“เสี่ยวหยิงถูกจับตัวไปแล้ว!” น้ำเสียงของน่าหลันเยียนหรานเต็มไปด้วยความร้อนรนเย่ซิวถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”“ฉันอยู่ที่บ้าน บอดี้การ์ดที่คุณส่งมาก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ” “รอผมก่อน ผมจะไปเดี๋ยวนี้” เย่ซิววางสายก่อนจะรีบมุ่งตรงไปยังบ้านของน่าหลันเยียนหรานทันทีเขาใช้วิชาล่องหนและวิชาสายลมอ่อนในการเดินทางเพื่อประหยัดเวลา จากระยะทางที่ปกติจะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง แต่ครั้งนี้เย่ซิวใช้เวลาเพียงเจ็ดถึงแปดนาทีก็ไปถึงแล้วเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้น เขาก็เห็นน่าหลันเยียนหรานนั่งหมดเรี่ยวแรงอยู่บนโซฟา และในห้องก็มีร่องรอยของการต่อสู้อีกด้วยพอเห็นเย่ซิว เธอก็รีบลุกขึ้นทันทีด้วยดวงตาแดงก่ำ “ขอโทษนะคะ ที่ฉันปกป้องเธอไว้ไม่ได้”เย่ซิวมีสีหน้าเคร่งเครียด “คนที่จับตัวเสี่ยวหยิงไปเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แล้วมีกี่คน?”“เป็นผู้หญิงสองคน ดูแข็งแกร่งมาก” น่าหลันเยียนหรานตอบอย่างรวดเร็ว“พวกเธอมีพลังที่แข็งแกร่งมาก ตอนที่เสี่ยวหยิงถูกจับตัวไป เธอพยายามขัดขืน แต่ก็โดนตบจนสลบ ฟันหลุดไปหลายซี่ และเลือดกบปากไปหมด”เย่ซิวมองดูพื้น และเห็นรอยเลือดกองหนึ่ง รวมทั้งฟันที่ร่วงอยู่หลายซี่เข
เด็กหนุ่มจับสังเกตเห็นความหวาดกลัวในดวงตาของเธอได้ จึงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ที่แท้นางสารเลวอย่างเธอก็รู้จักกลัวเหมือนกันนี่ ถ้าอย่างนั้นให้ฉันทำให้เธอสำนึกว่าฉันเก่งแค่ไหน!”เขาปลดเข็มขัดออกก่อนจะโยนไปด้านข้างน้ำตาของจวงเสี่ยวหยิงไหลออกมาเป็นสายเลือดเธอถูกกดไว้จนไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อยความสิ้นหวังแผ่ซ่านเต็มหัวใจ เด็กหนุ่มลากเก้าอี้มาวางตรงหน้าเธอ จากนั้นก็ขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ “เธอปากแข็งมากนักไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันจะเริ่มจากปากเธอนี่แหละ! แหกปากเธอออก!”บอดี้การ์ดหญิงสองคนช่วยกันง้างปากจวงเสี่ยวหยิงสีหน้าของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่งและความสะใจ เขาเพลิดเพลินกับการบังคับข่มขู่ผู้อื่น โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นความเจ็บปวดและความสิ้นหวังของอีกฝ่ายปัง!ก่อนที่จวงเสี่ยวหยิงจะถูกย่ำยี ประตูเหล็กก็ถูกเตะออกอย่างแรงเด็กหนุ่มหยุดชะงัก ก่อนจะมองไปที่เย่ซิวซึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างดุร้าย “แกเป็นใคร!”สายตาของเย่ซิวจับจ้องไปยังจวงเสี่ยวหยิง ซึ่งในขณะนี้ไม่เหลือสภาพเค้าเดิมอีกต่อไป แม้ว่าเขาจะมีความอดทนมากแค่ไหน แต่ในตอนนี้ความโกรธของเขาก็พุ่งขึ้นถึงขีดสุดเข
