ปึก!ฉีฉูฉู่ทรุดตัวลงกับพื้น ร่างกายของเธอสั่นเทา ในดวงตาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวหลังจากนั้นไม่นานนัก เธอก็กลับมามีสติอีกครั้ง คว้าโทรศัพท์มือถือด้วยความตื่นตระหนกและกดหมายเลขของฉีตังกั๋วอย่างตัวสั่น“หาศพของเย่ซิวเจอแล้วเหรอ?”“เขา...เขา...” ฉีฉูฉู่รู้สึกเหมือนตัวเองพูดไม่เป็นภาษา จึงพูดตะกุกตะกักออกไป“เขา...ภาพที่โดรนส่งมาเมื่อสักครู่นี้...เขายังมีชีวิตอยู่และปลอดภัยดี...ไม่แม้แต่รอยขีดข่วน!”ฉีตังกั๋วดุ "เธอกำลังพูดเหลวไหลอะไร? ระเบิดระดับนั้น เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยได้ยังไง!"ฉีฉูฉู่กำลังจะร้องไห้ออกมาแล้ว "จริงนะคะ หนูส่งต่อภาพจากโดรนไปให้ปู่แล้ว"ทางด้านนั้น บังเกิดความเงียบขึ้นครู่หนึ่งฉีตังกั๋วกำลังดูการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์หลังจากดูวิดีโอที่ฉีฉูฉู่ส่งมาให้ เขาก็เกือบจะทรุดตัวลงไปฉากอัศจรรย์เช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกหมดหนทางและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“คุณปู่คะ ตอนนี้เราควรทำยังไงดี?” ฉีฉูฉู่ตื่นตระหนกมาก“เขาน่ากลัวเกินไปแล้ว จอมยุทธ์ยอดฝีมือในปัจจุบันเกือบทั้งหมดถูกเขากำจัดทิ้งไปแล้วแถมเขายังไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ทั้งที่ยืนอยู่ใจกลางการระเบิดที่รุนแรงขนาดนี้ ถ้าไ
นุ่งกางเกงขาสั้นจุ๊ดจู๋ ใส่เสื้อโชว์สะดือ แต่งหน้าสวยหวานผู้หญิงคนนี้เมื่อเห็นเย่ซิวในดวงตาก็เผยความเป็นศัตรู แต่เขาก็จับสังเกตมันได้อย่างชัดเจนยิ่งไปกว่านั้นเย่ซิวเคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน!จำได้ว่าเมื่อก่อนตอนที่อยู่บ้านไป๋อวี้เจี๋ย มีอยู่วันหนึ่งจู่ ๆ หลินโหรวก็วิ่งมาเคาะประตูเพื่อขอความช่วยเหลือบอกว่า 'แฟนสาว' ของเธอเสียเลือดมาก ต้องการความช่วยเหลือซึ่งก็คือคนที่อยู่ตรงหน้านี้หลิ่วเมิ่งอิ๋นวางเค้กไว้บนโต๊ะ พร้อมส่งยิ้มหวานให้เย่ซิว "พี่คะ ฉันเพิ่งทำเค้กเสร็จ ใช้วัตถุดิบเต็มที่ พี่ลองชิมดูนะคะ"เย่ซิวมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นแล้วถามว่า "เธอเป็นใคร?"“อ๋อ ฉันขอแนะนำให้พี่รู้จัก เธอชื่อหลิวเยวี่ยหง คุณครูสอนทำขนมคนใหม่ของฉันค่ะเธอทำเค้กเก่งมาก และช่วงนี้เธอเพิ่งอกหัก เลยขอมานอนกับฉันคืนนี้ค่ะ”เย่ซิวรู้สึกตหงิดใจทันทีเธอเลิกกับหลินโหรวแล้วเหรอ?ตอนนี้คิดจะมาเล็งผู้หญิงของเขาอีกงั้นสิ?เย่ซิวพยักหน้าและนั่งลงอย่างสงบหลิ่วเมิ่งอิ๋นนั่งลงข้าง ๆ เธอตัดเค้กให้เย่ซิวและป้อนใส่ปากเขา "ให้ฉันป้อนพี่นะคะ"หลิวเยวี่ยหงกำหมัดอย่างเงียบ ๆ ด้วยสีหน้าอิจฉาริษยาอยู่ฝั่งตรงข้ามเย
