ในห้องควบคุม เจ้าหน้าที่สิบกว่าคนลุกขึ้นยืนพร้อมกันด้วยความตื่นตระหนก “เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเขาถึงล้มลงกันหมด?”“รีบกดสัญญาณเตือน…เอ๊ะ…”ยังไม่ทันพูดจบ กระบี่เล่มหนึ่งก็พุ่งทะลุผนังหนาเข้ามาหมุนวนในห้องควบคุมรอบหนึ่ง ก่อนจะบินออกไปร่างของทุกคนในห้องล้มลงอย่างอ่อนแรงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สองถูกเย่ซิวจัดการจนหมดสิ้น จากนั้นเขาจึงเก็บกระบี่หงส์โบยบินก่อนจะยกเท้าถีบประตูใหญ่จนเปิดออกแล้วเดินเข้าไปภายในงาน ฉีฉูฉู่ที่กำลังเป็นจุดสนใจของทุกคน กำลังประกาศเจตนารมณ์ของเธอโดยไม่ปิดบัง “ปู่ก็แก่แล้วนะ เรื่องของตระกูลให้หนูเป็นคนจัดการเถอะ!”หัวใจของฉีตังกั๋วกระตุกวูบ คำว่า “ยึดอำนาจ”ลอยขึ้นมาในหัวทันที!แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสะท้าน แต่เขาก็เป็นคนผ่านโลกมามากพอที่จะไม่แสดงอารมณ์ออกมา ก่อนจะยิ้มพลางเอ่ย “หลานปู่มีความสามารถมากขนาดนี้ เรื่องของตระกูลในอนาคตย่อมให้หนูเป็นคนจัดการอยู่แล้ว แต่…”“ไม่มีแต่!” ฉีฉูฉู่เอ่ยขัดอย่างแข็งกร้าว “หนูจะเป็นผู้นำตระกูลคนใหม่ตั้งแต่ตอนนี้เลย!”ในใจของฉีตังกั๋วโกรธจัด นี่มันเป็นการบีบบังคับต่อหน้าสาธารณชนชัด ๆแต่ไม่นาน ความโกร
“แกคุกเข่าขอร้องเสียตอนนี้อาจจะยังทันอยู่นะ!”“อยากเห็นตอนที่มันคุกเข่าขอชีวิตต่อหน้าพวกเราจัง” ……“นี่คือคนที่เราต้องไปลอบฆ่าเหรอเนี่ย? หล่อดีเหมือนกันนะ”นี่คือความประทับใจแรกที่สองพี่น้องปรมาจารย์มีต่อเย่ซิวเมื่อเห็นเขาครั้งแรกพอไม่ต้องไปลอบฆ่าเขาแล้ว ดังนั้นท่าทางและทัศนคติของพวกเธอก็เปลี่ยนไปส่วนฉีฉูฉู่เมื่อเห็นเย่ซิวแล้ว ความแค้นในตัวเธอก็พุ่งออกมาทันที เธอมองเขาด้วยสายตาอาฆาต “แกกล้ามาที่นี่จริง ๆ งั้นเหรอ ฉันยอมรับในความกล้าของนายนะ แต่คืนนี้คือวันตายของนาย!”เย่ซิวยืนเอามือไขว้หลังพลางมองไปที่ฉีฉูฉู่ด้วยสายตาราวกับกำลังมองคนโง่ “แค่เอายีนของสัตว์เดรัจฉานผสมเข้าไปก็คิดว่าตัวเองไร้เทียมทานแล้วเหรอ? เธอนี่มันโง่เง่าจริง ๆ หน้าอกใหญ่แต่สมองเล็กเสียอย่างนั้น”“นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?!” ฉีฉูฉู่ตกใจไม่น้อย เพราะความลับนี้น่าจะมีคนรู้แค่ไม่กี่คนเท่านั้นเย่ซิวยิ้มบาง ๆ พลางเอ่ย “ขอร้องฉันสิ เดี๋ยวฉันบอก”แน่นอนว่าฉีฉูฉู่ไม่ยอมขอร้อง แต่กลับหันไปมองสองพี่น้องแทน “พวกเธอสองคนไปจัดการเขาซะ!”แม้ว่าฉีฉูฉู่จะมั่นใจในพลังของตัวเอง แต่เงามืดที่เย่ซิวเคยสร้างไว้ให้เธอนั้นมันลึก
เนื่องจากทั้งสองสาวฝาแฝดฝึกฝนวิชามานานหลายสิบปี ร่างกายของพวกเธอจึงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แบบทุกส่วนของร่างกายล้วนมีความสมบูรณ์แบบ ไม่มีข้อบกพร่องแม้แต่น้อยพวกเธอเหมือนกับงานศิลปะที่ไร้ที่ติหากบรรดาเศรษฐีมาเห็นเข้าคงไม่ลังเลที่จะจ่ายเงินหนึ่งพันล้านหรืออาจถึงห้าหกพันล้านเพื่อแลกกับการมีความสัมพันธ์กับหนึ่งในพวกเธอสักคืนใครจะไปเชื่อว่านี่คือผู้หญิงวัยห้าสิบกว่าปี?แม้แต่สาววัยสิบเจ็ดสิบแปดบางคนยังดูไม่กระปรี้กระเปร่าเท่าพวกเธอเลยด้วยซ้ำเย่ซิวมองเห็นสภาพภายในร่างกายของทั้งสองสาวชัดเจนพลังและร่างกายของทั้งสองคนถึงจุดสูงสุดที่พวกเธอสามารถไปถึงได้แล้วหากมีเย่ซิวเข้ามาช่วยยกระดับหรือให้หินวิญญาณสักก้อน พวกเธอคงสามารถทะลวงขีดจำกัดได้ภายในหนึ่งถึงสองปีแต่แน่นอนว่าเย่ซิวคงไม่ยอมให้ไปฟรี ๆสองสาวฝาแฝดเมื่อถูกสายตาของเย่ซิวจับจ้องอยู่อย่างนั้นก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัวและรู้สึกอึดอัดแววตาของเขาเต็มไปด้วยความก้าวร้าว ราวกับจะสามารถมองทะลุเสื้อผ้าของพวกเธอไปได้ ราวกับความลับของร่างกายถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมดเพียงแค่ดีดเบา ๆ สองสาวก็ถูกผลักถอยออกไปไกลหลายสิบเมตร เลือดลมในร่างกายหมุนเวีย
