เย่ซิวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรหลิ่วอวี้ฝูสั่งผู้ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บนำตัวผู้บาดเจ็บในวิลล่าไปรับการรักษาและจัดระบบรักษาความปลอดภัยใหม่……อีกด้านหนึ่งที่ตระกูลหลี่เพล้ง!“ไอ้พวกขยะ!”หลี่หรูปิงคำรามออกมาเสียงดังขณะปาข้าวของลูกน้องที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต่างก้มหน้าลงและไม่กล้าพูดอะไรออกมา“พวกแกมีกองกำลังตั้งเยอะแต่กลับฆ่าพวกมันไม่ได้ พวกแกจะยังมีประโยชน์อะไรอีก!”หลี่หรูปิงโกรธจนถึงขีดสุด ครั้งนี้เรียกได้ว่าสูญเสียเป็นอย่างมากเขาขาดทุนมากมายมหาศาลเพราะจอมยุทธเหล่านั้นที่ถูกเย่ซิ่วฆ่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว พวกเขามีพี่ชาย น้องสาวหรือญาติของตัวเองแต่พวกเขาตายเพื่อหลี่หรูปิงมีความสมเหตุสมผลที่จะจัดให้มีเงินบำนาญ เนื่องจากครั้งนี้สูญเสียจอมยุทธไปเป็นจำนวนมาก อย่างน้อยก็ต้องจ่ายเงินถึงพันล้านหลังจากระบายความโกรธแล้ว เขาก็ถามอย่างเย็นชา “สืบได้หรือยังว่าคนที่ติดตามหลิ่วอวี้ฝูมามันเป็นใคร?!”ชายคนหนึ่งตอบขึ้นว่า “เป็นผู้ชายที่ชื่อว่าเย่ซิวครับ ในเมืองเจียงเฉิงมีบริษัทที่เรียกว่าบริษัทสตาร์รี่สกาย ว่ากันว่าเขาเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับสามดูเหมือนว่าเขาจะเชี่ยวชาญวิ
“คุณนอนที่โซฟาไม่สะดวกหรอก นอนที่เตียงเถอะ ผมจะไปนอนที่โซฟาเอง”ดวงตาของเซี่ยซิ่วซิ่วสว่างขึ้นทันที “ขอบคุณมากนะเย่ซิว นายนี่เป็นคนดีจริง ๆ ”จากนั้นเธอก็เดินเขย่งเท้าเข้าไป เธอจุ๊บลงบนแก้มของเย่ซิวเบา ๆ แล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเย่ซิวสัมผัสถึงกลิ่นหอมที่อยู่บนใบหน้าของเขาแล้วยิ้มเขาปิดไฟ แล้วเข้านอนทันทีในขณะที่เซี่ยซิ่วซิ่วกำลังห่มผ้าห่ม หัวใจของเธอยังคงเต้นแรงเธอก้าวเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญ และความคิดต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นในใจของเธอ‘นี่ฉันอยู่ห้องเดียวกับเย่ซิวจริง ๆ เหรอนี่’‘คิดไม่ถึงเลยว่าจะพัฒนาไปเร็วขนาดนี้ ถ้าคืนนี้เขาควบคุมใจไม่ไหว ฉันจะตอบตกลงดีไหม?’ไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไปในความคิดยุ่งเหยิงเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าเธออยู่คนเดียวบนเตียงลูบไล้ร่างกายตัวเอง ก็พบว่าไม่มีอะไรเสียหาย“เห้อ..” เธอถอนหายใจ “หนทางยังอีกยาวไกล สู้ ๆ เข้าไว้นะซิ่วซิ่ว”หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เดินออกมา เธอเห็นเย่ซิวที่ไม่สวมเสื้อกำลังวอร์มร่างกายอยู่กล้ามเนื้อที่แข็งแรงและใบหน้าที่ใสสะอาดนั้นในเวลานี้ มีแสงตะวันสาดส่องลงมาที่เขาภาพนี้ทำให้เซี่ยซิ่วซิ่วคลั่งไคล้จนหัวใจเต้นแรง เธอไม่อาจละสา
