เสี่ยวลิ่วจื่อหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “พี่หวัง ผมคิดว่าพี่เป็นคนดีมีความสามารถมากนะ ผมก็เลยมีโอกาสที่พี่จะได้ทำเงินมหาศาลมาเสนอให้”“แกอยากพูดอะไรกันแน่?!”“สินค้าชุดนี้ต้องถูกส่งไปยังเจียงเฉิงใช่ไหมล่ะ? จากที่นี่ต้องใช้เวลาประมาณสองวันก็จะถึงเจียงเฉิงพี่หวัง ถ้าพี่ชะลอเรื่องขนส่งไปได้หนึ่งวันก็จะได้หนึ่งล้านบาท สองวันก็สองล้านเลยนะ”“แกเป็นคนของบริษัทอื่นใช่ไหม!” พี่หวังโต้ตอบทันทีเสี่ยวลิ่วจื่อก็ไม่ได้ปฏิเสธ “ผมก็แค่คนทำงานพาร์ทไทม์ ถ้าพลาดโอกาสดี ๆ ที่จะทำเงินได้มากขนาดนี้ไปคงเสียดายแย่”“เป็นไปไม่ได้หรอก หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง แล้วแกก็จะตกงาน หรืออาจถึงขึ้นถูกฟ้องร้องด้วยซ้ำ”พี่หวังส่ายหัวและปฏิเสธ รู้สึกว่านี่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยวลิ่วจื่อกล่าวต่อ “พี่หวัง ลูกสองคนของพี่จะเข้าโรงเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ ภรรยาของพี่ก็สุขภาพไม่ค่อยดีนี่ แล้วพี่ก็ยังเช่าบ้านอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”“อีกสองสามปี เด็ก ๆ ก็ต้องไปโรงเรียนแล้ว พวกเขาคงไปเรียนไม่ได้ถ้าไม่มีบ้านล่ะนะ”“ไหนจะค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกเพียบ ด้วยเงินเดือนของพี่เท่านี้คงจ่ายไม่ไหวแน่”“ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนจับได้หรอก พอถึงเวลานั้น พ
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาออกไป ก็มีคนกลุ่มหนึ่งมาถึงนอกสถานที่ก่อสร้างพวกเขาไม่ได้เข้าไป แค่สังเกตข้างนอกสักพัก จากนั้นก็เผยรอยยิ้มเย็นชาแล้วเดินออกไป……ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตของเย่ซิวก็ดำเนินไปตามปกติมากในระหว่างวัน เขาจัดการเรื่องต่าง ๆ ในบริษัท และในตอนกลางคืน เขาจะแนะนำเซี่ยซิ่วซิ่ว หลิ่วเมิ่งอิ๋นและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ให้ฝึกฝนพลังที่พวกเธอได้รับหลังจากกินเนื้องูเข้าไปยังคงอยู่ในร่างกายของพวกเธอด้วยการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง พลังที่แฝงอยู่ในร่างกายจึงได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ความก้าวหน้าภายในวันเดียวของพวกเธอถือได้ว่ารวดเร็วและไปไกลมากจนกระทั่งไม่กี่วันต่อมา เย่ซิวก็ต้มดอกบัวหิมะสีเลือดเป็นโอสถให้พวกเธอกินเมื่อถึงเวลา ความแข็งแกร่งของพวกเธอจะเติบโตอย่างรวดเร็วสามวันผ่านไปไวในพริบตาในตอนเที่ยงของวันนั้น เซี่ยซิ่วซิ่วได้รับสายจากสถานที่ก่อสร้าง และสอบถามว่าทำไมวัสดุก่อสร้างยังมาไม่ถึงเซี่ยซิ่วซิ่วขมวดคิ้ว และโทรถามหลินซวงทันที“ว่ายังไงนะคะ วัสดุยังไปไม่ถึงอีกเหรอคะ?”หลังจากที่หลินซวงได้ยินข่าว เธอก็สังหรณ์ใจได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติหลังจากพูดคุยกับเซี่ยซิ่วซิ่
