“คุณนอนที่โซฟาไม่สะดวกหรอก นอนที่เตียงเถอะ ผมจะไปนอนที่โซฟาเอง”ดวงตาของเซี่ยซิ่วซิ่วสว่างขึ้นทันที “ขอบคุณมากนะเย่ซิว นายนี่เป็นคนดีจริง ๆ ”จากนั้นเธอก็เดินเขย่งเท้าเข้าไป เธอจุ๊บลงบนแก้มของเย่ซิวเบา ๆ แล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเย่ซิวสัมผัสถึงกลิ่นหอมที่อยู่บนใบหน้าของเขาแล้วยิ้มเขาปิดไฟ แล้วเข้านอนทันทีในขณะที่เซี่ยซิ่วซิ่วกำลังห่มผ้าห่ม หัวใจของเธอยังคงเต้นแรงเธอก้าวเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญ และความคิดต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นในใจของเธอ‘นี่ฉันอยู่ห้องเดียวกับเย่ซิวจริง ๆ เหรอนี่’‘คิดไม่ถึงเลยว่าจะพัฒนาไปเร็วขนาดนี้ ถ้าคืนนี้เขาควบคุมใจไม่ไหว ฉันจะตอบตกลงดีไหม?’ไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไปในความคิดยุ่งเหยิงเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าเธออยู่คนเดียวบนเตียงลูบไล้ร่างกายตัวเอง ก็พบว่าไม่มีอะไรเสียหาย“เห้อ..” เธอถอนหายใจ “หนทางยังอีกยาวไกล สู้ ๆ เข้าไว้นะซิ่วซิ่ว”หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เดินออกมา เธอเห็นเย่ซิวที่ไม่สวมเสื้อกำลังวอร์มร่างกายอยู่กล้ามเนื้อที่แข็งแรงและใบหน้าที่ใสสะอาดนั้นในเวลานี้ มีแสงตะวันสาดส่องลงมาที่เขาภาพนี้ทำให้เซี่ยซิ่วซิ่วคลั่งไคล้จนหัวใจเต้นแรง เธอไม่อาจละสา
ไม่นานก็มาถึงสถานที่จัดงานโดยไม่รู้ตัว รถหยุดลงบอดี้การ์ดรีบลงมาก่อนเพื่อคุ้มครองบริเวณโดยรอบนอกจากนี้ยังมีบางคนที่ครองตำแหน่งผู้นำอย่างรวดเร็ว และมาตรการรักษาความปลอดภัยสามารถพูดได้ว่าเข้มงวดมากหลังจากนั้นหลิ่วอวี้ฝูก็ลงมาจากรถเมื่อลงจากรถ เธอก็เห็นขบวนรถแล่นมาแต่ไกลบอดี้การ์ดจำนวนมากเดินออกมา โดยมีชายหน้าตาน่ากลัวคนหนึ่งเดินเข้ามาดวงตาของหลี่หรูปิงกวาดมองเย่ซิว หลิ่วอวี้ฝูและคนอื่น ๆ อย่างเผด็จการโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสายตาเขามองไปที่เย่ซิว เจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างไม่ปิดบังแต่เมื่อเขามองไปที่หลิ่วอวี้ฝู ใบหน้าก็มีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “นี่น้องหลิ่ว ไม่ได้เจอกันแค่แป๊บเดียว เธอสวยขึ้นมากเลยนะ”หลิ่วอวี้ฝูกลับมามีท่าทีเย็นชา เมื่อเธอต้องเผชิญกับคำพูดของหลี่หรูปิง เธอก็ไม่สนใจที่จะพูดอะไรกับเขาและเพิกเฉยต่อคำพูดเหล่านั้นสีหน้าของหลี่หรูปิงไม่ดีนัก “นี่หลิ่วอวี้ฝู ฉันพูดกับเธออยู่นะ หรือว่าผู้ใหญ่ตระกูลเธอไม่ได้สอนเรื่องมารยาท?”เย่ซิวพูดเสียงเรียบ “มารยาทเอาไว้ใช้กับคน นายก็แค่หมาบ้าตัวหนึ่ง สมควรมีมารยาทด้วยหรือไง?!”โอกาสน้อยมากที่เย่ซิวจะด่าใครสักคน แ
