เมื่อถูกอีกฝ่ายถาม เย่ซิวก็ตอบเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “คุณไม่สมควรที่จะรู้”เด็กสาวรู้สึกโกรธมาก เธอยังอยากจะโต้เขากลับอีกสักหน่อย แต่ก็ถูกอาของเธอปิดปากไว้ก่อนเมื่อสถานการณ์ไม่เป็นใจ ก็ควรยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเชื่อฟังหลังจากที่พวกเขาจากไป เย่ซิวจึงเริ่มผ่าร่างงูเหลือมยักษ์ตัวนี้เริ่มต้นจากเลือดสด ๆ ของมันเย่ซิวใช้มีดกรีดเปิดแผล แล้วดื่มเลือดมันเข้าไปอึกใหญ่ เลือดสดอัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาล เย่ซิวพูดได้อย่างมั่นใจเลยว่า ในทั่วทุกมุมโลก มีเพียงเขาคนเดียวที่ดูดซับพลังงานได้อย่างไม่มีข้อจำกัดหากเป็นคนอื่น ร่างของพวกเขาคงจะระเบิดไปแล้วเย่ซิวใช้พระสูตรราชาแห่งยาอย่างเต็มที่เลือดงูจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ท้องของเขาและค่อย ๆ ย่อยสลายออกไป ส่วนหนึ่งใช้ในการบำรุงร่างกาย อีกส่วนหนึ่งจะถูกแปลงเป็นกำลังภายในร่างของงูเหลือมยักษ์หดตัวลงอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ชัดหลังจากที่เย่ซิวดื่มเลือดของงูเหลือมยักษ์นี้จนหมด กำลังภายในของเขาก็เพิ่มขึ้นประมาณห้าสิบเปอร์เซ็นส่วนความแข็งแกร่งของร่างกายก็เพิ่มขึ้นมากและหัวใจของเขาก็เต้นแรงมากขึ้นด้วยแม้ว่าจะยังไม่สามารถทะลวงพลังยุทธ์ได้ แต่ราก
เย่ซิวสั่งคนของเขาให้นำรถไปล้าง จากนั้นเขาก็แบกหนังงูเข้าไปในวิลล่าเซี่ยซิ่วซิ่วลงมาถึงได้สักพักแล้ว เธอและหลิ่วเมิ่งอิ๋นกำลังแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลตัวเองอยู่ภายในห้องรับแขก เมื่อเห็นเย่ซิวเข้ามาในสภาพเช่นนั้น พวกเธอทั้งสองคนจึงตกตะลึงแต่พวกเธอทั้งสองคนก็ไม่ได้สนใจกลิ่นคาวเลือดบนตัวของเย่ซิวและรีบวิ่งไปหาเขาทันที“พี่เย่ซิว นี่พี่ไปทำอะไรมา?”“นายเย่ซิว เลือดเต็มตัวนายไปหมดเลย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”เย่ซิวยิ้มตอบ “ไปเชือดงูมาน่ะ พวกเธอรออยู่ที่ห้องรับแขกก่อนนะ วันนี้ฉันจะจัดงานเลี้ยงเนื้องู”ทั้งสองสาวเป็นคนกลัวงูมาก เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พวกเธอก็รีบก้าวถอยหลังพร้อมส่ายหัวอย่างรุนแรง“เนื้องูน่ากลัวจะตาย ถึงฉันตาย ฉันก็จะไม่กินมันเด็ดขาด!”“ฉันด้วย แค่คิดก็ขนลุกแล้ว ฉันไม่มีทางกินมันเด็ดขาด!”พวกเธอแสดงถึงเจตนาต่อต้านการกินเนื้องูมากขึ้นไปอีกเย่ซิว ไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่เห็นพวกเธอแสดงเจตนารมย์เช่นนี้ มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเธอจะยอมรับไม่ได้ในตอนนี้แต่ถ้าหากว่าพวกเธอได้เห็นอาหารที่เย่ซิวเป็นคนลงมือทำ พวกเธอก็จะไม่คิดแบบนั้นอีกต่อไปเขานำหนังงูที่ห่อหุ้มเนื้อเอาไว้เ
เพราะพวกเขาเป็นแค่บอดี้การ์ดในความเป็นจริง พวกเขาต่างก็รู้ดีว่านายจ้างส่วนใหญ่มักจะดูหมิ่นดูแคลนพวกเขาพวกเขาเคยเจอเรื่องแบบนี้มานับไม่ถ้วนแต่เย่ซิวกลับไม่ได้มีท่าทีดูถูกพวกเขาแม้แต่น้อย และยังเอ่ยชวนพวกเขาให้เข้าไปทานอาหารในวิลล่าด้วยกัน ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนพวกเขารู้สึกซาบซึ้งที่ได้รับการยอมรับจากเจ้านายของพวกเขาพวกเขาแอบสาบานว่า ต่อไปจะตั้งใจทำงานให้ดียิ่งขึ้นและจะไม่ให้คนในครอบครัวของเย่ซิวได้รับอันตรายเลยแม้แต่น้อยเย่ซิวเรียกทุกคนมารวมตัวกัน “อย่ามัวแต่ยืนอึ้งกันอยู่เลย รีบนั่งลงได้แล้ว เดี๋ยวอาหารเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะครับวันนี้พวกคุณจะต้องกินเนื้องูพวกนี้ให้หมดแล้วพวกคุณถึงจะได้รับอนุญาตให้ออกไป”คนพวกนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ถูกฝึกฝนมาและเป็นคนใกล้ชิดเขาทั้งหมดเซี่ยซิ่วซิ่วและหลิ่วเมิ่งอิ๋นต่างก็ช่วยกันตักซุปให้กับพวกเขา มันยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับการเอาใจใส่มากจนเกินไปเย่ซิวเริ่มลงมือทานก่อน เขาตักน้ำซุปหนึ่งถ้วยเข้าปาก คน ๆ อื่นจึงเริ่มตักอาหารตามเขา เมื่อได้ลิ้มรสเนื้องู พวกเขาทุกคนต่างก็เบิกตากว้างนอกจากรสชาติจะดีแล้ว เมื่ออา
เนื่องจากกำลังภายในของเขาเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้น การฟื้นฟูสภาพร่างกายอีกครั้งจึงใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็สามารถกลับมาฟื้นฟูได้ เซี่ยซิ่วซิ่วเองก็ช่วยเขามามากแล้วนอกจากนี้ การกระทำของเธอยังทำให้เย่ซิวรู้สึกประทับใจมากเช่นกัน“จริงเหรอ?” เซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกประหลาดใจและดีใจมากในเวลาเดียวกันเย่ซิวยิ้มและพยักหน้าตอบจากนั้น เย่ซิวก็ตามเซี่ยซิ่วซิ่วเข้าไปในห้องของเธอเมื่อทั้งคู่เข้าไปในห้องน้ำ หัวใจของเซี่ยซิ่วซิ่วก็เต้นแรงมากขึ้นทันที ชายหญิงสองคนอยู่ในห้องน้ำด้วยกัน หากมีใครอยู่ตรงนั้น พวกเขาจะต้องจินตนาการไปไกลอย่างแน่นอนเย่ซิวให้เซี่ยซิ่วซิ่วนอนลงบนพื้น จากนั้นเขาก็เริ่มช่วยยืดเส้นลมปราณและฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กับเธอกระบวนการเหมือนกับตอนที่เคยทำให้กับลู่เสวี่ยเอ๋อร์และหลิ่วเมิ่งอิ๋น ถึงจะเจ็บปวดแต่ก็มีความสุข ซึ่งคนภายนอกจะไม่มีทางเข้าใจได้หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ ร่างกายของเซี่ยซิ่วซิ่วก็เหมือนกับกองโคลนที่แหลกเหลว เธอนอนอ่อนแรงด้วยร่างที่ถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อ แต่การหายใจยังคงสม่ำเสมอและมีพลัง จากเดิมรูปร่างของเธอที่สูงเพรียวอยู่แล้ว แต่ในตอนนี้หลังจากที่เย่ซิวทำการยืดเ
เซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งออกไปจากห้องอย่างมีความสุข แต่แล้วเธอก็พบว่าเย่ซิวได้ออกจากวิลล่าไปแล้วในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็ได้มาถึงยังวิลล่าตระกูลลู่แล้ว แน่นอนว่าเนื้องูที่เขาได้มา เขาก็ไม่ลืมที่จะนำมาให้กับลู่เสวี่ยเอ๋อร์ด้วยเมื่อตอนทำอาหาร เขาตั้งใจเก็บส่วนหนึ่งไว้ให้เธอวันนี้เขาจะให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ทานเนื้องูเพื่อเสริมสร้างรากฐานของเธอจากนั้น พรุ่งนี้เขาก็จะเริ่มนำดีงูมาใช้ปรุงเป็นยาสมุนไพรเพราะดีงูมีประสิทธิภาพที่ทรงพลังมากกว่าส่วนเนื้อของงูมากเขาเข้าไปในห้องลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างช่ำชองเหมือนเช่นเคยและเธอเองก็มักจะเปิดหน้าต่างไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เย่ซิวเข้ามาหาเธอได้สะดวกทันทีที่เห็นเย่ซิว ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็พุ่งเข้ากอดเขาด้วยความคิดถึงที่เอ่อล้นทั้งสองโอบกอดกันอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ถอนอ้อมกอดจากเย่ซิวเมื่อเธอเห็นเขาถือกล่องอาหารเก็บความร้อนสองกล่องอยู่ในมือ เธอจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ข้างในมันคืออะไรเหรอ?”เขาวางกล่องอาหารสองกล่องลงบนโต๊ะแล้วเปิดมันออกทีละกล่อง“ไม่ต้องถามหรอก มากินเถอะ มันมีประโยช์นต่อการฝึกกังฟูของคุณเขาไม่ได้บอกลู่เสวี่ยเอ๋อร์ว่ามันคือเน
