เย่ซิวเผยรอยยิ้มจริงใจออกมา วัยรุ่นนี่ช่างดีจริง ๆ เลยนะแต่เขาเองกลับไม่รู้ตัวเลยว่าปีนี้เขาเพิ่งจะอายุยี่สิบเท่านั้นแต่สิ่งที่เขาได้ประสบพบเจอมานั้นมากมายเกินกว่าชีวิตของคนส่วนใหญ่ทั้งชีวิตหลังจากพวกเธอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้ว เย่ซิวก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ของทั้งสามคน ก่อนจะพากันออกไปเดินเล่นขณะเดียวกัน หุ่นเชิดถูกนำตัวไปยังพื้นที่ห่างไกลจากใจกลางเมืองที่นั่นเต็มไปด้วยทะเลทราย บรรยากาศรกร้างและวังเวงในระยะหลายร้อยลี้ออกไปมีฐานลับแห่งหนึ่งที่นี่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาในฐานลับนั้นมีชายสิบกว่าคนที่ดูเคร่งขรึมนั่งจ้องหน้าจออยู่ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอคือรถที่หุ่นเชิดโดยสารอยู่ชายคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น “ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม?!”เจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างพยักหน้ารับกันถ้วนหน้า“ล็อกเป้าหมายเรียบร้อยแล้วครับ”“ขีปนาวุธหมายเลขหนึ่ง สอง และห้า พร้อมยิงแล้วครับ”แววตาของหัวหน้าฉายความอำมหิต ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน “ครั้งนี้ฉันจะทำให้มันแหลกเป็นผุยผงให้ได้!”นี่เป็นคำสั่งที่เขาเพิ่งได้รับมาเมื่อสองชั่วโมงก่อนบ
ทั้งสามคนมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนจะสั่งของว่างและชานมมาทานสองเด็กสาวดูมีความสุขมาก พวกเธอนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานถึงแม้เย่ซิวจะไม่ได้ตั้งใจฟังสิ่งที่พวกเธอคุยกัน แต่ด้วยพลังของเขาที่เหนือมนุษย์ คำพูดของพวกเธอก็ลอยเข้าหูเขาอย่างชัดเจน“น้องสาว เธอคิดว่าพี่ชายเขาเป็นยังไงบ้าง?”“พี่ชายเขาดีมากเลยค่ะ การได้เจอพี่ชายถือเป็นบุญของฉันในหลายชาติภพ”“งั้นถ้าเธอโตขึ้น เธอคิดจะเป็นแฟนเขาไหม?”“เอ๊ะ ทำไมพี่ถามอะไรแบบนี้ล่ะคะ”“ตอบมาสิว่าอยากหรือไม่อยาก”“ก็อยากสิ แต่ฉันทำอะไรไม่เป็นเลย พี่ชายคงไม่สนใจฉันหรอก”“เป็นไปได้ไง เธอสวยขนาดนี้ แถมยัง…”……เย่ซิวส่ายหัวพลางยิ้ม ก่อนจะหยิบชานมขึ้นมาดื่มเงียบ ๆพอดีกับตอนนั้นที่หน้าจอในร้านฉายข่าวเกี่ยวกับเขาข่าวรายงานว่าเย่ซิวนั้น ‘ถูกกำจัด’ ได้แล้วแถมพวกคนแคระนี่ยังใส่ร้ายเย่ซิวอีกว่าเขาใช้สารต้องห้ามระหว่างการประลองหลังจากพ่ายแพ้แล้วก็หนีหัวซุกหัวซุนในเมื่อพวกเขาคิดว่าเย่ซิวตายไปแล้ว การจะใส่ร้ายหรือบิดเบือนความจริงอะไรก็ทำได้อย่างง่ายดายจวงเสี่ยวหยิงที่เห็นข่าวก็โกรธจัด “คนพวกนี้หน้าไม่อายจริง ๆ ก็เห็น ๆ อยู่ว่าพี่…”เย่ซิวส
