แชร์

บทที่ 105

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
“ฉันหวังว่าโครงการนี้จะเกี่ยวข้องกับคุณเย่ด้วยนะ”

การแสดงออกของหลิ่วอวี้ฝูไม่เปลี่ยนแปลง เธอเดาไว้อยู่แล้ว

อีกอย่างเธอยังต้องการตอบแทนเย่ซิวที่ช่วยปู่ของเธอเอาไว้ด้วย

เธอพยักหน้าและพูดกับเย่ซิว “พี่ใหญ่ เราไปคุยกันส่วนตัวดีไหม?"

“ได้สิ”

ทั้งกลุ่มไปที่ห้องรับแขกข้าง ๆ

ยอดฝีมือที่นำโดยหลิ่วอวี้ฝูได้ตรวจสอบห้องทั้งภายในและภายนอกอย่างระมัดระวัง

หลังจากที่แน่ใจว่าไม่มีอุปกรณ์ดักฟังแล้วพวกเขาก็ออกจากห้องไป

หูเม่ยเอ๋อร์และหรูฮว่าก็อยู่เช่นกัน

หลิ่วอวี้ฝูยังรู้รายละเอียดของทั้งสองคน

หูเม่ยเอ๋อร์เป็นจอมยุทธระดับห้า แต่เธอไม่มีทักษะในการต่อสู้ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเธอใกล้เคียงกับเซี่ยเจี๋ย

ส่วนหรูฮว่าเป็นจอมยุทธสูงสุดระดับสาม

ทว่าเธอได้ฝึกฝนทักษะลึกลับบางอย่างที่ทำให้เธอก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและสามารถระเบิดความแข็งแกร่งได้หลายครั้งในทันที และเธอยังสามารถได้รับการปฏิบัติในฐานะจอมยุทธระดับสี่อีกด้วย

หลิ่วอวี้ฝูก็ต้องการที่จะได้รับความร่วมมือจากทั้งสองคนเช่นกัน

มีหลายคนนั่งลงรอบโต๊ะ จากนั้นหลิ่วอวี้ฝูก็พูดช้า ๆ

“พวกคุณทุกคนคงสงสัยว่า โครงการอะไรที่ตระกูลหลี่และฉันกำลังต่อสู้เ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 106

    “ตอนนี้ไม่มี แต่อีกไม่กี่วันมีแน่”หลิ่วอวี้ฝูเม้มริมฝีปาก “พี่ใหญ่ อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปเลยค่ะ เงินห้าพันหมื่นล้านบาทไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ นะคะ”แม้แต่ตระกูลหลิ่ว หากต้องการเงินห้าหมื่นล้านบาทก็ยังต้องใช้เวลาเตรียมการสักระยะเลยเย่ซิวยิ้ม “เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวล แค่บอกมาว่าคุณเต็มใจหรือไม่ก็พอ”การใช้เงินห้าหมื่นล้านลงทุนเพื่อแลกกับกำไรสิบเปอร์เซ็นต์ถือว่าอยู่ในสถานะที่สมเหตุสมผลมากเย่ซิวไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการช่วยปู่ของหลิ่วอวี้ฝูเพื่อทำข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผลหลิ่วอวี้ฝูเห็นด้วยทันที “ถ้าพี่ใหญ่ช่วยได้ห้าหมื่นล้านจริง ๆ ฉันจะให้กำไรพี่สิบสองเปอร์เซ็นต์"“ไม่จำเป็น” เย่ซิวปฏิเสธ “ผมช่วยคุณปู่ของคุณก็เพราะหน้าที่ในฐานะแพทย์ ผมไม่ได้ต้องการเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์อื่น สิบเปอร์เซ็นต์ก็พอแล้ว”หลิ่วอวี้ฝูรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อยเย่ซิวปฏิเสธส่วนแบ่งกำไรสองเปอร์เซ็นต์นั้นจริง ๆแม้ว่าจะคำนวณจากผลกำไรประจำปีจำนวนสองแสนล้านบาท นั่นคือสองหมื่นล้านบาทต่อปี และสองแสนล้านบาทในระยะเวลาสิบปีนี่ไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อยเลย บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งอาจมีกำไรสุทธิเพียงร้อยล้านต่อปีเท่าน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 107