โรงงานวัสดุก่อสร้างซุ่นต๋านี่คือบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตเหล็กเส้นและวงกบประตู และเป็นหนึ่งในคู่ค้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จิ่นซิ่วเจ้านายของพวกเขาเป็นผู้หญิงในวัยสี่สิบ และใคร ๆ ก็เรียกเธอว่า เจ๊ลี่ในขณะนี้ หลังจากวางสาย มุมปากของเจ๊ลี่ก็เผยท่าทีเย้ยเยาะ “ยัยโง่ คิดว่าฉันจะตกลงช่วยขนส่งวัสดุจริง ๆ หรือไง!”ตรงข้ามกับเธอมีชายคนหนึ่งสวมแว่นตานั่งอยู่ เขาดูสง่าและสุภาพเมื่อได้ยินคำพูดของเจ๊ลี่ ชายคนนั้นก็หัวเราะ “เจ๊ลี่ คุณเลือกได้ฉลาดมาก บริษัทอสังหาริมทรัพย์จิ่นซิ่วคงอยู่ได้อีกไม่นาน มันดีกว่าอยู่แล้วที่จะร่วมมือกับเราในอนาคต”เจ๊ลี่ยังหัวเราะ “แน่นอนสิคะ บริษัทของคุณเป็นอุตสาหกรรมชั้นนำในประเทศ ราคาที่คุณให้ฉันก็ยังสูงกว่าที่ยัยหลินซวงนั่นให้ฉันตั้งสามสิบเปอร์เซ็นต์”ชายคนนั้นปรับแว่นตาขึ้น ดวงตาแวบประกายเฉียบคม “หลินซวงคงคิดว่าตัวเองแก้ไขปัญหาเรื่องวัสดุก่อสร้างได้แล้ว แต่เธอไม่รู้เลยว่า วิกฤติใหญ่กว่านั้นกำลังรอพวกเธออยู่”เจ๊ลี่พยักหน้า “ลองคำนวณซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้แล้ว เธอคงจะต้องเลื่อนโครงการออกไปอย่างน้อยครึ่งเดือน และด้วยที่เธอต้องเสียเงินวันละร้อยล้าน เธอจะต้องเสีย
สำหรับเย่ซิว คนพวกนี้ไม่สนใจเขาเลยดวงตาของหลางสือจิ่วเย็นชา “ไปให้พ้น!”ผู้ชายพวกนี้ไร้ยางอายและอาจหาญนักเป็นโสดมาหลายปีแล้ว จะให้ยอมถอยออกไปเพียงเพราะหลางสือจิ่วไม่พอใจได้อย่างไรกัน?ไม่ใช่แค่พวกเขาไม่ยอมถอยเท่านั้น แต่พวกเขาแต่ละคนกลับหัวเราะและเอื้อมมือไปทางหลางสือจิ่วไม่มีผู้หญิงในหมู่บ้านมานานแล้ว พวกเขาจะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปได้อย่างไรเล่า?กร๊อบ!ครั้งนี้คนพวกนี้ก็แค่เจอกับกำแพงเข้าให้แล้วหลางสือจิ่วออกแรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถหักแขนของชายคนหนึ่งที่เอื้อมมือออกมาได้แล้ว จากนั้น ก็เตะเข้าที่หน้าท้องจนชายคนนั้นล้มลงกับพื้นด้วยเสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดวินาทีต่อมา เธอหมุนตัวเหวี่ยงขาออกไปราวกับแส้และกระแทกที่ชายอีกสองคนจนล้มลงกับพื้นการกระทำของเธอยังกระตุ้นให้ผู้ชายคนอื่น ๆ ที่เฝ้าดูจากระยะไกลโกรธเคืองและวิ่งเข้ามา บางคนถือเคียว จอบ และเครื่องมืออื่น ๆ“แม่เสือสาวนี่มาจากที่ไหน!”“กล้ามาทำป่าเถื่อนในหมู่บ้านของเรา ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือยังไง!”“จับเธอไป เอาให้อับอายหนัก ๆ!”……เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ชายสามสี่สิบคน หลางสือจิ่วยังคงดูสงบและพูดกับเย่ซิวว่า “นาย