เย่ซิวใช้แรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่งั้นเด็กหนุ่มคงถูกเหวี่ยงจนกลายเป็นเศษเนื้อไปแล้ว ด้วยความที่เขาควบคุมพลังได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง แต่ไม่ถึงกับตายเด็กหนุ่มผู้เติบโตมาในครอบครัวที่ตามใจมาตั้งแต่เด็ก น้ำเปล่าที่เขาดื่มทุกวันก็มีราคาเป็นห้าพันบาทต่อขวด เขาจะเคยเจอใครที่ทำตัวเช่นนี้กับเขาได้ยังไง? ดวงตาของเขาเริ่มแดงก่ำ ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร แกตายแน่! ฉันจะฆ่าล้างโคตรครอบครัวแกให้หมด!”เย่ซิวไม่สนใจคำขู่ของเด็กหนุ่ม เขาหันไปวางมือทั้งสองข้างบนแก้มของจวงเสี่ยวหยิงจากนั้นจึงเริ่มใช้พลังฟื้นฟูรักษามือทั้งสองข้างของเขาปล่อยพลังนุ่มนวลออกมา บาดแผลของจวงเสี่ยวหยิงเริ่มหายไปอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่าผ่านไปเพียงสองนาที ทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาพปกติ แม้แต่ฟันที่หลุดออกมาก็กลับมางอกใหม่อีกครั้ง“พี่ ฉันนึกว่าจะไม่ได้เจอพี่อีกแล้ว” จวงเสี่ยวหยิงโผเข้ากอดเย่ซิวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือที่เต็มไปด้วยความโล่งใจและเศร้าสลดเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ ก่อนจะกระซิบ “ไม่เป็นไร ฉันสัญญาว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
บอดี้การ์ดฝีมือดีนับสิบต่างล้มลงอย่างราบคาบเด็กหนุ่มที่ถูกเย่ซิวจับไว้อยู่ในมือถึงกับตกใจจนฉี่ราดกางเกง จวงเสี่ยวหยิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจและดูถูกฉึก!เย่ซิวปล่อยพลังดาบออกไปตัดประตูหน้าคฤหาสน์ขาดเป็นสองส่วน เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นทันที โดรนลาดตระเวนหลายตัวบนท้องฟ้าเริ่มส่งเสียงเตือนว่า ‘มีศัตรูบุกรุก’ด้านใต้ตัวโดรนติดตั้งหน้าไม้จำนวนนับไม่ถ้วน มันเล็งเป้าไปที่เย่ซิวและปล่อยลูกธนูนับพันออกมาอย่างดุเดือดไม่เพียงเท่านั้น เหล่าผู้คุ้มกันจำนวนมากต่างกรูกันออกมาจากภายในตัวบ้านหวังจะฆ่าเย่ซิว แต่สำหรับเขาในตอนนี้ มนุษย์ธรรมดาไม่ว่าจะมีมากมายแค่ไหนก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย“ไสหัวไป!”เสียงตวาดของเย่ซิวดังสนั่น คลื่นพลังที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากระจายออกไปในทันที ไม่ว่าจะเป็นเหล่ายอดฝีมือที่กรูเข้ามา ธนูที่กำลังยิงออกไป หรือแม้กระทั่งโดรนที่บินอยู่ ต่างถูกทำลายลงจนสิ้นในพริบตาภาพที่เห็นทำให้เด็กหนุ่มหน้าซีดขาวด้วยความหวาดกลัวและสำนึกผิดในใจเขาหันไปจ้องมองจวงเสี่ยวหยิงด้วยความโกรธทำไมเธอไม่บอกฉันว่ามีพี่ชายที่เก่งขนาดนี้เล่า!ถ้าเขารู้เรื่องนี
ฉีตังกั๋วจ้องเย่ซิวด้วยความโกรธเกรี้ยว ก่อนจะหัวเราะออกมา “ไม่เป็นไร ฉันมีหลานตั้งหลายสิบคน ถึงแม้ว่าฉันจะรักคนนี้มากที่สุด แต่ถ้าแกอยากจะฆ่าก็เชิญเลย แต่อย่าคิดว่าแกจะอวดดีไปได้อีกนานแล้วกัน เย่ซิว อีกไม่นานวันดี ๆ ของแกจะจบลง”พูดจบ เขาก็ตัดการเชื่อมต่อวิดีโอไปเด็กหนุ่มที่กำลังสิ้นหวังร้องลั่นออกมาด้วยความตกใจ เขาไม่อยากเชื่อว่าปู่ที่รักเขามากที่สุดจะทอดทิ้งเขาในยามวิกฤตเช่นนี้“ได้โปรด อย่าฆ่าผมเลย ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้วจริง ๆ”ในความสิ้นหวัง เด็กหนุ่มทำได้เพียงอ้อนวอนขอชีวิตจากเย่ซิว เขาร้องไห้ฟูมฟาย เพราะครอบครัวของเขามีฐานะร่ำรวย เขายังอยากมีชีวิตเพื่อเสพสุขต่อไปและไม่อยากตายไปทั้งแบบนี้“ชาติหน้าแกอย่าได้เกิดมาเป็นคนอีกเลย แกมันไม่คู่ควร!”เย่ซิวจบชีวิตของเด็กหนุ่มลง ก่อนจะหันไปมองจวงเสี่ยวหยิงที่ยังคงนิ่งเงียบ “นี่ก็นับว่าเป็นการแก้แค้นได้ส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนไอ้เฒ่าฉีตังกั๋วนั่น ฉันจะจัดการมันในไม่ช้านี้”จวงเสี่ยวหยิงพยักหน้าแรง ๆ ใบหน้ากลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง “ขอบคุณค่ะพี่ แต่ตอนนี้ฉันอยากจะอาบน้ำก่อน ตัวสกปรกมาก”“โอเค งั้นก็อาบน้ำที่นี่เลย ฉันเองก็ต้องล้างคร
