Share

บทที่ 101

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
หลิ่วอวี้ฝูยกตนข่มท่าน

กลิ่นอายของเธอแข็งแกร่งมากจนแม้แต่ผู้ช่ำชองในโลกธุรกิจที่ต้องผ่านช่วงเวลาขึ้น ๆ ลง ๆ นับไม่ถ้วนก็ไม่กล้าที่จะต่อต้าน

คนที่มีใบหน้าน่าเกลียดที่สุดคือหลี่หรูเฟิง

เขาได้วางแผนไว้นานแล้ว เขาใช้กำลังคนและทรัพยากรมหาศาลก็เพื่อวันนี้

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย แค่ผู้เชี่ยวชาญที่ส่งออกไปสกัดกั้นเซี่ยเจี๋ยและหูเม่ยเอ๋อร์ก็เป็นประโยชน์อย่างมากแล้ว

นี่เป็นการสิ้นเปลืองทรัพย์ของตระกูลหลี่จริง ๆ

หลี่หรูเฟิงมองไปที่หลิ่วอวี้ฝูอย่างเย็นชา “คุณต้องการจะสู้กับตระกูลหลี่ของเราจนตัวตายจริง ๆ เหรอ? โครงการนั้นใหญ่เกินกว่าที่ตระกูลหลิ่วของคุณจะรับมือได้ อย่าทำอะไรเกินตัวเลย!”

หลิ่วอวี้ฝูเปรียบเสมือนราชินีผู้สูงส่ง “ปลาจะตาย แต่อวนจะไม่ขาด!”

หลี่หรูเฟิงหายใจเข้าลึก ๆ หลายครั้งก่อนที่เขาจะระงับความโกรธ และเผยรอยยิ้มอีกครั้ง “เถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ทำไมเราไม่ให้ทั้งสองฝ่ายมาดวลกันล่ะ ถ้านายแพ้ก็ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ แต่ถ้าฉันแพ้ ฉันจะขอโทษพวกคุณแล้วออกไปจากที่นี่ ว่ายังไงล่ะ?”

หลิ่วอวี้ฝูไม่พยักหน้าเห็นด้วย

เพราะเธอรู้ว่าคนของเธอที่เธอพามานั้นไม่เหมาะกับผู้หญิงสี่คนที่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 102

    เขาพูดอย่างชั่วร้าย “จัดการซะ! เอาให้ตาย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง!”ทันทีที่เขาพูดจบ แฝดสี่ก็เริ่มเคลื่อนไหวนี่เป็นตัวอย่างที่แท้จริงถึงความหมายของคำว่า มั่นคงดั่งภูเขา เคลื่อนเงาดั่งสายฟ้าผู้หญิงทั้งสี่คนนี้อ่านใจกันได้ในเวลาเดียวกันนั้นทั้งสี่สาวพุ่งออกไปสี่ทิศ เข้าโจมตีจุดสำคัญของเย่ซิวเมื่อพวกเธอเคลื่อนไหวก็เกิดเสียงระเบิดทะลุผ่านอากาศเพียงได้ยินเสียงนี้ก็ทำให้หัวใจของผู้คนโดยรอบสั่นสะท้านหากหมัดเหล่านี้โดนพวกเขา มีความเป็นไปได้สูงถึงเก้าในสิบที่พวกเขาจะตายทันทีหลิ่วอวี้ฝูอดไม่ได้ที่จะกำมือเล็กน้อย และให้คำแนะนำกับเหล่ายอดฝีมือรอบตัวเธออีกครั้งเมื่อเย่ซิวตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจะต้องเข้าช่วยเหลือโดยเร็วที่สุดหลี่หรูเฟิงเผยสีหน้าพึงพอใจในความคิดของเขา เย่ซิวยืนนิ่งอยู่กลางลานดูเหมือนจะหวาดกลัวเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็เริ่มกังวล ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่เย่ซิวโดยไม่กะพริบเย่ซิวกำลังจะถูกผู้หญิงทั้งสี่คนเข้าโจมตีทันใดนั้นเขาก็ขยับร่าง ดูเหมือนเป็นการเคลื่อนไหวเล็กน้อย ทว่ากลับหลบหมัดทั้งสี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบสีหน้าของสี่สาวเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่การโจมตีของพวกเธ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 103

