- “เธอก็แค่พยายามจะเรียกร้องความสนใจเท่านั้นแหละ ฉันว่าเธอตั้งใจจะหาเงินมากกว่า!”……มีคนพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างหลากหลายมู่หว่านฉิงไม่ได้โกรธ เพราะเมื่อทาครีมผิวหยกลงบนใบหน้าของเธอจนทั่วแล้ว เธอก็รู้สึกได้ถึงความเย็นสบายที่แผ่ออกมาทันใดนั้นอารมณ์ของเธอก็สดใสขึ้นราวกับแสงตะวันเย่ซิวเฝ้าดูจากด้านข้าง ขณะที่เสี่ยวจวี๋กำลังวางผลไม้ต่าง ๆ ไว้ตรงหน้าเขาอย่างกระตือรือร้นเรื่องนี้เข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ และผู้คนก็รู้เรื่องนี้มากขึ้นเรื่อย ๆต่อมาแม้แต่สื่อทางการก็ยังว้าวุ่นมู่หว่านฉิงได้รับการยกย่องจากสาธารณชนว่า แม้เธอจะมีความผิดปกติทางด้านร่างกาย แต่เธอก็กล้าเผชิญกับความยากลำบาก และแสดงด้านที่มองโลกในแง่ดีและมีชีวิตชีวาที่สุดต่อสาธารณะด้วยการสนับสนุนจากสื่ออย่างเป็นทางการ จำนวนคนในห้องถ่ายทอดสดจึงพุ่งสูงขึ้นในชั่วโมงที่สามของการถ่ายทอดสด มีผู้ชมมากกว่าสองล้านคนมู่หว่านฉิงไม่ได้ขายสินค้า หรือรับของขวัญในห้องถ่ายทอดสด เธอแค่คุยกับทุกคนและร้องเพลงสองสามเพลงเป็นครั้งคราวเหมือนกับสายลมที่พัดผ่านทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจเดิมทีบางคนที่วิพากษ์วิจารณ์เธอก็ค่อย ๆ ได้รับอิทธิพลและเงี
เสี่ยวจวี๋พาเย่ซิวไปที่ห้องนอน เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย "พี่เย่ อ่อนโยนหน่อยนะคะ นี่เป็นครั้งแรกของฉัน"เธอมีความประทับใจที่ดีต่อเย่ซิวเขาทำให้มู่หว่านฉิงมีชีวิตใหม่ และที่สำคัญเขาก็ค่อนข้างหล่อเลยทีเดียวเธอคงจะมีความสุขที่จะได้มีความสัมพันธ์กับผู้ชายอย่างเขานี่เป็นเหตุผลเดียวกับที่เวลาผู้ชายเห็นผู้หญิงสวย พวกเขาก็อยากจะเข้าใกล้มากกว่านั้นบนใบหน้าของเย่ซิวเต็มไปด้วยคำถาม "คุณกำลังพูดเรื่องอะไร? ผมมียาจะให้คุณกินเพื่อเสริมสร้างร่างกาย หลังจากที่คุณกินยาเข้าไปแล้ว ในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้คุณจะได้มีแรงดูแลมู่หว่านฉิง"ในขณะที่เขาพูด เขาก็ยื่นยาให้เธอและสั่งว่า “หลังจากกินไปแล้วคุณจะต้องเข้าห้องน้ำบ่อยหน่อย แต่ไม่ต้องกังวลไปนะ”เสี่ยวจวี๋ที่จะเข้าใจผิดก็พลันหน้าแดงจี๋ แต่เม็ดยาในมือของเธอก็ดึงดูดความสนใจไปอย่างรวดเร็ว "ยานี้ได้ผลจริง ๆ เหรอ? แล้วถ้าผู้ชายกินเข้าไป มันจะไม่…”เย่ซิวเขกหน้าผากของเธอเบา ๆ “อายุแค่นี้ ในหัวของคุณคิดอะไรกัน?”เสี่ยวจวี๋แลบลิ้นอย่างขี้เล่นแล้ววิ่งเข้าไปกินยาในห้องน้ำมีคนนอนดึกออนไลน์อยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก แม้แต่ในเวลาตีสามตีสี่แล้วก็ยังมีค
ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ สิ่งนี้ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดา มีพลังทำลายล้างที่เหนือชั้นสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่เย่ซิวยิ้มและโทรหลายครั้งติดต่อกันเขาใช้เส้นสายทั้งหมดที่มีในตอนนี้เพื่อซื้อเครื่องยาสมุนไพรคุณภาพสูงจากที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศต่อไป หลังจากที่มู่หว่านฉิงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์แล้ว การเปิดเผยครีมผิวหยกจะส่งผลให้อุปสงค์มีมากกว่าอุปทานอย่างแน่นอนชุดแรกห้าพันกล่องคงอยู่ได้ไม่นานจากนั้นเขาก็ได้รับข่าวจากหนานหวังว่า สวีอิงรู้เรื่องแล้วและได้ส่งคนไปหามู่หว่านฉิงแล้ว เย่ซิวคิดอยู่ครู่หนึ่งและเริ่มระดมยอดฝีมือบางคนที่สามารถไปที่ไซต์ก่อสร้างได้ เพื่อป้องกันไม่ให้สวีอิงกลายเป็นสุนัขจนตรอกที่ทำการอะไรสิ้นคิดเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงวันมู่หว่านฉิงทานอาหารกลางวันเสร็จต่อหน้ากล้องในเวลานี้เหลือเพียงจุดแดงจาง ๆ บนใบหน้าของเธอเท่านั้นเธอฟื้นตัวได้เกือบหมดแล้วเธอทาครีมผิวหยกอีกครั้งพลางพูดคุยกับชาวเน็ตในห้องถ่ายทอดสดแต่ตั้งแต่เช้า ในห้องถ่ายทอดสดก็เต็มไปด้วยคำถามที่ว่าเธอใช้เครื่องสำอางอะไรมู่หว่านฉิงไม่ได้เปิดเผยสักคำ แต่อธิบายต่อไปว่าเธออยู่ภายใต้สัญญาและต้องรอจนกว่าใบหน้าของเธอจ
“มีของแค่นี้คุณกล้าขายได้ยังไง?”“นี่มันต้องเป็นกลยุทธ์การตลาดที่จำกัดอุปทานแน่ ๆ!”“ให้ตายเถอะ บริษัทนี้ไร้จริยธรรมเลยเกินไปแล้ว ทุกคนช่วยกันคว่ำบาตรเลย ไม่ต้องซื้อ ให้ฉันซื้อแทนเอง!”……ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางคนที่หามาได้ก็อวดของคนอื่น แล้วก็โดนคนหมู่มากรุมโจมตีแน่นอนว่ายังมีความคิดเห็นแปลก ๆ ปะปนอยู่ด้วย“เพื่อนฉันอยากถามว่าครีมผิวหยกตัวนี้ใช้ได้ทั้งตัวเลยหรือเปล่า?”ชาวเน็ตจำนวนมากต่างแสดงความคิดเห็นกันด้านล่าง“เพื่อนในจินตนาการรึเปล่า?”“เพื่อนฉันก็อยากจะถามเหมือนกัน...”ครีมผิวหยกได้รับความนิยมไปอย่างแพร่หลายบนโลกอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยหัวข้อที่เกี่ยวข้องด้วยเหตุนี้ความนิยมของครีมทาหน้าเอสซี่และพรีเซนเตอร์จึงถูกกลบกระแสไปอย่างสิ้นเชิงไม่ว่าพวกเขาจะซื้อตัวอินฟลูเอนเซอร์หรือซื้อหัวข้อที่กำลังมาแรงก็ไม่มีประโยชน์มู่หว่านฉิงปิดการถ่ายทอดสด เธอยืนขึ้นและโค้งคำนับอย่างสุดซึ้งต่อเย่ซิว "คุณเย่ ฉันไม่รู้จะแสดงความขอบคุณยังไงดีเลยค่ะ ยังไงก็ตาม ถ้าในอนาคตคุณต้องการอะไร ก็บอกฉันได้เลยนะคะ"เย่ซิวพูดติดตลก "จริงเหรอ? แล้วคุณอุ่นเตียงให้ผมได้ไหม?"ใบหน้าของมู่หว่านฉิงเปลี่
“หว่านฉิง คุณกินข้าวหรือยัง?”เสียงที่อบอุ่นและกระตือรือร้นมากดังขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของสายเธอคุ้นเคยกับเสียงนี้เป็นอย่างดี เป็นผู้ชายที่โทรหาเธอเมื่อไม่นานนี้เพื่อขอยกเลิกสัญญากับเธอมู่หว่านฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย "ขอโทษนะคะ คุณต้องการอะไร?"