“มีของแค่นี้คุณกล้าขายได้ยังไง?”“นี่มันต้องเป็นกลยุทธ์การตลาดที่จำกัดอุปทานแน่ ๆ!”“ให้ตายเถอะ บริษัทนี้ไร้จริยธรรมเลยเกินไปแล้ว ทุกคนช่วยกันคว่ำบาตรเลย ไม่ต้องซื้อ ให้ฉันซื้อแทนเอง!”……ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางคนที่หามาได้ก็อวดของคนอื่น แล้วก็โดนคนหมู่มากรุมโจมตีแน่นอนว่ายังมีความคิดเห็นแปลก ๆ ปะปนอยู่ด้วย“เพื่อนฉันอยากถามว่าครีมผิวหยกตัวนี้ใช้ได้ทั้งตัวเลยหรือเปล่า?”ชาวเน็ตจำนวนมากต่างแสดงความคิดเห็นกันด้านล่าง“เพื่อนในจินตนาการรึเปล่า?”“เพื่อนฉันก็อยากจะถามเหมือนกัน...”ครีมผิวหยกได้รับความนิยมไปอย่างแพร่หลายบนโลกอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยหัวข้อที่เกี่ยวข้องด้วยเหตุนี้ความนิยมของครีมทาหน้าเอสซี่และพรีเซนเตอร์จึงถูกกลบกระแสไปอย่างสิ้นเชิงไม่ว่าพวกเขาจะซื้อตัวอินฟลูเอนเซอร์หรือซื้อหัวข้อที่กำลังมาแรงก็ไม่มีประโยชน์มู่หว่านฉิงปิดการถ่ายทอดสด เธอยืนขึ้นและโค้งคำนับอย่างสุดซึ้งต่อเย่ซิว "คุณเย่ ฉันไม่รู้จะแสดงความขอบคุณยังไงดีเลยค่ะ ยังไงก็ตาม ถ้าในอนาคตคุณต้องการอะไร ก็บอกฉันได้เลยนะคะ"เย่ซิวพูดติดตลก "จริงเหรอ? แล้วคุณอุ่นเตียงให้ผมได้ไหม?"ใบหน้าของมู่หว่านฉิงเปลี่
“หว่านฉิง คุณกินข้าวหรือยัง?”เสียงที่อบอุ่นและกระตือรือร้นมากดังขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของสายเธอคุ้นเคยกับเสียงนี้เป็นอย่างดี เป็นผู้ชายที่โทรหาเธอเมื่อไม่นานนี้เพื่อขอยกเลิกสัญญากับเธอมู่หว่านฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย "ขอโทษนะคะ คุณต้องการอะไร?"“ฮ่าฮ่า ก่อนหน้านี้เรามีเรื่องเข้าใจผิดกัน ฉันหวังว่าเธอจะละทิ้งความคับข้องใจในอดีตแล้วกลับมา ยังไงแล้วเดิมทีเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันนะ”เสี่ยวจวี๋ทำท่าทีอยากจะอาเจียนและพูดตรง ๆ อย่างไม่ลังเล "ฉันไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อนเลยจริง ๆ"อีกฝ่ายได้ยินแต่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน และยังคงหว่านล้อมมู่หว่านฉิงและให้เหตุผลกับเธอต่อไปแต่มู่หว่านฉิงนั้นเด็ดเดี่ยวพอตัวเธอรู้ถึงสันดานของผู้ชายคนนี้แล้ว และรู้ว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทประเภทไหน แน่นอนว่าเธอจะไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนอีกเมื่อเห็นว่ามู่หว่านฉิงไม่สะทกสะท้าน อีกฝ่ายก็เริ่มขู่ "ถ้าเธอไม่กลับมา บริษัทจะใช้อำนาจทั้งหมดขึ้นบัญชีดำกับเธอ และเธอจะไม่มีวันได้อยู่ในวงการนี้อีกในอนาคต!”มู่หว่านฉิงโกรธจนตัวสั่น "คุณนี่มันหน้าด้านเกินไปจริง ๆ ฉันยกเลิกสัญญากับคุณไปแล้ว!"“ฮ่าฮ่า แล้วถ้าฉันยกเลิก
