“คุณนอนที่โซฟาไม่สะดวกหรอก นอนที่เตียงเถอะ ผมจะไปนอนที่โซฟาเอง”ดวงตาของเซี่ยซิ่วซิ่วสว่างขึ้นทันที “ขอบคุณมากนะเย่ซิว นายนี่เป็นคนดีจริง ๆ ”จากนั้นเธอก็เดินเขย่งเท้าเข้าไป เธอจุ๊บลงบนแก้มของเย่ซิวเบา ๆ แล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเย่ซิวสัมผัสถึงกลิ่นหอมที่อยู่บนใบหน้าของเขาแล้วยิ้มเขาปิดไฟ แล้วเข้านอนทันทีในขณะที่เซี่ยซิ่วซิ่วกำลังห่มผ้าห่ม หัวใจของเธอยังคงเต้นแรงเธอก้าวเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญ และความคิดต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นในใจของเธอ‘นี่ฉันอยู่ห้องเดียวกับเย่ซิวจริง ๆ เหรอนี่’‘คิดไม่ถึงเลยว่าจะพัฒนาไปเร็วขนาดนี้ ถ้าคืนนี้เขาควบคุมใจไม่ไหว ฉันจะตอบตกลงดีไหม?’ไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไปในความคิดยุ่งเหยิงเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าเธออยู่คนเดียวบนเตียงลูบไล้ร่างกายตัวเอง ก็พบว่าไม่มีอะไรเสียหาย“เห้อ..” เธอถอนหายใจ “หนทางยังอีกยาวไกล สู้ ๆ เข้าไว้นะซิ่วซิ่ว”หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เดินออกมา เธอเห็นเย่ซิวที่ไม่สวมเสื้อกำลังวอร์มร่างกายอยู่กล้ามเนื้อที่แข็งแรงและใบหน้าที่ใสสะอาดนั้นในเวลานี้ มีแสงตะวันสาดส่องลงมาที่เขาภาพนี้ทำให้เซี่ยซิ่วซิ่วคลั่งไคล้จนหัวใจเต้นแรง เธอไม่อาจละสา
ไม่นานก็มาถึงสถานที่จัดงานโดยไม่รู้ตัว รถหยุดลงบอดี้การ์ดรีบลงมาก่อนเพื่อคุ้มครองบริเวณโดยรอบนอกจากนี้ยังมีบางคนที่ครองตำแหน่งผู้นำอย่างรวดเร็ว และมาตรการรักษาความปลอดภัยสามารถพูดได้ว่าเข้มงวดมากหลังจากนั้นหลิ่วอวี้ฝูก็ลงมาจากรถเมื่อลงจากรถ เธอก็เห็นขบวนรถแล่นมาแต่ไกลบอดี้การ์ดจำนวนมากเดินออกมา โดยมีชายหน้าตาน่ากลัวคนหนึ่งเดินเข้ามาดวงตาของหลี่หรูปิงกวาดมองเย่ซิว หลิ่วอวี้ฝูและคนอื่น ๆ อย่างเผด็จการโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสายตาเขามองไปที่เย่ซิว เจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างไม่ปิดบังแต่เมื่อเขามองไปที่หลิ่วอวี้ฝู ใบหน้าก็มีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “นี่น้องหลิ่ว ไม่ได้เจอกันแค่แป๊บเดียว เธอสวยขึ้นมากเลยนะ”หลิ่วอวี้ฝูกลับมามีท่าทีเย็นชา เมื่อเธอต้องเผชิญกับคำพูดของหลี่หรูปิง เธอก็ไม่สนใจที่จะพูดอะไรกับเขาและเพิกเฉยต่อคำพูดเหล่านั้นสีหน้าของหลี่หรูปิงไม่ดีนัก “นี่หลิ่วอวี้ฝู ฉันพูดกับเธออยู่นะ หรือว่าผู้ใหญ่ตระกูลเธอไม่ได้สอนเรื่องมารยาท?”เย่ซิวพูดเสียงเรียบ “มารยาทเอาไว้ใช้กับคน นายก็แค่หมาบ้าตัวหนึ่ง สมควรมีมารยาทด้วยหรือไง?!”โอกาสน้อยมากที่เย่ซิวจะด่าใครสักคน แ
