็นผู้ชายผมสั้น หน้าตาดุร้ายเขามองไปที่เซี่ยเจี๋ย แล้วประสานมือคารวะ “หวังเถี่ยสือแห่งสำนักวัชระ ยินดีที่ได้พบนายท่านเซี่ย”ม่านตาเซี่ยเจี๋ยหดลง “เมื่อสิบปีก่อนหวังเถี่ยสือเคยเป็นจอมยุทธขั้นสูงสุดระดับสาม ได้ยินข่าวเมื่อนานมาแล้วว่านายได้แปรพักตร์ไปเข้ากับตระกูลหลี่แห่งเมืองหนานเฉิง ใช่หรือไม่…”หวังเถี่ยสือหัวเราะ “นายท่านเซี่ย คุณเดาถูกแล้ว เรื่องวันนี้อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวเลย”เซี่ยเจี๋ยรู้แล้วว่าเรื่องนี้มันร้ายแรงแค่ไหนเขาเป็นเจ้าถิ่นของเมืองเจียงเฉิงแต่เมืองเจียงเฉิงเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ที่มีประชากรสองถึงสามล้านคนแต่เมืองหนานเฉิงต่างออกไปเศรษฐกิจพัฒนาไปมากกว่า มีทำเลที่ดีกว่า และมีประชากรประจำมากกว่าสิบล้านคนส่วนตระกูลหลี่แห่งเมืองหนานเฉิง น่าจะมีจอมยุทธระดับสี่อยู่ประมาณห้าคนและว่ากันว่านายใหญ่ของตระกูลหลี่น่าจะอยู่ที่ขั้นสูงสุดของระดั
คำพูดของเย่ซิวทำให้คนทั้งหมดอึ้งตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“ฮ่าฮ่าฮ่า หมอนี่มันลูกวัวเพิ่งเกิด ไม่กลัวเสือ*จริง ๆ!"“ตอนนี้รวยขึ้นมาหน่อยแล้ว จะทำเมินพวกเราก็ได้ใช่ไหม?”“พ่อหนุ่ม แกอวดดีเกินไปแล้ว!”“คิดว่าเราไม่รู้เหรอว่าคนหนุนหลังรายใหญ่ที่สุดของแกคือตระกูลเซี่ยและหูเม่ยเอ๋อร์!"“ไม่ต้องรอแล้ว พวกเขาไม่มาหรอก!”…… พวกเขาทั้งหมดหัวเราะเยาะเย่ซิ่วหารู้ไม่ เย่ซิวต่างหากที่มองพวกเขาเหมือนตัวตลกพวกเขาคิดว่าคนหนุนหลังของเขาคือตระกูลเซี่ยและหูเม่ยเอ๋อร์ในความเป็นจริง สิ่งที่หนุนหลังเย่ซิวก็คือความแข็งแกร่งของเขาเองเซี่ยซิ่วซิ่วอดไม่ได้ที่จะดึงแขนเสื้อของเย่ซิวและกระซิบเบา ๆ ว่า “อาจเกิดเรื่องคุณปู่ของฉันอยู่ เขาไม่รับสายเลย”เย่ซิ่วปลอบใจเธอ “ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง”“ขอโทษที มาช้าไปหน่อย”อีกคนมาถึงนี่คือผู้ชายที่ดูหล่อเหลาสง่ามาก เขาใส่แว่นและดูสุภาพภูมิฐานดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว เขาน่าจะมีอายุประมาณสี่สิบปีเมื่อเห็นชายคนนี้ สีหน้าเซี่ยซิ่วซิ่วก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย "ลู่เจิ้นเฟิง ทำไมเขาถึงมาที่นี่? ฉันไม่ได้เชิญเขามา"เย่ซิวรู้ว่
มีเสียงกระดูกหักดังกร๊อบ ร่างที่ถูกซัดก็ปลิวไปข้างหลังพุ่งชนคนที่อยู่ข้างหลังเจ็ดแปดคน ทำให้ทุกคนได้รับบาดเจ็บสาหัสคนอื่น ๆ ทั้งโกรธทั้งตกใจ ตะโกนกู่ร้องพุ่งไปหาเย่ซิวอย่างรวดเร็วโครม โครม โครม!