ไม่นานนัก ใบหน้าของจวงเสี่ยวหยิงก็เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อจากไอน้ำ ดูน่ารักน่าเอ็นดูเธอหันไปมองเย่ซิว “พี่คะ เราอยู่ที่นี่ต่ออีกนิดได้ไหมคะ?”“ไม่มีปัญหา” เย่ซิวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม “ตราบใดที่ไม่มีขีปนาวุธนับสิบลูกยิงมาที่นี่ มีฉันอยู่ก็ไม่มีใครทำอะไรเธอได้”ถ้าเป็นคนอื่นพูด จวงเสี่ยวหยิงคงคิดว่าเขาแค่ขี้โม้ แต่กับเย่ซิวนั้นไม่เหมือนกัน เธอรู้ถึงความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนี้ดี“แล้วที่โรงเรียน เธอเข้ากับเพื่อน ๆ ได้ดีรึเปล่า?” เย่ซิวถามจวงเสี่ยวหยิงยิ้มฝืน ๆ “ก็พอได้ค่ะ”เย่ซิวพยักหน้ารับรู้โดยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม “แช่น้ำพุร้อนต่อเถอะ”จวงเสี่ยวหยิงตอบรับก่อนจะหลับตาลง ปล่อยตัวไปกับความอบอุ่นของน้ำพุร้อน รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งร่างกายครึ่งชั่วโมงผ่านไป เย่ซิวลืมตาขึ้น ความเย็นเยียบฉายผ่านแววตา “มีคนมาให้ฉันจัดการอีกแล้ว”เขาลุกขึ้นยืนและบอกกับจวงเสี่ยวหยิง “เอาล่ะ ลุกขึ้นมาเถอะ”“โอเคค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงลุกขึ้น แต่จู่ ๆ เธอก็ร้องออกมา ก่อนจะเสียหลักลื่นลงไปในน้ำเย่ซิวรีบพุ่งเข้ามาประคองเธอไว้ “เป็นอะไรหรือเปล่า?”จวงเสี่ยวหยิงส่ายหน้า
เมื่อดาบนี้ถูกฟันออกไป รอยแตกยาวก็ปรากฏขึ้นบนพื้นใกล้เคียง เสียงดังสะท้านไปทั่วดวงตาของนักดาบเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ราวกับว่าเขาได้เห็นมือของเย่ซิวถูกตัดออกแล้วแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่อมา ทำให้ทุกคนในที่นั้นต้องตกตะลึง!เย่ซิว อาศัยเพียงสองนิ้วก็สามารถรับการโจมตีที่ผ่าแม่น้ำนี้ไว้ได้อย่างง่ายดาย“อะไรนะ?!”“เขารับไว้ได้!”ผู้ชมทั้งหมดตกตะลึง สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เย่ซิวอย่างไม่อยากจะเชื่อดวงตาของนักดาบคนนั้นเองก็แทบจะถลนออกมานอกเบ้าแล้วฉากนี้เหมือนอยู่ในความฝันอย่างไรอย่างนั้นเขาพยายามดึงดาบออกมาอย่างเต็มที่ แต่ก็ไร้ประโยชน์!ส่วนฉีฉูฉู่ที่รับชมสถานการณ์มาจนถึงตรงนี้ผ่านกล้องวงจรปิด ยิ่งตกใจมากจนแทบจะกรีดร้องออกมาในฐานะจอมยุทธ์ระดับห้า เธอรู้ดีว่าปรมาจารย์ระดับแปดนั้นน่ากลัวเพียงใดแถมเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายโจมตีมาอย่างเคียดแค้นเต็มกำลัง ทว่าเย่ซิวกลับสกัดกั้นมันได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้นี่มันเหมือนนิยายแฟนตาซี! เห็นผีกลางวันแสก ๆ ชัด ๆ!ติ๊ง!เย่ซิวออกแรงที่นิ้วเล็กน้อย ก็หักดาบนั้นทิ้ง เขาดีดเบา ๆ ที่ปลายดาบหนึ่งที ดาบก็ทะลวงผ่านร่างของนักดาบไปรูม่านตาของ