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์จ้องมองเย่ซิวอยู่นาน แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะขยับตัว เธอจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “นายหลับแล้วเหรอ?”“ใกล้แล้ว คุณเองก็รีบนอนได้แล้ว การพักผ่อนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้ที่ฝึกยุทธ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกโกรธเล็กน้อย “นายนี่เหมือนท่อนไม้เลยนะ ขนาดมีหญิงสาว ๆ สวย ๆ แบบฉันอยู่ตรงนี้ทั้งคน ไม่มีความคิดอื่นแล้วหรือไง?”“ไม่มี” เย่ซิวตอบตามตรงตอนนี้เขาไม่มีความคิดอื่นจริง ๆ จนกว่าลู่เสวี่ยเอ๋อร์จะบรรลุระดับปรมาจารย์ ดังนั้น เขาจึงไม่ควรมีความคิดอื่นใดภายในใจ“น่าเกลียดที่สุด ฉันโกรธแล้วนะ แล้วก็จะไม่สนใจนายแล้วด้วย”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์หันหลังให้เขาด้วยท่าทางโกรธเคืองเธออยากให้เย่ซิวง้อเธอใจจะขาด แต่รออยู่นานก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอจึงทำได้เพียงหันกลับมา จากนั้นเธอก็วางศีรษะลงบนหน้าอกของเขา“นายนี่มันน่าเกลียดจริง ๆ ฉันเป็นผู้หญิงนะ ไม่รู้จักทะนุถนอมกันบ้างเลย”เย่ซิวตอบกลับไปว่า “เข้าใจแล้วครับ ครั้งหน้าผมจะใส่ใจคุณให้มากขึ้นแล้วกัน”“…” ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ถึงกับหมดคำพูดแต่พอมาคิดดูแล้วเธอก็ตระหนักได้ว่า การแสดงออกของเย่ซิวหมายความว่า เขายังไม่เคยมีความรักมาก่อนเมื่อคิดได
วันนี้เย่ซิวบอกกับสองสาวว่าไม่ต้องไปเรียนหรือเข้าบริษัท ให้พวกเธออยู่บ้านแทนจนถึงช่วงกลางวัน เย่ซิวก็นำชามยาที่มีสีดำขลิบวางไว้ตรงหน้าพวกเธอ“กินยานี่ให้หมด จากนั้นก็เริ่มฝึกท่าที่ผมสอนให้เมื่อวานนี้”สองสาวมองดูยานั้น มันจะมีกลิ่นเหม็นและดูน่าขยะแขยงเล็กน้อยแต่ด้วยความเชื่อมั่นในคำพูดของเย่ซิว พวกเธอจึงตัดสินใจกินมันหมดในคราวเดียวถึงแม้ว่ามันจะดูน่าขยะแขยง แต่เมื่อกินเข้าไป ยากลับมีรสหวานอ่อน ๆสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เย่ซิวได้ใช้เครื่องยาสมุนไพรต่าง ๆ กลบกลิ่นขมเดิมของมันและเขาก็ยังคงความมีประสิทธิภาพของยาเอาไว้ทันทีที่กินเข้าไป ร่างกายของสองสาวราวกับกำลังถูกไฟเผา ผิวหนังของพวกเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย ต่อมา พวกเธอก็เริ่มฝึกท่าทางที่เย่ซิวสอนให้ทันทีในเวลานั้น ศีรษะของพวกเธอมีไอน้ำลอยออกมา มันดูเหมือนกับการฝึกปรือในแนวทางการบำเพ็ญเซียนภายในร่างกายของพวกเธอมีเสียงคล้ายกับการคั่วถั่วดังขึ้นเป็นระยะ ๆทุกครั้งที่ฝึกฝน ร่างกายของพวกเธอก็จะแข็งแกร่งขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อฝึกถึงรอบที่สิบ ฤทธิ์ของยาก็ถูกดูดซึมไปครึ่งหนึ่ง พวกเธอจึงสามารถก้าวเข้าสู่จอมยุทธ์ระดับสองได
