เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในหมู่คนชั้นสูงที่แท้จริงเย่ซิวไม่ตอบ แต่แสร้งทำเป็นสอดมือขวาใส่กระเป๋ากางเกงของเขา ทว่าจริง ๆ แล้วหยิบ "สารานุกรมอาคมระดับต่ำ" ออกจากแหวนผนึกของแล้วเปิดอ่านมันอย่างระมัดระวังตำราวิชายุทธ์ลับเล่มนี้ได้บันทึกอาคมระดับต่ำนับพันไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วนอาทิเช่นวิชาสมานบาดแผล วิชาแปลงสิ่งของ วิชากลั่นเสริมพลัง ฯลฯนอกจากนี้ยังมีการบันทึกวิธีการสร้างเครื่องรางหยกกันภัยไว้ในตอนท้ายด้วยนั่นคือการสลักอาคมบางอย่างไว้บนจี้หยกแล้วสวมใส่ หรือมอบให้ผู้อื่นโดยจะมีการทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเผชิญกับอันตราย ซึ่งจะสามารถป้องกันภัยพิบัติต่อตัวผู้สวมใส่สิ่งนี้ทำให้ดวงตาของเย่ซิวสว่างขึ้น เขาจดจำมันไว้อย่างระมัดระวังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ศัตรูลึกลับคนนั้นที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดจะลงมือกับคนรอบข้างเขาถ้าสามารถกลั่นเครื่องรางหยกป้องกันภัยและมอบให้กับคนรอบข้างได้ ความปลอดภัยก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยไม่ต้องสงสัยเลยหลังจากที่เขาจดจำเนื้อหาทั้งหมดใน "สารานุกรมอาคมระดับต่ำ" แล้ว ก็มาถึงจุดหมายปลายทางลงมาจากรถ ฉากที่ปรากฏสู่ครรลองสายตาก็คือหมู่บ้านหนึ่งที่มีความดั้งเดิมเป็นอ
“ผมสามารถลงทุนที่นี่และเปลี่ยนมันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้นอกจากนี้เรายังสามารถจัดให้บริษัทมาสร้างโรงงานที่นี่เพื่อให้พวกเธอได้มีงานทำเรายังสามารถติดตั้งระบบน้ำและไฟฟ้า และสร้างบ้านให้พวกเธออยู่อาศัยได้ลูกตาของเฉินซิ่วน่าหดตัวลง เธอตกใจกับคำพูดของเย่ซิวอย่างถึงที่สุดแล้วแต่เธอก็สงบลงอย่างรวดเร็วและถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ฉันต้องจ่ายด้วยอะไร?"ดวงตาของเย่ซิวราวกับสายฟ้า เขาปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ออกมาจากร่าง "ผมต้องการให้คุณภักดีต่อผมและจัดหาพวกทหารรับจ้างให้ผมสุดท้ายสร้างกลุ่มที่มีสมาชิกมากกว่าสามพันคนขึ้นไป โดยที่กลุ่มจะต้องมีความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง มีอุปกรณ์การรบครบครัน และจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น!”ลมหายใจของเฉินซิ่วน่าสะดุดไป ในเวลานี้เย่ซิวช่างเปล่งประกายราวกับดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงสีทองเจิดจ้าแสบตา ทำให้เธอไม่กล้ามองตรงไปที่เขาเหตุผลที่เย่ซิวมีความคิดเช่นนี้ ก็เพราะเขาได้รับแหวนผนึกสิ่งของบนภูเขาเตี้ยลูกนั้นมาในเมื่อที่นั่นมีสมบัติที่ผู้บำเพ็ญตนเป็นเซียนทิ้งไว้ ที่อื่น ๆ ก็อาจจะมีสมบัติอยู่เช่นกันไม่แน่ว่าอาจมีที่ไหนสักแห่งที่มีถ้ำส