ไม่นานก็มาถึงสถานที่จัดงานโดยไม่รู้ตัว รถหยุดลงบอดี้การ์ดรีบลงมาก่อนเพื่อคุ้มครองบริเวณโดยรอบนอกจากนี้ยังมีบางคนที่ครองตำแหน่งผู้นำอย่างรวดเร็ว และมาตรการรักษาความปลอดภัยสามารถพูดได้ว่าเข้มงวดมากหลังจากนั้นหลิ่วอวี้ฝูก็ลงมาจากรถเมื่อลงจากรถ เธอก็เห็นขบวนรถแล่นมาแต่ไกลบอดี้การ์ดจำนวนมากเดินออกมา โดยมีชายหน้าตาน่ากลัวคนหนึ่งเดินเข้ามาดวงตาของหลี่หรูปิงกวาดมองเย่ซิว หลิ่วอวี้ฝูและคนอื่น ๆ อย่างเผด็จการโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสายตาเขามองไปที่เย่ซิว เจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างไม่ปิดบังแต่เมื่อเขามองไปที่หลิ่วอวี้ฝู ใบหน้าก็มีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “นี่น้องหลิ่ว ไม่ได้เจอกันแค่แป๊บเดียว เธอสวยขึ้นมากเลยนะ”หลิ่วอวี้ฝูกลับมามีท่าทีเย็นชา เมื่อเธอต้องเผชิญกับคำพูดของหลี่หรูปิง เธอก็ไม่สนใจที่จะพูดอะไรกับเขาและเพิกเฉยต่อคำพูดเหล่านั้นสีหน้าของหลี่หรูปิงไม่ดีนัก “นี่หลิ่วอวี้ฝู ฉันพูดกับเธออยู่นะ หรือว่าผู้ใหญ่ตระกูลเธอไม่ได้สอนเรื่องมารยาท?”เย่ซิวพูดเสียงเรียบ “มารยาทเอาไว้ใช้กับคน นายก็แค่หมาบ้าตัวหนึ่ง สมควรมีมารยาทด้วยหรือไง?!”โอกาสน้อยมากที่เย่ซิวจะด่าใครสักคน แ
วันนี้หูเม่ยเอ๋อร์สวมชุดกี่เพ้ากรีดยาวถึงเข่าสีเขียวมรกต เผยให้เห็นรูปร่างที่เย้ายวนของเธอ ผมถูกมัดเกล้าเอาไว้ใบหน้าของเธอถูกตกแต่งแบบบางเบา และเสน่ห์อันน่าหลงใหลบนร่างกายของเธอก็ได้รับการพัฒนาจนถึงขั้นสูงสุด เหมือนต้นหลิวพลิ้วไหวตามสายลม สง่างามเป็นอย่างยิ่งทุกการเคลื่อนไหวสุดแสนจะพรรณนาทางด้านของหรูฮว่าเองก็สวมกระโปรงยาวขาว บนกระโปรงมีลวดลายสวยงามมากมายเธอเหมือนสตรีผู้สูงศักดิ์ในสมัยโบราณในแง่ของรูปลักษณ์ เธอด้อยกว่าหูเเม่ยเอ๋อร์เล็กน้อย แต่ในแง่ของออร่าเธอไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยยากที่จะจินตนาการว่าหรูฮว่าซึ่งดูเหมือนผู้หญิงสูงส่ง จริง ๆ แล้วเธอเป็นผู้หญิงที่สามารถชกแผ่นเหล็กได้ด้วยเพียงหมัดเดียว เมื่อสองสาวปรากฏกายออกมา ก็ดึงดูดสายตาผู้ชายในงานทั้งหมดเสียงกลืนน้ำลายดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้แต่หลี่หรูปิงและต๋งอู่ที่มีสาวมากน้อยนับไม่ถ้วนก็ยังใจเต้นจนเลือดของพวกเขาไหลเวียนเร็วมากยิ่งขึ้นเมื่อสองสาวเดินเข้ามา ทุกสายตาจับจ้องมาที่พวกเธอโดยไม่ได้ตั้งใจและเป็นการยากที่จะละสายตาไปจากพวกเธอได้ดวงตาของเย่ซิวเองก็ฉายแววประหลาดใจเช่นกันวันนี้ทั้งสองคนเป็นตัวชูโรงในงาน
เซี่ยซิ่วซิ่วที่อยู่ไม่ไกลดึงแขนเสื้อของเย่ซิว “พวกเราไปช่วยดีไหม?”เย่ซิวส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก พวกเธอทั้งสองคนไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ๆ พวกเธอไม่ต้องการให้เราช่วยหรอก”เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเป็นฮีโร่ช่วยหญิงสาวความสัมพันธ์กับหูเม่ยเอ๋อร์เป็นเพียงความสัมพันธ์ที่แค่ร่วมมือกัน เขาจะไม่เพียงแค่วิ่งไปจะจู่โจมทักทายหรืออะไรทั้งนั้น“หยุดนะ พวกแกจะทำอะไร?!”