วันนี้หูเม่ยเอ๋อร์สวมชุดกี่เพ้ากรีดยาวถึงเข่าสีเขียวมรกต เผยให้เห็นรูปร่างที่เย้ายวนของเธอ ผมถูกมัดเกล้าเอาไว้ใบหน้าของเธอถูกตกแต่งแบบบางเบา และเสน่ห์อันน่าหลงใหลบนร่างกายของเธอก็ได้รับการพัฒนาจนถึงขั้นสูงสุด เหมือนต้นหลิวพลิ้วไหวตามสายลม สง่างามเป็นอย่างยิ่งทุกการเคลื่อนไหวสุดแสนจะพรรณนาทางด้านของหรูฮว่าเองก็สวมกระโปรงยาวขาว บนกระโปรงมีลวดลายสวยงามมากมายเธอเหมือนสตรีผู้สูงศักดิ์ในสมัยโบราณในแง่ของรูปลักษณ์ เธอด้อยกว่าหูเเม่ยเอ๋อร์เล็กน้อย แต่ในแง่ของออร่าเธอไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยยากที่จะจินตนาการว่าหรูฮว่าซึ่งดูเหมือนผู้หญิงสูงส่ง จริง ๆ แล้วเธอเป็นผู้หญิงที่สามารถชกแผ่นเหล็กได้ด้วยเพียงหมัดเดียว เมื่อสองสาวปรากฏกายออกมา ก็ดึงดูดสายตาผู้ชายในงานทั้งหมดเสียงกลืนน้ำลายดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้แต่หลี่หรูปิงและต๋งอู่ที่มีสาวมากน้อยนับไม่ถ้วนก็ยังใจเต้นจนเลือดของพวกเขาไหลเวียนเร็วมากยิ่งขึ้นเมื่อสองสาวเดินเข้ามา ทุกสายตาจับจ้องมาที่พวกเธอโดยไม่ได้ตั้งใจและเป็นการยากที่จะละสายตาไปจากพวกเธอได้ดวงตาของเย่ซิวเองก็ฉายแววประหลาดใจเช่นกันวันนี้ทั้งสองคนเป็นตัวชูโรงในงาน
เซี่ยซิ่วซิ่วที่อยู่ไม่ไกลดึงแขนเสื้อของเย่ซิว “พวกเราไปช่วยดีไหม?”เย่ซิวส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก พวกเธอทั้งสองคนไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ๆ พวกเธอไม่ต้องการให้เราช่วยหรอก”เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเป็นฮีโร่ช่วยหญิงสาวความสัมพันธ์กับหูเม่ยเอ๋อร์เป็นเพียงความสัมพันธ์ที่แค่ร่วมมือกัน เขาจะไม่เพียงแค่วิ่งไปจะจู่โจมทักทายหรืออะไรทั้งนั้น“หยุดนะ พวกแกจะทำอะไร?!”เสียงอันทรงพลังดังขึ้นในระยะไกลทำเอาบอดี้การ์ดหยุดลงเมื่อหันกลับมาก็เห็นชายที่แข็งแกร่งในชุดทหารเดินเข้ามาหลิ่วอวี้ฝูอธิบายเบา ๆ “ท่านนี้คือบุคคลที่จะรับผิดชอบในการประมูลการจัดหาอาวุธของพวกเรา เขาคือหวังลี่”ต๋งอู่กับหลี่หรูปิงก็สั่งให้บอดี้การ์ดหยุดลงมือทันทีเขายิ้มอย่างจริงใจให้กับหวังลี่ที่เดินเข้ามา เพราะพวกเขาไม่สามารถที่จะรุกรานหวังลี่ได้เมื่อหวังลี่เดินเข้ามา เขาก็ตะคอกอย่างไม่เกรงใจ “นี่พวกนายทำอะไรกัน ไม่รู้หรือไงว่าที่นี่ที่ไหน?!”ทั้งสองคนรีบก้มหน้าลงแล้วกล่าวขอโทษไม่ว่าธุรกิจของพวกเขาจะใหญ่แค่ไหน พวกเขาก็ยังต้องก้มหัวและแกล้งทำเป็นหลานชายต่อหน้าคนในกองทัพ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะต้องรับผลที่ตามมาสีหน้าของหวังลี่
"ฉันจะเสนอหกแสนล้านบาท!"เสียงของหลี่หรูปิงดังและชัดเจน ทันทีที่เปิดปากเขาก็ปล่อยไพ่ตายออกมาทำให้สีหน้าฝั่งคนทางด้านของหลิ่วอวี้ฝูเปลี่ยนไปอย่างมากในครั้งนี้หลิ่วอวี้ฝูเตรียมเงินไว้มากกว่าสี่แสนล้านบาทแม้จะรวมกับเย่ซิวและหูเม่ยเข้าด้วยกัน ก็มีมูลค่าเพียงประมาณสี่แสนแปดหมื่นล้านเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสได้พูด คนอื่น ๆ ก็ถูกกดลงไปหมดแล้วเมื่อมองดูใบหน้าของหลิ่วอวี้ฝู เย่ซิวก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เขาจึงถามเธออย่างไม่ต้องสงสัย “มีอะไรผิดปกติเหรอ? เพราะเงินไม่เพียงพอใช่ไหม?”