...... ตอนที่จวงเสี่ยวหยิงก้าวลงจากรถหรู ฉากนี้มันส่งผลกระทบต่อพวกเขามากเกินไปแม้แต่ผู้บริหารระดับสูงของโรงเรียนก็ยังตกตะลึงเย่ซิวจับมือจวงเสี่ยวหยิงเผชิญหน้ากับฝูงชนด้วยเสียงที่มั่นคงและทรงพลัง "ฉันชื่อเย่ซิว ผู้ถืออำนาจของบริษัทสตาร์รี่สกายบางคนอาจไม่รู้จักบริษัทนี้ แต่ทุกคนน่าจะรู้จักครีมผิวหยกกันเป็นอย่างดี นั่นเป็นครีมของบริษัทฉันเอง”ตู้ม!คำพูดของเย่ซิวเหมือนกับการทิ้งระเบิดใส่ฝูงชน มันทำให้ทุกคนวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมตอนนี้มีใครไม่รู้จักครีมผิวหยกบ้าง?ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ แม้แต่ชาวต่างชาติมากมายก็แห่เข้ามาซื้อกลับประเทศไปเป็นจำนวนมากคนโง่ยังรู้เลยว่าบริษัทขายครีมผิวหยกตอนนี้สุดยอดแค่ไหนเย่ซิวพูดต่อ "ฉันไม่กลัวที่จะบอกทุกคนในที่นี้ว่า ทรัพย์สินที่มีของฉันตอนนี้เกินสามสิบล้านล้านบาทบาท ฉันรวยและรวยมาก!และผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าพวกคุณ จวงเสี่ยวหยิง เธอเป็นน้องสาวของฉัน เป็นองค์หญิงน้อยของบริษัทสตาร์รี่สกายอีกด้วยการพาเธอมาพบทุกคนในวันนี้ เพราะหวังว่าพวกเธอจะไม่รังแกเธอ ไม่เช่นนั้นฉันจะแก้แค้นอย่างสาสมมีผู้ชายแซ่ฉีในโรงเรียนนี้ใช่ไหม เมื่อคืนนี้เขารังแกน้อ
ในศาลากลางทะเลสาบ มีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้านั่งอยู่กระโปรงขาว รองเท้าขาว และแม้แต่ผมของเธอก็ผูกด้วยโบสีขาวเธอก้มหน้าอ่านหนังสือทำให้มองเห็นใบหน้าไม่ค่อยชัดจวงเสี่ยวหยิงดึงเย่ซิวเข้ามา“ชิงเสวี่ย เธอมาอ่านหนังสือที่นี่อีกแล้ว”หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าอันสวยงามใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต ผิวขาวอมชมพู สวยเหมือนหญิงงามสมัยโบราณเธอมีนิสัยรักสงบ ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเย่ซิวเผยสีหน้าประหลาดใจไม่ใช่ว่าเขาประหลาดใจกับหน้าตาของเธอ แต่เป็นศักยภาพของเธอต่างหากแม้ว่าหญิงสาวที่ชื่อชิงเสวี่ยตรงหน้านี้ จะมีความโดดเด่นในทุกด้าน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครเทียบได้จอมยุทธ์ระดับแปด!ผู้หญิงคนนี้ดูเด็กกว่าตนเองเล็กน้อย แต่ไม่คิดว่าจะมีพละกำลังระดับนั้นจริง ๆเย่ซิวไม่เคยสบประมาทใครในโลกนี้ และเขาไม่ใช่คนเดียวที่มีพรสวรรค์ราวกับปีศาจชิงเสวี่ยลุกขึ้นยืน เธอยิ้มหวานและพูดด้วยเสียงไพเราะ "เสี่ยวหยิง วันนี้เธอดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยนะ"จวงเสี่ยวหยิงหัวเราะคิกคัก "ใช่แล้ว ฉันขอแนะนำให้เธอรู้จัก นี่คือเย่ซิว พี่ชายของฉัน "ชิงเสวี่ยมองไปที่เย่ซิว "ได้ยินชื่อเสียงคุณมานา
“เป็นหน่วยข่าวกรองชั้นยอดที่มีสายสืบกระจายกว่าสองร้อยประเทศทั่วโลก” หยางชิงเสวี่ยเปิดเผยความลับนี้“เรามีสุดยอดข่าวกรองนับไม่ถ้วน ซึ่งหากมอบข้อมูลเหล่านี้ให้กับประเทศหลงเถิง จะสามารถขยายที่ดินเพิ่มเป็นสองเท่าภายในสิบปี!”