เสียงดังเอะอะที่ดังต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน เหล่ายอดฝีมือนี้ต่างล้มระนาวราวกับใบไม้ร่วงตอนแรกแต่ละฝ่ายยังคงรักษาความสงบได้แต่เมื่อเห็นว่าพวกยอดฝีมือครึ่งหนึ่งที่พวกเขาพามาล้มลงในเวลาไม่นาน ก็เริ่มใจไม่ดีขึ้นมาแล้วในเวลาไม่ถึงห้านาที ยอดฝีมือสองสามร้อยคนก็ล้มระเนระนาด แต่ละคนต่างมองเย่ซิวด้วยสายตาหวาดกลัวผู้นำแต่ละตระกูล พวกเขาทยอยลุกขึ้นมามองหน้าเย่ซิวด้วยสีหน้าซีดเซียวความแข็งแกร่งของเย่ซิวเกินกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้ในขณะที่เขาจ้องมองไปยังคนเหล่านั้น แต่ละคนก็รู้สึกเสียวสันหลังไม่กล้าสบตาเขาเย่ซิวมองไปรอบ ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมจะให้โอกาสพวกคุณอีกครั้ง จะยอมหรือจะพังพินาศกันไปข้างหนึ่ง!"“โอหังจริง ๆ!”ในตอนนั้นมีเสียงดังมาจากด้านนอกประตูเย่ซิวหันกลับมาเห็นชายคนหนึ่งสวมชุดสูทสีขาว ตัวสูงเดินหลังตรงเข้ามาอย่างสง่างามมีอีกสี่คนที่ยืนอยู่ข้างหลังชายคนนี้ผู้หญิงสี่ค
“น่าสนใจดี”คำพูดของเย่ซิวไม่ได้ทำให้หลี่หรูเฟิงหวาดกลัว แค่รู้สึกว่าเขาแค่แสร้งทำออกมา“ในเมืองเจียงเฉิงเล็ก ๆ นี้ แค่ประสบความสำเร็จนิดหน่อยก็รู้สึกว่าตัวเองเก่งกาจแล้ว หาไม่แล้วก็แค่กบในกะลา”หลี่หรูเฟิงมองเย่ซิวด้วยสีหน้าเย็นชาราวกับกำลังมองมด“แต่ความกล้าหาญของนายน่ายกย่อง หากตอนนี้นายยอมคุกเข่าลงยอมรับฉันเป็นเจ้านายของนาย ต่อไปนายก็สามารถเป็นราชาที่แท้จริงของเมืองเจียงเฉิงได้”เย่ซิวยิ้ม “นายคู่ควรงั้นเหรอ?”ไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถเป็นนายของเขาได้ความเยือกเย็นในดวงตาของหลี่หรูเฟิงแผ่ซ่านออกมา “เมื่อไม่ยอมรับความหวังดี อย่างนั้นวันนี้ฉันก็จะเขี่ยนายออกไปให้พ้นทาง”ทั้งสี่คนที่อยู่ข้างหลังเขากำหมัดแน่น กล้ามเนื้อทั้งร่างตื่นตัว พร้อมที่จะลงมือ“มาดูสิว่าวันนี้ใครจะกล้าแตะต้องเขา!”สถานการณ์ตึงเครียดก็มีเสียงอันเย็นชาดังขึ้นนอกประตูทุกคนหันเหความสนใจไปที่ข้างนอกแววตาทุกคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจยืนอยู่นอกประตูเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูอายุสักสิบสามหรือสิบสี่ปีแต่เธอสูงมากสูงตั้งหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรสวมชุดเดรสยาวสีดำแม้ว่าจะอายุยังน้อย แต่ก็ยังมีความสง่างามแบบผ
โลภกระหายต้องการทั้งความสามารถและตัวของหลิวอวี้ฝูแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะเป็นศัตรูกัน พวกเขาก็ยังคงเป็นสุภาพบุรุษและยื่นมือไปทางหลิวอวี้ฝู “น้องหลิว ไม่ได้เจอเธอมาตั้งนาน สวยกว่าเดิมอีก”แต่หลิวอวี้ฝูไม่สนใจ เดินผ่านหลี่หรูเฟิงไปชนิดที่ไม่มองเขาเลยรอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่หรูเฟิงแข็งค้างเขาเห็นหลิวอวี้ฝูเดินตรงไปข้างหน้าเย่ซิว ใบหน้าที่เย็นชาของเธอกลับยิ้มแย้มออกมาจนทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างสับสนไปหมด“พี่ใหญ่ เราพบกันอีกแล้ว เมื่อเช้านี้ขอบคุณนะที่ช่วยปู่ของฉันไว้”ท่าทีเย่ซิวสงบมากและเขาก็ลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยน “เธอนี่ช่างใส่ใจจริง ๆ”หลิวอวี้ฝูนิ่งอึ้งไปเธอโตจนป่านนี้ นอกจากปู่ของเธอแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าลูบหัวเธอพวกคนที่เคยพบเธอ ต่างก็เคารพยำเกรงกันทั้งนั้นเนื่องจากสถานการณ์ในครอบครัวของเธอ เธอจึงต้องเข้มแข็งตั้งแต่ยังเด็กมากแต่ไม่มีใครรู้เลยว่าภายใต้รูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งนี้ มีหัวใจที่เปราะบางซ่อนอยู่การกระทำที่เรียบง่ายของเย่ซิว ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหลิวอวี้ฝูไม่ใช่คนธรรมดา เพียงครู่เดียวริ้วอารมณ์แปลก ๆ บนใบหน้าของเธอก็จางหายไป จากนั้นเธอก็ยิ้มและพูดว่า “วันนี้ฉันมาช่วยพ
หลิ่วอวี้ฝูยกตนข่มท่านกลิ่นอายของเธอแข็งแกร่งมากจนแม้แต่ผู้ช่ำชองในโลกธุรกิจที่ต้องผ่านช่วงเวลาขึ้น ๆ ลง ๆ นับไม่ถ้วนก็ไม่กล้าที่จะต่อต้านคนที่มีใบหน้าน่าเกลียดที่สุดคือหลี่หรูเฟิงเขาได้วางแผนไว้นานแล้ว เขาใช้กำลังคนและทรัพยากรมหาศาลก็เพื่อวันนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย แค่ผู้เชี่ยวชาญที่ส่งออกไปสกัดกั้นเซี่ยเจี๋ยและหูเม่ยเอ๋อร์ก็เป็นประโยชน์อย่างมากแล้วนี่เป็นการสิ้นเปลืองทรัพย์ของตระกูลหลี่จริง ๆหลี่หรูเฟิงมองไปที่หลิ่วอวี้ฝูอย่างเย็นชา “คุณต้องการจะสู้กับตระกูลหลี่ของเราจนตัวตายจริง ๆ เหรอ? โครงการนั้นใหญ่เกินกว่าที่ตระกูลหลิ่วของคุณจะรับมือได้ อย่าทำอะไรเกินตัวเลย!”หลิ่วอวี้ฝูเปรียบเสมือนราชินีผู้สูงส่ง “ปลาจะตาย แต่อวนจะไม่ขาด!”หลี่หรูเฟิงหายใจเข้าลึก ๆ หลายครั้งก่อนที่เขาจะระงับความโกรธ และเผยรอยยิ้มอีกครั้ง “เถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ทำไมเราไม่ให้ทั้งสองฝ่ายมาดวลกันล่ะ ถ้านายแพ้ก็ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ แต่ถ้าฉันแพ้ ฉันจะขอโทษพวกคุณแล้วออกไปจากที่นี่ ว่ายังไงล่ะ?”หลิ่วอวี้ฝูไม่พยักหน้าเห็นด้วยเพราะเธอรู้ว่าคนของเธอที่เธอพามานั้นไม่เหมาะกับผู้หญิงสี่คนที่
เขาพูดอย่างชั่วร้าย “จัดการซะ! เอาให้ตาย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง!”ทันทีที่เขาพูดจบ แฝดสี่ก็เริ่มเคลื่อนไหวนี่เป็นตัวอย่างที่แท้จริงถึงความหมายของคำว่า มั่นคงดั่งภูเขา เคลื่อนเงาดั่งสายฟ้าผู้หญิงทั้งสี่คนนี้อ่านใจกันได้ในเวลาเดียวกันนั้นทั้งสี่สาวพุ่งออกไปสี่ทิศ เข้าโจมตีจุดสำคัญของเย่ซิวเมื่อพวกเธอเคลื่อนไหวก็เกิดเสียงระเบิดทะลุผ่านอากาศเพียงได้ยินเสียงนี้ก็ทำให้หัวใจของผู้คนโดยรอบสั่นสะท้านหากหมัดเหล่านี้โดนพวกเขา มีความเป็นไปได้สูงถึงเก้าในสิบที่พวกเขาจะตายทันทีหลิ่วอวี้ฝูอดไม่ได้ที่จะกำมือเล็กน้อย และให้คำแนะนำกับเหล่ายอดฝีมือรอบตัวเธออีกครั้งเมื่อเย่ซิวตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจะต้องเข้าช่วยเหลือโดยเร็วที่สุดหลี่หรูเฟิงเผยสีหน้าพึงพอใจในความคิดของเขา เย่ซิวยืนนิ่งอยู่กลางลานดูเหมือนจะหวาดกลัวเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็เริ่มกังวล ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่เย่ซิวโดยไม่กะพริบเย่ซิวกำลังจะถูกผู้หญิงทั้งสี่คนเข้าโจมตีทันใดนั้นเขาก็ขยับร่าง ดูเหมือนเป็นการเคลื่อนไหวเล็กน้อย ทว่ากลับหลบหมัดทั้งสี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบสีหน้าของสี่สาวเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่การโจมตีของพวกเธ