    ภายในห้องโถง ทุกคนยืนอยู่ที่นั่นด้วยความตกใจเมื่อเห็นฉากนี้จิตใจของพวกเขาว่างเปล่าไปชั่วขณะหนึ่งคนที่ยอมรับไม่ได้มากที่สุดคือ หลี่หรูเฟิงเขารู้ดีถึงความสามารถของยอดฝีมือทั้งสี่คนนี้เงินเดือนที่มอบให้กับแฝดสี่อย่างเดียวก็เกินสองร้อยห้าสิบล้านบาททุกปีแล้วทั้งสี่สาวเคยเอาชนะนักรบขั้นสูงระดับสี่มาก่อน แล้วจะพ่ายแพ้อย่างง่ายดายขนาดนี้ได้อย่างไร?เป็นไปได้หรือไม่ว่า เย่ซิวจะเป็นจอมยุทธขั้นกลางระดับห้า หรือสูงกว่านั้น?เมื่อคิดเช่นนี้หรูเฟิงก็ทิ้งความคิดนั้นลงทันทีเขาไม่อยากจะเชื่อเย่ซิวที่ดูอ่อนแอขนาดนี้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะไปถึงจอมยุทธระดับห้า?เขาตะโกนใส่สี่แฝดสาว “ลุกขึ้นมาเร็วเข้าสิ พวกเธอจะแพ้ไม่ได้!”หากเขาแพ้เขาจะต้องออกจากที่นี่ด้วยความอับอาย ซึ่งจะทำลายชื่อเสียงของเขาอย่างยิ่งเมื่อถึงเวลา เหล่ากองกำลังและตระกูลในเมืองเจียงเฉิงจะคิดว่าตระกูลหลี่ด้อยกว่าตระกูลหลิ่ว และมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะหันมาต่อต้านตระกูลหลี่หากเป็นเช่นนั้นเขาก็จะจัดการกับตระกูลหลิ่วได้ยากยิ่งขึ้นสี่สาวพยายามดิ้นรนเพื่อลุกขึ้นยืนพวกเธอคำรามเสียงต่ำ ดวงตาทั้งสี่คู่เต็มไปด้วยความก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 104

    “ดีมาก ดีอะไรอย่างนี้ เป็นแค่มดคิดจะล้มช้าง วันนี้ฉันจะจำไว้ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”หลังจากทิ้งคำพูดที่รุนแรงไว้เบื้องหลัง หลี่หรูเฟิงก็สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไปผู้หญิงทั้งสี่คนพยายามลุกขึ้นและตามเขาออกไปเช่นกันเหล่าตระกูลใหญ่และตระกูลรองในเจียงเฉิงต่างมองหน้ากันทันใดนั้นพวกเขาทั้งหมดก็เดินไปหาเย่ซิวพร้อมรอยยิ้มอันเสแสร้งบนใบหน้า“น้องชายยังหนุ่มยังแน่น อนาคตไกลนัก”"เจ๋งมาก เจ๋งสุด ๆ"“หากมีโอกาสในอนาคตคงได้ร่วมมือกันนะครับ”……เพื่อตอบสนองต่อการทาบทามของพวกเขา เย่ซิวไม่ได้แสดงท่าทีที่เป็นการต่อต้านพวกเขาเลยแต่เขากลับยิ้มและพูดคุยด้วยราวกับเข้ากันได้ดีแน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงผิวเผินเท่านั้นสำหรับพวกกลับกลอกพวกนี้ เย่ซิวไม่ได้คิดที่จะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ อยู่แล้ว ตอนนี้เพียงแค่ต้องทำให้พวกเขาคลายความระมัดระวังก่อนเท่านั้นเย่ซิวจะหาโอกาสจัดการกับพวกเขาทีหลังแต่พวกเขาไม่รู้ว่า สิ่งที่เย่ซิวต้องการในตอนนี้คือการฮุบทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเขาพวกเขาคิดว่า เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วและสามารถปล่อยวางได้ ดังนั้นพวกเขาจึงวางใจและผ่อนคลายลงทีละคนสิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดคือเย่ซิ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 105