เสื้อผ้าบนผิวกายค่อย ๆ หายไปทีละชิ้น มองเห็นไปถึงเนื้อ กระดูก และอวัยวะภายใน ซึ่งได้รับความเสียหายในระดับที่แตกต่างกันร่างกายของเฉินซิ่วน่าเกร็งขึ้น จู่ ๆ เธอก็รู้สึกราวกับว่าความลับทั้งหมดของตัวเองกำลังถูกล่วงรู้เข้าให้แล้วแต่ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นและผ่านไปอย่างรวดเร็วเย่ซิวพูดว่า "ไปเตรียมถังใบใหญ่ เผาฟืนข้างใต้ เสร็จแล้วเรียกผม"เฉินซิ่วน่าไม่ได้ถามเหตุผล รีบลงไปจัดเตรียมในทันทีเย่ซิวกลับใช้โอกาสนี้กดหมายเลขโทรศัพท์ของถังต้าไห่“เจ้าสำนัก มีอะไรจะสั่งการเหรอครับ?”“นายมีเส้นสายในประเทศหยวนไหม?” เย่ซิวถามอย่างตรงไปตรงมา“ประเทศหยวน...ผมรู้จักเศรษฐีอันดับหนึ่งของพวกเขานะ พอดีเคยช่วยชีวิตหลานชายของเขาไว้ และอีกฝ่ายก็ยังติดค้างหนี้บุญคุณของผมอยู่”“ถ้างั้นก็พอดีเลย นายติดต่อเขาที บอกว่าฉันต้องการลงทุนในประเทศหยวน ขอให้เขาช่วยออกหน้าจัดการสักหน่อย ลดขั้นตอนการดำเนินการอะไรลงให้มากที่สุด ให้เหลือสักสองวันวันที่สามเริ่มทำการก่อสร้าง ยิ่งเร็วยิ่งดี สำหรับที่อยู่ ฉันจะส่งให้นายทางมือถือทีหลัง”ถังต้าไห่ยิ้มและพูดว่า "เจ้าสำนักวางใจได้เลยครับ ประเทศเล็ก ๆ อย่างประเทศหยวน มีความ
“โฮ่ง ๆ ๆ…”ทันใดนั้น ก็มีฝูงหมาป่ามากมายโผล่มานอกหมู่บ้าน!แววตาแต่ละตัวเปล่งประกายเย็นเยียบและเต็มไปด้วยความดุดัน บนหลังของหมาป่าแต่ละตัวมีร่างคนเถื่อนที่แต่งกายด้วยหนังสัตว์นั่งอยู่ คนเถื่อนเหล่านี้สะพายธนูไว้ที่หลัง มือถือปืนโบราณแบบพื้นบ้าน อีกทั้งยังมีจำนวนมากมายผู้หญิงในหมู่บ้านต่างพากันอุ้มลูกหลบเข้าไปในบ้าน ก่อนจะหยิบอาวุธที่มีออกมาเตรียมพร้อมรับมือหมาป่าตัวหนึ่งที่ดูแข็งแกร่งกว่าตัวอื่นก้าวออกมา บนหลังของมันมีชายคนหนึ่งนั่งตระหง่านอยู่ แววตาเต็มไปด้วยความดุร้ายและโหดเหี้ยม เขาจ้องมองผู้หญิงในหมู่บ้านอย่างดูถูกดูแคลน ก่อนจะยิ้มเยาะ “เฉินซิ่วน่าอยู่ไหน? ให้เธอออกมาซะดี ๆ!”หนึ่งในผู้ช่วยของเฉินซิ่วน่าก้าวออกมา ก่อนจะตะโกนถามอย่างไม่พอใจ “อาโม่เค่อ แกคิดจะทำอะไร!”ชายที่ถูกเรียกว่าอาโม่เค่อจ้องมองผู้หญิงในหมู่บ้านทีละคนด้วยสายตาหื่นกระหาย พลางเอ่ย “ฉันก็จะมากำราบพวกเธอน่ะสิ!”ผู้ช่วยของเฉินซิ่วน่าหัวเราะเยาะ “แกคงลืมไปแล้วสินะว่าเคยพ่ายแพ้ให้พวกเราไปตั้งกี่ครั้งแล้ว!”อาโม่เค่อหัวเราะลั่น “นั่นมันอดีต แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกันแล้ว พวกแกออกมาได้!”ก็มีคนกลุ่มใหญ่อ
