“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร?”“พูดจาเหลวไหล ตระกูลหวังของฉันจะทำสิ่งที่ทรยศต่อประเทศชาติแบบนั้นได้ยังไง?”เย่ซิวมองไปที่พวกเขาอย่างเย็นชา “ผมขอแนะนำให้คุณบอกความจริงมาจะดีกว่า”หวังหู่เป็นจอมยุทธ์ขั้นต้นระดับสาม หวังห่าวเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับสองแล้วในระดับนี้ การใช้วิธีการสะกดจิตเป็นเรื่องยากที่จะให้พวกเขาเปิดเผยความลับอยู่ส่วนที่ลึกที่สุดของตนออกมาเพื่อความปลอดภัย ควรปล่อยให้พวกเขาบอกความลับนี้ออกมาด้วยความเต็มใจจะดีกว่า“ถ้าคุณบอกผมมาตรง ๆ ผมก็จะปล่อยให้ตระกูลหวังของคุณเหลือทายาทไว้บ้าง ไม่เช่นนั้นเชื้อสายของตระกูลหวังจะถูกขุดรากถอนโคนในวันนี้”พ่อลูกตระกูลหวังไม่พูดอะไรพวกเขารู้ดีว่า หากพวกเขาพูดอะไรออกไป จะเป็นการตกลงไปในหลุมลึกไร้ก้นบึ้งหากไม่พูดอะไร ก็ยังพอมีโอกาสรอดได้บ้างเย่ซิวย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่เขาเลยทิ้งระเบิดลูกใหญ่ “ผมฆ่าหวังเฟยตายไปแล้ว!”“อะไรนะ?!”คนสามคนในห้องตกใจไปพร้อมกัน“ไอ้สารเลว ทำไมแกถึงทำแบบนี้? ไม่กลัวถูกลงโทษตามกฎหมายเหรอ?!” หวังหู่ทั้งโกรธเกรี้ยวและโศกเศร้าเขาเป็นหลานชายเพียงคนเดียว ทุกสิ่งที่เขาลงทุนลงแรงทำงานอย่างหนัก
ความแค้นครั้งใหญ่ได้รับการสะสางแล้ว หวังห่าวมองไปทางเย่ซิ่ว “คุณจะรักษาคำพูดรึเปล่า?”“ผมสัญญาว่าผมจะไม่ฆ่าคุณ”“ดี ฉันจะเล่าทุกอย่างให้ฟังเอง”หวังหู่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็หลับตาลงด้วยความจำใจเย่ซิวจัดการพวกเขาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้แผนสำรองได้มาถึงจุดนี้แล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้คือทำให้ตระกูลของเขาได้สืบสายเลือดต่อไปเย่ซิ่วกดติดต่อหมายเลขที่เข้ารหัสไม่มีเสียงตอบรับจากอีกด้านหนึ่ง มีแต่ความเงียบที่ฟังหวังห่าวพูดรหัสลับบางอย่างเกี่ยวกับการติดต่อกับกองกำลังก่อการร้ายต่างชาติหวังห่าวพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหามากมาย ใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในระหว่างขั้นตอนนี้ เย่ซิวยังคงจับตามองตาของพวกเขาตลอดเวลาจึงยืนยันได้ว่าเขาไม่ได้โกหกข้อมูลที่หวังห่าวเปิดเผย ถ้าใช้ให้ดี มีโอกาสสูงที่จะกำจัดกองกำลังก่อการร้ายต่างชาติได้ทั้งหมดด้วยวิธีนี้ แรงกดดันที่มีต่อประเทศหลงเถิงก็จะน้อยลงมากหลังจากที่เขาพูดจบ เย่ซิวก็พูดเข้าไปทางปลายสายว่า “ระดมกำลังพลจากทั้งสี่หน่วยของเรา ใครที่ไม่มีภารกิจต้องเข้าร่วมด้วย เราจะต้องขุดรากถอนโคนศัตรูออกไปในคราวเดียว!”เสียงที่หนักแน่นและทรงพลัง
