ผู้หญิงที่ยืนอยู่ถัดจากหยางซิว เมื่อเห็นสายตาของฝ่ายชายแทบจะแนบติดไปกับร่างของไป๋อวี้เจี๋ย เธอก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมากเหลือบมองเย่ซิวซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ไป๋อวี้เจี๋ย ทันใดนั้นเธอก็พูดขึ้นอย่างกระแนะกระแหนว่า “นี่ใครกันคะช่างแต่งตัวได้ 'เรียบง่าย' มากจริง ๆ หน้าตาก็ดูไม่คุ้นเลย จะใช่คนรักของคุณไป๋หรือเปล่านะ?”เธอเน้นย้ำคำว่า 'เรียบง่าย' อย่างหนักหรือในอีกความหมายหนึ่งก็คือ มันโทรมมากเมื่อหยางซิวได้ยินประโยคนี้ เขาก็มองไปที่เย่ซิวด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรไป๋อวี้เจี๋ยยังไม่เคยถูกเขาลิ้มลองเลย แล้วจะปล่อยให้คนอื่นชิงตัดหน้าไปก่อนได้อย่างไร?สำหรับเย่ซิว เขาคร้านที่จะเสวนากับคนแบบนี้ทว่าความเงียบของเขากลับกลายเป็นการยอมรับในสายตาของผู้หญิงคนนี้เพราะไม่ต้องการที่จะปล่อยเย่ซิวไป เธอจึงพูดเหน็บแนมต่อ "ฉันได้ยินมาว่ามีอาชีพหนึ่งที่คนจะมองหาผู้หญิงที่ร่ำรวยโดยเฉพาะ หรือเรียกสั้น ๆ ว่าพวกเกาะผู้หญิงกินอยู่ด้วย”“คุณไป๋ คุณต้องระวังไว้ให้ดีนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจจะเสียทั้งเงินเสียทั้งตัว”ประการเย็นเยียบวาบผ่านดวงตาของเย่ซิวเพียงเพราะเขาขี้เกียจเกินกว่าที่จะโต้เถียงกับผู้หญิง ไม่ได้หมายคว
เย่ซิวหันกลับไปมอง ก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งสวมเดรสเซ็กซี่และเร่าร้อนกำลังยืนอยู่ข้าง ๆ เขาเดรสที่เธอสวมนั้นรัดรูปมาก มันจึงเผยหุ่นที่โค้งเว้าของเธออย่างเด่นชัดคอเสื้อเองก็เว้าลงไปลึก เพียงมองก็จะเห็นถึงร่องลึกที่ราวกับหุบเหวซึ่งไม่อาจหยั่งรู้ ดึงดูดสายตาให้ต้องมองไม่หยุดการแต่งหน้าของเธอเองก็ช่างดูลงตัว มีเสน่ห์ และสูงศักดิ์ นี่คือผู้หญิงที่ทำให้ผู้คนบังเกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะพิชิตเพียงแค่มองเธอครั้งเดียว“คุณคะ ช่วยดื่มเป็นเพื่อนฉันสักแก้วได้ไหม คนอื่น ๆ ไม่มีใครอยากยืนอยู่กับฉันเลย”หญิงสาวเบ้ปากเล็กน้อยอย่างน่าสงสารท่าทางแบบนี้ของเธอ ต่อให้ผู้ชายคนนั้นจะถูกทำขึ้นจากเหล็ก ก็คงถูกหลอมละลายกลายเป็นน้ำในทันทีเย่ซิวมองไปรอบ ๆ เห็นว่าผู้ชายหลายคนกำลังมองมาทางผู้หญิงคนนี้ด้วยสายตาที่ระแวดระวังอย่างมากมีแม้กระทั่ง มองข้ามตัวเธอไป ไม่กวาดสายตามาที่เธอ ดูท่า ผู้หญิงคนนี้จะไม่ธรรมดาเสียแล้วเย่ซิวยักไหล่และชี้ไปที่มุมห้อง "ไปทางนั้น แล้วก็ช่วยผมหยิบอาหารหน่อยก็ดีนะ"หญิงสาวเผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ที่ชวนให้คนหลงใหลจนตายได้ออกมาในทันทีทั้งสองเดินมาหยุดอยู่ในมุ
