“เรียกนายท่าน”"ฉัน...นายท่าน"ใบหน้าทั้งใบของฉีฉูฉู่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะความอัปยศ ดูแล้วเหมือนจะคั้นเลือดออกมาให้ได้นี่นับว่าเป็นความอัปยศอย่างถึงที่สุดสำหรับเธอตัวเองคือผู้หญิงที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของโลกในแง่ของความสามารถในการต่อสู้ แล้วทำไมเธอถึงได้รับการปฏิบัติเช่นนี้!เธอไม่ได้คิดแม้แต่นิดว่าที่นำมาสู่ผลลัพธ์ในวันนี้ ล้วนเกิดจากตัวเธอรนหาที่เองทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วคุณทำเรื่องชั่ว ๆ เช่นนั้นก็จะได้รับผลกรรมไม่ช้าก็เร็ว ไม่มีใครเป็นข้อยกเว้น ข้อแตกต่างเดียวก็คือจะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นเย่ซิวเก่งมากในเรื่องการสั่งสอนผู้หญิงเขามองไปที่ฉีฉูฉู่ที่หน้าแดงแล้วพูดว่า "คุกเข่าลงแล้วคลานมา"วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับผู้หญิงประเภทนี้ที่คิดว่าตัวเองสูงส่งเกินใคร ก็คือหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอให้แหลกสลายฉีฉูฉู่คุกเข่าลงเสียงดังตึก จากนั้นคลานไปหาเย่ซิวน้ำตาหยดแหมะลงมาอย่างต่อเนื่อง ดูน่าสงสารอย่างมากแต่นี่เทียบไม่ได้กับสิ่งเลวร้ายมากมายที่พวกเธอเคยทำในอดีตเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ละเอียดแล้วข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ คราวนี้เย่ซิวไ
เวินหว่านเอ๋อร์อ้าริมฝีปากสีชมพูชุ่มฉ่ำ "ถ้าอย่างนั้นเราก็ควรจะตั้งชื่อใหม่ ควรจะเรียกว่าอะไรดี?"เย่ซิวคิดเรื่องนี้ไว้นานแล้ว เขาทอดสายตามองออกไปไกล แล้วพูดด้วยแววตาที่ลึกล้ำ "เรียกมันว่าสำนักโอสถ"“สำนักโอสถ…” เฉินหลานพึมพำคำสองคำนี้ จากนั้นแสงจ้าก็เบ่งบานในดวงตาที่สวยงามของเธอ “ท่านอาจารย์ ชื่อนี้มีความหมายพิเศษอะไรไหมคะ?”แม้แต่ฉีฉูฉู่ก็อดไม่ได้ที่จะเงี่ยหูฟัง อยากได้ยินว่าทำไมเย่ซิวถึงตั้งชื่อนี้นี่ย่อมเป็นเพราะเย่ซิวอยากสานต่อสำนักโอสถ แต่เรื่องบางเรื่องเขาจะไม่พูดให้พวกเธอฟัง จึงเลือกเพียงบางส่วนที่สามารถพูดได้“นี่เป็นเพียงสถานที่เล็ก ๆ ที่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณพันตารางกิโลเมตรถ้าต้องการมีชีวิตรอดต่อไป ต้องไม่ปล่อยให้คนอื่นคิดว่าคุณมีความทะเยอทะยาน เช่นนั้นจึงต้องพัฒนาอุตสาหกรรมการเพาะปลูกอย่างแข็งขันเพื่อให้คนอื่นรู้สึกว่าคุณไม่ใช่ภัยคุกคาม ดังนั้นจึงเรียกว่าสำนักโอสถ”แน่นอนว่ายังมีบางท่อนที่เย่ซิวไม่ได้พูดออกมานั่นก็คือพัฒนาการเกษตรในเบื้องหน้า แต่เบื้องหลังกลับยังต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชั้นสูงต่าง ๆ ซึ่งเป็นของตัวเองอาทิเช่นอาวุธและเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นต้น