คนเช่นตระกูลหลี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และเย่ซิวไม่ต้องการให้พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่หากหลิ่วอวี้ฝูมีเงินไม่เพียงพอจริง ๆ เขาอาจจะต้องใช้เงินขององค์กรปัจจุบันองค์กรนั้นมีเงินในบัญชีมากกว่าหนึ่งล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นเงินกองทุนฉุกเฉินเขาจะไม่ใช้มันเว้นแต่ว่าจะจำเป็นหลิ่วอวี้ฝูส่ายหัว “โชคดีที่ฉันเตรียมตัวมาดี ฉันมีญาติที่ทำงานในธนาคาร ฉันก็เลยใช้สินทรัพย์คุณภาพสูงบางส่วนเป็นหลักประกันในกรณีฉุกเฉินเธอหันมองไปที่หวังลี่แล้วพูดว่า “หกแสนห้าหมื่นล้านบาท”ดูเหมือนเธอจ
หลี่หรูปิงหัวเราะลั่น เขามองเย่ซิวด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “ไอ้โง่ แกรู้ไหมว่าเงินแปดแสนล้านมันเป็นยังไง? แกมีเงินมากขนาดนั้นเลยหรือยังไงถึงได้กล้าเสนอเงินมั่ว ๆ แบบนั้น!”ต่งอู่พูดเสริม “ที่นี่ไม่มีที่ให้คนกระจอกอย่างนายพูด หุบปากไปซะ!”เย่ซิวเพิกเฉยต่อสุนัขบ้าสองตัวนี้และแสดงข้อมูลธุรกรรมบนโทรศัพท์ให้หลิ่วอวี้ฝูดูหลิ่วอวี้ฝูเหลือบมองอย่างไม่ใส่ใจ และทันใดนั้นเธอก็เบิกตากว้าง พลางโน้มตัวลงดู ใบหน้าแทบจะฝังเข้าไปในหน้าจอโทรศัพท์ของเย่ซิวอยู่แล้วเลขศูนย์ติดกันเป็นพืดจนเธอไม่อยากจะเชื่อเธอนับหลายครั้งติดต่อกันเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้นับผิด สายตาของเธอที่จ้องมองเย่ซิวเต็มไปด้วยประกายแวววาว“พี่เย่ นี่เรื่องจริงใช่ไหม?”เย่ซิวพยักหน้ายิ้มทันใดนั้น หลิ่วอวี้ฝูก็ยืดอกขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงพละกำลังที่เต็มเปี่ยม เธอมองไปที่หวังลี่ด้วยสายตาที่แน่วแน่ “แปดแสนล้าน!”หวังลี่เหลือบมองเย่ซิว เจ้าหมอนี่มีความสามารถมากขนาดนั้นเลยหรือ?อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดอะไรและเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยแต่หลี่หรูปิงและต่งอู่โต้ตอบอย่างรุนแรง"เป็นไปไม่ได้!" หลี่หรูปิงทุบโต๊ะ “นี่เธอจะบอกว่าไอ้โง่นั่นหาเง
บรรยากาศภายในห้องตึงเครียดมาก หลี่หรูปิงและต่งอู่หยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าอย่างต่อเนื่อง“เก้าแสนเก้าหมื่นห้าพันล้านบาท!”หลี่หรูปิงเสนอตัวเลขอีกครั้งและจ้องไปที่หลิ่วอวี้ฝูด้วยสายตาแน่วแน่ในทางกลับกัน หลิ่วอวี้ฝูหันมองไปที่เย่ซิวอย่างสงสัยเงินที่ใช้ตอนนี้เป็นของเย่ซิว ดังนั้น จะประมูลต่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเขาเย่ซิวพยักหน้าให้หญิงสาวหลิ่วอวี้ฝูรู้สึกโล่งใจและเสนอราคาต่อไป“เก้าแสนเก้าหมื่นหกพันล้านบาท!”หลี่หรูปิงกัดฟันกรอดและจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาที่อยากจะฉีกเขาออกเป็นชิ้น ๆ “ไอ้สารเลวนั่นให้เงินเธอไปเท่าไหร่กันวะ!”เขาควรจะชนะตั้งนานแล้ว!แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้เพราะเย่ซิวสถานการณ์เช่นนี้เขาอาจจะพ่ายแพ้ได้ในฉากนี้มีเพียงเย่ซิวคนเดียวที่ดูสงบนิ่งเขากำลังดื่มชาและเล่นโทรศัพท์มือถือ เขาดูผ่อนคลายมากท่าทางสงบเสงี่ยมของเขาทำให้หลี่หรูปิงและต่งอู่ต่างกังวลว่าเขาจะดึงเงินทุนออกมาได้มากแค่ไหนเย่ซิวไม่ได้ตั้งใจจะแสดงให้พวกเขาเห็น เขาไม่ได้รีบร้อนจริง ๆเขาสามารถเพิ่มเดิมพันกับพวกเขาต่อไปได้เรื่อย ๆสำหรับวิธีอุดรอยรั่วทางการขาดดุลนั้น