สิ่งนี้วนเวียนอยู่ในใจของเย่ซิว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจท่านอาจารย์ของเขาทรงพลังเกินไปมากจริง ๆ ไม่คิดว่าจะเตรียมการไว้มากมายขนาดนี้“เพื่อเป็นของขวัญสำหรับการพบกันครั้งแรก ฉันจะให้ข้อมูลแก่คุณฟรี ๆ หนึ่งอย่าง”เมื่อพูดเช่นนั้น หยางชิงเสวี่ยก็หยิบกระดาษที่พับอยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมามอบให้เย่ซิวเย่ซิวรับมันมาและเปิดดู ในนั้นมีรูปแผนที่ และรายละเอียดตัวเลข เครื่องหมายสัญลักษณ์ต่าง ๆ หยางชิงเสวี่ยพูด "ตำแหน่งที่ระบุไว้บนแผนที่คือค่ายทหารของประเทศคาบูประเทศนี้ถูกควบคุมอย่างลับ ๆ โดยสมาชิกทั้งหกคนของหอการค้าไป๋ชวนเมื่อหลายปีก่อนเนื่องจากคุณสังหารจอมยุทธ์ยอดฝีมือของยุทธภพไปหลายคนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สมาชิกทั้งหกคนและเครือญาติของพวกเขาจึงทยอยย้ายไปที่ประเทศคาบูกันแล้วนอกจากนี้พวกเขายังใช้วิธีการต่าง ๆ ในการขนย้ายทรัพย์สินออกไปทีละนิดโดยทำอย่างลับ ๆ ซึ่งขณะน
เย่ซิวตระหนักถึงพลังของยามังกรพยัคฆ์อย่างถ่องแท้หลังจากทานมันไป จะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ชายโดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่ายาแซดวายใด ๆ ในท้องตลาด เมื่อวางขายแล้วจะเกิดการแย่งชิงอย่างแน่นอนหลังจากแน่ใจแล้วว่ายาไม่มีปัญหาใด ๆ เย่ซิวจึงเริ่มเตรียมการผลิตสวนสมุนไพรทั้งหมดมีขนาดใหญ่โต เพียงพอที่จะผลิตให้ตนเองได้ยามังกรพยัคฆ์ที่วางขายนี้จะแบ่งออกเป็นสองสูตรที่แตกต่างกันสูตรในประเทศกับสูตรต่างประเทศสูตรในประเทศทำจากสมุนไพรชั้นเลิศที่ปลูกในสวนสมุนไพร โดยให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับสูตรต่างประเทศ เขาวางแผนซื้อสมุนไพรคุณภาพต่ำที่สุด และลดต้นทุนให้ต่ำมากที่สุด ผลลัพธ์คาดว่าจะมีเพียงหนึ่งในสิบของสูตรในประเทศแต่ในแง่ของราคา เย่ซิววางแผนที่จะตั้งราคาสูงกว่าในประเทศประมาณสิบเท่าแต่ก่อนเรื่องแบบนี้ ประเทศมหาอํานาจทางเทคโนโลยีในต่างประเทศทํากันบ่อย ๆตอนที่ประเทศหลงเถิงยังค่อนข้างล้าหลัง มักถูกเรียกราคาสูง ๆ เอาเปรียบอยู่เสมอสกรูหนึ่งตัวที่ต่างประเทศขายห้าสิบบาท แต่ในประเทศสามารถขายได้ในราคาห้าหมื่นบาท แถมยังมีท่าทางชนิดที่ว่าใครไม
ไม่นานก็มีข้อความตอบกลับมาว่า หลินโหรวลาออกแล้วและให้คนอื่นทำงานแทนที่ตำแหน่งเธอแล้วเย่ซิวเดาว่าเป็นเพราะเธอเลิกกับหลิวเยวี่ยหง จึงทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้เขาไม่ได้เข้าไปคุย เพราะไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้านผู้หญิงคนนี้มักจะตั้งแง่กับเขาเสมอ จะเข้าไปหาเรื่องใส่ตัวทำไมเบียร์หนึ่งโหลถูกนำมาเสิร์ฟ เธอดื่มทีละขวดดื่มไปส่งข้อความเสียงไป“อย่าทิ้งฉันไปได้ไหม?”“ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ”“เหตุผลคืออะไร เราคบกันมาตั้งหลายปี อยากเลิกก็เลิกงั้นเหรอ?”“อ๊ากกก..ตอบสิ อย่าเมินใส่ฉัน”…… ยิ่งร้องไห้ เธอก็ยิ่งเศร้า และยิ่งดื่มหนักขึ้นไปอีกยิ่งดึก จำนวนแขกยิ่งค่อย ๆ เพิ่มขึ้นชายฉกรรจ์สามคนเดินเข้ามาเมื่อเห็นหลินโหรวเมาแอ๋นั่งคุยกับตัวเอง พวกเขาก็ตาลุกวาวทันทีพวกเขาพร้อมใจกันเดินเข้าไป“น้องสาว เธอเมาหรือเปล่า?”“อยู่คนเดียวข้างนอกมันอันตราย ให้พี่ ๆ ไปส่งบ้านดีกว่า”หลินโหรวกะพริบตา "ไสหัวไป ไอ้โสโครก น่าขยะแขยง"ชายฉกรรจ์ทั้งสามคนไม่ได้โกรธ พวกเขาหัวเราะและพยายามดึงหลินโหรวขึ้นมาเพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!วินาทีต่อมา พวกเขาทั้งสามถูกขวดเหล้าฟาดไปที่ท้ายทอย หน้ามืดเป็นลมหมดสติทันที