เย่ซิวเค้นข้อมูลจนได้ตำแหน่งของสำนักใหญ่ ๆ ในประเทศอ่ายเหรินจากปากของพวกชาวบ้านจนครบถ้วนอาณาเขตของประเทศอ่ายเหรินนั้นไม่ได้ใหญ่มากเมื่อเทียบกับขนาดของห้าเมืองหลวงรวมกัน ด้วยพลังของเย่ซิวในตอนนี้ทำให้เขาสามารถบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จภายในเวลาไม่ถึงสี่ทุ่มยอดฝีมือระดับสี่ขึ้นไปในประเทศนี้ทั้งหมดถูกทำลายพลังจนไม่มีเหลือ และตำราวิทยายุทธ์ส่วนใหญ่ก็ถูกเขาเผาทำลายลงจนหมดนี่ถือเป็นแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ของวงการวรยุทธ์ในประเทศอ่ายเหรินยามค่ำคืนของประเทศอ่ายเหรินยังคงเต็มไปด้วยความคึกคักเย่ซิวรู้สึกผ่อนคลายเปี่ยมสุขเพราะเป้าหมายในการมาเยือนครั้งนี้ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งการล้างแค้นและการตอบโต้ อีกไม่นานเขาก็จะกลับได้เสียทีเขาไม่ชอบที่นี่สักเท่าไหร่หรอก“หืม?”ทันใดนั้นเย่ซิวก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังที่ไกล ๆเขาเห็นชายหญิงคู่หนึ่งลงมาจากรถ ก่อนจะเดินเข้าไปในสถานบันเทิงสุดหรูแห่งหนึ่งเพียงมองปราดเดียว เย่ซิวก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาต้องไม่ธรรมดา พลังอันรุนแรงที่แผ่ออกมาจากตัวทั้งสอง บ่งบอกว่าไม่ใช่มนุษย์ปกติทั่วไปอย่างแน่นอน“จากความสูงและรูปร่าง ดูเหมือนจะเป็นคนจากประเทศจ้านฉงตี้ แล
เย่ซิวถามอย่างจงใจว่า "เธอจะไปเติมเครื่องสำอาง แล้วฉันจะตามไปทำไม อีกอย่างจะให้ฉันเข้าไปในห้องน้ำหญิงกับเธอด้วยเหรอ?"หญิงสาวส่งสายตาเย้ายวนให้เขาพร้อมกับยิ้มเบา ๆ "ก็คนเขากลัวนี่นา เผื่อข้างในมีอะไรที่ไม่สะอาดอยู่ล่ะนายไปเป็นบอดี้การ์ดให้ฉันสิ เดี๋ยวจะมีรางวัลให้ด้วยนะ!"เย่ซิวแกล้งทำหน้าตาเคลิบเคลิ้ม "รางวัลอะไรเหรอ?""พอนายไปถึงก็จะรู้เอง"พูดจบหญิงสาวก็ลากคอเสื้อเย่ซิวพาเดินไปยังห้องน้ำหญิงระหว่างทางเจอผู้ชายหลายคน ทุกคนต่างมองมาด้วยสายตาอิจฉาเนื้อเรื่องแบบนี้พวกเขาคุ้นเคยคืนนี้สถานที่นี้ถูกจองไว้ เลยมีคนไม่เยอะ ในห้องน้ำหญิงย่อมไม่มีใครทันทีที่เข้าไป หญิงสาวที่ดูเซ็กซี่และเย้ายวนก็ดันเย่ซิวไปติดกับอ่างล้างมือมือข้างหนึ่งเชยคางของเขาขึ้น ในดวงตาประกายความเย่อหยิ่ง"น้องชาย อยากลองสัมผัสสิ่งที่วิเศษที่สุดในโลกดูรึเปล่า?"เย่ซิวมองด้วยสายตาขี้เล่น "คืออะไรเหรอ?""แน่นอนว่าต้องเป็น..."หญิงสาวค่อย ๆ ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ทีละนิด เข้าใกล้ใบหูของเย่ซิว แล้วเลื่อนต่ำลงไปเธอหยุดที่ลำคอของเขา ปากเผยอออกเล็กน้อย เผยให้เห็นเขี้ยวสีขาวสองซี่ที่ยื่นออกมาแววตาของหญิงสาวเต็
เย่ซิวหัวเราะเบา ๆ "เมื่อถึงเวลา เธอก็จะรู้เอง"ผู้หญิงคนนี้รู้สึกหัวใจคันยุบยิบ สงสัยมากว่าเย่ซิวคนนี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่?แต่เย่ซิวไม่พูด เธอก็ไม่กล้าถามตรง ๆทั้งสองคนทยอยเดินออกไปข้างนอกโชคไม่ดี พวกเขาเพิ่งออกไปก็เจอกับคนกลุ่มหนึ่งและในกลุ่มนั้นก็มีผู้หญิงอยู่สองคน เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาพวกเธอก็เป็นประกาย พวกเธอรีบปรี่เข้ามาหาอย่างรวดเร็ว"หนุ่มน้อยสุดหล่อ สนใจมาเล่นกับพวกเราไหม?""