อย่างไรก็ตาม นามสกุลของลูกพี่ลูกน้องของเธอคือหลิ่วเช่นกันก่อนอื่น เธอจะต้องผูดมัดเขาไว้ก่อน!เมื่อเธอโตขึ้น เธอจะแย่งเย่ซิวไปจากลูกพี่ลูกน้องของเธอ หรือผู้หญิงสองคนจะรับใช้สามีคนเดียวด้วยกันก็ย่อมได้ท้ายที่สุดแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรในประเทศหลงเถิงแม้ประเทศนี้มีข้อบังคับว่าจะต้องมีคู่สมรสเพียงคนเดียว แต่ตราบใดที่ผู้ชายมีความสามารถก็มีภรรยาหลายคนได้ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา เซี่ยซิ่วซิ่วก็เป็นคนแรกที่รู้สึกกังวลหูเม่ยเอ๋อร์และหรูฮว่าได้มุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร จู่ ๆ ในใจของพวกเธอก็มีร่องรอยของความรู้สึกกังวลผุดขึ้นมา กลัวว่าเย่ซิวจะเห็นด้วยเย่ซิวยิ้มพลางส่ายหัว “ไม่จำเป็นหรอก”หลิ่วอวี้ฝูรู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เมื่อสบโอกาสเธอจะโทรเรียกลูกพี่ลูกน้องของเธอ หากเย่ซิวได้เห็นเธอ บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจในเมื่อทุกอย่างได้รับการจัดการแล้ว หลี่หรูปิงและต่งอู่ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกหวังลี่เชิญทั้งสองคนออกไปก่อนจะเดินออกไป ทั้งสองหนุ่มก็มองเย่ซิวด้วยความแค้นเห็นได้ชัดว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยเย่ซิ่วไปและจะหาทา
นอกจากนี้เย่ซิวยังมีฐานปลูกสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งที่ประเทศหลงเถิง เมื่อรวมกันแล้ว ฐานทั้งสองแห่งสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการหลอมยาได้เป็นจำนวนมหาศาล ต่อไปเมื่อเขาสามารถหลอมยาได้มากพอ ก็จะสามารถใช้โอสถเหล่านั้นสร้างกองกำลังสุดแกร่งขึ้นมาได้ เป็นกองกำลังที่สามารถทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เย่ซิวมีแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังนี้มานานแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มดำเนินการ สำหรับแกนหลักของกองกำลัง เย่ซิววางแผนให้สมาชิกของหน่วยกองกำลังหมาป่าราตรีเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขามีทั้งพลังและประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป เย่ซิวมอบหมายให้หวังซวงเป็นผู้จัดการเรื่องรถถังและทองคำ โดยทองคำบางส่วนจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเสบียงและทรัพยากร ก่อนจะส่งไปให้ถังอวิ้น การพัฒนาของประเทศสุ่ยจือยังคงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องกังวลมากนักก็คือ ประเทศสุ่ยจือมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้าน แนวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ทำให้เป็นปราการธรรมชาติที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ประเทศนี้จะถูกโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ อีกทั้งตอนนี้สภาพของที