เย่ซิวไม่ได้อยากจะรับสายเลย แต่หลังจากที่คิด ๆ ดูแล้ว เขาก็รับสายอยู่ดี“ทำอะไรอยู่เหรอ~?”ทันทีที่เชื่อมต่อสาย เสียงที่ทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยนของเสวี่ยเหมยที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเสียวซ่านถึงกระดูกก็ดังขึ้น“มีธุระอะไรหรือเปล่า?” เย่ซิวค่อนข้างเย็นชา“เปล่า ฉันก็แค่เบื่อ ก็เลยอยากคุยกับคุณ”เย่ซิวหัวเราะเยาะ "ถ้าคุณไม่พูด ผมจะวางสายนะ"“อย่าเพิ่งสิ” เสวี่ยเหมยมีความกังวลเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความออดอ้อนและเจือความรู้สึกผิดเล็กน้อย "ฉันรู้ว่าครั้งที่แล้วฉันผิดเอง ฉันก็แค่อยากจะขอโทษคุณ ไม่ได้เหรอ?”“คุณเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่าใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างฉันเลย”สาวสวยที่มีทรัพย์สินมูลค่านับสิบล้านล้านบาท เมื่อเธอลดท่าทีลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยน ชายใดได้เห็นเป็นต้องโกรธเธอไม่ลงเย่ซิวถอนหายใจ "คุณอยากได้ครีมผิวหยกใช่ไหม?"“ฮิฮิ” เสียงหัวเราะของเสวี่ยเหมยนั้นขี้เล่นเล็กน้อย “ใช่ ฉันอยากได้หนึ่งพันกล่อง ต่อให้แพงกว่าราคาตลาดถึงสิบเท่าก็ไม่ใช่ปัญหา”ผลประโยชน์มาหาถึงที่ขนาดนี้มีหรือจะปฏิเสธ เย่ซิวจึงพูดว่า "ส่งที่อยู่มาให้ผม ถ้าครีมชุดที่สอ
แม้ว่าพวกนักเลงคีย์บอร์ดจะป้ายสีกันอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ผู้ซื้อครีมชุดแรกนั้น หลังจากที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ก็แสดงความเห็นกันในเชิงบวกอย่างเป็นเอกฉันท์และยังมีบล็อกเกอร์ความงามบางคนที่หลังจากได้ลองใช้แล้วก็ช่วยโปรโมตให้ฟรีโดยการเขียนบทความหรือไม่ก็โพสต์วิดีโออีกด้วยวันนี้เป็นการเปิดขายครั้งที่สองผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนนับไม่ถ้วนรออยู่หน้าคอมพิวเตอร์กันมานานแล้วผู้ชายหลายคนถูกแฟนหรือภรรยาบังคับให้นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ และยังบอกด้วยว่า ถ้าไม่ได้ครีมมา พวกเธอจะไม่ยอมมีอะไรด้วย…จะเริ่มเปิดจำหน่ายเวลาสิบโมงเช้าเมื่อถึงเวลา ผู้คนนับไม่ถ้วนรีเฟรชหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและคลิกเมาส์กันอย่างเมามันครั้งนี้ปริมาณที่ปล่อยออกมาค่อนข้างมากโดยมีห้าหมื่นกล่อง แต่ก็ยังขายหมดในทันทีผู้คนนับไม่ถ้วนสบถด่าอย่างไรก็ตาม ข่าวดีก็คือ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการได้ประกาศว่าจะปล่อยสินค้าอีกชุดในเวลาสองทุ่มเพื่อจัดส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อโดยเร็วที่สุด บริการจัดส่งด่วนที่เลือกคือเฟิงชุ่นเอ็กซ์เพรสซึ่งเป็นบริษัทจัดส่งด่วนที่เร็วที่สุดในประเทศไม่กี่วันมานี้เย่ซิวยุ่งง่วนอยู่กับการเตรียมปุ๋ยน้ำเป็นส่วนใหญ