งานแกะสลักไดละเอียดประณีตมาก มีสวิตช์อยู่ข้างในด้วยหลังจากเปิดแล้วจะมีชิปขนาดเท่าเล็บอยู่ผู้หญิงคนนั้นบอกเย่ซิวว่า ทีมยอดฝีมือนี้มีชื่อว่า กองกำลังหมาป่าราตรีแต่ละคนมีชิปฝังอยู่ในร่างกายด้วยตราบใดที่ถือตราประทับชิ้นนี้ไว้ ก็จะสามารถควบคุมพวกเขาได้เพราะชิปถูกฝังเข้าไปในตัวพวกเขาตั้งแต่ยังแบเบาะหลังจากผ่านไปกว่าสิบปี มันถูกหลอมรวมเข้ากับเลือดเนื้อของพวกเขาแล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชิปออกไปเพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าพวกเขาจะอยู่ในกำมือ ไม่อาจดิ้นหลุดไปไหนได้เย่ซิ่วหยิบชิปออกมาและติดตั้งลงในโทรศัพท์ของเขาโทรศัพท์มือถือของเขาได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ มีฟังก์ชันมากมาย ไม่สามารถถูกติดตามหรือระบุตำแหน่งได้โดยซอฟต์แวร์ใด ๆเย่ซิวพูดกับผู้หญิงคนนั้น “ให้บอดี้การ์ดข้างนอกเข้ามา ให้พวกเขาพาบอดี้การ์ดที่หมดสติในห้องหมายเลขหกออกไป”“แล้วใช้เงินส่วนตัวของคุณจ่ายค่าชดเชยให้พวกเขาแต่ละคน แล้วให้พวกเขาทั้งหมดออกไปจากที่นี่”“หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว คุณก็ไปได้ จำไว้ ถ้าคุณกล้าเปิดเผยเรื่องราวในวันนี้แม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก คุณต้องตายสถานเดียว”ในประโยคสุดท
ทั้งสองออกจากคฤหาสน์เรื่องหลังจากนี้จะมีคนจัดการต่ออย่างเหมาะสมเซี่ยซิ่วซิ่วกลับไปยังตระกูลเซี่ยงานที่ต้องทำต่อจากนี้จะหนักมาก เธอบอกเย่ซิวว่าเธอคงไปมหาวิทยาลัยไม่ได้อีกหลายวัน และกลับไปที่บ้านเช่าก็ไม่ได้ด้วยเพื่อจำแนกธุรกิจต่างๆ ของตระกูลหวังจำเป็นต้องเตรียมการมากมายก่อนอื่นต้องหาพันธมิตรมาเพิ่มมิฉะนั้นเย่ซิวผู้เป็นมือใหม่ และมีทรัพย์สินมหาศาลตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้ จะต้องถูกคนนอกหมายปองจ้องเอาเปรียบแน่นอนบริษัททั้งเล็กและใหญ่ ย่อมเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ แน่นอนมีคำกล่าวที่ว่า ปัญหายิ่งเล็ก ยิ่งยากจะป้องกันเย่ซิวไม่อาจทำทุกเรื่องด้วยตัวเองได้ดังนั้นการหาพันธมิตรจึงเป็นเรื่องจำเป็นมากนอกจากตระกูลเซี่ยแล้ว เซี่ยซิ่วซิ่วยังบอกเย่ซิวว่าเธอรู้จักพี่ใหญ่คนหนึ่งด้วยอีกฝ่ายทำธุรกิจคลับหรูเธอผูกขาดธุรกิจทั้งหมดในเมืองเจียงเฉิงเอาไว้เซี่ยซิ่วซิ่วแนะนำว่าทางที่ดีให้ร่วมมือกับอีกฝ่ายจะได้ผลประโยชน์มากกว่าอีกฝ่ายอยากรุกเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาโดยตลอด แต่ไม่มีช่องทางดี ๆ สักทีเย่ซิวเห็นด้วยแล้วโทรหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์ และถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเธอในตอนนี้
น้อยมากที่เย่ซิวจะปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเขาออกมา พลังทำลายล้างที่เกิดขึ้นนั้นมหาศาลนักไม่นานนัก เย่ซิวก็ยับยั้งพลังของตัวเองลงมองดูสีหน้าของกองกำลังหมาป่าราตรีที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาก็ได้พูดอย่างเยือกเย็นว่า“ขอแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อเย่ซิว จอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับเก้า”ทันทีที่พูดออกไป ดูเหมือนว่าหัวของพวกเขาถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบอย่างแรงสำหรับพวกเขา จอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับเก้าคือตำนานที่ไม่อาจก้าวบรรลุได้เช่นเดียวกับมดตัวหนึ่งที่ไม่มีวันเอื้อมถึงเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้าเย่ซิวมองไปที่พวกเขาและพูดอย่างใจเย็น “ฉันเข้าใจสถานการณ์ของพวกนาย หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกนายจะได้แก่ไปตามช่วงวัย"“แต่การเสียชีวิตขณะทำภารกิจบางอย่างนั้นเป็นไปได้สูง”“ไม่มีใครรู้ว่าพวกนายเคยมีตัวตน ไม่มีใครรู้สึกเจ็บปวดกับพวกนาย และยิ่งไม่มีใครมาทำความสะอาดหลุมศพให้พวกนายด้วย”ทุกคนต่างเงียบไปคำพูดของเย่ซิวแทงเข้าจุดอ่อนของพวกเขา“ฉันจะให้โอกาสพวกนายได้มีชีวิตใหม่” น้ำเสียงเย่ซิวนั้นราวกับมีเวทมนตร์“ฉันสามารถกำจัดชิปในร่างกายของพวกนายออกได้และยังช่วยให้พวกนายก้าวข้ามไปสู่การเป็นจอมยุทธ์ระดับสอง ร
หลางอีสามารถทะลวงเข้าสู่จอมยุทธระดับสองได้สำเร็จจอมยุทธระดับสองมุ่งเน้นไปที่การเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายและเส้นลมปราณเป็นหลักหากไม่มีข้อจำกัดจากชิป เขาสามารถใช้พลังการต่อสู้ได้มากขึ้น ในอนาคตของเขาก็จะยิ่งประสบความสำเร็จได้ยิ่งขึ้นไปอีกความก้าวหน้าของหลางอี ทำให้ทุกคนตื่นเต้นเขาคุกเข่าตรงหน้าเย่ซิวและคำนับสามครั้ง“ผมจะไม่ลืมความเมตตาที่มอบชีวิตใหม่ให้ผมเลย ต่อไปผมจะะทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อรับใช้นายท่าน!”เย่ซิวโบกมือ “ลุกขึ้นเถอะ ในเมื่อทะลวงไปได้อีกระดับแล้ว ก็ไปเตรียมเอาสมุนไพรเหล่านี้ตั้งเตา จับเวลาครบเวลาแล้วให้ปิดเตา”“รับทราบครับ!”ในตอนนี้ความเคารพชื่นชมในตัวเย่ซิวของหลางอีก็สูงจนไม่มีใครเทียบได้สภาพร่างกายของพวกเขานั้นเกินกว่าเทคโนโลยีขั้นนสูงในปัจจุบันก็ไม่อาจแก้ไขได้ด้วยซ้ำแต่เย่ซิวกลับจัดการได้จากนี้ไป เขาจะเป็นมนุษย์ที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีอย่างสมบูรณ์ภาพดวงตาของหญิงสาวคนนั้นปรากฏขึ้นในใจของเขา และเขาก็อดไม่ได้ที่จะกำมือแน่น“รอฉันก่อนนะ ฉันสามารถมอบความสุขให้เธอได้แล้ว!”เย่ซิวเรียกอีกคน“หลางเอ้อร์ นอนลง”หลางเอ้อร์เป็นผู้หญิงผมสั้น ผิวสีเหลือง
เย่ซิวคิดว่าตอนนี้ตัวเองก็มีเงินมากมายแล้ว จึงคิดอยากจะซื้ออะพาร์ตเมนต์ที่เช่าอยู่ตอนนี้ต่อจากเซี่ยซิ่วซิ่ว ราคาที่อยู่อาศัยในละแวกใกล้โรงเรียนนั้นมีราคาสูง อะพาร์ตเมนต์ที่เย่ซิวอาศัยอยู่ตอนนี้ก็มีราคาประมาณ หนึ่งแสนหยวนต่อตารางเมตรหากจะซื้อก็ต้องใช้เงินสิบกว่าล้านหยวนแต่สำหรับเย่ชิวที่ตอนนี้มีทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านหยวนนั้นถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมากพึ่งเดินทางไปได้ครึ่งทาง เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นคนที่โทรเข้ามาคือเซี่ยซิ่วซิ่วหลังจากกดรับ น้ำเสียงอ่อนโยนของเธอก็ดังขึ้นที่ปลายสาย “เพื่อนนักศึกษาเย่ ตอนนี้นายว่างหรือเปล่า?”“ว่าง มีอะไรเหรอ?”“รุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงที่ฉันเคยเล่าให้นายฟังก่อนหน้านี้ เธออยากพบนาย นายพอจะมีเวลาว่างมาที่นี่หน่อยไหม?”