คำพูดยั่วยุของหลินโหรวได้ผลอย่างแท้จริง เย่ซิวทนผู้หญิงคนนี้มานานแล้ว ในเมื่อเธอต้องการท้าทายเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไปในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็ได้ปลูกฝังทัศนคติและมุมมองชีวิตที่ถูกต้องให้กับเธอด้วยสิ่งที่เธอเคยเชื่อถือมาก่อนนั้นบิดเบี้ยวผิดเพี้ยนไป สำหรับหลินโหรวที่เป็น ‘ผู้ป่วยขั้นวิกฤติ’ แบบนี้ ต้องได้รับการรักษาด้วยยาแรงเท่านั้นและเพราะเหตุนี้ เย่ซิวจึงทำให้เธอกลับมาในทิศทางที่ถูกต้องเธอเพิ่งจะได้รู้ว่า ความสัมพันธ์ปกติระหว่างชายหญิงนั้นเป็นแบบนี้เองเย่ซิวมองดูเวลาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้วเวลาที่เขานัดกับไป๋อวี้เจี๋ยคือสี่ทุ่มครึ่ง หลินโหรวที่เหนื่อยล้าจนทนไม่ไหวได้หลับสนิทไปแล้ว เย่ซิวจึงออกจากห้องไปโดยไม่รบกวนเธอ ที่นี่ปลอดภัยและสะอาดดี ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะเกิดปัญหาอะไรเย่ซิวขับรถออกจากโรงแรมและมาถึงที่พักของไป๋อวี้เจี๋ยตามเวลาที่นัดไว้ แต่เมื่อเขามาถึงหน้าประตู กลับพบว่ามีรองเท้าผู้หญิงอีกคู่หนึ่งวางอยู่ กลิ่นบางอย่างที่ลอยในอากาศทำให้เขารู้ทันทีว่าเป็นของใครเขากดรหัสเปิดประตูด้วยลายนิ้วมือ จนเกิดเสียงติ๊ดดังขึ้นพร้อมกับที่ประตูเปิดออก
ไป๋อวี้เจี๋ยยืนอยู่ตรงหน้าหน้าเย่ซิวในชุดจักรพรรดินีเต็มยศ สุดยอด ชุดที่เธอสวมอยู่คือชุดฮองเฮาที่มักเห็นในละครโทรทัศน์เย่ซิวมองเธอด้วยความตกตะลึง “สวยไหมคะ?” ไป๋อวี้เจี๋ยยืดอกอย่างภาคภูมิใจ พลางเดินมาตรงหน้าเย่ซิว “เห็นฮองเฮาเช่นข้าแล้วยังไม่รีบคารวะอีก!”ต้องยอมรับว่า ด้วยท่าทีที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจและบารมีจากการดำรงตำแหน่งสูงส่ง ทำให้เธอดูเหมือนฮองเฮาจริง ๆเย่ซิวดึงเธอเข้ามาใกล้ พลางตีเธออย่างมันเขี้ยว “ถ้าคุณเป็นฮองเฮา งั้นผมก็คงเป็นฮ่องเต้แล้วสิ”ไป๋อวี้เจี๋ยครางออกมาก่อนจะเอ่ยต่อ “คุณไม่เคยอยากลองทำเหมือนพวกเศรษฐีระดับโลกบ้างเหรอ? คอยควบคุมประเทศเล็ก ๆ ทั่วโลกอย่างลับ ๆ แล้วรอวันที่ลูก ๆ ของคุณเกิดมา พวกเขาก็จะกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง”เย่ซิวส่ายหัว “ไม่จำเป็นหรอก”หากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะเคยมีความคิดแบบนี้ แต่ตอนนี้เย่ซิวแข็งแกร่งจนไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้อีกต่อไป ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดก็ตามเป้าหมายของเขาคือช่วยเหลือประเทศหลงเถิงจัดการศัตรูตัวฉกาจ และพัฒนาเส้นทางการบำเพ็ญเพียรไปให้ไกลกว่าเดิมไป๋อวี้เจี๋ยตอบอืมแบบรับรู้และไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมอีก เธอเอ่ยเสียง