“เกิดอะไรขึ้น?” เย่ซิวถามอย่างสงสัย“เอ่อ… ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วยสักหน่อย” หลินซวงก้มหน้าลงและหน้าแดง “คุณย่าของฉันอยากให้กลับบ้านแล้วพาแฟนไปด้วย…”ขณะที่เธอพูด เธอก็เงยหน้าขึ้นเหลือบมองเย่ซิว จากนั้นก็ก้มหน้าลงอีกครั้งในทันใด "คุณย่าบอกว่า ถ้าฉันไม่พาแฟนกลับบ้านในสัปดาห์นี้ คุณย่าจะไม่นับฉันเป็นหลานสาวอีกเพราะอย่างนั้น… คุณช่วยแกล้งเป็นแฟนฉันสักวันได้ไหม?”หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็มองเย่ซิวด้วยท่าทีน่าสงสารเย่ซิวถามว่า "เมื่อไหร่?""วันเสาร์นี้"“โอเค” เขาตอบตกลงทันทีช่วงนี้หลินซวงไร้ที่ติ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเย่ซิวที่จะช่วยเหลือเธอในเรื่องเล็กน้อย“จริงเหรอ? เยี่ยมเลย!” หลินซวงกระโดดด้วยความดีใจหลินซวงกลับไปทำงานอย่างมีความสุขเย่ซิวขับรถไปที่บริษัทคนเดียว เพื่อเตรียมกำจัดสวีอิงในขณะนี้ สวีอิงยุ่งมาก ทั้งโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์มือถือของเขามีสายเข้าจนแทบไหม้“ให้ตายเถอะ เย่ซิว ฉันต้องฆ่าแกให้ได้!”สวีอิงอดไม่ได้ที่จะคำราม ใบหน้าของเขาดุร้ายการโจมตีของเย่ซิวรุนแรงเกินไปราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง โดยเริ่มต้นจากพรีเซนเตอร์ ผลิตภัณฑ์ ภาษีรายได้ และอื่น ๆ พร้อ
ใคร ๆ ที่เคยใช้ก็บอกว่าดี แม้แต่คนที่มีนิสัยเข้มงวดจุกจิก ก็ไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ ยิ่งไปกว่านั้น บางคนนำครีมผิวหยกไปยังสถาบันที่เชื่อถือได้เพื่อทำการทดสอบ และผลลัพธ์ก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีสารที่เป็นอันตรายเลย และไม่มีสารเติมแต่งแม้แต่ตัวเดียวด้วย!เมื่อผลลัพธ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ความนิยมของครีมผิวหยกก็เพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดการซื้อกันอย่างเมามันผู้คนจำนวนมากซื้อสินค้าทางออนไลน์ในราคาที่แพงกว่าปกติหลายเท่า แต่แม้จะหาซื้อสักกล่องก็ยังหาได้ยากครีมผิวหยกได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทว่าบริษัทเครื่องสำอางรายใหญ่หลายแห่งต่างร่ำไห้ไม่หยุดสินค้าของพวกเขาขายไม่ออกเลยสองวันต่อมา คำตัดสินจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ก็มาถึงที่บริษัทเอสซี่ประการแรกถูกปรับเกือบแสนล้านเนื่องจากปัญหาด้านภาษี อีกประการหนึ่งคือสินค้าไม่ได้มาตรฐานถูกสั่งทำลายทิ้งทั้งหมด และสินค้าชุดที่ปล่อยออกไปแล้วจะถูกเรียกกลับคืนความเสียหายที่เกิดจากการลงโทษครั้งที่สองนั้นมหาศาลมากแม้ว่าพนักงานจะไม่ได้ทำงานแล้ว แต่ก็ยังต้องจ่ายค่าจ้างส่วนประกอบที่ซื้อมาเริ่มกองพะเนิน รวมถึงค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ก็กองทับ หยุดการผลิตแค่วันเด
ครีมผิวหยกมีแนวโน้มจะไปได้ไหลมาก แม้แต่ยักษ์ใหญ่ตัวจริงอย่างฉีตังกั๋วซึ่งมั่งคั่งร่ำรวยเทียมเท่าประเทศก็ยังต้องรู้สึกตื่นเต้นคำขู่ของเขาอาจจะได้ผลต่อคนอื่น แต่สำหรับเย่ซิวแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เขาจึงตอบอย่างตรงไปตรงมา "คุณคิดว่าคุณเป็นใคร คุณคิดว่าคุณคู่ควรที่จะให้ผมยอมสละกำไรสี่สิบเปอร์เซ็นต์อย่างนั้นเหรอครับ!"