เดิมทีเย่ซิวคิดว่าในหมู่บ้านยากจนเช่นนี้ ผู้นำหมู่บ้านคงจะเป็นคนแก่น่ารำคาญไหนเลยจะรู้ว่าเธอจะเป็นหญิงวัยสาวที่ควรแต่งงานแล้วและยังมีเสน่ห์มากอีกด้วยเธออายุประมาณสามสิบห้าปี สวมกางเกงยีน รูปร่างโค้งมนมากในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยชายโสด ผู้หญิงลักษณะนี้จะปลอดภัยได้อย่างไร?แต่ในไม่ช้า เย่ซิวก็ตระหนักได้ทันทีว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นปรมาจารย์ด้านพิษคาดว่าผู้ชายทุกคนในหมู่บ้านคงจะรู้ว่าเธอมียาพิษเต็มไปหมด ดังนั้น พวกเขาจึงไม่กล้ามีเจตนาร้ายต่อเธอ“อ้อ! คุณอยากได้สิทธิ์ในการแสวงหาผลประโยชน์จากทรายและกรวดหลังหมู่บ้านใช่ไหม?”หญิงถึงวัยอันควรแต่งงานแล้วคนนี้เผยรอยยิ้มอันร้ายกาจ เสียงของเธอนุ่มนวลและอ่อนโยนราวกับเสียงลูกแมว เมื่อได้ยินก็ทำให้ใจสั่นเย่ซิวมองไปที่อีกฝ่าย “ผมมาที่นี่ด้วยความจริงใจ การขุดทรายและกรวดยังสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับหมู่บ้านได้ ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน”“ที่คุณพูดก็มีเหตุผล” หญิงสาวคนนั้นพยักหน้า แต่ทันใดนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชามาก “แต่ฉันไม่ต้องการ ออกไปจากที่นี่ซะ!”หลางสือจิ่วโกรธจัด พลันก้าวไปข้างหน้าเตรียมจะลงมือ สำหรับเธอ ใครก็ตา
หญิงสาวยิ้มอย่างขมขื่นพลางถอนหายใจ “สำนักแพทย์ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว ถ้าคุณต้านพิษได้ร้อยชนิด แล้วยังไงล่ะ?"“ศัตรูของฉันมาจากหวงเฉิง เว้นแต่ว่าคุณจะเป็นปรมาจารย์ ไม่อย่างนั้นคุณก็ปกป้องฉันไม่ได้หรอก”“หนุ่มน้อย รีบกลับไปเถอะ แล้วอย่ามารบกวนฉันอีก”“ปรมาจารย์?” เย่ซิวพูดเบา ๆ “ช่างบังเอิญจริง ๆ พอดีผมเป็นปรมาจารย์”อีกฝ่ายตะคอกอย่างเย็นชา “อย่ามาขี้โม้แถวนี้ ถ้าคุณเป็นปรมาจารย์ ฉันจะเรียกคุณว่าพ่อเดี๋ยวนี้เลย... “ทันทีที่พูดจบ เย่ซิวก็ระเบิดพลังระดับปรมาจารย์ออกมาทันทีไม่จำเป็นต้องปลดปล่อยพลังให้สูงกว่านี้เลย ในเมืองที่ใกล้เคียงนี้ แค่ระดับปรมาจารย์ก็แทบจะไร้คู่ต่อสู้อยู่แล้วผู้หญิงคนนี้ขาอ่อนแรงและทรุดตัวลงกับพื้นทันทีเป็นเพราะความหวาดกลัวสิ่งที่เธอได้เห็นนั้นเกินกว่าความเข้าใจในโลกนี้ของเธอไปแล้ว“นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? นี่ฉันย้อนกลับมาสมัยโบราณแล้วสินะ”เธอพึมพำกับตัวเอง ไม่อยากจะเชื่อกับฉากที่อยู่ตรงหน้านี้เลยเย่ซิวชี้นิ้วออกไป กระแสกำลังภายในก็พุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเขาคล้ายกับดาบเล็ก ๆ ที่ยาวหลายสิบเซนติเมตร และลากนิ้วไปตามหน้าโต๊ะอย่างเบามือมุมหนึ่งของโต๊ะถูกตั
เขาเห็นไป๋ปิงสวมชุดนอนผ้าไหมถึงแม้ว่าชุดนอนจะค่อนข้างหลวม แต่เมื่ออยู่บนเรือนร่างของเธอก็ให้ความรู้สึกเหมือนเสื้อผ้ารัดรูป เผยให้เห็นรูปร่างของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบไป๋ปิงเป็นผู้ใหญ่มากแล้วร่างกายของเธอเปล่งประกายถึงความเป็นผู้ใหญ่และมีเสน่ห์ที่กำลังรอให้ใครสักคนมาเก็บเกี่ยวมันเธอเดินไปหาเย่ซิวแล้ววางซุปในมือลงบนโต๊ะ “นายน้อย ทานซุปไก่หน่อยไหมคะ?”