หลิวเยวี่ยหงเอาหูแนบประตูแล้วตั้งใจฟังเย่ซิวยกยิ้มอย่างเย็นชาอยู่ในห้องหลังจากที่หลิ่วเมิ่งอิ๋นกลืนโอสถฟื้นฟูสามเม็ดติดต่อกัน บวกกับเย่ซิวใช้พลังวิญญาณช่วยเธอทำการทะลวง ในที่สุดเธอก็สามารถทะลวงระดับได้สำเร็จหลังจากเข้าสู่จอมยุทธ์ระดับหกแล้ว ร่างกายของเธอได้ถูกชะล้างทั้งภายในและภายนอกอีกครั้งรูปร่างมีแนวโน้มสมบูรณ์แบบมากขึ้น ทุกตารางนิ้วของผิวหนังราวกับว่าถูกแกะสลักด้วยมือของพระเจ้ากลิ่นหอมอ่อน ๆ คล้ายกลิ่นเด็กทารกลอยออกมาจากร่างกายเธอ กลิ่นมันช่างหอมเหลือเกินเย่ซิวดึงเธอเข้ามา ทั้งสองหันหน้าเข้าหากันผิวพรรณของหลิ่วเมิ่งอิ๋นเริ่มผุดผ่องมากขึ้น เปล่งประกายราวไข่มุกทรวดทรงองเอวจัดอยู่ในประเภทที่ผู้ชายมองแล้วเลือดกําเดาไหลเย่ซิวอุ้มสาวสวยไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็...ถึงหลิ่วเมิ่งอิ๋นจะดูบอบบางมากหลังจากเข้าสู่ระดับปรมาจารย์แล้ว แต่ในความเป็นจริงแม้ว่าจะถูกวัวชนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรดังนั้นถึงจะมีเรื่องอย่างว่าเป็นครั้งแรก ก็จะไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดต่อมา เย่ซิวจงใจส่งเสียงเพื่อให้หลิวเยวี่ยหงที่กำลังแอบฟังอยู่ข้างนอกได้ยินเย่ซิวอยากตอกย้ำให้เธอทุกข์ทรมานใจมากขึ้น เขาม
ขบวนรถหรูขับมาแต่ไกล และจอดอยู่ตรงหน้าพวกหลี่หงหงดวงตาของหลี่หงหงแทบจะถลนออกมาจากเบ้า มองดูรถหรูพวกนี้ที่เธอเห็นแต่ในทีวีเท่านั้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแฟนหนุ่มของเธอตกใจยิ่งกว่า "จากัวร์ แฟนธอม โรลส์-รอยซ์...รถหรูมากมายขนาดนี้ รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่าไม่ต่ำกว่าสองหมื่นล้าน เขาคือคนใหญ่คนโตคนไหนเนี่ย?"หลังจากที่หลี่หงหงได้ยินคำว่าไม่ต่ำกว่าสองหมื่นล้าน เธอก็หยุดหายใจ และรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป นี่เป็นสิ่งเธอสามารถใช้โอ้อวดในอนาคตได้ถ่ายรูปไปฝันหวานไป "คงจะดีมากถ้าขบวนรถหรูพวกนี้มารับฉัน"ขบวนรถหยุดลง มีชายชุดดำทยอยลงจากรถแต่ละคันพวกเขาทั้งหมดสวมแว่นตาดำ สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร และยืนตัวตรงราวกับหอกหลี่หงหงกับแฟนหนุ่มไม่กล้าแสดงความรู้สึกอะไรออกมาออร่าที่เปล่งออกมาจากคนเหล่านี้ช่างน่ากลัวจริง ๆเมื่อหลี่หงหงเห็นจวงเสี่ยวหยิงยังยืนอยู่ตรงนั้น เธอก็โกรธทันทีและตะโกนว่า "ยัยโง่ มัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น รีบไสหัวไปให้พ้น อย่าขวางทาง!"บางคนก็เป็นเสียแบบนี้ เมื่อเห็นคนรวย ๆ ถึงเขาจะไม่รู้จักตัวเองก็ตาม แต่ก็ยังยอมคลานเข่าเข้าไปเลียแข้งเลียขาเห็นได้ชัดว่าหลี่หงหงเป็นค