เด็กหญิงคนหนึ่งถือไม้กวาดกระหน่ำฟาดใส่หลังทหารรับจ้างคนหนึ่งทหารรับจ้างคนนั้นกำลังจับทหารหญิงคนหนึ่งไว้“ไอ้ตัวน่ารำคาญ แกอยากตายนักใช่ไหม!” ชายคนนั้นชักมีดสั้นจากเอวแล้วปามันออกไปมีดสั้นแหวกอากาศจนเกิดเสียงหวีดหวิว เด็กหญิงไม่สามารถหลบมันได้เลย เมื่อเห็นว่าชีวิตของเด็กคนนั้นกำลังจะพบจุดจบ ทันใดนั้น มือเรียวยาวแต่ทรงพลังพลันปรากฏขึ้นคว้ามีดสั้นไว้อย่างฉิวเฉียดทหารรับจ้างคนนั้นชะงักไปชั่วครู่ ก่อนเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีใบหน้างดงามยิ่งกว่าหญิงสาวเสียอีก ดวงตาเขาเปล่งประกายลุกวาวขึ้นในทันที“ฮ่า ๆ ๆ ไม่นึกว่าจะมีผู้ชายที่งดงามแบบนี้ ฉัน…”เย่ซิวไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดจบ มีดในมือเขาถูกส่งคืนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งทะลุศีรษะอีกฝ่าย สีหน้าเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง อุณหภูมิรอบข้างลดลงจนเย็นยะเยือกน่ากลัว ธนูน้ำแข็งปรากฏขึ้นเหนือศีรษะทีละเล่ม ก่อนจะพุ่งไปตามที่เขาต้องการใส่เหล่าทหารรับจ้างหมาป่าตัวหนึ่งที่กำลังจะฆ่าเด็กหญิงอีกคน แต่ธนูน้ำแข็งก็พุ่งเข้ามาแช่แข็งทั้งตัวหมาป่าและทหารบนหลังจนแข็งทื่อร่วงกระแทกพื้นเย่ซิวก้าวเดินไปข้างหน้า ทุกพื้นที่ที่เขาเหยียบย่างเต็มไปด้วยความตา
เย่ซิวปล่อยพลังออกมาบางส่วนแค่พอทำให้อาโม่เค่อและหัวหน้ากองกำลังหมีสงครามได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่านั้นจากนั้นเขาก็หันไปมองเฉินซิ่วน่า “หมายความว่ายังไง?”เฉินซิ่วน่ารีบตอบอย่างรีบร้อน “บรรพบุรุษของอาโม่เค่อมีสมบัติล้ำค่าอยู่ชิ้นหนึ่ง เชื่อกันว่าสามารถรักษาได้ทุกโรค หลายคนต่างรู้เรื่องนี้ดีค่ะ”“อ๋อ?” เย่ซิวหันไปจ้องมองอาโม่เค่อด้วยความสนใจ “บอกมาสิ ว่าสิ่งนั้นอยู่ที่ไหน”อาโม่เค่อไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองอยู่ใกล้ความตายขนาดนี้มาก่อน ความโอหังในอดีตมลายหายไปหมดสิ้น สิ่งที่คิดได้เพียงอย่างเดียวในตอนนี้คือจะเอาตัวรอดยังไงเขาเอ่ยถามเสียงสั่น “ถ้าผมยอมมอบให้ คุณจะปล่อยผมไปไหม?”“ตกลง” เย่ซิวพยักหน้าหัวหน้ากองกำลังหมีสงครามที่อยู่ด้านข้างรีบก้มกราบขอความเมตตาจากเย่ซิวด้วยเช่นกัน เย่ซิวปรายตามองเขา “บอกมาสิว่าแกมีค่าอะไร”“ผะ...ผมมีห้าร้อยล้านเหรียญจ้านอิงในธนาคารยูนิเวิร์ส ผมยกให้คุณทั้งหมด!”เหรียญจ้านอิงเป็นสกุลเงินที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเทียบกับเหรียญหลงเถิงอยู่ที่หนึ่งต่อสาม เย่ซิวจึงให้เลขบัญชีธนาคารยูนิเวิร์สของเขา “โอนมาสิ”หัวหน้ากองกำลังหมีสงครามเอ
เย่ซิวสูดลมหายใจลึก กลิ่นสุราหอมกรุ่นอบอวลชวนให้รู้สึกสดชื่นไปทั่วร่าง แถมพลังวิญญาณในตัวยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วยและสุรานี้ยิ่งเห็นผลชัดกว่าเดิมกับตัวอาโม่เค่อแผลบนแขนเขาสมานตัวรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด เขากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดด้วยความเดือดพล่านในใจ ข้างในนั้นต้องมีสิ่งที่หายากและไม่มีใครเทียบได้ ถ้าหากตนได้กินเข้าไป อาจจะทำให้แข็งแกร่งเหมือนชายคนนี้ก็เป็นได้เย่ซิวลองดื่มเข้าไปอึกหนึ่ง สุราหอมหวานแผ่กระจายทั่วทั้งปาก เต็มไปด้วยรสชาติของรสสัมผัส ทุกส่วนของร่างกายรู้สึกเหมือนถูกห้อมล้อมด้วยเตาไฟ พร้อมกับความรู้สึกมึนเมาและล่องลอยไปในอากาศแค่การดื่มเพียงอึกเดียวกลับประหยัดเวลาฝึกฝนไปได้สี่ถึงห้าเดือนเลยทีเดียว!