คอชุดนอนของเธอแหวกลึกมากไป๋ปิงโค้งตัวลงทำให้เย่ซิวเห็นบางสิ่งทันทีจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้ใส่อะไรเลย…เย่ซิวเหลือบมองแล้วหันไปทางอื่นทันใด เขาหยิบซุปไก่ขึ้นมาซดรวดเดียว และชมว่า “ไม่เลวเลย รสชาติดีมาก”ไป๋ปิงยิ้มหวาน “นายน้อยชอบก็ดีแล้วค่ะ ถ้างั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ ”เธอถอยก้าวกลับอย่างสง่างามและปิดประตูตามหลังเงียบ ๆเวลาสี่ทุ่มครึ่ง เย่ซิวส่งข้อความถึงลู่เสวี่ยเอ๋อร์ เซี่ยซิ่วซิ่วและหลิ่วเมิ่งอิ๋นตามลำดับเขาบอกว่าคืนนี้เขาจะไม่กลับ ให้พวกเธอปิดไฟเข้านอนเลย ประมาณเจ็ดโมงกว่า หลางสือจิ่วก็มาถึงพร้อมกับคนขุดทรายและกรวด พร้อมด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ คนทั้งหมู่บ้านแตกตื่น ผู้คนต่างวิ่งออกมาจากห้อง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ตอนนี้ ถ้าคนเห็นว่าเขาต้องการซื้อวัสดุปรับปรุงต่าง ๆ เช่น ประปาและเครื่องใช้ไฟฟ้า พวกเขาคงคิดว่าเย่ซิวเป็นบ้าไปแล้วอย่างแน่นอนพวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่หยุดเขาเท่านั้น แต่ยังจะขายให้กับเย่ซิวในปริมาณมากและราคาอาจจะต่ำกว่าปกติด้วยซ้ำ“แก้ไขได้แล้วจริง ๆ เหรอ?” เซี่ยซิ่วซิ่วไม่อยากจะเชื่อเลย “เรายังสามารถซื้ออิฐซีเมนต์จากโรงงานเล็ก ๆ ได้ แล้วทรายและกรวดล่ะ โดยพื้นฐานแล้วของพวกนั้นต้องผูกขาดกับบริษัทใหญ่ ๆ ไปแล้ว”เย่ซิวเดินไปพลางอธิบายให้เซี่ยซิ่วซิ่วฟัง“อย่างนี้นี่เอง” ดวงตาของเซี่ยซิ่วซิ่วเป็นประกาย เธอชื่นชมเย่ซิวมากขึ้นไปอีกเธอมองไปรอบ ๆ และเมื่อเห็นว่าไม่มีใคร เธอก็เขย่งปลายเท้าและจุ๊บเข้าที่แก้มของเย่ซิวไปหนึ่งกรุบ“นี่รางวัลของนาย”หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็วิ่งหนีไปพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำเย่ซิวยิ้มแล้วเอามือทาบแก้ม……สองวันต่อมาในคลับระดับไฮเอนด์หวังซงนอนสบาย ๆ อยู่บนเก้าอี้ โดยมีผู้หญิงสองคนที่มีรูปร่างหน้าตายอดเยี่ยมคอยดูแลเขาอยู่คนละด้านคนหนึ่งนวดหลังอีกคนหนึ่งป้อนองุ่นอีกคนบีบเท้าให้เขา และอีกคนถึงกับ…ข้าง ๆ เขายังมีเลขาสาวผู้มากความสามารถยืนอยู่“ตอนนี
“นายคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานงั้นเหรอ? ดี งั้นฉันจะคอยดูว่าแกจะไปได้สักกี่น้ำ ทุกหน่วยเตรียมพร้อม ล็อกเป้าหมาย เปิดฉากยิงเต็มกำลัง!”ตูม! ตูม! ตูม!ลูกระเบิดจำนวนมหาศาลถูกยิงออกมาเหมือนพายุที่ถาโถมใส่เย่ซิวอย่างบ้าคลั่งการโจมตีรุนแรงจนยากจะหาคำมาบรรยายในภาพจากห้องควบคุมของทั้งสองฝ่าย ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยเปลวไฟที่ปกคลุมไปทั่วผู้อาวุโสแห่งประเทศหลงเถิงทุบหมัดลงบนแผงควบคุมอย่างแรง “น่ารังเกียจนัก ถ้าพวกเราแข็งแกร่งกว่านี้อีกหน่อย พวกมันจะกล้าท้าทายเราขนาดนี้ได้ยังไง!”