แต่ยังมีที่ดินตามมุมพื้นที่เล็ก ๆ ที่มีมูลค่าไม่มากนัก ซึ่งแน่นอนว่านักลงทุนใหญ่ ๆ จะไม่สนใจอยู่แล้วทุกคนต่างก็พากันสืบค้นข้อมูลว่า ใครกันที่โลภมากขนาดนั้น เขาถึงได้ซื้อที่ดินทั้งหมดหนึ่งแสนไร่ไปในคราวเดียวไม่นานพวกเขาก็สืบค้นจนรู้ว่าเป็นเย่ซิวจากนั้น พวกเขาก็พากันไปที่บริษัทของเย่ซิวโดยไม่ได้นัดหมายวันนี้ หลังจากที่เย่ซิวดูข่าวนั้นจบ เขาก็รีบเข้ามาที่บริษัททันทีเพราะเขารู้ว่าจะต้องมีคนจำนวนมากมาหาเขา ดังนั้น เขาจึงมารออยู่ที่บริษัทตั้งแต่เช้า เลขานุการเดินเข้าออกห้องทำงานของเขาตลอดเวลา เพื่อแจ้งเขาว่า มีผู้บริหารจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่มาขอเข้าพบอีกแล้วเย่ซิวเรียกพวกเขาทั้งหมดมาที่ห้องรับรอง เขาไม่ได้พบปะใครเป็นการส่วนตัวเขาตั้งใจว่าจะรอให้ทุกคนมาถึงพร้อมกันก่อนแล้วค่อยทำการเจรจาหลังจากรอจนถึงสิบโมง เย่ซิวจึงลุกขึ้นและเดินไปที่ห้องรับรองพร้อมกับเลขานุการเมื่อทุกคนเห็นว่าเย่ซิวมีอายุยังน้อย คนเหล่านั้นก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก พวกเขาแต่ละคนแสดงแววตาของการดูถูกออกมาในตอนแรก พวกเขารู้เพียงว่าเย่ซิวได้ซื้อที่ดินหนึ่งแสนไร่ในทางตอนเหนือทั้งหมดแต่สำหรับราย
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ถอดผ้าปิดตาออก เอียงศีรษะแล้วมองไปที่เย่ซิว "เมื่อคืนนี้คือน้องหลิ่วใช่ไหม?"เย่ซิวรู้สึกขบขันอยู่ในใจ แต่สีหน้ายังคงจริงจัง "คุณเดาดูสิ"ลู่เสวี่ยเอ๋อร์แค่นเสียงฮึ่ม "ต้องเป็นเธอแน่ ๆ ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนเดียวในบ้านนี้ที่ใช้น้ำหอมดอกหอมหมื่นลี้คิดไม่ถึง น้องหลิ่วที่ปกติดูจะเป็นผู้หญิงที่ซื่อตรงขนาดนั้นจะ…”เย่ซิวขอโทษหลิ่วเมิ่งอิ๋นในใจอย่างเงียบ ๆ ที่ให้เธอมาแบกรับความผิดแทนหลิวอวิ้นเมื่อเห็นว่าเย่ซิวเงียบไม่พูด ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็เข้าใจไปเองแล้วว่านั่นคือหลิ่วเมิ่งอิ๋นจริง ๆหลังจากอาบน้ำทำธุระเสร็จ ก็เดินไปที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋น จึงหัวเราะคิกคักและพูดไปว่า "น้องหลิ่ว ฉันดูไม่ออกเลยจริง ๆ นะ"หลิ่วเมิ่งอิ๋น "???"วันนี้เย่ซิวเองก็จะไปที่บริษัทกับพวกเธอด้วยเซี่ยชิงชิงติดตามไปด้วยเช่นกันเธอนั่งอยู่ในรถ กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้บรรยากาศครึกครื้น รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาบนใบหน้า ทำให้ใครเห็นใครก็รักถ้าเย่ซิวไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ เขาก็อาจจะถูกทักษะการแสดงของน้องภรรยาคนนี้หลอกเข้าให้จริง ๆเมื่อมาถึงที่บริษัท เซี่ยชิงชิงก็ถูกพี่สาวพาไปลงทะเบีย
หัวใจของเซี่ยชิงชิงกระตุกวูบ ก่อนที่เธอจะทันได้ทันตอบสนอง มือของเย่ซิวก็วางลงบนจุดตันเถียนของเธอแล้วมือใหญ่ที่มั่นคงและทรงพลังนั้นกดลงไปตรง ๆร่างกายอันละเอียดอ่อนของเซี่ยชิงชิงแข็งทื่อ เธอแทบจะหยุดหายใจแล้ว“โอ้? ไม่เลวเลย ถึงกับมีความสามารถในการฆ่าแมลงพิษที่ฉันฝังไว้” เย่ซิวมองเธอด้วยรอยยิ้มแต่เซี่ยชิงชิงรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังตกเป็นเป้าหมายของงูพิษร้าย ร่างกายของเธอเย็นเยียบไปหมดเธอพูดขึ้นอย่างยากลำบาก "ใช่...