เย่ซิวให้คนประเมินไว้แล้วหากขยายช่องทางการขายครีมผิวหยกอย่างเต็มที่แล้ว รายได้จากการขายในประเทศเพียงอย่างเดียวอาจเกินหนึ่งสิบล้านล้านบาทในหนึ่งปี! กำไรสุทธิอยู่ระหว่างสามถึงสี่ล้านล้านบาท หากเปิดช่องทางการขายในต่างประเทศด้วย กำไรสุทธิในหนึ่งปีก็เป็นไปได้ว่าจะมากกว่าสิบล้านล้านบาทเรียกได้ว่านี่คือไก่ที่ออกไข่เป็นทอง ดังนั้นฉีตังกั๋วจึงเกิดความโลภโดยธรรมชาติ“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ฉีตังกั๋วหัวเราะ เขาไม่ได้โกรธเลย เพียงแต่เปิดเผยเรื่องหนึ่งแก่เย่ซิว“ฉันจะบอกความลับให้แล้วกัน คนของฉันเจ็ดคนเป็นจอมยุทธระดับหก สามคนเป็นจอมยุทธระดับเจ็ด และอีกคนหนึ่งเป็นจอมยุทธระดับแปดครึ่งก้าว”สิ่งนี้เป็นความมั่นใจอย่างหนึ่งของฉีตังกั๋ว!มีปรมาจารย์มากมายเช่นนี้ หากอยู่ไว้ในประเทศเล็ก ๆ
ประตูถูกเปิดออก และหลายคนก็เดินเข้ามาด้วยความมาดมั่นหยิ่งผยองเป็นผู้ชายสี่คนและผู้หญิงหนึ่งคนเย่ซิวบอกให้บอดี้การ์ดทุกคนในวิลล่าเข้าไปในห้องล่วงหน้าแล้ว หากไม่ได้รับคำสั่งจากเขา ไม่อนุญาตให้ออกมาเย่ซิวลืมตาขึ้นและเผยเสียงหัวเราะทันที "ฉีตังกั๋ว สุนัขเฒ่า รอบคอบจริงๆ ถึบกับส่งจอมยุทธ์ระดับหกสี่คนและจอมยุทธระดับเจ็ดหนึ่งคนมาในคราวเดียว"ฉีตังกั๋วเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างแท้จริง ทั้งไร้ปรานีและจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วยความเด็ดขาดแม้จะเป็นการฆ่ามดตัวเดียว แต่เขาก็จะส่งเหล่าราชสีห์มาล้อมโจมตีมันผู้หญิงคนเดียวในหมู่คนทั้งห้านั่งลงตรงข้ามกับเย่ซิว เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น ก่อนพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาว่า "แค่เด็กไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่ต้องให้ถึงมือฉันหรอก พวกนายใครก็ได้ รีบไปจัดการซะ จะได้รีบกลับ”อีกสี่คนมองหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครเต็มใจที่จะเคลื่อนไหวพวกเขาเป็นปรมาจารย์ สูงส่งและแตะต้องไม่ได้ แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกส่งไปจัดการกับเด็กที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป มันจะไม่เป็นการเสียศักดิ์ศรีหรอกหรือ?“มาเป่ายิ้งฉุบกันดีกว่า ใครแพ้ก็ไปจัดการ”“โอเค
ยังมีม้าศึกเพลิงน้ำแข็ง อีกทั้งลู่เสวี่ยเอ๋อร์และพวกเธอล้วนมีระดับพลังอย่างน้อยอยู่ในช่วงสร้างพื้นฐานขั้นกลางบวกกับจักรกลมังกรดำ ทำให้พวกเขาเริ่มมีเค้าลางของมหาอำนาจสิ่งเดียวที่ขาดไปคืออุตสาหกรรมเศรษฐกิจระดับล่าง ซึ่งยังไม่สามารถยกระดับขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”“จริงสิ” เซี่ยซิ่วซิ่วพูดขึ้นอีกประโยค “ส่งคำเชิญไปให้ประเทศหลงเถิงด้วย ถ้ามีพวกเขาช่วย ประเทศจ้านอิงตี้ก็คงไม่กล้าเล่นตุกติก”เฉินหลานกับหวังซวงตาเป็นประกาย พวกเขาเกือบลืมไปเลยว่าประเทศหลงเถิงเป็นแบ็กอัพที่แข็งแกร่งไม่นาน