ทันใดนั้น สีหน้าของเย่ซิวก็เปลี่ยนไปที่ใต้โต๊ะขาของหูเม่ยเอ๋อร์ยื่นไปข้างหน้าและกำลังถูไถไปมาบนขาของเขาเบา ๆ แต่ใบหน้าเธอกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเย่ซิวใช้สายตาบอกให้เธออย่าทำตัวล้ำเส้นแต่หูเม่ยเอ๋อร์กลับกระพริบตาอย่างไร้เดียงสาเธอแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร และเท้าของเธอกลับถูแรงมากยิ่งขึ้นในตอนแรก เธอใช้แค่ปลายรองเท้า แต่จู่ ๆ เธอก็ถอดรองเท้าออกวันนี้เธอใส่ถุงน่อง เธอค่อย ๆ ถลกขากางเกงของเย่ซิวขึ้นความรู้สึกที่ถุงน่องสัมผัสกับผิวหนังนั้นพิเศษมากเจ้าหน้าที่เหล่านั้นกำลังคำนวณอย่างตั้งอกตั้งใจว่าที่ดินทั้งหมดเป็นราคาเท่าไรไม่มีใครสังเกตการเคลื่อนไหวของพวกเขาทั้งสองที่กำลังเกิดขึ้นใต้โต๊ะเลยหูเม่ยเอ๋อร์รุกหนักมากยิ่งขึ้น เรียวขาสวยคู่นั้นค่อย ๆ ขยับสูงขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่เย่ซิวเตือนเธอหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล เขาจึงยื่นขาออกไปอย่างเด็ดขาดทันใดนั้น เขาก็ใช้ขาทั้งสองข้างกดเท้าของหูเม่ยเอ๋อร์ที่ยื่นเข้ามา ทำเอาเท้าของอีกฝ่ายสั่นไหวเล็กน้อยเธอพยายามใช้แรงดิ้นให้หลุดออกแต่แน่นอนว่าถ้าเทียบในเรื่องพละกำลัง เธอไม่สามารถหลุดพ้นจากการกดของเย่ซิวได
หูเม่ยเอ๋อร์ดิ้นรนอีกครั้งเพื่อพยายามดึงขาของเธอออกมาแต่ก็ยังคงไม่เป็นผลเธอถึงกับรู้สึกหมดหวัง ดวงตาทั้งสองข้างแทบจะกลายเป็นธารน้ำพุที่ไหลออกมา “นี่คุณดูหน่อยสิ…บะ…บางทีอาจจะเป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ ถะ…ถ้าพลาดไป คะ…คงไม่ดีแน่”โชคดีที่เจ้าหน้าเหล่านั้นกำลังตั้งใจทำงาน ไม่อย่างนั้นการกระทำของทั้งสองคนคงถูกจับได้ไปแล้วเย่ซิวแกล้งเธออยู่สักพัก จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความที่เธอส่งมา‘นายน้อยฉันผิดไปแล้ว ต่อไปฉันจะไม่ทำอีกแล้ว คุณช่วยปล่อยฉันไปเถอะนะ?’ผู้หญิงที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลส่งข้อความมาด้วยถ้อยคำแบบนี้ หากเป็นผู้ชายทั่วไปย่อมต้านทานไม่ไหว แม้แต่เหล็กที่แข็งแกร่งก็ต้องโอนอ่อนเป็นขี้ผึ้งถูกลนไฟเย่ซิวหัวเราะ เขาคิดว่าลงโทษเธอสักเล็กน้อยก็พอ ไม่ได้ตั้งใจให้เธอขายหน้าต่อหน้าสาธารณชนจริง ๆ เขาจึงยอมปล่อยเท้าของเธอหูเม่ยเอ๋อร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอรีบใส่รองเท้าให้เร็วที่สุดเธอสูดหายใจลึก ๆ สองสามครั้ง รอยแดงบนใบหน้าก็จางหายไปอย่างรวดเร็วเธอมองเย่ซิวด้วยสายตาโหดเหี้ยม จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์อีกครั้งไม่นาน เย่ซิวก็ได้รับข้อความจากเธออีกครั้ง‘นายน้อย