เย่ซิวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นการบำเพ็ญที่กินเวลาสองชั่วโมงกว่าจึงเริ่มขึ้น เขายังช่วยหนานกงอวี่แก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างอีกด้วย… หลังจากนั้น หนานกงเสวี่ยก็เสร็จสิ้นงานของวันและกลับมาที่วิลล่า เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองน้องสาวของตัวเองอย่างตำหนิเล็กน้อย ในใจคิดว่า ‘ยายตัวแสบ แอบกินเงียบ ๆ ไม่แบ่งพี่เลยนะ’จากนั้นเธอก็เข้าร่วมการบำเพ็ญตนด้วย พลังของเย่ซิวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็กำลังก้าวเข้าสู่จินตานขั้นสมบูรณ์อย่างมั่นคง เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ เพราะตามที่บันทึกโบราณได้กล่าวไว้ เมื่อไปถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงบางคนจะสามารถเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์และโลกได้พวกเขาสามารถรวบรวมร่างพลังขนาดใหญ่ได้หลายร้อยหรือแม้แต่พันเมตร ดึงพลังของสวรรค์และโลกมาใช้ ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล ถึงขั้นที่เมืองทั้งเมืองอาจไม่สามารถต้านทานได้ ในมือของเขายังมีโอสถเม็ดหนึ่ง ซึ่งได้มาตอนที่ได้รับเตาเพลิงปฐพีมา แต่เขาก็อดกลั้นไว้ ไม่ได้ใช้มัน นี่คือโอสถที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ตอนที่ทะล
พรีเอลล์ถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย เย่ซิวไม่ได้ปฏิเสธเด็ดขาดในทันที นั่นหมายความว่ายังพอมีช่องทางให้เจรจาต่อรองได้ หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก เขาก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานนัก เย่ซิวก็ได้รับรูปภาพหนึ่งทางโทรศัพท์ของเขา เมื่อเปิดดู ดวงตาของเขาหดเล็กลงเล็กน้อย ในภาพเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวที่สวยจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด เธอมีผมสีทองส่องประกายราวกับเปล่งแสงได้ ดวงตาสีฟ้าลึกเหมือนอัญมณีไพลินใบหน้าสวยบริสุทธิ์แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวนเล็กน้อย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากเล็กสีชมพูชวนหลงใหล สิ่งที่ทำให้เย่ซิวรู้สึกสะดุดตาคือออร่าของหญิงสาวในภาพช่างคล้ายกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็ง ทั้งสองมีบรรยากาศที่ดูสูงส่ง ดั่งกำเนิดมาเพื่อเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง มองลงมายังสรรพสิ่งเบื้องล่าง เย่ซิวอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า หรือว่าหญิงสาวทั้งสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?เดิมทีเย่ซิวไม่ได้สนใจอะไรมากเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องที่พรีเอลล์พูดถึง แต่ตอนนี้เขากลับต้องคิดทบทวนใหม่ คงต้องหาโอกาสไปดูให้เห็นกับตา ใต้ภาพ พรีเอลล์ยังทิ้งข้อความไว้ด้วย : “เป็นไงล่ะ? สวยส
