หูเม่ยเอ๋อร์ดิ้นรนอีกครั้งเพื่อพยายามดึงขาของเธอออกมาแต่ก็ยังคงไม่เป็นผลเธอถึงกับรู้สึกหมดหวัง ดวงตาทั้งสองข้างแทบจะกลายเป็นธารน้ำพุที่ไหลออกมา “นี่คุณดูหน่อยสิ…บะ…บางทีอาจจะเป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ ถะ…ถ้าพลาดไป คะ…คงไม่ดีแน่”โชคดีที่เจ้าหน้าเหล่านั้นกำลังตั้งใจทำงาน ไม่อย่างนั้นการกระทำของทั้งสองคนคงถูกจับได้ไปแล้วเย่ซิวแกล้งเธออยู่สักพัก จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความที่เธอส่งมา‘นายน้อยฉันผิดไปแล้ว ต่อไปฉันจะไม่ทำอีกแล้ว คุณช่วยปล่อยฉันไปเถอะนะ?’ผู้หญิงที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลส่งข้อความมาด้วยถ้อยคำแบบนี้ หากเป็นผู้ชายทั่วไปย่อมต้านทานไม่ไหว แม้แต่เหล็กที่แข็งแกร่งก็ต้องโอนอ่อนเป็นขี้ผึ้งถูกลนไฟเย่ซิวหัวเราะ เขาคิดว่าลงโทษเธอสักเล็กน้อยก็พอ ไม่ได้ตั้งใจให้เธอขายหน้าต่อหน้าสาธารณชนจริง ๆ เขาจึงยอมปล่อยเท้าของเธอหูเม่ยเอ๋อร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอรีบใส่รองเท้าให้เร็วที่สุดเธอสูดหายใจลึก ๆ สองสามครั้ง รอยแดงบนใบหน้าก็จางหายไปอย่างรวดเร็วเธอมองเย่ซิวด้วยสายตาโหดเหี้ยม จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์อีกครั้งไม่นาน เย่ซิวก็ได้รับข้อความจากเธออีกครั้ง‘นายน้อย
เย่ซิวรู้สึกงงงัน “เธอเป็นอะไร? ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงร้องไห้?”หลิวเมิ่งอิ๋นร้องไห้ดังมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินคำถามของเขา “พี่ไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไร?”“แฟน? ฉันไม่มีแฟนนะ”“แล้วรอยลิปสติกบนหน้าพี่มันหมายความว่าอะไร ?” หลิ่วเมิ่งอิ๋นพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ”ในเมื่อพี่มีแฟนแล้ว เพื่อไม่ให้เธอเข้าใจผิด ฉันจะไปเอง ไปตอนนี้เลย”พูดจบ เธอก็หันกลับเข้าไปในห้องแล้วเก็บกระเป๋าเย่ซิวหัวเราะ แล้วเดินตามเข้าไป เขาจับมือเล็ก ๆ ของเธอ“แล้วเธอจะไปที่ไหน? คืนนี้ฉันไปดื่มเหล้ากับเพื่อนมาน่ะ เธอเมามาก จากนั้นก็…”เมื่ออธิบายเรื่องราวโดยพอสังเขป หลิวเมิ่งอิ๋นก็ทำท่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “จริงเหรอ? นี่พี่ไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?”เย่ซิวพยักหน้า “จริงสิ ถ้าเธอไม่เชื่อฉันจะพาเธอไปดู”เธอจูงมือของหลิ่วเมิ่งอิ๋นไปห้องที่หลิ่วอวี้เอ๋อร์นอนหลับ เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า ทำเอาสองคนที่อยู่หน้าประตูยืนนิ่งทันทีหลังจากดื่มเหล้าเข้าไป หลิ่วอวี้เอ๋อร์รู้สึกไม่สบายตัวไปทั้งตัวและรู้สึกร้อนรุ่มดังนั้นเธอจึงเปิดผ้าห่ม ก้าวลงจากเตียงและกำลังถอดเสื้อผ้า
เย่ซิวมีร่างกายที่ทนทานต่อพิษทุกชนิดมาโดยตลอดเมื่อสัตว์พวกนั้นเห็นเย่ซิว พวกมันต่างก็หลบหนีไปไกล เมื่อพวกมันสัมผัสได้ว่า เขาสามารถทนทานต่อพิษทุกชนิดได้เมื่อเข้าไปในป่าลึกได้ชั่วโมงกว่า แม้ว่าเย่ซิวจะยังไม่พบดอกบัวสีเลือด แต่เขาก็ได้พบสมุนไพรที่ค่อนข้างหายากบางชนิดเฉกเช่น โสมที่มีอายุมากกว่าห้าสิบปีโสมที่มีอายุห้าสิบปีนี้สามารถบำรุงพลังงานและเลือดของจอมยุทธได้ดีทีเดียวนอกจากนั้นยังมีเห็ดหลินจืออีกหลายดอกที่มีอายุร่วมสามสิบปีถึงสี่สิบปีเขาเข้าไปในป่าที่ลึกยิ่งขึ้น หลังจากผ่านไปราว ๆ สองชั่วโมง เย่ซิวก็หยุดพักเขาดับไฟฉายลงเมื่อเขาใช้กำลังภายในหมุนเวียนไปที่ดวงตา วิสัยทัศน์ของเขาก็ขยายออกอย่างรวดเร็วทันทีเขามองเห็นถ้ำอยู่ห่างออกไปราว ๆ สองพันเมตรและที่ปากถ้ำมีดอกบัวสีเลือดกำลังพลิ้วไหวตามลม!เย่ซิวรู้สึกตื่นเต้นขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าดอกบัวสีเลือดมีอยู่จริง และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ถูกเก็บไปยิ่งไปกว่านั้น จากที่เขามองเห็น ดอกบัวสีเลือดต้นนี้มีอายุยาวนานมาก น่าจะมีอายุราว ๆ เจ็ดสิบถึงแปดสิบปีเครื่องยาสมุนไพรที่มีอายุเท่านี้ถึงจะเป็นชนิดธรรมดา แต่พลังยาในตัวก็ไม่ได้ด
เธอคิดอยากจะวิ่งหนีไปแต่ร่างกายกลับไม่ฟัง เธอไม่สามารถขยับตัวได้เลยงูเหลือมยักษ์ยังคงเลื้อยอยู่บนภูเขา มันแค่ใช้สายตาที่เย็นยะเยือกมองไปที่เธอโดยไม่ได้ทำการโจมตีมันฉลาดเฉลียวมาก มันคิดว่าสาวคนนั้นอาจจะพยายามหลอกล่อให้มันออกจากภูเขา โชคดีที่ความฉลาดของมันนั้นสูง ถ้ามันทำตามสัญชาตญาณของมัน มันอาจจะโจมตีเด็กสาวคนนั้นจนเธอตายก็ได้เย่ซิวไม่ได้เข้าไปช่วยเธอ เขากับเธอไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เขาคงไม่เสี่ยงเพื่อช่วยเด็กสาวที่โง่เง่านั่นหรอก“ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นดอกบัวสีเลือดจริง ๆ ด้วย!”“ฉันนี่เดาถูกจริง ๆ คนแก่นั่นรู้จริง ๆ ว่าดอกบัวเลือดอยู่ที่ไหน!”“รวยแล้ว ฉันจะรวยแล้ว!”ในตอนนี้ เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นก็ดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่งแล้วก็เห็นกลุ่มคนสิบกว่าคนปรากฏตัวขึ้นในนั้นมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง อายุของพวกเขาส่วนใหญ่เกินสามสิบปี และมีสองคนที่อายุหกสิบกว่าปีพวกเขามีอุปกรณ์เต็มตัว พวกเขามองไปที่งูเหลือมยักษ์ด้วยความโลภ“งูเหลือมยักษ์นั่นอย่างน้อยก็ต้องมีอายุสองร้อยปี ทั้งตัวของมันเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติ!” ผู้ชายคนหนึ่งเลียริมฝีปากในขณะที่สายตาแสดงถึงความโลภ“เลือดของงูน
“อ๊าก!”เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังก้องในป่าชายหนึ่งคนถูกงูเหลือมยักษ์กัดขาดครึ่งตัว จากนั้นก็ถูกมันสะบัดออกไปไกลงูเหลือมยักษ์เคลื่อนไหวตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อมันใช้หางฟาดอย่างรุนแรง แรงที่เกิดขึ้นสามารถทำให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ปลิวได้ในชั่วพริบตาจอมยุทธแต่ละคนต้องเผชิญกับงูเหลือมยักษ์ที่บ้าคลั่ง บ้างถูกฟาดจนตาย บ้างถูกเขมือบเข้าลงไปในท้อง