    “ฉันหวังว่าโครงการนี้จะเกี่ยวข้องกับคุณเย่ด้วยนะ”การแสดงออกของหลิ่วอวี้ฝูไม่เปลี่ยนแปลง เธอเดาไว้อยู่แล้วอีกอย่างเธอยังต้องการตอบแทนเย่ซิวที่ช่วยปู่ของเธอเอาไว้ด้วยเธอพยักหน้าและพูดกับเย่ซิว “พี่ใหญ่ เราไปคุยกันส่วนตัวดีไหม?"“ได้สิ”ทั้งกลุ่มไปที่ห้องรับแขกข้าง ๆยอดฝีมือที่นำโดยหลิ่วอวี้ฝูได้ตรวจสอบห้องทั้งภายในและภายนอกอย่างระมัดระวังหลังจากที่แน่ใจว่าไม่มีอุปกรณ์ดักฟังแล้วพวกเขาก็ออกจากห้องไปหูเม่ยเอ๋อร์และหรูฮว่าก็อยู่เช่นกันหลิ่วอวี้ฝูยังรู้รายละเอียดของทั้งสองคนหูเม่ยเอ๋อร์เป็นจอมยุทธระดับห้า แต่เธอไม่มีทักษะในการต่อสู้ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเธอใกล้เคียงกับเซี่ยเจี๋ยส่วนหรูฮว่าเป็นจอมยุทธสูงสุดระดับสามทว่าเธอได้ฝึกฝนทักษะลึกลับบางอย่างที่ทำให้เธอก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและสามารถระเบิดความแข็งแกร่งได้หลายครั้งในทันที และเธอยังสามารถได้รับการปฏิบัติในฐานะจอมยุทธระดับสี่อีกด้วยหลิ่วอวี้ฝูก็ต้องการที่จะได้รับความร่วมมือจากทั้งสองคนเช่นกันมีหลายคนนั่งลงรอบโต๊ะ จากนั้นหลิ่วอวี้ฝูก็พูดช้า ๆ“พวกคุณทุกคนคงสงสัยว่า โครงการอะไรที่ตระกูลหลี่และฉันกำลังต่อสู้เ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 106

    “ตอนนี้ไม่มี แต่อีกไม่กี่วันมีแน่”หลิ่วอวี้ฝูเม้มริมฝีปาก “พี่ใหญ่ อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปเลยค่ะ เงินห้าพันหมื่นล้านบาทไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ นะคะ”แม้แต่ตระกูลหลิ่ว หากต้องการเงินห้าหมื่นล้านบาทก็ยังต้องใช้เวลาเตรียมการสักระยะเลยเย่ซิวยิ้ม “เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวล แค่บอกมาว่าคุณเต็มใจหรือไม่ก็พอ”การใช้เงินห้าหมื่นล้านลงทุนเพื่อแลกกับกำไรสิบเปอร์เซ็นต์ถือว่าอยู่ในสถานะที่สมเหตุสมผลมากเย่ซิวไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการช่วยปู่ของหลิ่วอวี้ฝูเพื่อทำข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผลหลิ่วอวี้ฝูเห็นด้วยทันที “ถ้าพี่ใหญ่ช่วยได้ห้าหมื่นล้านจริง ๆ ฉันจะให้กำไรพี่สิบสองเปอร์เซ็นต์"“ไม่จำเป็น” เย่ซิวปฏิเสธ “ผมช่วยคุณปู่ของคุณก็เพราะหน้าที่ในฐานะแพทย์ ผมไม่ได้ต้องการเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์อื่น สิบเปอร์เซ็นต์ก็พอแล้ว”หลิ่วอวี้ฝูรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อยเย่ซิวปฏิเสธส่วนแบ่งกำไรสองเปอร์เซ็นต์นั้นจริง ๆแม้ว่าจะคำนวณจากผลกำไรประจำปีจำนวนสองแสนล้านบาท นั่นคือสองหมื่นล้านบาทต่อปี และสองแสนล้านบาทในระยะเวลาสิบปีนี่ไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อยเลย บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งอาจมีกำไรสุทธิเพียงร้อยล้านต่อปีเท่าน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 107

