“เป็นหน่วยข่าวกรองชั้นยอดที่มีสายสืบกระจายกว่าสองร้อยประเทศทั่วโลก” หยางชิงเสวี่ยเปิดเผยความลับนี้“เรามีสุดยอดข่าวกรองนับไม่ถ้วน ซึ่งหากมอบข้อมูลเหล่านี้ให้กับประเทศหลงเถิง จะสามารถขยายที่ดินเพิ่มเป็นสองเท่าภายในสิบปี!”สิ่งนี้วนเวียนอยู่ในใจของเย่ซิว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจท่านอาจารย์ของเขาทรงพลังเกินไปมากจริง ๆ ไม่คิดว่าจะเตรียมการไว้มากมายขนาดนี้“เพื่อเป็นของขวัญสำหรับการพบกันครั้งแรก ฉันจะให้ข้อมูลแก่คุณฟรี ๆ หนึ่งอย่าง”เมื่อพูดเช่นนั้น หยางชิงเสวี่ยก็หยิบกระดาษที่พับอยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมามอบให้เย่ซิวเย่ซิวรับมันมาและเปิดดู ในนั้นมีรูปแผนที่ และรายละเอียดตัวเลข เครื่องหมายสัญลักษณ์ต่าง ๆ หยางชิงเสวี่ยพูด "ตำแหน่งที่ระบุไว้บนแผนที่คือค่ายทหารของประเทศคาบูประเทศนี้ถูกควบคุมอย่างลับ ๆ โดยสมาชิกทั้งหกคนของหอการค้าไป๋ชวนเมื่อหลายปีก่อนเนื่องจากคุณสังหารจอมยุทธ์ยอดฝีมือของยุทธภพไปหลายคนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สมาชิกทั้งหกคนและเครือญาติของพวกเขาจึงทยอยย้ายไปที่ประเทศคาบูกันแล้วนอกจากนี้พวกเขายังใช้วิธีการต่าง ๆ ในการขนย้ายทรัพย์สินออกไปทีละนิดโดยทำอย่างลับ ๆ ซึ่งขณะน
เย่ซิวตระหนักถึงพลังของยามังกรพยัคฆ์อย่างถ่องแท้หลังจากทานมันไป จะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ชายโดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่ายาแซดวายใด ๆ ในท้องตลาด เมื่อวางขายแล้วจะเกิดการแย่งชิงอย่างแน่นอนหลังจากแน่ใจแล้วว่ายาไม่มีปัญหาใด ๆ เย่ซิวจึงเริ่มเตรียมการผลิตสวนสมุนไพรทั้งหมดมีขนาดใหญ่โต เพียงพอที่จะผลิตให้ตนเองได้ยามังกรพยัคฆ์ที่วางขายนี้จะแบ่งออกเป็นสองสูตรที่แตกต่างกันสูตรในประเทศกับสูตรต่างประเทศสูตรในประเทศทำจากสมุนไพรชั้นเลิศที่ปลูกในสวนสมุนไพร โดยให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับสูตรต่างประเทศ เขาวางแผนซื้อสมุนไพรคุณภาพต่ำที่สุด และลดต้นทุนให้ต่ำมากที่สุด ผลลัพธ์คาดว่าจะมีเพียงหนึ่งในสิบของสูตรในประเทศแต่ในแง่ของราคา เย่ซิววางแผนที่จะตั้งราคาสูงกว่าในประเทศประมาณสิบเท่าแต่ก่อนเรื่องแบบนี้ ประเทศมหาอํานาจทางเทคโนโลยีในต่างประเทศทํากันบ่อย ๆตอนที่ประเทศหลงเถิงยังค่อนข้างล้าหลัง มักถูกเรียกราคาสูง ๆ เอาเปรียบอยู่เสมอสกรูหนึ่งตัวที่ต่างประเทศขายห้าสิบบาท แต่ในประเทศสามารถขายได้ในราคาห้าหมื่นบาท แถมยังมีท่าทางชนิดที่ว่าใครไม
ไม่นานก็มีข้อความตอบกลับมาว่า หลินโหรวลาออกแล้วและให้คนอื่นทำงานแทนที่ตำแหน่งเธอแล้วเย่ซิวเดาว่าเป็นเพราะเธอเลิกกับหลิวเยวี่ยหง จึงทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้เขาไม่ได้เข้าไปคุย เพราะไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้านผู้หญิงคนนี้มักจะตั้งแง่กับเขาเสมอ จะเข้าไปหาเรื่องใส่ตัวทำไมเบียร์หนึ่งโหลถูกนำมาเสิร์ฟ เธอดื่มทีละขวดดื่มไปส่งข้อความเสียงไป“อย่าทิ้งฉันไปได้ไหม?”“ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ”“เหตุผลคืออะไร เราคบกันมาตั้งหลายปี อยากเลิกก็เลิกงั้นเหรอ?”“อ๊ากกก..