ข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วโลกดึงดูดสื่อมากมายนับไม่ถ้วนให้พากันรีบไปที่สำนักโอสถแม้แต่นักเดินทางเดียวดายบางคนก็เริ่มเตรียมตัวเดินทางไปเงียบ ๆนี่คือมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดคนที่มองการณ์ไกลล้วนมองออกว่าประเทศจ้านอิงตี้ไม่ได้มาด้วยเจตนาดีทั้งที่รู้ว่าเย่ซิวแข็งแกร่งขนาดนั้น แต่ยังกล้าเป็นฝ่ายริเริ่มเปิดการเจรจาแบบนี้ แสดงว่าพวกเขาต้องมีอะไรให้พึ่งพาทางด้านประเทศหลงเถิง หลังจากได้รับข่าวอัครมหาเสนาบดีกับผู้นำก็หารือกันว่าจะส่งใครไปเข้าร่วมนายกรัฐมนตรีเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได
เส้นผมของหวังซวงยังคงเปียกชื้นเธอสวมชุดนอนผ้าไหมที่แนบสนิทไปกับร่างกาย เผยให้เห็นสัดส่วนอันเย้ายวนของเธอเห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จเธอนั่งอยู่บนเตียง มือซ้ายถือรูปของเย่ซิว จ้องมองมันด้วยสายตาหลงใหล“อาจารย์ อาจารย์รู้ไหมว่าฉันชอบอาจารย์อาจารย์ช่างหล่อเหลา พลังของท่านก็แข็งแกร่ง ร่างกายของอาจารย์ยังสมบูรณ์แบบ แข็งแกร่งมาก...อาจารย์รู้ไหม? ทุกค่ำคืนฉันมักจะฝันถึงอาจารย์ ในความฝันฉันได้...กับอาจารย์”เธอกัดริมฝีปากเบา ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความปรารถนาเย่ซิวไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเด็กคนนี้จะมีความคิดเช่นนี้กับตนเองเขาส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะหมุนตัวจากไปตอนนี้ผู้หญิงรอบตัวเขามีมากพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องรับเข้ามาเพิ่มอีกคนเย่ซิวลอยขึ้นไปเหนือสำนักโอสถเขาเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ที่แขวนอยู่บนท้องฟ้า พลันเกิดความคิดที่บ้าบิ่นขึ้นมา“บนดวงจันทร์มีอะไรอยู่กันแน่?”แม้ว่าในอดีตจะมีหลายประเทศที่ส่งยานอวกาศพร้อมมนุษย์ขึ้นไปสำรวจ และมีคนจริง ๆขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้แล้วแต่ขอบเขตที่พวกเขาเดินทางไปได้นั้นยังมีจำกัดยังมีพื้นที่อันลี้ลับบนดวงจันทร์ที่ไม่เคยถูกค้นพบที่สำคัญ
ภายในห้องลับ เย่ซิวไม่อาจรับรู้ถึงการไหลผ่านของกาลเวลาได้เลยจิตวิญญาณทั้งหมดของเขาจดจ่ออยู่กับการหลอมรวมระดับวิญญาณก่อกำเนิดด้วยรากฐานอันแข็งแกร่งและการเตรียมพร้อมที่เพียงพอ การทะลวงระดับของเขาจึงราบรื่นไร้อุปสรรคในวันที่แปดของการปิดด่าน เขาสามารถควบแน่นระดับวิญญาณก่อกำเนิดได้สำเร็จระดับวิญญาณก่อกำเนิดของเขามีห้าสีเช่นกันยิ่งไปกว่านั้น ขนาดของมันยังใหญ่กว่าระดับวิญญาณก่อกำเนิดขั้นต้นทั่วไปอยู่หนึ่งเท่าพลังวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพอีกครั้งหากเปรียบพลังวิญญาณของเขาในอดีตเป็นเพียงตะปู ตอนนี้มันกลับกลายเป็นกระบี่ยาวเล่มหนึ่งแล้วการเพิ่มพูนของพลัง ส่งผลสะท้อนกลับเข้าสู่ร่างกายโลหิตและกล้ามเนื้อของเย่ซิวเปล่งประกายราวกับอัญมณี ดวงตาของเขาส่องแสงเจิดจ้าดุจตะวันดวงน้อยเพียงแค่คิด ระดับวิญญาณก่อกำเนิดก็แยกออกจากร่าง ลอยขึ้นสำรวจโดยรอบความรู้สึกนี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนักระดับวิญญาณก่อกำเนิดคือผลรวมของจินตานและจิตวิญญาณที่หลอมรวมกันก่อนที่จะทะลวงระดับ หากจิตวิญญาณของเย่ซิวออกจากร่าง มันจะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงแม้แต่พลังของเขาก็ไม่อาจยื้อเวลาให้อยู่นอกกาย