หนุ่มน้อยสุดหล่อ เธอดูดีมากเลย อีกหน่อยมาติดตามพี่สาว พี่สาวจะไม่ปฏิบัติต่อเธออย่างเลวร้ายแน่นอน”"ไสหัวไปซะ!"หญิงสาวเปิดปากและแยกเขี้ยวของเธอด้วยใบหน้าที่ดุร้ายผู้หญิงสองคนที่เข้ามาจีบตกใจเฮือก และรีบจากไปอย่างรวดเร็วจากนั้นเขี้ยวของเธอก็ถูกเก็บกลับไป เธอกลับมาแสดงท่าทางเคารพอีกครั้ง "ท่านคะ โปรดตามมาทางนี้"เย่ซิวพูดอย่างใจเย็น "ผ่อนคลายหน่อย อย่าให้ใครสงสัย""ค่ะ ท่าน""เธอชื่ออะไร""เรียนนายท่าน ดิฉันชื่อเถียนเถียนค่ะ"เถียนเถียนพาเย่ซิวไปที่ชั้นดาดฟ้า ที่นี่คนที่ควรจะมาก็มากันครบหมดแล้วเย่ซิวมองไปรอบ ๆ ก็เห็นถึงความแข็งแกร่งของทุกคนได้อย่างชัดเจนส่วนใหญ่เป็นจอมยุทธ์ระดับหก
นี่คือยันต์สายฟ้าหยิน!เป็นของที่หายากและล้ำค่าอย่างยิ่งในยุคโบราณ ซึ่งทำให้ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต่างหวาดกลัวเมื่อได้ยินชื่อของมันยันต์ชนิดนี้แตกต่างจากยันต์แบบใช้ครั้งเดียวทั่วไป เพราะสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ยิ่งไปกว่านั้น ในวันที่มีฝนตกหรืออากาศชื้น หากโยนมันออกไป มันจะสามารถดึงสายฟ้าจากฟากฟ้าลงมาและผนึกไว้ในนั้นได้ผู้บำเพ็ญตนส่วนใหญ่ล้วนกลัวสายฟ้าการถือยันต์เช่นนี้ไว้ในมือ จะทำให้คนส่วนใหญ่อยากอยู่ห่างจากมันยันต์แผ่นนี้ตัวเองจะต้องคว้ามันมาให้ได้ในงานประมูลมีบางคนสนใจมันเช่นกัน แต่การเพิ่มราคาของพวกเขาแต่ละครั้งเพิ่มขึ้นแค่หนึ่งหมื่นเหรียญจ้านอิงตี้เท่านั้นในปัจจุบัน อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินของประเทศจ้านอิงตี้กับประเทศหลงเถิงนั้นอยู่ที่หนึ่งต่อสามสิบห้าเย่ซิวเสนอราคาไปที่ห้าล้านเหรียญจ้านอิงตี้ทันทีหลายคนมองไปที่เขาเพียงชั่วครู่ ก่อนจะละสายตาออกไปของชิ้นนี้ ไม่มีใครรู้ถึงประโยชน์ที่แท้จริงของมัน ราคาที่สูงเกินไปจึงไม่มีคนอยากเข้าร่วมคาร์ธิวเรียกราคาสามครั้งติดต่อกัน แต่ไม่มีใครเสนอราคาสูงกว่านี้ เขาจึงส่งยันต์นี้ให้กับเย่ซิวจริง ๆ แล้วสิ่งนี้เขาไม่ได้หวัง
เย่ซิวทำเหมือนมองไม่เห็นมันราคานี้ถือว่าสูงมากแล้วไม่ใช่ว่าทุกคนจะรวยเหมือนเย่ซิว ราคานี้เกินความสามารถของคนส่วนใหญ่ที่จะรับไหวในที่สุดอัญมณีเม็ดนี้ก็ถูกเย่ซิวซื้อมาอีกเช่นกันเถียนเถียนมองเย่ซิวด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเธออยากจะออดอ้อนสักสองสามคำ เผื่อว่าเย่ซิวจะซื้ออะไรให้ตัวเองบ้างแต่เธอไม่กล้า เพราะกลัวว่าจะทำให้เย่ซิวโกรธ นั่นจะเป็นปัญหาใหญ่อย่างแน่นอนจากนั้นคนที่สี่ก็ขึ้นมาเป็นชายคนหนึ่งที่มีขนคล้ายเข็มเหล็กทั่วทั้งร่างในมือเขาถือจี้หยกชิ้นหนึ่งเอาไว้ ทว่าบนจี้หยกนั้นมีรอยร้าวอยู่หลายจุด“สิ่งนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่มันมีคุณสมบัติช่วยให้สงบจิตใจเมื่อสวมใส่ในขณะการบำเพ็ญตน จะไม่ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดใด ๆ ขึ้นถ้าตอนนี้ผมไม่ขัดสนเรื่องเงินละก็ ก็คงไม่ขายมันออกไป ราคาประมูลเริ่มต้นคือห้าร้อยล้านเหรียญจ้านอิงตี้”หลายคนเผยสีหน้าสนใจเป็นที่รู้กันว่ายิ่งพลังแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ในระหว่างการบำเพ็ญตนจะยิ่งเกิดอารมณ์ด้านลบได้ง่ายขึ้นเท่านั้นมีจี้หยกชิ้นนี้อยู่ในมือ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหานั้นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบดังนั้นไม่นานก็มีคนเริ่มเสนอราคาที
วิชาแยกร่างเบญจธาตุ!ตัวอักษรโบราณหลายพันตัวหลอมรวมเข้าสู่จิตใจของเย่ซิวและรวมกันเป็นคำเหล่านี้เมื่อจิตสำนึกของเย่ซิวเพ่งไปที่คำเหล่านี้ ฉับพลันนั้นเขาก็เข้าใจในเนื้อหาทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในนั้นได้อย่างถ่องแท้นี่เป็นวิชาลับที่ทรงพลังอย่างยิ่ง สามารถสร้างร่างแยกเบญจธาตุขึ้นมาได้แน่นอน เฉพาะกับคนอย่างเย่ซิวที่ถือครองจินตานเบญธาตุหรือเกิดมาพร้อมกายาเบญจธาตุเท่านั้นจึงจะฝึกฝนวิชานี้ได้เย่ซิวดีใจจนแทบควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ นี่ช่างเป็นโชคครั้งมหาศาลจริง ๆตามที่วิชาลับนี้อธิบายไว้ ร่างแยกเบญจธาตุนั้นแตกต่างจากวิชาแยกร่างทั่วไปโดยสิ้นเชิงวิชาแยกร่างทั่วไปนั้น ส่วนใหญ่ร่างแยกที่สร้างขึ้นมาจะมีพลังเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของร่างต้น หรือไม่ก็มีระยะเวลาคงอยู่ที่สั้นมากแต่ร่างแยกจากวิชาแยกร่างเบญจธาตุ ไม่เพียงแต่สามารถคงอยู่อย่างถาวร ยังสามารถบำเพ็ญตนด้วยตัวเองและพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่องร่างแยกแต่ละร่างจะมีพลังถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ของร่างต้นอย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะทรงพลังมาก แต่การสร้างร่างแยกนั้นจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบที่มีคุณสมบัติของธาตุทั้งห้า ซึ่งเย่ซิวยังไม่มีสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นเ
คำพูดของเธอฟังดูมีเหตุมีผล ไม่มีช่องโหว่แม้แต่น้อยถ้าเย่ซิวไม่ได้รับข่าวล่วงหน้ามาก่อน ก็คงอาจจะหลงเชื่อไปแล้วจริง ๆ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาเล่นเกมจิตวิทยากับผู้หญิงคนนี้ จึงถามออกไปตรง ๆ “ประเทศวูของพวกเธอทำไมถึงต้องการเล่นงานฉัน ถึงขั้นให้นายพลในประเทศอวี้เจียวส่งขีปนาวุธมาโจมตี”ทันทีที่พูดจบ แววตาของน่าอีก็สั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้แม้ว่าเธอจะยังเด็ก แต่จิตใจของเธอแข็งแกร่งพอสมควรใช้เวลาแค่ครึ่งวินาทีเท่านั้น เธอก็เก็บอารมณ์ทั้งหมดจนสงบ จากนั้นก็ทำสีหน้าสับสนเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย “นายพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ”“ไม่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้หรอก