“ได้สิ อยู่ที่ไหนล่ะ?”เซี่ยซิ่วซิ่วบอกที่อยู่คลับไป่ฮวากับเขา หลังจากวางสาย เขาก็ขอให้คนขับกลับรถบนรถ เย่ซิวถามคนขับว่า “คุณลุง รู้เรื่องเกี่ยวกับคลับไป่ฮวาไหมครับ?”เมื่อคนขับได้ยิน ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น และดูสนใจขึ้นมาทันที “รู้สิ รู้แน่นอน!”“ที่นั่นเป็นคลับที่หรูหราและมีมาตรฐานสูงที่สุดในเมืองเจียงเฉิงข
หญิงสาวในชุดกี่เพ้าสีขาวเดินเข้ามาจากด้านหน้า เผยรูปร่างส่วนเว้าส่วนโค้งที่สมบูรณ์เธอมีผมสีดำตรงยาว และแต่งหน้าอ่อน ๆ สามารถให้คะแนนหุ่นของเธอได้แบบเก้าเต็มสิบหน้าตาก็ให้เก้าคะแนนเช่นกันมีความสง่างามอันสูงส่งแผ่ออกมาจากตัวของเธอเช่นเดียวกับคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์แถบเจียงหนานในสมัยโบราณเธอเดินไปข้างหน้าเย่ซิวและเซี่ยซิ่วซิ่ว น้ำเสียงของเธอนุ่มนวล ใบหน้าของเธอแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มที่สามารถละลายใจคนได้“หรูฮว่ายินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่าน พี่เม่ยเอ๋อร์รออยู่สักพักแล้ว กรุณาตามฉันมาได้เลยค่ะ”เธอผายมือเชิญขณะที่พูด เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มและพูดว่า “พี่หรูฮว่าสวยขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะคะ ผู้ชายคนไหนจะทนได้”หรูฮว่ายิ้มพร้อมกับแอบเหลือบมองไปที่เย่ซิว “นายน้อยข้าง ๆ คุณหนูซิ่วซิ่วนี่ไงคะที่ทนได้”ผู้ชายที่เคยพบเห็นเธอ ไม่ว่าจะเป็นมหาเศรษฐีหรือชนชั้นสูงในสังคม ล้วนแล้วแต่มีสีหน้าที่เหมือนต้องการจะกลืนกินเธอทั้งนั้น แม้ว่าบางคนจะซ่อนมันไว้อย่างดี แต่หรูฮว่าก็อ่านคนมานับไม่ถ้วน จึงสามารถมองทะลุความคิดที่แท้จริงของพวกเขาได้อย่างง่ายดายแต่เย่ซิวนั้นต่างออกไปหลังจากที่เห็น
ชายคนนั้นมีท่าทีไม่เชื่ออย่างแรง “อย่ามาหลอกฉัน ถ้าเจ้าอาวาสไม่ออกมา ฉันก็ไม่ไป และวัดนี้ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมากราบไหว้อีก!”นักพรตหนุ่มรู้สึกทั้งโกรธและหมดหนทาง เมื่อเจอกับคนที่มีพลังแข็งแกร่งและเล่นไม่ซื่อแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้จะรับมือยังไง“เฮ้ พวกเธอสองคน ไสหัวไปซะ!”ชายคนนั้นมองเย่ซิวกับน่าหลันเยียนหรานด้วยสายตาดุดันดั่งสิงโตที่กำลังคำราม ดูน่ากลัวเป็นอย่างมากนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้ผู้คนที่มาไหว้พระพากันหนีไปหมดเย่ซิวเอ่ยเรียบ ๆ “นี่เป็นที่สาธารณะ ทำไมผมต้องไปด้วย?”ชายคนนั้นแสยะยิ้ม “ไอ้หนู คิดจะโชว์แมนต่อหน้าแฟนหรือไง? อยากโดนฉันสั่งสอนใช่ไหม!”พูดจบ พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกมาจากร่างของเขามีเพียงผู้ที่ผ่านสมรภูมิความเป็นความตายอันโหดร้ายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นที่จะสามารถแผ่กลิ่นอายอันน่ากลัวเช่นนี้ออกมาน่าหลันเยียนหรานตัวสั่นเทิ้ม ขนลุกไปทั้งร่างชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วแต่ในวินาทีนั้นเย่ซิวก็ยื่นมือใหญ่ที่อบอุ่นและแข็งแรงมาจับมือเล็ก ๆ ของเธอไว้ เธอรู้สึกสงบลง ก่อนจะมองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาขอบคุณนักพรตหนุ่มรีบวิ่งลงมาหาเย่ซิวพร้อมเตือนด้วยความกังวล “โย
คนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่เกลียดชังคนรวยเหมือนกับตอนนี้ที่แม้น่าหลันเยียนหรานเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเห็นได้ชัดแต่เพียงเพราะเธอขับรถหรูและใส่เสื้อผ้าราคาแพง คนรอบข้างจึงคิดว่าเป็นความผิดของเธอเหตุการณ์แบบนี้ที่แสดงถึงความเกลียดชังคนรวยมีให้เห็นทั่วไปขณะที่น่าหลันเยียนหรานไม่รู้จะทำอย่างไรดี เย่ซิวก็ปรากฏตัวขึ้นมายืนขวางหน้าเธอไว้น่าหลันเยียนหรานยิ้มด้วยความดีใจ “คุณเย่มาที่นี่ได้ยังไงคะ”“ผ่านมาแถวนี้พอดี” เย่ซิวมองหญิงชราที่นอนขวางรถของน่าหลันเยียนหราน แล้วเอ่ยเรียบ ๆ “ลุกขึ้น แล้วไสหัวไปซะ!”หญิงชรายิ้มเยาะ “อะไร พวกเธอสองคนรวมหัวกันจะรังแกคนแก่เหรอ หน้าไม่อาย ถ้าฉันไม่ลุกพวกเธอจะทำอะไรฉันได้!”คนที่ไม่รู้จักอายมักจะได้เปรียบเสมอเย่ซิวจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เปล่งประกายแล้วตวาดใส่หญิงชราคนนั้น “มองฉัน!”หญิงชราหันมามองตาของเย่ซิวโดยไม่ทันรู้ตัวตึง!สมองของเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ ราวกับสติหายไปชั่วคราวเย่ซิวมองเธอ “บอกมาว่าทำไมถึงคิดจะหลอกคนอื่น”หญิงชราเผยความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว“ฉันเล่นไพ่นกกระจอกจนเสียเงินค่าใช้จ่ายสำหรับทั้งปีไป กลัวสามีจะด่าก็เลยคิดจะหลอกเอาเงินจากค
“พี่เป็นคนดีจริง ๆ ฉันรักพี่ที่สุดเลย”จวงเสี่ยงหยิงดีใจจนกระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าเย่ซิว“พอแล้ว” เย่ซิวกดไหล่เธอลง “ผู้หญิงไม่ควรกระโดดโลดเต้นต่อหน้าผู้ชายแบบนี้ จะเสียเปรียบเอานะ”จวงเสี่ยงหยิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง ใบหน้าเธอแดงก่ำ ก่อนจะเอ่ยด้วยความเขินอาย “พี่นี่ลามกจริง ๆ เลย คราวหน้าฉันจะกระโดดแค่ต่อหน้าพี่แค่คนเดียวดีไหมคะ?”จวงเสี่ยงหยิงเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ยังตูมรอวันผลิบาน แผ่กลิ่นอายแห่งความสดใสและเยาว์วัยออกมาทุกอณูการได้อยู่กับสาวน้อยแบบนี้ทำให้จิตใจพลอยสดชื่นไปด้วยถ้าไม่ติดว่ายังมีเรื่องรอให้ทำอีกมากมาย เย่ซิวคงจะอยู่กับเธอนานกว่านี้หน่อยหลังจากออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว เย่ซิวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาอารามเต๋าภายในประเทศตอนนี้เขาอยู่ในขั้นสูงของการสร้างรากฐานปราณ อีกไม่นานก็จะถึงขั้นสมบูรณ์ เขาต้องเริ่มเตรียมตัวสำหรับการบ่มเพาะจินตานแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำคือหาวิธีการบ่มเพาะจินตานปัจจุบัน อารามเต๋าในประเทศที่มีอายุมากกว่าร้อยปีนั้นมีอยู่ไม่กี่แห่งเย่ซิวค้นเจออารามเต๋าห้าแห่ง หนึ่งในนั้นมีอยู่ที่เมืองหลวงและระยะทางก็ไม่ไกลมากเมื่อค้นเจอต