ตราบเท่าที่คุณรวยมากพอ ก็สามารถทำได้ทุกอย่าง มีคนมากมายยอมทำงานให้คุณในเวลาเพียงไม่กี่นาที ก็ทราบข้อมูลทั้งหมดของสองคนนี้ทั้งคู่ไม่ใช่คนดีอะไรหลี่หงหงคบผู้ชายนับร้อยคนภายในสองปี และเคยคบซ้อนสิบกว่าคนในเวลาเดียวกัน ได้รับเงินทองมากมายจากผู้ชายเหล่านั้นจนนิสัยกลายเป็นคนใช้เงินฟุ่มเฟือย และเมื่อไม่นานมานี้เธอกู้เงินนับสิบล้านเพียงเพราะอยากได้เครื่องประดับชิ้นหนึ่งส่วนแฟนหนุ่มของเธอ เขาหลอกผู้หญิงหลายคนและยังให้ผู้หญิงจำนวนหนึ่งทำแท้งเพราะเขาด้วยตระกูลของเขาถือว่าร่ำรวย มีทรัพย์สินหลายพันล้าน แต่รากเหง้าไม่สะอาดเช่นกันภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที สิ่งที่ทั้งสองคนทำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้ถูกเปิดโปงทางโซเชียล ในสื่อใหญ่ ๆ และในแวดวงสังคมต่าง ๆ ของพวกเขามีแม้กระทั่งภาพวิดีโอของหลี่หงหงขณะกำลัง 'รับแขก' อีกด้วยทันใดนั้นกลุ่มเพื่อนของเธอก็แตกตื่นกับข่าวนี้มากโดยเฉพาะสุนัขเลียแข้งเลียขาที่ชอบยกยอเธอเป็นนางฟ้า พวกเขารับไม่ได้อย่างแรง และด่าทอเธอเสีย ๆ หาย ๆ พ่อแม่ญาติพี่น้องของเธอเห็นข่าวนี้แล้วต่างเป็นลมหมดสติไปทีละคนไม่ต้องโทรมาถาม รูปภาพวิดีโอพวกนั้นชัดเจนมากแล้ว จำไม่ผิดค
โรงเรียนที่จวงเสี่ยวหยิงเรียนอยู่นั้นอยู่อันดับล่างสุดของเมืองหลวงซึ่งแน่นอนว่าเย่ซิวสามารถหาโรงเรียนที่ดีกว่านี้ให้เธอได้แต่เมื่อพิจารณาว่าเธอขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมานานเกินไป และสถานการณ์ของโรงเรียนชั้นนำเหล่านั้นก็ยิ่งซับซ้อน คิดแล้วก็ช่างมันเถอะต้องปรับตัวเข้ากับโรงเรียนระดับล่างสักระยะหนึ่งก่อน แล้วค่อยย้ายไปโรงเรียนระดับสูงกว่านี้ตอนเช้าตรู่ เห็นชายหนุ่มหญิงสาวเดินเข้ามาในโรงเรียนเป็นคู่ ๆ สิ่งที่นักเรียนพูดคุยกันส่วนใหญ่ล้วนเกี่ยวข้องกับจวงเสี่ยวหยิงทั้งสิ้น“ผู้หญิงคนนั้นอวดดีจริง ๆ กล้าปฏิเสธคำสารภาพรักของฉีเสี่ยวหู่”“ฮึ ฉันคิดว่าเธอแค่เล่นตัว อยากรอราคาสูงแล้วค่อยขาย”“ใช่ ๆ สภาพเธอดูจนขนาดนั้น คิดว่าตัวเองสวยหน่อย เลยทำตัวหยิ่ง เห็นแล้วก็หมั่นไส้”“ฮึ่ม คิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหน”……ช่วยไม่ได้ จวงเสี่ยวหยิงเหมือนกับดอกบัวขาวสะอาดท่ามกลางโคลนตม เธอไม่เข้ากับโลกที่ขุ่นมัวใบนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงดึงดูดความอิจฉาริษยาและการใส่ร้ายมากมาย“ทุกคนรีบไปที่หน้าประตูโรงเรียนด่วน มีรถหรูขับมาหลายคันเลย ต้องเป็นดาราดังแน่ ๆ!”เด็กชายคนหนึ่งตะโกนซึ่งดึงดูดผู้คน
...... ตอนที่จวงเสี่ยวหยิงก้าวลงจากรถหรู ฉากนี้มันส่งผลกระทบต่อพวกเขามากเกินไปแม้แต่ผู้บริหารระดับสูงของโรงเรียนก็ยังตกตะลึงเย่ซิวจับมือจวงเสี่ยวหยิงเผชิญหน้ากับฝูงชนด้วยเสียงที่มั่นคงและทรงพลัง "ฉันชื่อเย่ซิว ผู้ถืออำนาจของบริษัทสตาร์รี่สกายบางคนอาจไม่รู้จักบริษัทนี้ แต่ทุกคนน่าจะรู้จักครีมผิวหยกกันเป็นอย่างดี นั่นเป็นครีมของบริษัทฉันเอง”ตู้ม!คำพูดของเย่ซิวเหมือนกับการทิ้งระเบิดใส่ฝูงชน มันทำให้ทุกคนวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมตอนนี้มีใครไม่รู้จักครีมผิวหยกบ้าง?ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ แม้แต่ชาวต่างชาติมากมายก็แห่เข้ามาซื้อกลับประเทศไปเป็นจำนวนมากคนโง่ยังรู้เลยว่าบริษัทขายครีมผิวหยกตอนนี้สุดยอดแค่ไหนเย่ซิวพูดต่อ "ฉันไม่กลัวที่จะบอกทุกคนในที่นี้ว่า ทรัพย์สินที่มีของฉันตอนนี้เกินสามสิบล้านล้านบาทบาท ฉันรวยและรวยมาก!และผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าพวกคุณ จวงเสี่ยวหยิง เธอเป็นน้องสาวของฉัน เป็นองค์หญิงน้อยของบริษัทสตาร์รี่สกายอีกด้วยการพาเธอมาพบทุกคนในวันนี้ เพราะหวังว่าพวกเธอจะไม่รังแกเธอ ไม่เช่นนั้นฉันจะแก้แค้นอย่างสาสมมีผู้ชายแซ่ฉีในโรงเรียนนี้ใช่ไหม เมื่อคืนนี้เขารังแกน้อ
ในศาลากลางทะเลสาบ มีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้านั่งอยู่กระโปรงขาว รองเท้าขาว และแม้แต่ผมของเธอก็ผูกด้วยโบสีขาวเธอก้มหน้าอ่านหนังสือทำให้มองเห็นใบหน้าไม่ค่อยชัดจวงเสี่ยวหยิงดึงเย่ซิวเข้ามา“ชิงเสวี่ย เธอมาอ่านหนังสือที่นี่อีกแล้ว”หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าอันสวยงามใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต ผิวขาวอมชมพู สวยเหมือนหญิงงามสมัยโบราณเธอมีนิสัยรักสงบ ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเย่ซิวเผยสีหน้าประหลาดใจไม่ใช่ว่าเขาประหลาดใจกับหน้าตาของเธอ แต่เป็นศักยภาพของเธอต่างหากแม้ว่าหญิงสาวที่ชื่อชิงเสวี่ยตรงหน้านี้ จะมีความโดดเด่นในทุกด้าน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครเทียบได้จอมยุทธ์ระดับแปด!ผู้หญิงคนนี้ดูเด็กกว่าตนเองเล็กน้อย แต่ไม่คิดว่าจะมีพละกำลังระดับนั้นจริง ๆเย่ซิวไม่เคยสบประมาทใครในโลกนี้ และเขาไม่ใช่คนเดียวที่มีพรสวรรค์ราวกับปีศาจชิงเสวี่ยลุกขึ้นยืน เธอยิ้มหวานและพูดด้วยเสียงไพเราะ "เสี่ยวหยิง วันนี้เธอดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยนะ"จวงเสี่ยวหยิงหัวเราะคิกคัก "ใช่แล้ว ฉันขอแนะนำให้เธอรู้จัก นี่คือเย่ซิว พี่ชายของฉัน "ชิงเสวี่ยมองไปที่เย่ซิว "ได้ยินชื่อเสียงคุณมานา
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ
“เดี๋ยวก่อน ฉันตกลง!”ในที่สุด เมื่อหลี่ต้าจ้วงเห็นเย่ซิวเตรียมจะจากไป เขาก็แสดงการเลือกของตัวเองเย่ซิวหยุดฝีเท้า หมุนตัวกลับมา สีหน้าไม่ได้แสดงถึงความประหลาดใจมากนักแต่ชูตงกลับหันหน้าไปพรวด มองไปที่หลี่ต้าจวงด้วยความไม่เชื่อ "คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?"หลี่ต้าจวงวิ่งไปคว้ากระเป๋าเดินทางจากมือของเย่ซิว ยืนอยู่ที่ประตู และหัวเราะอย่างดุร้าย“ฉันน่ะเบื่อเธอจะตายอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าหุ่นเซ็กซี่ขนาดนี้ ยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!