ใช่แล้วค่ะ ฉันพบโอสถหมื่นพิษเม็ดหนึ่งในสำนักเบญจพิษหลังจากกินมัน พลังของฉันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก และฉันก็สามารถกำจัดแมลงพิษได้ ก่อนหน้านั้นฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเป็นแบบนี้"“โอสถหมื่นพิษ” เย่ซิวเริ่มสนใจแล้วเขาสำรวจเธออย่างรอบคอบเซี่ยชิงชิงกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกถึงความอัปยศอดสูเหมือนที่ได้รับในตอนนั้นอีกครั้งแต่ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากในดวงตาไม่มีร่องรอยของความแค้นเคืองอะไร มีเพียงความตื่นตระหนกและความเขินอายหลังจากสำรวจเสร็จแล้ว เย่ซิวก็หยุดมือและหัวเราะเบา ๆ "ช่างเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ คิดไม่ถึงว่าเธอจะขึ้นเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าแล้วงั้นตั้งแต่พร
แต่ในใจกลับค่อนข้างดูถูกดูแคลนที่แท้ผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ ตัวเย่ซิวล้วนโง่เขลาขนาดนี้ เธอเอาชนะใจพวกเธอได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นฉากนี้ น้องสาวของเธอโตขึ้นมากกริ๊งประตูอิเล็กทรอนิกส์ของวิลล่าเปิดออก สาว ๆ ทุกคนหันไปมองเมื่อพวกเธอเห็นเย่ซิวกลับมาจากข้างนอก ผู้หญิงหลายคนก็ปรี่ขึ้นไปต้อนรับเขากลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกายทุกชนิดผสมผสานกัน ทำให้ฮอร์โมนของคนพลุ่งพล่านรอยยิ้มจากใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่ซิวนี่ถึงจะเป็นสวรรค์ของเขา ไร้ซึ่งกลอุบาย และไม่มีใครที่คิดจะทำร้ายเขาสุดท้าย สายตาของเขาก็มองไปที่เซี่ยชิงชิงซึ่งยืนอย่างเขินอายห่างออกไปกว่าสิบเมตร เธอก้มศีรษะลงเล็กน้อย ไม่กล้ามองเขาเย่ซิวเดินไปพร้อมกับสายตาที่พินิจพิเคราะห์เซี่ยชิงชิงจับมือทั้งสองข้างแน่น หัวใจเต้นเร็วขึ้นนี่ไม่ใช่การแสดง แต่เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของเธอในตอนนี้ผู้ชายคนนี้ น่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อก่อนอีก เธอกลัวว่าจะเผยพิรุธออกมาขณะที่เธอหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เย่ซิวก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "ชิงชิงสวยขึ้นมาก คุ้นเคยกับที่นี่รึยัง?"“อืม ที่นี่ดีมาก ขอบคุณที
หลังจากที่ตื่นเต้นแล้ว หลี่หยวนก็ถูกกลิ่นเหม็นที่มาจากร่างของตัวเองเกือบทำให้หมดสติไปหลังจากทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งไว้ เขาก็วิ่งไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำดวงตากลมโตและระยิบระยับของหลี่หลิงเอ๋อร์เบิกกว้าง "ฉันเอาด้วย ฉันเองก็อยากลองบ้างเหมือนกัน"เย่ซิวพยักหน้า และกดนิ้วลงไปที่หว่างคิ้วของเธอเหมือนกันกระแสพลังวิญญาณถูกส่งเข้าไปในร่างของหลี่หลิงเอ๋อร์และไหลไปทั่วร่างสิ่งที่ทำให้เย่ซิวประหลาดใจก็คือ ศักยภาพทางร่างกายของหลี่หลิงเอ๋อร์นั้นแข็งแกร่งกว่าของหลี่หยวนมากในที่สุด พลังวิญญาณของเขาก็ถูกส่งไปเก็บในจุดตันเถียนที่ช่องท้องของหลี่หลิงเอ๋อร์"ว้าว น่าทึ่งมาก"หลี่หลิงเอ๋อร์มองไปที่เย่ซิวด้วยความชื่นชมและนับถือตัวเองนั่งสมาธิและฝึกฝนอย่างหนักที่นี่เป็นเวลาหลายปี ถึงจะประสบความสำเร็จเล็กน้อยแต่ตอนนี้เย่ซิวแค่จิ้มตัวเองเบา ๆ อย่างไม่ใส่ใจ กลับได้รับผลประโยชน์มหาศาลชนิดที่เอาเมื่อก่อนมารวมกันก็ยังเทียบไม่ติดเธอเป็นเหมือนภูตตัวน้อย น่ารักมาก "ทำอีกหลายรอบหน่อยจะได้รึเปล่า?"เย่ซิวรู้สึกตลกและถามไปว่า “คุณอายุเท่าไหร่แล้ว?”“ปีนี้ฉันอายุยี่สิบแล้ว”เย่ซิวตกใจแล้วจริง ๆ เด็กสาวมีใบ