เขารู้สึกผิดอย่างมาก คิดว่าเป็นเพราะความอ่อนแอของประเทศที่ทำให้เย่ซิวต้องเสียสละตัวเองเขาจ้องมองหน้าจอที่เต็มไปด้วยเปลวไฟ ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “เจ้าเด็กบ้านี่ต้องรอดกลับมาให้ได้นะ นายคือความหวังของพวกเรา”ผู้อาวุโสรู้ความลับบางอย่างที่คนธรรมดาไม่อาจล่วงรู้เดิมทีเขาตั้งใจจะหาโอกาสเล่าเรื่องนี้ให้เย่ซิวฟัง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก่อนโซโลหัวเราะลั่น “โจมตีไปขนาดนี้ ต่อให้แก…”เขาพูดยังไม่ทันจบก็ต้องหยุดชะงักทันทีเย่ซิวพุ่งออกมาจากจุดศูนย์กลางของการระเบิดพร้อมกับฟาดกระบี่ออกไปคลื่นกระบี่ยาวนับพันเมต
หลังจากเย่ซิวออกมาจากห้องของหยางชิงเสวี่ย เขาก็ตรงไปยังสวนสมุนไพรทันทีจากนั้นก็ไปหาหลี่อวี่ถงและขอให้เธอคัดลอกผลงานวิจัยล่าสุดมาให้เขาชุดหนึ่งจากนั้นก็รีบไปหาถังเขอเข่อต่อช่วงนี้ถังเข่อเข่อกำลังยุ่งอยู่กับการวิจัยเทคโนโลยีต่าง ๆ เลยยังไม่รู้เรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นภายนอกเมื่อเห็นเย่ซิวมา เธอจึงสงสัยเล็กน้อยว่าเกิดอะไรขึ้น?เย่ซิวไม่พูดพร่ำทำเพลง ถามตรง ๆ ทันทีว่า “ตอนนี้คุณสร้างหุ่นยนต์ไปได้กี่ตัวแล้ว? เอาแบบที่ติดอาวุธด้วยนะ”“ตัวที่สามเพิ่งออกจากสายการผลิต ทำไมเหรอ?”“พาผมไปดูหน่อย”เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเย่ซิว ถังเขอเข่อเองก็เริ่มรู้สึกตึงเครียดไปด้วย เธอรีบพาเขาไปยังที่เก็บหุ่นยนต์ทันทีหุ่นยนต์สามตัวสูงสิบกว่าเมตรตั้งตระหง่านอยู่ที่นั่นตัวเกราะถูกพ่นสีดำล้วน มือข้างหนึ่งถือดาบมังกรครองจันทร์ ส่วนมืออีกข้างถือโล่ด้านหลังติดตั้งอาวุธปืนหกกระบอก และที่หัวไหล่ทั้งสองข้างมีส่วนที่นูนขึ้นมาถังเขอเข่ออธิบายว่าส่วนนูนนี้บรรจุโดรนขนาดเล็กสามตัว ซึ่งสามารถใช้ทั้งการสอดแนมและการโจมตีแบบแม่นยำได้ เรียกได้ว่าอาวุธครบครันลยทีเดียวเย่ซิวเก็บหุ่นยนต์ทั้งสามตัวเข้าไปในแหวน
หากเกิดสงครามขึ้น ผลที่ตามมาย่อมยากจะคาดเดาแม้พลังของเย่ซิวในตอนนี้จะแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่หากประเทศเหล่านั้นยิงขีปนาวุธเข้ามาพร้อมกันหมด ลำพังตัวเขาเองคงไม่มีทางสกัดกั้นได้ทั้งหมดแน่นอนเพียงแค่พลาดไปลูกเดียว ก็อาจสร้างความเสียหายมหาศาลแก่ประชาชนในประเทศหากมันตกลงในเมืองใหญ่ ชีวิตของผู้คนนับล้านอาจสูญสิ้นในชั่วพริบตาเย่ซิวยิ้มบาง “จะให้ทำยังไงได้? คงไม่ถึงขั้นปล่อยให้คนจำนวนมากต้องตายไปพร้อมกับผมหรอก”เขาหันกลับมาหาหยางชิงเสวี่ย แล้วยื่นมือออกไป “เอามาสิ”“อะไรเหรอ?”“ของสำคัญที่แสดงถึงตัวตนของผู้นำสำนักเยียนอวี่ อย่าบอกนะว่าไม่มีของแบบนั้น”หยางชิงเสวี่ยพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินไปที่ตู้ จากนั้นก็ก้มลงเปิดมันจากมุมมองของเย่ซิวในตอนนี้ จังหวะที่หยางชิงเสวี่ยก้มตัวลงนั้นทำให้เห็นส่วนโค้งกลมกลึงเขารู้สึกวูบวาบเล็กน้อยจึงเบือนสายตาไปทางอื่นผู้หญิงคนนี้ช่างดึงดูดจนทำให้ใครก็ยากจะถอนตัวจากเธอได้หยางชิงเสวี่ยหยิบเหรียญตราที่ทำจากวัสดุบางอย่างจากตู้แล้วส่งให้เย่ซิวตรานั้นให้สัมผัสอบอุ่น บนพื้นผิวมีตัวอักษรสองตัวสลักไว้ว่า ‘เยียนอวี่’เย่ซิวเก็บตราไว้อย่างระมัดระวัง ก