วันนี้หูเม่ยเอ๋อร์สวมชุดกี่เพ้ากรีดยาวถึงเข่าสีเขียวมรกต เผยให้เห็นรูปร่างที่เย้ายวนของเธอ ผมถูกมัดเกล้าเอาไว้ใบหน้าของเธอถูกตกแต่งแบบบางเบา และเสน่ห์อันน่าหลงใหลบนร่างกายของเธอก็ได้รับการพัฒนาจนถึงขั้นสูงสุด เหมือนต้นหลิวพลิ้วไหวตามสายลม สง่างามเป็นอย่างยิ่งทุกการเคลื่อนไหวสุดแสนจะพรรณนาทางด้านของหรูฮว่าเองก็สวมกระโปรงยาวขาว บนกระโปรงมีลวดลายสวยงามมากมายเธอเหมือนสตรีผู้สูงศักดิ์ในสมัยโบราณในแง่ของรูปลักษณ์ เธอด้อยกว่าหูเเม่ยเอ๋อร์เล็กน้อย แต่ในแง่ของออร่าเธอไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยยากที่จะจินตนาการว่าหรูฮว่าซึ่งดูเหมือนผู้หญิงสูงส่ง จริง ๆ แล้วเธอเป็นผู้หญิงที่สามารถชกแผ่นเหล็กได้ด้วยเพียงหมัดเดียว เมื่อสองสาวปรากฏกายออกมา ก็ดึงดูดสายตาผู้ชายในงานทั้งหมดเสียงกลืนน้ำลายดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้แต่หลี่หรูปิงและต๋งอู่ที่มีสาวมากน้อยนับไม่ถ้วนก็ยังใจเต้นจนเลือดของพวกเขาไหลเวียนเร็วมากยิ่งขึ้นเมื่อสองสาวเดินเข้ามา ทุกสายตาจับจ้องมาที่พวกเธอโดยไม่ได้ตั้งใจและเป็นการยากที่จะละสายตาไปจากพวกเธอได้ดวงตาของเย่ซิวเองก็ฉายแววประหลาดใจเช่นกันวันนี้ทั้งสองคนเป็นตัวชูโรงในงาน
เซี่ยซิ่วซิ่วที่อยู่ไม่ไกลดึงแขนเสื้อของเย่ซิว “พวกเราไปช่วยดีไหม?”เย่ซิวส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก พวกเธอทั้งสองคนไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ๆ พวกเธอไม่ต้องการให้เราช่วยหรอก”เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเป็นฮีโร่ช่วยหญิงสาวความสัมพันธ์กับหูเม่ยเอ๋อร์เป็นเพียงความสัมพันธ์ที่แค่ร่วมมือกัน เขาจะไม่เพียงแค่วิ่งไปจะจู่โจมทักทายหรืออะไรทั้งนั้น“หยุดนะ พวกแกจะทำอะไร?!”เสียงอันทรงพลังดังขึ้นในระยะไกลทำเอาบอดี้การ์ดหยุดลงเมื่อหันกลับมาก็เห็นชายที่แข็งแกร่งในชุดทหารเดินเข้ามาหลิ่วอวี้ฝูอธิบายเบา ๆ “ท่านนี้คือบุคคลที่จะรับผิดชอบในการประมูลการจัดหาอาวุธของพวกเรา เขาคือหวังลี่”ต๋งอู่กับหลี่หรูปิงก็สั่งให้บอดี้การ์ดหยุดลงมือทันทีเขายิ้มอย่างจริงใจให้กับหวังลี่ที่เดินเข้ามา เพราะพวกเขาไม่สามารถที่จะรุกรานหวังลี่ได้เมื่อหวังลี่เดินเข้ามา เขาก็ตะคอกอย่างไม่เกรงใจ “นี่พวกนายทำอะไรกัน ไม่รู้หรือไงว่าที่นี่ที่ไหน?!”ทั้งสองคนรีบก้มหน้าลงแล้วกล่าวขอโทษไม่ว่าธุรกิจของพวกเขาจะใหญ่แค่ไหน พวกเขาก็ยังต้องก้มหัวและแกล้งทำเป็นหลานชายต่อหน้าคนในกองทัพ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะต้องรับผลที่ตามมาสีหน้าของหวังลี่
"ฉันจะเสนอหกแสนล้านบาท!"เสียงของหลี่หรูปิงดังและชัดเจน ทันทีที่เปิดปากเขาก็ปล่อยไพ่ตายออกมาทำให้สีหน้าฝั่งคนทางด้านของหลิ่วอวี้ฝูเปลี่ยนไปอย่างมากในครั้งนี้หลิ่วอวี้ฝูเตรียมเงินไว้มากกว่าสี่แสนล้านบาทแม้จะรวมกับเย่ซิวและหูเม่ยเข้าด้วยกัน ก็มีมูลค่าเพียงประมาณสี่แสนแปดหมื่นล้านเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสได้พูด คนอื่น ๆ ก็ถูกกดลงไปหมดแล้วเมื่อมองดูใบหน้าของหลิ่วอวี้ฝู เย่ซิวก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เขาจึงถามเธออย่างไม่ต้องสงสัย “มีอะไรผิดปกติเหรอ? เพราะเงินไม่เพียงพอใช่ไหม?”