ประตูอันหนักอึ้งถูกเย่ซิวตัดออกด้วยดาบ สัญญาณเตือนภัยที่อยู่ข้างในดังขึ้นอย่างต่อเนื่องนี่คือห้องใต้ดินขนาดใหญ่ อาจมีเนื้อที่เกินหนึ่งหมื่นตารางเมตรภายในมีตู้กระจกขนาดใหญ่อยู่มากมายหลายตู้ซึ่งแต่ละตู้ข้างในบรรจุภาพวาดโบราณ ภาพวาดที่มีชื่อเสียง ทองคำ และอัญมณีต่าง ๆ อยู่นับไม่ถ้วนนี่คือสิ่งที่หกตระกูลใหญ่สร้างขึ้นร่วมกัน โดยแบ่งออกเป็นหกพื้นที่ ในแต่ละพื้นที่หมายถึงตระกูลหนึ่ง มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่สามารถเปิดได้กระจกที่อยู่ตรงหน้าทำขึ้นจากกระจกกันกระสุนที่ดีที่สุดแม้ว่าจะขับรถบรรทุกขนาดใหญ่แล้วเหยียบคันเร่งจนมิด ขับชนมันนานกว่าสิบนาทีก็ไม่สามารถทำให้มันบุบสลายได้สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เย่ซิวต้องการในตอนนี้เขาอ้าปากแล้วคายกระบี่หงส์โบยบินออกมา ถือมันไว้ในมือแล้วตัดเปิดตู้ทีละตู้ ๆกระจกกันกระสุนอะไรนั่น เมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่เล่มนี้กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลย ช่างง่ายเหมือนกับการตัดเต้าหู้ทองทำ เงิน เครื่องประดับ วัตถุโบราณและภาพวาดภาพเขียนโบราณทุกชนิดถูกยัดเข้าไปในแหวนผนึกของโดยเย่ซิวเขาประเมินว่าหากของเหล่านี้ออกสู่ตลาดและถูกประมูลออกไป เขาจะสามารถขายมันเป็นเงินสดได้
เช่นนี้ก็เหลืออีกเพียงสามชนิดเท่านั้น ตอนนี้เองที่จู่ ๆ เสี่ยวไป๋ก็กระโดดออกมาจากตัวเขา พุ่งตรงไปที่ขวดแก้วนั้นร่างของมันเจาะขวดแก้วเข้าไปโดยตรง มันอ้าปากเล็ก ๆ สมุนไพรที่อยู่ข้างในก็ถูกกลืนลงท้องในอึกเดียวแกร๊ก! แกร๊ก!เย่ซิวไม่ทันได้ห้ามมันด้วยซ้ำ สมุนไพรที่มีราคาแพงหูฉี่หลายร้อยต้นในตู้ก็ถูกเสี่ยวไป๋กินไปสิบกว่าต้นแล้วเย่ซิวรีบยกเสี่ยวไป๋ขึ้นมา สั่งสอนมันด้วยสีหน้าเจ็บปวดและเสียดายว่า “เจ้าตัวเล็กนี่ จะสิ้นเปลืองของดีเกินไปแล้ว ถ้าฉันใช้สมุนไพรเหล่านี้หลอมโอสถ แกรู้ไหมว่าจะหลอมโอสถออกมาได้เท่าไหร่?"เสี่ยวไป๋ตีสีหน้าไร้เดียงสา กะพริบตาปริบ ๆ ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูอย่างมากเย่ซิวมองแล้วก็ใจอ่อนยวบ หักใจดุไม่ไหวอีกต่อไปแต่ไม่นานเรื่องที่ทำให้เย่ซิวต้องตกใจก็เกิดขึ้นมีเส้นไหมสีขาวจำนวนมากผุดออกมาจากร่างของเสี่ยวไป๋ กลายเป็นรังไหม แล้วห่อหุ้มมันไว้ข้างในนั้นเย่ซิวแผ่จิตสัมผัส ข้างในไม่มีลมหายใจอีกต่อไปแล้วราวกับว่ามันเป็นของตายชิ้นหนึ่งแต่เมื่อสัมผัสมันผ่านสายโลหิต เย่ซิวกลับรู้ว่าเสี่ยวไป๋ยังสบายดี“แมลงสร้างรังไหมก็เพื่อที่จะหลุดออกจากรังไหมในที่สุด ดังนั้นเสี่ยวไป
นั่นย่อมเป็นการเลือกสำนักงานใหญ่ของสำนักโอสถสถานที่นี้ไม่สามารถเลือกอย่างลวก ๆ จำเป็นต้องมองหาสถานที่ที่มีฮวงจุ้ยเป็นเลิศแต่มันยากมากที่จะหาที่ดี ๆ ในดินแดนนี้ อย่างมากที่สุดก็หาคนตัวสูงในหมู่คนแคระเย่ซิวเหาะเหินด้วยกระบี่ แล้วร่ายอาคมเพื่อล่องหน ตรวจสอบอาณาเขตของสำนักโอสถอย่างรวดเร็วหนึ่งรอบในที่สุดก็เลือกสถานที่ที่เหมาะสมได้แล้วสถานที่แห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสามด้าน หลังจากผ่านภูเขา