แรงดูดอันแข็งแกร่งแผ่มาจากฝ่ามือของเธอเคล็ดวิชาผันแปรกำลังภายในถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อดูดกลืนเลือดและพลังปราณของจอมยุทธโดยเฉพาะ จากนั้นเปลี่ยนพลังนั้นไปใช้เป็นของตัวเองเป็นศาสตร์หนึ่งที่ทั้งโหดเหี้ยม แต่ก็ทรงพลังเป็นอย่างมากเย่ซิวก้มมองเธอ สีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใด ๆหลี่ชิวเยวี่ยนิ่งอึ้งไปแล้ว "เกิดอะไรขึ้น นี่คุณ?"โดยปกติเคล็ดวิชาผันแปรกำลังภายในนี้ของเธอจะมอบพลังที่ไม่สิ้นสุดให้แก่เธอ แต่ครั้งนี้มันกลับล้มเหลวไปเสียอย่างนั้น!ถ้าไม่ใช่เพราะความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากผิวหนังของเย่ซิวในมือของเธอนั้นมันช่างชัดเจน เธอคงคิดว่าเย่ซิวกำลังสวมชุดเกราะเหล็กอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะเพิ่มแรงดูดไปอีกประหนึ่งปั๊มน้ำที่ถูกโยนลงไปในบ่อน้ำแต่ที่ถูกสูบออกมานั้นไม่ใช่น้ำ แต่กลับสูบลมออกมาอย่างต่อเนื่อง!“เป็นไปได้ยังไง? ทำไมถึงไม่ได้ผลล่ะ?!”ดวงตาที่สวยงามของหลี่ชิวเยวี่ยเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและสับสนเป็นอย่างมากทันใดนั้น เธอก็คิดถึงความเป็นไปได้หนึ่ง "มีแค่จอมยุทธที่มีระดับพลังสูงกว่าฉันถึงจะทำให้เคล็ดวิชาผันแปรกำลังภายในของฉันล้มเหลว หรือว่าคุณเป็นจอมยุทธระดับหกขั้นสูงอย่างนั้นเหร
หลี่ชิวเยวี่ยลุกขึ้นจากพื้นเธอฟื้นฟูกำลังบางส่วนหยางซิวที่อยู่บนพื้นสูญสิ้นกำลังภายในไปหมดแล้ว เลือดเนื้อแห้งเหี่ยว เหลือเพียงผิวหนังหุ้มกระดูกเท่านั้นเธอลากหยางซิวเข้าไปในห้องน้ำ ถอดเสื้อคลุมของเขาออกแล้วสวมให้ตัวเองจากนั้นก็รีบออกไปหลี่ชิวเยวี่ยก้มหน้าลงตลอดทางโรงแรมแห่งนี้มีลิฟต์อยู่ทั้งแปดมุม และเธอก็เลือกมุมที่มีคนน้อยที่สุดเธอกลัวว่าจะมีใครเห็น และหลังจากออกจากโรงแรม เธอก็ไปยังฐานลับแห่งหนึ่งของเธอฝ่าไฟแดงทุกแยกตลอดทางใช้เวลาเพียงห้านาทีก็มาถึงเธอแทบจะคลานขึ้นไปที่ห้องอ่านหนังสือบนชั้นสองเมื่อกดสวิตช์ ชั้นหนังสือก็ขยับออกเผยให้เห็นห้องลับเธอเดินเข้าไปเปิดตู้แล้วหยิบขวดออกมาจากนั้นเงยหน้าขึ้นแล้วกลืนยาเม็ดสีแดงเลือดทั้งหมดที่อยู่ข้างในลงไปหลี่ชิวเยวี่ยนั่งขัดสมาธิบนพื้น ฝ่ามือและฝ่าเท้าหันหน้าไปทางท้องฟ้าไอร้อนแผ่ออกมาจากศีรษะของเธออย่างต่อเนื่องผิวแห้งเหี่ยวกลับมาดูอวบอิ่มและยืดหยุ่นอีกครั้งเฮ้อ!หลี่ชิวเยวี่ยถอนหายใจออกอย่างแรง และลุกขึ้นไปยืนอยู่หน้ากระจกเธอฟื้นกำลังเต็มที่แล้วในกระจก เธอยังคงเป็นผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์คนเดิมคนนั้น“โชคด