    ลู่เจิ้นเฟิงกล่าวชมลูกเขยในอนาคตด้วยความภาคภูมิใจสำหรับเย่ซิว ลู่เจิ้นเฟิงปฏิบัติต่อเขาเหมือนดินบนพื้น เหยียบย่ำเขาโดยไม่ให้เกียรติสักนิดเย่ซิวยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขาเย็นชา“เพื่อเห็นแก่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ ผมจะไม่เถียงกับคุณ”หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็เดินผ่านลู่เจิ้นเฟิงเพื่อจะออกไปจากตรงนั้นลู่เจิ้นเฟิงโกรธมากและตะโกนใส่เย่ซิว "ไอ้หนุ่ม อย่ามองข้ามความหวังดีกันนักเลยภูมิหลังคู่หมั้นของลู่เสวี่ยเอ๋อร์สะท้านฟ้าสะเทือนดิน เขาคือกิเลนตัวจริง เทียบกับเขาแล้วนายมันไม่มีอะไรสักอย่าง อย่าหลอกตัวเองเลย”เย่ซิวส่ายหัว บางคนเย่อหยิ่งและคิดว่าตนเองชอบธรรมจริง ๆพยัคฆ์ขาวกับกิเลนอะไรกัน ตรงหน้าเขาคือมังกรที่แท้จริง ทั้งหมดนั้นก็แค่พวกปลาซิวปลาสร้อยเขาขี้เกียจเกินไปที่จะโต้เถียงกับลู่เจิ้นเฟิงในที่สาธารณะ เขาจึงเดินออกมาอย่างรวดเร็วลู่เจิ้นเฟิงมองดูแผ่นหลังของเย่ซิว สีหน้าของเขาดูมืดมนอย่างยิ่ง จนในที่สุดเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา!“แกว่งเท้าหาเสี้ยนนัก งั้นก็รอวันที่แกจะแหลกเป็นชิ้น ๆ เถอะ!”หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็เดินออกไปเมื่อเย่ซิวกลับถึงบ้าน ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และหลิ่วเมิ่งอิ๋นกำลัง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 108

    ในเวลานั้น งานอักษรวิจิตรทั้งสองชิ้นถูกประมูลในราคาสูงถึงสองพันหกร้อยล้าน และสองพันแปดร้อยล้านตามลำดับและภาพฝูงม้านับหมื่นนั้นสูงถึง หกพันแปดร้อยล้านบาทเขาใช้เงินทั้งหมดจากการประมูลเหล่านี้เพื่อสร้างโรงเรียนไพรเมรี่โฮป และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ในพื้นที่ห่างไกลของประเทศหลงเถิงในเวลานั้น การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขาส่งผลกระทบอย่างมาก และด้วยผลงานสามชิ้นนี้ เขาก็ได้รับชื่อเสียงอย่างสั่นสะเทือนผู้ชื่นชอบอักษรวิจิตรและนักสะสมอักษรวิจิตรนับไม่ถ้วนพยายามสอบถามเกี่ยวกับเขาไปทุกหนแห่งด้วยความกระตือรือร้นที่จะซื้อผลงานของแท้จากเขาทว่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่ได้สร้างผลงานอีกเลยเหตุผลนั้นง่ายมากเพราะการสร้างงานชิ้นเดียวมีผลกระทบต่อเขาอย่างมากผลงานแต่ละชิ้น เขาต้องใช้ความเข้าใจศิลปะการต่อสู้อันลึกซึ้งของเขาในฐานะปรมาจารย์อาวุโสเพื่อยกระดับผลงานนั้นด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เขาจะได้รับความชื่นชมจากผู้ที่ชื่นชอบการประดิษฐ์ตัวอักษรนับไม่ถ้วนเพราะผลงานที่สร้างขึ้นด้วยความเข้าใจจากด้านศิลปะการต่อสู้ของเขาไม่ได้เป็นเพียงงานศิลปะเท่านั้นแต่เป็นรูปแบบมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์หากผู