    ลู่เจิ้นเฟิงกล่าวชมลูกเขยในอนาคตด้วยความภาคภูมิใจสำหรับเย่ซิว ลู่เจิ้นเฟิงปฏิบัติต่อเขาเหมือนดินบนพื้น เหยียบย่ำเขาโดยไม่ให้เกียรติสักนิดเย่ซิวยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขาเย็นชา“เพื่อเห็นแก่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ ผมจะไม่เถียงกับคุณ”หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็เดินผ่านลู่เจิ้นเฟิงเพื่อจะออกไปจากตรงนั้นลู่เจิ้นเฟิงโกรธมากและตะโกนใส่เย่ซิว "ไอ้หนุ่ม อย่ามองข้ามความหวังดีกันนักเลยภูมิหลังคู่หมั้นของลู่เสวี่ยเอ๋อร์สะท้านฟ้าสะเทือนดิน เขาคือกิเลนตัวจริง เทียบกับเขาแล้วนายมันไม่มีอะไรสักอย่าง อย่าหลอกตัวเองเลย”เย่ซิวส่ายหัว บางคนเย่อหยิ่งและคิดว่าตนเองชอบธรรมจริง ๆพยัคฆ์ขาวกับกิเลนอะไรกัน ตรงหน้าเขาคือมังกรที่แท้จริง ทั้งหมดนั้นก็แค่พวกปลาซิวปลาสร้อยเขาขี้เกียจเกินไปที่จะโต้เถียงกับลู่เจิ้นเฟิงในที่สาธารณะ เขาจึงเดินออกมาอย่างรวดเร็วลู่เจิ้นเฟิงมองดูแผ่นหลังของเย่ซิว สีหน้าของเขาดูมืดมนอย่างยิ่ง จนในที่สุดเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา!“แกว่งเท้าหาเสี้ยนนัก งั้นก็รอวันที่แกจะแหลกเป็นชิ้น ๆ เถอะ!”หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็เดินออกไปเมื่อเย่ซิวกลับถึงบ้าน ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และหลิ่วเมิ่งอิ๋นกำลัง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 108

    ในเวลานั้น งานอักษรวิจิตรทั้งสองชิ้นถูกประมูลในราคาสูงถึงสองพันหกร้อยล้าน และสองพันแปดร้อยล้านตามลำดับและภาพฝูงม้านับหมื่นนั้นสูงถึง หกพันแปดร้อยล้านบาทเขาใช้เงินทั้งหมดจากการประมูลเหล่านี้เพื่อสร้างโรงเรียนไพรเมรี่โฮป และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ในพื้นที่ห่างไกลของประเทศหลงเถิงในเวลานั้น การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขาส่งผลกระทบอย่างมาก และด้วยผลงานสามชิ้นนี้ เขาก็ได้รับชื่อเสียงอย่างสั่นสะเทือนผู้ชื่นชอบอักษรวิจิตรและนักสะสมอักษรวิจิตรนับไม่ถ้วนพยายามสอบถามเกี่ยวกับเขาไปทุกหนแห่งด้วยความกระตือรือร้นที่จะซื้อผลงานของแท้จากเขาทว่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่ได้สร้างผลงานอีกเลยเหตุผลนั้นง่ายมากเพราะการสร้างงานชิ้นเดียวมีผลกระทบต่อเขาอย่างมากผลงานแต่ละชิ้น เขาต้องใช้ความเข้าใจศิลปะการต่อสู้อันลึกซึ้งของเขาในฐานะปรมาจารย์อาวุโสเพื่อยกระดับผลงานนั้นด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เขาจะได้รับความชื่นชมจากผู้ที่ชื่นชอบการประดิษฐ์ตัวอักษรนับไม่ถ้วนเพราะผลงานที่สร้างขึ้นด้วยความเข้าใจจากด้านศิลปะการต่อสู้ของเขาไม่ได้เป็นเพียงงานศิลปะเท่านั้นแต่เป็นรูปแบบมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์หากผู

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 109

    สาวสวยพลันรีบก้าวไปข้างหน้าและยื่นมืออันนุ่มเรียบเนียนของเธอไปทางเย่ซิว “สวัสดีค่ะ อาจารย์ต้าวจือ ดิฉันเป็นเจ้าของบริษัทประมูลแห่งนี้เองค่ะ หลิวเมิ่งถิง”เย่ซิวยื่นมือออกไปจับมือหญิงสาวมือของหญิงสาวนุ่มเด้งเรียบลื่นมากไม่อาจต้านทานได้จนใคร ๆ ก็ไม่อยากปล่อยมือ ทว่าเย่ซิวเพียงสัมผัสเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะถอยกลับโดยไม่รอช้า“สวัสดีครับคุณหลิว อย่ามัวพูดพร่ำทำเพลงกันเลยดีกว่าครับ รีบเข้าไปข้างในกันเถอะ”หลิวเมิ่งถิงเหลือบมองเย่ซิวด้วยความเคารพผู้ชายที่ดูธรรมดาคนนี้ยังคงเป็นสุภาพบุรุษซื่อตรงเหมือนเคยคนธรรมดาที่เห็นเธอย่อมมีความคิดอื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อใครได้จับมือของเธอ พวกเขาแทบจะอยากจับมือไว้โดยไม่ปล่อยมือสักสิบนาที“ได้สิคะ เชิญทางนี้ค่ะ”หลิวเมิ่งถิงนำเย่ซิวเข้าไปในบริษัทประมูลและไปที่ห้องวีไอพีหลังจากได้ยินข่าว ผู้ประเมินแปดเก้าคนที่สวมแว่นอ่านหนังสือก็รีบเข้ามาทันทีด้วยความกระตือรือร้น“ท่านนี้คือ อาจารย์ต้าวจือใช่ไหมครับ?”“ดูอ่อนวัยมากเลยครับ”“อาจารย์ต้าวจือ ท่านได้นำผลงานมาด้วยไหมครับ?”สายตาของคนเหล่านี้จ้องมองไปที่ม้วนกระดาษสองม้วนในมือของเย่ซิวตั้งแต่