“เสร็จจากที่นี่แล้ว ไปคลับส่วนตัวที่ฉันเปิดไหม? ฉันชวนเลขาของฉันไปด้วย เธอบอกว่าคืนนี้เธอจะเต้นโพลแดนซ์[footnoteRef:0]” [0: เต้นโพลแดนซ์ คือการเต้นรูดเสา] เย่ซิวกำลังจะปฏิเสธ แต่ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นที่ทางเข้าไป๋อวี้เจี๋ยเองก็มองไปทางที่เย่ซิวมองเช่นกัน เธออุทานออกมาทันที "เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? เขาพิการไปแล้วไม่ใช่เหรอ?"ข่าวที่ว่าเย่ขวงถูกทำให้พิการไม่ได้เป็นความลับในแวดวงนี้คนอื่น ๆ ก็ตกใจไม่แพ้กันเย่ขวงสมควรที่จะมีคำว่า "บ้า[footnoteRef:1]" อยู่ในชื่อของเขา [1: ขวงในภาษาจีน หมายถึง บ้า ดุร้าย และรุนแรง] เมื่อมาถึง เขาก็ปล่อยกลิ่นอายแห่งขั้นปรมาจารย์ออกมาทันที!ผู้ชมทั้งหมดต่างตกใจทันที!“ปรมาจารย์!”“โอ้พระเจ้า นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม!”“เกิดอะไรขึ้นกับเขากัน!”……หลังจากตกตะลึงกันแล้ว ผู้มีอิทธิพลจากทุกทิศทางก็รีบรุดไปข้างหน้าราวกับฝูงผึ้งเพื่อพูดคุยกับเขาแม้แต่คนโง่ก็ยังเห็นว่าตอนนี้เย่ขวงได้ทะยานขึ้นไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แล้วปรมาจารย์หนุ่มขนาดนี้ อนาคตของเขานับว่าเกินคาดเดาแล้ว! สีหน้าไป๋อวี้เจี๋ยดูเคร่งขรึมมากขึ้น เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
ผู้ที่ไม่เคยประสบด้วยตัวเอง จะไม่สามารถเข้าใจความสิ้นหวังที่เกิดจากการ ตกเป็นเป้าหมายของปรมาจารย์เหมือนกับโลกทั้งใบทอดทิ้งโดดเดี่ยวและทำอะไรไม่ถูก หนาวเข้ากระดูก!แต่ในขณะที่ไป๋อวี้เจี๋ยดูเหมือนจะตกสู่นรกที่ไร้ขอบเขต เย่ซิวก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอแผ่นหลังของเขาไม่กว้างมากนัก แต่มันทำให้ไป๋อวี้เจี๋ยรู้สึกปลอดภัยมากพอ!เขาดึงเธอออกจากนรกอันไร้ขอบเขต ทำให้เธอได้เห็นแสงสว่างอีกครั้งในตอนนี้เองที่หัวใจของไป๋อวี้เจี๋ยได้ละกำแพงน้ำแข็งลงเมื่อมองไปที่ด้านหลังของเย่ซิว ก็รู้สึกเต็มไปด้วยความอ่อนโยนไม่รู้จบบางทีการชนะใจผู้หญิงก็เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจขณะที่เย่ซิวยืนขึ้น ภาพนั้นก็เกิดความโกลาหลทุกคนมองเขาเหมือนคนโง่เง่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากใครกล้าที่จะทำตัวเป็นวีรบุรุษชาวสาวงาม สงสัยว่า คนคนนั้นสมองกระทบกระเทือนหรือเปล่า? เย่ซิวมองไปที่เย่ขวงและพูดอย่างใจเย็น "พอได้แล้ว การกลั่นแกล้งผู้หญิงมันไม่ได้ใช้ความสามารถอะไร"ดวงตาของเย่ขวงฉายแววน่าสะพรึงกลัว "แกเป็นใคร ไสหัวไปซะ!"ราวกับราชสีห์ที่โกรธแค้น ผู้คนโดยรอบเงียบกริบด้วยความหวั่นและไม่กล้าพูดแต่เย่ซิวไม่ได้จริงจังเลย