ภายในห้องโถง ทุกคนยืนอยู่ที่นั่นด้วยความตกใจเมื่อเห็นฉากนี้จิตใจของพวกเขาว่างเปล่าไปชั่วขณะหนึ่งคนที่ยอมรับไม่ได้มากที่สุดคือ หลี่หรูเฟิงเขารู้ดีถึงความสามารถของยอดฝีมือทั้งสี่คนนี้เงินเดือนที่มอบให้กับแฝดสี่อย่างเดียวก็เกินสองร้อยห้าสิบล้านบาททุกปีแล้วทั้งสี่สาวเคยเอาชนะนักรบขั้นสูงระดับสี่มาก่อน แล้วจะพ่ายแพ้อย่างง่ายดายขนาดนี้ได้อย่างไร?เป็นไปได้หรือไม่ว่า เย่ซิวจะเป็นจอมยุทธขั้นกลางระดับห้า หรือสูงกว่านั้น?เมื่อคิดเช่นนี้หรูเฟิงก็ทิ้งความคิดนั้นลงทันทีเขาไม่อยากจะเชื่อเย่ซิวที่ดูอ่อนแอขนาดนี้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะไปถึงจอมยุทธระดับห้า?เขาตะโกนใส่สี่แฝดสาว “ลุกขึ้นมาเร็วเข้าสิ พวกเธอจะแพ้ไม่ได้!”หากเขาแพ้เขาจะต้องออกจากที่นี่ด้วยความอับอาย ซึ่งจะทำลายชื่อเสียงของเขาอย่างยิ่งเมื่อถึงเวลา เหล่ากองกำลังและตระกูลในเมืองเจียงเฉิงจะคิดว่าตระกูลหลี่ด้อยกว่าตระกูลหลิ่ว และมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะหันมาต่อต้านตระกูลหลี่หากเป็นเช่นนั้นเขาก็จะจัดการกับตระกูลหลิ่วได้ยากยิ่งขึ้นสี่สาวพยายามดิ้นรนเพื่อลุกขึ้นยืนพวกเธอคำรามเสียงต่ำ ดวงตาทั้งสี่คู่เต็มไปด้วยความก
ชายคนนั้นมีท่าทีไม่เชื่ออย่างแรง “อย่ามาหลอกฉัน ถ้าเจ้าอาวาสไม่ออกมา ฉันก็ไม่ไป และวัดนี้ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมากราบไหว้อีก!”นักพรตหนุ่มรู้สึกทั้งโกรธและหมดหนทาง เมื่อเจอกับคนที่มีพลังแข็งแกร่งและเล่นไม่ซื่อแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้จะรับมือยังไง“เฮ้ พวกเธอสองคน ไสหัวไปซะ!”ชายคนนั้นมองเย่ซิวกับน่าหลันเยียนหรานด้วยสายตาดุดันดั่งสิงโตที่กำลังคำราม ดูน่ากลัวเป็นอย่างมากนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้ผู้คนที่มาไหว้พระพากันหนีไปหมดเย่ซิวเอ่ยเรียบ ๆ “นี่เป็นที่สาธารณะ ทำไมผมต้องไปด้วย?”ชายคนนั้นแสยะยิ้ม “ไอ้หนู คิดจะโชว์แมนต่อหน้าแฟนหรือไง? อยากโดนฉันสั่งสอนใช่ไหม!”พูดจบ พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกมาจากร่างของเขามีเพียงผู้ที่ผ่านสมรภูมิความเป็นความตายอันโหดร้ายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นที่จะสามารถแผ่กลิ่นอายอันน่ากลัวเช่นนี้ออกมาน่าหลันเยียนหรานตัวสั่นเทิ้ม ขนลุกไปทั้งร่างชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วแต่ในวินาทีนั้นเย่ซิวก็ยื่นมือใหญ่ที่อบอุ่นและแข็งแรงมาจับมือเล็ก ๆ ของเธอไว้ เธอรู้สึกสงบลง ก่อนจะมองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาขอบคุณนักพรตหนุ่มรีบวิ่งลงมาหาเย่ซิวพร้อมเตือนด้วยความกังวล “โย
คนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่เกลียดชังคนรวยเหมือนกับตอนนี้ที่แม้น่าหลันเยียนหรานเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเห็นได้ชัดแต่เพียงเพราะเธอขับรถหรูและใส่เสื้อผ้าราคาแพง คนรอบข้างจึงคิดว่าเป็นความผิดของเธอเหตุการณ์แบบนี้ที่แสดงถึงความเกลียดชังคนรวยมีให้เห็นทั่วไปขณะที่น่าหลันเยียนหรานไม่รู้จะทำอย่างไรดี เย่ซิวก็ปรากฏตัวขึ้นมายืนขวางหน้าเธอไว้น่าหลันเยียนหรานยิ้มด้วยความดีใจ “คุณเย่มาที่นี่ได้ยังไงคะ”“ผ่านมาแถวนี้พอดี” เย่ซิวมองหญิงชราที่นอนขวางรถของน่าหลันเยียนหราน แล้วเอ่ยเรียบ ๆ “ลุกขึ้น แล้วไสหัวไปซะ!”หญิงชรายิ้มเยาะ “อะไร พวกเธอสองคนรวมหัวกันจะรังแกคนแก่เหรอ หน้าไม่อาย ถ้าฉันไม่ลุกพวกเธอจะทำอะไรฉันได้!”คนที่ไม่รู้จักอายมักจะได้เปรียบเสมอเย่ซิวจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เปล่งประกายแล้วตวาดใส่หญิงชราคนนั้น “มองฉัน!”หญิงชราหันมามองตาของเย่ซิวโดยไม่ทันรู้ตัวตึง!สมองของเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ ราวกับสติหายไปชั่วคราวเย่ซิวมองเธอ “บอกมาว่าทำไมถึงคิดจะหลอกคนอื่น”หญิงชราเผยความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว“ฉันเล่นไพ่นกกระจอกจนเสียเงินค่าใช้จ่ายสำหรับทั้งปีไป กลัวสามีจะด่าก็เลยคิดจะหลอกเอาเงินจากค
“พี่เป็นคนดีจริง ๆ ฉันรักพี่ที่สุดเลย”จวงเสี่ยงหยิงดีใจจนกระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าเย่ซิว“พอแล้ว” เย่ซิวกดไหล่เธอลง “ผู้หญิงไม่ควรกระโดดโลดเต้นต่อหน้าผู้ชายแบบนี้ จะเสียเปรียบเอานะ”จวงเสี่ยงหยิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง ใบหน้าเธอแดงก่ำ ก่อนจะเอ่ยด้วยความเขินอาย “พี่นี่ลามกจริง ๆ เลย คราวหน้าฉันจะกระโดดแค่ต่อหน้าพี่แค่คนเดียวดีไหมคะ?”จวงเสี่ยงหยิงเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ยังตูมรอวันผลิบาน แผ่กลิ่นอายแห่งความสดใสและเยาว์วัยออกมาทุกอณูการได้อยู่กับสาวน้อยแบบนี้ทำให้จิตใจพลอยสดชื่นไปด้วยถ้าไม่ติดว่ายังมีเรื่องรอให้ทำอีกมากมาย เย่ซิวคงจะอยู่กับเธอนานกว่านี้หน่อยหลังจากออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว เย่ซิวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาอารามเต๋าภายในประเทศตอนนี้เขาอยู่ในขั้นสูงของการสร้างรากฐานปราณ อีกไม่นานก็จะถึงขั้นสมบูรณ์ เขาต้องเริ่มเตรียมตัวสำหรับการบ่มเพาะจินตานแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำคือหาวิธีการบ่มเพาะจินตานปัจจุบัน อารามเต๋าในประเทศที่มีอายุมากกว่าร้อยปีนั้นมีอยู่ไม่กี่แห่งเย่ซิวค้นเจออารามเต๋าห้าแห่ง หนึ่งในนั้นมีอยู่ที่เมืองหลวงและระยะทางก็ไม่ไกลมากเมื่อค้นเจอต