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 109

    สาวสวยพลันรีบก้าวไปข้างหน้าและยื่นมืออันนุ่มเรียบเนียนของเธอไปทางเย่ซิว “สวัสดีค่ะ อาจารย์ต้าวจือ ดิฉันเป็นเจ้าของบริษัทประมูลแห่งนี้เองค่ะ หลิวเมิ่งถิง”เย่ซิวยื่นมือออกไปจับมือหญิงสาวมือของหญิงสาวนุ่มเด้งเรียบลื่นมากไม่อาจต้านทานได้จนใคร ๆ ก็ไม่อยากปล่อยมือ ทว่าเย่ซิวเพียงสัมผัสเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะถอยกลับโดยไม่รอช้า“สวัสดีครับคุณหลิว อย่ามัวพูดพร่ำทำเพลงกันเลยดีกว่าครับ รีบเข้าไปข้างในกันเถอะ”หลิวเมิ่งถิงเหลือบมองเย่ซิวด้วยความเคารพผู้ชายที่ดูธรรมดาคนนี้ยังคงเป็นสุภาพบุรุษซื่อตรงเหมือนเคยคนธรรมดาที่เห็นเธอย่อมมีความคิดอื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อใครได้จับมือของเธอ พวกเขาแทบจะอยากจับมือไว้โดยไม่ปล่อยมือสักสิบนาที“ได้สิคะ เชิญทางนี้ค่ะ”หลิวเมิ่งถิงนำเย่ซิวเข้าไปในบริษัทประมูลและไปที่ห้องวีไอพีหลังจากได้ยินข่าว ผู้ประเมินแปดเก้าคนที่สวมแว่นอ่านหนังสือก็รีบเข้ามาทันทีด้วยความกระตือรือร้น“ท่านนี้คือ อาจารย์ต้าวจือใช่ไหมครับ?”“ดูอ่อนวัยมากเลยครับ”“อาจารย์ต้าวจือ ท่านได้นำผลงานมาด้วยไหมครับ?”สายตาของคนเหล่านี้จ้องมองไปที่ม้วนกระดาษสองม้วนในมือของเย่ซิวตั้งแต่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 110

    แม่น้ำที่คำรามและโหมกระหน่ำรอบตัวเธอราวกับมังกรดุร้ายนั้นเหมือนพร้อมจะกลืนกินเธอทั้งตัวหลังจากนั้นไม่นานเธอก็กลับมามีสติอีกครั้งหลิวเมิ่งถิงสามารถเป็นเจ้าของบริษัทประมูลได้ ความสามารถของเธอเองในการชื่นชมของโบราณและการประดิษฐ์ตัวอักษรก็ย่อมไม่ธรรมดาเช่นกันเพียงแวบเดียวเธอก็ตกหลุมรักผลงานทั้งสองชิ้นนี้แล้วเธออยากจะเก็บภาพวาดทั้งสองไว้เป็นของตัวเองน่าเสียดาย เธอรู้ว่าด้วยทรัพยากรทางการเงินของเธอนั้นไม่สามารถที่จะซื้อผลงานนี้ได้เธอแอบเสียใจในใจ ทำไมเธอต้องมาเห็นผลงานพวกนี้ด้วย ถ้าไม่เห็นก็คงไม่รู้สึกอยากได้แต่ไม่ได้อย่างนี้หรอกกลุ่มชายผู้สูงอายุอีกแปดหรือเก้าคนมีความคิดตรงกัน ผลงานที่สมบูรณ์แบบเช่นนั้นย่อมเป็นสิ่งที่พวกเขาปรารถนาเช่นกันหลิวเมิ่งถิงสงบสติอารมณ์ และพูดกับเย่ซิวด้วยความเคารพ “อาจารย์ต้าวจือคะ รายได้ทั้งหมดจากการประมูลผลงานทั้งสองชิ้นนี้ยกเว้นเงินภาษีจะถูกส่งให้กับคุณดิฉันจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการในส่วนของดิฉัน ดิฉันแค่หวังว่า หากคุณมีผลงานที่จะขายในอนาคตคุณจะพิจารณาเลือกบริษัทประมูลของเราก่อน จะเป็นไปได้ไหมคะ? ผู้หญิงคนนี้มีแผนหลังจากที่ได้เห็นผลงา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 111