เพียงชั่วพริบตาก็เหลือเพียงแค่สองปรมาจารย์เท่านั้นสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาใช้ปืนและอาวุธทั้งหมดที่มีโจมตีอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ทำให้งูเหลือมยักษ์ได้รับบาดเจ็บในระดับหนึ่งแต่นั่นก็ไม่สามารถฆ่ามันให้ตายได้ แต่กลับทำให้มันยิ่งโกรธเกรี้ยวและบ้าคลั่งมากขึ้นเย่ซิวซ่อนตัวอยู่ในที่มืดและคอยเฝ้าดู เขาไม่ได้ใช้โอกาสนี้เข้าไปเก็บดอกบัวหิมะสีเลือด เพราะเพิ่งพบว่ายังมีคนซ่อนตัวอยู่ในที่มืดมุมปากเผยรอยยิ้มที่ไม่ชัดเจน “คิดจ้องจะเล่นงานคนอื่น ไม่คิดว่าตัวเองก็กำลังถูกจ้องเล่นงานหรือยังไงกัน? หึ ๆ”ไม่นานอาวุธของสองปรมาจารย์ที่พกติดตัวมาก็ถูกใช้จนหมด พวกเขาไม่กล้าใช้ร่างกายไปต่อสู้กับงูเหลือมยักษ์บ้าคลั่งนั่น เพราะนั่นจะถือว่าส่งตัวเองไ
พวกเขาไม่คิดจะสู้กับมันโดยตรง แต่กลับนำขวดยาออกจากกระเป๋าและทุ่มลงไปที่ตัวงูเหลือมแทนงูเหลือมยักษ์ส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวด เมื่อบาดแผลสัมผัสกับผงยาก็เกิดการกัดกร่อนและเป็นหนองอย่างรวดเร็วต้นไม้ใหญ่แต่ละต้นถูกมันชนกระเด็นจนเกิดฝุ่นควันฟุ้งกระจายความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากแผ่นดินไหวขนาดเล็กเย่ซิวหยิบหน้ากากหนังมนุษย์ที่พกติดตัวมาสวมไว้บนหน้าเขาเห็นว่างูเหลือมยักษ์ตัวนี้ใกล้จะทนไม่ได้แล้ว ต่อไปคงเป็นตาเขาที่จะต้องลงมือหลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง พร้อมกับเสียงดังสนั่น งูเหลือมยักษ์ก็สิ้นใจลงในที่สุดสาวกของสำนักโอสถส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ แล้วพากันกรูเข้าไปล้อม“งูตัวนี้มีคุณค่าทางยาสูงมาก!”“หากใช้มันมาปรุงเป็นยา บางทีอาจจะทำให้ทุกคนมีอายุยืนยาวขึ้นอีกห้าถึงหกปี!”“พวกแกรีบทำการแยกชิ้นส่วนงูเหลือมตัวนี้ ส่วนฉันจะไปเก็บดอกบัวหิมะสีเลือดนั่น!”…ปู่ของเด็กสาวออกคำสั่ง“เกรงว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่พวกคุณคาดหวังสิครับ”ในตอนนี้ เย่ซิวที่ปลอมตัวก็เดินออกมาอย่างช้า ๆ เมื่อเห็นเย่ซิว สาวกของสำนักโอสถทุกคนต่างก็ทำท่าทางเหมือนเจอศัตรูตัวฉกาจก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่รู้สึ
เมื่อถูกอีกฝ่ายถาม เย่ซิวก็ตอบเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “คุณไม่สมควรที่จะรู้”เด็กสาวรู้สึกโกรธมาก เธอยังอยากจะโต้เขากลับอีกสักหน่อย แต่ก็ถูกอาของเธอปิดปากไว้ก่อนเมื่อสถานการณ์ไม่เป็นใจ ก็ควรยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเชื่อฟังหลังจากที่พวกเขาจากไป เย่ซิวจึงเริ่มผ่าร่างงูเหลือมยักษ์ตัวนี้เริ่มต้นจากเลือดสด ๆ ของมันเย่ซิวใช้มีดกรีดเปิดแผล แล้วดื่มเลือดมันเข้าไปอึกใหญ่ เลือดสดอัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาล เย่ซิวพูดได้อย่างมั่นใจเลยว่า ในทั่วทุกมุมโลก มีเพียงเขาคนเดียวที่ดูดซับพลังงานได้อย่างไม่มีข้อจำกัดหากเป็นคนอื่น