คนเช่นตระกูลหลี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และเย่ซิวไม่ต้องการให้พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่หากหลิ่วอวี้ฝูมีเงินไม่เพียงพอจริง ๆ เขาอาจจะต้องใช้เงินขององค์กรปัจจุบันองค์กรนั้นมีเงินในบัญชีมากกว่าหนึ่งล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นเงินกองทุนฉุกเฉินเขาจะไม่ใช้มันเว้นแต่ว่าจะจำเป็นหลิ่วอวี้ฝูส่ายหัว “โชคดีที่ฉันเตรียมตัวมาดี ฉันมีญาติที่ทำงานในธนาคาร ฉันก็เลยใช้สินทรัพย์คุณภาพสูงบางส่วนเป็นหลักประกันในกรณีฉุกเฉินเธอหันมองไปที่หวังลี่แล้วพูดว่า “หกแสนห้าหมื่นล้านบาท”ดูเหมือนเธอจ
หลี่หรูปิงหัวเราะลั่น เขามองเย่ซิวด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “ไอ้โง่ แกรู้ไหมว่าเงินแปดแสนล้านมันเป็นยังไง? แกมีเงินมากขนาดนั้นเลยหรือยังไงถึงได้กล้าเสนอเงินมั่ว ๆ แบบนั้น!”ต่งอู่พูดเสริม “ที่นี่ไม่มีที่ให้คนกระจอกอย่างนายพูด หุบปากไปซะ!”เย่ซิวเพิกเฉยต่อสุนัขบ้าสองตัวนี้และแสดงข้อมูลธุรกรรมบนโทรศัพท์ให้หลิ่วอวี้ฝูดูหลิ่วอวี้ฝูเหลือบมองอย่างไม่ใส่ใจ และทันใดนั้นเธอก็เบิกตากว้าง พลางโน้มตัวลงดู ใบหน้าแทบจะฝังเข้าไปในหน้าจอโทรศัพท์ของเย่ซิวอยู่แล้วเลขศูนย์ติดกันเป็นพืดจนเธอไม่อยากจะเชื่อเธอนับหลายครั้งติดต่อกันเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้นับผิด สายตาของเธอที่จ้องมองเย่ซิวเต็มไปด้วยประกายแวววาว“พี่เย่ นี่เรื่องจริงใช่ไหม?”เย่ซิวพยักหน้ายิ้มทันใดนั้น หลิ่วอวี้ฝูก็ยืดอกขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงพละกำลังที่เต็มเปี่ยม เธอมองไปที่หวังลี่ด้วยสายตาที่แน่วแน่ “แปดแสนล้าน!”หวังลี่เหลือบมองเย่ซิว เจ้าหมอนี่มีความสามารถมากขนาดนั้นเลยหรือ?อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดอะไรและเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยแต่หลี่หรูปิงและต่งอู่โต้ตอบอย่างรุนแรง"เป็นไปไม่ได้!" หลี่หรูปิงทุบโต๊ะ “นี่เธอจะบอกว่าไอ้โง่นั่นหาเง
บรรยากาศภายในห้องตึงเครียดมาก หลี่หรูปิงและต่งอู่หยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าอย่างต่อเนื่อง“เก้าแสนเก้าหมื่นห้าพันล้านบาท!”หลี่หรูปิงเสนอตัวเลขอีกครั้งและจ้องไปที่หลิ่วอวี้ฝูด้วยสายตาแน่วแน่ในทางกลับกัน หลิ่วอวี้ฝูหันมองไปที่เย่ซิวอย่างสงสัยเงินที่ใช้ตอนนี้เป็นของเย่ซิว ดังนั้น จะประมูลต่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเขาเย่ซิวพยักหน้าให้หญิงสาวหลิ่วอวี้ฝูรู้สึกโล่งใจและเสนอราคาต่อไป“เก้าแสนเก้าหมื่นหกพันล้านบาท!”หลี่หรูปิงกัดฟันกรอดและจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาที่อยากจะฉีกเขาออกเป็นชิ้น ๆ “ไอ้สารเลวนั่นให้เงินเธอไปเท่าไหร่กันวะ!”เขาควรจะชนะตั้งนานแล้ว!แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้เพราะเย่ซิวสถานการณ์เช่นนี้เขาอาจจะพ่ายแพ้ได้ในฉากนี้มีเพียงเย่ซิวคนเดียวที่ดูสงบนิ่งเขากำลังดื่มชาและเล่นโทรศัพท์มือถือ เขาดูผ่อนคลายมากท่าทางสงบเสงี่ยมของเขาทำให้หลี่หรูปิงและต่งอู่ต่างกังวลว่าเขาจะดึงเงินทุนออกมาได้มากแค่ไหนเย่ซิวไม่ได้ตั้งใจจะแสดงให้พวกเขาเห็น เขาไม่ได้รีบร้อนจริง ๆเขาสามารถเพิ่มเดิมพันกับพวกเขาต่อไปได้เรื่อย ๆสำหรับวิธีอุดรอยรั่วทางการขาดดุลนั้น