"มีอะไรหรือเปล่า?" เย่ซิวกดรับสาย คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น เป็นพรีเอลล์ครั้งก่อนเขาเผลอมองข้ามเธอไป ผู้หญิงคนนี้คงโกรธมากแน่ ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในมุมหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่ง พรีเอลล์มีสีหน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เสียงที่เธอพูดกลับอ่อนหวานเหลือจะกล่าว จนทำให้ผู้ฟังขนลุกชัน "พี่ชายที่รัก ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ คิดถึงมากเลยนะ" เย่ซิวแสยะยิ้มเย็น ถ้าเขาไม่เคยติดต่อกับเธอมาก่อน คงเผลอเชื่อคำพูดของเธอไปแล้ว "พูดมาเถอะ มีธุระอะไร ระหว่างเราไม่ต้องมาเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อม" "จะมีอะไรได้ยังไงล่ะ หรือฉันคิดถึงคุณไม่ได้เหรอ? เราสองคนก็เคยทำแบบนั้นแล้วนี่นา แต่ทำไมคุณถึงยังสงสัยว่าฉันมีแผนอะไรอีกล่ะ เสียใจจังเลย" เย่ซิวแค่นเสียงเยาะที่มุมปาก "งั้นเหรอ ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นผมวางสายแล้วนะ" "เดี๋ยว ๆ ๆ!" เสียงของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นปกติขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด"ไอ้คนไร้รสนิยม! คุณนี่ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงมีผู้หญิงชอบเยอะขนาดนี้แต่ก็เอาเถอะ นี่โทรมานี่ก็เพราะมีเรื่องจะถาม ว่าคุณจะขายหุ่นยนต์ให้ฉันสักสองสามตัวได้ไหม ราคาคุณตั้งมาได้เลย"
เย่ซิวกำหนดเงื่อนไขให้พวกเขาส่งคนมาได้เพียงแค่หนึ่งร้อยคน และอีกฝ่ายก็ตอบตกลง หลังจากจบการสนทนา เย่ซิวกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม พลางจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ความบาดหมางระหว่างเขากับประเทศจ้านคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน เขารู้ดีว่าประเทศนี้เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาตบหน้าพวกนั้นอย่างรุนแรงขนาดนี้ อีกฝ่ายจะต้องหาทางเอาคืนแน่นอน ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้สายการผลิตเร่งสร้างจักรกลมังกรดำอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากสายการผลิตเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ขอแค่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ส่วนที่เหลือก็ให้ระบบจัดการได้เลยด้วยประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบัน สามารถสร้างจักรกลมังกรดำได้วันละสองตัว ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ ต้องเสริมแนวป้องกันบริเวณพรมแดนทุกจุด และต้องรับสมัครผู้ควบคุมหุ่นยนต์เพิ่มอีก ยังต้องเตรียมรับมือกับมาตรการทางทหารจากอำนาจอื่น ๆ รอบตัว แต่โชคดีที่ตอนนี้เขามีคนเก่งอยู่ในทีมเยอะขึ้นแล้ว ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแค่ออกคำสั่งก็พอ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากที่นี่และตรงไปหาหยางถิงถิงที่กำลังทำงานสร้างถนน สาวน้อยคนนี้ดูอารมณ์เสีย หงุดหงิดไม่น้อย
