เย่ซิวไม่ได้อยากจะรับสายเลย แต่หลังจากที่คิด ๆ ดูแล้ว เขาก็รับสายอยู่ดี“ทำอะไรอยู่เหรอ~?”ทันทีที่เชื่อมต่อสาย เสียงที่ทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยนของเสวี่ยเหมยที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเสียวซ่านถึงกระดูกก็ดังขึ้น“มีธุระอะไรหรือเปล่า?” เย่ซิวค่อนข้างเย็นชา“เปล่า ฉันก็แค่เบื่อ ก็เลยอยากคุยกับคุณ”เย่ซิวหัวเราะเยาะ "ถ้าคุณไม่พูด ผมจะวางสายนะ"“อย่าเพิ่งสิ” เสวี่ยเหมยมีความกังวลเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความออดอ้อนและเจือความรู้สึกผิดเล็กน้อย "ฉันรู้ว่าครั้งที่แล้วฉันผิดเอง ฉันก็แค่อยากจะขอโทษคุณ ไม่ได้เหรอ?”“คุณเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่าใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างฉันเลย”สาวสวยที่มีทรัพย์สินมูลค่านับสิบล้านล้านบาท เมื่อเธอลดท่าทีลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยน ชายใดได้เห็นเป็นต้องโกรธเธอไม่ลงเย่ซิวถอนหายใจ "คุณอยากได้ครีมผิวหยกใช่ไหม?"“ฮิฮิ” เสียงหัวเราะของเสวี่ยเหมยนั้นขี้เล่นเล็กน้อย “ใช่ ฉันอยากได้หนึ่งพันกล่อง ต่อให้แพงกว่าราคาตลาดถึงสิบเท่าก็ไม่ใช่ปัญหา”ผลประโยชน์มาหาถึงที่ขนาดนี้มีหรือจะปฏิเสธ เย่ซิวจึงพูดว่า "ส่งที่อยู่มาให้ผม ถ้าครีมชุดที่สอ
แม้ว่าพวกนักเลงคีย์บอร์ดจะป้ายสีกันอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ผู้ซื้อครีมชุดแรกนั้น หลังจากที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ก็แสดงความเห็นกันในเชิงบวกอย่างเป็นเอกฉันท์และยังมีบล็อกเกอร์ความงามบางคนที่หลังจากได้ลองใช้แล้วก็ช่วยโปรโมตให้ฟรีโดยการเขียนบทความหรือไม่ก็โพสต์วิดีโออีกด้วยวันนี้เป็นการเปิดขายครั้งที่สองผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนนับไม่ถ้วนรออยู่หน้าคอมพิวเตอร์กันมานานแล้วผู้ชายหลายคนถูกแฟนหรือภรรยาบังคับให้นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ และยังบอกด้วยว่า ถ้าไม่ได้ครีมมา พวกเธอจะไม่ยอมมีอะไรด้วย…จะเริ่มเปิดจำหน่ายเวลาสิบโมงเช้าเมื่อถึงเวลา ผู้คนนับไม่ถ้วนรีเฟรชหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและคลิกเมาส์กันอย่างเมามันครั้งนี้ปริมาณที่ปล่อยออกมาค่อนข้างมากโดยมีห้าหมื่นกล่อง แต่ก็ยังขายหมดในทันทีผู้คนนับไม่ถ้วนสบถด่าอย่างไรก็ตาม ข่าวดีก็คือ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการได้ประกาศว่าจะปล่อยสินค้าอีกชุดในเวลาสองทุ่มเพื่อจัดส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อโดยเร็วที่สุด บริการจัดส่งด่วนที่เลือกคือเฟิงชุ่นเอ็กซ์เพรสซึ่งเป็นบริษัทจัดส่งด่วนที่เร็วที่สุดในประเทศไม่กี่วันมานี้เย่ซิวยุ่งง่วนอยู่กับการเตรียมปุ๋ยน้ำเป็นส่วนใหญ