อย่างไรก็ตาม นามสกุลของลูกพี่ลูกน้องของเธอคือหลิ่วเช่นกันก่อนอื่น เธอจะต้องผูดมัดเขาไว้ก่อน!เมื่อเธอโตขึ้น เธอจะแย่งเย่ซิวไปจากลูกพี่ลูกน้องของเธอ หรือผู้หญิงสองคนจะรับใช้สามีคนเดียวด้วยกันก็ย่อมได้ท้ายที่สุดแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรในประเทศหลงเถิงแม้ประเทศนี้มีข้อบังคับว่าจะต้องมีคู่สมรสเพียงคนเดียว แต่ตราบใดที่ผู้ชายมีความสามารถก็มีภรรยาหลายคนได้ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา เซี่ยซิ่วซิ่วก็เป็นคนแรกที่รู้สึกกังวลหูเม่ยเอ๋อร์และหรูฮว่าได้มุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร จู่ ๆ ในใจของพวกเธอก็มีร่องรอยของความรู้สึกกังวลผุดขึ้นมา กลัวว่าเย่ซิวจะเห็นด้วยเย่ซิวยิ้มพลางส่ายหัว “ไม่จำเป็นหรอก”หลิ่วอวี้ฝูรู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เมื่อสบโอกาสเธอจะโทรเรียกลูกพี่ลูกน้องของเธอ หากเย่ซิวได้เห็นเธอ บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจในเมื่อทุกอย่างได้รับการจัดการแล้ว หลี่หรูปิงและต่งอู่ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกหวังลี่เชิญทั้งสองคนออกไปก่อนจะเดินออกไป ทั้งสองหนุ่มก็มองเย่ซิวด้วยความแค้นเห็นได้ชัดว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยเย่ซิ่วไปและจะหาทา
ชายคนนั้นมีท่าทีไม่เชื่ออย่างแรง “อย่ามาหลอกฉัน ถ้าเจ้าอาวาสไม่ออกมา ฉันก็ไม่ไป และวัดนี้ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมากราบไหว้อีก!”นักพรตหนุ่มรู้สึกทั้งโกรธและหมดหนทาง เมื่อเจอกับคนที่มีพลังแข็งแกร่งและเล่นไม่ซื่อแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้จะรับมือยังไง“เฮ้ พวกเธอสองคน ไสหัวไปซะ!”ชายคนนั้นมองเย่ซิวกับน่าหลันเยียนหรานด้วยสายตาดุดันดั่งสิงโตที่กำลังคำราม ดูน่ากลัวเป็นอย่างมากนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้ผู้คนที่มาไหว้พระพากันหนีไปหมดเย่ซิวเอ่ยเรียบ ๆ “นี่เป็นที่สาธารณะ ทำไมผมต้องไปด้วย?”ชายคนนั้นแสยะยิ้ม “ไอ้หนู คิดจะโชว์แมนต่อหน้าแฟนหรือไง? อยากโดนฉันสั่งสอนใช่ไหม!”พูดจบ พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกมาจากร่างของเขามีเพียงผู้ที่ผ่านสมรภูมิความเป็นความตายอันโหดร้ายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นที่จะสามารถแผ่กลิ่นอายอันน่ากลัวเช่นนี้ออกมาน่าหลันเยียนหรานตัวสั่นเทิ้ม ขนลุกไปทั้งร่างชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วแต่ในวินาทีนั้นเย่ซิวก็ยื่นมือใหญ่ที่อบอุ่นและแข็งแรงมาจับมือเล็ก ๆ ของเธอไว้ เธอรู้สึกสงบลง ก่อนจะมองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาขอบคุณนักพรตหนุ่มรีบวิ่งลงมาหาเย่ซิวพร้อมเตือนด้วยความกังวล “โย
คนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่เกลียดชังคนรวยเหมือนกับตอนนี้ที่แม้น่าหลันเยียนหรานเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเห็นได้ชัดแต่เพียงเพราะเธอขับรถหรูและใส่เสื้อผ้าราคาแพง คนรอบข้างจึงคิดว่าเป็นความผิดของเธอเหตุการณ์แบบนี้ที่แสดงถึงความเกลียดชังคนรวยมีให้เห็นทั่วไปขณะที่น่าหลันเยียนหรานไม่รู้จะทำอย่างไรดี เย่ซิวก็ปรากฏตัวขึ้นมายืนขวางหน้าเธอไว้น่าหลันเยียนหรานยิ้มด้วยความดีใจ “คุณเย่มาที่นี่ได้ยังไงคะ”“ผ่านมาแถวนี้พอดี” เย่ซิวมองหญิงชราที่นอนขวางรถของน่าหลันเยียนหราน แล้วเอ่ยเรียบ ๆ “ลุกขึ้น แล้วไสหัวไปซะ!”หญิงชรายิ้มเยาะ “อะไร พวกเธอสองคนรวมหัวกันจะรังแกคนแก่เหรอ หน้าไม่อาย ถ้าฉันไม่ลุกพวกเธอจะทำอะไรฉันได้!”คนที่ไม่รู้จักอายมักจะได้เปรียบเสมอเย่ซิวจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เปล่งประกายแล้วตวาดใส่หญิงชราคนนั้น “มองฉัน!”หญิงชราหันมามองตาของเย่ซิวโดยไม่ทันรู้ตัวตึง!สมองของเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ ราวกับสติหายไปชั่วคราวเย่ซิวมองเธอ “บอกมาว่าทำไมถึงคิดจะหลอกคนอื่น”หญิงชราเผยความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว“ฉันเล่นไพ่นกกระจอกจนเสียเงินค่าใช้จ่ายสำหรับทั้งปีไป กลัวสามีจะด่าก็เลยคิดจะหลอกเอาเงินจากค
“พี่เป็นคนดีจริง ๆ ฉันรักพี่ที่สุดเลย”จวงเสี่ยงหยิงดีใจจนกระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าเย่ซิว“พอแล้ว” เย่ซิวกดไหล่เธอลง “ผู้หญิงไม่ควรกระโดดโลดเต้นต่อหน้าผู้ชายแบบนี้ จะเสียเปรียบเอานะ”จวงเสี่ยงหยิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง ใบหน้าเธอแดงก่ำ ก่อนจะเอ่ยด้วยความเขินอาย “พี่นี่ลามกจริง ๆ เลย คราวหน้าฉันจะกระโดดแค่ต่อหน้าพี่แค่คนเดียวดีไหมคะ?”จวงเสี่ยงหยิงเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ยังตูมรอวันผลิบาน แผ่กลิ่นอายแห่งความสดใสและเยาว์วัยออกมาทุกอณูการได้อยู่กับสาวน้อยแบบนี้ทำให้จิตใจพลอยสดชื่นไปด้วยถ้าไม่ติดว่ายังมีเรื่องรอให้ทำอีกมากมาย เย่ซิวคงจะอยู่กับเธอนานกว่านี้หน่อยหลังจากออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว เย่ซิวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาอารามเต๋าภายในประเทศตอนนี้เขาอยู่ในขั้นสูงของการสร้างรากฐานปราณ อีกไม่นานก็จะถึงขั้นสมบูรณ์ เขาต้องเริ่มเตรียมตัวสำหรับการบ่มเพาะจินตานแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำคือหาวิธีการบ่มเพาะจินตานปัจจุบัน อารามเต๋าในประเทศที่มีอายุมากกว่าร้อยปีนั้นมีอยู่ไม่กี่แห่งเย่ซิวค้นเจออารามเต๋าห้าแห่ง หนึ่งในนั้นมีอยู่ที่เมืองหลวงและระยะทางก็ไม่ไกลมากเมื่อค้นเจอต