เสียงอันทรงพลังดังขึ้นในระยะไกลทำเอาบอดี้การ์ดหยุดลงเมื่อหันกลับมาก็เห็นชายที่แข็งแกร่งในชุดทหารเดินเข้ามาหลิ่วอวี้ฝูอธิบายเบา ๆ “ท่านนี้คือบุคคลที่จะรับผิดชอบในการประมูลการจัดหาอาวุธของพวกเรา เขาคือหวังลี่”ต๋งอู่กับหลี่หรูปิงก็สั่งให้บอดี้การ์ดหยุดลงมือทันทีเขายิ้มอย่างจริงใจให้กับหวังลี่ที่เดินเข้ามา เพราะพวกเขาไม่สามารถที่จะรุกรานหวังลี่ได้เมื่อหวังลี่เดินเข้ามา เขาก็ตะคอกอย่างไม่เกรงใจ “นี่พวกนายทำอะไรกัน ไม่รู้หรือไงว่าที่นี่ที่ไหน?!”ทั้งสองคนรีบก้มหน้าลงแล้วกล่าวขอโทษไม่ว่าธุรกิจของพวกเขาจะใหญ่แค่ไหน พวกเขาก็ยังต้องก้มหัวและแกล้งทำเป็นหลานชายต่อหน้าคนในกองทัพ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะต้องรับผลที่ตามมาสีหน้าของหวังลี่
"ฉันจะเสนอหกแสนล้านบาท!"เสียงของหลี่หรูปิงดังและชัดเจน ทันทีที่เปิดปากเขาก็ปล่อยไพ่ตายออกมาทำให้สีหน้าฝั่งคนทางด้านของหลิ่วอวี้ฝูเปลี่ยนไปอย่างมากในครั้งนี้หลิ่วอวี้ฝูเตรียมเงินไว้มากกว่าสี่แสนล้านบาทแม้จะรวมกับเย่ซิวและหูเม่ยเข้าด้วยกัน ก็มีมูลค่าเพียงประมาณสี่แสนแปดหมื่นล้านเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสได้พูด คนอื่น ๆ ก็ถูกกดลงไปหมดแล้วเมื่อมองดูใบหน้าของหลิ่วอวี้ฝู เย่ซิวก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เขาจึงถามเธออย่างไม่ต้องสงสัย “มีอะไรผิดปกติเหรอ? เพราะเงินไม่เพียงพอใช่ไหม?”คนเช่นตระกูลหลี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และเย่ซิวไม่ต้องการให้พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่หากหลิ่วอวี้ฝูมีเงินไม่เพียงพอจริง ๆ เขาอาจจะต้องใช้เงินขององค์กรปัจจุบันองค์กรนั้นมีเงินในบัญชีมากกว่าหนึ่งล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นเงินกองทุนฉุกเฉินเขาจะไม่ใช้มันเว้นแต่ว่าจะจำเป็นหลิ่วอวี้ฝูส่ายหัว “โชคดีที่ฉันเตรียมตัวมาดี ฉันมีญาติที่ทำงานในธนาคาร ฉันก็เลยใช้สินทรัพย์คุณภาพสูงบางส่วนเป็นหลักประกันในกรณีฉุกเฉินเธอหันมองไปที่หวังลี่แล้วพูดว่า “หกแสนห้าหมื่นล้านบาท”ดูเหมือนเธอจ
หลี่หรูปิงหัวเราะลั่น เขามองเย่ซิวด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “ไอ้โง่ แกรู้ไหมว่าเงินแปดแสนล้านมันเป็นยังไง? แกมีเงินมากขนาดนั้นเลยหรือยังไงถึงได้กล้าเสนอเงินมั่ว ๆ แบบนั้น!”ต่งอู่พูดเสริม “ที่นี่ไม่มีที่ให้คนกระจอกอย่างนายพูด หุบปากไปซะ!”เย่ซิวเพิกเฉยต่อสุนัขบ้าสองตัวนี้และแสดงข้อมูลธุรกรรมบนโทรศัพท์ให้หลิ่วอวี้ฝูดูหลิ่วอวี้ฝูเหลือบมองอย่างไม่ใส่ใจ และทันใดนั้นเธอก็เบิกตากว้าง พลางโน้มตัวลงดู ใบหน้าแทบจะฝังเข้าไปในหน้าจอโทรศัพท์ของเย่ซิวอยู่แล้วเลขศูนย์ติดกันเป็นพืดจนเธอไม่อยากจะเชื่อเธอนับหลายครั้งติดต่อกันเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้นับผิด สายตาของเธอที่จ้องมองเย่ซิวเต็มไปด้วยประกายแวววาว“พี่เย่ นี่เรื่องจริงใช่ไหม?”