“เกิดอะไรขึ้น?” เย่ซิวถามอย่างสงสัย“เอ่อ… ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วยสักหน่อย” หลินซวงก้มหน้าลงและหน้าแดง “คุณย่าของฉันอยากให้กลับบ้านแล้วพาแฟนไปด้วย…”ขณะที่เธอพูด เธอก็เงยหน้าขึ้นเหลือบมองเย่ซิว จากนั้นก็ก้มหน้าลงอีกครั้งในทันใด "คุณย่าบอกว่า ถ้าฉันไม่พาแฟนกลับบ้านในสัปดาห์นี้ คุณย่าจะไม่นับฉันเป็นหลานสาวอีกเพราะอย่างนั้น… คุณช่วยแกล้งเป็นแฟนฉันสักวันได้ไหม?”หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็มองเย่ซิวด้วยท่าทีน่าสงสารเย่ซิวถามว่า "เมื่อไหร่?""วันเสาร์นี้"“โอเค” เขาตอบตกลงทันทีช่วงนี้หลินซวงไร้ที่ติ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเย่ซิวที่จะช่วยเหลือเธอในเรื่องเล็กน้อย“จริงเหรอ? เยี่ยมเลย!” หลินซวงกระโดดด้วยความดีใจหลินซวงกลับไปทำงานอย่างมีความสุขเย่ซิวขับรถไปที่บริษัทคนเดียว เพื่อเตรียมกำจัดสวีอิงในขณะนี้ สวีอิงยุ่งมาก ทั้งโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์มือถือของเขามีสายเข้าจนแทบไหม้“ให้ตายเถอะ เย่ซิว ฉันต้องฆ่าแกให้ได้!”สวีอิงอดไม่ได้ที่จะคำราม ใบหน้าของเขาดุร้ายการโจมตีของเย่ซิวรุนแรงเกินไปราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง โดยเริ่มต้นจากพรีเซนเตอร์ ผลิตภัณฑ์ ภาษีรายได้ และอื่น ๆ พร้อ
ใคร ๆ ที่เคยใช้ก็บอกว่าดี แม้แต่คนที่มีนิสัยเข้มงวดจุกจิก ก็ไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ ยิ่งไปกว่านั้น บางคนนำครีมผิวหยกไปยังสถาบันที่เชื่อถือได้เพื่อทำการทดสอบ และผลลัพธ์ก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีสารที่เป็นอันตรายเลย และไม่มีสารเติมแต่งแม้แต่ตัวเดียวด้วย!เมื่อผลลัพธ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ความนิยมของครีมผิวหยกก็เพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดการซื้อกันอย่างเมามันผู้คนจำนวนมากซื้อสินค้าทางออนไลน์ในราคาที่แพงกว่าปกติหลายเท่า แต่แม้จะหาซื้อสักกล่องก็ยังหาได้ยากครีมผิวหยกได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทว่าบริษัทเครื่องสำอางรายใหญ่หลายแห่งต่างร่ำไห้ไม่หยุดสินค้าของพวกเขาขายไม่ออกเลยสองวันต่อมา คำตัดสินจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ก็มาถึงที่บริษัทเอสซี่ประการแรกถูกปรับเกือบแสนล้านเนื่องจากปัญหาด้านภาษี อีกประการหนึ่งคือสินค้าไม่ได้มาตรฐานถูกสั่งทำลายทิ้งทั้งหมด และสินค้าชุดที่ปล่อยออกไปแล้วจะถูกเรียกกลับคืนความเสียหายที่เกิดจากการลงโทษครั้งที่สองนั้นมหาศาลมากแม้ว่าพนักงานจะไม่ได้ทำงานแล้ว แต่ก็ยังต้องจ่ายค่าจ้างส่วนประกอบที่ซื้อมาเริ่มกองพะเนิน รวมถึงค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ก็กองทับ หยุดการผลิตแค่วันเด
ครีมผิวหยกมีแนวโน้มจะไปได้ไหลมาก แม้แต่ยักษ์ใหญ่ตัวจริงอย่างฉีตังกั๋วซึ่งมั่งคั่งร่ำรวยเทียมเท่าประเทศก็ยังต้องรู้สึกตื่นเต้นคำขู่ของเขาอาจจะได้ผลต่อคนอื่น แต่สำหรับเย่ซิวแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เขาจึงตอบอย่างตรงไปตรงมา "คุณคิดว่าคุณเป็นใคร คุณคิดว่าคุณคู่ควรที่จะให้ผมยอมสละกำไรสี่สิบเปอร์เซ็นต์อย่างนั้นเหรอครับ!"เย่ซิวให้คนประเมินไว้แล้วหากขยายช่องทางการขายครีมผิวหยกอย่างเต็มที่แล้ว รายได้จากการขายในประเทศเพียงอย่างเดียวอาจเกินหนึ่งสิบล้านล้านบาทในหนึ่งปี! กำไรสุทธิอยู่ระหว่างสามถึงสี่ล้านล้านบาท หากเปิดช่องทางการขายในต่างประเทศด้วย กำไรสุทธิในหนึ่งปีก็เป็นไปได้ว่าจะมากกว่าสิบล้านล้านบาทเรียกได้ว่านี่คือไก่ที่ออกไข่เป็นทอง ดังนั้นฉีตังกั๋วจึงเกิดความโลภโดยธรรมชาติ“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ฉีตังกั๋วหัวเราะ เขาไม่ได้โกรธเลย เพียงแต่เปิดเผยเรื่องหนึ่งแก่เย่ซิว“ฉันจะบอกความลับให้แล้วกัน คนของฉันเจ็ดคนเป็นจอมยุทธระดับหก สามคนเป็นจอมยุทธระดับเจ็ด และอีกคนหนึ่งเป็นจอมยุทธระดับแปดครึ่งก้าว”สิ่งนี้เป็นความมั่นใจอย่างหนึ่งของฉีตังกั๋ว!มีปรมาจารย์มากมายเช่นนี้ หากอยู่ไว้ในประเทศเล็ก ๆ