เย่ซิวชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะหันกลับมา “ว่าไงครับ?”หยางชิงเสวี่ยเม้มปากเล็กน้อย ดวงตางดงามจับจ้องไปยังเย่ซิวที่ยืนอย่างองอาจ “คุณต้องเร่งบำเพ็ญตนให้มากขึ้น แล้วรีบทะลวงให้ถึงระดับจินตานให้เร็วที่สุด ถึงตอนนั้น…”ประโยคหลังจากนั้นเธอไม่ได้พูดออกมา แต่แค่ขยับริมฝีปากเท่านั้นเย่ซิวเข้าใจอย่างชัดเจน จึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากหยางชิงเสวี่ยมีร่างกายที่พิเศษ และต้องรอให้เย่ซิวทะลวงระดับจินตานเสียก่อนจึงจะสามารถมีสัมพันธ์กับเธอได้นี่เป็นกฎที่อาจารย์ของเขากำหนดไว้เมื่อถึงเวลาที่เขาสมหวังกับหยางชิงเสวี่ย เขาจะได้รับพลังพิเศษที่แข็งแกร่งมากเย่ซิวกลับไปที่ศาลา ก่อนจะหยิบจี้หยกสองชิ้นออกมา แล้วสวมให้เธอด้วยมือของเขาเองทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนกลิ่นอายความแข็งแกร่งของเขาแผ่ซ่านเข้ามาจนสัมผัสได้หยางชิงเสวี่ยรู้สึกเหมือนร่างกายถูกจุดไฟ รู้สึกอ่อนแรงและใบหน้าก็แดงระเรื่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจากนั้นเย่ซิวก็คว้ามือเล็กอ่อนนุ่มของเธอไว้ ก่อนจะสวมแหวนลงบนนิ้วของเธอสองวง แล้วบอกวิธีใช้ให้เธอฟัง“ของพวกนี้ล้ำค่าเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”หยางชิงเสวี่ยส่ายหน้า พยายามจะถอดออก“ไม่เป็นไร ของพว
ชีวิตของเธอในตอนนี้เรียบง่ายมากบางครั้งก็เรียน บางครั้งก็ไปฝึกงานที่บริษัท ชีวิตดูเต็มไปด้วยคุณค่าและมีความหมายมากเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ “มาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”สายตาของเขามองไปที่ศาลาตรงนั้นมีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้ากำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจมองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยไร้ที่ติ ทำให้คนใจเต้นแรงแม้เพียงพบเห็น แต่ก็ไม่กล้าคิดลามกกับเธอเธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียวดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงสายตาของเย่ซิว เธอจึงหันมองมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยกมุมปากยิ้มบางเย่ซิวยิ้มตอบจวงเสี่ยวหยิงยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวง “ที่แท้ก็ไม่ได้มองแค่ฉันนี่นา”เย่ซิวหัวเราะ “เด็กน้อย ยังจะหึงอีกนะ ไปซื้อน้ำให้ฉันหน่อยสิ”“ค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงยู่ปากแต่ก็เดินออกไปอย่างว่าง่ายเย่ซิวเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงตรงหน้าชิงเสวี่ยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “คุณรู้จักที่มาที่ไปของคุณลี่หรือเปล่า?”ชิงเสวี่ยวางหนังสือลง มองเย่ซิวด้วยดวงตากลมโต พลางส่ายหัวเบา ๆ “ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ”เย่ซิวจ้องมองเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้รู้ว่าเธอไม