นายพลคนนั้นเป็นพวกเดียวกับพวกเธอฉันจะบอกเธอให้รู้เอาไว้ ฉันก็มีสายลับของตัวเองในประเทศวูเหมือนกันฉันมาดักรอเธอที่นี่โดยเฉพาะ ถ้าเธอยอมให้ความร่วมมือดี ๆ ซะตั้งแต่ตอนนี้ บางทีอาจจะยังมีชีวิตรอดได้”คราวนี้น่าอีช็อกหนักกว่าเดิมเธอไม่เข้าใจเลยว่าเย่ซิวรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง?จนเธอเผลอหลุดปากถามออกไปโดยไม่รู้ตัว “อย่าบอกนะว่านายใช้ศาสตร์พยากรณ์ได้?”“ศาสตร์พยากรณ์อะไร?”สีหน้าของน่าอีเปลี่ยนไปทันที เมื่อรู้ตัวว่าพลาดแล้วเธ
สิ่งที่เย่ซิวหมายถึงก็คือสำนักเยียนอวี่อาจารย์ของเขาทิ้งมรดกให้เป็นหน่วยข่าวกรองที่แผ่ขยายไปกว่าร้อยประเทศทั่วโลกกระทั่งตอนนี้ เย่ซิวก็ยังไม่เคยใช้งานมันเลยพอดีกับที่ในประเทศอวี้เจียวก็มีคนของสำนักเยียนอวี่อยู่เย่ซิวจึงติดต่อไปยังหัวหน้าฝ่ายที่นั่นโดยตรงหลังจากออกคำสั่งเสร็จ เขาก็กลับมาบำเพ็ญต่อทันทีสิ่งที่เขาให้ความสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการทะลวงขีดจำกัดให้ได้โดยเร็วเวลาไหลผ่านไปห้าวันในที่สุด ข่าวจากทางนั้นก็มาถึง ทุกอย่างถูกตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้วนายพลของประเทศอวี้เจียวที่ออกคำสั่งโจมตีขีปนาวุธมีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับประเทศวูศักยภาพของสำนักเยียนอวี่นับว่าโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง ในระหว่างที่รายงานข่าวให้เย่ซิว พวกเขายังแนบข้อมูลของประเทศวูมาให้ด้วยแววตาของเย่ซิวทอประกายประชากรของประเทศนี้เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์อย่างมากในยุคบรรพกาล เวทมนตร์เคยเป็นศาสตร์แห่งการบำเพ็ญที่รุ่งเรืองที่สุดสง่างามยิ่งใหญ่แต่มันกลับเสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ ในภายหลังด้วยเหตุผลบางอย่างจนสืบทอดมาถึงปัจจุบัน มันกลับกลายเป็นศาสตร์ที่มุ่งเน้นไปที่คำสาปเป็นหลักนั่นเท่ากับว่าพวกเขากำลัง
ท่าทีเย็นชาของเธอตัดกับใบหน้าที่งดงามอย่างสิ้นเชิง แต่กลับยิ่งกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างในใจของผู้คน“เย่ซิวแข็งแกร่งเกินไป ความระมัดระวังของเขาก็สูงมาก ถ้าฉันเข้าไปใกล้อาจทำให้เขาสงสัยได้”ชายชรายิ้มเย็น “เราเฝ้าสังเกตเย่ซิวมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว”ผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเขาหลายคนตอนแรกเป็นศัตรูกับเขา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมสยบให้ดังนั้นเวลาที่เธอเข้าไปใกล้เขา จงแสดงตัวเป็นศัตรูไปเลยบอกเขาว่าเธอมาเพื่อท้าทายเขา เขาจะไม่ฆ่าเธอแน่ แต่นั่นกลับจะยิ่งกระตุ้นความต้องการเอาชนะของเขาหลังจากอยู่กับเขาสักระยะ เธอก็แสร้งทำเป็นหลงใหลและยอมศิโรราบต่อเขา จากนั้นก็ลงมือได้ตราบใดที่เธอทำภารกิจนี้สำเร็จ ตำแหน่งนักบุญหญิงแห่งประเทศวูคนต่อไปก็จะเป็นของเธอ”ดวงตาของน่าอีส่องประกายวาวโรจน์นักบุญหญิงแห่งประเทศวูเป็นตำแหน่งที่ทรงอำนาจที่สุดรองจากราชาแห่งประเทศวูเธอจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรล้ำค่าและความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศวูได้เป็นตำแหน่งที่หญิงสาวทุกคนในประเทศวูใฝ่ฝันถึงนี่คือข้อเสนอที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ จากนั้นเธอก็พยักหน้า “ตกลง ฉันจะรับภารกิจนี้ แล้วฉันต้องออกเดินทางเมื่อไหร่”“แน่นอนว่า
บนท้องฟ้าสูงเสียดเมฆ มีเครื่องบินทั้งห้าลำกำลังแล่นแหวกผ่านเมฆโดยรอบถูกแรงสั่นสะเทือนจนกระจายตัวออกไปแต่ทันทีที่เครื่องบินออกจากพรมแดนของประเทศหลงเถิงได้ไม่นานกลับมีขีปนาวุธสิบกว่าลูกพุ่งเข้ามาจากด้านหน้าโชคดีที่เย่ซิวมีสัมผัสที่เฉียบคม เขารับรู้ถึงอันตรายได้ทันทีร่างของเขาหายวับไปปรากฏตัวอยู่หน้าสุดของเครื่องบินลำแรกในเวลานี้ ขีปนาวุธอยู่ห่างจากที่นี่เพียงไม่กี่สิบลี้เท่านั้นหากทำลายพวกมันทันที คลื่นพลังที่เกิดขึ้นอาจทำให้เครื่องบินทั้งห้าลำได้รับความเสียหายเย่ซิวจึงไม่มีทางเลือกและใช้โลหิตของตัวเองเป็นสื่อกลางเมื่อแลกกับต้นทุนบางส่วน เขาก็วาดยันต์ป้องกันได้กว่าร้อยแผ่นภายในห้าวินาทีจากนั้นก็ติดไว้บนเครื่องบินแต่ละลำทันทีที่ยันต์ถูกติดตั้งครบ เย่ซิวก็กางโล่พลังขนาดมหึมาที่โปร่งใสขึ้นมาและในวินาทีเดียวกัน ขีปนาวุธสิบกว่าลูกก็พุ่งเข้าปะทะจนเกิดระเบิดลูกใหญ่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินนักบินและลูกเรือบนเครื่องบินทั้งห้าต่างตกตะลึงสุดขีดเบื้องหน้ากลายเป็นความมืดสนิท ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลยในขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในความตื่นตระหนก เสียงของเย่ซิวก็ดังขึ้นในหูพวกเขา
“เงินหนึ่งล้านล้านจะถูกโอนเข้าบัญชีบริษัทภายในสองวัน ”“บอสเป็นผู้ชายที่ใจกว้างและหล่อที่สุดในโลกเลย!”ถังเขอเข่อดีใจจนเต้นไปมา“พอได้แล้ว พาฉันไปดูหน่อย”“ได้เลยค่ะบอส เชิญทางนี้ค่ะ”เย่ซิวเดินไปยังพื้นที่ที่ใช้เก็บเครื่องยนต์ขนาดยักษ์เมื่อเห็นมันอีกครั้ง เย่ซิวก็สังเกตว่าตัวเครื่องยนต์มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อย และสายไฟที่เคยเกะกะภายนอกก็ลดลงมากถังเขอเข่ออธิบาย “ฉันปรับแต่งเครื่องยนต์นิดหน่อย ทำให้มันใช้พลังงานน้อยลงแต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น”เย่ซิวพยักหน้าด้วยความรู้สึกพอใจที่เงินที่ลงไปก่อนหน้านี้ไม่ได้เสียเปล่านอกจากเรื่องเครื่องยนต์แล้ว เย่ซิวยังให้ถังเขอเข่อเดินหน้าวิจัยจักรกลมังกรดำรุ่นที่สองต่อไปอีกด้วยถังเขอเข่อยื่นห้านิ้วออกมา “อันนี้ก็ต้องใช้เงิน ห้าแสนล้านถึงจะพอ”เย่ซิวตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเลหลังจากอยู่ที่นั่นสักพัก เย่ซิวก็ออกมาเวลาผ่านไปสองวันอย่างรวดเร็วลู่เสวี่ยเอ๋อร์โทรมาหาเขา บอกว่าทุกคนเตรียมพร้อมแล้วและกำลังรออยู่ที่สนามบินเย่ซิวเก็บเตากลั่นยา จากนั้นก็ใช้วิชาล่องหนพุ่งตรงไปยังสนามบินทันทีที่สนามบินคลาคล่ำไปด้วยผู้คนแค่เฉพาะพนักงานจากบริษั