เย่ซิวรู้สึกงงงัน “เธอเป็นอะไร? ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงร้องไห้?”หลิวเมิ่งอิ๋นร้องไห้ดังมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินคำถามของเขา “พี่ไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไร?”“แฟน? ฉันไม่มีแฟนนะ”“แล้วรอยลิปสติกบนหน้าพี่มันหมายความว่าอะไร ?” หลิ่วเมิ่งอิ๋นพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ”ในเมื่อพี่มีแฟนแล้ว เพื่อไม่ให้เธอเข้าใจผิด ฉันจะไปเอง ไปตอนนี้เลย”พูดจบ เธอก็หันกลับเข้าไปในห้องแล้วเก็บกระเป๋าเย่ซิวหัวเราะ แล้วเดินตามเข้าไป เขาจับมือเล็ก ๆ ของเธอ“แล้วเธอจะไปที่ไหน? คืนนี้ฉันไปดื่มเหล้ากับเพื่อนมาน่ะ เธอเมามาก จากนั้นก็…”เมื่ออธิบายเรื่องราวโดยพอสังเขป หลิวเมิ่งอิ๋นก็ทำท่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “จริงเหรอ? นี่พี่ไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?”เย่ซิวพยักหน้า “จริงสิ ถ้าเธอไม่เชื่อฉันจะพาเธอไปดู”เธอจูงมือของหลิ่วเมิ่งอิ๋นไปห้องที่หลิ่วอวี้เอ๋อร์นอนหลับ เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า ทำเอาสองคนที่อยู่หน้าประตูยืนนิ่งทันทีหลังจากดื่มเหล้าเข้าไป หลิ่วอวี้เอ๋อร์รู้สึกไม่สบายตัวไปทั้งตัวและรู้สึกร้อนรุ่มดังนั้นเธอจึงเปิดผ้าห่ม ก้าวลงจากเตียงและกำลังถอดเสื้อผ้า
เย่ซิวมีร่างกายที่ทนทานต่อพิษทุกชนิดมาโดยตลอดเมื่อสัตว์พวกนั้นเห็นเย่ซิว พวกมันต่างก็หลบหนีไปไกล เมื่อพวกมันสัมผัสได้ว่า เขาสามารถทนทานต่อพิษทุกชนิดได้เมื่อเข้าไปในป่าลึกได้ชั่วโมงกว่า แม้ว่าเย่ซิวจะยังไม่พบดอกบัวสีเลือด แต่เขาก็ได้พบสมุนไพรที่ค่อนข้างหายากบางชนิดเฉกเช่น โสมที่มีอายุมากกว่าห้าสิบปีโสมที่มีอายุห้าสิบปีนี้สามารถบำรุงพลังงานและเลือดของจอมยุทธได้ดีทีเดียวนอกจากนั้นยังมีเห็ดหลินจืออีกหลายดอกที่มีอายุร่วมสามสิบปีถึงสี่สิบปีเขาเข้าไปในป่าที่ลึกยิ่งขึ้น หลังจากผ่านไปราว ๆ สองชั่วโมง เย่ซิวก็หยุดพักเขาดับไฟฉายลงเมื่อเขาใช้กำลังภายในหมุนเวียนไปที่ดวงตา วิสัยทัศน์ของเขาก็ขยายออกอย่างรวดเร็วทันทีเขามองเห็นถ้ำอยู่ห่างออกไปราว ๆ สองพันเมตรและที่ปากถ้ำมีดอกบัวสีเลือดกำลังพลิ้วไหวตามลม!เย่ซิวรู้สึกตื่นเต้นขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าดอกบัวสีเลือดมีอยู่จริง และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ถูกเก็บไปยิ่งไปกว่านั้น จากที่เขามองเห็น ดอกบัวสีเลือดต้นนี้มีอายุยาวนานมาก น่าจะมีอายุราว ๆ เจ็ดสิบถึงแปดสิบปีเครื่องยาสมุนไพรที่มีอายุเท่านี้ถึงจะเป็นชนิดธรรมดา แต่พลังยาในตัวก็ไม่ได้ด
เธอคิดอยากจะวิ่งหนีไปแต่ร่างกายกลับไม่ฟัง เธอไม่สามารถขยับตัวได้เลยงูเหลือมยักษ์ยังคงเลื้อยอยู่บนภูเขา มันแค่ใช้สายตาที่เย็นยะเยือกมองไปที่เธอโดยไม่ได้ทำการโจมตีมันฉลาดเฉลียวมาก มันคิดว่าสาวคนนั้นอาจจะพยายามหลอกล่อให้มันออกจากภูเขา โชคดีที่ความฉลาดของมันนั้นสูง ถ้ามันทำตามสัญชาตญาณของมัน มันอาจจะโจมตีเด็กสาวคนนั้นจนเธอตายก็ได้เย่ซิวไม่ได้เข้าไปช่วยเธอ เขากับเธอไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เขาคงไม่เสี่ยงเพื่อช่วยเด็กสาวที่โง่เง่านั่นหรอก“ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นดอกบัวสีเลือดจริง ๆ ด้วย!”