เย่ซิวกัดนิ้วหยดเลือดเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของ ข้อมูลมหาศาลหลั่งไหลเข้ามาในหัว ทำให้เขารู้วิธีใช้สมบัติเวทมนตร์นี้ทันที ถ้าให้พูดง่าย ๆ ก็คือสามารถนำสิ่งของที่มีพลังงานต่าง ๆ เช่น สมุนไพร งูพิษ และอื่น ๆ ใส่เข้าไปได้ จากนั้นเมื่อผ่านไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง น้ำสุราก็จะอัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณสุราชนิดนี้มีสรรพคุณอันทรงพลัง ช่วยเสริมกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้มีอายุยืนย
“ขอขอบคุณท่านผู้มีพระคุณ พวกเราจะไม่มีวันลืมพระคุณนี้เลยตลอดชีวิต”ผู้หญิงในหมู่บ้านทั้งหมดคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งวางแนบอก แสดงความเคารพสูงสุดแก่เย่ซิว สายตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความคลั่งไคล้และศรัทธาอย่างแรงกล้า หากเย่ซิ่วจะขอให้พวกเธอมาปรนนิบัติในคืนนี้ก็คงไม่มีใครขัดขืนต้องรู้ไว้ว่าก่อนหน้านี้ผู้หญิงในหมู่บ้านต่างรังเกียจและเกลียดชังผู้ชายจากข้างนอกอย่างมาก หากพบเจอเมื่อไรก็คิดจะฆ่าทิ้งเสียทุกครั้งเย่ซิวเผยสีหน้าอ่อนโยน ก่อนจะยกมือทั้งสองขึ้น “ทุกคนลุกขึ้นเถอะ สองกองทหารรับจ้างนั้นถูกกำจัดไปหมดแล้ว หลังจากนี้จะไม่มีสิ่งใดมาคุกคามความปลอดภัยของพวกเธออีก”หญิงสาวในหมู่บ้านต่างลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น โดยเฉพาะเฉินซิ่วน่าที่มองเย่ซิวด้วยแววตาที่แฝงความรู้สึกบางอย่างที่ลึกซึ้งมากขึ้นจังหวะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์จากถังต้าไห่ก็ดังขึ้น“ท่านประมุข ตอนนี้จัดการเรื่องที่ท่านมอบหมายเรียบร้อยแล้วครับ ทางประเทศหยวนยินดีกับการลงทุนของพวกเราอย่างยิ่ง ถึงกับอนุมัติทุกขั้นตอนผ่านช่องทางพิเศษโดยตรงเลย”“อืม” เย่ซิวพยักหน้า “ให้รีบส่งคนมาทันที นอกจากทีมงานก่อสร้างแล้ว
เย่ซิวเก็บร่างแยกทั้งห้าไว้ในจุดตันเถียนจากนั้นเขาก็ขังตัวเองบำเพ็ญตนในถ้ำอยู่อีกหลายวันเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็ทยอยส่งมอบโอสถให้กับแต่ละคนตามที่สั่งไว้ แลกกับวัตถุดิบล้ำค่าหลายชิ้นหลังจากนั้นเย่ซิวก็ตรงไปหาจางเสี่ยวอวี๋ “ฉันอยากไปตลาดมืด เธอพอมีช่องทางไหม”ตลาดมืดนี่ เย่ซิวเคยได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในสำนักอวิ้นหลิงแล้วเขาว่ากันว่าสถานที่ตั้งลึกลับสุด ๆนอกจากคนในสำนัก ก็ยังมีผู้บำเพ็ญจากสำนักอื่น ๆ แอบเข้ามาทำการค้าด้วยเบื้องหลังตลาดมืดเหมือนจะมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่หลายรายการซื้อขายข้างในถือว่าปลอดภัยมากมีของดี ๆ หลายอย่างที่โลกภายนอกหาไม่ได้แน่นอนว่าถ้ามีสมบัติติดตัวมากเกินไปแล้วโดนรู้เข้าตอนออกจากตลาดมืดอาจถูกตามฆ่าปิดปากหรือโดนปล้นก็ได้“ฉันรู้สิ สถานที่แบบนั้นต้องใช้ชุดพิเศษในการเข้าไปด้วย”จางเสี่ยวอวี๋พูดจบก็ดึงชุดคลุมสีดำออกมาจากแหวนผนึกของ“ในนั้นทุกคนต้องใส่ชุดนี้ ห้ามเปิดเผยตัวตน และต้องจ่ายค่าผ่านประตูสิบศิลาวิญญาณด้วยนะ”เย่ซิวรับเสื้อคลุมมาถือไว้แล้วจางเสี่ยวอวี๋ก็อธิบายเส้นทางไปตลาดมืดให้ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากสำนัก เป็นเมืองเล็ก ๆ แ
“อะไรนะ? แค่วันเดียวนายก็กลั่นสำเร็จจริงเหรอ?”ทันทีที่เห็นเย่ซิว เจ้าสำนักก็รีบถามขึ้นด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังเขาเองก็ไม่ได้เพิ่มพลังตัวเองมานานแล้วเหตุผลหลักก็เพราะไม่มีโอสถที่เหมาะสมพอให้ใช้โอสถระดับปฐมญาณนั้นหาได้ยากมากในตลาดต่อให้มีก็จะปรากฏแค่ในงานประมูลเท่านั้น และราคาก็มักจะพุ่งขึ้นสูงเทียมฟ้าเสมอแม้รั่วอวิ๋นจะสามารถกลั่นยาได้แต่เธอต้องลองห้าหกครั้งถึงจะสำเร็จสักครั้ง แถมแต่ละครั้งต้องใช้ต้นทุนมหาศาล“ผมไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังครับ” เย่ซิวยื่นโอสถเก้าเม็ดที่ถูกเจือจางแล้วให้ ก่อนถอนหายใจหนึ่งที “ไม่คิดเลยว่าฝีมือกลั่นโอสถของผมจะแย่ขนาดนี้ ทั้งหมดออกมาเป็นแค่ระดับต่ำ”เจ้าสำนักมองโอสถระดับปฐมญาณในมือแล้วถึงกับตกใจ แม้เขาจะเป็นคนสุขุมมาก แต่ก็ยังเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมาแล้วก็หัวเราะลั่นด้วยความยินดี “ดี ดีมาก ๆ ฝีมือกลั่นโอสถของนายอาจจะแซงหน้าอาจารย์ของตัวเองไปแล้วก็ได้นะ”เย่ซิวยิ้มเก้อ ๆ “ไม่น่าเป็นไปได้หรอกครับ ผมยังพัฒนาอีกมาก เอ่อ…”จู่ ๆ สีหน้าเขาก็ซีดเผือด ร่างกายโงนเงนเหมือนจะล้มเจ้าสำนักหรี่ตา “นายเป็นอะไรไป?”“ไม่เป็นไรครับ แค่เสียพลังมากเก
เย่ซิวเอ่ยรายชื่อวัตถุดิบออกมาติดต่อกันเป็นสิบ ๆ อย่างหนึ่งในนั้นก็คือวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายสำหรับการหลอมร่างแยกธาตุดินเขามีแผนการบางอย่างในใจ และจำเป็นต้องสร้างร่างแยกธาตุทั้งห้าสำเร็จเสียก่อนถึงจะลงมือได้ดวงตาของเจ้าสำนักเปล่งประกายวาบ “ฉันมีหินดินธาตุดั้งเดิมอยู่ก็จริง แต่ของสิ่งนี้ล้ำค่ามาก เว้นเสียแต่นายจะสามารถกลั่นโอสถระดับปฐมญาณออกมาได้”เย่ซิวพยักหน้า เขารู้จักโอสถประเภทนี้ดี มันสามารถเพิ่มพลังระดับปฐมญาณได้แต่กระบวนการกลั่นซับซ้อนมาก แถมวัตถุดิบยังหาได้ยากสุด ๆแค่ต้นทุนวัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นก็เกินสิบล้านศิลาวิญญาณแล้วผู้บำเพ็ญสายอิสระทั่วไปไม่มีทางสู้ราคาไหวแน่“แล้วเจ้าสำนักอยากได้กี่เม็ด