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ
“เดี๋ยวก่อน ฉันตกลง!”ในที่สุด เมื่อหลี่ต้าจ้วงเห็นเย่ซิวเตรียมจะจากไป เขาก็แสดงการเลือกของตัวเองเย่ซิวหยุดฝีเท้า หมุนตัวกลับมา สีหน้าไม่ได้แสดงถึงความประหลาดใจมากนักแต่ชูตงกลับหันหน้าไปพรวด มองไปที่หลี่ต้าจวงด้วยความไม่เชื่อ "คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?"หลี่ต้าจวงวิ่งไปคว้ากระเป๋าเดินทางจากมือของเย่ซิว ยืนอยู่ที่ประตู และหัวเราะอย่างดุร้าย“ฉันน่ะเบื่อเธอจะตายอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าหุ่นเซ็กซี่ขนาดนี้ ยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!อยู่กับเธอมาตั้งนาน แม้แต่มือก็ยังไม่ยอมให้จับในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ฉันเอาเงินแล้วไปสนุกข้างนอกดีกว่า พวกเราบอกลากันตรงนี้เถอะ!”พูดจบ เขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางแล้วจากไปชูตงราวกับถูกสายฟ้าฟาด คนทั้งคนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ตัวเองคิดจะฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาเพื่อเงินแค่ไม่กี่สิบล้าน ถึงกับกระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาน้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเย่ซิวมองไปที่เธอ "พรุ่งนี้ไปทำงานต่อนะ อย่ามาสายล่ะถ้าคุณกล้าลาออกจากบริษัทโดยพลการ บริษัทจะให้คุณจ่ายค่าผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านทีเดียว”แม้ว่าตอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ขึ้นราคาต่อไป "ยี่สิบห้าล้าน"แถมยัง วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่เขานำมาไว้บนพื้นแล้วเปิดออกมันเต็มไปด้วยธนบัตรหลงเถิงที่มีมูลค่าฉบับละหนึ่งพันบาท!"ซู้ด!!!"หลี่ต้าจ้วงสูดลมเย็นเข้าปอด จ้องมองไปที่เหรียญหลงเถิงที่ดูเหมือนจะเรืองแสงได้ในชีวิตนี้เขายังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ไร้ชีวิต การที่มีเงินสดกว่ายี่สิบห้าล้านมาวางกองตรงหน้า ย่อมส่งผลกระทบมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเย่ซิวเห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขาหวั่นไหวแล้ว จึงพูดอย่างล่อลวงไปว่า “คุณคงไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนใช่ไหม?คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ล่ะ? กะประมาณหนึ่งแสนบาทก็แล้วกันถ้าคุณไม่กินหรือดื่มเลย หนึ่งปีก็จะเก็บเงินได้หนึ่งล้านสองแสนบาท และต้องใช้เวลามากกว่ายี่สิบปีถึงจะสามารถเก็บเงินได้ยี่สิบห้าล้านในความเป็นจริงทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นไปไม่ได้ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายของเมืองหลวง หนึ่งปีเก็บเงินได้สักห้าแสนบาทก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้วหรือก็คือ คุณต้องใช้เวลาถึงสี่สิบปีจึงจะมีเงินยี่สิบห้าล้านตอนนี้ตราบเท่าที่คุณพยักหน้า เงินนี้ก็จะเป็นของคุณด้วยเงิ