เย่ซิวชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะหันกลับมา “ว่าไงครับ?”หยางชิงเสวี่ยเม้มปากเล็กน้อย ดวงตางดงามจับจ้องไปยังเย่ซิวที่ยืนอย่างองอาจ “คุณต้องเร่งบำเพ็ญตนให้มากขึ้น แล้วรีบทะลวงให้ถึงระดับจินตานให้เร็วที่สุด ถึงตอนนั้น…”ประโยคหลังจากนั้นเธอไม่ได้พูดออกมา แต่แค่ขยับริมฝีปากเท่านั้นเย่ซิวเข้าใจอย่างชัดเจน จึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากหยางชิงเสวี่ยมีร่างกายที่พิเศษ และต้องรอให้เย่ซิวทะลวงระดับจินตานเสียก่อนจึงจะสามารถมีสัมพันธ์กับเธอได้นี่เป็นกฎที่อาจารย์ของเขากำหนดไว้เมื่อถึงเวลาที่เขาสมหวังกับหยางชิงเสวี่ย เขาจะได้รับพลังพิเศษที่แข็งแกร่งมากเย่ซิวกลับไปที่ศาลา ก่อนจะหยิบจี้หยกสองชิ้นออกมา แล้วสวมให้เธอด้วยมือของเขาเองทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนกลิ่นอายความแข็งแกร่งของเขาแผ่ซ่านเข้ามาจนสัมผัสได้หยางชิงเสวี่ยรู้สึกเหมือนร่างกายถูกจุดไฟ รู้สึกอ่อนแรงและใบหน้าก็แดงระเรื่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจากนั้นเย่ซิวก็คว้ามือเล็กอ่อนนุ่มของเธอไว้ ก่อนจะสวมแหวนลงบนนิ้วของเธอสองวง แล้วบอกวิธีใช้ให้เธอฟัง“ของพวกนี้ล้ำค่าเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”หยางชิงเสวี่ยส่ายหน้า พยายามจะถอดออก“ไม่เป็นไร ของพว
ชีวิตของเธอในตอนนี้เรียบง่ายมากบางครั้งก็เรียน บางครั้งก็ไปฝึกงานที่บริษัท ชีวิตดูเต็มไปด้วยคุณค่าและมีความหมายมากเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ “มาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”สายตาของเขามองไปที่ศาลาตรงนั้นมีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้ากำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจมองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยไร้ที่ติ ทำให้คนใจเต้นแรงแม้เพียงพบเห็น แต่ก็ไม่กล้าคิดลามกกับเธอเธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียวดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงสายตาของเย่ซิว เธอจึงหันมองมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยกมุมปากยิ้มบางเย่ซิวยิ้มตอบจวงเสี่ยวหยิงยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวง “ที่แท้ก็ไม่ได้มองแค่ฉันนี่นา”เย่ซิวหัวเราะ “เด็กน้อย ยังจะหึงอีกนะ ไปซื้อน้ำให้ฉันหน่อยสิ”“ค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงยู่ปากแต่ก็เดินออกไปอย่างว่าง่ายเย่ซิวเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงตรงหน้าชิงเสวี่ยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “คุณรู้จักที่มาที่ไปของคุณลี่หรือเปล่า?”ชิงเสวี่ยวางหนังสือลง มองเย่ซิวด้วยดวงตากลมโต พลางส่ายหัวเบา ๆ “ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ”เย่ซิวจ้องมองเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้รู้ว่าเธอไม