“ฉันนี่เดาถูกจริง ๆ คนแก่นั่นรู้จริง ๆ ว่าดอกบัวเลือดอยู่ที่ไหน!”“รวยแล้ว ฉันจะรวยแล้ว!”ในตอนนี้ เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นก็ดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่งแล้วก็เห็นกลุ่มคนสิบกว่าคนปรากฏตัวขึ้นในนั้นมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง อายุของพวกเขาส่วนใหญ่เกินสามสิบปี และมีสองคนที่อายุหกสิบกว่าปีพวกเขามีอุปกรณ์เต็มตัว พวกเขามองไปที่งูเหลือมยักษ์ด้วยความโลภ“งูเหลือมยักษ์นั่นอย่างน้อยก็ต้องมีอายุสองร้อยปี ทั้งตัวของมันเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติ!” ผู้ชายคนหนึ่งเลียริมฝีปากในขณะที่สายตาแสดงถึงความโลภ“เลือดของงูน
“อ๊าก!”เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังก้องในป่าชายหนึ่งคนถูกงูเหลือมยักษ์กัดขาดครึ่งตัว จากนั้นก็ถูกมันสะบัดออกไปไกลงูเหลือมยักษ์เคลื่อนไหวตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อมันใช้หางฟาดอย่างรุนแรง แรงที่เกิดขึ้นสามารถทำให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ปลิวได้ในชั่วพริบตาจอมยุทธแต่ละคนต้องเผชิญกับงูเหลือมยักษ์ที่บ้าคลั่ง บ้างถูกฟาดจนตาย บ้างถูกเขมือบเข้าลงไปในท้อง เพียงชั่วพริบตาก็เหลือเพียงแค่สองปรมาจารย์เท่านั้นสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาใช้ปืนและอาวุธทั้งหมดที่มีโจมตีอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ทำให้งูเหลือมยักษ์ได้รับบาดเจ็บในระดับหนึ่งแต่นั่นก็ไม่สามารถฆ่ามันให้ตายได้ แต่กลับทำให้มันยิ่งโกรธเกรี้ยวและบ้าคลั่งมากขึ้นเย่ซิวซ่อนตัวอยู่ในที่มืดและคอยเฝ้าดู เขาไม่ได้ใช้โอกาสนี้เข้าไปเก็บดอกบัวหิมะสีเลือด เพราะเพิ่งพบว่ายังมีคนซ่อนตัวอยู่ในที่มืดมุมปากเผยรอยยิ้มที่ไม่ชัดเจน “คิดจ้องจะเล่นงานคนอื่น ไม่คิดว่าตัวเองก็กำลังถูกจ้องเล่นงานหรือยังไงกัน? หึ ๆ”ไม่นานอาวุธของสองปรมาจารย์ที่พกติดตัวมาก็ถูกใช้จนหมด พวกเขาไม่กล้าใช้ร่างกายไปต่อสู้กับงูเหลือมยักษ์บ้าคลั่งนั่น เพราะนั่นจะถือว่าส่งตัวเองไ
พวกเขาไม่คิดจะสู้กับมันโดยตรง แต่กลับนำขวดยาออกจากกระเป๋าและทุ่มลงไปที่ตัวงูเหลือมแทนงูเหลือมยักษ์ส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวด เมื่อบาดแผลสัมผัสกับผงยาก็เกิดการกัดกร่อนและเป็นหนองอย่างรวดเร็วต้นไม้ใหญ่แต่ละต้นถูกมันชนกระเด็นจนเกิดฝุ่นควันฟุ้งกระจายความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากแผ่นดินไหวขนาดเล็กเย่ซิวหยิบหน้ากากหนังมนุษย์ที่พกติดตัวมาสวมไว้บนหน้าเขาเห็นว่างูเหลือมยักษ์ตัวนี้ใกล้จะทนไม่ได้แล้ว ต่อไปคงเป็นตาเขาที่จะต้องลงมือหลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง พร้อมกับเสียงดังสนั่น งูเหลือมยักษ์ก็สิ้นใจลงในที่สุดสาวกของสำนักโอสถส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ แล้วพากันกรูเข้าไปล้อม“งูตัวนี้มีคุณค่าทางยาสูงมาก!”