“ไม่สู้วางมีดที่ใช้ฆ่าลง ไปสวดมนต์กินเจกับอาตมา เพื่อชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ดีหรือไม่?”เย่ซิวเยาะเย้ย "คิดที่จะอาศัยฉันทะลวงระดับขึ้นไปก็พูดมาตามตรงเถอะ ทำไมต้องใช้คำพูดที่ฟังดูสูงส่งขนาดนี้มาเป็นข้ออ้างด้วย?"มีคนตะโกนออกมาด้วยความโกรธ "พูดจาเหลวไหล เราได้ยินมาว่าแกโหดเหี้ยมทารุณ ดังนั้นเราจึงมาที่นี่เพื่อขจัดภัยอันตรายแทนประชาชน!"ฟิ้ว!เย่ซิวดีดปราณกระบี่ออกไป มันก็แทงทะลุหว่างคิ้วของชายคนนั้น ร่างนั้นทรุดลงในทันทีผู้คนรอบตัวเขาตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบหนีกระเจิงออกไปใบหน้าของเย่ซิวยังคงแสดงความเสียดสี “ไอ้พวกหน้าซื่อใจคดกลุ่มหนึ่ง ฉันรู้ว่าทุกคนแค่อยากจะจับฉันไปแล่เนื้อเถือหนังคิดว่าฉันกินสมบัติแห่งฟ้าดินเข้าไปถึงได้สามารถทะลวงเข้าสู่จอมยุทธ์ระดับเก้าได้ตั้งแต่อายุน้อย ๆ!ฉันจะบอกความจริงให้พวกแกรู้ไว้ก็แล้วกัน การดื่มเลือดกินเนื้อของฉัน จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกแกได้อย่างแน่นอน ก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกแกมีปัญญาที่จะมาเอามันไปรึเปล่า”ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ดวงตาของคนเหล่านี้ก็เปล่งประกายวาววับแม้แต่สีหน้าของใต้ซือคูมู่เองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยใต้ซือคูมู่ได้เดิ
หยางเฟิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ยังไม่ขอโทษทั้งสองคนอีก”“ขอโทษค่ะ ฉันผิดไปแล้ว” หยางถิงถิงกล่าวอย่างไม่เต็มใจหยางเฟิงมองไปที่เย่ซิวและอลิส “พวกเธอทั้งสองคน ฉันตั้งใจจะซื้อชุดนี้กลับไปศึกษา หวังว่าจะได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆช่วงนี้ผมอยากออกแบบเสื้อผ้าแบบใหม่ แต่ก็ไม่มีไอเดียเลยหากทั้งสองคนยอมตัดใจจากชุดนี้ ฉันสามารถให้เงินชดเชยแก่พวกเธอได้นะแม้พวกเธออาจจะไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่นี่ก็ถือเป็นความจริงใจจากฉัน”ไม่เสียทีที่เป็นผู้สูงอายุที่ผ่านโลกมาหลายสิบปี วิธีการพูดของเขาทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจมากอลิสกำลังจะอ้าปากจะปฏิเสธเธอไม่ขาดแคลนเงินเลย ขอเพียงเธอสามารถทำให้คนที่เธอชอบมีความสุขได้แต่เย่ซิวชิงพูดขึ้นก่อนที่เธอจะได้เอ่ยอะไร “ไหน ๆ ผู้อาวุโสก็ทำธุรกิจด้านเสื้อผ้า ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเสื้อผ้าที่เหมาะกับผมบ้างหรือเปล่าครับ ถ้ามีองค์ประกอบของประเทศหลงเถิงก็จะดีมากครับ”ตัวเขาเองเป็นคนประเทศหลงเถิง จะเป็นการดีที่สุดหากเขาได้สวมใส่เสื้อผ้าที่มีองค์ประกอบของประเทศของเขาได้แต่ชุดพิธีการส่วนใหญ่ในท้องตลาดมักเป็นสไตล์ต่างประเทศหยางเฟิงหัวเราะ “แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้ว
“พรึ่ด!”อลิสรู้สึกขบขันไปกับเย่ซิวพลางยกนิ้วโป้งให้เขา “ที่รัก คุณพูดได้ดีมากจริง ๆ”เอ็ดโกรธจนตัวสั่น ไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้มาก่อนแม้เขาจะเป็นเพียงผู้มีพลังวิเศษระดับต่ำสุด แต่สถานะของเขาก็สูงมาก ไปที่ไหนเขาก็เป็นที่เคารพนับถือแต่ตอนนี้เขากำลังถูกเย่ซิวผู้ที่ไม่ได้มีหน้าตาหล่อเหลาอะไรทำให้ขายหน้าต่อหน้าคนมากมาย ใคร ๆ ก็คงจะจินตนาการถึงความโกรธที่อยู่ในใจของเขาได้เขากำหมัดแน่นและแอบรวบรวมพลังวิเศษในร่างกายเพื่อฆ่าคนตรงหน้าต่อหน้าทุกคนเมื่อเห็นว่าเขายังไม่ยอมไป อลิสจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า “ยังจะรังควานกันไม่เลิกอีกเหรอ? อย่างนั้นฉันจะโทรหาพ่อของฉันเดี๋ยวนี้เลย”สีหน้าของเอ็ดเปลี่ยนไป เขาก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที “อย่า ๆ ๆ ผมจะไปแล้วนี่ไงคุณต้องเชื่อนะว่าผมรักคุณเสมอ ผมก็แค่ทำผิดพลาดเหมือนกับที่ผู้ชายทุกคนในโลกนี้เคยทำ ผมขอตัวก่อน คุณใจเย็น ๆ ล่ะ”พูดจบ เขาก็เดินออกไปข้างนอก และก่อนที่จะออกไป เขาจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาเย็นชาผู้หญิงที่อยู่กับเขาก็รีบตามเขาออกไปด้วยพนักงานขายสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังคงพาคนทั้งสองไปหยุดอยู่ตรงหน้าราวเสื้อผ้าราวกับไม่
เขาสัมผัสได้เพียงเขาที่งอกบนศีรษะ สายตาที่เขามองเย่ซิวราวกับต้องการจะกินหัวอีกฝ่ายเสียให้ได้อลิสยิ้มเยาะ “นายตาบอดเหรอ ไม่เห็นรึไงว่าเขาเป็นแฟนฉัน”“นี่คุณพูดบ้าอะไร เขาเป็นแฟนคุณ แล้วผมล่ะ? พวกเราคบกันมาตั้งหลายปี แต่คุณกลับทรยศผมแบบนี้เนี่ยนะ!”“ทรยศ?” อลิสเองก็โมโหเช่นกัน “นายยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่านายมีผู้หญิงคนอื่นมานานแค่ไหนแล้ว? นายเป็นคนทรยศฉันก่อน ไม่ใช่ฉันที่ทรยศนาย”ดวงตาของเอ็ดฉายแววตื่นตระหนก เขารีบอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “อลิส ได้โปรดฟังคำอธิบายของผมก่อน ผมกับเธอเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้นเองนะ”ขณะที่พูด เขาก็รีบดันผู้หญิงที่อยู่ข้างกายออกไปหญิงสาวผู้นี้เองก็รู้ตัวตนของอลิส เธอจึงก้มหัวลงและไม่กล้าพูดอะไรซี้ซั้ว อีกทั้งยังพยายามทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจน้อยที่สุดอลิสพูดอย่างเย็นชา “เรื่องระหว่างเรามันจบไปตั้งแต่วันที่นายทรยศฉันแล้วแล้วนายก็ไม่ได้ผู้หญิงแค่คนเดียว คิดว่าวันนั้นฉันไม่เห็นเหรอว่านายอยู่กับเพื่อนสนิทของฉัน”เอ็ดก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะจับมืออลิส แต่กลับถูกเธอปัดมือทิ้ง“ที่รัก คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมกับเธอแค่คุยกันเรื่องงานเ
เดิมทีเขาจะออกไปอยู่แล้ว แต่เพราะคำถามของอลิส การออกเดินทางจึงล่าช้าไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมงอีกทั้งอลิสยังเสียเวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการแต่งหน้าใหม่เย่ซิวสงสัยอย่างมากว่าเธอทำมันโดยตั้งใจทั้งสองคนออกไปข้างนอกเหมือนคู่รักทั่ว ๆ ไปอลิสกอดแขนของเย่ซิว ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และอารมณ์ดีสุด ๆเธอขับรถไปยังถนนสายหนึ่งซึ่งมีความคล้ายคลึงกับถนนของประเทศจ้านอิงตี้มากที่แห่งนี้เรียกว่าถนนมหาเศรษฐีสินค้าทุกอย่างที่นี่ล้วนเริ่มต้นที่ห้าแสนบาท ซึ่งมีเพียงคนรวยเท่านั้นที่สามารถซื้อได้และมักมีหญิงสาวหน้าตาดีแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราเดินไปมาบนถนนสายนี้อยู่เสมอหากเห็นผู้ชายสักคนมาที่นี่ตัวคนเดียวเดินเข้าไปซื้อของในร้านใดร้านหนึ่ง พวกเธอก็จะสร้างความบังเอิญเพื่อพยายามจับสามีรวย ๆแน่นอนว่าย่อมมีผู้ชายที่ต้องการจะหาภรรยาเศรษฐีจากที่นี่ด้วยเธอพูดว่าอยากจะซื้อเสื้อผ้าให้เย่ซิว แต่หลังจากมาถึงที่นี่ อลิสก็ลากเย่ซิวไปซื้อกระเป๋าหลากยี่ห้อ เครื่องประดับ แม้กระทั่งชุดชั้นใน ทำเอาเขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะหลังจากที่ติดตามเธอมานานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดอลิสก็พาเย่ซิวไปที่ร้านขายเส
หญิงสาวเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที “นายคิดจะไปทำธุระส่วนตัวงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน นายต้องพาฉันไปด้วยสิ!”“ผมจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย คุณก็ค่อย ๆ รักษาแผลตัวเองไปแล้วกันนะ ลาก่อน”พูดจบ เย่ซิวก็พังหน้าต่างออกไปพรีเอลล์วิ่งตามไปที่หน้าต่างแต่ก็มองไม่เห็นเงาของเย่ซิวแล้วสีหน้าของเธอขรึมลง จิตสังหารในตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายสิบองศา “คอยดูเถอะไอ้สารเลว ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งฉันจะทำให้แกคายทุกสิ่งที่เคยกินไปออกมา!”เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงบ้านของอลิส เธอก็ตื่นแล้วหลังจากที่อลิสตื่นขึ้นมาและพบว่าเย่ซิวหายไป เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรู้สึกจิตตกทันทีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…ตึง! ตนเองก็รู้สึกแปลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเย่ซิวแท้ ๆแต่เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมา เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที “นายไปไหนมา? ฉันนึกว่านายจะไปโดยไม่บอกลากันซะแล้ว”เย่ซิวยิ้มและกล่าวว่า “ผมไปทานข้าวมาน่ะ”อลิสไม่สงสัยแม้แต่น้อยพลางทำท่าทางกระอักระอ่วน “เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดีเอง นายมีเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหม หรือพวกเราควรไปซื้อตอนนี้เลยดี?”เย่ซ
พรีเอลล์เบิกตากว้าง “ฉันลืมอะไรไปเหรอ? อ้อ หรือว่านายอยากให้ฉันนอนกับนายอีกครั้ง? อย่างนั้นก็ได้ มาสิ”พูดจบเธอก็แสดงท่าทียินยอมพร้อมใจเย่ซิวยิ้มหยัน “ยังจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าผมอีกเหรอ? เอาสร้อยคอที่คุณเก็บไว้ออกมาให้ผมตรวจดูมูลค่าของมันเถอะ”สีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อันนั้น...ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของนายในตอนนี้คงจะสมเหตุสมผล เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”เย่ซิวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเธออย่างเงียบ ๆ และบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆเหงื่อเย็นหยดหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของพรีเอลล์เธอลอบกลืนน้ำลาย ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ เสียงกลืนน้ำลายนั้นจึงฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ“ก็ได้”ในที่สุด พรีเอลล์ก็ยอมแพ้และวางของลงตรงหน้าอย่างว่าง่ายเย่ซิวหยิบจี้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวังลองใช้พลังจิตแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยจากนั้นเขาได้ส่งผ่านพลังวิญญาณเข้าไป และจี้นั้นก็ปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาเย่ซิวรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือ ราวกับกำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่ก็ไม่ปานจินตานห้าสีสั่นสะเทือนขึ้นมา เย่ซิวระดมพลังธาตุไฟและส่งผ่านมันเข้าไปตัว