ตอบสิ อย่าเมินใส่ฉัน”…… ยิ่งร้องไห้ เธอก็ยิ่งเศร้า และยิ่งดื่มหนักขึ้นไปอีกยิ่งดึก จำนวนแขกยิ่งค่อย ๆ เพิ่มขึ้นชายฉกรรจ์สามคนเดินเข้ามาเมื่อเห็นหลินโหรวเมาแอ๋นั่งคุยกับตัวเอง พวกเขาก็ตาลุกวาวทันทีพวกเขาพร้อมใจกันเดินเข้าไป“น้องสาว เธอเมาหรือเปล่า?”“อยู่คนเดียวข้างนอกมันอันตราย ให้พี่ ๆ ไปส่งบ้านดีกว่า”หลินโหรวกะพริบตา "ไสหัวไป ไอ้โสโครก น่าขยะแขยง"ชายฉกรรจ์ทั้งสามคนไม่ได้โกรธ พวกเขาหัวเราะและพยายามดึงหลินโหรวขึ้นมาเพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!วินาทีต่อมา พวกเขาทั้งสามถูกขวดเหล้าฟาดไปที่ท้ายทอย หน้ามืดเป็นลมหมดสติทันที
คำพูดยั่วยุของหลินโหรวได้ผลอย่างแท้จริง เย่ซิวทนผู้หญิงคนนี้มานานแล้ว ในเมื่อเธอต้องการท้าทายเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไปในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็ได้ปลูกฝังทัศนคติและมุมมองชีวิตที่ถูกต้องให้กับเธอด้วยสิ่งที่เธอเคยเชื่อถือมาก่อนนั้นบิดเบี้ยวผิดเพี้ยนไป สำหรับหลินโหรวที่เป็น ‘ผู้ป่วยขั้นวิกฤติ’ แบบนี้ ต้องได้รับการรักษาด้วยยาแรงเท่านั้นและเพราะเหตุนี้ เย่ซิวจึงทำให้เธอกลับมาในทิศทางที่ถูกต้องเธอเพิ่งจะได้รู้ว่า ความสัมพันธ์ปกติระหว่างชายหญิงนั้นเป็นแบบนี้เองเย่ซิวมองดูเวลาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้วเวลาที่เขานัดกับไป๋อวี้เจี๋ยคือสี่ทุ่มครึ่ง หลินโหรวที่เหนื่อยล้าจนทนไม่ไหวได้หลับสนิทไปแล้ว เย่ซิวจึงออกจากห้องไปโดยไม่รบกวนเธอ ที่นี่ปลอดภัยและสะอาดดี ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะเกิดปัญหาอะไรเย่ซิวขับรถออกจากโรงแรมและมาถึงที่พักของไป๋อวี้เจี๋ยตามเวลาที่นัดไว้ แต่เมื่อเขามาถึงหน้าประตู กลับพบว่ามีรองเท้าผู้หญิงอีกคู่หนึ่งวางอยู่ กลิ่นบางอย่างที่ลอยในอากาศทำให้เขารู้ทันทีว่าเป็นของใครเขากดรหัสเปิดประตูด้วยลายนิ้วมือ จนเกิดเสียงติ๊ดดังขึ้นพร้อมกับที่ประตูเปิดออก
ไป๋อวี้เจี๋ยยืนอยู่ตรงหน้าหน้าเย่ซิวในชุดจักรพรรดินีเต็มยศ สุดยอด ชุดที่เธอสวมอยู่คือชุดฮองเฮาที่มักเห็นในละครโทรทัศน์เย่ซิวมองเธอด้วยความตกตะลึง “สวยไหมคะ?” ไป๋อวี้เจี๋ยยืดอกอย่างภาคภูมิใจ พลางเดินมาตรงหน้าเย่ซิว “เห็นฮองเฮาเช่นข้าแล้วยังไม่รีบคารวะอีก!”ต้องยอมรับว่า ด้วยท่าทีที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจและบารมีจากการดำรงตำแหน่งสูงส่ง ทำให้เธอดูเหมือนฮองเฮาจริง ๆเย่ซิวดึงเธอเข้ามาใกล้ พลางตีเธออย่างมันเขี้ยว “ถ้าคุณเป็นฮองเฮา งั้นผมก็คงเป็นฮ่องเต้แล้วสิ”ไป๋อวี้เจี๋ยครางออกมาก่อนจะเอ่ยต่อ “คุณไม่เคยอยากลองทำเหมือนพวกเศรษฐีระดับโลกบ้างเหรอ? คอยควบคุมประเทศเล็ก ๆ ทั่วโลกอย่างลับ ๆ แล้วรอวันที่ลูก ๆ ของคุณเกิดมา พวกเขาก็จะกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง”เย่ซิวส่ายหัว “ไม่จำเป็นหรอก”หากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะเคยมีความคิดแบบนี้ แต่ตอนนี้เย่ซิวแข็งแกร่งจนไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้อีกต่อไป ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดก็ตามเป้าหมายของเขาคือช่วยเหลือประเทศหลงเถิงจัดการศัตรูตัวฉกาจ และพัฒนาเส้นทางการบำเพ็ญเพียรไปให้ไกลกว่าเดิมไป๋อวี้เจี๋ยตอบอืมแบบรับรู้และไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมอีก เธอเอ่ยเสียง