ยังคงเป็นที่ห้องทดลองชีวภาพหมายเลขเก้าในประเทศจ้านอิงตี้หลังจากที่ประเทศจ้านอิงตี้ทุ่มเททุกวิถีทางในการเพาะเลี้ยงมาตลอดช่วงเวลานี้นักรบยีนสิบคนกับสิ่งมีชีวิตโบราณก็ได้หลอมรวมจนถึงระดับแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่แรงกดดันที่แผ่ออกมาจากพวกเขา ก็ทำให้พื้นของห้องทดลองแทบจะรับไม่ไหว เกิดรอยร้าวมากมายเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่อยู่นอกห้องทดลองมองดูพวกเขาด้วยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจแต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะดำเนินการขั้นตอนต่อไป ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจู่ ๆ นักรบยีนทั้งสิบคนก็เข้าห้ำหั่นกันเอง เลือดสาดกระจายไปทั่ว ราวกับนรกบนดินนักวิทยาศาสตร์ภายนอกรีบฉีดสเปรย์สารควบคุมชนิดต่าง ๆ เข้าไป แต่กลับไม่มีผลใด ๆ“แย่แล้ว! รีบเข้าสู่สถานะเตือนภัยด่วน!”เหล่านักวิทยาศาสตร์ตกตะลึงสุดขีด รู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มเกินกว่าการควบคุมตู้ม!ทันใดนั้น พลังงานบางอย่างปะทุขึ้น ทำให้ทั้งห้องทดลองสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลายจากนั้น ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากข้างในเธอมีใบหน้าที่งดงามสะกดสายตา อีกทั้งรูปร่างยังเย้ายวนเกินต้านทานแต่สิ่งที่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป ก็คือเส้นผมของเธอทั้งหมดกลับเป็นอส
ในขณะเดียวกัน เสียงของเย่ซิวก็ดังขึ้นข้างหูเขา "สถานที่แห่งนี้ ห้ามฟื้นฟูขึ้นใหม่ภายในหนึ่งร้อยปี มิเช่นนั้นประเทศจ้านฉงตี้จะต้องหายไปจากโลกใบนี้"นี่เป็นทั้งการดูแคลน และยังเป็นการเหยียดหยามอย่างถึงที่สุดให้พวกเขาต้องเผชิญกับความอัปยศนี้ทุกขณะในช่วงเวลาหนึ่งร้อยปีถือเป็นการโต้กลับอย่างแข็งแกร่งของเย่ซิว หลังจากประเทศจ้านฉงตี้พยายามเล่นงานเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจักรพรรดิหมีเหล็กกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ความอัปยศอันรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วร่างใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธแต่ในความโกรธแค้นนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความรู้สึกหมดหนทางอย่างลึกล้ำเพียงชั่วพริบตาเดียวราวกับว่าเขาแก่ลงไปอีกหลายสิบปีเดิมทีเส้นผมของเขายังมีสีดำเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับขาวโพลนทั้งหมดผู้ช่วยที่อยู่ข้างกาย มองดูสภาพของเขาด้วยความสงสาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา "ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? จะยิงจรวดออกไปอีกไหม?""