เย่ซิวชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะหันกลับมา “ว่าไงครับ?”หยางชิงเสวี่ยเม้มปากเล็กน้อย ดวงตางดงามจับจ้องไปยังเย่ซิวที่ยืนอย่างองอาจ “คุณต้องเร่งบำเพ็ญตนให้มากขึ้น แล้วรีบทะลวงให้ถึงระดับจินตานให้เร็วที่สุด ถึงตอนนั้น…”ประโยคหลังจากนั้นเธอไม่ได้พูดออกมา แต่แค่ขยับริมฝีปากเท่านั้นเย่ซิวเข้าใจอย่างชัดเจน จึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากหยางชิงเสวี่ยมีร่างกายที่พิเศษ และต้องรอให้เย่ซิวทะลวงระดับจินตานเสียก่อนจึงจะสามารถมีสัมพันธ์กับเธอได้นี่เป็นกฎที่อาจารย์ของเขากำหนดไว้เมื่อถึงเวลาที่เขาสมหวังกับหยางชิงเสวี่ย เขาจะได้รับพลังพิเศษที่แข็งแกร่งมากเย่ซิวกลับไปที่ศาลา ก่อนจะหยิบจี้หยกสองชิ้นออกมา แล้วสวมให้เธอด้วยมือของเขาเองทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนกลิ่นอายความแข็งแกร่งของเขาแผ่ซ่านเข้ามาจนสัมผัสได้หยางชิงเสวี่ยรู้สึกเหมือนร่างกายถูกจุดไฟ รู้สึกอ่อนแรงและใบหน้าก็แดงระเรื่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจากนั้นเย่ซิวก็คว้ามือเล็กอ่อนนุ่มของเธอไว้ ก่อนจะสวมแหวนลงบนนิ้วของเธอสองวง แล้วบอกวิธีใช้ให้เธอฟัง“ของพวกนี้ล้ำค่าเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”หยางชิงเสวี่ยส่ายหน้า พยายามจะถอดออก“ไม่เป็นไร ของพว
ชีวิตของเธอในตอนนี้เรียบง่ายมากบางครั้งก็เรียน บางครั้งก็ไปฝึกงานที่บริษัท ชีวิตดูเต็มไปด้วยคุณค่าและมีความหมายมากเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ “มาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”สายตาของเขามองไปที่ศาลาตรงนั้นมีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้ากำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจมองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยไร้ที่ติ ทำให้คนใจเต้นแรงแม้เพียงพบเห็น แต่ก็ไม่กล้าคิดลามกกับเธอเธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียวดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงสายตาของเย่ซิว เธอจึงหันมองมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยกมุมปากยิ้มบางเย่ซิวยิ้มตอบจวงเสี่ยวหยิงยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวง “ที่แท้ก็ไม่ได้มองแค่ฉันนี่นา”เย่ซิวหัวเราะ “เด็กน้อย ยังจะหึงอีกนะ ไปซื้อน้ำให้ฉันหน่อยสิ”“ค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงยู่ปากแต่ก็เดินออกไปอย่างว่าง่ายเย่ซิวเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงตรงหน้าชิงเสวี่ยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “คุณรู้จักที่มาที่ไปของคุณลี่หรือเปล่า?”ชิงเสวี่ยวางหนังสือลง มองเย่ซิวด้วยดวงตากลมโต พลางส่ายหัวเบา ๆ “ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ”เย่ซิวจ้องมองเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้รู้ว่าเธอไม