ขณะที่พนักงานเสิร์ฟหญิงอีกคนในร้านเดินถือชามบะหมี่เนื้อแกะร้อน ๆ เข้ามา ชายหนุ่มก็เอ่ยถามเสียงเบา “เรียบร้อยใช่ไหม?”หญิงสาวตอบกลับ “ไม่มีปัญหาค่ะ ใส่ยาลงไปในบะหมี่เรียบร้อยแล้ว รับรองว่าเธอจะหมดสติแน่นอนหลังจากกินเข้าไป”ชายหนุ่มลูบคางพลางยิ้มด้วยความตื่นเต้น “รีบเอาไปเสิร์ฟเถอะ”พนักงานเสิร์ฟหญิงรับคำก่อนจะเดินเข้าไปในห้องชายหนุ่มคนนี้เป็นเจ้าของร้าน เพิ่งได้รับช่วงต่อจากพ่อของเขาได้ไม่นาน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลัวอีอีได้มาสมัครงานที่นี่ และเขาก็ตกหลุมรักในความงดงามอันบริสุทธิ์ของเธอทันทีตั้งแต่แรกเห็น ทำให้เขาตัดสินใจรับเธอเข้าทำงานโดยไม่ต้องผ่านการสัมภาษณ์ใด ๆหลังจากนั้น เขาก็พยายามใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อที่จะครอบครองเธอให้ได้ แต่หลัวอีอีกลับเป็นคนระมัดระวังตัวสูง ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรเธอได้จนกระทั่งพนักงานหญิงอีกคนซึ่งเคยถูกเขาเล่นจนหมดสภาพ ได้แนะนำแผนการนี้ขึ้นมา จึงได้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้น“มาดูกันว่าคราวนี้เธอจะหนียังไง เธอต้องเป็นของฉัน!” เมื่อเขานึกถึงใบหน้าอันงดงามและรูปร่างอันน่าหลงใหลของหลัวอีอีแล้ว ความปรารถนาที่เขามีต่อเธอก็ปะทุขึ้นมาทันที“เถ้าแก่
ชายคนนั้นแทบอยากจะฉีกเย่ซิวออกเป็นชิ้น ๆ แต่เมื่อคิดถึงหลัวอีอี เขาก็รีบสงบสติอารมณ์ทันที เขาลุกขึ้นจากพื้น ก่อนจะยิ้มแหย ๆ “ผมจะกินครับ คุณอย่าเพิ่งโทรนะ”เขาฝืนความขยะแขยงและกินบะหมี่ทั้งชามรวมถึงน้ำซุปจนหมด ใบหน้าเขาสั่นนิด ๆ ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าความอิจฉาทำให้เขาตามืดบอด และสุดท้ายก็ต้องรับผลแห่งการกระทำของตัวเองเย่ซิวเก็บโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไป ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะนั่งกินข้าวที่นี่อีกต่อไปแล้ว เมื่อเห็นเช่นนั้น ชายหนุ่มก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะสำหรับเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการได้เก็บเกี่ยวหลัวอีอี“หืม?”เย่ซิวหยุดเดินกลางคัน หูขวาของเขาขยับเล็กน้อย เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยบางอย่าง ทำให้สายตาเขาหันไปมองทางห้องส่วนตัวที่หลัวอีอีอยู่ชายหนุ่มใจเต้นแรง ก่อนจะยิ้มแหยและเอ่ย “คุณลูกค้า มีอะไรเหรอครับ?”เย่ซิวไม่ตอบ เขาเดินตรงไปยังห้องส่วนตัวทันที ชายหนุ่มเริ่มตื่นตระหนก เขารีบไปขวางเย่ซิวเอาไว้ “คุณลูกค้า คุณจะมาก่อเรื่องหรือไง?”เย่ซิวตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หลบไป ฉันสงสัยว่านายกำลังทำเรื่องผิดกฎหมายอ
ชายฉกรรจ์เจ็ดแปดคนถือทัพพีและตะหลิวในมือ พลางจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาไม่เป็นมิตร“ไอ้หนุ่ม แกนี่ใจกล้าไม่เบา ถึงกล้ามาก่อเรื่องที่นี่ได้!”“รีบไสหัวไปซะ ก่อนที่จะโดนฉันสั่งสอนให้เข็ด!”……ชายหนุ่มมั่นใจเต็มที่ คิดว่าเย่ซิวจะต้องเจอจุดจบอย่างแน่นอน แต่เพียงวินาทีต่อมา ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึงเขาเห็นลูกน้องของตัวเองแต่ละคนถูกเหวี่ยงขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะร่วงลงมากระแทกพื้นอย่างแรงจู่ ๆ เขารู้สึกว่าหายใจไม่ออก เพราะถูกเย่ซิวคว้าคอเขาไว้และยกตัวขึ้นเขาถูกเย่ซิวหิ้วเหมือนลูกไก่ไปจนถึงหน้าประตูห้องส่วนตัว จากนั้นเย่ซิวก็ถีบประตูเปิดอย่างแรงเขาเดินเข้าไปด้านในพนักงานหญิงที่อยู่ในห้องส่วนตัวสะดุ้งตกใจสุดขีด เมื่อเห็นคนที่ตัวเองพึ่งพามาตลอดอยู่ในสภาพแบบนั้น ก็กรีดร้องออกมาทันทีชายหนุ่มดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่สามารถหลุดจากเงื้อมมือของเย่ซิวได้ด้านนอก ลูกค้าหลายคนแอบมองเข้ามา เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า พวกเขาต่างก็ตะลึง“โอ้พระเจ้า มีผู้หญิงสลบอยู่ในนั้น”“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”……ใบหน้าของพนักงานหญิงซีดเผือดทันที เธอไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน หากถูกจับได้
หยางเฟิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ยังไม่ขอโทษทั้งสองคนอีก”“ขอโทษค่ะ ฉันผิดไปแล้ว” หยางถิงถิงกล่าวอย่างไม่เต็มใจหยางเฟิงมองไปที่เย่ซิวและอลิส “พวกเธอทั้งสองคน ฉันตั้งใจจะซื้อชุดนี้กลับไปศึกษา หวังว่าจะได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆช่วงนี้ผมอยากออกแบบเสื้อผ้าแบบใหม่ แต่ก็ไม่มีไอเดียเลยหากทั้งสองคนยอมตัดใจจากชุดนี้ ฉันสามารถให้เงินชดเชยแก่พวกเธอได้นะแม้พวกเธออาจจะไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่นี่ก็ถือเป็นความจริงใจจากฉัน”ไม่เสียทีที่เป็นผู้สูงอายุที่ผ่านโลกมาหลายสิบปี วิธีการพูดของเขาทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจมากอลิสกำลังจะอ้าปากจะปฏิเสธเธอไม่ขาดแคลนเงินเลย ขอเพียงเธอสามารถทำให้คนที่เธอชอบมีความสุขได้แต่เย่ซิวชิงพูดขึ้นก่อนที่เธอจะได้เอ่ยอะไร “ไหน ๆ ผู้อาวุโสก็ทำธุรกิจด้านเสื้อผ้า ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเสื้อผ้าที่เหมาะกับผมบ้างหรือเปล่าครับ ถ้ามีองค์ประกอบของประเทศหลงเถิงก็จะดีมากครับ”ตัวเขาเองเป็นคนประเทศหลงเถิง จะเป็นการดีที่สุดหากเขาได้สวมใส่เสื้อผ้าที่มีองค์ประกอบของประเทศของเขาได้แต่ชุดพิธีการส่วนใหญ่ในท้องตลาดมักเป็นสไตล์ต่างประเทศหยางเฟิงหัวเราะ “แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้ว
“พรึ่ด!”อลิสรู้สึกขบขันไปกับเย่ซิวพลางยกนิ้วโป้งให้เขา “ที่รัก คุณพูดได้ดีมากจริง ๆ”เอ็ดโกรธจนตัวสั่น ไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้มาก่อนแม้เขาจะเป็นเพียงผู้มีพลังวิเศษระดับต่ำสุด แต่สถานะของเขาก็สูงมาก ไปที่ไหนเขาก็เป็นที่เคารพนับถือแต่ตอนนี้เขากำลังถูกเย่ซิวผู้ที่ไม่ได้มีหน้าตาหล่อเหลาอะไรทำให้ขายหน้าต่อหน้าคนมากมาย ใคร ๆ ก็คงจะจินตนาการถึงความโกรธที่อยู่ในใจของเขาได้เขากำหมัดแน่นและแอบรวบรวมพลังวิเศษในร่างกายเพื่อฆ่าคนตรงหน้าต่อหน้าทุกคนเมื่อเห็นว่าเขายังไม่ยอมไป อลิสจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า “ยังจะรังควานกันไม่เลิกอีกเหรอ? อย่างนั้นฉันจะโทรหาพ่อของฉันเดี๋ยวนี้เลย”สีหน้าของเอ็ดเปลี่ยนไป