เย่ซิวสั่งคนของเขาให้นำรถไปล้าง จากนั้นเขาก็แบกหนังงูเข้าไปในวิลล่าเซี่ยซิ่วซิ่วลงมาถึงได้สักพักแล้ว เธอและหลิ่วเมิ่งอิ๋นกำลังแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลตัวเองอยู่ภายในห้องรับแขก เมื่อเห็นเย่ซิวเข้ามาในสภาพเช่นนั้น พวกเธอทั้งสองคนจึงตกตะลึงแต่พวกเธอทั้งสองคนก็ไม่ได้สนใจกลิ่นคาวเลือดบนตัวของเย่ซิวและรีบวิ่งไปหาเขาทันที“พี่เย่ซิว นี่พี่ไปทำอะไรมา?”“นายเย่ซิว เลือดเต็มตัวนายไปหมดเลย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”เย่ซิวยิ้มตอบ “ไปเชือดงูมาน่ะ พวกเธอรออยู่ที่ห้องรับแขกก่อนนะ วันนี้ฉันจะจัดงานเลี้ยงเนื้องู”ทั้งสองสาวเป็นคนกลัวงูมาก เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พวกเธอก็รีบก้าวถอยหลังพร้อมส่ายหัวอย่างรุนแรง“เนื้องูน่ากลัวจะตาย ถึงฉันตาย ฉันก็จะไม่กินมันเด็ดขาด!”“ฉันด้วย แค่คิดก็ขนลุกแล้ว ฉันไม่มีทางกินมันเด็ดขาด!”พวกเธอแสดงถึงเจตนาต่อต้านการกินเนื้องูมากขึ้นไปอีกเย่ซิว ไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่เห็นพวกเธอแสดงเจตนารมย์เช่นนี้ มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเธอจะยอมรับไม่ได้ในตอนนี้แต่ถ้าหากว่าพวกเธอได้เห็นอาหารที่เย่ซิวเป็นคนลงมือทำ พวกเธอก็จะไม่คิดแบบนั้นอีกต่อไปเขานำหนังงูที่ห่อหุ้มเนื้อเอาไว้เ
เพราะพวกเขาเป็นแค่บอดี้การ์ดในความเป็นจริง พวกเขาต่างก็รู้ดีว่านายจ้างส่วนใหญ่มักจะดูหมิ่นดูแคลนพวกเขาพวกเขาเคยเจอเรื่องแบบนี้มานับไม่ถ้วนแต่เย่ซิวกลับไม่ได้มีท่าทีดูถูกพวกเขาแม้แต่น้อย และยังเอ่ยชวนพวกเขาให้เข้าไปทานอาหารในวิลล่าด้วยกัน ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนพวกเขารู้สึกซาบซึ้งที่ได้รับการยอมรับจากเจ้านายของพวกเขาพวกเขาแอบสาบานว่า ต่อไปจะตั้งใจทำงานให้ดียิ่งขึ้นและจะไม่ให้คนในครอบครัวของเย่ซิวได้รับอันตรายเลยแม้แต่น้อยเย่ซิวเรียกทุกคนมารวมตัวกัน “อย่ามัวแต่ยืนอึ้งกันอยู่เลย รีบนั่งลงได้แล้ว เดี๋ยวอาหารเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะครับวันนี้พวกคุณจะต้องกินเนื้องูพวกนี้ให้หมดแล้วพวกคุณถึงจะได้รับอนุญาตให้ออกไป”คนพวกนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ถูกฝึกฝนมาและเป็นคนใกล้ชิดเขาทั้งหมดเซี่ยซิ่วซิ่วและหลิ่วเมิ่งอิ๋นต่างก็ช่วยกันตักซุปให้กับพวกเขา มันยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับการเอาใจใส่มากจนเกินไปเย่ซิวเริ่มลงมือทานก่อน เขาตักน้ำซุปหนึ่งถ้วยเข้าปาก คน ๆ อื่นจึงเริ่มตักอาหารตามเขา เมื่อได้ลิ้มรสเนื้องู พวกเขาทุกคนต่างก็เบิกตากว้างนอกจากรสชาติจะดีแล้ว เมื่ออา
เนื่องจากกำลังภายในของเขาเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้น การฟื้นฟูสภาพร่างกายอีกครั้งจึงใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็สามารถกลับมาฟื้นฟูได้ เซี่ยซิ่วซิ่วเองก็ช่วยเขามามากแล้วนอกจากนี้ การกระทำของเธอยังทำให้เย่ซิวรู้สึกประทับใจมากเช่นกัน“จริงเหรอ?” เซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกประหลาดใจและดีใจมากในเวลาเดียวกันเย่ซิวยิ้มและพยักหน้าตอบจากนั้น เย่ซิวก็ตามเซี่ยซิ่วซิ่วเข้าไปในห้องของเธอเมื่อทั้งคู่เข้าไปในห้องน้ำ หัวใจของเซี่ยซิ่วซิ่วก็เต้นแรงมากขึ้นทันที ชายหญิงสองคนอยู่ในห้องน้ำด้วยกัน หากมีใครอยู่ตรงนั้น พวกเขาจะต้องจินตนาการไปไกลอย่างแน่นอนเย่ซิวให้เซี่ยซิ่วซิ่วนอนลงบนพื้น จากนั้นเขาก็เริ่มช่วยยืดเส้นลมปราณและฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กับเธอกระบวนการเหมือนกับตอนที่เคยทำให้กับลู่เสวี่ยเอ๋อร์และหลิ่วเมิ่งอิ๋น ถึงจะเจ็บปวดแต่ก็มีความสุข ซึ่งคนภายนอกจะไม่มีทางเข้าใจได้หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ ร่างกายของเซี่ยซิ่วซิ่วก็เหมือนกับกองโคลนที่แหลกเหลว เธอนอนอ่อนแรงด้วยร่างที่ถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อ แต่การหายใจยังคงสม่ำเสมอและมีพลัง จากเดิมรูปร่างของเธอที่สูงเพรียวอยู่แล้ว แต่ในตอนนี้หลังจากที่เย่ซิวทำการยืดเ
เซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งออกไปจากห้องอย่างมีความสุข แต่แล้วเธอก็พบว่าเย่ซิวได้ออกจากวิลล่าไปแล้วในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็ได้มาถึงยังวิลล่าตระกูลลู่แล้ว แน่นอนว่าเนื้องูที่เขาได้มา เขาก็ไม่ลืมที่จะนำมาให้กับลู่เสวี่ยเอ๋อร์ด้วยเมื่อตอนทำอาหาร เขาตั้งใจเก็บส่วนหนึ่งไว้ให้เธอวันนี้เขาจะให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ทานเนื้องูเพื่อเสริมสร้างรากฐานของเธอจากนั้น พรุ่งนี้เขาก็จะเริ่มนำดีงูมาใช้ปรุงเป็นยาสมุนไพรเพราะดีงูมีประสิทธิภาพที่ทรงพลังมากกว่าส่วนเนื้อของงูมากเขาเข้าไปในห้องลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างช่ำชองเหมือนเช่นเคยและเธอเองก็มักจะเปิดหน้าต่างไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เย่ซิวเข้ามาหาเธอได้สะดวกทันทีที่เห็นเย่ซิว ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็พุ่งเข้ากอดเขาด้วยความคิดถึงที่เอ่อล้นทั้งสองโอบกอดกันอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ถอนอ้อมกอดจากเย่ซิวเมื่อเธอเห็นเขาถือกล่องอาหารเก็บความร้อนสองกล่องอยู่ในมือ เธอจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ข้างในมันคืออะไรเหรอ?”เขาวางกล่องอาหารสองกล่องลงบนโต๊ะแล้วเปิดมันออกทีละกล่อง“ไม่ต้องถามหรอก มากินเถอะ มันมีประโยช์นต่อการฝึกกังฟูของคุณเขาไม่ได้บอกลู่เสวี่ยเอ๋อร์ว่ามันคือเน