Latest chapter

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 838

    “คุณค่อย ๆ ดูไปก่อนนะ ฉันจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือจะไปรอฉันที่ห้องนอนก็ได้”เธอพูดด้วยน้ำเสียงสงบเหมือนกำลังคุยเรื่องอาหารเย็นว่าจะกินอะไร“คุณไปเถอะ”เย่ซิวตอบก่อนจะตั้งใจอ่านเอกสารทั้งหมด โดยจดจำข้อมูลทุกอย่างลงในสมองสำหรับข้อมูลองค์กรขนาดใหญ่เช่นนี้ หากให้เย่ซิวสร้างขึ้นด้วยตัวเอง คงใช้เวลาอย่างน้อยห้าถึงหกปีกว่าจะสำเร็จได้แต่ชื่นชมว่าอาจารย์เขาช่างยอดเยี่ยมเสียจริง!อีกด้านหนึ่ง หยางชิงเสวี่ยเดินกลับไปที่ห้องนอนก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าสายตาเธอจับจ้องที่ชุดเดรสตัวยาวสีแดงชุดหนึ่งบนเดรสตัวนั้นปักลายหงส์กางปีกโบยบินด้วยด้ายทองอย่างวิจิตรบรรจงหงส์ตัวนั้นดูเหมือนมีชีวิตจริง ๆ ราวกับสามารถโบยบินออกมาจากชุดได้ทุกเมื่อหยางชิงเสวี่ยลูบชุดเดรสนั้นเบา ๆ ภาพความทรงจำบางอย่างปรากฏขึ้นในหัวของเธอ จากนั้นเธอก็หยิบชุดและเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีปกติแล้วหยางชิงเสวี่ยมักจะแต่งตัวอย่างเรียบร้อยและสุภาพเสมอแต่เมื่อเธอปลดพันธนาการออกจากร่างกายแล้ว ความงดงามสมบูรณ์แบบของเธอก็เผยออกมา ต่อให้นางแบบระดับโลกมาอยู่ตรงหน้าเธอก็ยังเทียบไม่ติดเสียงน้ำจากฝักบัวไหลรินลงมาชโลมร่างกายของ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 837

    ตอนนี้เย่ซิวกลายเป็นคนดังระดับโลกไปแล้ว ดังยิ่งกว่าดาราระดับนานาชาติหลายเท่าถ้าเขาหันไปทำไลฟ์สด วันเดียวก็คงทำรายได้เป็นหลายร้อยล้านหรืออาจถึงพันล้านเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น เขาจึงเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองก่อนออกจากบ้านเขามาหยุดอยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัย ก่อนจะเงยหน้ามองชื่อสถานที่นั้นและเดินเข้าไปทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีนักศึกษาเดินสวนไปมาขวักไขว่ทุกครั้งที่มาที่นี่ เย่ซิวจะรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเขาเดินไปที่ศาลาพักผ่อนอีกครั้ง และเห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ตรงนั้นที่นี่อาจเป็นสถานที่พิเศษสำหรับหยางชิงเสวี่ย นอกจากเธอแล้วก็มีจวงเสี่ยวหยิงที่เย่ซิวเคยเห็นว่ามาที่นี่เช่นกันเขาเดินเข้าไปในศาลาอย่างไม่รีบร้อนแล้วนั่งลงตรงหน้าเธอหยางชิงเสวี่ยที่กำลังอ่านหนังสือท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบเงยหน้าขึ้นดวงตาที่ใสราวคริสตัลของเธอเหมือนสามารถมองทะลุทุกสิ่งในโลกนี้ได้เธอกะพริบตาเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากสีชมพูจะเผยอขึ้น “ยินดีด้วยที่เข้าสู่ระดับจินตานแล้ว”เย่ซิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ผมเปลี่ยนทั้งรูปร่างและหน้าตา คุณก็ยังจำผมได้อีกเหรอ?”หยางชิงเสวี่ยปิดห