เขาก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที “อย่า ๆ ๆ ผมจะไปแล้วนี่ไงคุณต้องเชื่อนะว่าผมรักคุณเสมอ ผมก็แค่ทำผิดพลาดเหมือนกับที่ผู้ชายทุกคนในโลกนี้เคยทำ ผมขอตัวก่อน คุณใจเย็น ๆ ล่ะ”พูดจบ เขาก็เดินออกไปข้างนอก และก่อนที่จะออกไป เขาจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาเย็นชาผู้หญิงที่อยู่กับเขาก็รีบตามเขาออกไปด้วยพนักงานขายสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังคงพาคนทั้งสองไปหยุดอยู่ตรงหน้าราวเสื้อผ้าราวกับไม่
เขาสัมผัสได้เพียงเขาที่งอกบนศีรษะ สายตาที่เขามองเย่ซิวราวกับต้องการจะกินหัวอีกฝ่ายเสียให้ได้อลิสยิ้มเยาะ “นายตาบอดเหรอ ไม่เห็นรึไงว่าเขาเป็นแฟนฉัน”“นี่คุณพูดบ้าอะไร เขาเป็นแฟนคุณ แล้วผมล่ะ? พวกเราคบกันมาตั้งหลายปี แต่คุณกลับทรยศผมแบบนี้เนี่ยนะ!”“ทรยศ?” อลิสเองก็โมโหเช่นกัน “นายยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่านายมีผู้หญิงคนอื่นมานานแค่ไหนแล้ว? นายเป็นคนทรยศฉันก่อน ไม่ใช่ฉันที่ทรยศนาย”ดวงตาของเอ็ดฉายแววตื่นตระหนก เขารีบอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “อลิส ได้โปรดฟังคำอธิบายของผมก่อน ผมกับเธอเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้นเองนะ”ขณะที่พูด เขาก็รีบดันผู้หญิงที่อยู่ข้างกายออกไปหญิงสาวผู้นี้เองก็รู้ตัวตนของอลิส เธอจึงก้มหัวลงและไม่กล้าพูดอะไรซี้ซั้ว อีกทั้งยังพยายามทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจน้อยที่สุดอลิสพูดอย่างเย็นชา “เรื่องระหว่างเรามันจบไปตั้งแต่วันที่นายทรยศฉันแล้วแล้วนายก็ไม่ได้ผู้หญิงแค่คนเดียว คิดว่าวันนั้นฉันไม่เห็นเหรอว่านายอยู่กับเพื่อนสนิทของฉัน”เอ็ดก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะจับมืออลิส แต่กลับถูกเธอปัดมือทิ้ง“ที่รัก คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมกับเธอแค่คุยกันเรื่องงานเ
เดิมทีเขาจะออกไปอยู่แล้ว แต่เพราะคำถามของอลิส การออกเดินทางจึงล่าช้าไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมงอีกทั้งอลิสยังเสียเวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการแต่งหน้าใหม่เย่ซิวสงสัยอย่างมากว่าเธอทำมันโดยตั้งใจทั้งสองคนออกไปข้างนอกเหมือนคู่รักทั่ว ๆ ไปอลิสกอดแขนของเย่ซิว ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และอารมณ์ดีสุด ๆเธอขับรถไปยังถนนสายหนึ่งซึ่งมีความคล้ายคลึงกับถนนของประเทศจ้านอิงตี้มากที่แห่งนี้เรียกว่าถนนมหาเศรษฐีสินค้าทุกอย่างที่นี่ล้วนเริ่มต้นที่ห้าแสนบาท ซึ่งมีเพียงคนรวยเท่านั้นที่สามารถซื้อได้และมักมีหญิงสาวหน้าตาดีแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราเดินไปมาบนถนนสายนี้อยู่เสมอหากเห็นผู้ชายสักคนมาที่นี่ตัวคนเดียวเดินเข้าไปซื้อของในร้านใดร้านหนึ่ง พวกเธอก็จะสร้างความบังเอิญเพื่อพยายามจับสามีรวย ๆแน่นอนว่าย่อมมีผู้ชายที่ต้องการจะหาภรรยาเศรษฐีจากที่นี่ด้วยเธอพูดว่าอยากจะซื้อเสื้อผ้าให้เย่ซิว แต่หลังจากมาถึงที่นี่ อลิสก็ลากเย่ซิวไปซื้อกระเป๋าหลากยี่ห้อ เครื่องประดับ แม้กระทั่งชุดชั้นใน ทำเอาเขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะหลังจากที่ติดตามเธอมานานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดอลิสก็พาเย่ซิวไปที่ร้านขายเส
หญิงสาวเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที “นายคิดจะไปทำธุระส่วนตัวงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน นายต้องพาฉันไปด้วยสิ!”“ผมจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย คุณก็ค่อย ๆ รักษาแผลตัวเองไปแล้วกันนะ ลาก่อน”พูดจบ เย่ซิวก็พังหน้าต่างออกไปพรีเอลล์วิ่งตามไปที่หน้าต่างแต่ก็มองไม่เห็นเงาของเย่ซิวแล้วสีหน้าของเธอขรึมลง จิตสังหารในตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายสิบองศา “คอยดูเถอะไอ้สารเลว ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งฉันจะทำให้แกคายทุกสิ่งที่เคยกินไปออกมา!”เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงบ้านของอลิส เธอก็ตื่นแล้วหลังจากที่อลิสตื่นขึ้นมาและพบว่าเย่ซิวหายไป เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรู้สึกจิตตกทันทีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…ตึง! ตนเองก็รู้สึกแปลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเย่ซิวแท้ ๆแต่เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมา เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที “นายไปไหนมา? ฉันนึกว่านายจะไปโดยไม่บอกลากันซะแล้ว”เย่ซิวยิ้มและกล่าวว่า “ผมไปทานข้าวมาน่ะ”อลิสไม่สงสัยแม้แต่น้อยพลางทำท่าทางกระอักระอ่วน “เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดีเอง นายมีเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหม หรือพวกเราควรไปซื้อตอนนี้เลยดี?”เย่ซ
พรีเอลล์เบิกตากว้าง “ฉันลืมอะไรไปเหรอ? อ้อ หรือว่านายอยากให้ฉันนอนกับนายอีกครั้ง? อย่างนั้นก็ได้ มาสิ”พูดจบเธอก็แสดงท่าทียินยอมพร้อมใจเย่ซิวยิ้มหยัน “ยังจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าผมอีกเหรอ? เอาสร้อยคอที่คุณเก็บไว้ออกมาให้ผมตรวจดูมูลค่าของมันเถอะ”สีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อันนั้น...ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของนายในตอนนี้คงจะสมเหตุสมผล เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”เย่ซิวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเธออย่างเงียบ ๆ และบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆเหงื่อเย็นหยดหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของพรีเอลล์เธอลอบกลืนน้ำลาย ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ เสียงกลืนน้ำลายนั้นจึงฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ“ก็ได้”ในที่สุด พรีเอลล์ก็ยอมแพ้และวางของลงตรงหน้าอย่างว่าง่ายเย่ซิวหยิบจี้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวังลองใช้พลังจิตแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยจากนั้นเขาได้ส่งผ่านพลังวิญญาณเข้าไป และจี้นั้นก็ปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาเย่ซิวรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือ ราวกับกำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่ก็ไม่ปานจินตานห้าสีสั่นสะเทือนขึ้นมา เย่ซิวระดมพลังธาตุไฟและส่งผ่านมันเข้าไปตัว