แผ่นเกล็ดทองแดงค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากใต้ผิวของเธอขาทั้งสองข้างหายไป กลับกลายเป็นหางงูที่ยาวใหญ่แทนพลังที่รุนแรงและน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกจากร่างกายของเธอทันทีพื้นด้านล่างไม่สามารถทนรับแรงนี้ได้ มันแตกร้าวเป็นเสี่ยง ๆ รอยแตกมากมายกระจายออกไปทุกทิศทุกทางฉีฉูฉู่ยืนอยู่ในท่าทางสง่างาม ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อครู่ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วทำให้เธอกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง สายตาของเธอมองไปที่เย่ซิวด้วยความเย็นชา“เมื่อกี้เป็นแค่การอุ่นเครื่อง ตอนนี้จะเป็นการต่อสู้จริง ๆ แล้ว มาดูกันว่าฉันจะบดขยี้แกยังไง!”ผู้คนในลานต่างรีบถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว ท่าทางของฉีฉูฉู่ในตอนนี้ทำให้พวกเขารู้สึกสะพรึงกลัวจนเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าเธอยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?“พลังช่างน่าสะพรึงกลัวจริง ๆ ฉันไม่อยากคิดภาพตอนที่ต้องสู้กัยเธอเลย!” หนานกงเสวี่ยเอ่ยขณะที่ดวงตาของเธอสะท้อนภาพของฉีฉูฉู่อย่างชัดเจน ใจของเธอปั่นป่วนไปหมดหนานกงอวี่เองก็รู้สึกไม่ดีนัก เธอเอ่ยพลางกลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก “เด็กหนุ่มคนนั้นคงตกอยู่ในอันตรายแล้วล่ะ ฉันไม่คิดว่าเขาจะสู้กับเธอได้”พลังที่ฉีฉูฉู่ปลดปล่อยออกมาในตอนนี้เพ
เย่ซิวเหลือบมองเวลาที่ผนังซึ่งบ่งบอกว่าเป็นเวลาสองทุ่มสิบห้านาที ก่อนจะเอ่ยนิ่ง ๆ “ความแค้นระหว่างเราทั้งสองฝ่ายคงได้เวลาเคลียร์จบสักที”ใบหน้าของฉีฉูฉู่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า “ไอ้คนไม่รู้จักบุญคุณ ไปตายซะ!”ตูม!พลังของฉีฉูฉู่ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง พื้นดินใต้เท้าของเธอเกิดหลุมขนาดใหญ่ ความเร็วของเธอรวดเร็วดั่งรถไฟความเร็วสูงและพุ่งตรงไปเบื้องหน้าเพื่อทำลายทุกสิ่งที่ขวางทางเย่ซิวเพียงส่ายหัวเล็กน้อยและยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยท่าทีสงบนิ่งไร้กังวลแม้จะต้องเผชิญหน้ากับฉีฉูฉู่ที่ดูแข็งแกร่งเกินต้านทาน เขาก็ทำเพียงแค่ยกมือขวาขึ้นและกดลงเบา ๆ หนึ่งครั้งเท่านั้นตูม!พื้นดินแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ฉีฉูฉู่ถูกกดลงกับพื้นในทันที ทำให้คนในลานต้องตกตะลึงอีกครั้ง“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็นไปได้!” ฉีฉูฉู่กรีดร้องเสียงแหลมอย่างเจ็บปวด พยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้นมาทว่าฝ่าเท้าของเย่ซิวกลับเหยียบอยู่บนแผ่นหลังของเธอราวกับภูเขาลูกใหญ่ที่กดทับลงมา ต่อให้เธอพยายามขนาดไหนก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความโกลาหล คนที่ตั้งสติได้เริ่มวิ่งหนีออกไปจากลานทันทีเย่ชิวใช้มือซ้ายกำรอยประทับแล้วร่ายอา