    หญิงสาวรู้สึกเบื่อมากจนเริ่มหาวหลังจากรอนานกว่าสิบนาที หลิวเมิ่งถิงก็ปรากฏตัวขึ้นในที่สุด ข้างหลังเธอมีบอดี้การ์ดมากกว่าห้าสิบคน แต่ละคนติดอาวุธครบมือเธอยังเชิญเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจหลายคนมาด้วย เพราะจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องครั้งนี้มีมหาศาล และเธอกังวลว่าจะมีบางอย่างผิดพลาดหลิวเมิ่งถิงเป็นหญิงแกร่งเด็ดเดี่ยวหลังจากขึ้นเวทีแล้วเธอก็กล่าวทักทายอย่างสุภาพไม่กี่คำ และเข้าประเด็นทันที“ในครั้งนี้อาจารย์ต้าวจือได้ให้ความไว้วางใจแก่เราในการดูแลผลงานชิ้นเอกสองชิ้น แต่ละชิ้นเป็นผลงานอันศักดิ์สิทธิ์ ผลงานแรก งานเขียนอักษรวิจิตรที่มีชื่อว่า บทกวีไผ่งาม”เธอเปิดม้วนกระดาษด้วยตัวเอง จากนั้นโปรเจคเตอร์ในสถานที่ก็แสดงภาพบนหน้าจอโดยขยายให้ทุกคนได้เห็นกันอย่างชัดเจนผู้ที่สามารถเข้าร่วมงานนี้ได้จะต้องมีความซาบซึ้งในการเขียนพู่กันขั้นสูงอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเห็นงานอักษรวิจิตรชิ้นนี้ ผู้ชมส่วนใหญ่ก็ลุกขึ้นยืนทันที รวมถึงปู่ของสาวน้อยซึ่งรู้สึกตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน“โอ้พระเจ้า! การประดิษฐ์ตัวอักษรนี้น่าทึ่งจริง ๆ!”“คู่ควรกับงานของอาจารย์ต้าวจืออย่างแท้จริง แนวคิดทางด้านศิลปะลึก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 112

    ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากและในไม่ช้าก็ถึงสองหมื่นล้านและมีเพียงคนหนึ่งในสิบเท่านั้นที่ถอนตัวออกจากการประมูลทุกคนที่มาที่นี่ล้วนแต่มีทรัพย์สมบัติมากมายแน่นอนว่าอีกเหตุผลที่สำคัญมากก็คือ ผลงานของเย่ซิวมีน้อยเกินไปในระยะเวลาสองปีมีเพียงสองผลงานเท่านั้นที่ถูกปล่อยออกมาไม่รู้เลยว่าครั้งต่อไปจะเป็นเมื่อไหร่ดังคำกล่าวที่ว่า ของหายากนั้นมีคุณค่าสำหรับหลาย ๆ คน พวกเขาไม่ได้ขาดแคลนเงิน แต่สิ่งที่พวกเขาขาดคือข้อมูลหากคุณมีสิ่งที่คนอื่นไม่มี ต่อหน้าผู้คนในระดับเดียวกัน คุณก็จะรู้สึกมั่นใจและภูมิใจมากขึ้นด้วยเหตุนี้ราคาจึงพุ่งสูงขึ้นหลิวเมิ่งถิงรู้สึกตื่นเต้นมากเนื่องจากบริษัทประมูลของเธอเปิดมาหลายชั่วอายุคน แต่ไม่เคยมีรายการประมูลครั้งไหนที่มีราคาสูงขนาดนี้ในที่สุดก็ปิดประมูลไปที่สองหมื่นสองพันล้านบาท ปู่ของสาวน้อยเป็นผู้ประมูลไปสาวน้อยส่งเสียงเชียร์และกำมือแน่นด้วยงานประดิษฐ์ตัวอักษรนี้ เธอจะสามารถขึ้นนำยอดฝีมือวรยุทธในระดับเดียวกันไว้เบื้องหลังได้ในขณะเดียวกัน เธอก็สงสัยอย่างมากว่า คนที่เขียนอักษรวิจิตรนี้หน้าตาเป็นอย่างไร และทักษะการต่อสู้ของพวกเขาสูงแค่ไหนกันนะ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 113