ห่างออกไปประมาณยี่สิบไมล์ก็คือพรมแดนที่ติดกับประเทศปิงจือที่นี่คือสถานที่ที่เย่ซิวคิดว่าดีที่สุดหลังจากสังเกตดู ดังนั้นเขาจึงลงมา สลายอาคมที่ร่ายไว้เย่ซิวอ้าปาก คายพลังวิญญาณอันหนาแน่นออกมาแล้วถ่ายโอนเข้าไปในกระบี่หงส์โบยบินดาบขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มขุดที่นี่ภายใต้การควบคุมของเขาเขากำลังวางแผนที่จะวางค่ายกลฮวงจุ้ยขนาดใหญ่ที่นี่แถมที่นี่ยังอยู่ไม่ไกลจากประเทศปิงจือตราบเท่าที่ค่ายกลนี้เสร็จสมบูรณ์ เมื่อเวลาผ่านไป โชคลาภจากประเทศปิงจือก็จะถูกรวบรวมมาทีละน้อยในความเป็นจริง ตอนนี้เย่ซิวก็มีความสามารถที่จะโค่นประเทศปิงจือได้แล้ว แต่ไม่จำเป็นมีเนื้อที่มากเกินไป รังแต่จะทำให
ข้างในมีไอเย็นแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง มีอุณหภูมิอยู่ที่ลบสามสิบถึงลบสี่สิบองศา แม้แต่เย่ซิวก็ยังได้รับผลกระทบและต้องอัดพลังวิญญาณกางเกราะวิญญาณหนา ๆเขาเดินไปข้างหน้าประมาณหกหรือเจ็ดร้อยเมตร ถึงได้มองเห็นแหล่งกำเนิดของไอเย็นมันเป็นเตียงน้ำแข็งเตียงหนึ่งบนเตียงยังมีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่ด้วยผู้หญิงคนนี้สวมชุดโบราณสีขาว ผิวขาวราวกับหิมะ และมีรูปโฉมที่งามล่มบ้านล่มเมืองบอกว่าเป็นผู้หญิงอาจจะไม่ตรงสักเท่าไหร่นักเนื่องจากไม่มีกลิ่นอายของความเป็นมนุษย์จากตัวเธอ เธอเหมือนเซียนที่ลงมาจากสรวงสวรรค์มากกว่า ชายใดก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอก็ต้องรู้สึกถึงความน้อยเนื้อต่ำใจแม้แต่เย่ซิวก็ไม่มีข้อยกเว้น ร่างกายเขาหมุนกลับไปโดยสัญชาตญาณ ราวกับว่าการมองผู้หญิงคนนี้จะเป็นการดูหมิ่นเธอเย่ซิวกัดปลายลิ้นเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา ในใจรู้สึกตกตะลึงอย่างถึงที่สุด ผู้หญิงคนนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่?ไม่ได้ทำอะไรเลย แค่นอนเงียบ ๆ ก็ส่งผลต่อตัวเองมากขนาดนี้หากเปลี่ยนป็นคนอื่น ผลกระทบนั้นจะยิ่งน่ากลัวกว่านี้อีกเขาถือกระบี่หงส์โบยบินไว้ในมือข้างหนึ่งแล้วค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้รอจนกระทั่งอยู่ห่
“ที่นี่ก็คือประเทศจ้านอิงเหรอ?”หงอียืนอยู่บนถนนที่พลุกพล่าน ล้อมรอบด้วยอาคารสูงและรถหรูหลายคันที่วิ่งไปมาบนถนนไม่รู้ว่าเธอแก้ปัญหาเรื่องบัตรประจำตัวประชาชนและวีซ่าของเธออย่างไรเธอช่างสมดั่งชื่อ สวมเสื้อคลุมสีแดงขนาดใหญ่ ที่เท้าสวมรองเท้าส้นสูงสีแดงคู่หนึ่งจับคู่กับกางเกงยีนและเสื้อเชิ้ตสีแดง ยิ่งทำให้ผลลัพธ์ของวิสัยทัศน์นั้นความอลังการถึงขีดสุดเมื่อเธอปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เธอก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนที่สัญจรไปมาเธอสวยมาก แต่มีบรรยากาศรอบตัวที่เย็นชาและห่างเหินเกินไป ท่วงท่าที่ประดุจดั่งราชินีซึ่งมีมาแต่กำเนิด กระแทกหัวใจของผู้ชายทุกคนที่ได้พบเห็นเธออย่างลึกซึ้งผู้ชายบางคนที่คิดว่าตัวเองเป็นชนชั้นสูง บังเกิดความคิดที่จะปราบผู้หญิงคนนี้บางคนที่มีรายได้น้อย กลับเกิดความคิดที่จะคุกเข่าเลียแข้งเลียขาเธอการปรากฏตัวของหงอีทำให้ถนนทั้งสายติดขัดในช่วงเวลาสั้น ๆ มีชายเจ็ดหรือแปดคนที่ขับรถหรูและสวมนาฬิการาคาเป็นล้านล้านเข้ามา พยายามเริ่มบทสนทนามุมปากของหงอีโค้งขึ้น "พวกคุณอยากขึ้นเตียงกับฉันเหรอ?"