อยู่กับเธอมาตั้งนาน แม้แต่มือก็ยังไม่ยอมให้จับในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ฉันเอาเงินแล้วไปสนุกข้างนอกดีกว่า พวกเราบอกลากันตรงนี้เถอะ!”พูดจบ เขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางแล้วจากไปชูตงราวกับถูกสายฟ้าฟาด คนทั้งคนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ตัวเองคิดจะฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาเพื่อเงินแค่ไม่กี่สิบล้าน ถึงกับกระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาน้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเย่ซิวมองไปที่เธอ "พรุ่งนี้ไปทำงานต่อนะ อย่ามาสายล่ะถ้าคุณกล้าลาออกจากบริษัทโดยพลการ บริษัทจะให้คุณจ่ายค่าผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านทีเดียว”แม้ว่าตอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ขึ้นราคาต่อไป "ยี่สิบห้าล้าน"แถมยัง วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่เขานำมาไว้บนพื้นแล้วเปิดออกมันเต็มไปด้วยธนบัตรหลงเถิงที่มีมูลค่าฉบับละหนึ่งพันบาท!"ซู้ด!!!"หลี่ต้าจ้วงสูดลมเย็นเข้าปอด จ้องมองไปที่เหรียญหลงเถิงที่ดูเหมือนจะเรืองแสงได้ในชีวิตนี้เขายังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ไร้ชีวิต การที่มีเงินสดกว่ายี่สิบห้าล้านมาวางกองตรงหน้า ย่อมส่งผลกระทบมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเย่ซิวเห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขาหวั่นไหวแล้ว จึงพูดอย่างล่อลวงไปว่า “คุณคงไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนใช่ไหม?คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ล่ะ? กะประมาณหนึ่งแสนบาทก็แล้วกันถ้าคุณไม่กินหรือดื่มเลย หนึ่งปีก็จะเก็บเงินได้หนึ่งล้านสองแสนบาท และต้องใช้เวลามากกว่ายี่สิบปีถึงจะสามารถเก็บเงินได้ยี่สิบห้าล้านในความเป็นจริงทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นไปไม่ได้ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายของเมืองหลวง หนึ่งปีเก็บเงินได้สักห้าแสนบาทก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้วหรือก็คือ คุณต้องใช้เวลาถึงสี่สิบปีจึงจะมีเงินยี่สิบห้าล้านตอนนี้ตราบเท่าที่คุณพยักหน้า เงินนี้ก็จะเป็นของคุณด้วยเงิ
ชายคนนั้นเปิดประตู ก็เห็นว่ามีชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบมากคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นเย่ซิว ความริษยาก็วาบผ่านดวงตาของผู้ชายคนนั้น การมีอยู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนยืนอยู่ต่อหน้าเขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ตัวเขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้น“คุณเป็นใคร!”