ร่างของพวกเขาคงจะระเบิดไปแล้วเย่ซิวใช้พระสูตรราชาแห่งยาอย่างเต็มที่เลือดงูจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ท้องของเขาและค่อย ๆ ย่อยสลายออกไป ส่วนหนึ่งใช้ในการบำรุงร่างกาย อีกส่วนหนึ่งจะถูกแปลงเป็นกำลังภายในร่างของงูเหลือมยักษ์หดตัวลงอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ชัดหลังจากที่เย่ซิวดื่มเลือดของงูเหลือมยักษ์นี้จนหมด กำลังภายในของเขาก็เพิ่มขึ้นประมาณห้าสิบเปอร์เซ็นส่วนความแข็งแกร่งของร่างกายก็เพิ่มขึ้นมากและหัวใจของเขาก็เต้นแรงมากขึ้นด้วยแม้ว่าจะยังไม่สามารถทะลวงพลังยุทธ์ได้ แต่ราก
เย่ซิวสั่งคนของเขาให้นำรถไปล้าง จากนั้นเขาก็แบกหนังงูเข้าไปในวิลล่าเซี่ยซิ่วซิ่วลงมาถึงได้สักพักแล้ว เธอและหลิ่วเมิ่งอิ๋นกำลังแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลตัวเองอยู่ภายในห้องรับแขก เมื่อเห็นเย่ซิวเข้ามาในสภาพเช่นนั้น พวกเธอทั้งสองคนจึงตกตะลึงแต่พวกเธอทั้งสองคนก็ไม่ได้สนใจกลิ่นคาวเลือดบนตัวของเย่ซิวและรีบวิ่งไปหาเขาทันที“พี่เย่ซิว นี่พี่ไปทำอะไรมา?”“นายเย่ซิว เลือดเต็มตัวนายไปหมดเลย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”เย่ซิวยิ้มตอบ “ไปเชือดงูมาน่ะ พวกเธอรออยู่ที่ห้องรับแขกก่อนนะ วันนี้ฉันจะจัดงานเลี้ยงเนื้องู”ทั้งสองสาวเป็นคนกลัวงูมาก เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พวกเธอก็รีบก้าวถอยหลังพร้อมส่ายหัวอย่างรุนแรง“เนื้องูน่ากลัวจะตาย ถึงฉันตาย ฉันก็จะไม่กินมันเด็ดขาด!”“ฉันด้วย แค่คิดก็ขนลุกแล้ว ฉันไม่มีทางกินมันเด็ดขาด!”พวกเธอแสดงถึงเจตนาต่อต้านการกินเนื้องูมากขึ้นไปอีกเย่ซิว ไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่เห็นพวกเธอแสดงเจตนารมย์เช่นนี้ มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเธอจะยอมรับไม่ได้ในตอนนี้แต่ถ้าหากว่าพวกเธอได้เห็นอาหารที่เย่ซิวเป็นคนลงมือทำ พวกเธอก็จะไม่คิดแบบนั้นอีกต่อไปเขานำหนังงูที่ห่อหุ้มเนื้อเอาไว้เ
จากนั้นเย่ซิวก็ปล่อยปราณกระบี่ออกมาหลายสาย ผนึกพื้นที่รอบตัวเด็กหญิงไว้ เด็กหญิงมองเย่ซิวด้วยสายตาที่น่าสงสาร เธอรู้ดีว่าตัวเองเป็นดาวหายนะ พ่อแม่และครอบครัวของเธอทั้งหมดล้วนต้องตายไปเพราะเธอ หลังจากนั้นเธอก็ถูกขังไว้ในกรงพิเศษ ไม่เคยเห็นแสงเดือนแสงตะวันเลย จนกระทั่งถูกปล่อยตัวออกมาในตอนนี้ เย่ซิวมองแววตาของเธอ ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ร่างกายที่เป็นอยู่เกิดจากชะตาฟ้าลิขิต เธอเองไม่อาจควบคุมได้ และไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อย เย่ซิวเองก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้อย่างบุ่มบ่ามพลังหายนะของเธอนั้นน่ากลัวเกินไป หากพลาดพลั้งแม้เพียงเล้กน้อย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่เกินจะจินตนาการได้ หลังจากครุ่นคิด เขาก็ร่ายอาคม สร้างเหยี่ยวตัวหนึ่งให้ก่อตัวขึ้น แล้วให้มันบินไปเกี่ยวตัวเด็กหญิงขึ้นมา เตรียมจะพาขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ยังไม่ทันจะบินขึ้น เหยี่ยวกลับสลายตัวไปในพริบตาเย่ซิวลองหาวิธีอื่นอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ ไม่สามารถพาตัวเธอออกไปจากที่นี่ได้เลยเย่ซิวรู้สึกปวดหัวไปหมด เขาจึงตัดสินใจปลอบเด็กหญิงก่อน แล้วโยนอาหารไปให้เธอจากระยะไกลไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธ
เย่ซิวเดินออกจากห้องลับ แล้วพบว่าโลกทั้งใบที่อยู่ตรงหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างดูชัดเจนขึ้น และเต็มไปด้วยสีสันมากขึ้น เฉินหลานเพิ่งกลับมาจากข้างนอก พอเห็นเย่ซิวก็ยิ้มหวานออกมา "สวัสดีค่ะ นายท่าน" เย่ซิวโบกมือไปมา "ต่อไปไม่ต้องเรียกนายท่านแล้ว เรียกว่าท่านเจ้าสำนักเถอะ" เฉินหลานมองเขาด้วยดวงตาชุ่มฉ่ำ ก่อนจะพยักหน้าขานรับอืมเบา ๆเรียกว่าเจ้าสำนักดูจะเป็นกันเองกว่าการเรียกว่านายท่าน "สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?" เย่ซิวถาม "ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ หลังจากจบศึกครั้งนี้ คนในสำนักโอสถก็ยิ่งให้ความไว้วางใจกับพวกเรามากขึ้น งานในด้านอื่น ๆ ก็ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น" "แล้วในระดับนานาชาติล่ะ?" "บรรดาทูตจากนานาชาติมาถึงประเทศหลงเถิงตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ เดิมทีพวกเขาต้องการเริ่มการเจรจาทันที แต่รัฐบาลหลงเถิงกลับจัดเตรียมอาหารเลิศรส และการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจให้พวกเขา โดยให้เหตุผลว่าประเทศของตนให้ความสำคัญกับมารยาทมากที่สุด เมื่อลูกค้ามาเยือนก็ต้องให้การต้อนรับอย่างดี จากนั้นจึงค่อยพูดคุยเรื่องอื่น บรรดาทูตก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยอมเพลิดเพลินไปกับกา
หลังจากที่ฝึกฝนความสามารถใหม่ของร่างกายจนคุ้นเคยแล้ว เย่ซิวก็กลับมาทำการหลอมโอสถต่อมีโอสถอีกหลายประเภทที่ต้องหลอมเช่นโอสถยอดเพชร โอสถต้นกำเนิด โอสถร้อยพิษไม่กล้ำกรายและอื่น ๆนอกจากเตรียมโอสถสำหรับสร้างกองกำลังสุดยอดแล้ว ยังมีบางส่วนที่เย่ซิวตั้งใจจะเตรียมไว้ใช้เอง รวมถึงให้คนใกล้ตัวของเขาหลังจากที่ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ประสิทธิภาพในการหลอมยาก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลอัตราการฟื้นฟูพลังวิญญาณของเขาหลังจากใช้งานก็เร็วขึ้นหลายเท่าตัวสองวันต่อมา ประเทศจ้านส่งสมุนไพรมาเป็นค่าชดเชย ซึ่งถูกใช้ไปแล้วกว่าเก้าหมื่นต้น ผลลัพธ์คือโอสถชนิดต่าง ๆ ถูกหลอมออกมามากกว่าห้าหมื่นเม็ดเมื่อหลอมยาเสร็จ เย่ซิวก็หยุดการหลอม เก็บเตาโอสถกลับไปแล้วหันไปมองผู้หญิงที่อยู่บนเตียงน้ำแข็งทันใดนั้นภาพถ่ายที่พรีเอลล์เคยส่งให้ก็ลอยเข้ามาในความคิดของเขาเธอเคยพูดถึงโซเฟียลูกพี่ลูกน้องของเธอเย่ซิวหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูภาพถ่าย แล้วเดินไปเปรียบเทียบกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ารูปร่างหน้าตาอาจจะแตกต่างกัน แต่บรรยากาศและพลังบางอย่างที่แผ่ออกมานั้นคล้ายกันมากมันให้ความรู้สึกเหมือนประชาชนของมหาอำนาจประเทศหนึ่ง กับคน