เธอพูดภาษาของประเทศจ้านอิง สำเนียงชัดเจนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เรียนรู้มาจากการฟังผู
เดิมทีความแข็งแกร่งของกายเนื้อของเย่ซิวไม่มีความคืบหน้ามานานมากแล้ว แต่เมื่อสักครู่นี้แม้จะแค่ประเดี๋ยวเดียว ความแข็งแกร่งของกายเนื้อกลับเพิ่มขึ้นไม่น้อยสิ่งนี้ทำให้เขาเกิดการตั้งตารอบางทีกายาวัชระคงกระพันอาจจะยังไม่ใช่ที่สุด การทะลวงขึ้นไปอีกขั้นจะเป็นขั้นไหนกันนะ?ถ้าอิงตามหลักพระพุทธศาสนา ระดับเหนือวัชระก็คืออรหันต์หรือว่าจะพัฒนาไปเป็นกายาอรหันต์คงกระพัน?ถ้ามันไปถึงจุดนั้นจริง ๆ ตัวเองไม่ใช่ว่าจะสามารถต้านทานระเบิดเอชด้วยกายเนื้อเพียงอย่างเดียวได้แล้ว?ถ้าสามารถทำได้จริง ๆ งั้นในโลกนี้เย่ซิวก็ไม่จำเป็นต้องกลัวใครหน้าไหนอีกแล้วในเมื่อสมบัตินี้ถูกเย่ซิวค้นพบ เขาย่อมไม่มีเหตุผลที่จะทิ้งมันไปจากนั้นเขาก็วางแผนนำร่างผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็งลงมาทว่าไม่ว่าจะลองวิธีใดก็แล้วแต่ ก็ไม่สามารถสัมผัสร่างของผู้หญิงคนนี้ได้ไม่มีทางเลือกอื่น สุดท้ายเย่ซิวก็จำต้องเก็บเตียงน้ำแข็งทั้งเตียงเข้าไปในแหวนผนึกของสิ่งที่เย่ซิวไม่รู้ก็คือทันทีที่เขาเก็บเตียงน้ำแข็งเข้าไป ขนตาของผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็งก็ขยับผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง เย่ซิวก็เสร็จสิ้นการวางค่ายกลฮวงจุ้ยรอจนกว่า
ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งที่เคยดูทรงพลังและน่าเกรงขาม ตอนนี้กลับดูซูบเซียวและอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัดมันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ดันไปหาเรื่องกับเย่ซิวซึ่งเป็นตัวอันตรายเข้าหากรู้แต่แรกว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ มันคงเลือกที่จะเงียบและทำตัวเป็นม้าโปร่งแสงไปเสียตั้งแต่ต้นวิชาแปรมังกรขั้นที่สามต้องบำเพ็ญให้เกิดกรงเล็บมังกร หางมังกร และเขามังกรขึ้นมาเย่ซิวไม่มีทางหยุดแน่นอน โอกาสแบบนี้ถ้าพลาดไปก็คงไม่มีวันหาได้อีกหนึ่งวันผ่านไป เขาก็ฝึกขั้นที่สามสำเร็จตอนนี้เขากลายเป็นมังกรทองในร่างมนุษย์ไปแล้วกรงเล็บมังกรสีทองแหลมคมราวกับสุดยอดศาสตราวุธ สามารถฉีกกระชากทุกสิ่งได้อย่างง่ายดายเขามังกรทั้งสองเส้นชี้ขึ้นฟ้า และมันไม่ได้มีไว้แค่ประดับเท่านั้นแต่มันช่วยเพิ่มการรับรู้และเร่งการดูดซับพลังจากฟ้าดินอีกด้วยส่วนหางมังกรก็มีประโยชน์ไม่น้อยมันเปรียบเสมือนแขนที่สามของเขา สามารถใช้เป็นอาวุธลับในสถานการณ์สำคัญได้และพอจะก้าวไปสู่ขั้นที่สี่ เขาก็ต้องใช้พลังงานมากกว่าขั้นที่สามถึงสิบเท่าเย่ซิวก้มลงมองม้าศึกเพลิงน้ำแข็งและพบว่าตอนนี้มันผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก คงใกล้จะหมดสภาพเต็มทีแ