ต่อจากนี้จะเป็นการบรรยายยาวกว่าหนึ่งแสนคำครั้งที่แล้วเย่ซิวเป็นฝ่ายเริ่มบำเพ็ญตนกับหลินโหรวก่อนแต่ครั้งนี้หลินโหรวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน สรุปง่าย ๆ เลยสามคำ เธอเก่งมากคงเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอยู่กับสาวผมเหลืองก่อนหน้านี้“ผมต้องไปแล้ว” เย่ซิวจิบเครื่องดื่มพลางเอ่ยกับหลินโหรวหลินโหรวปาดเหงื่อหอมบนหน้าผาก พลางมองเย่ซิวด้วยสายตาอ่อนหวาน “ฉัน…พอจะเป็นแฟนคุณได้ไหม?”เย่ซิวใช้นิ้วเชยคางขาวเนียนของเธอขึ้น แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือเปล่าล่ะ?”สายตาของหลินโหรวหม่นลงในทันที ใช่แล้ว ตอนนี้เธอไม่คู่ควรกับเขาจริง ๆแต่เธอก็รีบกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง “ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะทำตัวเหลวไหลไปหน่อย แต่จากนี้ไป ฉันจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น”“อืม ความสามารถของเธอก็ไม่เลวนะ” เย่ซิวพยักหน้า “ตอนนี้คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”“ยังค่ะ”เย่ซิวเกิดความคิดหนึ่งขึ้น เขาเอ่ยกับเธอว่า “ผมจะลงทุนให้คุณห้าพันล้าน ไปตั้งบริษัทการจัดการระหว่างประเทศสักแห่ง แล้วดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีมเยอะ ๆ”หลินโหรวทำหน้าจริงจัง “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ห้าพันล้านนี้จะทำกำไรให้คุณสิบเท่า ยี่สิ
ยาที่อยู่ในมือเธอหล่นลงบนพื้นทันที “นายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง!”เย่ซิวเดินตรงเข้าไปหาเธอด้วยสีหน้าเย็นชา “พูดมาว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอมาเล่นงานฉัน”“เล่นงานนาย? หมายความว่าไง?”สีหน้าของสาวผมทองดูไม่เหมือนคนโกหก นั่นหมายความว่าเธอเพียงแค่ถูกใครบางคนใช้เงินจ้างมาเท่านั้นเย่ซิวจึงเปลี่ยนวิธีถาม “ใครเป็นคนให้ยานี้กับเธอ หน้าตาเป็นยังไง?”“ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร” สาวผมทองพยายามปฏิเสธสุดกำลังเย่ซิวคว้าคอเธอไว้แล้วค่อย ๆ ยกขึ้นสาวผมทองดิ้นรนสุดชีวิต ดวงตาเบิกโพลง ลิ้นยื่นออกมายาวความรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นมาจับใจเธอ ผู้ชายที่ดูหล่อเหลาจนน่าตะลึงคนนี้กล้าฆ่าเธอจริง!“ฉัน…ยอมบอกแล้ว…”ปึก!เย่ซิวโยนเธอลงกับพื้นแล้วนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะถือโอกาสหยิบยาขึ้นมาสาวผมทองไออย่างหนัก เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอก อยู่ ๆ เขาก็มาหาฉัน ให้เงินมาก้อนหนึ่ง แล้วบอกให้ฉันเอายาให้หลินโหรว…แค่นั้นแหละ”“หน้าตาเขาเป็นยังไง?”“ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัด เขาใส่เสื้อโค้ตสีดำ สวมหน้ากาก ยานี้เขาให้มาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว”เย่ซิ