เย่ซิวพยักหน้ายิ้มทันใดนั้น หลิ่วอวี้ฝูก็ยืดอกขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงพละกำลังที่เต็มเปี่ยม เธอมองไปที่หวังลี่ด้วยสายตาที่แน่วแน่ “แปดแสนล้าน!”หวังลี่เหลือบมองเย่ซิว เจ้าหมอนี่มีความสามารถมากขนาดนั้นเลยหรือ?อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดอะไรและเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยแต่หลี่หรูปิงและต่งอู่โต้ตอบอย่างรุนแรง"เป็นไปไม่ได้!" หลี่หรูปิงทุบโต๊ะ “นี่เธอจะบอกว่าไอ้โง่นั่นหาเง
บรรยากาศภายในห้องตึงเครียดมาก หลี่หรูปิงและต่งอู่หยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าอย่างต่อเนื่อง“เก้าแสนเก้าหมื่นห้าพันล้านบาท!”หลี่หรูปิงเสนอตัวเลขอีกครั้งและจ้องไปที่หลิ่วอวี้ฝูด้วยสายตาแน่วแน่ในทางกลับกัน หลิ่วอวี้ฝูหันมองไปที่เย่ซิวอย่างสงสัยเงินที่ใช้ตอนนี้เป็นของเย่ซิว ดังนั้น จะประมูลต่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเขาเย่ซิวพยักหน้าให้หญิงสาวหลิ่วอวี้ฝูรู้สึกโล่งใจและเสนอราคาต่อไป“เก้าแสนเก้าหมื่นหกพันล้านบาท!”หลี่หรูปิงกัดฟันกรอดและจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาที่อยากจะฉีกเขาออกเป็นชิ้น ๆ “ไอ้สารเลวนั่นให้เงินเธอไปเท่าไหร่กันวะ!”เขาควรจะชนะตั้งนานแล้ว!แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้เพราะเย่ซิวสถานการณ์เช่นนี้เขาอาจจะพ่ายแพ้ได้ในฉากนี้มีเพียงเย่ซิวคนเดียวที่ดูสงบนิ่งเขากำลังดื่มชาและเล่นโทรศัพท์มือถือ เขาดูผ่อนคลายมากท่าทางสงบเสงี่ยมของเขาทำให้หลี่หรูปิงและต่งอู่ต่างกังวลว่าเขาจะดึงเงินทุนออกมาได้มากแค่ไหนเย่ซิวไม่ได้ตั้งใจจะแสดงให้พวกเขาเห็น เขาไม่ได้รีบร้อนจริง ๆเขาสามารถเพิ่มเดิมพันกับพวกเขาต่อไปได้เรื่อย ๆสำหรับวิธีอุดรอยรั่วทางการขาดดุลนั้น
“คุณค่อย ๆ ดูไปก่อนนะ ฉันจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือจะไปรอฉันที่ห้องนอนก็ได้”เธอพูดด้วยน้ำเสียงสงบเหมือนกำลังคุยเรื่องอาหารเย็นว่าจะกินอะไร“คุณไปเถอะ”เย่ซิวตอบก่อนจะตั้งใจอ่านเอกสารทั้งหมด โดยจดจำข้อมูลทุกอย่างลงในสมองสำหรับข้อมูลองค์กรขนาดใหญ่เช่นนี้ หากให้เย่ซิวสร้างขึ้นด้วยตัวเอง คงใช้เวลาอย่างน้อยห้าถึงหกปีกว่าจะสำเร็จได้แต่ชื่นชมว่าอาจารย์เขาช่างยอดเยี่ยมเสียจริง!อีกด้านหนึ่ง หยางชิงเสวี่ยเดินกลับไปที่ห้องนอนก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าสายตาเธอจับจ้องที่ชุดเดรสตัวยาวสีแดงชุดหนึ่งบนเดรสตัวนั้นปักลายหงส์กางปีกโบยบินด้วยด้ายทองอย่างวิจิตรบรรจงหงส์ตัวนั้นดูเหมือนมีชีวิตจริง ๆ ราวกับสามารถโบยบินออกมาจากชุดได้ทุกเมื่อหยางชิงเสวี่ยลูบชุดเดรสนั้นเบา ๆ ภาพความทรงจำบางอย่างปรากฏขึ้นในหัวของเธอ จากนั้นเธอก็หยิบชุดและเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีปกติแล้วหยางชิงเสวี่ยมักจะแต่งตัวอย่างเรียบร้อยและสุภาพเสมอแต่เมื่อเธอปลดพันธนาการออกจากร่างกายแล้ว ความงดงามสมบูรณ์แบบของเธอก็เผยออกมา ต่อให้นางแบบระดับโลกมาอยู่ตรงหน้าเธอก็ยังเทียบไม่ติดเสียงน้ำจากฝักบัวไหลรินลงมาชโลมร่างกายของ