ประตูถูกเปิดออก และหลายคนก็เดินเข้ามาด้วยความมาดมั่นหยิ่งผยองเป็นผู้ชายสี่คนและผู้หญิงหนึ่งคนเย่ซิวบอกให้บอดี้การ์ดทุกคนในวิลล่าเข้าไปในห้องล่วงหน้าแล้ว หากไม่ได้รับคำสั่งจากเขา ไม่อนุญาตให้ออกมาเย่ซิวลืมตาขึ้นและเผยเสียงหัวเราะทันที "ฉีตังกั๋ว สุนัขเฒ่า รอบคอบจริงๆ ถึบกับส่งจอมยุทธ์ระดับหกสี่คนและจอมยุทธระดับเจ็ดหนึ่งคนมาในคราวเดียว"ฉีตังกั๋วเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างแท้จริง ทั้งไร้ปรานีและจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วยความเด็ดขาดแม้จะเป็นการฆ่ามดตัวเดียว แต่เขาก็จะส่งเหล่าราชสีห์มาล้อมโจมตีมันผู้หญิงคนเดียวในหมู่คนทั้งห้านั่งลงตรงข้ามกับเย่ซิว เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น ก่อนพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาว่า "แค่เด็กไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่ต้องให้ถึงมือฉันหรอก พวกนายใครก็ได้ รีบไปจัดการซะ จะได้รีบกลับ”อีกสี่คนมองหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครเต็มใจที่จะเคลื่อนไหวพวกเขาเป็นปรมาจารย์ สูงส่งและแตะต้องไม่ได้ แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกส่งไปจัดการกับเด็กที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป มันจะไม่เป็นการเสียศักดิ์ศรีหรอกหรือ?“มาเป่ายิ้งฉุบกันดีกว่า ใครแพ้ก็ไปจัดการ”“โอเค
แม้แต่ปรมาจารย์ผู้สูงส่งที่มักจะห่างเหินกับคนอื่น ๆ แต่เมื่อเผชิญกับวิกฤติความตาย ก็ยังตกที่นั่งลำบาก ถ้ามีขาเพิ่มอีกสักสองขาคงจะดีมากแต่ไม่ว่าพวกเขาจะวิ่งเร็วแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถวิ่งเร็วกว่าเย่ซิวได้มั่นคงดั่งเสาหิน ว่องไวดุจสายฟ้าการเคลื่อนไหวของเขาราวกับสายฟ้าหนึ่งหมื่นโวลต์ที่ผ่าลงมาท่ามกลางความโกลาหลคนที่วิ่งเร็วที่สุดใกล้จะถึงประตูแล้ว แต่ทันใดนั้นลมกระโชกแรงก็พัดเข้ามาจากด้านข้าง เขายกสองแขนขึ้นตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณจากด้านข้าง เย่ซิวเตะร่างของชายคนนั้นอัดเข้ากับกำแพงราวลูกกระสุนปืนใหญ่พลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายจากแขนของเขาไปทั่วร่างกายอวัยวะภายในและกระดูกจากทั้งร่างกายถูกทำลายจนแหลกละเอียดตายคาที่!สามคนที่เหลือตกใจจนลูกตาจะถลนออกจากเบ้า ‘นี่มันพลังอะไรกัน ทั้งแข็งแกร่งและโหดเหี้ยมอะไรขนาดนี้!’พวกเขานึกเสียใจ คืนนี้ไม่น่ามาที่นี่เลยผู้หญิงคนเดียวตะโกน "แยกกันหนี! ขึ้นไปชั้นบน ไปจับคนอื่นมาเป็นประกัน นี่เป็นทางรอดทางเดียวแล้ว"เธอแข็งแกร่งที่สุด และในทันใดนั้น เธอพุ่งขึ้นไปชั้นบนด้วยความเร็วเทียบได้กับจอมยุทธ์ระดับแปด แลกมาด้วยการแผดเผาพลังชีวิตของ