ต่อจากนี้จะเป็นการบรรยายยาวกว่าหนึ่งแสนคำครั้งที่แล้วเย่ซิวเป็นฝ่ายเริ่มบำเพ็ญตนกับหลินโหรวก่อนแต่ครั้งนี้หลินโหรวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน สรุปง่าย ๆ เลยสามคำ เธอเก่งมากคงเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอยู่กับสาวผมเหลืองก่อนหน้านี้“ผมต้องไปแล้ว” เย่ซิวจิบเครื่องดื่มพลางเอ่ยกับหลินโหรวหลินโหรวปาดเหงื่อหอมบนหน้าผาก พลางมองเย่ซิวด้วยสายตาอ่อนหวาน “ฉัน…พอจะเป็นแฟนคุณได้ไหม?”เย่ซิวใช้นิ้วเชยคางขาวเนียนของเธอขึ้น แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือเปล่าล่ะ?”สายตาของหลินโหรวหม่นลงในทันที ใช่แล้ว ตอนนี้เธอไม่คู่ควรกับเขาจริง ๆแต่เธอก็รีบกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง “ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะทำตัวเหลวไหลไปหน่อย แต่จากนี้ไป ฉันจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น”“อืม ความสามารถของเธอก็ไม่เลวนะ” เย่ซิวพยักหน้า “ตอนนี้คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”“ยังค่ะ”เย่ซิวเกิดความคิดหนึ่งขึ้น เขาเอ่ยกับเธอว่า “ผมจะลงทุนให้คุณห้าพันล้าน ไปตั้งบริษัทการจัดการระหว่างประเทศสักแห่ง แล้วดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีมเยอะ ๆ”หลินโหรวทำหน้าจริงจัง “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ห้าพันล้านนี้จะทำกำไรให้คุณสิบเท่า ยี่สิ
ยาที่อยู่ในมือเธอหล่นลงบนพื้นทันที “นายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง!”เย่ซิวเดินตรงเข้าไปหาเธอด้วยสีหน้าเย็นชา “พูดมาว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอมาเล่นงานฉัน”“เล่นงานนาย? หมายความว่าไง?”สีหน้าของสาวผมทองดูไม่เหมือนคนโกหก นั่นหมายความว่าเธอเพียงแค่ถูกใครบางคนใช้เงินจ้างมาเท่านั้นเย่ซิวจึงเปลี่ยนวิธีถาม “ใครเป็นคนให้ยานี้กับเธอ หน้าตาเป็นยังไง?”“ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร” สาวผมทองพยายามปฏิเสธสุดกำลังเย่ซิวคว้าคอเธอไว้แล้วค่อย ๆ ยกขึ้นสาวผมทองดิ้นรนสุดชีวิต ดวงตาเบิกโพลง ลิ้นยื่นออกมายาวความรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นมาจับใจเธอ ผู้ชายที่ดูหล่อเหลาจนน่าตะลึงคนนี้กล้าฆ่าเธอจริง!“ฉัน…ยอมบอกแล้ว…”ปึก!เย่ซิวโยนเธอลงกับพื้นแล้วนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะถือโอกาสหยิบยาขึ้นมาสาวผมทองไออย่างหนัก เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอก อยู่ ๆ เขาก็มาหาฉัน ให้เงินมาก้อนหนึ่ง แล้วบอกให้ฉันเอายาให้หลินโหรว…แค่นั้นแหละ”“หน้าตาเขาเป็นยังไง?”“ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัด เขาใส่เสื้อโค้ตสีดำ สวมหน้ากาก ยานี้เขาให้มาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว”เย่ซิ