ด้วยเหตุนี้ น้ำเสียงของชายคนนั้นจึงไร้ความเป็นมิตรอย่างมาก แถมด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย เขามองไปทางห้องครัวโดยไม่รู้ตัวกลัวว่าจู่ ๆ ชูตงจะวิ่งออกมา แล้วตกหลุมรักเย่ซิวทันทีหลังจากที่ได้พบเขานี่คือผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เสแสร้ง และขาดความมั่นใจในตนเองอย่างมากเย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ชูตงอยู่ที่นี่ใช่ไหม ผมเป็นประธานของบริษัทของเธอ คุณคงเป็นแฟนเธอสินะ"“หืม?!”ชายคนนั้นเริ่มตื่นตัวทันที "คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?"“ไม่เชิญผมเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ?” เย่ซิวพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้ “ผมมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อมอบความมั่งคั่งให้กับคุณ”"ใครคะ?"ตอนนี้เอง ชูตงที่สวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับทัพพีในมือขวาเมื่อเขาเห็นเย่ซิว ม่านตาของเธอก็หดตัวลงเล็กน้อย "ประธาน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่คะ?"ไม่กี่นาทีต่อมา เย่ซ
นี่คือคำสัญญาที่เย่ซิวให้ไว้ต่อเธอลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาของเธอลงอย่างมีความสุขวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมากนัก ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เลยบำเพ็ญตนกับเย่ซิวตลอดลากยาวไปจนถึงห้าโมงเย็นถึงได้หยุดห้าโมงเย็น ก็เลิกงานแล้วเย่ซิวขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับไปก่อน เนื่องจากเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเมื่อมาถึงลานจอดรถ หลางต้าก็รออยู่ข้าง ๆ รถของเย่ซิวแล้วมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ที่เท้าของเขา“นายน้อย!” หลางต้าโค้งตัวลงแล้วพูด “ทุกสิ่งที่คุณต้องการเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”เย่ซิวพยักหน้า "ได้ นายกลับไปเถอะ"เขาใส่กระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ จากนั้นขับรถออกไปจุดหมายคือบ้านเช่านอกชานเมืองที่ชูตงอาศัยอยู่เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงานถึงที่นี่ ทุกวันคือราวสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงเย่ซิวดูเงินเดือนของชูตงซึ่งมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหลังจากหักภาษีในทุกเดือนแล้วราคาบ้านใกล้บริษัทอยู่ที่ประมาณสองหมื่นห้าพันบาท ซึ่งอิงตามหลักการแล้วเธอน่าจะแบกรับไหวถึงจะถูกเมื่อเขามาถึงบ้านเช่าของชูตง เขาก็จอดรถ ยกกระเป๋าเดินทางออกมา แล้วเดินไปที่เขตชุมชนด้านหน้าเขตชุมชนแห่งหนึ่ง ในห้องสามศูนย์แปด