ตอนนี้เย่ซิวกลายเป็นคนดังระดับโลกไปแล้ว ดังยิ่งกว่าดาราระดับนานาชาติหลายเท่าถ้าเขาหันไปทำไลฟ์สด วันเดียวก็คงทำรายได้เป็นหลายร้อยล้านหรืออาจถึงพันล้านเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น เขาจึงเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองก่อนออกจากบ้านเขามาหยุดอยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัย ก่อนจะเงยหน้ามองชื่อสถานที่นั้นและเดินเข้าไปทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีนักศึกษาเดินสวนไปมาขวักไขว่ทุกครั้งที่มาที่นี่ เย่ซิวจะรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเขาเดินไปที่ศาลาพักผ่อนอีกครั้ง และเห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ตรงนั้นที่นี่อาจเป็นสถานที่พิเศษสำหรับหยางชิงเสวี่ย นอกจากเธอแล้วก็มีจวงเสี่ยวหยิงที่เย่ซิวเคยเห็นว่ามาที่นี่เช่นกันเขาเดินเข้าไปในศาลาอย่างไม่รีบร้อนแล้วนั่งลงตรงหน้าเธอหยางชิงเสวี่ยที่กำลังอ่านหนังสือท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบเงยหน้าขึ้นดวงตาที่ใสราวคริสตัลของเธอเหมือนสามารถมองทะลุทุกสิ่งในโลกนี้ได้เธอกะพริบตาเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากสีชมพูจะเผยอขึ้น “ยินดีด้วยที่เข้าสู่ระดับจินตานแล้ว”เย่ซิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ผมเปลี่ยนทั้งรูปร่างและหน้าตา คุณก็ยังจำผมได้อีกเหรอ?”หยางชิงเสวี่ยปิดห
เย่ซิวโทรหาชูตง อวี่เฟยเฟย เสวี่ยเหมย หลัวอีอี แล้วเรียกพวกเธอมาที่บ้านพร้อมหน้ากันอย่างแรก ทุกคนต้องเป็นห่วงกันอยู่แล้ว การได้มาเจอกันและกินข้าวด้วยกัน น่าจะทำให้พวกเธอสบายใจขึ้นอย่างที่สอง เย่ซิวตั้งใจที่จะช่วยยกระดับพลังของพวกเธอทั้งหมดในคราวเดียวหลังวางสาย เขาก็ชี้ไปที่เด็กผู้หญิงที่ดูมีท่าทีเขินอาย ก่อนเอ่ยถามว่า “พวกคุณไม่คิดว่าเธอคล้ายใครบางคนเหรอ?”สาว ๆ ทุกคนหันไปมองเด็กหญิงคนนั้น พอมองชัด ๆ ก็พากันอึ้งไปตาม ๆ กัน“เหมือนจริง ๆ ด้วย”“คล้ายกันตั้งหกเจ็ดส่วนแน่ะ”“นี่ต้องเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเธอแน่ แต่ทำไมถึงไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงเลยนะ”……ระหว่างที่พวกเธอกำลังพูดคุยกัน ประตูวิลล่าก็เปิดออกไป๋อวี้เจี๋ยเดินเข้ามาในชุดกางเกงยีนรัดรูปเธอวางกระเป๋าลงแล้วพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเย่ซิวทันที“คุณไม่เป็นอะไรแล้วก็ดีแล้ว ฉันตกใจแทบแย่ตอนเห็นข่าว…คุณไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นฉันกลัวแค่ไหน”เย่ซิวตบหลังเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ คุณลองดูเธอสิ”เขาชี้ไปที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กไป๋อวี้เจี๋ยหันมองตามนิ้วของเย่ซิวด้วยความสงสัยเมื่อสายตาของทั้งคู่ปร