“ฮ่าฮ่า ก่อนหน้านี้เรามีเรื่องเข้าใจผิดกัน ฉันหวังว่าเธอจะละทิ้งความคับข้องใจในอดีตแล้วกลับมา ยังไงแล้วเดิมทีเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันนะ”เสี่ยวจวี๋ทำท่าทีอยากจะอาเจียนและพูดตรง ๆ อย่างไม่ลังเล "ฉันไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อนเลยจริง ๆ"อีกฝ่ายได้ยินแต่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน และยังคงหว่านล้อมมู่หว่านฉิงและให้เหตุผลกับเธอต่อไปแต่มู่หว่านฉิงนั้นเด็ดเดี่ยวพอตัวเธอรู้ถึงสันดานของผู้ชายคนนี้แล้ว และรู้ว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทประเภทไหน แน่นอนว่าเธอจะไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนอีกเมื่อเห็นว่ามู่หว่านฉิงไม่สะทกสะท้าน อีกฝ่ายก็เริ่มขู่ "ถ้าเธอไม่กลับมา บริษัทจะใช้อำนาจทั้งหมดขึ้นบัญชีดำกับเธอ และเธอจะไม่มีวันได้อยู่ในวงการนี้อีกในอนาคต!”มู่หว่านฉิงโกรธจนตัวสั่น "คุณนี่มันหน้าด้านเกินไปจริง ๆ ฉันยกเลิกสัญญากับคุณไปแล้ว!"“ฮ่าฮ่า แล้วถ้าฉันยกเลิก
เย่ซิวไม่ได้อยากจะรับสายเลย แต่หลังจากที่คิด ๆ ดูแล้ว เขาก็รับสายอยู่ดี“ทำอะไรอยู่เหรอ~?”ทันทีที่เชื่อมต่อสาย เสียงที่ทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยนของเสวี่ยเหมยที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเสียวซ่านถึงกระดูกก็ดังขึ้น“มีธุระอะไรหรือเปล่า?” เย่ซิวค่อนข้างเย็นชา“เปล่า ฉันก็แค่เบื่อ ก็เลยอยากคุยกับคุณ”เย่ซิวหัวเราะเยาะ "ถ้าคุณไม่พูด ผมจะวางสายนะ"“อย่าเพิ่งสิ” เสวี่ยเหมยมีความกังวลเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความออดอ้อนและเจือความรู้สึกผิดเล็กน้อย "ฉันรู้ว่าครั้งที่แล้วฉันผิดเอง ฉันก็แค่อยากจะขอโทษคุณ ไม่ได้เหรอ?”“คุณเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่าใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างฉันเลย”สาวสวยที่มีทรัพย์สินมูลค่านับสิบล้านล้านบาท เมื่อเธอลดท่าทีลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยน ชายใดได้เห็นเป็นต้องโกรธเธอไม่ลงเย่ซิวถอนหายใจ "คุณอยากได้ครีมผิวหยกใช่ไหม?"“ฮิฮิ” เสียงหัวเราะของเสวี่ยเหมยนั้นขี้เล่นเล็กน้อย “ใช่ ฉันอยากได้หนึ่งพันกล่อง ต่อให้แพงกว่าราคาตลาดถึงสิบเท่าก็ไม่ใช่ปัญหา”ผลประโยชน์มาหาถึงที่ขนาดนี้มีหรือจะปฏิเสธ เย่ซิวจึงพูดว่า "ส่งที่อยู่มาให้ผม ถ้าครีมชุดที่สอ
แม้ว่าพวกนักเลงคีย์บอร์ดจะป้ายสีกันอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ผู้ซื้อครีมชุดแรกนั้น หลังจากที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ก็แสดงความเห็นกันในเชิงบวกอย่างเป็นเอกฉันท์และยังมีบล็อกเกอร์ความงามบางคนที่หลังจากได้ลองใช้แล้วก็ช่วยโปรโมตให้ฟรีโดยการเขียนบทความหรือไม่ก็โพสต์วิดีโออีกด้วยวันนี้เป็นการเปิดขายครั้งที่สองผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนนับไม่ถ้วนรออยู่หน้าคอมพิวเตอร์กันมานานแล้วผู้ชายหลายคนถูกแฟนหรือภรรยาบังคับให้นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ และยังบอกด้วยว่า ถ้าไม่ได้ครีมมา พวกเธอจะไม่ยอมมีอะไรด้วย…จะเริ่มเปิดจำหน่ายเวลาสิบโมงเช้าเมื่อถึงเวลา ผู้คนนับไม่ถ้วนรีเฟรชหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและคลิกเมาส์กันอย่างเมามันครั้งนี้ปริมาณที่ปล่อยออกมาค่อนข้างมากโดยมีห้าหมื่นกล่อง แต่ก็ยังขายหมดในทันทีผู้คนนับไม่ถ้วนสบถด่าอย่างไรก็ตาม ข่าวดีก็คือ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการได้ประกาศว่าจะปล่อยสินค้าอีกชุดในเวลาสองทุ่มเพื่อจัดส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อโดยเร็วที่สุด บริการจัดส่งด่วนที่เลือกคือเฟิงชุ่นเอ็กซ์เพรสซึ่งเป็นบริษัทจัดส่งด่วนที่เร็วที่สุดในประเทศไม่กี่วันมานี้เย่ซิวยุ่งง่วนอยู่กับการเตรียมปุ๋ยน้ำเป็นส่วนใหญ
“เกิดอะไรขึ้น?” เย่ซิวถามอย่างสงสัย“เอ่อ… ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วยสักหน่อย” หลินซวงก้มหน้าลงและหน้าแดง “คุณย่าของฉันอยากให้กลับบ้านแล้วพาแฟนไปด้วย…”ขณะที่เธอพูด เธอก็เงยหน้าขึ้นเหลือบมองเย่ซิว จากนั้นก็ก้มหน้าลงอีกครั้งในทันใด "คุณย่าบอกว่า ถ้าฉันไม่พาแฟนกลับบ้านในสัปดาห์นี้ คุณย่าจะไม่นับฉันเป็นหลานสาวอีกเพราะอย่างนั้น… คุณช่วยแกล้งเป็นแฟนฉันสักวันได้ไหม?”หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็มองเย่ซิวด้วยท่าทีน่าสงสารเย่ซิวถามว่า "เมื่อไหร่?""วันเสาร์นี้"“โอเค” เขาตอบตกลงทันทีช่วงนี้หลินซวงไร้ที่ติ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเย่ซิวที่จะช่วยเหลือเธอในเรื่องเล็กน้อย“จริงเหรอ? เยี่ยมเลย!” หลินซวงกระโดดด้วยความดีใจหลินซวงกลับไปทำงานอย่างมีความสุขเย่ซิวขับรถไปที่บริษัทคนเดียว เพื่อเตรียมกำจัดสวีอิงในขณะนี้ สวีอิงยุ่งมาก ทั้งโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์มือถือของเขามีสายเข้าจนแทบไหม้“ให้ตายเถอะ เย่ซิว ฉันต้องฆ่าแกให้ได้!”สวีอิงอดไม่ได้ที่จะคำราม ใบหน้าของเขาดุร้ายการโจมตีของเย่ซิวรุนแรงเกินไปราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง โดยเริ่มต้นจากพรีเซนเตอร์ ผลิตภัณฑ์ ภาษีรายได้ และอื่น ๆ พร้อ
ในขณะเดียวกัน เสียงของเย่ซิวก็ดังขึ้นข้างหูเขา "สถานที่แห่งนี้ ห้ามฟื้นฟูขึ้นใหม่ภายในหนึ่งร้อยปี มิเช่นนั้นประเทศจ้านฉงตี้จะต้องหายไปจากโลกใบนี้"นี่เป็นทั้งการดูแคลน และยังเป็นการเหยียดหยามอย่างถึงที่สุดให้พวกเขาต้องเผชิญกับความอัปยศนี้ทุกขณะในช่วงเวลาหนึ่งร้อยปีถือเป็นการโต้กลับอย่างแข็งแกร่งของเย่ซิว