ชายคนนั้นเปิดประตู ก็เห็นว่ามีชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบมากคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นเย่ซิว ความริษยาก็วาบผ่านดวงตาของผู้ชายคนนั้น การมีอยู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนยืนอยู่ต่อหน้าเขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ตัวเขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้น“คุณเป็นใคร!”ด้วยเหตุนี้ น้ำเสียงของชายคนนั้นจึงไร้ความเป็นมิตรอย่างมาก แถมด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย เขามองไปทางห้องครัวโดยไม่รู้ตัวกลัวว่าจู่ ๆ ชูตงจะวิ่งออกมา แล้วตกหลุมรักเย่ซิวทันทีหลังจากที่ได้พบเขานี่คือผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เสแสร้ง และขาดความมั่นใจในตนเองอย่างมากเย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ชูตงอยู่ที่นี่ใช่ไหม ผมเป็นประธานของบริษัทของเธอ คุณคงเป็นแฟนเธอสินะ"“หืม?!”ชายคนนั้นเริ่มตื่นตัวทันที "คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?"“ไม่เชิญผมเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ?” เย่ซิวพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้ “ผมมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อมอบความมั่งคั่งให้กับคุณ”"ใครคะ?"ตอนนี้เอง ชูตงที่สวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับทัพพีในมือขวาเมื่อเขาเห็นเย่ซิว ม่านตาของเธอก็หดตัวลงเล็กน้อย "ประธาน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่คะ?"ไม่กี่นาทีต่อมา เย่ซ
นี่คือคำสัญญาที่เย่ซิวให้ไว้ต่อเธอลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาของเธอลงอย่างมีความสุขวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมากนัก ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เลยบำเพ็ญตนกับเย่ซิวตลอดลากยาวไปจนถึงห้าโมงเย็นถึงได้หยุดห้าโมงเย็น ก็เลิกงานแล้วเย่ซิวขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับไปก่อน เนื่องจากเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเมื่อมาถึงลานจอดรถ หลางต้าก็รออยู่ข้าง ๆ รถของเย่ซิวแล้วมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ที่เท้าของเขา“นายน้อย!” หลางต้าโค้งตัวลงแล้วพูด “ทุกสิ่งที่คุณต้องการเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”เย่ซิวพยักหน้า "ได้ นายกลับไปเถอะ"เขาใส่กระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ จากนั้นขับรถออกไปจุดหมายคือบ้านเช่านอกชานเมืองที่ชูตงอาศัยอยู่เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงานถึงที่นี่ ทุกวันคือราวสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงเย่ซิวดูเงินเดือนของชูตงซึ่งมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหลังจากหักภาษีในทุกเดือนแล้วราคาบ้านใกล้บริษัทอยู่ที่ประมาณสองหมื่นห้าพันบาท ซึ่งอิงตามหลักการแล้วเธอน่าจะแบกรับไหวถึงจะถูกเมื่อเขามาถึงบ้านเช่าของชูตง เขาก็จอดรถ ยกกระเป๋าเดินทางออกมา แล้วเดินไปที่เขตชุมชนด้านหน้าเขตชุมชนแห่งหนึ่ง ในห้องสามศูนย์แปด