“หากใช้มันมาปรุงเป็นยา บางทีอาจจะทำให้ทุกคนมีอายุยืนยาวขึ้นอีกห้าถึงหกปี!”“พวกแกรีบทำการแยกชิ้นส่วนงูเหลือมตัวนี้ ส่วนฉันจะไปเก็บดอกบัวหิมะสีเลือดนั่น!”…ปู่ของเด็กสาวออกคำสั่ง“เกรงว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่พวกคุณคาดหวังสิครับ”ในตอนนี้ เย่ซิวที่ปลอมตัวก็เดินออกมาอย่างช้า ๆ เมื่อเห็นเย่ซิว สาวกของสำนักโอสถทุกคนต่างก็ทำท่าทางเหมือนเจอศัตรูตัวฉกาจก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่รู้สึ
เมื่อถูกอีกฝ่ายถาม เย่ซิวก็ตอบเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “คุณไม่สมควรที่จะรู้”เด็กสาวรู้สึกโกรธมาก เธอยังอยากจะโต้เขากลับอีกสักหน่อย แต่ก็ถูกอาของเธอปิดปากไว้ก่อนเมื่อสถานการณ์ไม่เป็นใจ ก็ควรยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเชื่อฟังหลังจากที่พวกเขาจากไป เย่ซิวจึงเริ่มผ่าร่างงูเหลือมยักษ์ตัวนี้เริ่มต้นจากเลือดสด ๆ ของมันเย่ซิวใช้มีดกรีดเปิดแผล แล้วดื่มเลือดมันเข้าไปอึกใหญ่ เลือดสดอัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาล เย่ซิวพูดได้อย่างมั่นใจเลยว่า ในทั่วทุกมุมโลก มีเพียงเขาคนเดียวที่ดูดซับพลังงานได้อย่างไม่มีข้อจำกัดหากเป็นคนอื่น ร่างของพวกเขาคงจะระเบิดไปแล้วเย่ซิวใช้พระสูตรราชาแห่งยาอย่างเต็มที่เลือดงูจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ท้องของเขาและค่อย ๆ ย่อยสลายออกไป ส่วนหนึ่งใช้ในการบำรุงร่างกาย อีกส่วนหนึ่งจะถูกแปลงเป็นกำลังภายในร่างของงูเหลือมยักษ์หดตัวลงอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ชัดหลังจากที่เย่ซิวดื่มเลือดของงูเหลือมยักษ์นี้จนหมด กำลังภายในของเขาก็เพิ่มขึ้นประมาณห้าสิบเปอร์เซ็นส่วนความแข็งแกร่งของร่างกายก็เพิ่มขึ้นมากและหัวใจของเขาก็เต้นแรงมากขึ้นด้วยแม้ว่าจะยังไม่สามารถทะลวงพลังยุทธ์ได้ แต่ราก
“นายคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานงั้นเหรอ? ดี งั้นฉันจะคอยดูว่าแกจะไปได้สักกี่น้ำ ทุกหน่วยเตรียมพร้อม ล็อกเป้าหมาย เปิดฉากยิงเต็มกำลัง!”ตูม! ตูม! ตูม!ลูกระเบิดจำนวนมหาศาลถูกยิงออกมาเหมือนพายุที่ถาโถมใส่เย่ซิวอย่างบ้าคลั่งการโจมตีรุนแรงจนยากจะหาคำมาบรรยายในภาพจากห้องควบคุมของทั้งสองฝ่าย ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยเปลวไฟที่ปกคลุมไปทั่วผู้อาวุโสแห่งประเทศหลงเถิงทุบหมัดลงบนแผงควบคุมอย่างแรง “น่ารังเกียจนัก ถ้าพวกเราแข็งแกร่งกว่านี้อีกหน่อย พวกมันจะกล้าท้าทายเราขนาดนี้ได้ยังไง!”