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์จ้องมองเย่ซิวอยู่นาน แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะขยับตัว เธอจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “นายหลับแล้วเหรอ?”“ใกล้แล้ว คุณเองก็รีบนอนได้แล้ว การพักผ่อนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้ที่ฝึกยุทธ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกโกรธเล็กน้อย “นายนี่เหมือนท่อนไม้เลยนะ ขนาดมีหญิงสาว ๆ สวย ๆ แบบฉันอยู่ตรงนี้ทั้งคน ไม่มีความคิดอื่นแล้วหรือไง?”“ไม่มี” เย่ซิวตอบตามตรงตอนนี้เขาไม่มีความคิดอื่นจริง ๆ จนกว่าลู่เสวี่ยเอ๋อร์จะบรรลุระดับปรมาจารย์ ดังนั้น เขาจึงไม่ควรมีความคิดอื่นใดภายในใจ“น่าเกลียดที่สุด ฉันโกรธแล้วนะ แล้วก็จะไม่สนใจนายแล้วด้วย”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์หันหลังให้เขาด้วยท่าทางโกรธเคืองเธออยากให้เย่ซิวง้อเธอใจจะขาด แต่รออยู่นานก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอจึงทำได้เพียงหันกลับมา จากนั้นเธอก็วางศีรษะลงบนหน้าอกของเขา“นายนี่มันน่าเกลียดจริง ๆ ฉันเป็นผู้หญิงนะ ไม่รู้จักทะนุถนอมกันบ้างเลย”เย่ซิวตอบกลับไปว่า “เข้าใจแล้วครับ ครั้งหน้าผมจะใส่ใจคุณให้มากขึ้นแล้วกัน”“…” ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ถึงกับหมดคำพูดแต่พอมาคิดดูแล้วเธอก็ตระหนักได้ว่า การแสดงออกของเย่ซิวหมายความว่า เขายังไม่เคยมีความรักมาก่อนเมื่อคิดได
วันนี้เย่ซิวบอกกับสองสาวว่าไม่ต้องไปเรียนหรือเข้าบริษัท ให้พวกเธออยู่บ้านแทนจนถึงช่วงกลางวัน เย่ซิวก็นำชามยาที่มีสีดำขลิบวางไว้ตรงหน้าพวกเธอ“กินยานี่ให้หมด จากนั้นก็เริ่มฝึกท่าที่ผมสอนให้เมื่อวานนี้”สองสาวมองดูยานั้น มันจะมีกลิ่นเหม็นและดูน่าขยะแขยงเล็กน้อยแต่ด้วยความเชื่อมั่นในคำพูดของเย่ซิว พวกเธอจึงตัดสินใจกินมันหมดในคราวเดียวถึงแม้ว่ามันจะดูน่าขยะแขยง แต่เมื่อกินเข้าไป ยากลับมีรสหวานอ่อน ๆสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เย่ซิวได้ใช้เครื่องยาสมุนไพรต่าง ๆ กลบกลิ่นขมเดิมของมันและเขาก็ยังคงความมีประสิทธิภาพของยาเอาไว้ทันทีที่กินเข้าไป ร่างกายของสองสาวราวกับกำลังถูกไฟเผา ผิวหนังของพวกเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย ต่อมา พวกเธอก็เริ่มฝึกท่าทางที่เย่ซิวสอนให้ทันทีในเวลานั้น ศีรษะของพวกเธอมีไอน้ำลอยออกมา มันดูเหมือนกับการฝึกปรือในแนวทางการบำเพ็ญเซียนภายในร่างกายของพวกเธอมีเสียงคล้ายกับการคั่วถั่วดังขึ้นเป็นระยะ ๆทุกครั้งที่ฝึกฝน ร่างกายของพวกเธอก็จะแข็งแกร่งขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อฝึกถึงรอบที่สิบ ฤทธิ์ของยาก็ถูกดูดซึมไปครึ่งหนึ่ง พวกเธอจึงสามารถก้าวเข้าสู่จอมยุทธ์ระดับสองได