หลังจากประเทศจ้านฉงตี้พยายามเล่นงานเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจักรพรรดิหมีเหล็กกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ความอัปยศอันรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วร่างใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธแต่ในความโกรธแค้นนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความรู้สึกหมดหนทางอย่างลึกล้ำเพียงชั่วพริบตาเดียวราวกับว่าเขาแก่ลงไปอีกหลายสิบปีเดิมทีเส้นผมของเขายังมีสีดำเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับขาวโพลนทั้งหมดผู้ช่วยที่อยู่ข้างกาย มองดูสภาพของเขาด้วยความสงสาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา "ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? จะยิงจรวดออกไปอีกไหม?""ไม่ต้องแล้ว ไม่มีทางเอาชนะเขาได้หรอก"จักรพรรดิหมีเหล็กส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยล้า สายตามองไปยังร่องรอยของกระบี่อันใหญ่โตเบื้องหน้า "ดูเหมือนว่า ถึงเวลาที่ฉันจะต้องหาผู้สืบทอดแล้ว"……ม
เบื้องหน้าของเย่ซิวปรากฏชายชราผู้มีรูปลักษณ์ประหลาดเขามีอายุกว่าร้อยปีแล้ว ดวงตาฝ้าฟางแทบจะลืมขึ้นไม่ได้เส้นผมยาวหลายสิบเมตรถูกถักเป็นเปียและพันรอบร่างกายของตนใต้ฝ่าเท้าของเขามีการ์กอยล์หินเป็นพาหนะ มือขวาถือไม้กายสิทธิ์อันเก่าแก่เย่ซิวกระตุกบังเหียนให้ม้าหยุดลงพลางหรี่ตามองชายชราเล็กน้อย “มีธุระอะไร?”พลังที่แผ่ออกมาจากร่างของชายชราทำให้เย่ซิวรู้สึกได้ถึงอันตรายแม้ว่าจะเป็นเพียงเสี้ยวเดียวก็ตาม“ข้าคือเทพพิทักษ์แห่งประเทศจ้านฉงตี้ ปิดด่านฝึกฝนมาหลายสิบปีแล้วได้ยินว่าประเทศหลงเถิงมีอัจฉริยะที่แข็งแกร่งจึงอยากมาดูให้เห็นกับตา”เย่ซิวไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “ตอนนี้ก็ได้เห็นแล้ว มีอะไรจะชี้แนะหรือเปล่า?”ดวงตาฝ้าฟางของชายชราเพ่งมองเย่ซิวแน่วแน่ แววตานั้นแฝงไปด้วยอันตรายเล็กน้อยก่อนที่เขาจะยิ้มออกมา“ข้าน่ะเป็นคนอยากรู้อยากเห็นเลยอยากจะประลองกับเจ้าสักหน่อย ไม่รู้ว่าจะรับคำท้าหรือไม่”เย่ซิวสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ซ่อนเร้นของอีกฝ่ายที่บอกว่าเป็นการประลองคงเป็นแค่ข้ออ้างจุดประสงค์ที่แท้จริงคือก็แค่อยากทดสอบพลังของตนเองกับเขาเท่านั้น“ฉันไม่มีคำว่าประลองอะไรทั้งนั้น ถ้าคุณคิ
ทั้งคืนผ่านไปด้วยความว้าวุ่นใจและความกระสับกระส่าย เธอแทบไม่ได้หลับเลยเวลาแปดโมงเช้า เย่ซิวยืนอยู่ริมหน้าต่างมองออกไปยังทิวทัศน์ภายนอกอากาศสดชื่น เสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้กระจายไปทั่ว ที่นี่มีนกยูงเลี้ยงไว้อยู่หลายตัว บรรยากาศเหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างยิ่ง“คุณเย่ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” ลิลิธเดินเข้ามาพร้อมกับก้าวย่างที่อ่อนช้อยดุจแมวป่าฝ่าเท้าขาวผ่องราวหิมะสัมผัสพื้นเบา ๆ ทีละก้าวก่อนจะหยุดอยู่ข้าง ๆ เย่ซิวเธอจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ยั่วยวนหลังจากฝึกฝนตลอดทั้งคืน พลังของลิลิธก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างมหาศาลตอนที่เธอมาที่นี่ เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสามารถพัฒนาขึ้นได้เร็วขนาดนี้หากเป็นไปได้ เธอเองก็อยากบำเพ็ญร่วมกับเย่ซิวตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทั้งวันทั้งคืนบางทีเธออาจสามารถบรรลุถึงระดับพลังที่ไม่มีใครในประเทศจ้านฉงตี้เคยไปถึงมาก่อนแต่น่าเสียดายที่คงเป็นแค่ความฝันที่เป็นไปไม่ได้เย่ซิวไม่ได้ตอบอะไร สายตาของเขายังคงจ้องไปข้างนอกโดยไม่กะพริบตาจินตานห้าสีของเขาหมุนวนอย่างบ้าคลั่งรัศมีพลังที่ส่องออกมาราวกับพระอาทิตย์ที่สว่างไสวและแข็งแกร่งไ
เคย์ฟี่พาลิลิธกลับมาที่ห้องของเธอเธอกับพูโรแยกกันนอนมานานแล้วหลังจากปิดประตู เธอก็รีบดึงลิลิธเข้าไปในห้องน้ำอย่างกระตือรือร้นน้ำร้อนถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วจากนั้นเคย์ฟี่ก็ปิดประตูห้องน้ำเสียงดังปังไม่นานนักก็มีเสียงอุทานของเคย์ฟี่ดังออกมาเป็นระยะด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอิจฉาลึก ๆครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองก็เดินออกมาจากห้องน้ำเคย์ฟี่ช่วยลิลิธแต่งตัวกับมือ จากนั้นก็ลงเครื่องสำอางให้เธอก่อนจะฉีดน้ำหอมสุดหรูราคาแพงเดิมทีลิลิธก็เป็นหญิงงามอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เสน่ห์ของเธอกลับเพิ่มขึ้นไปอีกระดับเธอมองเงาตัวเองในกระจกก่อนจะพยักหน้าด้วยความพอใจ ความมั่นใจของเธอเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วนจากนั้นเคย์ฟี่ก็พาลิลิธไปยังห้องของเย่ซิว เธอเคาะประตูเบา ๆภายในห้อง แน่นอนว่าเย่ซิวไม่มีความจำเป็นต้องนอนพักเขาเพิ่งกลั่นโอสถไปหลายเตา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เอาไว้ใช้เพื่อเพิ่มพลังบำเพ็ญตนแม้ว่าตอนนี้ผลลัพธ์ของมันอาจจะไม่ได้ทรงพลังมากนัก แต่ถ้าปริมาณมากพอก็ยังสามารถช่วยได้ตอนนี้เขามีโอสถกว่าพันเม็ดแล้วก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก เย่ซิวชะงักเล็กน้อยก่อนจะเก็บเตาหลอมและโอสถท
แต่ลิลิธกลับมีพรสวรรค์ในศาสตร์ด้านนี้สูงมาก จนสามารถฝึกฝนไปถึงระดับที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนผู้ชายทั่วไปไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอเลยไม่เช่นนั้น วันรุ่งขึ้นมีหวังกลายเป็นซากศพแห้งตายอย่างแน่นอนแม้ว่าลิลิธจะมีชื่อเสียงด้านความงามโด่งดังไปทั่ว แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอเคย์ฟี่ดวงตาเป็นประกาย “ความคิดนี้ไม่เลวเลยนะ ลิลิธต้องเจอกับผู้ชายที่แข็งแกร่งระดับเย่ซิวเท่านั้นถึงจะรับมือไหวพอลิลิธทำสำเร็จแล้วเข้าไปอ้อนเย่ซิวอีกหน่อยลองชวนให้เขามาลองพี่น้องสุดเซ็กซี่ บางทีเขาอาจจะไม่ปฏิเสธก็ได้”พรีเอลล์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบพูดแทรกขึ้นมา “อย่าลืมแม่ลูกสุดแซ่บด้วย”เคย์ฟี่หัวเราะคิกคัก “อันนี้ก็ต้องดูที่ผลงานของลูกในอนาคตแล้วล่ะ”พูทมองด้วยความอิจฉาผู้ชายที่แท้จริงต้องเป็นแบบเย่ซิว ต้องผ่านดงดอกไม้นับไม่ถ้วนโดยไม่ทิ้งร่องรอยน่าเสียดายที่ถึงแม้เขาจะมีฝีมือพอตัว แต่เมื่อเทียบกับเย่ซิวแล้วยังห่างชั้นกันเกินไปแถมสาว ๆ ที่เขาเคยได้มาก็ยังไม่มีคุณภาพดีเท่านี้เลยด้วยซ้ำหลังจากหารือกันเสร็จ เคย์ฟี่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลิลิธด้วยตัวเองณ เมืองระดับแนวหน้าของประเทศจ้านฉงตี้