ตอนนี้เย่ซิวกำลังหลอมโอสถยอดเพชรโอสถชนิดนี้สามารถเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้น หากรับประทานในปริมาณที่มากพอ อาจทำให้ร่างกายกลายเป็นกายาวัชระได้ ซึ่งเป็นกายาอันแข็งแกร่งที่ได้รับการยอมรับในหมู่พุทธศาสนา นี่คือโอสถที่เย่ซิวเตรียมไว้สำหรับกองกำลังพิเศษในอนาคตของเขา ในเมื่อเป็นกองกำลังระดับสุดยอด ก็ต้องมีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นพลังต่อสู้ การป้องกัน การลอบสังหาร ทุกอย่างต้องอยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบ ไม่สามารถมีจุดอ่อนได้ ภายในเตาหลอมโอสถ ตอนนี้มีโอสถยอดเพชรกว่ายี่สิบเม็ด แต่ท่ามกลางโอสถเหล่านั้น มีอยู่เม็ดหนึ่งที่แตกต่างจากเม็ดอื่นโดยสิ้นเชิง มันเป็นสีขาวบริสุทธิ์และมีแสงสีทองระยิบระยับไหลเวียนอยู่ภายใน ดวงตาของเย่ซิวหดแคบลงทันที นี่มันหรือว่าจะเป็นโอสถกลายพันธุ์ในตำนาน? บางครั้งในการหลอมโอสถ นักปรุงยาอาจพบกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้โอสถเกิดการกลายพันธุ์ขึ้นมา โอสถกลายพันธุ์เหล่านี้ บางครั้งอาจไร้ประโยชน์ หรือร้ายแรงถึงขั้นมีพิษรุนแรง แต่ในบางกรณี มันอาจมีสรรพคุณสูงกว่าโอสถทั่วไปหลายสิบเท่า และในบางครั้งโอสถกลายพันธุ์เหล่านี
นอกจากนี้เย่ซิวยังมีฐานปลูกสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งที่ประเทศหลงเถิง เมื่อรวมกันแล้ว ฐานทั้งสองแห่งสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการหลอมยาได้เป็นจำนวนมหาศาล ต่อไปเมื่อเขาสามารถหลอมยาได้มากพอ ก็จะสามารถใช้โอสถเหล่านั้นสร้างกองกำลังสุดแกร่งขึ้นมาได้ เป็นกองกำลังที่สามารถทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เย่ซิวมีแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังนี้มานานแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มดำเนินการ สำหรับแกนหลักของกองกำลัง เย่ซิววางแผนให้สมาชิกของหน่วยกองกำลังหมาป่าราตรีเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขามีทั้งพลังและประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป เย่ซิวมอบหมายให้หวังซวงเป็นผู้จัดการเรื่องรถถังและทองคำ โดยทองคำบางส่วนจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเสบียงและทรัพยากร ก่อนจะส่งไปให้ถังอวิ้น การพัฒนาของประเทศสุ่ยจือยังคงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องกังวลมากนักก็คือ ประเทศสุ่ยจือมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้าน แนวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ทำให้เป็นปราการธรรมชาติที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ประเทศนี้จะถูกโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ อีกทั้งตอนนี้สภาพของที