สำหรับตระกูลที่สืบทอดมาหลายร้อยปีและอิทธิพลแผ่ขยายไปทั่วโลกในหลายประเทศ ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลกอะไรเย่ซิวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ได้ แต่พวกแกต้องโอนหุ้นทั้งหมดของบริษัทที่ลงทุนในต่างประเทศรวมถึงทรัพย์สินส่วนตัวทุกอย่าง มาเป็นชื่อของฉัน”“เอ่อ…”ชายชราทั้งหกคนรู้สึกเจ็บใจอย่างมากเมื่อได้ยินข้อเรียกร้องนี้ พวกเขาอ้าปากเหมือนจะเจรจาต่อรอง แต่กลับถูกเย่ซิวตัดบทอย่างไร้ปรานี“ฉันให้เวลาแค่หนึ่งวัน หากหลังจากนี้ทรัพย์สินในต่างประเทศของพวกแกยังเหลืออยู่แม้แต่เศษเสี้ยว ก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา”น้ำเสียงของเย่ซิวไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเจรจาเลยแม้แต่น้อย มันคือคำสั่งที่เด็ดขาดชายชราทั้งหกคนทำได้เพียงยอมรับความจริงอย่างหมดหวังและสิ้นท่าในเวลาเดียวกัน เวินหว่าน หวังซวง รวมถึงเฉินหลานที่ซุ่มอยู่ด้านนอก เมื่อเห็นว่ามีคนพยายามหลบหนีออกมา พวกเธอก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงและพุ่งเข้าโจมตีทันทีคนที่หลบหนีออกมาต่างตกอยู่ในความสิ้นหวัง คาดไม่ถึงว่าแม้ด้านนอกจะยังมีคนดักรอพวกเขาอยู่อย่างไรก็ตาม คนของหกตระกูลใหญ่นั้นมีจำนวนมากเกินไป อย่างน้อยก็หลายพันคน การจะจัดการพวกเข
เวลาสามทุ่ม เวินหว่านเอ๋อร์ หวังซวง และเฉินหลานไม่กี่คนก็เข้าไปในวิลล่า โน้มตัวเข้าไปหาเย่ซิว“นายท่าน ทุกคนที่อยู่ข้างนอกถูกจัดการหมดแล้วค่ะ”เย่ซิวพยักหน้าและชี้ไปที่ทั้งหกคน "หว่านเอ๋อร์ คุณรับหน้าที่เค้นคำชายชราทั้งหกคนนี้ จะต้องให้พวกเขาโอนการลงทุนทั้งหมดในต่างประเทศมาเป็นชื่อของผมให้ได้"ตอนนี้เขาต้องการเงินมาก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานในบรรดาวัตถุดิบล้ำค่าที่ต้องใช้ทั้งหมดห้าชนิด ตอนนี้เพิ่งหาเจอเพียงชนิดเดียวเท่านั้นอีกสี่ชนิดที่เหลือไม่มีข่าวคราวเลยเย่ซิวจำเป็นต้องเปิดช่องทางมากขึ้นเพื่อประกาศตามหาวัสดุเหล่านี้ทั่วโลกเช่นนี้ จึงต้องใช้เครือข่ายของหกตระกูลใหญ่ในต่างประเทศ ซึ่งจะสามารถประหยัดเวลาไปได้มากเวินหว่านเอ๋อร์ตอบรับมาหนึ่งที แล้วพาชายชราทั้งหกคนไปเค้นคำอีกด้านงานเก็บกวาดในวิลล่าตกเป็นหน้าที่ของสองสาวเย่ซิวเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าฉีฉูฉู่ตอนนี้เธอก็ยังไม่กล้าขยับ ความรู้สึกกดดันที่งูขาวน้อยนำมาให้นั้นช่างน่าสะพรึงกลัวเสียจนจิตใจเธอใกล้จะพังทลายแล้วเสี่ยวไป๋โฉบขึ้นไปที่ไหล่ของเย่ซิว ส่งเสียงร้องออดอ้อน ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความผูกพัน
เย่ซิวดีดนิ้ว ก็ดีดมือของฉีฉูฉู่ออกไปจากนั้นปลดปล่อยแรงกดดันอันทรงพลังออกมา ทำให้เธอไม่สามารถขยับเขยื้อน“ไอ้ปีศาจ ฆ่าฉันเถอะ ฉันไม่มีวันยอมศิโรราบต่อนายหรอก!”“นี่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณ”พูดพลาง เย่ซิวก็วางมือลงบนหน้าท้องของเธอ ร่างบางของฉีฉูฉู่สั่นสะท้าน รู้สึกว่าพลังงานในร่างกายของตัวเองกำลังขับเคลื่อนอย่างไม่อาจควบคุมได้“นายคิดจะทำอะไรกันแน่?!” ฉีฉูฉู่รู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ จึงอดไม่ได้กรีดร้องออกมาเย่ซิวไม่สนใจเธอเกี่ยวกับที่ว่าจะควบคุมฉีฉูฉู่อย่างไร เขาวางแผนไว้นานแล้ว ในบรรดาวิชายุทธที่เขาครอบครองอยู่ มีวิชาหนึ่งที่พิเศษอย่างมากเรียกว่า "วิชามาตาบุตร" ซึ่งแบ่งออกเป็นระดับบนและระดับล่างวิชายุทธนี้ใช้เพื่อควบคุมคนโดยเฉพาะหลังจากที่บุคคลเป้าหมายฝึก 'วิชาบุตร' แล้ว ก็จะถูกคนที่ฝึก 'วิชามาตา' ควบคุมโดยสมบูรณ์แถมยังไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ให้ฉีฉูฉู่ยอมฝึกวิชานี้ด้วยตัวอย่างเต็มใจ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเย่ซิวจึงช่วยเธอฝึกมันให้สำเร็จภายใต้การชักนำของเย่ซิว ฉีฉูฉู่ก็ขับเคลื่อนวิชายุทธนี้ในร่างกายเป็นจำนวนเก้ารอบ ซึ่งก็เทียบเท
หญิงสาวเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที “นายคิดจะไปทำธุระส่วนตัวงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน นายต้องพาฉันไปด้วยสิ!”“ผมจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย คุณก็ค่อย ๆ รักษาแผลตัวเองไปแล้วกันนะ ลาก่อน”พูดจบ เย่ซิวก็พังหน้าต่างออกไปพรีเอลล์วิ่งตามไปที่หน้าต่างแต่ก็มองไม่เห็นเงาของเย่ซิวแล้วสีหน้าของเธอขรึมลง จิตสังหารในตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายสิบองศา “คอยดูเถอะไอ้สารเลว ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งฉันจะทำให้แกคายทุกสิ่งที่เคยกินไปออกมา!”เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงบ้านของอลิส เธอก็ตื่นแล้วหลังจากที่อลิสตื่นขึ้นมาและพบว่าเย่ซิวหายไป เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรู้สึกจิตตกทันทีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…ตึง! ตนเองก็รู้สึกแปลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเย่ซิวแท้ ๆแต่เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมา เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที “นายไปไหนมา? ฉันนึกว่านายจะไปโดยไม่บอกลากันซะแล้ว”เย่ซิวยิ้มและกล่าวว่า “ผมไปทานข้าวมาน่ะ”อลิสไม่สงสัยแม้แต่น้อยพลางทำท่าทางกระอักระอ่วน “เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดีเอง นายมีเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหม หรือพวกเราควรไปซื้อตอนนี้เลยดี?”เย่ซ
พรีเอลล์เบิกตากว้าง “ฉันลืมอะไรไปเหรอ? อ้อ หรือว่านายอยากให้ฉันนอนกับนายอีกครั้ง? อย่างนั้นก็ได้ มาสิ”พูดจบเธอก็แสดงท่าทียินยอมพร้อมใจเย่ซิวยิ้มหยัน “ยังจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าผมอีกเหรอ? เอาสร้อยคอที่คุณเก็บไว้ออกมาให้ผมตรวจดูมูลค่าของมันเถอะ”สีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อันนั้น...ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของนายในตอนนี้คงจะสมเหตุสมผล เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”เย่ซิวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเธออย่างเงียบ ๆ และบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆเหงื่อเย็นหยดหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของพรีเอลล์เธอลอบกลืนน้ำลาย ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ เสียงกลืนน้ำลายนั้นจึงฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ“ก็ได้”ในที่สุด พรีเอลล์ก็ยอมแพ้และวางของลงตรงหน้าอย่างว่าง่ายเย่ซิวหยิบจี้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวังลองใช้พลังจิตแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยจากนั้นเขาได้ส่งผ่านพลังวิญญาณเข้าไป และจี้นั้นก็ปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาเย่ซิวรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือ ราวกับกำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่ก็ไม่ปานจินตานห้าสีสั่นสะเทือนขึ้นมา เย่ซิวระดมพลังธาตุไฟและส่งผ่านมันเข้าไปตัว