หลิ่วเมิ่งอิ๋นตกใจจนลืมตาขึ้นทันทีดวงตาใสกระจ่างของเธอแฝงไปด้วยความน่าสงสารไม่ว่าใครเห็นก็ต้องเกิดความรู้สึกอยากปกป้องขึ้นมาในใจอันที่จริงตอนที่เย่ซิวเปิดประตูเข้ามา เธอก็ตื่นแล้ว เพียงแต่แกล้งหลับอยู่เท่านั้นแต่พอโดนเย่ซิวขู่เล่นนิดเดียวก็สะดุ้งลืมตาขึ้นมาทันที“น่ารำคาญที่สุดเลย เอาแต่จะแกล้งฉันอยู่ได้”เย่ซิวนั่งลงที่ข้างเตียงก่อนจะใช้มือแตะหน้าผากเธอเบา ๆ อย่างเอ็นดู “ไม่เลวเลย ตอนนี้เธอเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าขั้นสมบูรณ์แล้ว ดูท่าช่วงนี้เธอจะไม่ได้ลืมบำเพ็ญตนนะ”หลิ่วเมิ่งอิ๋นมีท่าทีเขินอายเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าฉันขยันบำเพ็ญตนหรอกนะ เป็นเพราะโอสถของพี่ต่างหากที่มันสุดยอดเกินไป”หากไม่มีทรัพยากรที่เย่ซิวให้ เธอคงไม่มีทางพัฒนาได้รวดเร็วแบบนี้แน่เย่ซิวถาม “เธอเตรียมตัวพร้อมแล้วหรือยัง?”หลิ่วเมิ่งอิ๋น “หือ? เอ๊ะ!”เวลาเหลือน้อยแล้ว และสิ่งที่ต้องทำก็ยังมีอีกมาก เย่ซิวต้องทำให้พวกเธอทั้งหมดบรรลุระดับสร้างรากฐานปราณให้ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่อ้อมค้อมอีกต่อไปเขาจึงเริ่มเร่งพลังขั้นสูงสุดทันทีจนกระทั่งประมาณสิบโมงเช้า ผู้หญิงในห้องทุกคนยกเว้นหลิวอวิ้นก็บรรลุระดับสร้างรากฐานปราณ
เขาแค่แกล้งเธอเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พอแล้ว ถ้าเย้าแหย่ไปมากกว่านี้ ผู้หญิงคนนี้คงจะอับอายจนไม่กล้าเงยหน้ามองใครอีกแน่เย่ซิวเปลี่ยนเรื่องพูด “ในเมื่อคุณบรรลุระดับสร้างรากฐานปราณแล้ว งั้นคืนนี้มาบำเพ็ญกับผมดีไหม?”เสวี่ยเหมยพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วแต่แฝงไว้ด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิด “เอาสิ”ตอนนี้เย่ซิวไม่ใช่ผู้ชายที่ผู้หญิงคนไหนก็สามารถอยู่ข้างกายได้นี่ไม่ได้พูดเกินจริงเลย หากไม่มีสายสัมพันธ์ที่สั่งสมไว้ก่อนหน้านี้เสวี่ยเหมยในตอนนี้อาจไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้าใกล้เย่ซิวด้วยซ้ำเย่ซิวออกจากห้องไปก่อนเพื่อพาผู้หญิงคนอื่นกลับไปยังห้องของตัวเอง จากนั้นจึงกลับมาอีกครั้งเห็นเสวี่ยเหมยที่โผล่พ้นผ้าห่มมาแค่ศีรษะ เย่ซิวก็ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเริ่มใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนหลังจากบรรลุระดับจินตานขั้นสมบูรณ์แล้วการจะก้าวไปอีกขั้นต้องใช้พลังวิญญาณเป็นสิบเท่าของปริมาณที่ใช้ตั้งแต่ระดับจินตานขั้นต้นจนถึงจินตานขั้นสมบูรณ์ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่น่าตกตะลึงมากแค่ก้าวนี้ก็บอกได้แล้วว่ามีคนมากมายแค่ไหนที่ไม่มีวันได้ก้าวข้ามไปถึงขั้นนั้นได้ตลอดชีวิตนี่เป็นครั้งแรกที่เสวี่ยเหมยฝึกฝนร่วมกับเย่ซิวและ