เขารู้สึกผิดอย่างมาก คิดว่าเป็นเพราะความอ่อนแอของประเทศที่ทำให้เย่ซิวต้องเสียสละตัวเองเขาจ้องมองหน้าจอที่เต็มไปด้วยเปลวไฟ ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “เจ้าเด็กบ้านี่ต้องรอดกลับมาให้ได้นะ นายคือความหวังของพวกเรา”ผู้อาวุโสรู้ความลับบางอย่างที่คนธรรมดาไม่อาจล่วงรู้เดิมทีเขาตั้งใจจะหาโอกาสเล่าเรื่องนี้ให้เย่ซิวฟัง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก่อนโซโลหัวเราะลั่น “โจมตีไปขนาดนี้ ต่อให้แก…”เขาพูดยังไม่ทันจบก็ต้องหยุดชะงักทันทีเย่ซิวพุ่งออกมาจากจุดศูนย์กลางของการระเบิดพร้อมกับฟาดกระบี่ออกไปคลื่นกระบี่ยาวนับพันเมต
หลังจากเย่ซิวออกมาจากห้องของหยางชิงเสวี่ย เขาก็ตรงไปยังสวนสมุนไพรทันทีจากนั้นก็ไปหาหลี่อวี่ถงและขอให้เธอคัดลอกผลงานวิจัยล่าสุดมาให้เขาชุดหนึ่งจากนั้นก็รีบไปหาถังเขอเข่อต่อช่วงนี้ถังเข่อเข่อกำลังยุ่งอยู่กับการวิจัยเทคโนโลยีต่าง ๆ เลยยังไม่รู้เรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นภายนอกเมื่อเห็นเย่ซิวมา เธอจึงสงสัยเล็กน้อยว่าเกิดอะไรขึ้น?เย่ซิวไม่พูดพร่ำทำเพลง ถามตรง ๆ ทันทีว่า “ตอนนี้คุณสร้างหุ่นยนต์ไปได้กี่ตัวแล้ว? เอาแบบที่ติดอาวุธด้วยนะ”“ตัวที่สามเพิ่งออกจากสายการผลิต ทำไมเหรอ?”“พาผมไปดูหน่อย”เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเย่ซิว ถังเขอเข่อเองก็เริ่มรู้สึกตึงเครียดไปด้วย เธอรีบพาเขาไปยังที่เก็บหุ่นยนต์ทันทีหุ่นยนต์สามตัวสูงสิบกว่าเมตรตั้งตระหง่านอยู่ที่นั่นตัวเกราะถูกพ่นสีดำล้วน มือข้างหนึ่งถือดาบมังกรครองจันทร์ ส่วนมืออีกข้างถือโล่ด้านหลังติดตั้งอาวุธปืนหกกระบอก และที่หัวไหล่ทั้งสองข้างมีส่วนที่นูนขึ้นมาถังเขอเข่ออธิบายว่าส่วนนูนนี้บรรจุโดรนขนาดเล็กสามตัว ซึ่งสามารถใช้ทั้งการสอดแนมและการโจมตีแบบแม่นยำได้ เรียกได้ว่าอาวุธครบครันลยทีเดียวเย่ซิวเก็บหุ่นยนต์ทั้งสามตัวเข้าไปในแหวน
หากเกิดสงครามขึ้น ผลที่ตามมาย่อมยากจะคาดเดาแม้พลังของเย่ซิวในตอนนี้จะแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่หากประเทศเหล่านั้นยิงขีปนาวุธเข้ามาพร้อมกันหมด ลำพังตัวเขาเองคงไม่มีทางสกัดกั้นได้ทั้งหมดแน่นอนเพียงแค่พลาดไปลูกเดียว ก็อาจสร้างความเสียหายมหาศาลแก่ประชาชนในประเทศหากมันตกลงในเมืองใหญ่ ชีวิตของผู้คนนับล้านอาจสูญสิ้นในชั่วพริบตาเย่ซิวยิ้มบาง “จะให้ทำยังไงได้? คงไม่ถึงขั้นปล่อยให้คนจำนวนมากต้องตายไปพร้อมกับผมหรอก”เขาหันกลับมาหาหยางชิงเสวี่ย แล้วยื่นมือออกไป “เอามาสิ”“อะไรเหรอ?”“ของสำคัญที่แสดงถึงตัวตนของผู้นำสำนักเยียนอวี่ อย่าบอกนะว่าไม่มีของแบบนั้น”หยางชิงเสวี่ยพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินไปที่ตู้ จากนั้นก็ก้มลงเปิดมันจากมุมมองของเย่ซิวในตอนนี้ จังหวะที่หยางชิงเสวี่ยก้มตัวลงนั้นทำให้เห็นส่วนโค้งกลมกลึงเขารู้สึกวูบวาบเล็กน้อยจึงเบือนสายตาไปทางอื่นผู้หญิงคนนี้ช่างดึงดูดจนทำให้ใครก็ยากจะถอนตัวจากเธอได้หยางชิงเสวี่ยหยิบเหรียญตราที่ทำจากวัสดุบางอย่างจากตู้แล้วส่งให้เย่ซิวตรานั้นให้สัมผัสอบอุ่น บนพื้นผิวมีตัวอักษรสองตัวสลักไว้ว่า ‘เยียนอวี่’เย่ซิวเก็บตราไว้อย่างระมัดระวัง ก