“ออกมาได้แล้ว” เย่ซิวพูดอย่างใจเย็นเฉิงเฟิงและคนอื่น ๆ ออกมาจากห้องและเมื่อเห็นฉากนี้เข้าก็พลันตกใจ“จัดการศพพวกนี้แล้วดูแลที่นี่ให้ดี ผมจะออกไปข้างนอกสักพัก”หลังจากสั่งการเสร็จแล้วเย่ซิวก็ออกไปเพียงลำพังไหน ๆ คนแก่พวกนั้นก็อยากจะใช้กำลังแก้ปัญหา ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะร่วมเล่นด้วยจนจบก็แล้วกันพวกเขาคิดว่าวิธีนี้จะสะดวกกว่า แต่สำหรับเย่ซิวกลับยิ่งสะดวกกว่าเสียอีกคืนนี้ไร้แสงจันทร์ ลมพัดแรง เป็นสถานที่ที่ดีในการส่งใครสักคนไปสู่ชีวิตหลังความตายเย่ซิวสุ่มเรียกรถและตรงไปยังบริเวณใจกลางของผู้มั่งคั่งในเมืองหลวงในเมื่อออกมาแล้วจะกลับไปก็คงไม่ได้แล้วเย่ซิวลงจากรถ เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำสาธารณะและใช้วิชาล่องหน จากนั้นก็เดินออกไปอีกครั้งที่ที่เขาไปที่แรกคือตระกูลของฉีตังกั๋วบ้านของเขาไม่สามารถใช้คำว่าหรูหราได้อีกต่อไป มันช่างฟุ่มเฟือย ราวกับเป็นพระราชวังขนาดเล็กมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายร้อยคนในชุดสูทพร้อมอาวุธในมืออยู่นอกประตูนอกจากนี้ยังมีอินฟราเรด โดรนระดับต่อสู้และอื่น ๆ อีกมากมายแม้ว่ากองทัพชั้นสูงต้องการยึดครอง ก็ยังต้องใช้เงินจำนวนมากไม่รู้ว่ามีกี่บริษัทที่
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ
“เดี๋ยวก่อน ฉันตกลง!”ในที่สุด เมื่อหลี่ต้าจ้วงเห็นเย่ซิวเตรียมจะจากไป เขาก็แสดงการเลือกของตัวเองเย่ซิวหยุดฝีเท้า หมุนตัวกลับมา สีหน้าไม่ได้แสดงถึงความประหลาดใจมากนักแต่ชูตงกลับหันหน้าไปพรวด มองไปที่หลี่ต้าจวงด้วยความไม่เชื่อ "คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?"หลี่ต้าจวงวิ่งไปคว้ากระเป๋าเดินทางจากมือของเย่ซิว ยืนอยู่ที่ประตู และหัวเราะอย่างดุร้าย“ฉันน่ะเบื่อเธอจะตายอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าหุ่นเซ็กซี่ขนาดนี้ ยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!อยู่กับเธอมาตั้งนาน แม้แต่มือก็ยังไม่ยอมให้จับในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ฉันเอาเงินแล้วไปสนุกข้างนอกดีกว่า พวกเราบอกลากันตรงนี้เถอะ!”พูดจบ เขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางแล้วจากไปชูตงราวกับถูกสายฟ้าฟาด คนทั้งคนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ตัวเองคิดจะฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาเพื่อเงินแค่ไม่กี่สิบล้าน ถึงกับกระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาน้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเย่ซิวมองไปที่เธอ "พรุ่งนี้ไปทำงานต่อนะ อย่ามาสายล่ะถ้าคุณกล้าลาออกจากบริษัทโดยพลการ บริษัทจะให้คุณจ่ายค่าผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านทีเดียว”แม้ว่าตอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ขึ้นราคาต่อไป "ยี่สิบห้าล้าน"แถมยัง วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่เขานำมาไว้บนพื้นแล้วเปิดออกมันเต็มไปด้วยธนบัตรหลงเถิงที่มีมูลค่าฉบับละหนึ่งพันบาท!"ซู้ด!!!"หลี่ต้าจ้วงสูดลมเย็นเข้าปอด จ้องมองไปที่เหรียญหลงเถิงที่ดูเหมือนจะเรืองแสงได้ในชีวิตนี้เขายังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ไร้ชีวิต การที่มีเงินสดกว่ายี่สิบห้าล้านมาวางกองตรงหน้า ย่อมส่งผลกระทบมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเย่ซิวเห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขาหวั่นไหวแล้ว จึงพูดอย่างล่อลวงไปว่า “คุณคงไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนใช่ไหม?คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ล่ะ? กะประมาณหนึ่งแสนบาทก็แล้วกันถ้าคุณไม่กินหรือดื่มเลย หนึ่งปีก็จะเก็บเงินได้หนึ่งล้านสองแสนบาท และต้องใช้เวลามากกว่ายี่สิบปีถึงจะสามารถเก็บเงินได้ยี่สิบห้าล้านในความเป็นจริงทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นไปไม่ได้ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายของเมืองหลวง หนึ่งปีเก็บเงินได้สักห้าแสนบาทก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้วหรือก็คือ คุณต้องใช้เวลาถึงสี่สิบปีจึงจะมีเงินยี่สิบห้าล้านตอนนี้ตราบเท่าที่คุณพยักหน้า เงินนี้ก็จะเป็นของคุณด้วยเงิ
ชายคนนั้นเปิดประตู ก็เห็นว่ามีชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบมากคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นเย่ซิว ความริษยาก็วาบผ่านดวงตาของผู้ชายคนนั้น การมีอยู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนยืนอยู่ต่อหน้าเขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ตัวเขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้น“คุณเป็นใคร!”ด้วยเหตุนี้ น้ำเสียงของชายคนนั้นจึงไร้ความเป็นมิตรอย่างมาก แถมด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย เขามองไปทางห้องครัวโดยไม่รู้ตัวกลัวว่าจู่ ๆ ชูตงจะวิ่งออกมา แล้วตกหลุมรักเย่ซิวทันทีหลังจากที่ได้พบเขานี่คือผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เสแสร้ง และขาดความมั่นใจในตนเองอย่างมากเย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ชูตงอยู่ที่นี่ใช่ไหม ผมเป็นประธานของบริษัทของเธอ คุณคงเป็นแฟนเธอสินะ"“หืม?!”ชายคนนั้นเริ่มตื่นตัวทันที "คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?"“ไม่เชิญผมเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ?” เย่ซิวพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้ “ผมมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อมอบความมั่งคั่งให้กับคุณ”"ใครคะ?"ตอนนี้เอง ชูตงที่สวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับทัพพีในมือขวาเมื่อเขาเห็นเย่ซิว ม่านตาของเธอก็หดตัวลงเล็กน้อย "ประธาน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่คะ?"ไม่กี่นาทีต่อมา เย่ซ
นี่คือคำสัญญาที่เย่ซิวให้ไว้ต่อเธอลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาของเธอลงอย่างมีความสุขวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมากนัก ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เลยบำเพ็ญตนกับเย่ซิวตลอดลากยาวไปจนถึงห้าโมงเย็นถึงได้หยุดห้าโมงเย็น ก็เลิกงานแล้วเย่ซิวขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับไปก่อน เนื่องจากเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเมื่อมาถึงลานจอดรถ หลางต้าก็รออยู่ข้าง ๆ รถของเย่ซิวแล้วมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ที่เท้าของเขา“นายน้อย!” หลางต้าโค้งตัวลงแล้วพูด “ทุกสิ่งที่คุณต้องการเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”เย่ซิวพยักหน้า "ได้ นายกลับไปเถอะ"เขาใส่กระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ จากนั้นขับรถออกไปจุดหมายคือบ้านเช่านอกชานเมืองที่ชูตงอาศัยอยู่เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงานถึงที่นี่ ทุกวันคือราวสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงเย่ซิวดูเงินเดือนของชูตงซึ่งมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหลังจากหักภาษีในทุกเดือนแล้วราคาบ้านใกล้บริษัทอยู่ที่ประมาณสองหมื่นห้าพันบาท ซึ่งอิงตามหลักการแล้วเธอน่าจะแบกรับไหวถึงจะถูกเมื่อเขามาถึงบ้านเช่าของชูตง เขาก็จอดรถ ยกกระเป๋าเดินทางออกมา แล้วเดินไปที่เขตชุมชนด้านหน้าเขตชุมชนแห่งหนึ่ง ในห้องสามศูนย์แปด
"ตอนนี้คุณมีแฟนหรือยัง?"เมื่อได้ยินแบบนี้ ชูตงก็รู้สึกรังเกียจเธอแอบคิดว่าเย่ซิวประธานใหญ่คนนี้ ดูเหมือนจะซื่อตรงและมีเกียรติ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆหลายคนเคยถามคำถามนี้กับเธอเธอรู้ตัวดีว่าเธอมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายมากจริง ๆแม้ในใจจะดูแคลน แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อย “เรียนท่านประธานคะ มีแล้วค่ะ เป็นคนที่บ้านแนะนำมา ในอีกไม่กี่เดือนก็จะกลับไปหมั้นกันแล้ว”เย่ซิวขานรับอืมหนึ่งที "อืม ออกไปทำงานเถอะ"ชูตงตกตะลึงไปครู่หนึ่งเธอนึกว่าเย่ซิวจะขอให้เธอเป็นคนรักลับ ๆ ของเขาแต่เป็นแบบนี้ก็ดี ตัวเองเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ยังไม่อยากลาออก อยู่ที่นี่เธอทำงานอย่างมีความสุขมากเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์บริหารงานเข้มงวด จึงไม่มีความน่ารังเกียจทุกประเภทที่พบในที่ทำงานภายนอกปรากฏขึ้นที่นี่หลังจากที่เธอออกไป เย่ซิวก็นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของเซี่ยซิ่วซิ่ว เปิดรายชื่อพนักงาน และพบข้อมูลของชูตงเธอมาจากชนบทและเพิ่งจะเรียนจบ แต่กลับเปลี่ยนงานมามากกว่าสิบตำแหน่งแล้วในเรซูเม่ระบุว่างานเหล่านั้นทำเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ประธานหรือหัวหน้างาน
ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างด่าบริษัทเครื่องสำอางเหล่านั้นอย่างสาดเสียเทเสียว่าใช้ไม้อ่อนไม่ได้ก็เลยใช้ไม้แข็ง ไร้ศีลธรรมมากเกินไปแล้วเมื่อสักครู่นี้เพิ่งมีข่าวส่งมา ว่ามีผู้คนหลายหมื่นคนของประเทศอวี้ไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา"เย่ซิวเตือนไปหนึ่งประโยค "ผลกำไรของเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ต้นทุนที่เพิ่มมาก็ปล่อยให้พวกเขาไปแบกรับแทนอย่างไรเสียพวกเราคือ 'เหยื่อ' และหากมีคำด่าทออะไรก็ให้บริษัทของแต่ละประเทศไปแบกรับกันเอาเอง"เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มอย่างมีความสุขมาก "อืม ฉันรู้แล้วเว้นเสียแต่ประเทศต่าง ๆ จะห้ามไม่ให้ผู้คนเดินทางไปยังประเทศอวี้ ธุรกิจของเราก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก"แต่มันไม่สมจริงเลยที่จะห้ามไม่ให้ผู้คนไปที่ประเทศอวี้ประเทศอวี้เป็นประเทศที่เป็นกลางอย่างยิ่ง ได้รับการคุ้มครองจากหลายร้อยประเทศ แถมยังเป็นเขตปลอดภาษีอีกด้วยใครก็ตามที่แบนมัน จะต้องเผชิญการประท้วงอย่างรุนแรงแน่นอน“จริงสิ ชิงชิงจะมาถึงบ่ายวันนี้ ฉันจะไปรับเธอ นายจะไปไหม?”เกี่ยวกับเซี่ยชิงชิง เซี่ยซิ่วซิ่วบอกเขาเมื่อวานนี้ตอนนี้ตัวหมากนี้มีผลต่อเย่ซิวไม่มากแล้วบวกกับหลังจากที่เซี่ยซิ่วซิ่วติดตามเขาเธอก็ทำง
