“ใจเย็นๆแล้วนี่มันไปไหน” ผมพูดตอบกลับเธอพรางใช้สายตามองดูทั่วห้อง“พอทะเลาะกันเสร็จเขาก็ออกไปเลย ฮึก” เธอยังคงร้องไห้เสียงสั่นเครือพร้อมทั้งก้มหน้าซบกับอกแกร่งของผม“อืม แล้วลองโทรไปใหม่หรือยัง” ผมก็คงได้แค่นั่งเป็นเพื่อนปลอบใจเธอได้แค่นั้น“เรายังไม่พร้อมคุยแหละวิน” หลังจากนั้นผมก็เลือกที่จะเงียบ“วะ..วิน คืนนี้อยู่เป็นเพื่อนเราได้ไหม เราไม่อยากอยู่คนเดียว” เมื่อผมเงียบสักพัก อันดาก็พูดขึ้นพร้อมทั้งเงยหน้ามองสบตากับผมอีกครั้ง“แต่...”“นะวิน โก้ไม่กลับมาหรอก ฮึก”“อืมม..” สุดท้ายผมก็ใจอ่อนแพ้น้ำตาและเสียงอ้อนของเธอหลังจากนั้นผมก็เริ่มเก็บขวดเหล้าเอาไปกองไว้มุมห้องและทำอาหารง่ายๆให้อันดาได้กินเพราะดูแล้วเธอน่าจะยังไม่ได้กินอะไรเลย เมื่อทำเสร็จก็นำมาวางไปให้เธอบนโต๊ะอาหาร“ขอบคุณนะวิน ยังจำได้อยู่หรอว่าเราชอบข้าวผัดกุ้ง”“อืมม รีบกินเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้วจะได้นอนพักผ่อน”“เราจะนอนหลับหรือเปล่ายังไม่รู้เลย” เธอกินข้าวผัดกุ้งพร้อมทั้งทำหน้าซึมเศร้าออกมาและเมื่อกินข้าวเสร็จผมก็นำจานของเธอไปล้างทันที“ขอบคุณนะ วินช่วยเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนอันในห้องได้ไหม อันกลัว” ผมคงต้องอยู่เป็นเพื่อนให้เธอ
มหาวิทยาลัย CH“เพราะพี่เลยเนี่ย หนูเกือบจะเข้าเรียนไม่ทันอยู่แล้ว” ก็เพราะรุ่นพี่ตัวสูงจริงๆนั่นแหละ เขาบอกฉันว่าแค่แปบเดียว แต่มันแปบเดียวตามที่ปากของเขาบอกกันซะที่ไหนฉันโดนจัดหนักไปสองรอบ“หึ..”รุ่นพี่ตัวสูงแค่นหัวเราะออกมา“หนูไปเรียนแล้วนะ” เมื่อรถของรุ่นพี่ตัวสูงมาจอดที่หน้าตึกคณะของฉันแล้ว ไม่รอช้า~ฉันกล่าวบอกเขาแล้วเปิดประตูรถเร่งรีบก้าวเท้าเดินจ้ำอ้าวเข้าไปยังห้องที่ฉันมีเรียนวิชาแรกทันที เมื่อผมส่งยัยเด็กดื้อที่ใต้ตึกคณะเสร็จผมก็ขับรถมาจอดที่ยังใต้ตึกคณะวิศวะของผมในทันที เมื่อจอดรถเสร็จผมก็เดินเข้ามานั่งรอกลุ่มเพื่อนของผมที่ตรงใต้ตึกคณะของผม สักพักเพื่อนของผมก็เดินเข้ามา“ไงมึงมาเช้าเชียว” ไอ้สายฟ้าพูดขึ้นมาเมื่อเห็นผมมาเช้า เพราะเมื่อคืนกว่าผมจะกลับจากผับของมันก็ดึกพอสมควร“อืมม เด็กกูมีเรียนเช้าเลยต้องรีบมาก่อน” ผมจึงตอบกลับไอ้สายฟ้าไป“แหมๆมีเรียกเด็กกูซะด้วยว่ะ ฮ่าฮ่า” เป็นเสียงไอ้เวหาที่ได้ทีรีบแซวผม“พบคนคลั่งรักแล้วหนึ่ง ฮ่าฮ่าฮ่า” ไอ้ออสตินก็พูดเสริมทัพขึ้นมาอีกคน“...” ผมยิ้มไม่ได้พูดอะไรโต้กลับเพื่อนของผมไปก็คงจะจริงดั่งคำที่พวกมันว่านั่นแหละ“อีกสิบนาทีได้เวลา