แต่ยังมีที่ดินตามมุมพื้นที่เล็ก ๆ ที่มีมูลค่าไม่มากนัก ซึ่งแน่นอนว่านักลงทุนใหญ่ ๆ จะไม่สนใจอยู่แล้วทุกคนต่างก็พากันสืบค้นข้อมูลว่า ใครกันที่โลภมากขนาดนั้น เขาถึงได้ซื้อที่ดินทั้งหมดหนึ่งแสนไร่ไปในคราวเดียวไม่นานพวกเขาก็สืบค้นจนรู้ว่าเป็นเย่ซิวจากนั้น พวกเขาก็พากันไปที่บริษัทของเย่ซิวโดยไม่ได้นัดหมายวันนี้ หลังจากที่เย่ซิวดูข่าวนั้นจบ เขาก็รีบเข้ามาที่บริษัททันทีเพราะเขารู้ว่าจะต้องมีคนจำนวนมากมาหาเขา ดังนั้น เขาจึงมารออยู่ที่บริษัทตั้งแต่เช้า เลขานุการเดินเข้าออกห้องทำงานของเขาตลอดเวลา เพื่อแจ้งเขาว่า มีผู้บริหารจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่มาขอเข้าพบอีกแล้วเย่ซิวเรียกพวกเขาทั้งหมดมาที่ห้องรับรอง เขาไม่ได้พบปะใครเป็นการส่วนตัวเขาตั้งใจว่าจะรอให้ทุกคนมาถึงพร้อมกันก่อนแล้วค่อยทำการเจรจาหลังจากรอจนถึงสิบโมง เย่ซิวจึงลุกขึ้นและเดินไปที่ห้องรับรองพร้อมกับเลขานุการเมื่อทุกคนเห็นว่าเย่ซิวมีอายุยังน้อย คนเหล่านั้นก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก พวกเขาแต่ละคนแสดงแววตาของการดูถูกออกมาในตอนแรก พวกเขารู้เพียงว่าเย่ซิวได้ซื้อที่ดินหนึ่งแสนไร่ในทางตอนเหนือทั้งหมดแต่สำหรับราย
ผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์จากหลายแห่งต่างก็โน้มน้าวเขาอย่างต่อเนื่องในถ้อยคำของพวกเขา ดูเหมือนว่าราคาที่พวกเขาให้นั้น ถือว่าเป็นการให้เกียรติเย่ซิวเป็นอย่างมากแล้วเย่ซิวนั่งฟังอย่างเงียบ ๆ และไม่ได้พูดอะไรหลังจากที่พวกเขาพูดจบ เย่ซิวจึงเปิดปากพูดขึ้นว่า “พวกคุณพูดจบแล้วใช่ไหม? พูดจบก็เชิญออกไปได้แล้วครับ”ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืน ในคำพูดของเขามีการแฝงความคุกคามเล็กน้อย“คุณเย่ซิว คิดให้ดี ๆ นะ ศักยภาพในทุกด้านของบริษัทของคุณค่อนข้างธรรมดา หากว่าคุณไม่ยอมขายที่ดินให้กับพวกเรา เกรงว่าบริษัทของคุณคงจะไม่มีปัญญาเริ่มโครงการหรอกนะ”ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ ชายวัยกลางคนเองก็เห็นด้วยกับเขา “ใช่ค่ะ ดูจากข่าวที่ประกาศออกมาแล้ว พวกเขาน่าจะเริ่มโครงการภายในหนึ่งสัปดาห์แล้ว ถ้าพื่นที่นี้ไม่ถูกพัฒนาให้เร็วที่สุด มันจะทำให้เจ้าหน้าที่คิดว่า คุณเจตนาที่จะเก็บที่ดินไว้โดยไม่มีการพัฒนา ซึ่งเป็นการขัดขวางการพัฒนาของบ้านเมือง และนั่นก็ไม่ใช่ข้อกล่าวหาที่เล็กน้อยเลยนะคะ”เย่ซิวจ้องมองใบหน้าของพวกเขาทีละคนพวกเขาทั้งหมดที่นี่ล้วนแต่เป็นคนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ติดอันดับในสามสิบอันดับต้น ๆ ขอ
“นายคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานงั้นเหรอ? ดี งั้นฉันจะคอยดูว่าแกจะไปได้สักกี่น้ำ ทุกหน่วยเตรียมพร้อม ล็อกเป้าหมาย เปิดฉากยิงเต็มกำลัง!”ตูม! ตูม! ตูม!ลูกระเบิดจำนวนมหาศาลถูกยิงออกมาเหมือนพายุที่ถาโถมใส่เย่ซิวอย่างบ้าคลั่งการโจมตีรุนแรงจนยากจะหาคำมาบรรยายในภาพจากห้องควบคุมของทั้งสองฝ่าย ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยเปลวไฟที่ปกคลุมไปทั่วผู้อาวุโสแห่งประเทศหลงเถิงทุบหมัดลงบนแผงควบคุมอย่างแรง “น่ารังเกียจนัก ถ้าพวกเราแข็งแกร่งกว่านี้อีกหน่อย พวกมันจะกล้าท้าทายเราขนาดนี้ได้ยังไง!”