รอจนเย่ซิวได้ลิ้มรสความหวานและติดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้วค่อยบอกวิชาลับอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วให้เย่ซิวถึงเวลานั้น จอมมารโลหิตก็จะสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมเย่ซิวไว้ได้อย่างมั่นคงทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้นพวกอันธพาลที่เห็นเย่ซิวนิ่งเฉยก็โกรธจัด ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่เขาในมือแต่ละคนมีท่อเหล็กพร้อมแววตาที่ฉายแววอำมหิตเย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้า ๆ และใช้วิชาคัมภีร์มารโลหิตทันที!ตูม! ตูม! ตูม!เกิดแรงดูดมหาศาลจากฝ่ามือของเย่ซิว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของชายหนุ่มสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยองเลือดสด ๆ ไหลทะลักเข้าสู่ฝ่ามือของเย่ซิวหลังจากผ่านกระบวนการของวิชาคัมภีร์มารโลหิต มันก็แปลงสภาพกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์เย่ซิวเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในยุคโบราณจำนวนมากถึงเลือกเดินบนเส้นทางมาร เพราะมันทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เองเพียงแค่ไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่เขาได้รับมาก็เทียบเท่ากับการบำเพ็ญอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนหากเขาฆ่าคนในเมืองนี้ทั้งหมด…บางท
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้? เมื่อกี้ฉันเกือบจะโดนจับได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…บ้าจริง”พรีเอลล์ที่อ่อนแรงในอ้อมแขนของเย่ซิวยกสองนิ้วขึ้นมาบิดที่เอวของเขาอย่างแรงถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัส แต่แรงบิดของเธอก็ยังเจ็บเอาเรื่องไม่น้อยเย่ซิวยิ้มบาง ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร? หรือไปเจอคนใจบุญช่วยไว้ล่ะ”พรีเอลล์เบือนหน้าไปอีกทาง เธอไม่มีทางยอมบอกหรอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกจับได้ แต่ในจังหวะคับขันกลับถูกเลสเบี้ยนคนหนึ่งลากเข้าห้องน้ำไปและโดนผู้หญิงคนนั้นลวนลามไปไม่น้อยเลยถ้าพูดออกไปคงถูกเย่ซิวล้อไม่หยุดแน่“ช่างมัน รีบไปกันเถอะ”เย่ซิวพยุงตัวพรีเอลล์ขึ้นและพาเธอเดินออกจากบาร์ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องจัดการคือการแบ่งสมบัติจากการต่อสู้ครั้งนี้อีกในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรีเอลล์หนีจากหน่วยรบเขี้ยวพิษจำนวนมากได้อย่างไรทั้งที่เธอบาดเจ็บจากระเบิดและพลังที่เหลืออยู่ก็ลดลงเกือบครึ่ง การหนีรอดออกมาน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งไปกว่านั้น จากสภาพของเธอดูเหมือนจะไม่มีใครจับได้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำให้เย่ซิวยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกทั้งสองเดินออกจากบาร์ก่อนจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังมา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่