    ทันทีที่หลี่หรูเฟิงประกาศออกมา หลายคนก็ยอมแพ้ทันทีสามหมื่นเก้าพันล้านไม่ใช่จำนวนน้อยเลยแม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวย แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะหาเงินสดจำนวนมากได้ในคราวเดียวมีคนติดตามเขาเพียงเจ็ดหรือแปดคนเท่านั้นหลังจากการเสนอราคาประมูลหลายรอบ ราคาก็ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปถึงสี่หมื่นล้านบาทไม่มีใครเสนอราคาสู้หลี่หรูเฟิงอีกต่อไปแม้ว่าเงินสี่หมื่นล้านจะเป็นมูลค่าที่สูง แต่หลี่หรูเฟิงก็ไม่รู้สึกว่ามันเป็นการสูญเสียเลยหากเขาได้ภาพวาดนี้มา สำหรับเขาและตระกูลหลี่ก็เหมือนได้เหมืองทองคำมาครอบครองเมื่อหลี่หรูเฟิงคิดว่าตนจะสามารถนำภาพวาดนี้เก็บใส่กระเป๋าไปได้แล้ว ทันใดนั้น เย่ซิวก็พูดว่า “สี่หมื่นห้าร้อยล้าน”หลี่หรูเฟิงหันขวับไปมองเย่ซิวเมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเขาก็ขมวดคิ้วบนเวที หลิวเมิ่งถิงจำเย่ซิวได้ทันที และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้แสดงสีหน้าใดการกระทำเช่นนี้ดูเหมือนจะค่อนข้างดึงดูดความสนใจ แต่ก็สามารถเข้าใจได้เช่นกันหลี่หรูเฟิงเสนอราคาอีกครั้ง “สี่หมื่นแปดร้อยล้าน” “สี่หมื่นหนึ่งพันล้าน” เย่ซิวกล่าวอย่างใจเย็นหลี่หรูเฟิงมองเย่ซิวด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 966

    นอกจากนี้เย่ซิวยังมีฐานปลูกสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งที่ประเทศหลงเถิง เมื่อรวมกันแล้ว ฐานทั้งสองแห่งสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการหลอมยาได้เป็นจำนวนมหาศาล ต่อไปเมื่อเขาสามารถหลอมยาได้มากพอ ก็จะสามารถใช้โอสถเหล่านั้นสร้างกองกำลังสุดแกร่งขึ้นมาได้ เป็นกองกำลังที่สามารถทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เย่ซิวมีแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังนี้มานานแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มดำเนินการ สำหรับแกนหลักของกองกำลัง เย่ซิววางแผนให้สมาชิกของหน่วยกองกำลังหมาป่าราตรีเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขามีทั้งพลังและประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป เย่ซิวมอบหมายให้หวังซวงเป็นผู้จัดการเรื่องรถถังและทองคำ โดยทองคำบางส่วนจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเสบียงและทรัพยากร ก่อนจะส่งไปให้ถังอวิ้น การพัฒนาของประเทศสุ่ยจือยังคงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องกังวลมากนักก็คือ ประเทศสุ่ยจือมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้าน แนวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ทำให้เป็นปราการธรรมชาติที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ประเทศนี้จะถูกโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ อีกทั้งตอนนี้สภาพของที

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 965

    เย่ซิวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นการบำเพ็ญที่กินเวลาสองชั่วโมงกว่าจึงเริ่มขึ้น เขายังช่วยหนานกงอวี่แก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างอีกด้วย… หลังจากนั้น หนานกงเสวี่ยก็เสร็จสิ้นงานของวันและกลับมาที่วิลล่า เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองน้องสาวของตัวเองอย่างตำหนิเล็กน้อย ในใจคิดว่า ‘ยายตัวแสบ แอบกินเงียบ ๆ ไม่แบ่งพี่เลยนะ’จากนั้นเธอก็เข้าร่วมการบำเพ็ญตนด้วย พลังของเย่ซิวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็กำลังก้าวเข้าสู่จินตานขั้นสมบูรณ์อย่างมั่นคง เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ เพราะตามที่บันทึกโบราณได้กล่าวไว้ เมื่อไปถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงบางคนจะสามารถเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์และโลกได้พวกเขาสามารถรวบรวมร่างพลังขนาดใหญ่ได้หลายร้อยหรือแม้แต่พันเมตร ดึงพลังของสวรรค์และโลกมาใช้ ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล ถึงขั้นที่เมืองทั้งเมืองอาจไม่สามารถต้านทานได้ ในมือของเขายังมีโอสถเม็ดหนึ่ง ซึ่งได้มาตอนที่ได้รับเตาเพลิงปฐพีมา แต่เขาก็อดกลั้นไว้ ไม่ได้ใช้มัน นี่คือโอสถที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ตอนที่ทะล