การจุติจากเปลวเพลิง!ความสามารถนี้คือการที่เย่ซิวสามารถคืนชีพจากเปลวเพลิงได้หลังจากถูกสังหารนับเป็นความสามารถที่เหนือธรรมชาติและทรงพลังถึงขีดสุด ยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่เกิดใหม่ พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้นด้วยข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวคือความสามารถนี้สามารถใช้ได้เพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้นเมื่อเย่ซิวได้รับความสามารถนี้ เขาก็ถึงกับตกตะลึงอยู่พักใหญ่เขาก้มมองหยางชิงเสวี่ยที่ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง ในใจของเขาเริ่มคาดเดาถึงภูมิหลังและตัวตนที่แท้จริงของเธอแต่สำหรับข้อสันนิษฐานนั้น เขาไม่มีทางพิสูจน์ได้ และแม้จะถามเธอ เธอก็คงไม่พูดอะไรอยู่ดีเย่ซิวนั่งขัดสมาธิ ก่อนจะรวบรวมสมาธิ และสำรวจร่างกายหลังจากถูกเปลวไฟเผาผลาญจิตวิญญาณก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในทันทีพลังวิญญาณของเย่ซิวเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลราวกับเป็นผลลัพธ์จากการบำเพ็ญตนอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาหนึ่งถึงสองปีเขาค่อย ๆ ใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับพลังที่เพิ่มขึ้นก่อนจะลืมตาขึ้นช้า ๆหยางชิงเสวี่ยดูเหมือนมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป แต่เย่ซิวอธิบายไม่ได้ว่าเปลี่ยนตรงไหนแต่สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจ
“คุณค่อย ๆ ดูไปก่อนนะ ฉันจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือจะไปรอฉันที่ห้องนอนก็ได้”เธอพูดด้วยน้ำเสียงสงบเหมือนกำลังคุยเรื่องอาหารเย็นว่าจะกินอะไร“คุณไปเถอะ”เย่ซิวตอบก่อนจะตั้งใจอ่านเอกสารทั้งหมด โดยจดจำข้อมูลทุกอย่างลงในสมองสำหรับข้อมูลองค์กรขนาดใหญ่เช่นนี้ หากให้เย่ซิวสร้างขึ้นด้วยตัวเอง คงใช้เวลาอย่างน้อยห้าถึงหกปีกว่าจะสำเร็จได้แต่ชื่นชมว่าอาจารย์เขาช่างยอดเยี่ยมเสียจริง!อีกด้านหนึ่ง หยางชิงเสวี่ยเดินกลับไปที่ห้องนอนก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าสายตาเธอจับจ้องที่ชุดเดรสตัวยาวสีแดงชุดหนึ่งบนเดรสตัวนั้นปักลายหงส์กางปีกโบยบินด้วยด้ายทองอย่างวิจิตรบรรจงหงส์ตัวนั้นดูเหมือนมีชีวิตจริง ๆ ราวกับสามารถโบยบินออกมาจากชุดได้ทุกเมื่อหยางชิงเสวี่ยลูบชุดเดรสนั้นเบา ๆ ภาพความทรงจำบางอย่างปรากฏขึ้นในหัวของเธอ จากนั้นเธอก็หยิบชุดและเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีปกติแล้วหยางชิงเสวี่ยมักจะแต่งตัวอย่างเรียบร้อยและสุภาพเสมอแต่เมื่อเธอปลดพันธนาการออกจากร่างกายแล้ว ความงดงามสมบูรณ์แบบของเธอก็เผยออกมา ต่อให้นางแบบระดับโลกมาอยู่ตรงหน้าเธอก็ยังเทียบไม่ติดเสียงน้ำจากฝักบัวไหลรินลงมาชโลมร่างกายของ