เย่ซิวหันไปมองที่ประตูหน้าวิลล่าในทันทีเขาสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังมาที่หน้าประตูเสวี่ยเหมยนั่นเองเธอไม่ได้เดินเข้ามาตรง ๆ แต่ใช้วิธีบางอย่างลอบเข้ามาแทนแต่สิ่งที่ทำให้เย่ซิวรู้สึกแปลกใจก็คือตอนนี้เสวี่ยเหมยบรรลุถึงระดับสร้างรากฐานปราณแล้วจึงสามารถหลบเลี่ยงการรับรู้ของคนที่อยู่ด้านนอกได้เย่ซิวขยับความคิดเล็กน้อยจากนั้นก็ใช้วิชาล่องหน ทำให้ทุกคนที่โต๊ะอาหารหายไปจากสายตาแล้วเดินขึ้นไปชั้นบนเขาอยากรู้จริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้คิดจะทำอะไรก่อนจะเห็นเสวี่ยเหมยกลั้นหายใจ รองเท้าของเธอพันด้วยผ้าเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดเสียงแม้แต่นิดเดียวเธอแอบมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวังวันนี้เธอสวมชุดรัดรูปสีดำทั้วตัวเผยให้เห็นรูปร่างอันสวยงามและอวบอิ่มได้รูปของเธออย่างชัดเจนแค่รูปร่างแบบนี้ก็เพียงพอให้สุภาพบุรุษทั้งหลายกลายเป็นสัตว์ร้ายได้แล้วจากนั้นเธอก็เดินไปยังห้องของเย่ซิวอย่างคล่องแคล่วจากนั้นก็รีบเข้าไปข้างในทันทีเย่ซิวขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าเธอต้องการจะทำอะไรกันแน่จึงเดินตามเข้าไปเมื่อเข้ามาในห้องแล้ว เสวี่ยเหมยก็ดูผ่อนคลายลงหลังจากแน่ใจว่าในห้องไม่มีใคร เธอก็กระโดดพุ่งขึ้นไปบน
“ทั้งหมดนี้คือ ‘อาณาจักร’ ที่ฉันสร้างขึ้นมายังไงล่ะ”หลังจากเงียบไปพักใหญ่ ทุกคนก็สงบสติอารมณ์ลงเย่ซิวมองไปที่เซี่ยชิงชิงที่กำลังย่องเบาหมายจะหนีไป “จะไปไหน อย่าลืมเห่าหนึ่งร้อยทีล่ะ”เซี่ยชิงชิงตัวแข็งทื่อก่อนจะฝืนหมุนตัวกลับมาด้วยใบหน้าฝืนยิ้มแต่กลับดูแย่ยิ่งกว่าร้องไห้เสียอีก“พี่เขย ปล่อยฉันไปเถอะ เมื่อกี้ฉันแค่พูดเล่นเท่านั้นเอง”“ไม่ได้ หนึ่งร้อยที ต้องครบ ถึงฉันจะยอมแต่คนอื่นก็ไม่ยอมอยู่ดีแหละน่า”“ถูกต้อง เธอต้องเห่านะ ยอมรับผลเดิมพันซะ” คนแรกที่พูดออกมาคือเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยชิงชิงมองเธออย่างขุ่นเคือง “พี่เป็นพี่สาวหนูจริงเหรอ? ไม่เห็นจะช่วยกันเลย”เซี่ยซิ่วซิ่วกะพริบตาปริบ ๆ “น้องรัก พี่ไม่ได้มีเจตนาอื่นหรอกนะ แค่อยากฟังเธอทำเสียงหมาเห่าเท่านั้นเอง”จากนั้นคนอื่น ๆ ก็พากันหัวเราะครืนพวกเธอไม่ยอมให้เธอหลบเลี่ยงไปได้แน่ เพราะถ้าเธอถ้าไม่ทำก็คงจะไม่ให้เธอมาร่วมสนุกกับพวกเธออีกเซี่ยชิงชิงไม่มีทางเลือก จึงต้องกลั้นน้ำตาแล้วเอ่ยออกมา “โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง…”ทุกคนหัวเราะจนท้องแข็ง นี่คงเป็นตราบาปที่ติดตัวเธอไปตลอดชีวิตแน่หลังจากเซี่ยชิงชิงเห่าครบหนึ่งร้อยครั้งแล้ว เย่ซิวก็