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!ขณะที่เย่ซิวกำลังจะลงมือจัดการกับพวกคนชั่วเหล่านี้ สายฟ้าหลายสายพลันฟาดลงมาจากท้องฟ้าชิงลงมือก่อนเย่ซิว เจ้าชายเหล่านั้นก็ถูกฟ้าผ่าจนไม่เหลือซากเย่ซิวถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็น "กรรมที่สวรรค์ลิขิตยังพอรอดได้ กรรมที่ก่อเองไม่อาจรอดพ้นกรรม"แม้แต่สวรรค์ก็ทนดูไม่ได้ ต้องลงมือสำเร็จโทษพวกเขาด้วยตัวเองคนเหล่านี้ถูกทำลายจนวิญญาณแตกสลาย ไม่มีแม้แต่โอกาสจะกลับไปเกิดใหม่อีกเย่ซิวไปจากที่นี่ เรื่องหลังจากนี้ไม่ใช่เรื่องของเขาแล้วไม่นานหลังจากที่เขาไป เฟยอวี่ก็ปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อเห็นรอยฟ้าผ่าบนพื้น เธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว มันน่ากลัวเหลือเกินแต่ไม่นานเธอก็เลียริมฝีปาก รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก"ไอ้พวกโง่นี่ถูกฆ่าตาย งั้นตอนนี้ทั้งประเทศอ่ายเหรินก็ไร้ผู้นำแล้วแบบนี้งานของฉันก็ง่ายขึ้นมากฮ่า ๆ เย่ซิวเอ๋ยเย่ซิว ฉันต้องขอบคุณคุณอย่างจริงจังแล้วล่ะ"…… ครืน!เหนือผืนทะเล มีแสงหนึ่งพุ่งผ่านไปด้วยความเร็วสูงเย่ซิวยืนอยู่ที่หัวกระบี่ เด็กสาวสองคนที่อยู่ข้างหลังเขามองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น ความรู้สึกแบบนี้ไม่อาจบรรยายได้เลยเ
ที่นี่กลายเป็นเหมือนนรกบนดินเย่ซิวพุ่งขึ้นมาจากก้นทะเลในตอนนี้เขาดูโทรมมาก เสื้อผ้าที่สวมอยู่ขาดรุ่งริ่ง แถมยังมีบาดแผลทั้งใหญ่และเล็กนับร้อยจุดทั่วร่างนี่เป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมา มันแทบจะทำลายรากฐานของเขาแม้ว่าตอนนี้เขาจะดูสงบมาก แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความอาฆาตและเดือดดาลชนิดที่ยากจะข่มพวกนั้นช่างโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อหากการระเบิดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของพวกเขาเอง อย่างน้อยหนึ่งหรือสองเมืองคงได้กลายเป็นนรกภูมิ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีวิญญาณผู้บริสุทธิ์จำนวนเท่าไหร่โชคดีที่เย่ซิวเพิ่งทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานขั้นกลาง มิฉะนั้นชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอนเขาหยิบน้ำเต้าออกมา แล้วดื่มน้ำพุวิญญาณลงไปรวดเดียวหลายกิโลกรัมร่างกายของเขาฟื้นตัวจากบาดแผลอย่างรวดเร็วแสงของจินตานห้าสีที่สลัว ๆ ในตันเถียน เริ่มกลับมาส่องประกายสดใสอีกครั้งเขาไม่กล้าล่าช้า รีบกลับไปอย่างรวดเร็วเด็กสาวสองคนยังอยู่ที่นั่น เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นเหล่าเจ้าชายได้เริ่มเตรียมแชมเปญเพื่อเฉลิมฉลองแล้วพวกเขาคิดว่าไม่ว่าเย่ซิวจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็คงไม่รอดจากการระเบิดระด
ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดที่ควบคุมเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อเห็นเย่ซิวชักกระบี่ยาวออกมา ใบหน้าของเขาก็มืดครึ้มลง พลางพูดว่า "คุณคิดจะดึงดันกับพวกเราจนถึงที่สุดจริง ๆ เหรอ? คุณไม่กลัวว่ามันจะนำไปสู่สงครามระหว่างสองประเทศเลยหรือไง!""ฮ่า ๆ ๆ!"เย่ซิวหัวเราะเสียงดังอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก ผู้บัญชาการสูงสุดมีสีหน้าบึ้งตึง "คุณหัวเราะอะไร?!""ก็หัวเราะที่พวกคุณไม่รู้จักประมาณตน หลงตัวเองไงพวกคุณคู่ควรที่จะเป็นศัตรูกับประเทศหลงเถิงของผมด้วยเหรอ?ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณยอมรับประเทศจ้านอิงตี้เป็นนายเหนือหัว ใช้เวลาไม่เกินสามวัน พวกคุณก็จะถูกกำจัดไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เป็นสุนัขแล้วยังกล้ามาทำตัวหยิ่งผยองอีก!"คำพูดที่ไม่ปรานีนี้ได้ยั่วยุคนของประเทศอ่ายเหรินทั้งหมดแล้วพวกเขาต่างมองเย่ซิวด้วยสายตาที่เดือดดาลเย่ซิวไม่ได้เริ่มต่อสู้ทันที ส่วนหนึ่งเพราะเขาต้องการให้ชาวบ้านทั่วไปมีเวลาอพยพเขาไม่ต้องการให้ผู้บริสุทธิ์ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องผู้บัญชาการสูงสุดหัวเราะด้วยความโกรธ "ดีมาก! ปากคอเราะรายดีจริง ๆ! อยากจะรู้นักว่าคุณมีความสามารถมากแค่ไหน! ลงมือ! โจมตีให้เต็มที่เลย!"เขาถอยไปอยู่ด้านหล
ขณะที่พวกเขากำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือด รายงานลับฉบับหนึ่งก็ถูกส่งมาวางไว้ตรงหน้าพวกเขาเมื่อพวกเขาอ่านเนื้อหาในรายงานจบ ต่างก็ลุกพรวดขึ้นด้วยความตกตะลึง“เป็นไปไม่ได้!”“เขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง”“เด็กสาวที่อยู่ข้าง ๆ เขาคนนั้นไม่ใช่...เป็นเขา! เขาคือคนที่ฆ่าเสด็จพ่อ!”“จะปล่อยเขาให้หนีไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”“เรื่องของเราพักไว้ก่อนชั่วคราว มาร่วมมือกันกำจัดเขาก่อน!”เหล่าเจ้าชายตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว จับมือกันเพื่อเผชิญหน้าศัตรูภายนอก เพราะความหวาดกลัวที่เย่ซิวนำมาสู่พวกเขานั้นมันลึกซึ้งเกินไปยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองฝ่ายไม่มีทางที่จะหวนคืนสู่จุดเดิมได้แล้ว จำเป็นต้องมีฝ่ายหนึ่งล้มลงเท่านั้น“ส่งกองทหารรักษาพระองค์ไปสกัดเขา!”“ส่งหน่วยอารักขาของฉันไปด้วย!”“พลังธรรมดาเหล่านี้อาจไม่เพียงพอ เราต้องใช้ทั้งจรวดความเร็วเหนือเสียงและขีปนาวุธประเภทดีล็อกเป้าหมายเขาไว้ด้วย!”“ตอนนี้ไม่มีเวลามากังวลว่าอาวุธใหม่ของเราจะถูกเปิดเผยอีกแล้ว ใช้ทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ต้องรั้งเขาไว้ให้ได้!”…… คำสั่งต่าง ๆ ถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็ว และดำเนินการโดยเร็วที่สุด