เย่ซิวมองสิ่งของที่วางอยู่ตรงหน้าตัวเองโดยไม่มีปฏิกิริยาอะไรมากนักตอนนี้เงินทองพวกนี้ไม่ได้มีผลอะไรมากนักสำหรับเขาแล้วแต่รถยนต์ลอยตัวนั่นนับว่ายังพอมีค่าอยู่บ้างเขาย่อมรู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้ทำแบบนี้เพราะอะไรต้องยอมรับว่าเธอมีความกล้าหาญไม่น้อยเลยทีเดียวแต่เพียงแค่นี้ยังไม่พอที่จะทำให้เขาเชื่อใจเธอได้อย่างสมบูรณ์“ของพวกนี้ฉันรับไว้ แต่ถ้าพวกเธอยอมย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่สำนักโอสถจะยิ่งดีเข้าไปอีก”หากเป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งของกำไรที่พวกเขาได้รับในแต่ละปีจะต้องเสียภาษีนอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาการพัฒนาบุคลากรท้องถิ่นของสำนักโอสถได้อีกด้วยที่สำคัญที่สุดคือสามารถใช้เป็นมาตรการควบคุมพวกเขาได้หากในอนาคตพวกเขาไม่เชื่อฟังหรือกระทำสิ่งใดที่เป็นภัยต่อสำนักโอสถเย่ซิวสามารถริบทรัพย์สินทั้งหมดของสำนักงานใหญ่ของพวกเขาไปได้ทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันทีเย่ซิวกำลังกุมจุดอ่อนของพวกเขาไว้อย่างแน่นหนาพูโรหัวเราะเสียงดัง “นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก บริษัทไม่ได้เป็นของผมเพียงคนเดียว ผมยังไม่อาจตอบตกลงได้ทันทีขอให้ผมจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันพรุ่งนี้ก่อน แล้วผมจะหารือก
นั่นคือสายตาที่มองลงมาจากระดับชีวิตที่สูงกว่าราวกับพวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเย่ซิวตบไปที่หัวม้าศึกเพลิงน้ำแข็งเบา ๆ มันจึงยอมเก็บพลังของตัวเองกลับไป เปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ใต้กีบเท้าก็ค่อย ๆ มอดลงเคย์ฟี่มองเย่ซิวด้วยสายตาร้อนแรงตอนนี้เขาดูสง่างามและทรงอำนาจ ทั้งยังหล่อเหลาเกินบรรยาย เหนือกว่าเจ้าชายขี่ม้าขาวในฝันของเธอเสียอีกเธอถึงกับน้ำลายสอโลกนี้มีผู้ชายที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ได้อย่างไรเย่ซิวหยิบของจำนวนหนึ่งออกมาจากแหวนผนึกของแล้ววางลงตรงหน้าพรีเอลล์กับพวกพ้อง “นี่คือส่วนแบ่งของพวกเธอในครั้งนี้ เอาไปได้เลย”พรีเอลล์ก้มลงมองของตรงหน้า จากนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที “ของพวกนี้มันไม่ใช่ของที่พวกเราเคยได้มาจากเรือรบของประเทศจ้านอิงตี้ครั้งก่อนเหรอ?”สิ่งที่เย่ซิวนำออกมาเป็นชุดเกราะและอาวุธต่าง ๆ ที่ได้มาเมื่อนานมาแล้ว“ใช่” เย่ซิวพยักหน้าโดยไม่ปิดบัง “ของที่ฉันได้จากข้างในมีค่ามากเกินไป ไม่สามารถให้พวกเธอได้เลยต้องใช้ของพวกนี้แทน”แม้สองพี่น้องจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกมาในตอนนี้พูทแววตาเป็นประกายขึ้นมา จากนั้นก็ฉีกเสื้อเป็นผืนเล็ก ๆ แล้วใช้มันมัด