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 964

    พรีเอลล์ถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย เย่ซิวไม่ได้ปฏิเสธเด็ดขาดในทันที นั่นหมายความว่ายังพอมีช่องทางให้เจรจาต่อรองได้ หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก เขาก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานนัก เย่ซิวก็ได้รับรูปภาพหนึ่งทางโทรศัพท์ของเขา เมื่อเปิดดู ดวงตาของเขาหดเล็กลงเล็กน้อย ในภาพเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวที่สวยจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด เธอมีผมสีทองส่องประกายราวกับเปล่งแสงได้ ดวงตาสีฟ้าลึกเหมือนอัญมณีไพลินใบหน้าสวยบริสุทธิ์แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวนเล็กน้อย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากเล็กสีชมพูชวนหลงใหล สิ่งที่ทำให้เย่ซิวรู้สึกสะดุดตาคือออร่าของหญิงสาวในภาพช่างคล้ายกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็ง ทั้งสองมีบรรยากาศที่ดูสูงส่ง ดั่งกำเนิดมาเพื่อเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง มองลงมายังสรรพสิ่งเบื้องล่าง เย่ซิวอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า หรือว่าหญิงสาวทั้งสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?เดิมทีเย่ซิวไม่ได้สนใจอะไรมากเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องที่พรีเอลล์พูดถึง แต่ตอนนี้เขากลับต้องคิดทบทวนใหม่ คงต้องหาโอกาสไปดูให้เห็นกับตา ใต้ภาพ พรีเอลล์ยังทิ้งข้อความไว้ด้วย : “เป็นไงล่ะ? สวยส

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 963

    "มีอะไรหรือเปล่า?" เย่ซิวกดรับสาย คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น เป็นพรีเอลล์ครั้งก่อนเขาเผลอมองข้ามเธอไป ผู้หญิงคนนี้คงโกรธมากแน่ ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในมุมหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่ง พรีเอลล์มีสีหน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เสียงที่เธอพูดกลับอ่อนหวานเหลือจะกล่าว จนทำให้ผู้ฟังขนลุกชัน "พี่ชายที่รัก ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ คิดถึงมากเลยนะ" เย่ซิวแสยะยิ้มเย็น ถ้าเขาไม่เคยติดต่อกับเธอมาก่อน คงเผลอเชื่อคำพูดของเธอไปแล้ว "พูดมาเถอะ มีธุระอะไร ระหว่างเราไม่ต้องมาเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อม" "จะมีอะไรได้ยังไงล่ะ หรือฉันคิดถึงคุณไม่ได้เหรอ? เราสองคนก็เคยทำแบบนั้นแล้วนี่นา แต่ทำไมคุณถึงยังสงสัยว่าฉันมีแผนอะไรอีกล่ะ เสียใจจังเลย" เย่ซิวแค่นเสียงเยาะที่มุมปาก "งั้นเหรอ ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นผมวางสายแล้วนะ" "เดี๋ยว ๆ ๆ!" เสียงของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นปกติขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด"ไอ้คนไร้รสนิยม! คุณนี่ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงมีผู้หญิงชอบเยอะขนาดนี้แต่ก็เอาเถอะ นี่โทรมานี่ก็เพราะมีเรื่องจะถาม ว่าคุณจะขายหุ่นยนต์ให้ฉันสักสองสามตัวได้ไหม ราคาคุณตั้งมาได้เลย"