ไม่ต้องแล้ว ไม่มีทางเอาชนะเขาได้หรอก"จักรพรรดิหมีเหล็กส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยล้า สายตามองไปยังร่องรอยของกระบี่อันใหญ่โตเบื้องหน้า "ดูเหมือนว่า ถึงเวลาที่ฉันจะต้องหาผู้สืบทอดแล้ว"……ม
เบื้องหน้าของเย่ซิวปรากฏชายชราผู้มีรูปลักษณ์ประหลาดเขามีอายุกว่าร้อยปีแล้ว ดวงตาฝ้าฟางแทบจะลืมขึ้นไม่ได้เส้นผมยาวหลายสิบเมตรถูกถักเป็นเปียและพันรอบร่างกายของตนใต้ฝ่าเท้าของเขามีการ์กอยล์หินเป็นพาหนะ มือขวาถือไม้กายสิทธิ์อันเก่าแก่เย่ซิวกระตุกบังเหียนให้ม้าหยุดลงพลางหรี่ตามองชายชราเล็กน้อย “มีธุระอะไร?”พลังที่แผ่ออกมาจากร่างของชายชราทำให้เย่ซิวรู้สึกได้ถึงอันตรายแม้ว่าจะเป็นเพียงเสี้ยวเดียวก็ตาม“ข้าคือเทพพิทักษ์แห่งประเทศจ้านฉงตี้ ปิดด่านฝึกฝนมาหลายสิบปีแล้วได้ยินว่าประเทศหลงเถิงมีอัจฉริยะที่แข็งแกร่งจึงอยากมาดูให้เห็นกับตา”เย่ซิวไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “ตอนนี้ก็ได้เห็นแล้ว มีอะไรจะชี้แนะหรือเปล่า?”ดวงตาฝ้าฟางของชายชราเพ่งมองเย่ซิวแน่วแน่ แววตานั้นแฝงไปด้วยอันตรายเล็กน้อยก่อนที่เขาจะยิ้มออกมา“ข้าน่ะเป็นคนอยากรู้อยากเห็นเลยอยากจะประลองกับเจ้าสักหน่อย ไม่รู้ว่าจะรับคำท้าหรือไม่”เย่ซิวสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ซ่อนเร้นของอีกฝ่ายที่บอกว่าเป็นการประลองคงเป็นแค่ข้ออ้างจุดประสงค์ที่แท้จริงคือก็แค่อยากทดสอบพลังของตนเองกับเขาเท่านั้น“ฉันไม่มีคำว่าประลองอะไรทั้งนั้น ถ้าคุณคิ
ทั้งคืนผ่านไปด้วยความว้าวุ่นใจและความกระสับกระส่าย เธอแทบไม่ได้หลับเลยเวลาแปดโมงเช้า เย่ซิวยืนอยู่ริมหน้าต่างมองออกไปยังทิวทัศน์ภายนอกอากาศสดชื่น เสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้กระจายไปทั่ว ที่นี่มีนกยูงเลี้ยงไว้อยู่หลายตัว บรรยากาศเหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างยิ่ง“คุณเย่ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” ลิลิธเดินเข้ามาพร้อมกับก้าวย่างที่อ่อนช้อยดุจแมวป่าฝ่าเท้าขาวผ่องราวหิมะสัมผัสพื้นเบา ๆ ทีละก้าวก่อนจะหยุดอยู่ข้าง ๆ เย่ซิวเธอจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ยั่วยวนหลังจากฝึกฝนตลอดทั้งคืน พลังของลิลิธก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างมหาศาลตอนที่เธอมาที่นี่ เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสามารถพัฒนาขึ้นได้เร็วขนาดนี้หากเป็นไปได้ เธอเองก็อยากบำเพ็ญร่วมกับเย่ซิวตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทั้งวันทั้งคืนบางทีเธออาจสามารถบรรลุถึงระดับพลังที่ไม่มีใครในประเทศจ้านฉงตี้เคยไปถึงมาก่อนแต่น่าเสียดายที่คงเป็นแค่ความฝันที่เป็นไปไม่ได้เย่ซิวไม่ได้ตอบอะไร สายตาของเขายังคงจ้องไปข้างนอกโดยไม่กะพริบตาจินตานห้าสีของเขาหมุนวนอย่างบ้าคลั่งรัศมีพลังที่ส่องออกมาราวกับพระอาทิตย์ที่สว่างไสวและแข็งแกร่งไ