เขารู้สึกผิดอย่างมาก คิดว่าเป็นเพราะความอ่อนแอของประเทศที่ทำให้เย่ซิวต้องเสียสละตัวเองเขาจ้องมองหน้าจอที่เต็มไปด้วยเปลวไฟ ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “เจ้าเด็กบ้านี่ต้องรอดกลับมาให้ได้นะ นายคือความหวังของพวกเรา”ผู้อาวุโสรู้ความลับบางอย่างที่คนธรรมดาไม่อาจล่วงรู้เดิมทีเขาตั้งใจจะหาโอกาสเล่าเรื่องนี้ให้เย่ซิวฟัง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก่อนโซโลหัวเราะลั่น “โจมตีไปขนาดนี้ ต่อให้แก…”เขาพูดยังไม่ทันจบก็ต้องหยุดชะงักทันทีเย่ซิวพุ่งออกมาจากจุดศูนย์กลางของการระเบิดพร้อมกับฟาดกระบี่ออกไปคลื่นกระบี่ยาวนับพันเมต
หลังจากเย่ซิวออกมาจากห้องของหยางชิงเสวี่ย เขาก็ตรงไปยังสวนสมุนไพรทันทีจากนั้นก็ไปหาหลี่อวี่ถงและขอให้เธอคัดลอกผลงานวิจัยล่าสุดมาให้เขาชุดหนึ่งจากนั้นก็รีบไปหาถังเขอเข่อต่อช่วงนี้ถังเข่อเข่อกำลังยุ่งอยู่กับการวิจัยเทคโนโลยีต่าง ๆ เลยยังไม่รู้เรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นภายนอกเมื่อเห็นเย่ซิวมา เธอจึงสงสัยเล็กน้อยว่าเกิดอะไรขึ้น?เย่ซิวไม่พูดพร่ำทำเพลง ถามตรง ๆ ทันทีว่า “ตอนนี้คุณสร้างหุ่นยนต์ไปได้กี่ตัวแล้ว? เอาแบบที่ติดอาวุธด้วยนะ”“ตัวที่สามเพิ่งออกจากสายการผลิต ทำไมเหรอ?”“พาผมไปดูหน่อย”เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเย่ซิว ถังเขอเข่อเองก็เริ่มรู้สึกตึงเครียดไปด้วย เธอรีบพาเขาไปยังที่เก็บหุ่นยนต์ทันทีหุ่นยนต์สามตัวสูงสิบกว่าเมตรตั้งตระหง่านอยู่ที่นั่นตัวเกราะถูกพ่นสีดำล้วน มือข้างหนึ่งถือดาบมังกรครองจันทร์ ส่วนมืออีกข้างถือโล่ด้านหลังติดตั้งอาวุธปืนหกกระบอก และที่หัวไหล่ทั้งสองข้างมีส่วนที่นูนขึ้นมาถังเขอเข่ออธิบายว่าส่วนนูนนี้บรรจุโดรนขนาดเล็กสามตัว ซึ่งสามารถใช้ทั้งการสอดแนมและการโจมตีแบบแม่นยำได้ เรียกได้ว่าอาวุธครบครันลยทีเดียวเย่ซิวเก็บหุ่นยนต์ทั้งสามตัวเข้าไปในแหวน
หากเกิดสงครามขึ้น ผลที่ตามมาย่อมยากจะคาดเดาแม้พลังของเย่ซิวในตอนนี้จะแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่หากประเทศเหล่านั้นยิงขีปนาวุธเข้ามาพร้อมกันหมด ลำพังตัวเขาเองคงไม่มีทางสกัดกั้นได้ทั้งหมดแน่นอนเพียงแค่พลาดไปลูกเดียว ก็อาจสร้างความเสียหายมหาศาลแก่ประชาชนในประเทศหากมันตกลงในเมืองใหญ่ ชีวิตของผู้คนนับล้านอาจสูญสิ้นในชั่วพริบตาเย่ซิวยิ้มบาง “จะให้ทำยังไงได้? คงไม่ถึงขั้นปล่อยให้คนจำนวนมากต้องตายไปพร้อมกับผมหรอก”เขาหันกลับมาหาหยางชิงเสวี่ย แล้วยื่นมือออกไป “เอามาสิ”“อะไรเหรอ?”“ของสำคัญที่แสดงถึงตัวตนของผู้นำสำนักเยียนอวี่ อย่าบอกนะว่าไม่มีของแบบนั้น”หยางชิงเสวี่ยพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินไปที่ตู้ จากนั้นก็ก้มลงเปิดมันจากมุมมองของเย่ซิวในตอนนี้ จังหวะที่หยางชิงเสวี่ยก้มตัวลงนั้นทำให้เห็นส่วนโค้งกลมกลึงเขารู้สึกวูบวาบเล็กน้อยจึงเบือนสายตาไปทางอื่นผู้หญิงคนนี้ช่างดึงดูดจนทำให้ใครก็ยากจะถอนตัวจากเธอได้หยางชิงเสวี่ยหยิบเหรียญตราที่ทำจากวัสดุบางอย่างจากตู้แล้วส่งให้เย่ซิวตรานั้นให้สัมผัสอบอุ่น บนพื้นผิวมีตัวอักษรสองตัวสลักไว้ว่า ‘เยียนอวี่’เย่ซิวเก็บตราไว้อย่างระมัดระวัง ก