ต่อจากนี้จะเป็นการบรรยายยาวกว่าหนึ่งแสนคำครั้งที่แล้วเย่ซิวเป็นฝ่ายเริ่มบำเพ็ญตนกับหลินโหรวก่อนแต่ครั้งนี้หลินโหรวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน สรุปง่าย ๆ เลยสามคำ เธอเก่งมากคงเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอยู่กับสาวผมเหลืองก่อนหน้านี้“ผมต้องไปแล้ว” เย่ซิวจิบเครื่องดื่มพลางเอ่ยกับหลินโหรวหลินโหรวปาดเหงื่อหอมบนหน้าผาก พลางมองเย่ซิวด้วยสายตาอ่อนหวาน “ฉัน…พอจะเป็นแฟนคุณได้ไหม?”เย่ซิวใช้นิ้วเชยคางขาวเนียนของเธอขึ้น แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือเปล่าล่ะ?”สายตาของหลินโหรวหม่นลงในทันที ใช่แล้ว ตอนนี้เธอไม่คู่ควรกับเขาจริง ๆแต่เธอก็รีบกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง “ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะทำตัวเหลวไหลไปหน่อย แต่จากนี้ไป ฉันจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น”“อืม ความสามารถของเธอก็ไม่เลวนะ” เย่ซิวพยักหน้า “ตอนนี้คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”“ยังค่ะ”เย่ซิวเกิดความคิดหนึ่งขึ้น เขาเอ่ยกับเธอว่า “ผมจะลงทุนให้คุณห้าพันล้าน ไปตั้งบริษัทการจัดการระหว่างประเทศสักแห่ง แล้วดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีมเยอะ ๆ”หลินโหรวทำหน้าจริงจัง “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ห้าพันล้านนี้จะทำกำไรให้คุณสิบเท่า ยี่สิ
ยาที่อยู่ในมือเธอหล่นลงบนพื้นทันที “นายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง!”เย่ซิวเดินตรงเข้าไปหาเธอด้วยสีหน้าเย็นชา “พูดมาว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอมาเล่นงานฉัน”“เล่นงานนาย? หมายความว่าไง?”สีหน้าของสาวผมทองดูไม่เหมือนคนโกหก นั่นหมายความว่าเธอเพียงแค่ถูกใครบางคนใช้เงินจ้างมาเท่านั้นเย่ซิวจึงเปลี่ยนวิธีถาม “ใครเป็นคนให้ยานี้กับเธอ หน้าตาเป็นยังไง?”“ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร” สาวผมทองพยายามปฏิเสธสุดกำลังเย่ซิวคว้าคอเธอไว้แล้วค่อย ๆ ยกขึ้นสาวผมทองดิ้นรนสุดชีวิต ดวงตาเบิกโพลง ลิ้นยื่นออกมายาวความรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นมาจับใจเธอ ผู้ชายที่ดูหล่อเหลาจนน่าตะลึงคนนี้กล้าฆ่าเธอจริง!“ฉัน…ยอมบอกแล้ว…”ปึก!เย่ซิวโยนเธอลงกับพื้นแล้วนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะถือโอกาสหยิบยาขึ้นมาสาวผมทองไออย่างหนัก เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอก อยู่ ๆ เขาก็มาหาฉัน ให้เงินมาก้อนหนึ่ง แล้วบอกให้ฉันเอายาให้หลินโหรว…แค่นั้นแหละ”“หน้าตาเขาเป็นยังไง?”“ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัด เขาใส่เสื้อโค้ตสีดำ สวมหน้ากาก ยานี้เขาให้มาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว”เย่ซิ