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 836

    เย่ซิวโทรหาชูตง อวี่เฟยเฟย เสวี่ยเหมย หลัวอีอี แล้วเรียกพวกเธอมาที่บ้านพร้อมหน้ากันอย่างแรก ทุกคนต้องเป็นห่วงกันอยู่แล้ว การได้มาเจอกันและกินข้าวด้วยกัน น่าจะทำให้พวกเธอสบายใจขึ้นอย่างที่สอง เย่ซิวตั้งใจที่จะช่วยยกระดับพลังของพวกเธอทั้งหมดในคราวเดียวหลังวางสาย เขาก็ชี้ไปที่เด็กผู้หญิงที่ดูมีท่าทีเขินอาย ก่อนเอ่ยถามว่า “พวกคุณไม่คิดว่าเธอคล้ายใครบางคนเหรอ?”สาว ๆ ทุกคนหันไปมองเด็กหญิงคนนั้น พอมองชัด ๆ ก็พากันอึ้งไปตาม ๆ กัน“เหมือนจริง ๆ ด้วย”“คล้ายกันตั้งหกเจ็ดส่วนแน่ะ”“นี่ต้องเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเธอแน่ แต่ทำไมถึงไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงเลยนะ”……ระหว่างที่พวกเธอกำลังพูดคุยกัน ประตูวิลล่าก็เปิดออกไป๋อวี้เจี๋ยเดินเข้ามาในชุดกางเกงยีนรัดรูปเธอวางกระเป๋าลงแล้วพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเย่ซิวทันที“คุณไม่เป็นอะไรแล้วก็ดีแล้ว ฉันตกใจแทบแย่ตอนเห็นข่าว…คุณไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นฉันกลัวแค่ไหน”เย่ซิวตบหลังเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ คุณลองดูเธอสิ”เขาชี้ไปที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กไป๋อวี้เจี๋ยหันมองตามนิ้วของเย่ซิวด้วยความสงสัยเมื่อสายตาของทั้งคู่ปร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 835

    ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!ขณะที่เย่ซิวกำลังจะลงมือจัดการกับพวกคนชั่วเหล่านี้ สายฟ้าหลายสายพลันฟาดลงมาจากท้องฟ้าชิงลงมือก่อนเย่ซิว เจ้าชายเหล่านั้นก็ถูกฟ้าผ่าจนไม่เหลือซากเย่ซิวถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็น "กรรมที่สวรรค์ลิขิตยังพอรอดได้ กรรมที่ก่อเองไม่อาจรอดพ้นกรรม"แม้แต่สวรรค์ก็ทนดูไม่ได้ ต้องลงมือสำเร็จโทษพวกเขาด้วยตัวเองคนเหล่านี้ถูกทำลายจนวิญญาณแตกสลาย ไม่มีแม้แต่โอกาสจะกลับไปเกิดใหม่อีกเย่ซิวไปจากที่นี่ เรื่องหลังจากนี้ไม่ใช่เรื่องของเขาแล้วไม่นานหลังจากที่เขาไป เฟยอวี่ก็ปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อเห็นรอยฟ้าผ่าบนพื้น เธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว มันน่ากลัวเหลือเกินแต่ไม่นานเธอก็เลียริมฝีปาก รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก"ไอ้พวกโง่นี่ถูกฆ่าตาย งั้นตอนนี้ทั้งประเทศอ่ายเหรินก็ไร้ผู้นำแล้วแบบนี้งานของฉันก็ง่ายขึ้นมากฮ่า ๆ เย่ซิวเอ๋ยเย่ซิว ฉันต้องขอบคุณคุณอย่างจริงจังแล้วล่ะ"…… ครืน!เหนือผืนทะเล มีแสงหนึ่งพุ่งผ่านไปด้วยความเร็วสูงเย่ซิวยืนอยู่ที่หัวกระบี่ เด็กสาวสองคนที่อยู่ข้างหลังเขามองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น ความรู้สึกแบบนี้ไม่อาจบรรยายได้เลยเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 834