เย่ซิวแสยะยิ้มมุมปาก “แกลองเดาดูสิว่าทำไมฉันถึงมั่นใจกล้าปล่อยแกออกมา”ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีขึ้นมาทันทีแต่มันยังไม่ทันได้คิดให้ถี่ถ้วน เย่ซิวก็เริ่มขยับริมฝีปากร่ายคาถาบางอย่างออกมาทันทีที่เสียงคาถาดังก้องในอากาศ ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งก็กรีดร้องอย่างเจ็บปวดทั่วร่างของมันปรากฏอักขระเรืองแสงผุดขึ้นมาจากผิวหนัง ค่อย ๆ ก่อตัวเป็นโซ่ตรวนล่องหนที่พันธนาการมันเอาไว้อย่างแน่นหนามันทรุดลงกับพื้นกลิ้งไปมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความทรมาน“สารเลว เหตุใดเจ้าถึง…พอได้แล้ว หยุดเดี๋ยวนี้ บอกว่าให้หยุดอย่างไรเล่า!”มันส่งเสียงร้องปวดร้าวจนใจแทบแตกสลายความปรารถนาที่จะฆ่าเย่ซิวที่มันเคยมีนั้นก็หายไปหมด ตอนนี้เหลือเพียงความหวาดกลัวอย่างท่วมท้นเท่านั้นเย่ซิวมีสีหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งความเมตตา และเขาไม่คิดจะหยุดแต่อย่างใด เขาสวดคาถาต่อเนื่องเป็นเวลากว่าสิบนาทีจนม้าศึกเพลิงน้ำแข็งถูกทรมานจนแทบไม่เหลือแรง เขาจึงหยุดลงในที่สุดตอนนี้ลมหายใจของมันสับสนวุ่นวาย ไม่มีท่าทีเย่อหยิ่งโอหังเช่นตอนแรกอีกต่อไปสายตาที่มันมองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อเย่ซิวมีคาถานี้อยู่ในมือ เขาก็สามาร
เย่ซิวกำลังจะเดินออกจากห้องไปแต่ทันใดนั้น เขาหันไปมองที่กลางห้องก่อนจะดีดนิ้วส่งปราณกระบี่ออกไปทำลายพื้นด้านล่างปรากฏว่าข้างใต้มีช่องลับซ่อนอยู่ภายในนั้นมีหีบสีดำใบหนึ่งวางอยู่เย่ซิวสร้างร่างแยกขึ้นมาเพื่อเข้าไปเปิดมันภายในมีม้วนหนังสัตว์ปริศนาที่ไม่รู้ว่าทำจากหนังของสัตว์ชนิดใดเขาหยิบขึ้นมาดู พบว่ามีตัวอักษรเรียงรายแน่นหนาอยู่เต็มไปหมดแต่ไม่ใช่ตัวอักษรที่ใช้กันในปัจจุบัน เย่ซิวจึงอ่านมันไม่ออกในทันทีเขาทำได้แค่เก็บมันไว้ก่อน แล้วค่อยหาทางแก้ไขปริศนาในภายหลังตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งเท่านั้นจากนั้นเย่ซิวก็เดินไปยังจุดที่มันถูกผนึกไว้ทันทีที่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งสัมผัสได้ถึงการเข้าใกล้ของเขา มันก็เริ่มส่งเสียงโหยหวนขึ้นมา“ข้ายอมแล้วพี่ชาย ท่านเป็นบรรพบุรุษของข้าเลย ปล่อยข้าไปเถอะ อย่าดูดพลังข้าอีกเลย ถ้าดูดต่อไปข้าต้องตายจริง ๆ แน่”มันไม่เคยเจอมนุษย์ที่โหดร้ายบ้าคลั่งขนาดนี้มาก่อนถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายของมันแข็งแกร่งแต่กำเนิด ป่านนี้มันคงสลายไปแล้วเย่ซิวไม่คิดจะเสียเวลาคุยไร้สาระกับมัน เขาก้าวไปข้างหน้าโอบกอดหนึ่งในเสาหลักของผนึก ก่