การจุติจากเปลวเพลิง!ความสามารถนี้คือการที่เย่ซิวสามารถคืนชีพจากเปลวเพลิงได้หลังจากถูกสังหารนับเป็นความสามารถที่เหนือธรรมชาติและทรงพลังถึงขีดสุด ยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่เกิดใหม่ พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้นด้วยข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวคือความสามารถนี้สามารถใช้ได้เพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้นเมื่อเย่ซิวได้รับความสามารถนี้ เขาก็ถึงกับตกตะลึงอยู่พักใหญ่เขาก้มมองหยางชิงเสวี่ยที่ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง ในใจของเขาเริ่มคาดเดาถึงภูมิหลังและตัวตนที่แท้จริงของเธอแต่สำหรับข้อสันนิษฐานนั้น เขาไม่มีทางพิสูจน์ได้ และแม้จะถามเธอ เธอก็คงไม่พูดอะไรอยู่ดีเย่ซิวนั่งขัดสมาธิ ก่อนจะรวบรวมสมาธิ และสำรวจร่างกายหลังจากถูกเปลวไฟเผาผลาญจิตวิญญาณก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในทันทีพลังวิญญาณของเย่ซิวเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลราวกับเป็นผลลัพธ์จากการบำเพ็ญตนอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาหนึ่งถึงสองปีเขาค่อย ๆ ใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับพลังที่เพิ่มขึ้นก่อนจะลืมตาขึ้นช้า ๆหยางชิงเสวี่ยดูเหมือนมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป แต่เย่ซิวอธิบายไม่ได้ว่าเปลี่ยนตรงไหนแต่สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจ
“คุณค่อย ๆ ดูไปก่อนนะ ฉันจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือจะไปรอฉันที่ห้องนอนก็ได้”เธอพูดด้วยน้ำเสียงสงบเหมือนกำลังคุยเรื่องอาหารเย็นว่าจะกินอะไร“คุณไปเถอะ”เย่ซิวตอบก่อนจะตั้งใจอ่านเอกสารทั้งหมด โดยจดจำข้อมูลทุกอย่างลงในสมองสำหรับข้อมูลองค์กรขนาดใหญ่เช่นนี้ หากให้เย่ซิวสร้างขึ้นด้วยตัวเอง คงใช้เวลาอย่างน้อยห้าถึงหกปีกว่าจะสำเร็จได้แต่ชื่นชมว่าอาจารย์เขาช่างยอดเยี่ยมเสียจริง!อีกด้านหนึ่ง หยางชิงเสวี่ยเดินกลับไปที่ห้องนอนก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าสายตาเธอจับจ้องที่ชุดเดรสตัวยาวสีแดงชุดหนึ่งบนเดรสตัวนั้นปักลายหงส์กางปีกโบยบินด้วยด้ายทองอย่างวิจิตรบรรจงหงส์ตัวนั้นดูเหมือนมีชีวิตจริง ๆ ราวกับสามารถโบยบินออกมาจากชุดได้ทุกเมื่อหยางชิงเสวี่ยลูบชุดเดรสนั้นเบา ๆ ภาพความทรงจำบางอย่างปรากฏขึ้นในหัวของเธอ จากนั้นเธอก็หยิบชุดและเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีปกติแล้วหยางชิงเสวี่ยมักจะแต่งตัวอย่างเรียบร้อยและสุภาพเสมอแต่เมื่อเธอปลดพันธนาการออกจากร่างกายแล้ว ความงดงามสมบูรณ์แบบของเธอก็เผยออกมา ต่อให้นางแบบระดับโลกมาอยู่ตรงหน้าเธอก็ยังเทียบไม่ติดเสียงน้ำจากฝักบัวไหลรินลงมาชโลมร่างกายของ