รอจนเย่ซิวได้ลิ้มรสความหวานและติดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้วค่อยบอกวิชาลับอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วให้เย่ซิวถึงเวลานั้น จอมมารโลหิตก็จะสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมเย่ซิวไว้ได้อย่างมั่นคงทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้นพวกอันธพาลที่เห็นเย่ซิวนิ่งเฉยก็โกรธจัด ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่เขาในมือแต่ละคนมีท่อเหล็กพร้อมแววตาที่ฉายแววอำมหิตเย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้า ๆ และใช้วิชาคัมภีร์มารโลหิตทันที!ตูม! ตูม! ตูม!เกิดแรงดูดมหาศาลจากฝ่ามือของเย่ซิว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของชายหนุ่มสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยองเลือดสด ๆ ไหลทะลักเข้าสู่ฝ่ามือของเย่ซิวหลังจากผ่านกระบวนการของวิชาคัมภีร์มารโลหิต มันก็แปลงสภาพกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์เย่ซิวเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในยุคโบราณจำนวนมากถึงเลือกเดินบนเส้นทางมาร เพราะมันทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เองเพียงแค่ไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่เขาได้รับมาก็เทียบเท่ากับการบำเพ็ญอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนหากเขาฆ่าคนในเมืองนี้ทั้งหมด…บางท
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้? เมื่อกี้ฉันเกือบจะโดนจับได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…บ้าจริง”พรีเอลล์ที่อ่อนแรงในอ้อมแขนของเย่ซิวยกสองนิ้วขึ้นมาบิดที่เอวของเขาอย่างแรงถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัส แต่แรงบิดของเธอก็ยังเจ็บเอาเรื่องไม่น้อยเย่ซิวยิ้มบาง ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร? หรือไปเจอคนใจบุญช่วยไว้ล่ะ”พรีเอลล์เบือนหน้าไปอีกทาง เธอไม่มีทางยอมบอกหรอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกจับได้ แต่ในจังหวะคับขันกลับถูกเลสเบี้ยนคนหนึ่งลากเข้าห้องน้ำไปและโดนผู้หญิงคนนั้นลวนลามไปไม่น้อยเลยถ้าพูดออกไปคงถูกเย่ซิวล้อไม่หยุดแน่“ช่างมัน รีบไปกันเถอะ”เย่ซิวพยุงตัวพรีเอลล์ขึ้นและพาเธอเดินออกจากบาร์ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องจัดการคือการแบ่งสมบัติจากการต่อสู้ครั้งนี้อีกในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรีเอลล์หนีจากหน่วยรบเขี้ยวพิษจำนวนมากได้อย่างไรทั้งที่เธอบาดเจ็บจากระเบิดและพลังที่เหลืออยู่ก็ลดลงเกือบครึ่ง การหนีรอดออกมาน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งไปกว่านั้น จากสภาพของเธอดูเหมือนจะไม่มีใครจับได้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำให้เย่ซิวยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกทั้งสองเดินออกจากบาร์ก่อนจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังมา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่