การจุติจากเปลวเพลิง!ความสามารถนี้คือการที่เย่ซิวสามารถคืนชีพจากเปลวเพลิงได้หลังจากถูกสังหารนับเป็นความสามารถที่เหนือธรรมชาติและทรงพลังถึงขีดสุด ยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่เกิดใหม่ พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้นด้วยข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวคือความสามารถนี้สามารถใช้ได้เพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้นเมื่อเย่ซิวได้รับความสามารถนี้ เขาก็ถึงกับตกตะลึงอยู่พักใหญ่เขาก้มมองหยางชิงเสวี่ยที่ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง ในใจของเขาเริ่มคาดเดาถึงภูมิหลังและตัวตนที่แท้จริงของเธอแต่สำหรับข้อสันนิษฐานนั้น เขาไม่มีทางพิสูจน์ได้ และแม้จะถามเธอ เธอก็คงไม่พูดอะไรอยู่ดีเย่ซิวนั่งขัดสมาธิ ก่อนจะรวบรวมสมาธิ และสำรวจร่างกายหลังจากถูกเปลวไฟเผาผลาญจิตวิญญาณก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในทันทีพลังวิญญาณของเย่ซิวเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลราวกับเป็นผลลัพธ์จากการบำเพ็ญตนอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาหนึ่งถึงสองปีเขาค่อย ๆ ใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับพลังที่เพิ่มขึ้นก่อนจะลืมตาขึ้นช้า ๆหยางชิงเสวี่ยดูเหมือนมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป แต่เย่ซิวอธิบายไม่ได้ว่าเปลี่ยนตรงไหนแต่สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจ
“คุณค่อย ๆ ดูไปก่อนนะ ฉันจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือจะไปรอฉันที่ห้องนอนก็ได้”เธอพูดด้วยน้ำเสียงสงบเหมือนกำลังคุยเรื่องอาหารเย็นว่าจะกินอะไร“คุณไปเถอะ”เย่ซิวตอบก่อนจะตั้งใจอ่านเอกสารทั้งหมด โดยจดจำข้อมูลทุกอย่างลงในสมองสำหรับข้อมูลองค์กรขนาดใหญ่เช่นนี้ หากให้เย่ซิวสร้างขึ้นด้วยตัวเอง คงใช้เวลาอย่างน้อยห้าถึงหกปีกว่าจะสำเร็จได้แต่ชื่นชมว่าอาจารย์เขาช่างยอดเยี่ยมเสียจริง!อีกด้านหนึ่ง หยางชิงเสวี่ยเดินกลับไปที่ห้องนอนก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าสายตาเธอจับจ้องที่ชุดเดรสตัวยาวสีแดงชุดหนึ่งบนเดรสตัวนั้นปักลายหงส์กางปีกโบยบินด้วยด้ายทองอย่างวิจิตรบรรจงหงส์ตัวนั้นดูเหมือนมีชีวิตจริง ๆ ราวกับสามารถโบยบินออกมาจากชุดได้ทุกเมื่อหยางชิงเสวี่ยลูบชุดเดรสนั้นเบา ๆ ภาพความทรงจำบางอย่างปรากฏขึ้นในหัวของเธอ จากนั้นเธอก็หยิบชุดและเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีปกติแล้วหยางชิงเสวี่ยมักจะแต่งตัวอย่างเรียบร้อยและสุภาพเสมอแต่เมื่อเธอปลดพันธนาการออกจากร่างกายแล้ว ความงดงามสมบูรณ์แบบของเธอก็เผยออกมา ต่อให้นางแบบระดับโลกมาอยู่ตรงหน้าเธอก็ยังเทียบไม่ติดเสียงน้ำจากฝักบัวไหลรินลงมาชโลมร่างกายของ