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 962

    เย่ซิวกำหนดเงื่อนไขให้พวกเขาส่งคนมาได้เพียงแค่หนึ่งร้อยคน และอีกฝ่ายก็ตอบตกลง หลังจากจบการสนทนา เย่ซิวกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม พลางจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ความบาดหมางระหว่างเขากับประเทศจ้านคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน เขารู้ดีว่าประเทศนี้เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาตบหน้าพวกนั้นอย่างรุนแรงขนาดนี้ อีกฝ่ายจะต้องหาทางเอาคืนแน่นอน ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้สายการผลิตเร่งสร้างจักรกลมังกรดำอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากสายการผลิตเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ขอแค่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ส่วนที่เหลือก็ให้ระบบจัดการได้เลยด้วยประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบัน สามารถสร้างจักรกลมังกรดำได้วันละสองตัว ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ ต้องเสริมแนวป้องกันบริเวณพรมแดนทุกจุด และต้องรับสมัครผู้ควบคุมหุ่นยนต์เพิ่มอีก ยังต้องเตรียมรับมือกับมาตรการทางทหารจากอำนาจอื่น ๆ รอบตัว แต่โชคดีที่ตอนนี้เขามีคนเก่งอยู่ในทีมเยอะขึ้นแล้ว ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแค่ออกคำสั่งก็พอ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากที่นี่และตรงไปหาหยางถิงถิงที่กำลังทำงานสร้างถนน สาวน้อยคนนี้ดูอารมณ์เสีย หงุดหงิดไม่น้อย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 961

    "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เทคโนโลยีของหุ่นยนต์ก็ไม่ใช่ว่าจะถ่ายโอนไม่ได้""แต่เรื่องแบบนี้ พวกเราควรมานั่งคุยกันให้ละเอียดเสียก่อน""อีกสองวันเป็นวันดี ผมขอเชิญทุกท่านมาหารืออย่างจริงจังดีไหม?"แน่นอนว่าเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ไม่มีทางถูกส่งมอบให้พวกเขา นี่เป็นเพียงแค่กลยุทธ์ถ่วงเวลาเท่านั้นตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเย่ซิวหรือประเทศหลงเถิง ต่างก็ต้องการเวลาเย่ซิวต้องการเวลาเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดประเทศหลงเถิงเองก็ต้องการเวลาในการผลิตหุ่นยนต์ในปริมาณมากเช่นกันเมื่อถึงตอนนั้น หากพวกเขาเปิดตัวหุ่นยนต์เป็นพัน ๆ ตัว พวกโจรเหล่านี้ก็จะถอยไปเองผู้นำแต่ละประเทศที่เข้าร่วมประชุมเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น มีไม่น้อยที่ถึงกับแสดงรอยยิ้มออกมาประเทศหลงเถิงเป็นที่รู้กันดีว่ามักจะแข็งกร้าวเมื่อพูดถึงผลประโยชน์หลักของตนเองแต่ตอนนี้พวกเขากลับยอมผ่อนปรน ทุกคนจึงคิดว่ามีโอกาสที่ข้อตกลงนี้จะเป็นไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตอบตกลงกันทั้งหมดหลังจากนั้น การประชุมทางวิดีโอที่ทั่วโลกจับตามองก็สิ้นสุดลงด้านของเย่ซิว ขณะเดียวกันก็ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจ้านชายผู้นั้นเป็นชายร่างใหญ่ มีหนวด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 960

    คำพูดดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหลักการอันสูงส่ง แต่ความจริงแล้วมันเป็นการปล้นดี ๆ นี่เอง ผู้นำประเทศหลงเถิงตั้งแต่ต้นจนจบยังคงรักษาท่าทีนิ่งสงบไม่มีแม้แต่แววความไม่พอใจบนใบหน้า จนกระทั่งพวกเขาพูดจบ เขาถึงได้พูดขึ้นมาช้า ๆ ว่า "ทุกท่านคิดว่าตอนนี้ประเทศหลงเถิงของเราผลิตหุ่นยนต์ไปแล้วกี่ตัว?" ทันทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาทั้งที่ประชุมก็เงียบกริบ ใช่สิ พวกเขามัวแต่รีบร้อนเกินไป ในหัวมีเพียงความคิดเดียวคือต้องรีบช่วงชิงเทคโนโลยีของจักรกลมังกรดำมาให้ได้เร็วที่สุด แต่พวกเขากลับไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้เลย เมื่อถูกเตือนขึ้นมาแบบนี้ หลายคนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลังเหงื่อเย็นไหลซึมออกมาไม่หยุด ประเทศหลงเถิงสามารถมอบจักรกลมังกรดำถึงสิบสามตัวให้เย่ซิว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องมีสต๊อกอีกจำนวนมากเท่าไหร่?พวกเขาต่างก็เห็นพลังของจักรกลมังกรดำกันหมดแล้ว เพียงแค่สิบสามตัวก็สามารถทำลายล้างกองกำลังหลักของมหาอำนาจได้ ถ้าหากประเทศหลงเถิงมีจำนวนมากกว่านี้ ประเทศขนาดกลางและขนาดเล็กบางประเทศอาจถูกกวาดล้างจนหายไปจากแผนที่ได้เลย!เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศเล็กคนหนึ่งปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วถามขึ้น