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เทคโนโลยีของหุ่นยนต์ก็ไม่ใช่ว่าจะถ่ายโอนไม่ได้""แต่เรื่องแบบนี้ พวกเราควรมานั่งคุยกันให้ละเอียดเสียก่อน""อีกสองวันเป็นวันดี ผมขอเชิญทุกท่านมาหารืออย่างจริงจังดีไหม?"แน่นอนว่าเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ไม่มีทางถูกส่งมอบให้พวกเขา นี่เป็นเพียงแค่กลยุทธ์ถ่วงเวลาเท่านั้นตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเย่ซิวหรือประเทศหลงเถิง ต่างก็ต้องการเวลาเย่ซิวต้องการเวลาเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดประเทศหลงเถิงเองก็ต้องการเวลาในการผลิตหุ่นยนต์ในปริมาณมากเช่นกันเมื่อถึงตอนนั้น หากพวกเขาเปิดตัวหุ่นยนต์เป็นพัน ๆ ตัว พวกโจรเหล่านี้ก็จะถอยไปเองผู้นำแต่ละประเทศที่เข้าร่วมประชุมเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น มีไม่น้อยที่ถึงกับแสดงรอยยิ้มออกมาประเทศหลงเถิงเป็นที่รู้กันดีว่ามักจะแข็งกร้าวเมื่อพูดถึงผลประโยชน์หลักของตนเองแต่ตอนนี้พวกเขากลับยอมผ่อนปรน ทุกคนจึงคิดว่ามีโอกาสที่ข้อตกลงนี้จะเป็นไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตอบตกลงกันทั้งหมดหลังจากนั้น การประชุมทางวิดีโอที่ทั่วโลกจับตามองก็สิ้นสุดลงด้านของเย่ซิว ขณะเดียวกันก็ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจ้านชายผู้นั้นเป็นชายร่างใหญ่ มีหนวด
คำพูดดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหลักการอันสูงส่ง แต่ความจริงแล้วมันเป็นการปล้นดี ๆ นี่เอง ผู้นำประเทศหลงเถิงตั้งแต่ต้นจนจบยังคงรักษาท่าทีนิ่งสงบไม่มีแม้แต่แววความไม่พอใจบนใบหน้า จนกระทั่งพวกเขาพูดจบ เขาถึงได้พูดขึ้นมาช้า ๆ ว่า "ทุกท่านคิดว่าตอนนี้ประเทศหลงเถิงของเราผลิตหุ่นยนต์ไปแล้วกี่ตัว?" ทันทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาทั้งที่ประชุมก็เงียบกริบ ใช่สิ พวกเขามัวแต่รีบร้อนเกินไป ในหัวมีเพียงความคิดเดียวคือต้องรีบช่วงชิงเทคโนโลยีของจักรกลมังกรดำมาให้ได้เร็วที่สุด แต่พวกเขากลับไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้เลย เมื่อถูกเตือนขึ้นมาแบบนี้ หลายคนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลังเหงื่อเย็นไหลซึมออกมาไม่หยุด ประเทศหลงเถิงสามารถมอบจักรกลมังกรดำถึงสิบสามตัวให้เย่ซิว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องมีสต๊อกอีกจำนวนมากเท่าไหร่?พวกเขาต่างก็เห็นพลังของจักรกลมังกรดำกันหมดแล้ว เพียงแค่สิบสามตัวก็สามารถทำลายล้างกองกำลังหลักของมหาอำนาจได้ ถ้าหากประเทศหลงเถิงมีจำนวนมากกว่านี้ ประเทศขนาดกลางและขนาดเล็กบางประเทศอาจถูกกวาดล้างจนหายไปจากแผนที่ได้เลย!เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศเล็กคนหนึ่งปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วถามขึ้น