เคย์ฟี่พาลิลิธกลับมาที่ห้องของเธอเธอกับพูโรแยกกันนอนมานานแล้วหลังจากปิดประตู เธอก็รีบดึงลิลิธเข้าไปในห้องน้ำอย่างกระตือรือร้นน้ำร้อนถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วจากนั้นเคย์ฟี่ก็ปิดประตูห้องน้ำเสียงดังปังไม่นานนักก็มีเสียงอุทานของเคย์ฟี่ดังออกมาเป็นระยะด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอิจฉาลึก ๆครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองก็เดินออกมาจากห้องน้ำเคย์ฟี่ช่วยลิลิธแต่งตัวกับมือ จากนั้นก็ลงเครื่องสำอางให้เธอก่อนจะฉีดน้ำหอมสุดหรูราคาแพงเดิมทีลิลิธก็เป็นหญิงงามอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เสน่ห์ของเธอกลับเพิ่มขึ้นไปอีกระดับเธอมองเงาตัวเองในกระจกก่อนจะพยักหน้าด้วยความพอใจ ความมั่นใจของเธอเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วนจากนั้นเคย์ฟี่ก็พาลิลิธไปยังห้องของเย่ซิว เธอเคาะประตูเบา ๆภายในห้อง แน่นอนว่าเย่ซิวไม่มีความจำเป็นต้องนอนพักเขาเพิ่งกลั่นโอสถไปหลายเตา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เอาไว้ใช้เพื่อเพิ่มพลังบำเพ็ญตนแม้ว่าตอนนี้ผลลัพธ์ของมันอาจจะไม่ได้ทรงพลังมากนัก แต่ถ้าปริมาณมากพอก็ยังสามารถช่วยได้ตอนนี้เขามีโอสถกว่าพันเม็ดแล้วก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก เย่ซิวชะงักเล็กน้อยก่อนจะเก็บเตาหลอมและโอสถท
แต่ลิลิธกลับมีพรสวรรค์ในศาสตร์ด้านนี้สูงมาก จนสามารถฝึกฝนไปถึงระดับที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนผู้ชายทั่วไปไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอเลยไม่เช่นนั้น วันรุ่งขึ้นมีหวังกลายเป็นซากศพแห้งตายอย่างแน่นอนแม้ว่าลิลิธจะมีชื่อเสียงด้านความงามโด่งดังไปทั่ว แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอเคย์ฟี่ดวงตาเป็นประกาย “ความคิดนี้ไม่เลวเลยนะ ลิลิธต้องเจอกับผู้ชายที่แข็งแกร่งระดับเย่ซิวเท่านั้นถึงจะรับมือไหวพอลิลิธทำสำเร็จแล้วเข้าไปอ้อนเย่ซิวอีกหน่อยลองชวนให้เขามาลองพี่น้องสุดเซ็กซี่ บางทีเขาอาจจะไม่ปฏิเสธก็ได้”พรีเอลล์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบพูดแทรกขึ้นมา “อย่าลืมแม่ลูกสุดแซ่บด้วย”เคย์ฟี่หัวเราะคิกคัก “อันนี้ก็ต้องดูที่ผลงานของลูกในอนาคตแล้วล่ะ”พูทมองด้วยความอิจฉาผู้ชายที่แท้จริงต้องเป็นแบบเย่ซิว ต้องผ่านดงดอกไม้นับไม่ถ้วนโดยไม่ทิ้งร่องรอยน่าเสียดายที่ถึงแม้เขาจะมีฝีมือพอตัว แต่เมื่อเทียบกับเย่ซิวแล้วยังห่างชั้นกันเกินไปแถมสาว ๆ ที่เขาเคยได้มาก็ยังไม่มีคุณภาพดีเท่านี้เลยด้วยซ้ำหลังจากหารือกันเสร็จ เคย์ฟี่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลิลิธด้วยตัวเองณ เมืองระดับแนวหน้าของประเทศจ้านฉงตี้