เย่ซิวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นการบำเพ็ญที่กินเวลาสองชั่วโมงกว่าจึงเริ่มขึ้น เขายังช่วยหนานกงอวี่แก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างอีกด้วย… หลังจากนั้น หนานกงเสวี่ยก็เสร็จสิ้นงานของวันและกลับมาที่วิลล่า เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองน้องสาวของตัวเองอย่างตำหนิเล็กน้อย ในใจคิดว่า ‘ยายตัวแสบ แอบกินเงียบ ๆ ไม่แบ่งพี่เลยนะ’จากนั้นเธอก็เข้าร่วมการบำเพ็ญตนด้วย พลังของเย่ซิวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็กำลังก้าวเข้าสู่จินตานขั้นสมบูรณ์อย่างมั่นคง เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ เพราะตามที่บันทึกโบราณได้กล่าวไว้ เมื่อไปถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงบางคนจะสามารถเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์และโลกได้พวกเขาสามารถรวบรวมร่างพลังขนาดใหญ่ได้หลายร้อยหรือแม้แต่พันเมตร ดึงพลังของสวรรค์และโลกมาใช้ ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล ถึงขั้นที่เมืองทั้งเมืองอาจไม่สามารถต้านทานได้ ในมือของเขายังมีโอสถเม็ดหนึ่ง ซึ่งได้มาตอนที่ได้รับเตาเพลิงปฐพีมา แต่เขาก็อดกลั้นไว้ ไม่ได้ใช้มัน นี่คือโอสถที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ตอนที่ทะล
พรีเอลล์ถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย เย่ซิวไม่ได้ปฏิเสธเด็ดขาดในทันที นั่นหมายความว่ายังพอมีช่องทางให้เจรจาต่อรองได้ หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก เขาก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานนัก เย่ซิวก็ได้รับรูปภาพหนึ่งทางโทรศัพท์ของเขา เมื่อเปิดดู ดวงตาของเขาหดเล็กลงเล็กน้อย ในภาพเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวที่สวยจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด เธอมีผมสีทองส่องประกายราวกับเปล่งแสงได้ ดวงตาสีฟ้าลึกเหมือนอัญมณีไพลินใบหน้าสวยบริสุทธิ์แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวนเล็กน้อย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากเล็กสีชมพูชวนหลงใหล สิ่งที่ทำให้เย่ซิวรู้สึกสะดุดตาคือออร่าของหญิงสาวในภาพช่างคล้ายกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็ง ทั้งสองมีบรรยากาศที่ดูสูงส่ง ดั่งกำเนิดมาเพื่อเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง มองลงมายังสรรพสิ่งเบื้องล่าง เย่ซิวอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า หรือว่าหญิงสาวทั้งสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?เดิมทีเย่ซิวไม่ได้สนใจอะไรมากเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องที่พรีเอลล์พูดถึง แต่ตอนนี้เขากลับต้องคิดทบทวนใหม่ คงต้องหาโอกาสไปดูให้เห็นกับตา ใต้ภาพ พรีเอลล์ยังทิ้งข้อความไว้ด้วย : “เป็นไงล่ะ? สวยส
"มีอะไรหรือเปล่า?" เย่ซิวกดรับสาย คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น เป็นพรีเอลล์ครั้งก่อนเขาเผลอมองข้ามเธอไป ผู้หญิงคนนี้คงโกรธมากแน่ ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในมุมหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่ง พรีเอลล์มีสีหน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เสียงที่เธอพูดกลับอ่อนหวานเหลือจะกล่าว จนทำให้ผู้ฟังขนลุกชัน "พี่ชายที่รัก ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ คิดถึงมากเลยนะ" เย่ซิวแสยะยิ้มเย็น ถ้าเขาไม่เคยติดต่อกับเธอมาก่อน คงเผลอเชื่อคำพูดของเธอไปแล้ว "พูดมาเถอะ มีธุระอะไร ระหว่างเราไม่ต้องมาเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อม" "จะมีอะไรได้ยังไงล่ะ หรือฉันคิดถึงคุณไม่ได้เหรอ? เราสองคนก็เคยทำแบบนั้นแล้วนี่นา แต่ทำไมคุณถึงยังสงสัยว่าฉันมีแผนอะไรอีกล่ะ เสียใจจังเลย" เย่ซิวแค่นเสียงเยาะที่มุมปาก "งั้นเหรอ ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นผมวางสายแล้วนะ" "เดี๋ยว ๆ ๆ!" เสียงของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นปกติขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด"ไอ้คนไร้รสนิยม! คุณนี่ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงมีผู้หญิงชอบเยอะขนาดนี้แต่ก็เอาเถอะ นี่โทรมานี่ก็เพราะมีเรื่องจะถาม ว่าคุณจะขายหุ่นยนต์ให้ฉันสักสองสามตัวได้ไหม ราคาคุณตั้งมาได้เลย"
เย่ซิวกำหนดเงื่อนไขให้พวกเขาส่งคนมาได้เพียงแค่หนึ่งร้อยคน และอีกฝ่ายก็ตอบตกลง หลังจากจบการสนทนา เย่ซิวกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม พลางจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ความบาดหมางระหว่างเขากับประเทศจ้านคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน เขารู้ดีว่าประเทศนี้เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาตบหน้าพวกนั้นอย่างรุนแรงขนาดนี้ อีกฝ่ายจะต้องหาทางเอาคืนแน่นอน ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้สายการผลิตเร่งสร้างจักรกลมังกรดำอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากสายการผลิตเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ขอแค่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ส่วนที่เหลือก็ให้ระบบจัดการได้เลยด้วยประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบัน สามารถสร้างจักรกลมังกรดำได้วันละสองตัว ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ ต้องเสริมแนวป้องกันบริเวณพรมแดนทุกจุด และต้องรับสมัครผู้ควบคุมหุ่นยนต์เพิ่มอีก ยังต้องเตรียมรับมือกับมาตรการทางทหารจากอำนาจอื่น ๆ รอบตัว แต่โชคดีที่ตอนนี้เขามีคนเก่งอยู่ในทีมเยอะขึ้นแล้ว ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแค่ออกคำสั่งก็พอ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากที่นี่และตรงไปหาหยางถิงถิงที่กำลังทำงานสร้างถนน สาวน้อยคนนี้ดูอารมณ์เสีย หงุดหงิดไม่น้อย