เย่ซิวค้นพบว่าภายในเสาทั้งสิบสามต้นนี้ฝังอะไรบางอย่างที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ อาจเป็นค่ายกลหรืออย่างอื่นที่ซับซ้อนกว่านั้นพวกมันเชื่อมโยงกับสิ่งที่อยู่ใต้ดินและคอยดูดซับพลังจากร่างของมันจากนั้นก็ใช้พลังเหล่านั้นกดมันเอาไว้มันคล้ายกับเครื่องสูบน้ำที่ดูดน้ำจากบ่อขึ้นมาแล้วเทกลับลงไป วนเวียนเป็นวงจรซ้ำไปซ้ำมาจากนั้นเย่ซิวก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถแอบขโมยพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งได้หรือเปล่าหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจลองดูเจ้าแก่นี่เกือบทำให้เขาตกอยู่ใต้อำนาจมัน ถ้าไม่เอาคืนบ้างก็คงรู้สึกขัดใจไม่น้อยคิดได้ดังนั้น เย่ซิวก็วางมือลงบนเสาต้นหนึ่งก่อนจะเร่งพลังวิชาแปรมังกรทันทีศาสตร์นี้สามารถกลั่นพลังงานทุกประเภทในโลกให้เป็นของตนเองได้ทันทีที่เริ่มใช้งาน ฝ่ามือของเขาก็เกิดแรงดูดอันทรงพลังและดูดซับพลังวิญญาณบริสุทธิ์จำนวนมากจากเสาศิลาวิญญาณเสาเองก็ตอบสนองโดยการเร่งดูดพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งมากขึ้นดวงตาของเย่ซิวเปล่งประกายขึ้น พร้อมกับที่เขาพยายามรักษาสมดุลเอาไว้ในขณะที่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งถึงกับสบถออกมา พลังที่มันปลดปล่อยออกมานั้นเต
แค่เสาทั้งสิบสามต้นนี้ก็มีมูลค่ามหาศาลแล้วเทียบได้กับทรัพย์สินทั้งหมดของเย่ซิวก่อนที่เขาจะเริ่มบำเพ็ญวิชาเก้าวัจนะลึกลับเลยทีเดียว“นั่นคืออะไรน่ะ? ฉันรู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าในร่างกายเลย” พรีเอลล์จ้องมองเสาศิลาวิญญาณเหล่านั้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสนจากนั้นเธอก็ก้าวเดินไปข้างหน้าแต่ถูกเย่ซิวขวางเอาไว้สีหน้าของสองพี่น้องดูแปลกไปเหมือนถูกอะไรบางอย่างครอบงำในขณะที่โซเฟียกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น“จงตื่น!”เสียงของเย่ซิวดังขึ้นเบา ๆ สองพี่น้องได้สติทันที พร้อมกับเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นเต็มตัว“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”“เมื่อกี้เหมือนฉันถูกควบคุมเลย”เย่ซิวใช้พลังเนตร มองทะลุผ่านพื้นลงไปสายตาของเขาค่อย ๆ เจาะลึกลงไปนับพันเมตร จนกระทั่งพบว่าที่ใต้ดินลึกลงไปมีค่ายกลขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ภายในค่ายกลนั้นขังบางสิ่งเอาไว้มันคือม้าศึกตัวหนึ่งที่สูงเกือบสองเมตร ทั้งร่างขาวโพลนราวหิมะบนหัวมีเขาเกลียวชี้ขึ้นด้านบนกีบเท้าทั้งสี่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีขาวดวงตาของมันลึกลับดุจห้วงเหวลึกทันใดนั้นเอง ม้าศึกตัวนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเย่ซิวเข้าเต็ม ๆโครม!เย่ซิวรู้สึกเ