ตอนนี้เย่ซิวกลายเป็นคนดังระดับโลกไปแล้ว ดังยิ่งกว่าดาราระดับนานาชาติหลายเท่าถ้าเขาหันไปทำไลฟ์สด วันเดียวก็คงทำรายได้เป็นหลายร้อยล้านหรืออาจถึงพันล้านเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น เขาจึงเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองก่อนออกจากบ้านเขามาหยุดอยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัย ก่อนจะเงยหน้ามองชื่อสถานที่นั้นและเดินเข้าไปทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีนักศึกษาเดินสวนไปมาขวักไขว่ทุกครั้งที่มาที่นี่ เย่ซิวจะรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเขาเดินไปที่ศาลาพักผ่อนอีกครั้ง และเห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ตรงนั้นที่นี่อาจเป็นสถานที่พิเศษสำหรับหยางชิงเสวี่ย นอกจากเธอแล้วก็มีจวงเสี่ยวหยิงที่เย่ซิวเคยเห็นว่ามาที่นี่เช่นกันเขาเดินเข้าไปในศาลาอย่างไม่รีบร้อนแล้วนั่งลงตรงหน้าเธอหยางชิงเสวี่ยที่กำลังอ่านหนังสือท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบเงยหน้าขึ้นดวงตาที่ใสราวคริสตัลของเธอเหมือนสามารถมองทะลุทุกสิ่งในโลกนี้ได้เธอกะพริบตาเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากสีชมพูจะเผยอขึ้น “ยินดีด้วยที่เข้าสู่ระดับจินตานแล้ว”เย่ซิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ผมเปลี่ยนทั้งรูปร่างและหน้าตา คุณก็ยังจำผมได้อีกเหรอ?”หยางชิงเสวี่ยปิดห
เย่ซิวโทรหาชูตง อวี่เฟยเฟย เสวี่ยเหมย หลัวอีอี แล้วเรียกพวกเธอมาที่บ้านพร้อมหน้ากันอย่างแรก ทุกคนต้องเป็นห่วงกันอยู่แล้ว การได้มาเจอกันและกินข้าวด้วยกัน น่าจะทำให้พวกเธอสบายใจขึ้นอย่างที่สอง เย่ซิวตั้งใจที่จะช่วยยกระดับพลังของพวกเธอทั้งหมดในคราวเดียวหลังวางสาย เขาก็ชี้ไปที่เด็กผู้หญิงที่ดูมีท่าทีเขินอาย ก่อนเอ่ยถามว่า “พวกคุณไม่คิดว่าเธอคล้ายใครบางคนเหรอ?”สาว ๆ ทุกคนหันไปมองเด็กหญิงคนนั้น พอมองชัด ๆ ก็พากันอึ้งไปตาม ๆ กัน“เหมือนจริง ๆ ด้วย”“คล้ายกันตั้งหกเจ็ดส่วนแน่ะ”“นี่ต้องเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเธอแน่ แต่ทำไมถึงไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงเลยนะ”……ระหว่างที่พวกเธอกำลังพูดคุยกัน ประตูวิลล่าก็เปิดออกไป๋อวี้เจี๋ยเดินเข้ามาในชุดกางเกงยีนรัดรูปเธอวางกระเป๋าลงแล้วพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเย่ซิวทันที“คุณไม่เป็นอะไรแล้วก็ดีแล้ว ฉันตกใจแทบแย่ตอนเห็นข่าว…คุณไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นฉันกลัวแค่ไหน”เย่ซิวตบหลังเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ คุณลองดูเธอสิ”เขาชี้ไปที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กไป๋อวี้เจี๋ยหันมองตามนิ้วของเย่ซิวด้วยความสงสัยเมื่อสายตาของทั้งคู่ปร