    ที่นี่กลายเป็นเหมือนนรกบนดินเย่ซิวพุ่งขึ้นมาจากก้นทะเลในตอนนี้เขาดูโทรมมาก เสื้อผ้าที่สวมอยู่ขาดรุ่งริ่ง แถมยังมีบาดแผลทั้งใหญ่และเล็กนับร้อยจุดทั่วร่างนี่เป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมา มันแทบจะทำลายรากฐานของเขาแม้ว่าตอนนี้เขาจะดูสงบมาก แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความอาฆาตและเดือดดาลชนิดที่ยากจะข่มพวกนั้นช่างโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อหากการระเบิดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของพวกเขาเอง อย่างน้อยหนึ่งหรือสองเมืองคงได้กลายเป็นนรกภูมิ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีวิญญาณผู้บริสุทธิ์จำนวนเท่าไหร่โชคดีที่เย่ซิวเพิ่งทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานขั้นกลาง มิฉะนั้นชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอนเขาหยิบน้ำเต้าออกมา แล้วดื่มน้ำพุวิญญาณลงไปรวดเดียวหลายกิโลกรัมร่างกายของเขาฟื้นตัวจากบาดแผลอย่างรวดเร็วแสงของจินตานห้าสีที่สลัว ๆ ในตันเถียน เริ่มกลับมาส่องประกายสดใสอีกครั้งเขาไม่กล้าล่าช้า รีบกลับไปอย่างรวดเร็วเด็กสาวสองคนยังอยู่ที่นั่น เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นเหล่าเจ้าชายได้เริ่มเตรียมแชมเปญเพื่อเฉลิมฉลองแล้วพวกเขาคิดว่าไม่ว่าเย่ซิวจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็คงไม่รอดจากการระเบิดระด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 833

    ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดที่ควบคุมเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อเห็นเย่ซิวชักกระบี่ยาวออกมา ใบหน้าของเขาก็มืดครึ้มลง พลางพูดว่า "คุณคิดจะดึงดันกับพวกเราจนถึงที่สุดจริง ๆ เหรอ? คุณไม่กลัวว่ามันจะนำไปสู่สงครามระหว่างสองประเทศเลยหรือไง!""ฮ่า ๆ ๆ!"เย่ซิวหัวเราะเสียงดังอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก ผู้บัญชาการสูงสุดมีสีหน้าบึ้งตึง "คุณหัวเราะอะไร?!""ก็หัวเราะที่พวกคุณไม่รู้จักประมาณตน หลงตัวเองไงพวกคุณคู่ควรที่จะเป็นศัตรูกับประเทศหลงเถิงของผมด้วยเหรอ?ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณยอมรับประเทศจ้านอิงตี้เป็นนายเหนือหัว ใช้เวลาไม่เกินสามวัน พวกคุณก็จะถูกกำจัดไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เป็นสุนัขแล้วยังกล้ามาทำตัวหยิ่งผยองอีก!"คำพูดที่ไม่ปรานีนี้ได้ยั่วยุคนของประเทศอ่ายเหรินทั้งหมดแล้วพวกเขาต่างมองเย่ซิวด้วยสายตาที่เดือดดาลเย่ซิวไม่ได้เริ่มต่อสู้ทันที ส่วนหนึ่งเพราะเขาต้องการให้ชาวบ้านทั่วไปมีเวลาอพยพเขาไม่ต้องการให้ผู้บริสุทธิ์ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องผู้บัญชาการสูงสุดหัวเราะด้วยความโกรธ "ดีมาก! ปากคอเราะรายดีจริง ๆ! อยากจะรู้นักว่าคุณมีความสามารถมากแค่ไหน! ลงมือ! โจมตีให้เต็มที่เลย!"เขาถอยไปอยู่ด้านหล

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 832

    ขณะที่พวกเขากำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือด รายงานลับฉบับหนึ่งก็ถูกส่งมาวางไว้ตรงหน้าพวกเขาเมื่อพวกเขาอ่านเนื้อหาในรายงานจบ ต่างก็ลุกพรวดขึ้นด้วยความตกตะลึง“เป็นไปไม่ได้!”“เขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง”“เด็กสาวที่อยู่ข้าง ๆ เขาคนนั้นไม่ใช่...เป็นเขา! เขาคือคนที่ฆ่าเสด็จพ่อ!”“จะปล่อยเขาให้หนีไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”“เรื่องของเราพักไว้ก่อนชั่วคราว มาร่วมมือกันกำจัดเขาก่อน!”เหล่าเจ้าชายตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว จับมือกันเพื่อเผชิญหน้าศัตรูภายนอก เพราะความหวาดกลัวที่เย่ซิวนำมาสู่พวกเขานั้นมันลึกซึ้งเกินไปยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองฝ่ายไม่มีทางที่จะหวนคืนสู่จุดเดิมได้แล้ว จำเป็นต้องมีฝ่ายหนึ่งล้มลงเท่านั้น“ส่งกองทหารรักษาพระองค์ไปสกัดเขา!”“ส่งหน่วยอารักขาของฉันไปด้วย!”“พลังธรรมดาเหล่านี้อาจไม่เพียงพอ เราต้องใช้ทั้งจรวดความเร็วเหนือเสียงและขีปนาวุธประเภทดีล็อกเป้าหมายเขาไว้ด้วย!”“ตอนนี้ไม่มีเวลามากังวลว่าอาวุธใหม่ของเราจะถูกเปิดเผยอีกแล้ว ใช้ทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ต้องรั้งเขาไว้ให้ได้!”…… คำสั่งต่าง ๆ ถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็ว และดำเนินการโดยเร็วที่สุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 831