ตอนนี้เย่ซิวกลายเป็นคนดังระดับโลกไปแล้ว ดังยิ่งกว่าดาราระดับนานาชาติหลายเท่าถ้าเขาหันไปทำไลฟ์สด วันเดียวก็คงทำรายได้เป็นหลายร้อยล้านหรืออาจถึงพันล้านเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น เขาจึงเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองก่อนออกจากบ้านเขามาหยุดอยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัย ก่อนจะเงยหน้ามองชื่อสถานที่นั้นและเดินเข้าไปทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีนักศึกษาเดินสวนไปมาขวักไขว่ทุกครั้งที่มาที่นี่ เย่ซิวจะรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเขาเดินไปที่ศาลาพักผ่อนอีกครั้ง และเห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ตรงนั้นที่นี่อาจเป็นสถานที่พิเศษสำหรับหยางชิงเสวี่ย นอกจากเธอแล้วก็มีจวงเสี่ยวหยิงที่เย่ซิวเคยเห็นว่ามาที่นี่เช่นกันเขาเดินเข้าไปในศาลาอย่างไม่รีบร้อนแล้วนั่งลงตรงหน้าเธอหยางชิงเสวี่ยที่กำลังอ่านหนังสือท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบเงยหน้าขึ้นดวงตาที่ใสราวคริสตัลของเธอเหมือนสามารถมองทะลุทุกสิ่งในโลกนี้ได้เธอกะพริบตาเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากสีชมพูจะเผยอขึ้น “ยินดีด้วยที่เข้าสู่ระดับจินตานแล้ว”เย่ซิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ผมเปลี่ยนทั้งรูปร่างและหน้าตา คุณก็ยังจำผมได้อีกเหรอ?”หยางชิงเสวี่ยปิดห
เย่ซิวโทรหาชูตง อวี่เฟยเฟย เสวี่ยเหมย หลัวอีอี แล้วเรียกพวกเธอมาที่บ้านพร้อมหน้ากันอย่างแรก ทุกคนต้องเป็นห่วงกันอยู่แล้ว การได้มาเจอกันและกินข้าวด้วยกัน น่าจะทำให้พวกเธอสบายใจขึ้นอย่างที่สอง เย่ซิวตั้งใจที่จะช่วยยกระดับพลังของพวกเธอทั้งหมดในคราวเดียวหลังวางสาย เขาก็ชี้ไปที่เด็กผู้หญิงที่ดูมีท่าทีเขินอาย ก่อนเอ่ยถามว่า “พวกคุณไม่คิดว่าเธอคล้ายใครบางคนเหรอ?”สาว ๆ ทุกคนหันไปมองเด็กหญิงคนนั้น พอมองชัด ๆ ก็พากันอึ้งไปตาม ๆ กัน“เหมือนจริง ๆ ด้วย”“คล้ายกันตั้งหกเจ็ดส่วนแน่ะ”“นี่ต้องเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเธอแน่ แต่ทำไมถึงไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงเลยนะ”……ระหว่างที่พวกเธอกำลังพูดคุยกัน ประตูวิลล่าก็เปิดออกไป๋อวี้เจี๋ยเดินเข้ามาในชุดกางเกงยีนรัดรูปเธอวางกระเป๋าลงแล้วพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเย่ซิวทันที“คุณไม่เป็นอะไรแล้วก็ดีแล้ว ฉันตกใจแทบแย่ตอนเห็นข่าว…คุณไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นฉันกลัวแค่ไหน”เย่ซิวตบหลังเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ คุณลองดูเธอสิ”เขาชี้ไปที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กไป๋อวี้เจี๋ยหันมองตามนิ้วของเย่ซิวด้วยความสงสัยเมื่อสายตาของทั้งคู่ปร