รอจนเย่ซิวได้ลิ้มรสความหวานและติดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้วค่อยบอกวิชาลับอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วให้เย่ซิวถึงเวลานั้น จอมมารโลหิตก็จะสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมเย่ซิวไว้ได้อย่างมั่นคงทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้นพวกอันธพาลที่เห็นเย่ซิวนิ่งเฉยก็โกรธจัด ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่เขาในมือแต่ละคนมีท่อเหล็กพร้อมแววตาที่ฉายแววอำมหิตเย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้า ๆ และใช้วิชาคัมภีร์มารโลหิตทันที!ตูม! ตูม! ตูม!เกิดแรงดูดมหาศาลจากฝ่ามือของเย่ซิว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของชายหนุ่มสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยองเลือดสด ๆ ไหลทะลักเข้าสู่ฝ่ามือของเย่ซิวหลังจากผ่านกระบวนการของวิชาคัมภีร์มารโลหิต มันก็แปลงสภาพกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์เย่ซิวเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในยุคโบราณจำนวนมากถึงเลือกเดินบนเส้นทางมาร เพราะมันทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เองเพียงแค่ไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่เขาได้รับมาก็เทียบเท่ากับการบำเพ็ญอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนหากเขาฆ่าคนในเมืองนี้ทั้งหมด…บางท
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้? เมื่อกี้ฉันเกือบจะโดนจับได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…บ้าจริง”พรีเอลล์ที่อ่อนแรงในอ้อมแขนของเย่ซิวยกสองนิ้วขึ้นมาบิดที่เอวของเขาอย่างแรงถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัส แต่แรงบิดของเธอก็ยังเจ็บเอาเรื่องไม่น้อยเย่ซิวยิ้มบาง ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร? หรือไปเจอคนใจบุญช่วยไว้ล่ะ”พรีเอลล์เบือนหน้าไปอีกทาง เธอไม่มีทางยอมบอกหรอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกจับได้ แต่ในจังหวะคับขันกลับถูกเลสเบี้ยนคนหนึ่งลากเข้าห้องน้ำไปและโดนผู้หญิงคนนั้นลวนลามไปไม่น้อยเลยถ้าพูดออกไปคงถูกเย่ซิวล้อไม่หยุดแน่“ช่างมัน รีบไปกันเถอะ”เย่ซิวพยุงตัวพรีเอลล์ขึ้นและพาเธอเดินออกจากบาร์ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องจัดการคือการแบ่งสมบัติจากการต่อสู้ครั้งนี้อีกในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรีเอลล์หนีจากหน่วยรบเขี้ยวพิษจำนวนมากได้อย่างไรทั้งที่เธอบาดเจ็บจากระเบิดและพลังที่เหลืออยู่ก็ลดลงเกือบครึ่ง การหนีรอดออกมาน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งไปกว่านั้น จากสภาพของเธอดูเหมือนจะไม่มีใครจับได้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำให้เย่ซิวยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกทั้งสองเดินออกจากบาร์ก่อนจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังมา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