ถึงจะยอมแลกล่ะครับ”“นายกลั่นได้จริงเหรอ?” เจ้าสำนักมองเย่ซิวด้วยสีหน้าตกตะลึง ดวงตาฉายแววไม่เชื่อโอสถชนิดนี้ไม่เหมือนกับโอสถวิญญาณหยก ระดับความยากสูงกว่ากันหลายเท่าเย่ซิวไม่ได้รีบตอบในทันที แต่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ผมขอลองก่อน ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะสำเร็จเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เจ้าสำนักให้วัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นกับผมก่อนถ้ากลั่นไม่ได้ ผมยินดีจ่ายค่าต้นทุน
เย่ซิวรีบวิ่งเข้าไปในห้องทันทีพอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเสี่ยวไป๋ลอยอยู่กลางอากาศพลังวิญญาณในห้องถูกดูดเข้าไปหามันอย่างบ้าคลั่งไม่กี่วินาทีก็สูบพลังวิญญาณจนหมดทั้งห้องจากนั้นร่างของมันก็ถูกห่อหุ้มด้วยรังไหมขนาดใหญ่ แล้วค่อย ๆ ลอยลงสู่พื้นอย่างช้า ๆเย่ซิวยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เสี่ยวไป๋กำลังจะวิวัฒนาการอีกแล้วรอบที่แล้วเหมือนจะพัฒนาขึ้นไม่มากเท่าไหร่แต่สัญชาตญาณของเย่ซิวบอกว่ารอบนี้น่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียวเขารีบเอาน้ำพุวิญญาณที่เหลืออยู่เทราดลงไปบนรังไหมทันที ซึ่งมันก็ถูกดูดซึมหายไปอย่างรวดเร็วนี่อาจช่วยเร่งขั้นตอนวิวัฒนาการให้เร็วขึ้นได้เย่ซิวเดินไปอุ้มเจ้าเสี่ยวอวี่ที่อยู่ไม่ไกลขึ้นมาเจ้าตัวนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากแต่ท้องของมันนี่เหมือนหลุมดำชัด ๆเย่ซิวเลยจัดเต็มอีกครั้ง เขากลั่นโอสถวิญญาณหยกมาอีกหมื่นเม็ดให้มันไว้กินเล่นทั้งสำนักอวิ้นหลิงคงไม่มีใครกล้าทำอะไรฟุ่มเฟือยอย่างเขาอีกแล้วล่ะในช่วงครึ่งเดือนหลังจากนั้น เย่ซิวก็หมกตัวอยู่แต่กับการกลั่นโอสถและฝึกฝนวิชาต่าง ๆข้างนอกเองก็เริ่มมีข่าวแพร่กระจายไปว่าเย่ซิวสามารถกลั่นโอสถวิญญาณหยกได้ควา
จากท่าทีและสีหน้าของทุกคน เย่ซิวก็พอเดาออกว่าโอสถนี่น่าจะหาได้ยากมากในตลาดไม่งั้นพวกเขาคงไม่แห่กันมาขอซื้อแบบนี้แน่เขาทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย “ผมก็อยากช่วยนะครับ แต่โอสถตัวนี้ตอนปรุงมันใช้พลังจิตเยอะมากวันหนึ่งผมปรุงได้ไม่กี่รอบเอง แถมวัตถุดิบก็หายากด้วย”ความหมายแฝงก็คือพวกคุณต้องเพิ่มเงินและเตรียมของมาเองซึ่งทุกคนก็ไม่ใช่คนโง่และเข้าใจเจตนาของเขาทันที ก่อนจะรีบเสนอว่า“ถ้างั้นแบบนี้ดีไหม โอสถวิญญาณหยกหนึ่งเม็ด ฉันให้หนึ่งพันหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณ ส่วนวัตถุดิบเราจัดการเอง แบบนี้ตกลงไหม”เย่ซิวคำนวณในหัวอย่างไวต้นทุนของโอสถวิญญาณหยกต่อเม็ดอยู่ที่ราว ๆ หนึ่งพันศิลาวิญญาณถึงจะรวมค่าแรงและพลังวิญญาณที่ใช้ก็ถือว่าต้นทุนต่ำมาก อย่างมากก็แค่เสียเวลาเฉย ๆเขาสามารถกลั่นได้เป็นหมื่นเม็ดในคราวเดียวถ้าขายให้คนพวกนี้หมื่นเม็ดก็เท่ากับว่าจะได้เงินถึงสิบกว่าล้านศิลาวิญญาณเลยทีเดียวกำไรขนาดนี้ก็แทบจะเรียกได้ว่ากินขาดแต่เย่ซิวก็ยังไม่ตอบตกลงทันที และทำท่าลังเลอยู่รั่วอวิ๋นที่ยืนข้าง ๆ ตบไหล่เขาเสียงดัง “ยังจะลังเลอะไรอีกล่ะ?นี่มันโอกาสทองเลยนะ ได้ทั้งเงินได้ทั้งฝึกฝีมือ”เย่ซิวถ