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!ขณะที่เย่ซิวกำลังจะลงมือจัดการกับพวกคนชั่วเหล่านี้ สายฟ้าหลายสายพลันฟาดลงมาจากท้องฟ้าชิงลงมือก่อนเย่ซิว เจ้าชายเหล่านั้นก็ถูกฟ้าผ่าจนไม่เหลือซากเย่ซิวถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็น "กรรมที่สวรรค์ลิขิตยังพอรอดได้ กรรมที่ก่อเองไม่อาจรอดพ้นกรรม"แม้แต่สวรรค์ก็ทนดูไม่ได้ ต้องลงมือสำเร็จโทษพวกเขาด้วยตัวเองคนเหล่านี้ถูกทำลายจนวิญญาณแตกสลาย ไม่มีแม้แต่โอกาสจะกลับไปเกิดใหม่อีกเย่ซิวไปจากที่นี่ เรื่องหลังจากนี้ไม่ใช่เรื่องของเขาแล้วไม่นานหลังจากที่เขาไป เฟยอวี่ก็ปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อเห็นรอยฟ้าผ่าบนพื้น เธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว มันน่ากลัวเหลือเกินแต่ไม่นานเธอก็เลียริมฝีปาก รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก"ไอ้พวกโง่นี่ถูกฆ่าตาย งั้นตอนนี้ทั้งประเทศอ่ายเหรินก็ไร้ผู้นำแล้วแบบนี้งานของฉันก็ง่ายขึ้นมากฮ่า ๆ เย่ซิวเอ๋ยเย่ซิว ฉันต้องขอบคุณคุณอย่างจริงจังแล้วล่ะ"…… ครืน!เหนือผืนทะเล มีแสงหนึ่งพุ่งผ่านไปด้วยความเร็วสูงเย่ซิวยืนอยู่ที่หัวกระบี่ เด็กสาวสองคนที่อยู่ข้างหลังเขามองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น ความรู้สึกแบบนี้ไม่อาจบรรยายได้เลยเ
ที่นี่กลายเป็นเหมือนนรกบนดินเย่ซิวพุ่งขึ้นมาจากก้นทะเลในตอนนี้เขาดูโทรมมาก เสื้อผ้าที่สวมอยู่ขาดรุ่งริ่ง แถมยังมีบาดแผลทั้งใหญ่และเล็กนับร้อยจุดทั่วร่างนี่เป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมา มันแทบจะทำลายรากฐานของเขาแม้ว่าตอนนี้เขาจะดูสงบมาก แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความอาฆาตและเดือดดาลชนิดที่ยากจะข่มพวกนั้นช่างโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อหากการระเบิดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของพวกเขาเอง อย่างน้อยหนึ่งหรือสองเมืองคงได้กลายเป็นนรกภูมิ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีวิญญาณผู้บริสุทธิ์จำนวนเท่าไหร่โชคดีที่เย่ซิวเพิ่งทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานขั้นกลาง มิฉะนั้นชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอนเขาหยิบน้ำเต้าออกมา แล้วดื่มน้ำพุวิญญาณลงไปรวดเดียวหลายกิโลกรัมร่างกายของเขาฟื้นตัวจากบาดแผลอย่างรวดเร็วแสงของจินตานห้าสีที่สลัว ๆ ในตันเถียน เริ่มกลับมาส่องประกายสดใสอีกครั้งเขาไม่กล้าล่าช้า รีบกลับไปอย่างรวดเร็วเด็กสาวสองคนยังอยู่ที่นั่น เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นเหล่าเจ้าชายได้เริ่มเตรียมแชมเปญเพื่อเฉลิมฉลองแล้วพวกเขาคิดว่าไม่ว่าเย่ซิวจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็คงไม่รอดจากการระเบิดระด