"ตอนนี้คุณมีแฟนหรือยัง?"เมื่อได้ยินแบบนี้ ชูตงก็รู้สึกรังเกียจเธอแอบคิดว่าเย่ซิวประธานใหญ่คนนี้ ดูเหมือนจะซื่อตรงและมีเกียรติ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆหลายคนเคยถามคำถามนี้กับเธอเธอรู้ตัวดีว่าเธอมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายมากจริง ๆแม้ในใจจะดูแคลน แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อย “เรียนท่านประธานคะ มีแล้วค่ะ เป็นคนที่บ้านแนะนำมา ในอีกไม่กี่เดือนก็จะกลับไปหมั้นกันแล้ว”เย่ซิวขานรับอืมหนึ่งที "อืม ออกไปทำงานเถอะ"ชูตงตกตะลึงไปครู่หนึ่งเธอนึกว่าเย่ซิวจะขอให้เธอเป็นคนรักลับ ๆ ของเขาแต่เป็นแบบนี้ก็ดี ตัวเองเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ยังไม่อยากลาออก อยู่ที่นี่เธอทำงานอย่างมีความสุขมากเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์บริหารงานเข้มงวด จึงไม่มีความน่ารังเกียจทุกประเภทที่พบในที่ทำงานภายนอกปรากฏขึ้นที่นี่หลังจากที่เธอออกไป เย่ซิวก็นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของเซี่ยซิ่วซิ่ว เปิดรายชื่อพนักงาน และพบข้อมูลของชูตงเธอมาจากชนบทและเพิ่งจะเรียนจบ แต่กลับเปลี่ยนงานมามากกว่าสิบตำแหน่งแล้วในเรซูเม่ระบุว่างานเหล่านั้นทำเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ประธานหรือหัวหน้างาน
ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างด่าบริษัทเครื่องสำอางเหล่านั้นอย่างสาดเสียเทเสียว่าใช้ไม้อ่อนไม่ได้ก็เลยใช้ไม้แข็ง ไร้ศีลธรรมมากเกินไปแล้วเมื่อสักครู่นี้เพิ่งมีข่าวส่งมา ว่ามีผู้คนหลายหมื่นคนของประเทศอวี้ไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา"เย่ซิวเตือนไปหนึ่งประโยค "ผลกำไรของเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ต้นทุนที่เพิ่มมาก็ปล่อยให้พวกเขาไปแบกรับแทนอย่างไรเสียพวกเราคือ 'เหยื่อ' และหากมีคำด่าทออะไรก็ให้บริษัทของแต่ละประเทศไปแบกรับกันเอาเอง"เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มอย่างมีความสุขมาก "อืม ฉันรู้แล้วเว้นเสียแต่ประเทศต่าง ๆ จะห้ามไม่ให้ผู้คนเดินทางไปยังประเทศอวี้ ธุรกิจของเราก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก"แต่มันไม่สมจริงเลยที่จะห้ามไม่ให้ผู้คนไปที่ประเทศอวี้ประเทศอวี้เป็นประเทศที่เป็นกลางอย่างยิ่ง ได้รับการคุ้มครองจากหลายร้อยประเทศ แถมยังเป็นเขตปลอดภาษีอีกด้วยใครก็ตามที่แบนมัน จะต้องเผชิญการประท้วงอย่างรุนแรงแน่นอน“จริงสิ ชิงชิงจะมาถึงบ่ายวันนี้ ฉันจะไปรับเธอ นายจะไปไหม?”เกี่ยวกับเซี่ยชิงชิง เซี่ยซิ่วซิ่วบอกเขาเมื่อวานนี้ตอนนี้ตัวหมากนี้มีผลต่อเย่ซิวไม่มากแล้วบวกกับหลังจากที่เซี่ยซิ่วซิ่วติดตามเขาเธอก็ทำง