    เมื่อเย่ซิวเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นว่ามีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่ในห้องนี้ด้วยเธออายุประมาณสามสิบกว่าปีได้ใบหน้าสวยมาก รูปร่างอวบอิ่ม สวมชุดที่ค่อนข้างน้อยชิ้นเธอกำลังทำท่าออกกำลังกายที่เรียกเลือดกำเดาได้ง่าย ๆจวงเสี่ยวหยิงกับสาวน้อยกำลังทำท่าตามเธอเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ทั้งสามคนก็หยุดลงพร้อมกันผู้หญิงคนนั้นมองเย่ซิวด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เบิกตากว้างเธอจำเย่ซิวได้"ในข่าวบอกว่าคุณหนีไปแล้วไม่ใช่เหรอ?""พี่ชาย!""พี่กลับมาแล้ว!"หญิงสาวสองคนวิ่งเข้ามาเย่ซิวเผยรอยยิ้มที่มุมปาก มองผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นแล้วถามว่า "เธอเป็นใคร?"จวงเสี่ยวหยิงอธิบายว่า "พี่สาวคนนี้อยู่ห้องข้าง ๆ เราค่ะ เมื่อกี้นี้เราเห็นเธอออกกำลังกายอยู่ที่ระเบียงก็เลยชวนมาคุยกัน แล้วก็ให้เธอมาช่วยสอนเราด้วย"เย่ซิวพยักหน้า ยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นอย่างเป็นมิตรผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นจากพื้นรูปร่างของเธอดีมาก แถมยังสวมเสื้อผ้าที่ทั้งวาบหวิวและรัดรูป ชวนให้มองแล้วแทบจะเลือดกำเดาไหล"สะ...สวัสดีค่ะ ตัวจริงคุณหล่อกว่าที่เห็นในทีวีเยอะเลย"ผู้หญิงคนนั้นดูประหม่าเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่ซิว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 830

    ฐานทัพทหารทั้งหมดของประเทศอ่ายเหรินถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลองในชั่วพริบตาภาพเหตุการณ์นี้ถูกดาวเทียมบนท้องฟ้าจับไว้ได้ และส่งต่อไปยังห้องควบคุมของประเทศมหาอำนาจทั้งหลายในทันทีใบหน้าของคนเหล่านั้นเปลี่ยนสีด้วยความตกใจ พวกเขาลุกพรวดขึ้นแล้วรายงานภาพที่เห็นให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ“แค่ก ๆ ๆ...”ชายชราไออย่างหนัก ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าไม่ละสายตาเบื้องหน้าที่ม่านหมอกปกคลุมอยู่ มีร่างของเย่ซิวยืนถือกระบี่เดินออกมาด้วยลมหายใจที่มั่นคง เขาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย“ความสามารถไม่เลว แต่คุณกระทั่งทำให้ผมบาดเจ็บก็ยังไม่มีปัญญา แล้วยังกล้าโลภในร่างกายของผม โง่จริง ๆ”“หนุ่มสาวสมัยนี้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่เธอครอบครองเนตรจักรพรรดิ” ชายชราหัวเราะเสียงเย็น “แต่ว่านะ ชัยชนะก็ยังคงเป็นของฉันอยู่ดี”พูดจบ เขาก็หยิบเข็มทิศออกมาจากอกเสื้ออย่างรวดเร็ว แล้วโยนมันลงพื้นเย่ซิวรู้สึกถึงอันตราย จึงรีบถอยหลังโดยไม่หยุดคิดสักนิดแต่ก็ยังช้าไปหนึ่งก้าวเข็มทิศขยายตัวขึ้นอย่างเร็วมาก พร้อมปลดปล่อยลำแสงออกมาจนก่อตัวเป็นค่ายกลที่แน่นหนา ปิดล้อมเย่ซิวไว้ด้านในจากนั้นเถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็เ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status