“นาย...นายท่าน...”ภายใต้การล่อลวงอย่างต่อเนื่องของเย่ซิว น่าหลันเยียนหรานมีเพียง 'ยอมแพ้' ในที่สุดนอกจากความเขินอายที่มีอยู่ น่าหลันเยียนหรานยังรู้สึกถึงความรู้สึกที่พิเศษมาก ซึ่งมาจากก้นบึ้งของหัวใจ นั่นคือความรู้สึกถูกครอบงำที่แสนประหลาด!หลังจากบำเพ็ญตนจนถึงเที่ยงคืน น่าหลันเยียนหรานก็หลับสนิทไประหว่างที่หลับ ร่างกายของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วมากถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาก็จะขึ้นเป็นปรมาจารย์ทั้งหมดแม้ว่าในอนาคตเขาจะไม่ออกหน้า แต่ผู้หญิงข้างกายเขาเหล่านี้ก็สามารถครองยุทธภพเย่ซิวไม่ได้พักผ่อน แต่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้าง ๆ น่าหลันเยียนหราน หยิบสุราวิญญาณออกมาดื่มอึกใหญ่ แล้วใช้วิชายุทธเริ่มปรับแต่งมันอย่างเงียบ ๆตอนนี้เป้าหมายของเขาคือการเข้าสู่ขั้นอมตะให้เร็วที่สุด แบบนี้ถึงจะสามารถรู้ความหมายของคำพูดที่หยางชิงเสวี่ยพูดไว้ว่าถ้าเขาได้เธอ ก็จะได้ครอบครองพลังที่ทรงพลังมากเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อน่าหลันเยียนหรานตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่ามีพลังไหลไปทั่วทั้งร่างกาย หูและสายตาของเธอเฉียบคมขึ้น สภาพดีชนิดที่ว่าเมื่อก่อนเทียบไม่ติด“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเย่”
น่าหลันเยียนหรานหัวเราะคิกคัก "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดื่มเก่งมาก มา ดื่มกันต่อ..."โดยปกติแล้วคนที่ชอบพูดว่าตัวเองดื่มเก่ง ในความเป็นจริงล้วนไม่ค่อยจะเท่าไหร่ยกตัวอย่างเช่นน่าหลันเยียนหราน อวดว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ดื่มไปสามแก้วติดกัน ก็นอนฟุบหมดสติไปกับโต๊ะแล้วเย่ซิวส่ายหัวอย่างหมดคำพูด เดินขึ้นไปแล้วอุ้มเธอกลับไปที่ห้องน่าหลันเยียนหรานดูตัวสูงเพรียว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตัวหนัก น่าจะสักประมาณสี่สิบห้ากิโลกรัม สำหรับเย่ซิวแล้วจึงไม่ต่างอะไรกับการอุ้มก้อนสำลีมากนักเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของน่าหลันเยียนหราน กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกมะลิก็ลอยมาปะทะจมูก ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานเมื่อได้กลิ่นห้องพักสะอาดมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้คนเห็นแล้วต้องหน้าแดงเขาวางเธอลงเบา ๆ ไม่ทันรอให้เย่ซิวดึงมือกลับไป เธอก็ลืมตาที่แดงก่ำขึ้นแล้วพูดอย่างคลุมเครือฟังไม่ค่อยชัดแต่เย่ซิวได้ยินมันอย่างชัดเจนมาก เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "คุณแน่ใจเหรอ? ผมไม่สามารถให้สถานะแก่คุณได้"น่าหลันเยียนหรานค่อย ๆ หลับตาลง ท่าทางเหมือนยอมให้ท่านกระทำได้ทุกอย่างนี่เป็นการตัดสินใจเลือกของเธอเอง เย่ซิวไม่ได้บังค