“ข้างในมีของสำคัญสำหรับฉันมาก ฉันเข้าไปด้วยได้ไหม?”เสียงของโซเฟียไพเราะจับใจเหมือนกับเสียงน้ำพุใสกระทบหิน มีความลึกซึ้งและก้องกังวานแค่เสียงของเธอก็ทำให้ผู้ชายมากมายหัวใจเต้นแรงได้แล้วเย่ซิวมองหญิงสาวที่สวยจนดูราวกับภาพลวงตาตรงหน้า “ถ้าปล่อยให้เธอเข้าไปแล้วฉันจะได้อะไร?”“บนตัวนายมีป้ายอันหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยร้าว เอามาให้ฉัน แล้วฉันจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิม”เย่ซิวมีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากแหวนผนึกของมันเป็นของที่ตกมาจากเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นตอนที่เขาช่วยเธอเอาไว้ตอนนั้นเขาไม่ได้สังเกตว่ามันมีค่าอะไรเลยเก็บมันไว้ก่อนจากนั้นเขาก็ยื่นมันให้โซเฟียเธอวางมันลงบนฝ่ามือ ก่อนจะกดมือทั้งสองข้างเข้าหากันแสงสีขาวสว่างออกมาจากรอยต่อของมือและคงอยู่เช่นนั้นต่อเนื่องเป็นสิบกว่าวินาทีพอเธอคลายมือออกก็มีแผ่นหยกเรืองแสงอ่อน ๆ ปรากฏอยู่ในฝ่ามือเย่ซิวรับแผ่นหยกนั้นมาแนบไว้ที่หว่างคิ้วจากนั้นก็มีข้อมูลมากมายก็ไหลทะลักเข้าสู่สมองของเขาก่อนจะปรากฏเป็นเคล็ดวิชาหนึ่งขึ้นมาในหัวเขาทันทีวิชาแปรมังกร!เป็นศาสตร์ฝึกฝนที่ลึกล้ำเป็นอย่างยิ่งตามเนื้อหาที่บันทึกไว
แค่กระบี่นี้ หากเล็งไปที่เมืองสักแห่ง เมืองนั้นคงถูกทำลายจนสิ้นในพริบตาหากฟันกระบี่นี้ออกไปอีกไม่กี่ครั้ง ประเทศจ้านฉงตี้คงได้รับความเสียหายอย่างหนักจนยากจะฟื้นตัวหรือไม่แน่ อาจถูกประเทศจ้านอิงตี้ฉวยโอกาสเข้ายึดครองไปเลยก็ได้อย่าดูแค่ภายนอกว่าทั้งสองประเทศเหมือนพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงจุดอ่อนขึ้นมา อีกฝ่ายจะต้องฉวยโอกาสกลืนกินอย่างแน่นอนเย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยซากโบราณสถานแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาจริง ๆเขาใช้วิชาอัดปราณกระบี่ไปถึงเก้าครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้เย่ซิวเก็บกระบี่หงส์โบยบิน โดยไม่สนใจคนรอบข้างที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเขาประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน แสงสีทองสว่างไสวเหมือนเปลวเพลิง ก่อนที่ร่างขนาดมหึมาจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นด้านหลังเขาตู้ม!ตู้ม!ตู้ม!เมื่อร่างที่ทรงพลังและครอบงำทุกสิ่งจนแทบไร้เทียมทานปรากฏขึ้นท้องฟ้าอันแจ่มใสพันลี้พลันถูกปกคลุมด้วยเมฆดำมืดในทันทีไม่ต้องพูดถึงคนรอบข้างที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้เลยแม้แต่จักรพรรดิหมีเหล็ก ที่อยู่ห่างออกไปกว่าหลายมันไมล์ และกำลังชมวิดีโออยู่ ยังสัมผัสได้ถึงพลังอันหนักอึ้งและกดดันมหาศ