“เสี่ยวโหรว อย่าไปเลยนะ ได้ไหม?”“ปล่อยฉันนะ ตอนนั้นเธอเป็นคนบอกเลิกฉันเอง แล้วตอนนี้กลับมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก!”“ตอนนั้นฉันเองที่เสียสติ แต่หลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าขาดเธอไม่ได้จริง ๆ”“หึหึ ตอนนั้นฉันพยายามมากแค่ไหนเพื่อรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ใจแข็งใส่ฉัน ตอนนี้ต่อให้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”“เสี่ยวโหรว ฉันรู้นะว่าเธอยังรักฉันอยู่”“เพ้อเจ้อ! ตอนนี้ฉันหันมาชอบผู้ชายแบบปกติแล้ว และเธอก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉันอีก!”……มีสาวสวยสองคนกำลังทะเลาะกันบนถนนคนหนึ่งย้อมผมสีเหลือง ใส่เสื้อเอวลอย ทรวดทรงเย้ายวนอีกคนสวมเดรสยาวสีขาวกับรองเท้าผ้าใบ ดูสะอาดบริสุทธิ์ฝูงชนที่มุงดูพลอยเข้าใจเรื่องราวจากบทสนทนาของทั้งคู่ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายที่แท้สองคนนี้ก็เป็นหญิงรักหญิง ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงลุกโชนขึ้นมาทันทีเย่ซิวเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเธอที่นี่อีกครั้งอดีตแฟนสาวหรือแฟนหนุ่มของหลินโหรวยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่หลินโหรวนั้นเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวไม่มีความหยิ่งยโสและอวดดีเหมือนแต่ก่อน กลับดูอ่อนโยนขึ้นมากดูเหมือนว่า ‘การปรับเปลี่ยน’ ของเขาในตอนนั้นจะได้
เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำแล้วจะดูโปร่งแสงเล็กน้อย ดังนั้นถังเขอเข่อในตอนนี้จึงดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูกถังเขอเข่อกอดอกตัวเองไว้ด้วยความอับอายและหงุดหงิด “อย่ามองสิ หันหลังไปเลยนะ ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ก็เลยต้องใส่ชุดเดิมนี่แหละ”เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “มานี่ เดี๋ยวผมช่วยทำให้เสื้อผ้าคุณแห้งเอง”“ไม่เอา…”เธอกลับถอยหลังไปอีกสองสามก้าว เธอรู้ดีว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ จะส่งผลต่อผู้ชายมากแค่ไหนเธอกลัวว่าเย่ซิวจะควบคุมตัวเองไม่ไหว แล้วก็…เย่ซิวชูมือขึ้นแล้วส่งพลังดูดมหาศาลออกมาใส่ถังเขอเข่อ“กรี๊ด!” ถังเขอเข่อร้องเสียงหลง ร่างกายของเธอลอยลิ่วเข้ามาหาเย่ซิวอย่างไม่ตั้งใจ เธอดิ้นไปมาพลางกรีดร้องไม่หยุด “ปล่อยนะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำตามใจหรอก ฉันยังไม่เคยมีแฟนเลย ไม่ได้นะ…เอ๊ะ ทำไมอุ่นจัง”ในขณะที่กำลังดิ้นพล่าน ถังเขอเข่อก็หยุดทันที ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความสงสัย สถานการณ์ดูไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลยสักนิด เย่ซิวเพียงแค่ปล่อยพลังไฟออกมาเบา ๆ เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของเธอแห้งเท่านั้นเอง“นี่มันอะไรน่ะ?!” ถังเขอเข่อตกใจจนพูดไม่ออก “มายากลเหรอ?”