“เสี่ยวโหรว อย่าไปเลยนะ ได้ไหม?”“ปล่อยฉันนะ ตอนนั้นเธอเป็นคนบอกเลิกฉันเอง แล้วตอนนี้กลับมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก!”“ตอนนั้นฉันเองที่เสียสติ แต่หลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าขาดเธอไม่ได้จริง ๆ”“หึหึ ตอนนั้นฉันพยายามมากแค่ไหนเพื่อรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ใจแข็งใส่ฉัน ตอนนี้ต่อให้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”“เสี่ยวโหรว ฉันรู้นะว่าเธอยังรักฉันอยู่”“เพ้อเจ้อ! ตอนนี้ฉันหันมาชอบผู้ชายแบบปกติแล้ว และเธอก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉันอีก!”……มีสาวสวยสองคนกำลังทะเลาะกันบนถนนคนหนึ่งย้อมผมสีเหลือง ใส่เสื้อเอวลอย ทรวดทรงเย้ายวนอีกคนสวมเดรสยาวสีขาวกับรองเท้าผ้าใบ ดูสะอาดบริสุทธิ์ฝูงชนที่มุงดูพลอยเข้าใจเรื่องราวจากบทสนทนาของทั้งคู่ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายที่แท้สองคนนี้ก็เป็นหญิงรักหญิง ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงลุกโชนขึ้นมาทันทีเย่ซิวเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเธอที่นี่อีกครั้งอดีตแฟนสาวหรือแฟนหนุ่มของหลินโหรวยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่หลินโหรวนั้นเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวไม่มีความหยิ่งยโสและอวดดีเหมือนแต่ก่อน กลับดูอ่อนโยนขึ้นมากดูเหมือนว่า ‘การปรับเปลี่ยน’ ของเขาในตอนนั้นจะได้
เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำแล้วจะดูโปร่งแสงเล็กน้อย ดังนั้นถังเขอเข่อในตอนนี้จึงดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูกถังเขอเข่อกอดอกตัวเองไว้ด้วยความอับอายและหงุดหงิด “อย่ามองสิ หันหลังไปเลยนะ ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ก็เลยต้องใส่ชุดเดิมนี่แหละ”เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “มานี่ เดี๋ยวผมช่วยทำให้เสื้อผ้าคุณแห้งเอง”“ไม่เอา…”เธอกลับถอยหลังไปอีกสองสามก้าว เธอรู้ดีว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ จะส่งผลต่อผู้ชายมากแค่ไหนเธอกลัวว่าเย่ซิวจะควบคุมตัวเองไม่ไหว แล้วก็…เย่ซิวชูมือขึ้นแล้วส่งพลังดูดมหาศาลออกมาใส่ถังเขอเข่อ“กรี๊ด!” ถังเขอเข่อร้องเสียงหลง ร่างกายของเธอลอยลิ่วเข้ามาหาเย่ซิวอย่างไม่ตั้งใจ เธอดิ้นไปมาพลางกรีดร้องไม่หยุด “ปล่อยนะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำตามใจหรอก ฉันยังไม่เคยมีแฟนเลย ไม่ได้นะ…เอ๊ะ ทำไมอุ่นจัง”ในขณะที่กำลังดิ้นพล่าน ถังเขอเข่อก็หยุดทันที ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความสงสัย สถานการณ์ดูไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลยสักนิด เย่ซิวเพียงแค่ปล่อยพลังไฟออกมาเบา ๆ เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของเธอแห้งเท่านั้นเอง“นี่มันอะไรน่ะ?!” ถังเขอเข่อตกใจจนพูดไม่ออก “มายากลเหรอ?”