แล้วทุกคนก็เห็นจ่าฝูงเดินตรงไปหาเย่ซิว จากนั้นมันก็แลบลิ้นออกมาเลียหน้าของเขาเบา ๆ ด้วยแววตาประจบเอาใจสุด ๆทุกคนตกตะลึง “???”รั่วอวิ๋นถึงกับยืนนิ่งตัวแข็งเป็นหิน ตาถลน ปากอ้าค้างจากนั้นเธอก็ชี้ไปที่เย่ซิวอย่างโกรธจัด “นายยังจะกล้าบอกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกเหรอ แล้วนี่มันอะไรกัน?!”แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ สิงโตหยกขาวอีกเจ็ดตัวก็วิ่งตามกันมาล้อมเย่ซิวไว้รอบด้าน แถมยังมองรั่วอวิ๋นด้วยสายตาแข็งกร้าวอย่างเต็มไปด้วยท่าทีคุกคามรั่วอวิ๋นเผลอก้าวถอยหลังไปด้วยสีหน้าซีดเผือดความรู้สึกตอนนี้เหมือนโดนใครสักคนมายึดบ้านไปคนอื่น ๆ เองก็จ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาในแบบที่ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองภาพที่อยู่ตรงหน้ามันเหนือจริงเกินไปเย่ซิวทำหน้าใสซื่อ “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ”รั่วอวิ๋นโกรธจนตัวสั่นสัตว์ที่เธอเลี้ยงมากับมือหลายปีดันพร้อมใจกันหักหลังเธอแบบนี้ ใครจะทนได้มันไม่ใช่แค่เรื่องทรัพยากร แต่ยังรวมถึงความรู้สึกที่ทุ่มเทไปทั้งหมดด้วย!“นายบอกว่าไม่ได้ทำอะไร แล้วทำไมพวกมันถึงพร้อมใจกันหักหลังฉัน อธิบายมาเดี๋ยวนี้!” รั่วอวิ๋นกัดฟันพูด สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความคาดโทษถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่ให
ในใจรั่วอวิ๋นกำลังปลื้มเป็นที่สุดแต่ต่อหน้าคนอื่นเธอยังคงวางมาดสงบนิ่ง และพยักหน้าเบา ๆ แบบถ่อมตัวสุด ๆ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ แค่สัตว์วิญญาณไม่กี่ตัว เอาไว้เฝ้าประตูเฉย ๆ”คำพูดโอ้อวดแบบถ่อมตัวเช่นนี้ทำเอาคนที่ยืนฟังอยู่ถึงกับกระตุกมุมปากกันเป็นแถบเธอคิดว่านี่คือผักกาดขาวหรือไงนี่มันสัตว์วิญญาณระดับจินตานตั้งแปดตัวเชียวนะถึงสายเลือดของพวกสิงโตหยกขาวจะไม่ใช่ระดับสูงสุด แต่ก็ไม่ใช่พวกชั้นต่ำ อยู่ระดับกลางค่อนไปทางดีเลยด้วยซ้ำถ้าเลี้ยงต่อไปดี ๆ รับรองว่าเก่งขึ้นได้อีกแน่นอนลองจินตนาการดูสิ สิงโตหยกขาวแปดตัวคำรามพร้อมกันจะอลังการแค่ไหน มันต้องเป็นภาพที่อลังการและน่าเกรงขามสุด ๆ“เย่ซิวก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ” ภรรยาเจ้าสำนักทำทีเหมือนเพิ่งสังเกตเห็นเขาเย่ซิวยิ้มพลางเอ่ย “ขอคารวะท่านผู้อาวุโสทุกท่าน เจ้าสำนักและภรรยา ผมแค่มาให้อาหารพวกมันน่ะครับ”ทุกคนก็พยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงรับรู้ ไม่มีใครเชื่อมโยงได้ถึงเรื่องที่สัตว์วิญญาณเลื่อนระดับได้เพราะตัวเขาเลยแม้แต่น้อยไม่นานนัก สัตว์วิญญาณทั้งแปดตัวก็ค่อย ๆ สร้างตานปีศาจได้สำเร็จแทบจะพร้อมกันพลังที่ระเบิดออกมาทำให้เกิดพายุขนาดใหญ่ไปทั