เมื่อเย่ซิวเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นว่ามีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่ในห้องนี้ด้วยเธออายุประมาณสามสิบกว่าปีได้ใบหน้าสวยมาก รูปร่างอวบอิ่ม สวมชุดที่ค่อนข้างน้อยชิ้นเธอกำลังทำท่าออกกำลังกายที่เรียกเลือดกำเดาได้ง่าย ๆจวงเสี่ยวหยิงกับสาวน้อยกำลังทำท่าตามเธอเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ทั้งสามคนก็หยุดลงพร้อมกันผู้หญิงคนนั้นมองเย่ซิวด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เบิกตากว้างเธอจำเย่ซิวได้"ในข่าวบอกว่าคุณหนีไปแล้วไม่ใช่เหรอ?""พี่ชาย!""พี่กลับมาแล้ว!"หญิงสาวสองคนวิ่งเข้ามาเย่ซิวเผยรอยยิ้มที่มุมปาก มองผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นแล้วถามว่า "เธอเป็นใคร?"จวงเสี่ยวหยิงอธิบายว่า "พี่สาวคนนี้อยู่ห้องข้าง ๆ เราค่ะ เมื่อกี้นี้เราเห็นเธอออกกำลังกายอยู่ที่ระเบียงก็เลยชวนมาคุยกัน แล้วก็ให้เธอมาช่วยสอนเราด้วย"เย่ซิวพยักหน้า ยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นอย่างเป็นมิตรผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นจากพื้นรูปร่างของเธอดีมาก แถมยังสวมเสื้อผ้าที่ทั้งวาบหวิวและรัดรูป ชวนให้มองแล้วแทบจะเลือดกำเดาไหล"สะ...สวัสดีค่ะ ตัวจริงคุณหล่อกว่าที่เห็นในทีวีเยอะเลย"ผู้หญิงคนนั้นดูประหม่าเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่ซิว
ฐานทัพทหารทั้งหมดของประเทศอ่ายเหรินถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลองในชั่วพริบตาภาพเหตุการณ์นี้ถูกดาวเทียมบนท้องฟ้าจับไว้ได้ และส่งต่อไปยังห้องควบคุมของประเทศมหาอำนาจทั้งหลายในทันทีใบหน้าของคนเหล่านั้นเปลี่ยนสีด้วยความตกใจ พวกเขาลุกพรวดขึ้นแล้วรายงานภาพที่เห็นให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ“แค่ก ๆ ๆ...”ชายชราไออย่างหนัก ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าไม่ละสายตาเบื้องหน้าที่ม่านหมอกปกคลุมอยู่ มีร่างของเย่ซิวยืนถือกระบี่เดินออกมาด้วยลมหายใจที่มั่นคง เขาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย“ความสามารถไม่เลว แต่คุณกระทั่งทำให้ผมบาดเจ็บก็ยังไม่มีปัญญา แล้วยังกล้าโลภในร่างกายของผม โง่จริง ๆ”“หนุ่มสาวสมัยนี้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่เธอครอบครองเนตรจักรพรรดิ” ชายชราหัวเราะเสียงเย็น “แต่ว่านะ ชัยชนะก็ยังคงเป็นของฉันอยู่ดี”พูดจบ เขาก็หยิบเข็มทิศออกมาจากอกเสื้ออย่างรวดเร็ว แล้วโยนมันลงพื้นเย่ซิวรู้สึกถึงอันตราย จึงรีบถอยหลังโดยไม่หยุดคิดสักนิดแต่ก็ยังช้าไปหนึ่งก้าวเข็มทิศขยายตัวขึ้นอย่างเร็วมาก พร้อมปลดปล่อยลำแสงออกมาจนก่อตัวเป็นค่ายกลที่แน่นหนา ปิดล้อมเย่ซิวไว้ด้านในจากนั้นเถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็เ