“เสี่ยวโหรว อย่าไปเลยนะ ได้ไหม?”“ปล่อยฉันนะ ตอนนั้นเธอเป็นคนบอกเลิกฉันเอง แล้วตอนนี้กลับมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก!”“ตอนนั้นฉันเองที่เสียสติ แต่หลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าขาดเธอไม่ได้จริง ๆ”“หึหึ ตอนนั้นฉันพยายามมากแค่ไหนเพื่อรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ใจแข็งใส่ฉัน ตอนนี้ต่อให้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”“เสี่ยวโหรว ฉันรู้นะว่าเธอยังรักฉันอยู่”“เพ้อเจ้อ! ตอนนี้ฉันหันมาชอบผู้ชายแบบปกติแล้ว และเธอก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉันอีก!”……มีสาวสวยสองคนกำลังทะเลาะกันบนถนนคนหนึ่งย้อมผมสีเหลือง ใส่เสื้อเอวลอย ทรวดทรงเย้ายวนอีกคนสวมเดรสยาวสีขาวกับรองเท้าผ้าใบ ดูสะอาดบริสุทธิ์ฝูงชนที่มุงดูพลอยเข้าใจเรื่องราวจากบทสนทนาของทั้งคู่ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายที่แท้สองคนนี้ก็เป็นหญิงรักหญิง ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงลุกโชนขึ้นมาทันทีเย่ซิวเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเธอที่นี่อีกครั้งอดีตแฟนสาวหรือแฟนหนุ่มของหลินโหรวยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่หลินโหรวนั้นเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวไม่มีความหยิ่งยโสและอวดดีเหมือนแต่ก่อน กลับดูอ่อนโยนขึ้นมากดูเหมือนว่า ‘การปรับเปลี่ยน’ ของเขาในตอนนั้นจะได้
เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำแล้วจะดูโปร่งแสงเล็กน้อย ดังนั้นถังเขอเข่อในตอนนี้จึงดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูกถังเขอเข่อกอดอกตัวเองไว้ด้วยความอับอายและหงุดหงิด “อย่ามองสิ หันหลังไปเลยนะ ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ก็เลยต้องใส่ชุดเดิมนี่แหละ”เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “มานี่ เดี๋ยวผมช่วยทำให้เสื้อผ้าคุณแห้งเอง”“ไม่เอา…”เธอกลับถอยหลังไปอีกสองสามก้าว เธอรู้ดีว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ จะส่งผลต่อผู้ชายมากแค่ไหนเธอกลัวว่าเย่ซิวจะควบคุมตัวเองไม่ไหว แล้วก็…เย่ซิวชูมือขึ้นแล้วส่งพลังดูดมหาศาลออกมาใส่ถังเขอเข่อ“กรี๊ด!” ถังเขอเข่อร้องเสียงหลง ร่างกายของเธอลอยลิ่วเข้ามาหาเย่ซิวอย่างไม่ตั้งใจ เธอดิ้นไปมาพลางกรีดร้องไม่หยุด “ปล่อยนะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำตามใจหรอก ฉันยังไม่เคยมีแฟนเลย ไม่ได้นะ…เอ๊ะ ทำไมอุ่นจัง”ในขณะที่กำลังดิ้นพล่าน ถังเขอเข่อก็หยุดทันที ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความสงสัย สถานการณ์ดูไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลยสักนิด เย่ซิวเพียงแค่ปล่อยพลังไฟออกมาเบา ๆ เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของเธอแห้งเท่านั้นเอง“นี่มันอะไรน่ะ?!” ถังเขอเข่อตกใจจนพูดไม่ออก “มายากลเหรอ?”