“นาย...นายท่าน...”ภายใต้การล่อลวงอย่างต่อเนื่องของเย่ซิว น่าหลันเยียนหรานมีเพียง 'ยอมแพ้' ในที่สุดนอกจากความเขินอายที่มีอยู่ น่าหลันเยียนหรานยังรู้สึกถึงความรู้สึกที่พิเศษมาก ซึ่งมาจากก้นบึ้งของหัวใจ นั่นคือความรู้สึกถูกครอบงำที่แสนประหลาด!หลังจากบำเพ็ญตนจนถึงเที่ยงคืน น่าหลันเยียนหรานก็หลับสนิทไประหว่างที่หลับ ร่างกายของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วมากถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาก็จะขึ้นเป็นปรมาจารย์ทั้งหมดแม้ว่าในอนาคตเขาจะไม่ออกหน้า แต่ผู้หญิงข้างกายเขาเหล่านี้ก็สามารถครองยุทธภพเย่ซิวไม่ได้พักผ่อน แต่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้าง ๆ น่าหลันเยียนหราน หยิบสุราวิญญาณออกมาดื่มอึกใหญ่ แล้วใช้วิชายุทธเริ่มปรับแต่งมันอย่างเงียบ ๆตอนนี้เป้าหมายของเขาคือการเข้าสู่ขั้นอมตะให้เร็วที่สุด แบบนี้ถึงจะสามารถรู้ความหมายของคำพูดที่หยางชิงเสวี่ยพูดไว้ว่าถ้าเขาได้เธอ ก็จะได้ครอบครองพลังที่ทรงพลังมากเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อน่าหลันเยียนหรานตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่ามีพลังไหลไปทั่วทั้งร่างกาย หูและสายตาของเธอเฉียบคมขึ้น สภาพดีชนิดที่ว่าเมื่อก่อนเทียบไม่ติด“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเย่”
น่าหลันเยียนหรานหัวเราะคิกคัก "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดื่มเก่งมาก มา ดื่มกันต่อ..."โดยปกติแล้วคนที่ชอบพูดว่าตัวเองดื่มเก่ง ในความเป็นจริงล้วนไม่ค่อยจะเท่าไหร่ยกตัวอย่างเช่นน่าหลันเยียนหราน อวดว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ดื่มไปสามแก้วติดกัน ก็นอนฟุบหมดสติไปกับโต๊ะแล้วเย่ซิวส่ายหัวอย่างหมดคำพูด เดินขึ้นไปแล้วอุ้มเธอกลับไปที่ห้องน่าหลันเยียนหรานดูตัวสูงเพรียว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตัวหนัก น่าจะสักประมาณสี่สิบห้ากิโลกรัม สำหรับเย่ซิวแล้วจึงไม่ต่างอะไรกับการอุ้มก้อนสำลีมากนักเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของน่าหลันเยียนหราน กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกมะลิก็ลอยมาปะทะจมูก ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานเมื่อได้กลิ่นห้องพักสะอาดมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้คนเห็นแล้วต้องหน้าแดงเขาวางเธอลงเบา ๆ ไม่ทันรอให้เย่ซิวดึงมือกลับไป เธอก็ลืมตาที่แดงก่ำขึ้นแล้วพูดอย่างคลุมเครือฟังไม่ค่อยชัดแต่เย่ซิวได้ยินมันอย่างชัดเจนมาก เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "คุณแน่ใจเหรอ? ผมไม่สามารถให้สถานะแก่คุณได้"น่าหลันเยียนหรานค่อย ๆ หลับตาลง ท่าทางเหมือนยอมให้ท่านกระทำได้ทุกอย่างนี่เป็นการตัดสินใจเลือกของเธอเอง เย่ซิวไม่ได้บังค