แม้ว่ารั่วอวิ๋นจะรู้ดีว่าความคิดแบบนี้มันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ แต่เธอก็ห้ามตัวเองไม่ได้เลยจริง ๆถ้าเย่ซิวแค่ลองกลั่นโอสถเป็นครั้งแรกก็เก่งกว่าเธอแบบไม่เห็นฝุ่น แบบนั้นมันก็เหมือนโดนตบหน้าแรง ๆ เข้าให้แล้วแบบนี้จะรักษาภาพลักษณ์ความเป็นอาจารย์ไว้ต่อหน้าเขาได้ยังไงกันล่ะเสียงโครมดังขึ้น ก่อนที่ฝาปิดเตาจะหลุดออกกลิ่นหอมของโอสถที่เข้มข้นจนถึงขีดสุดกระจายไปทั่วเย่ซิวถึงกับใจหล่นวูบ คิดในใจว่าแย่แล้วถึงเขาจะพยายามเก็บงำกลิ่นเท่าที่ทำได้แล้ว แต่ดูเหมือนแค่กลิ่นที่ลอยออกมาก็แรงกว่าโอสถของรั่วอวิ๋นเสียอีกรั่วอวิ๋นพยายามควบคุมสีหน้าแล้วรีบเดินเข้าไปดูโอสถในเตาพอเห็นแล้วก็ถึงกับยืนช็อกไปทั้งตัวที่ก้นเตา โอสถจำนวนห้าสิบเม็ดวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ และแต่ละเม็ดก็ใสบริสุทธิ์ดูอัดแน่นไปด้วยพลังแต่สิ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้ที่สุดก็คือทุกเม็ดมีลวดลายโอสถปรากฏอยู่บนผิวของมัน หมายความว่าโอสถทั้งหมดนี้เป็นระดับสูงนี่มันไม่ใช่แค่โดนตบหน้าแล้ว แต่มันคือการโดนกดหัวลงพื้นแล้วลากไปเลยต่างหากเย่ซิวไอแห้ง ๆ หนึ่งทีและจงใจไม่เข้าไปดู แต่ทำท่าทางตื่นเต้นแล้วถามเธอด้วยสีหน้าลุ้น ๆ ว่า “ท่านอาจ
ทั้งความรู้ที่เคยได้รับรวมถึงทักษะการกลั่นโอสถต่าง ๆ ก็ควรจะเหนือกว่าตัวเขาแบบทิ้งห่างสิแต่ทำไมกลับรู้สึกว่ายังห่างชั้นจากเขาอยู่เยอะเลย?เย่ซิวยังคิดว่าตัวเองอาจจะคิดไปเองจึงตั้งใจดูต่ออีกสักพักจนสุดท้ายก็มั่นใจเต็มร้อยว่าทักษะการกลั่นโอสถของผู้หญิงคนนี้ไม่ถึงหนึ่งในสิบของเขาด้วยซ้ำแค่ฝีมือระดับนี้ก็ยังยืนหยัดอยู่ในโลกของผู้ฝึกตนได้ด้วยเหรอ?หรือโลกของผู้ฝึกตนมันหากินง่ายขนาดนั้นเลย?ความคิดสารพัดผุดขึ้นมาในหัวเย่ซิว แต่สีหน้าเขาก็ยังคงนิ่งเฉย ไม่แสดงพิรุธอะไรออกมาเลยหนึ่งชั่วโมงผ่านไป โอสถก็กลั่นเสร็จเรียบร้อยรั่วอวิ๋นเปิดฝาเตาก่อนจะหยิบเม็ดยาออกมาหนึ่งเม็ด ใบหน้าเต็มไปด้วยความพึงพอใจ “ไม่เลว ๆ หนึ่งเตาได้โอสถมายี่สิบเจ็ดเม็ด ระดับกลางหกเม็ด ถือว่าสมบูรณ์แบบ”จากนั้นเธอก็หันไปมองเย่ซิวแม้ใบหน้าจะดูเรียบเฉย แต่เย่ซิวก็พอจะจับความหมายแฝงได้ไม่ยากก็แค่รอให้เขาชมเธอนั่นแหละหากพูดตรง ๆ การกลั่นโอสถของรั่วอวิ๋นรอบนี้ถือว่าสอบตกสำหรับเย่ซิว เพราะวัตถุดิบที่ใช้ไปทั้งหมด ถ้าเป็นเขากลั่นเองอย่างน้อยจะได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแถมยังเป็นโอสถระดับสูงทั้งหมดด้วยซ้ำเมื่อเห็นโ