ร่างกายของโซเฟียเย็นเล็กน้อยสัมผัสคล้ายกับการบีบเยลลี่เมื่อเผชิญกับสายตาแข็งกร้าวของเย่ซิว เธอกลับแสดงออกอย่างสงบนิ่ง“คุณเป็นคนของโลกนี้หรือเปล่า”โซเฟียไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงแค่มองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกเคย์ฟี่ที่เห็นฉากนี้ เกิดความอิจฉาขึ้นมาเป็นครั้งแรกทำไมตัวเธอพยายามสารพัด แต่เย่ซิวกลับไม่ยอมมองเธอแม้แต่แวบเดียวขณะที่โซเฟียเพียงแค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แต่กลับได้รับความสนใจจากทุกคน“ไม่พูดสินะ?” เย่ซิวเพิ่มแรงบีบที่ปลายคางของเธอเล็กน้อยผิวของเธอบอบบางเกินไป เพียงบีบเบา ๆ ก็เกิดรอยช้ำขึ้นมาแล้ว“ถ้าไม่พูดก็ถือว่ายอมรับ ผมจะฆ่าคุณ”เย่ซิวไม่ได้ขู่เธอในขณะนั้น ความกระหายสังหารพลันปะทุขึ้นในใจของเขาแต่ทันทีที่ความคิดฆ่าฟันเกิดขึ้น เขากลับสัมผัสได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวหญิงสาวภายในร่างกายของเธอ มีบางสิ่งที่น่ากลัวซ่อนอยู่หากเธอเผชิญกับอันตรายจริง ๆ สิ่งนั้นจะถูกกระตุ้นออกมาเองเย่ซิวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือจากเธอ ความตั้งใจจะฆ่าที่แผ่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ หายไปเขาไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเธอ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฆ่าเธอทันทีที่เจอหน้าเย่ซิวเดินผ
ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวสุดขีด พลังของอ็อคก็พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งแรงกดดันจากร่างกายของเขารุนแรงจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้สนับสนุนอ็อคหลายคนเผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ เมื่อเห็นว่าเขาสามารถทะลวงขีดจำกัดได้อีกครั้งภายใต้ความโกรธในตอนนี้ พลังที่แผ่ออกมาจากอ็อคเทียบเท่ากับระดับจินตานขั้นสมบูรณ์ ตัวเขาเองก็เต็มไปด้วยความดีใจสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง อ็อคเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลับมาอยู่เหนือทุกสิ่งอีกครั้งสองข้าวิ่งทะยาน ความเร็วพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนทะลุกำแพงเสียงในพริบตาร่างของเขาพุ่งเข้าหาเย่ซิวราวกับอุกกาบาตที่ลุกไหม้เต็มไปด้วยพลังแห่งความบ้าคลั่งและไร้เทียมทานแต่แม้จะต้องเผชิญกับการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เย่ซิวก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับจนกระทั่งอ็อคใกล้เข้ามา เขาถึงได้เอ่ยออกมาเพียงคำเดียว“หยุด!”วาจาศักดิ์สิทธิ์!อ็อคที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดก็พลันหยุดนิ่ง ถูกพลังบางอย่างตรึงร่างไว้โดยสมบูรณ์ เขาหยุดอยู่ห่างจากเย่ซิวเพียงครึ่งเมตรเท่านั้นในดวงตาของอ็อคเต็มไปด้วยความมึนงงและไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเย่ซิวยื่นมื