ตอนนี้เย่ซิวกลายเป็นคนดังระดับโลกไปแล้ว ดังยิ่งกว่าดาราระดับนานาชาติหลายเท่าถ้าเขาหันไปทำไลฟ์สด วันเดียวก็คงทำรายได้เป็นหลายร้อยล้านหรืออาจถึงพันล้านเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น เขาจึงเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองก่อนออกจากบ้านเขามาหยุดอยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัย ก่อนจะเงยหน้ามองชื่อสถานที่นั้นและเดินเข้าไปทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีนักศึกษาเดินสวนไปมาขวักไขว่ทุกครั้งที่มาที่นี่ เย่ซิวจะรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเขาเดินไปที่ศาลาพักผ่อนอีกครั้ง และเห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ตรงนั้นที่นี่อาจเป็นสถานที่พิเศษสำหรับหยางชิงเสวี่ย นอกจากเธอแล้วก็มีจวงเสี่ยวหยิงที่เย่ซิวเคยเห็นว่ามาที่นี่เช่นกันเขาเดินเข้าไปในศาลาอย่างไม่รีบร้อนแล้วนั่งลงตรงหน้าเธอหยางชิงเสวี่ยที่กำลังอ่านหนังสือท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบเงยหน้าขึ้นดวงตาที่ใสราวคริสตัลของเธอเหมือนสามารถมองทะลุทุกสิ่งในโลกนี้ได้เธอกะพริบตาเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากสีชมพูจะเผยอขึ้น “ยินดีด้วยที่เข้าสู่ระดับจินตานแล้ว”เย่ซิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ผมเปลี่ยนทั้งรูปร่างและหน้าตา คุณก็ยังจำผมได้อีกเหรอ?”หยางชิงเสวี่ยปิดห
เย่ซิวโทรหาชูตง อวี่เฟยเฟย เสวี่ยเหมย หลัวอีอี แล้วเรียกพวกเธอมาที่บ้านพร้อมหน้ากันอย่างแรก ทุกคนต้องเป็นห่วงกันอยู่แล้ว การได้มาเจอกันและกินข้าวด้วยกัน น่าจะทำให้พวกเธอสบายใจขึ้นอย่างที่สอง เย่ซิวตั้งใจที่จะช่วยยกระดับพลังของพวกเธอทั้งหมดในคราวเดียวหลังวางสาย เขาก็ชี้ไปที่เด็กผู้หญิงที่ดูมีท่าทีเขินอาย ก่อนเอ่ยถามว่า “พวกคุณไม่คิดว่าเธอคล้ายใครบางคนเหรอ?”สาว ๆ ทุกคนหันไปมองเด็กหญิงคนนั้น พอมองชัด ๆ ก็พากันอึ้งไปตาม ๆ กัน“เหมือนจริง ๆ ด้วย”“คล้ายกันตั้งหกเจ็ดส่วนแน่ะ”“นี่ต้องเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเธอแน่ แต่ทำไมถึงไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงเลยนะ”……ระหว่างที่พวกเธอกำลังพูดคุยกัน ประตูวิลล่าก็เปิดออกไป๋อวี้เจี๋ยเดินเข้ามาในชุดกางเกงยีนรัดรูปเธอวางกระเป๋าลงแล้วพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเย่ซิวทันที“คุณไม่เป็นอะไรแล้วก็ดีแล้ว ฉันตกใจแทบแย่ตอนเห็นข่าว…คุณไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นฉันกลัวแค่ไหน”เย่ซิวตบหลังเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ คุณลองดูเธอสิ”เขาชี้ไปที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กไป๋อวี้เจี๋ยหันมองตามนิ้วของเย่ซิวด้วยความสงสัยเมื่อสายตาของทั้งคู่ปร