ขณะที่พนักงานเสิร์ฟหญิงอีกคนในร้านเดินถือชามบะหมี่เนื้อแกะร้อน ๆ เข้ามา ชายหนุ่มก็เอ่ยถามเสียงเบา “เรียบร้อยใช่ไหม?”หญิงสาวตอบกลับ “ไม่มีปัญหาค่ะ ใส่ยาลงไปในบะหมี่เรียบร้อยแล้ว รับรองว่าเธอจะหมดสติแน่นอนหลังจากกินเข้าไป”ชายหนุ่มลูบคางพลางยิ้มด้วยความตื่นเต้น “รีบเอาไปเสิร์ฟเถอะ”พนักงานเสิร์ฟหญิงรับคำก่อนจะเดินเข้าไปในห้องชายหนุ่มคนนี้เป็นเจ้าของร้าน เพิ่งได้รับช่วงต่อจากพ่อของเขาได้ไม่นาน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลัวอีอีได้มาสมัครงานที่นี่ และเขาก็ตกหลุมรักในความงดงามอันบริสุทธิ์ของเธอทันทีตั้งแต่แรกเห็น ทำให้เขาตัดสินใจรับเธอเข้าทำงานโดยไม่ต้องผ่านการสัมภาษณ์ใด ๆหลังจากนั้น เขาก็พยายามใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อที่จะครอบครองเธอให้ได้ แต่หลัวอีอีกลับเป็นคนระมัดระวังตัวสูง ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรเธอได้จนกระทั่งพนักงานหญิงอีกคนซึ่งเคยถูกเขาเล่นจนหมดสภาพ ได้แนะนำแผนการนี้ขึ้นมา จึงได้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้น“มาดูกันว่าคราวนี้เธอจะหนียังไง เธอต้องเป็นของฉัน!” เมื่อเขานึกถึงใบหน้าอันงดงามและรูปร่างอันน่าหลงใหลของหลัวอีอีแล้ว ความปรารถนาที่เขามีต่อเธอก็ปะทุขึ้นมาทันที“เถ้าแก่
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ
“เดี๋ยวก่อน ฉันตกลง!”ในที่สุด เมื่อหลี่ต้าจ้วงเห็นเย่ซิวเตรียมจะจากไป เขาก็แสดงการเลือกของตัวเองเย่ซิวหยุดฝีเท้า หมุนตัวกลับมา สีหน้าไม่ได้แสดงถึงความประหลาดใจมากนักแต่ชูตงกลับหันหน้าไปพรวด มองไปที่หลี่ต้าจวงด้วยความไม่เชื่อ "คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?"หลี่ต้าจวงวิ่งไปคว้ากระเป๋าเดินทางจากมือของเย่ซิว ยืนอยู่ที่ประตู และหัวเราะอย่างดุร้าย“ฉันน่ะเบื่อเธอจะตายอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าหุ่นเซ็กซี่ขนาดนี้ ยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!อยู่กับเธอมาตั้งนาน แม้แต่มือก็ยังไม่ยอมให้จับในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ฉันเอาเงินแล้วไปสนุกข้างนอกดีกว่า พวกเราบอกลากันตรงนี้เถอะ!”พูดจบ เขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางแล้วจากไปชูตงราวกับถูกสายฟ้าฟาด คนทั้งคนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ตัวเองคิดจะฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาเพื่อเงินแค่ไม่กี่สิบล้าน ถึงกับกระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาน้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเย่ซิวมองไปที่เธอ "พรุ่งนี้ไปทำงานต่อนะ อย่ามาสายล่ะถ้าคุณกล้าลาออกจากบริษัทโดยพลการ บริษัทจะให้คุณจ่ายค่าผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านทีเดียว”แม้ว่าตอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ขึ้นราคาต่อไป "ยี่สิบห้าล้าน"แถมยัง วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่เขานำมาไว้บนพื้นแล้วเปิดออกมันเต็มไปด้วยธนบัตรหลงเถิงที่มีมูลค่าฉบับละหนึ่งพันบาท!"ซู้ด!!!"หลี่ต้าจ้วงสูดลมเย็นเข้าปอด จ้องมองไปที่เหรียญหลงเถิงที่ดูเหมือนจะเรืองแสงได้ในชีวิตนี้เขายังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ไร้ชีวิต การที่มีเงินสดกว่ายี่สิบห้าล้านมาวางกองตรงหน้า ย่อมส่งผลกระทบมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเย่ซิวเห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขาหวั่นไหวแล้ว จึงพูดอย่างล่อลวงไปว่า “คุณคงไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนใช่ไหม?คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ล่ะ? กะประมาณหนึ่งแสนบาทก็แล้วกันถ้าคุณไม่กินหรือดื่มเลย หนึ่งปีก็จะเก็บเงินได้หนึ่งล้านสองแสนบาท และต้องใช้เวลามากกว่ายี่สิบปีถึงจะสามารถเก็บเงินได้ยี่สิบห้าล้านในความเป็นจริงทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นไปไม่ได้ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายของเมืองหลวง หนึ่งปีเก็บเงินได้สักห้าแสนบาทก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้วหรือก็คือ คุณต้องใช้เวลาถึงสี่สิบปีจึงจะมีเงินยี่สิบห้าล้านตอนนี้ตราบเท่าที่คุณพยักหน้า เงินนี้ก็จะเป็นของคุณด้วยเงิ
ชายคนนั้นเปิดประตู ก็เห็นว่ามีชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบมากคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นเย่ซิว ความริษยาก็วาบผ่านดวงตาของผู้ชายคนนั้น การมีอยู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนยืนอยู่ต่อหน้าเขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ตัวเขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้น“คุณเป็นใคร!”ด้วยเหตุนี้ น้ำเสียงของชายคนนั้นจึงไร้ความเป็นมิตรอย่างมาก แถมด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย เขามองไปทางห้องครัวโดยไม่รู้ตัวกลัวว่าจู่ ๆ ชูตงจะวิ่งออกมา แล้วตกหลุมรักเย่ซิวทันทีหลังจากที่ได้พบเขานี่คือผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เสแสร้ง และขาดความมั่นใจในตนเองอย่างมากเย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ชูตงอยู่ที่นี่ใช่ไหม ผมเป็นประธานของบริษัทของเธอ คุณคงเป็นแฟนเธอสินะ"“หืม?!”ชายคนนั้นเริ่มตื่นตัวทันที "คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?"“ไม่เชิญผมเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ?” เย่ซิวพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้ “ผมมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อมอบความมั่งคั่งให้กับคุณ”"ใครคะ?"ตอนนี้เอง ชูตงที่สวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับทัพพีในมือขวาเมื่อเขาเห็นเย่ซิว ม่านตาของเธอก็หดตัวลงเล็กน้อย "ประธาน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่คะ?"ไม่กี่นาทีต่อมา เย่ซ
นี่คือคำสัญญาที่เย่ซิวให้ไว้ต่อเธอลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาของเธอลงอย่างมีความสุขวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมากนัก ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เลยบำเพ็ญตนกับเย่ซิวตลอดลากยาวไปจนถึงห้าโมงเย็นถึงได้หยุดห้าโมงเย็น ก็เลิกงานแล้วเย่ซิวขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับไปก่อน เนื่องจากเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเมื่อมาถึงลานจอดรถ หลางต้าก็รออยู่ข้าง ๆ รถของเย่ซิวแล้วมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ที่เท้าของเขา“นายน้อย!” หลางต้าโค้งตัวลงแล้วพูด “ทุกสิ่งที่คุณต้องการเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”เย่ซิวพยักหน้า "ได้ นายกลับไปเถอะ"เขาใส่กระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ จากนั้นขับรถออกไปจุดหมายคือบ้านเช่านอกชานเมืองที่ชูตงอาศัยอยู่เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงานถึงที่นี่ ทุกวันคือราวสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงเย่ซิวดูเงินเดือนของชูตงซึ่งมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหลังจากหักภาษีในทุกเดือนแล้วราคาบ้านใกล้บริษัทอยู่ที่ประมาณสองหมื่นห้าพันบาท ซึ่งอิงตามหลักการแล้วเธอน่าจะแบกรับไหวถึงจะถูกเมื่อเขามาถึงบ้านเช่าของชูตง เขาก็จอดรถ ยกกระเป๋าเดินทางออกมา แล้วเดินไปที่เขตชุมชนด้านหน้าเขตชุมชนแห่งหนึ่ง ในห้องสามศูนย์แปด
"ตอนนี้คุณมีแฟนหรือยัง?"เมื่อได้ยินแบบนี้ ชูตงก็รู้สึกรังเกียจเธอแอบคิดว่าเย่ซิวประธานใหญ่คนนี้ ดูเหมือนจะซื่อตรงและมีเกียรติ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆหลายคนเคยถามคำถามนี้กับเธอเธอรู้ตัวดีว่าเธอมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายมากจริง ๆแม้ในใจจะดูแคลน แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อย “เรียนท่านประธานคะ มีแล้วค่ะ เป็นคนที่บ้านแนะนำมา ในอีกไม่กี่เดือนก็จะกลับไปหมั้นกันแล้ว”เย่ซิวขานรับอืมหนึ่งที "อืม ออกไปทำงานเถอะ"ชูตงตกตะลึงไปครู่หนึ่งเธอนึกว่าเย่ซิวจะขอให้เธอเป็นคนรักลับ ๆ ของเขาแต่เป็นแบบนี้ก็ดี ตัวเองเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ยังไม่อยากลาออก อยู่ที่นี่เธอทำงานอย่างมีความสุขมากเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์บริหารงานเข้มงวด จึงไม่มีความน่ารังเกียจทุกประเภทที่พบในที่ทำงานภายนอกปรากฏขึ้นที่นี่หลังจากที่เธอออกไป เย่ซิวก็นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของเซี่ยซิ่วซิ่ว เปิดรายชื่อพนักงาน และพบข้อมูลของชูตงเธอมาจากชนบทและเพิ่งจะเรียนจบ แต่กลับเปลี่ยนงานมามากกว่าสิบตำแหน่งแล้วในเรซูเม่ระบุว่างานเหล่านั้นทำเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ประธานหรือหัวหน้างาน
ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างด่าบริษัทเครื่องสำอางเหล่านั้นอย่างสาดเสียเทเสียว่าใช้ไม้อ่อนไม่ได้ก็เลยใช้ไม้แข็ง ไร้ศีลธรรมมากเกินไปแล้วเมื่อสักครู่นี้เพิ่งมีข่าวส่งมา ว่ามีผู้คนหลายหมื่นคนของประเทศอวี้ไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา"เย่ซิวเตือนไปหนึ่งประโยค "ผลกำไรของเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ต้นทุนที่เพิ่มมาก็ปล่อยให้พวกเขาไปแบกรับแทนอย่างไรเสียพวกเราคือ 'เหยื่อ' และหากมีคำด่าทออะไรก็ให้บริษัทของแต่ละประเทศไปแบกรับกันเอาเอง"เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มอย่างมีความสุขมาก "อืม ฉันรู้แล้วเว้นเสียแต่ประเทศต่าง ๆ จะห้ามไม่ให้ผู้คนเดินทางไปยังประเทศอวี้ ธุรกิจของเราก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก"แต่มันไม่สมจริงเลยที่จะห้ามไม่ให้ผู้คนไปที่ประเทศอวี้ประเทศอวี้เป็นประเทศที่เป็นกลางอย่างยิ่ง ได้รับการคุ้มครองจากหลายร้อยประเทศ แถมยังเป็นเขตปลอดภาษีอีกด้วยใครก็ตามที่แบนมัน จะต้องเผชิญการประท้วงอย่างรุนแรงแน่นอน“จริงสิ ชิงชิงจะมาถึงบ่ายวันนี้ ฉันจะไปรับเธอ นายจะไปไหม?”เกี่ยวกับเซี่ยชิงชิง เซี่ยซิ่วซิ่วบอกเขาเมื่อวานนี้ตอนนี้ตัวหมากนี้มีผลต่อเย่ซิวไม่มากแล้วบวกกับหลังจากที่เซี่ยซิ่วซิ่วติดตามเขาเธอก็ทำง