เธอแอบกัดฟัน "คนไร้หัวใจ อย่าคิดจะหวังอีกเลย!"ในเวลานี้ เหล่าผู้เชี่ยวชาญ/ศิลปินด้านอักษรวิจิตรและภาพวาด กลายเป็นจุดสนใจของงานนอกจากชายสูงอายุที่ได้รับความเคารพอย่างสูงเพียงไม่กี่คนเหล่านั้นแล้ว ยังมีชายวัยกลางคนอีกด้วยหลังจากที่ทุกคนได้เรียนรู้ถึง 'ตัวตน' ของเขาแล้ว พวกเขาต่างก็ชื่นชมกันไม่หยุดปาก“ไม่คิดเลยว่าอาจารย์ต้าวจือยังหนุ่มมากขนาดนี้!”"ฉันเป็นแฟนตัวยงของอาจารย์ต้าวจือเลยนะคะ!"“อาจารย์ต้าวจือ ครั้งนี้คุณได้นำผลงานใหม่มาบ้างไหมครับ?”……‘ต้าวจือ’ ซึ่งได้รับความเคารพและยกย่องอย่างสูง เขายิ้มและตอบคำถามของทุกคนอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ เขายังชื่นชอบผู้หญิงสวยบางคนเป็นพิเศษเย่ซิวยังถามคำถาม "ผมอยากรู้ว่า อาจารย์ต้าวจือเรียนรู้กับใคร?"'ต้าวจือ' ดูภูมิใจ "ฉันเรียนรู้และทำสำเร็จด้วยตนเอง!"จากนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็พากันสรรเสริญเยินยอต่าง ๆ มากมายทันทีพวกเขาต่างสนใจมูลค่าทางการค้ามหาศาลของ 'ต้าวจือ'ภาพวาดสามารถขายได้มากกว่าหมื่นล้านได้อย่างง่ายดาย มันจะน่าทึ่งยิ่งกว่านี้หากมันเป็นเรื่องของการโฆษณาเกินจริงหลังจากสนุกสนานพูดคุยแลกเปลี่ยนกันมาพอสมควรแล้ว งานประดิษฐ์
ไป๋อวี้เจี๋ยโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของเย่ซิว เสียงของเธอตื่นเต้นมาก “คุณเห็นไหม นี่คือไอดอลของฉันเลย”“ภาพวาดนี้ไม่มีใครเทียบได้ในโลกแล้ว ไม่ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ฉันจะเอามาให้ได้!”ท่าทีของเย่ซิวดูแปลก ๆ แต่เขาไม่ได้พูดอะไรหลังจากที่แนะนำเสร็จพิธีกรก็ประกาศราคาเริ่มต้นทันทีหนึ่งพันล้านบาทเช่นกันที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อเป็นการให้เกียรติศิลปินอาวุโสเท่านั้นทันทีที่เขาพูดจบ ไป๋อวี้เจี๋ยก็เป็นคนแรกที่เสนอราคา“แปดพันล้าน!” เธอดูมุ่งมั่นที่จะชนะอย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ทำให้คนอื่นกลัว“เก้าพันล้าน!”“หนึ่งหมื่นสองพันล้าน!” "หนึ่งหมื่นสามพันล้าน!" ……ย้อนกลับไปในที่เล็ก ๆ เช่นเมืองเจียงเฉิง ผลงานสองชิ้นของเย่ซิวสามารถขายได้ในราคามากกว่าหมื่นล้านบาทเมื่อมาถึงเมืองหลวง มูลค่าของมันย่อมสูงขึ้นเป็นธรรมดาในพริบตาเดียว ราคาเสนอก็ขึ้นเป็นสองหมื่นสามพันล้านบาท! บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งอาจไม่ทำกำไรได้มากขนาดนั้นในหนึ่งปีด้วยซ้ำ!ส่วนต้าวจือตัวปลอมนั้นกำลังพยายามที่จะเก็บอารมณ์ แต่ใบหน้าของเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมา“ให้ตายสิ!” ไป๋อวี้เจี๋ยต้องการที่จะเสนอราคา
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ
“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ
พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ
เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ
ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่