พลังแห่งปฐพี!พลังแห่งปฐพีในรัศมีร้อยลี้ถูกอ็อคควบคุมและรวบรวมเข้าสู่ร่างกายของเขาทำให้หมัดที่ปล่อยออกมาทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุดผู้คนรอบข้างพากันยกมือขึ้นปิดหูโดยสัญชาตญาณบางคนที่พลังอ่อนแอกว่าถึงกับเลือดไหลออกจากเจ็ดทวาร ร่างกายสั่นสะท้านจนควบคุมตัวเองไม่ได้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!ให้ความรู้สึกราวกับมีระเบิดเอชระเบิดขึ้นข้าง ๆดวงตาของอ็อคเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นและความกระหายในเลือดเขาเชื่อมั่นว่าหมัดนี้ ต่อให้เย่ซิวแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงรับไว้ไม่ได้ และต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอนเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเย่ซิว หวังจะเห็นความหวาดกลัวแต่เขากลับต้องผิดหวังดวงตาของเย่ซิวลึกดั่งบ่อน้ำเย็นยะเยือกที่ไม่มีจุดสิ้นสุดไม่ว่าโลกภายนอกจะโหมกระหน่ำเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เกิดระลอกคลื่นใด ๆ ได้เย่ซิวขยับแล้วมือขวากำหมัดแน่นเผชิญหน้ากับหมัดที่สามารถทำลายท้องฟ้าของอ็อค เขาใช้พลังเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้นตู้ม!สองหมัดปะทะกัน ก่อให้เกิดเสียงดังกึกก้องสะเทือนฟ้าดินจากนั้นก็เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยแต่อ็อคกลับเริ่มแตกสลายจากหมัดของตัวเอง และรอยแตกนั้นลามขึ้นไปทั
เมื่ออ็อคเข้าใกล้ แรงกดดันอันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้พูท พรีเอลล์ และเคย์ฟี่ถึงกับสะดุ้ง หายใจติดขัดราวกับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูร้าย!"เย่ซิว! นายมาที่นี่ทำไม? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายควรมา!"เสียงของอ็อคดังกึกก้อง ราวกับฟ้าร้อง"หลีกไป อย่ามาขวางทางฉัน"เย่ซิวพูดอย่างไม่ไว้หน้า ขณะที่ยังคงจับจ้องไปที่โซเฟียเขากำลังคาดเดาว่าเธออาจจะมาจากโลกภายนอกนี่เป็นความเป็นไปได้ที่เขาคิดว่าน่าเชื่อถือที่สุด"อวดดีนัก! อยากตายรึไง!""เย่ซิว! ที่นี่ไม่ใช่สำนักโอสถ และไม่ใช่ประเทศหลงเถิงด้วย! นายมาคนเดียว อย่าทำตัวอวดดีให้มากนัก!""ใช่! ไม่งั้นนายอาจจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่!"……เหล่าผู้ติดตามของอ็อคต่างพากันล้อมเย่ซิว สีหน้าของแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรและความเย็นชาถ้าเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน พวกเขาคงไม่กล้าพูดจาแบบนี้กับเย่ซิวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วการปรากฏตัวของอ็อคทำให้พวกเขามั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้นเพราะพวกเขาเคยเห็นฝีมือของอ็อคมาก่อน จึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขามั่นใจ แม้แต่เย่ซิวมาเอง อย่างมากก็คงทำได้เพียงเสมอกันยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่