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 959

    เย่ซิวรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางของหนานกงเสวี่ยเขาจึงฟาดฝ่ามือลงไปหนัก ๆ หนึ่งที "เวลานี้แล้วยังมาคิดเรื่องพวกนี้อีก แถมเธอยังเป็นกษัตริย์ด้วยระวังภาพลักษณ์ของตัวเองหน่อยสิ" หนานกงเสวี่ยมองเขาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายราวกับน้ำใส "แล้วมันจะเป็นอะไรไปล่ะ? ยังไงทุกคนที่นี่ก็เป็นพวกเดียวกัน อีกอย่างก็ฉันดีใจนี่นา" ตอนนี้เธออยู่ในอารมณ์ที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เธอลอบดีใจที่ตอนนั้นตัดสินใจยอมรับเย่ซิวซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดในชีวิต เธอสามารถมองเห็นอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของประเทศปิงจือได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากประชาชนของประเทศปิงจือได้เห็นกษัตริย์ของพวกเขาทำตัวแบบนี้กับเย่ซิว เกรงว่าหลายคนคงรับไม่ได้ เฉินหลานกลับไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะในสายตาของเธอเย่ซิวคือบุคคลในตำนาน เป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง ท้ายที่สุด เย่ซิวก็ไม่ได้ทำตามที่หนานกงเสวี่ยคาดหวัง เขาให้เธอกลับไปประจำการก่อนเพื่อไม่ให้ทางนั้นเกิดปัญหา หนานกงเสวี่ยเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียดาย แต่พอเย่ซิวบอกกับเธอว่า"เดี๋ยวฉันจัดการธุระเสร็จแล้วจะไปหาเธอ" หญิงสาวก็กลับมายิ้มดีใจอีกครั้งหุ่นยนต์ทั้งสิบสามต

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 958

    เครื่องบินห้าลำพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง การยิงถล่มอย่างรุนแรงทำให้เครื่องบินรบถูกสอยร่วงลงทีละลำ ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เสียงระเบิดดังกึกก้องต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพลิงไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทั่วแนวชายแดน กองทัพอัคคีแดงซึ่งเคยเป็นที่ขนานนามว่าเป็นกองทัพไร้เทียมทาน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง พากันล่าถอยอย่างอลหม่าน ทว่าระหว่างการล่าถอย พวกเขากลับถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล กระทิงคลั่งคำรามเสียงดัง ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันมหึมายิ่งขยายใหญ่ขึ้น เขาคำรามพลางพุ่งเข้าไปในห้องบัญชาการ สกัดกั้นแม่ทัพพยัคฆ์ขาวที่กำลังคิดจะหลบหนี การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น แม้ว่าแม่ทัพพยัคฆ์ขาวจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับกระทิงคลั่งแล้ว ยังถือว่าอ่อนด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพียงไม่กี่นาที เขาก็ถูกกระทิงคลั่งจับตัวได้ อย่างไรก็ตาม กระทิงคลั่งไม่ได้สังหารเขา แต่คว้าตัวแม่ทัพพยัคฆ์ขาวเอาไว้ หลบหลีกการโจมตีจากปืนใหญ่และระเบิด ก่อนจะพากลับไปยังค่ายของฝ่ายตน เพราะหมอนี่ถือเป็นตัวประกันที่มีค่ามาก และจะเป็นหม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status