“นาย...นายท่าน...”ภายใต้การล่อลวงอย่างต่อเนื่องของเย่ซิว น่าหลันเยียนหรานมีเพียง 'ยอมแพ้' ในที่สุดนอกจากความเขินอายที่มีอยู่ น่าหลันเยียนหรานยังรู้สึกถึงความรู้สึกที่พิเศษมาก ซึ่งมาจากก้นบึ้งของหัวใจ นั่นคือความรู้สึกถูกครอบงำที่แสนประหลาด!หลังจากบำเพ็ญตนจนถึงเที่ยงคืน น่าหลันเยียนหรานก็หลับสนิทไประหว่างที่หลับ ร่างกายของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วมากถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาก็จะขึ้นเป็นปรมาจารย์ทั้งหมดแม้ว่าในอนาคตเขาจะไม่ออกหน้า แต่ผู้หญิงข้างกายเขาเหล่านี้ก็สามารถครองยุทธภพเย่ซิวไม่ได้พักผ่อน แต่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้าง ๆ น่าหลันเยียนหราน หยิบสุราวิญญาณออกมาดื่มอึกใหญ่ แล้วใช้วิชายุทธเริ่มปรับแต่งมันอย่างเงียบ ๆตอนนี้เป้าหมายของเขาคือการเข้าสู่ขั้นอมตะให้เร็วที่สุด แบบนี้ถึงจะสามารถรู้ความหมายของคำพูดที่หยางชิงเสวี่ยพูดไว้ว่าถ้าเขาได้เธอ ก็จะได้ครอบครองพลังที่ทรงพลังมากเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อน่าหลันเยียนหรานตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่ามีพลังไหลไปทั่วทั้งร่างกาย หูและสายตาของเธอเฉียบคมขึ้น สภาพดีชนิดที่ว่าเมื่อก่อนเทียบไม่ติด“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเย่”
น่าหลันเยียนหรานหัวเราะคิกคัก "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดื่มเก่งมาก มา ดื่มกันต่อ..."โดยปกติแล้วคนที่ชอบพูดว่าตัวเองดื่มเก่ง ในความเป็นจริงล้วนไม่ค่อยจะเท่าไหร่ยกตัวอย่างเช่นน่าหลันเยียนหราน อวดว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ดื่มไปสามแก้วติดกัน ก็นอนฟุบหมดสติไปกับโต๊ะแล้วเย่ซิวส่ายหัวอย่างหมดคำพูด เดินขึ้นไปแล้วอุ้มเธอกลับไปที่ห้องน่าหลันเยียนหรานดูตัวสูงเพรียว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตัวหนัก น่าจะสักประมาณสี่สิบห้ากิโลกรัม สำหรับเย่ซิวแล้วจึงไม่ต่างอะไรกับการอุ้มก้อนสำลีมากนักเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของน่าหลันเยียนหราน กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกมะลิก็ลอยมาปะทะจมูก ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานเมื่อได้กลิ่นห้องพักสะอาดมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้คนเห็นแล้วต้องหน้าแดงเขาวางเธอลงเบา ๆ ไม่ทันรอให้เย่ซิวดึงมือกลับไป เธอก็ลืมตาที่แดงก่ำขึ้นแล้วพูดอย่างคลุมเครือฟังไม่ค่อยชัดแต่เย่ซิวได้ยินมันอย่างชัดเจนมาก เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "คุณแน่ใจเหรอ? ผมไม่สามารถให้สถานะแก่คุณได้"น่าหลันเยียนหรานค่อย ๆ หลับตาลง ท่าทางเหมือนยอมให้ท่านกระทำได้ทุกอย่างนี่เป็นการตัดสินใจเลือกของเธอเอง เย่ซิวไม่ได้บังค