ภายในรถของพี่วิน“วันนี้ฉันไปนอนห้องเธอนะ” ขณะที่ขับรถอยู่ พี่วินก็พูดออกมาโดยที่ไม่ได้หันมามองฉัน แต่ก็นะก็ไปนอนเกือบจะทุกวันอยู่แล้วไหมล่ะ เสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆของพี่เขาอยู่ภายในห้องของฉันเต็มไปหมดจนแทบจะกลายเป็นห้องของพี่วินไปแล้ว“ค่ะ” ฉันตอบรับคำพูดของพี่วินทันทีพร้อมทั้งพยักหน้า แต่แล้วคำพูดของรุ่นพี่สาวสุดสวยที่พวกกลุ่มพี่วินบอกว่าเป็นแค่เพื่อนต่างสถาบันก็ลอยเข้ามาในหัวอีกแล้ว ‘ใจร้ายเหมือนเมื่อคืนเลยนะ / ทำไมเมื่อคืนวินไม่เห็นบอกอะไรพี่เลยนี่ / จะได้รู้อะไรดีๆมากขึ้น’อย่างนั้นเหรอมันทำให้ฉันคิดไปต่างๆนาๆ หรือว่าเมื่อคืนพวกเขาอาจจะอยู่ด้วยกัน ก็พวกพี่เขาบอกว่าเป็นเพื่อนกันนี่นาก็อาจจะนัดพบนัดเจอกันก็ได้นี่เนอะแต่คำพูดทั้งหมดทั้งมวลมันทำให้ฉันเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี ชาวูบไปทั้งตัว ใจเริ่มสั่นไหว หรือมันคงมีอะไรสักอย่างระหว่างพวกพี่เขาทั้งสอง ที่ฉันยังไม่รู้และก็คงไม่อยากบอกให้คนอย่างฉันได้รู้...แล้วเมื่อมาถึงคอนโดและพากันขึ้นมาถึงห้องพักของฉันกันแล้ว เราต่างก็เดินไปนั่งที่โซฟามุมห้องรับแขกแล้วเปิดทีวีดูซีรี่ย์ และพอผ่านไปได้สักพัก“ไปอาบน้ำสิ” รุ่นพี่ตัวสูงพูดข
“พี่พอเถอะค่ะ ถ้าไม่สำคัญแล้วทำไมเมื่อคืนนั้นพี่ถึงได้รีบออกไปจากห้องของหนูทันทีเลยละคะ แล้วในรูปนี่มันคืออะไรคะ” พอฟังประโยคที่พี่วินพูดว่าแฟนเก่าของเขาไม่ได้สำคัญอะไร ทำเอาฉันนี่ขึ้นเลย รีบพูดแทรกคำพูดของพี่วิน พร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูที่พี่เขาซื้อให้ยื่นไปให้เขาได้ดูรูปอันหวานซึ้งระหว่างพวกเขา“…..” และเมื่อได้เห็นรูป พี่วินก็พูดอะไรไม่ออกพร้อมกับเริ่มทำหน้าขรึม“ตอนนี้พี่ช่วยออกไปจากห้องของหนูก่อนได้ไหมคะ” ตอนนี้ฉันต้องรักษาเยียวยาใจให้ตัวเองก่อน ถ้ารุ่นพี่อยู่ด้วยฉันก็จะไม่มีทางเลิกร้องไห้ได้แน่นอน ฉันจึงต้องบอกให้รุ่นพี่ตัวสูงนั้นช่วยออกไปจากห้องของฉัน“ไม่..