เย่ซิวรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางของหนานกงเสวี่ยเขาจึงฟาดฝ่ามือลงไปหนัก ๆ หนึ่งที "เวลานี้แล้วยังมาคิดเรื่องพวกนี้อีก แถมเธอยังเป็นกษัตริย์ด้วยระวังภาพลักษณ์ของตัวเองหน่อยสิ" หนานกงเสวี่ยมองเขาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายราวกับน้ำใส "แล้วมันจะเป็นอะไรไปล่ะ? ยังไงทุกคนที่นี่ก็เป็นพวกเดียวกัน อีกอย่างก็ฉันดีใจนี่นา" ตอนนี้เธออยู่ในอารมณ์ที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เธอลอบดีใจที่ตอนนั้นตัดสินใจยอมรับเย่ซิวซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดในชีวิต เธอสามารถมองเห็นอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของประเทศปิงจือได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากประชาชนของประเทศปิงจือได้เห็นกษัตริย์ของพวกเขาทำตัวแบบนี้กับเย่ซิว เกรงว่าหลายคนคงรับไม่ได้ เฉินหลานกลับไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะในสายตาของเธอเย่ซิวคือบุคคลในตำนาน เป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง ท้ายที่สุด เย่ซิวก็ไม่ได้ทำตามที่หนานกงเสวี่ยคาดหวัง เขาให้เธอกลับไปประจำการก่อนเพื่อไม่ให้ทางนั้นเกิดปัญหา หนานกงเสวี่ยเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียดาย แต่พอเย่ซิวบอกกับเธอว่า"เดี๋ยวฉันจัดการธุระเสร็จแล้วจะไปหาเธอ" หญิงสาวก็กลับมายิ้มดีใจอีกครั้งหุ่นยนต์ทั้งสิบสามต
เครื่องบินห้าลำพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง การยิงถล่มอย่างรุนแรงทำให้เครื่องบินรบถูกสอยร่วงลงทีละลำ ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เสียงระเบิดดังกึกก้องต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพลิงไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทั่วแนวชายแดน กองทัพอัคคีแดงซึ่งเคยเป็นที่ขนานนามว่าเป็นกองทัพไร้เทียมทาน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง พากันล่าถอยอย่างอลหม่าน ทว่าระหว่างการล่าถอย พวกเขากลับถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล กระทิงคลั่งคำรามเสียงดัง ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันมหึมายิ่งขยายใหญ่ขึ้น เขาคำรามพลางพุ่งเข้าไปในห้องบัญชาการ สกัดกั้นแม่ทัพพยัคฆ์ขาวที่กำลังคิดจะหลบหนี การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น แม้ว่าแม่ทัพพยัคฆ์ขาวจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับกระทิงคลั่งแล้ว ยังถือว่าอ่อนด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพียงไม่กี่นาที เขาก็ถูกกระทิงคลั่งจับตัวได้ อย่างไรก็ตาม กระทิงคลั่งไม่ได้สังหารเขา แต่คว้าตัวแม่ทัพพยัคฆ์ขาวเอาไว้ หลบหลีกการโจมตีจากปืนใหญ่และระเบิด ก่อนจะพากลับไปยังค่ายของฝ่ายตน เพราะหมอนี่ถือเป็นตัวประกันที่มีค่ามาก และจะเป็นหม