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!ขณะที่เย่ซิวกำลังจะลงมือจัดการกับพวกคนชั่วเหล่านี้ สายฟ้าหลายสายพลันฟาดลงมาจากท้องฟ้าชิงลงมือก่อนเย่ซิว เจ้าชายเหล่านั้นก็ถูกฟ้าผ่าจนไม่เหลือซากเย่ซิวถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็น "กรรมที่สวรรค์ลิขิตยังพอรอดได้ กรรมที่ก่อเองไม่อาจรอดพ้นกรรม"แม้แต่สวรรค์ก็ทนดูไม่ได้ ต้องลงมือสำเร็จโทษพวกเขาด้วยตัวเองคนเหล่านี้ถูกทำลายจนวิญญาณแตกสลาย ไม่มีแม้แต่โอกาสจะกลับไปเกิดใหม่อีกเย่ซิวไปจากที่นี่ เรื่องหลังจากนี้ไม่ใช่เรื่องของเขาแล้วไม่นานหลังจากที่เขาไป เฟยอวี่ก็ปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อเห็นรอยฟ้าผ่าบนพื้น เธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว มันน่ากลัวเหลือเกินแต่ไม่นานเธอก็เลียริมฝีปาก รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก"ไอ้พวกโง่นี่ถูกฆ่าตาย งั้นตอนนี้ทั้งประเทศอ่ายเหรินก็ไร้ผู้นำแล้วแบบนี้งานของฉันก็ง่ายขึ้นมากฮ่า ๆ เย่ซิวเอ๋ยเย่ซิว ฉันต้องขอบคุณคุณอย่างจริงจังแล้วล่ะ"…… ครืน!เหนือผืนทะเล มีแสงหนึ่งพุ่งผ่านไปด้วยความเร็วสูงเย่ซิวยืนอยู่ที่หัวกระบี่ เด็กสาวสองคนที่อยู่ข้างหลังเขามองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น ความรู้สึกแบบนี้ไม่อาจบรรยายได้เลยเ
ที่นี่กลายเป็นเหมือนนรกบนดินเย่ซิวพุ่งขึ้นมาจากก้นทะเลในตอนนี้เขาดูโทรมมาก เสื้อผ้าที่สวมอยู่ขาดรุ่งริ่ง แถมยังมีบาดแผลทั้งใหญ่และเล็กนับร้อยจุดทั่วร่างนี่เป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมา มันแทบจะทำลายรากฐานของเขาแม้ว่าตอนนี้เขาจะดูสงบมาก แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความอาฆาตและเดือดดาลชนิดที่ยากจะข่มพวกนั้นช่างโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อหากการระเบิดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของพวกเขาเอง อย่างน้อยหนึ่งหรือสองเมืองคงได้กลายเป็นนรกภูมิ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีวิญญาณผู้บริสุทธิ์จำนวนเท่าไหร่โชคดีที่เย่ซิวเพิ่งทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานขั้นกลาง มิฉะนั้นชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอนเขาหยิบน้ำเต้าออกมา แล้วดื่มน้ำพุวิญญาณลงไปรวดเดียวหลายกิโลกรัมร่างกายของเขาฟื้นตัวจากบาดแผลอย่างรวดเร็วแสงของจินตานห้าสีที่สลัว ๆ ในตันเถียน เริ่มกลับมาส่องประกายสดใสอีกครั้งเขาไม่กล้าล่าช้า รีบกลับไปอย่างรวดเร็วเด็กสาวสองคนยังอยู่ที่นั่น เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นเหล่าเจ้าชายได้เริ่มเตรียมแชมเปญเพื่อเฉลิมฉลองแล้วพวกเขาคิดว่าไม่ว่าเย่ซิวจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็คงไม่รอดจากการระเบิดระด