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!ขณะที่เย่ซิวกำลังจะลงมือจัดการกับพวกคนชั่วเหล่านี้ สายฟ้าหลายสายพลันฟาดลงมาจากท้องฟ้าชิงลงมือก่อนเย่ซิว เจ้าชายเหล่านั้นก็ถูกฟ้าผ่าจนไม่เหลือซากเย่ซิวถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็น "กรรมที่สวรรค์ลิขิตยังพอรอดได้ กรรมที่ก่อเองไม่อาจรอดพ้นกรรม"แม้แต่สวรรค์ก็ทนดูไม่ได้ ต้องลงมือสำเร็จโทษพวกเขาด้วยตัวเองคนเหล่านี้ถูกทำลายจนวิญญาณแตกสลาย ไม่มีแม้แต่โอกาสจะกลับไปเกิดใหม่อีกเย่ซิวไปจากที่นี่ เรื่องหลังจากนี้ไม่ใช่เรื่องของเขาแล้วไม่นานหลังจากที่เขาไป เฟยอวี่ก็ปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อเห็นรอยฟ้าผ่าบนพื้น เธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว มันน่ากลัวเหลือเกินแต่ไม่นานเธอก็เลียริมฝีปาก รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก"ไอ้พวกโง่นี่ถูกฆ่าตาย งั้นตอนนี้ทั้งประเทศอ่ายเหรินก็ไร้ผู้นำแล้วแบบนี้งานของฉันก็ง่ายขึ้นมากฮ่า ๆ เย่ซิวเอ๋ยเย่ซิว ฉันต้องขอบคุณคุณอย่างจริงจังแล้วล่ะ"…… ครืน!เหนือผืนทะเล มีแสงหนึ่งพุ่งผ่านไปด้วยความเร็วสูงเย่ซิวยืนอยู่ที่หัวกระบี่ เด็กสาวสองคนที่อยู่ข้างหลังเขามองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น ความรู้สึกแบบนี้ไม่อาจบรรยายได้เลยเ
ที่นี่กลายเป็นเหมือนนรกบนดินเย่ซิวพุ่งขึ้นมาจากก้นทะเลในตอนนี้เขาดูโทรมมาก เสื้อผ้าที่สวมอยู่ขาดรุ่งริ่ง แถมยังมีบาดแผลทั้งใหญ่และเล็กนับร้อยจุดทั่วร่างนี่เป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมา มันแทบจะทำลายรากฐานของเขาแม้ว่าตอนนี้เขาจะดูสงบมาก แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความอาฆาตและเดือดดาลชนิดที่ยากจะข่มพวกนั้นช่างโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อหากการระเบิดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของพวกเขาเอง อย่างน้อยหนึ่งหรือสองเมืองคงได้กลายเป็นนรกภูมิ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีวิญญาณผู้บริสุทธิ์จำนวนเท่าไหร่โชคดีที่เย่ซิวเพิ่งทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานขั้นกลาง มิฉะนั้นชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอนเขาหยิบน้ำเต้าออกมา แล้วดื่มน้ำพุวิญญาณลงไปรวดเดียวหลายกิโลกรัมร่างกายของเขาฟื้นตัวจากบาดแผลอย่างรวดเร็วแสงของจินตานห้าสีที่สลัว ๆ ในตันเถียน เริ่มกลับมาส่องประกายสดใสอีกครั้งเขาไม่กล้าล่าช้า รีบกลับไปอย่างรวดเร็วเด็กสาวสองคนยังอยู่ที่นั่น เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นเหล่าเจ้าชายได้เริ่มเตรียมแชมเปญเพื่อเฉลิมฉลองแล้วพวกเขาคิดว่าไม่ว่าเย่ซิวจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็คงไม่รอดจากการระเบิดระด