ภายในเรือลำใหญ่ไม่ได้มืดมิดอย่างที่คิดไว้ แต่กลับสว่างไสวอย่างมากบนเพดานเรือประดับด้วยไข่มุกราตรีขนาดใหญ่ที่เปล่งแสงสว่างนิรันดร์ไม่เคยดับพวกเขาเห็นนักรบที่สวมเกราะหรูหรา ถือหอกยาว ยืนอยู่ตามตำแหน่งเฉพาะแม้พวกเขาจะเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว แต่ยังคงแผ่รังสีแห่งพลังอันแข็งแกร่ง ทำให้ผู้คนรู้สึกเกรงกลัวเพียงแค่ได้มองเมื่อพรีเอลล์เห็นภาพเบื้องหน้า เธอก็กรีดร้องด้วยความตื่นเต้นก่อนจะพุ่งเข้าไปทันที และเอื้อมมือไปสัมผัสชุดเกราะเบา ๆ “นี่คือเกราะเวทมนตร์ที่ทำจากมิธริล[footnoteRef:0]ซึ่งเป็นวัสดุหายากล้ำค่า [0: เป็นโลหะในจินตนาการจากนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง] ฉันเคยเห็นเกราะเวทมนตร์ที่ไม่สมบูรณ์ชิ้นหนึ่งในงานประมูลและมันถูกประมูลไปในราคาหลายหมื่นล้านแต่ที่นี่มีเกราะที่สมบูรณ์กว่าร้อยชุด ถ้านำไปขายจะได้เงินเท่าไหร่กันนะ”แม้ว่าครอบครัวของเธอจะร่ำรวย แต่เธอก็ไม่อาจมองข้ามทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลนี้ได้ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นเพียงส่วนที่อยู่ด้านนอกเท่านั้น หากเดินเข้าไปข้างในอาจมีของล้ำค่าอีกมากมาย ไม่แปลกเลยที่เธอจะแสดงอาการตื่นเต้นจนเกินตัวเย่ซิวเดินไปที่ร่างของนักรบคนหนึ่งก่อนจะใช้
พวกเขามีขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่ยิงได้ไกลสุดหนึ่งหมื่นเก้าพันกิโลเมตรและนี่คือข้อมูลที่เปิดเผยออกมา ใครจะรู้ว่าพวกเขาอาจมีอาวุธที่ทรงพลังยิ่งกว่านี้ซ่อนอยู่ในเงามืดก็เป็นได้ด้วยพลังของเย่ซิวในตอนนี้ เขาสามารถเดินทางได้ถึงวันละสามพันกิโลเมตรจนกระทั่งเช้าวันต่อมา ทั้งสองก็มาถึงป่าทึบแห่งหนึ่งทันทีที่ถึงพื้น เย่ซิวก็จับตัวพรีเอลล์ไว้แน่นก่อนหน้านี้บนกระบี่หงส์โบยบิน เธอเอาแต่พูดจายั่วโมโหไม่หยุดจนทำให้เขาเสียสมาธิเย่ซิวจึงอดทนไว้ตลอดทางเพื่อจะเดินทางได้ต่อ แต่ตอนนี้ถึงเวลาหยุดพักแล้ว และก็ถึงเวลาที่เขาจะสั่งสอนเธอให้รู้จักบทเรียนที่ลืมไม่ลงจากนั้นพื้นที่โดยรอบก็สั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหวสองชั่วโมงผ่านไป เย่ซิวก็ฟื้นฟูพลังกลับมาเต็มที่ส่วนพรีเอลล์ตอนนี้สภาพกลายเป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วไร้เรี่ยวแรงเย่ซิวอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินทางต่อไปอีกหนึ่งวันครึ่งต่อมา พวกเขาก็มาถึงประเทศจ้านอิงตี้พรีเอลล์ที่ดูเหมือนจะกลับมามีเรี่ยวแรงแล้ว แต่ท่าทางของเธอดูเรียบร้อยกว่าตอนก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัดผู้หญิงคนนี้สมควรโดนปราบให้เข็ดจริง ๆ หลังจากโดนเย่ซิวสั่งสอนอย่างหนักหน่วง เธอก็
พูทเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจระหว่างเดินปากก็พึมพำไม่หยุดว่าพอน้องสาวโตแล้วก็อยู่ด้วยไม่ได้ พอมีแฟนก็ไม่สนใจพี่ชายตัวเองเลยพรีเอลล์โมโหจนกัดฟันแล้วเตะเขาไปหนึ่งทีหลังจากก้างขวางคอชิ้นใหญ่จากไป พรีเอลล์ก็มองเย่ซิวด้วยสายตาท้าทาย “เมื่อกี้ไม่นับ มาสู้กันใหม่อีกรอบ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะชนะนายไม่ได้”จากท่าทางของเธอก็พอมองออกว่าพรีเอลล์เป็นคนที่มีจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันสูงมากและอยากเป็นที่หนึ่งในทุกเรื่องเย่ซิวดูเวลา “ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้เป้าหมายหลักของเราคือไปดูสถานการณ์ของเรือลำนั้นก่อน”“ไม่ได้ ต้องรู้ผลแพ้ชนะก่อน ไม่งั้นฉันจะหงุดหงิด ”เย่ซิวจึงต้องยอมทำตามที่เธอต้องการอย่างจนปัญญาเพื่อไม่ให้เสียเวลา เย่ซิวจึงใช้พลังเต็มที่ตั้งแต่เริ่ม ทำให้พรีเอลล์โดนจัดการจนแทบไม่เหลือแรงจะสู้เพียงแค่สิบนาทีเธอก็ยอมแพ้“ฉันไม่เอาแล้ว”“ทำไมนายถึงเก่งขนาดนี้?”“พี่ชายฉันผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันเถอะ”……ถ้าพูทมาเห็นฉากนี้ เขาคงจะอ้าปากค้างด้วยความตกใจน้องสาวคนนี้เป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเห็นเธอยอมใครง่าย ๆ มาก่อนเลยแต่ตอนนี้กลับถูกเย่ซิวจัดการจ
มีลักษณะคล้ายกับแผนภาพแปดทิศแต่ดูซับซ้อนกว่ามากจากนั้นจึงเขียนเนื้อหาของสัญญาไว้ด้านข้าง เย่ซิวมองสองพี่น้องที่ดูประหลาดใจพลางอธิบายว่า “แค่พวกคุณหยดเลือดลงไปบนนี้ สัญญาก็จะเสร็จสมบูรณ์ ถ้าเกิดละเมิดสัญญาขึ้นมา เบาหน่อยก็จะกลายเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต ถ้าหนักหน่อยก็ตายคาที่”“มันมีพลังถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?” พรีเอลล์เอ่ยถาม“แน่นอน”พี่น้องสองคนยังคงลังเลแต่ก็ยอมหยดเลือดลงบนสัญญา จากนั้นเย่ซิวก็ทำตามเช่นกันสัญญาส่งแสงแปลกประหลาดออกมาโดยแยกเป็นสามส่วน ก่อนจะซึมเข้าสู่ร่างกายของทั้งสามคนในใจพวกเขาก็เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งขึ้นมาโดยทันที หากละเมิดขึ้นมาจะต้องจ่ายค่าตอบแทนมหาศาลสองพี่น้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขอแค่สร้างความเชื่อใจกันได้ก็เพียงพอแล้วพรีเอลล์มองไปยังพี่ชายของเธอ “พี่ว่าเราบอกเรื่องนั้นเขาไปดีไหม อาจจะได้อะไรกลับมาก็ได้”พูทดวงตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยกับเย่ซิว “มีโอกาสครั้งใหญ่รออยู่ ขึ้นอยู่กับว่านายจะมีความสามารถพอที่จะคว้ามันไว้ได้หรือเปล่าเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดของประเทศจ้านอิงตี้เลยนะ ถ้าตระกูลเราไม่มีพื้นฐานดีก็คงไม่มีทางรู้ได้”เย่ซิวเผยสีหน้าสนใจในทั