ฉันไม่ออก” พี่วินยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็งว่ายังไงก็จะไม่ยอมออกไปจากห้องของฉัน“ขอร้องเถอะค่ะ หนูอยากอยู่คนเดียว” เมื่อเขาเสียงแข็งมา ฉันก็ต้องพูดโต้กลับด้วยเสียงแข็งและหนักแน่นเหมือนกัน เมื่อพูดบอกกล่าวพี่วินเสร็จฉันก็หันหลังให้เขาในทันที“แต่ฉัน..ก็ได้ไว้รอให้เธอใจเย็นลงก่อน เราค่อยมาคุยกัน” เมื่อพูดจบประโยคแล้ว รุ่นพี่ตัวสูงก็เข้าไปแต่งตัวภายในห้องน้ำและเมื่อเสร็จแล้วจึงสาวเท้าเดินออกไปจากห้องของฉันด้านธาวิน
“เหอะ สงสัยจะซึ้งมากน้ำตาท่วมจอเลยมั้งเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า” แล้วยัยมายูก็พูดตอบกลับด้วยคำพูดชวนตลกเพื่อที่ไม่อยากจะให้ฉันเศร้าและคิดมากอีกพูดถึงยังไม่ทันขาดคำเพื่อนสาวสองคนของฉันก็เดินเข้ามาทันที ยัยอลิสและชะเอม เนื่องจากทั้งสองบ้านอยู่ใกล้กันเลยจะมาพร้อมกันอยู่บ่อยๆ“พราว ตาบวมเชียวไปทำอะไรมา ร้องไห้ทำไม” อลิสเดินดุ่มๆเดินเข้ามาหาฉัน พรางจับเข้าที่ไหล่ของฉันอย่างเบามือด้วยความห่วงใย“ปะ..เปล่าหรอก เมื่อคืนฉันดูซีรี่ย์เกาหลีแล้วมันซึ้งมากๆ น้ำตาแตกเลยแหละ” ฉันพูดตอบกลับอลิสกลับไปด้วยสีหน้าที่ยิ้มออกมา“อ๋ออะเค แล้วพวกแกกินข้าวกันมายัง ฉันยังเลย” อลิสมีสีหน้าที่คลายความกังวลลงทันทีเมื่อฉันบอกว่าแค่ดูซีรี่ย์และร้องไห้เฉยๆจ๊อกจ๊อก~~เป็นเสียงท้องร้องของยัยอลิสที่ส่งเสียงดังขึ้น“แฮร่ๆ ก็บอกแล้วว่าหิว”“งั้นพวกเราไปกินข้าวกัน ฉันก็ไม่ได้กินไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน นั่งดูซีรี่ย์ดึกไปหน่อย” และเป็นฉันที่ชวนเพื่อนๆไปนั่งกินข้าวเช้ากันที่โรงอาหารของคณะระหว่างที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ในโรงอาหารของคณะ จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้น พร้อมกับโชว์สายเรียกเข้าเป็นเบอร์แปลก เอ๊ะ!!หรือว่าจะเป็นคุณมิจ
“ปล่อย!!” พร้อมทั้งเริ่มที่จะผลักดันร่างหนาออกไป แต่แรงของฉันหรือจะสู้คนที่ตัวใหญ่โตกว่าฉันได้ ไม่มีทาง“ขออยู่แบบนี้อีกแปบนึงได้ไหม” พี่วินยังคงหน้ามึนต่อไป“......”“รู้ไหมว่าฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน” และพี่วินก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมทั้งโอบกระชับร่างบางของฉันให้แนบแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม“เหรอคะ”“คืนนั้นอันดาโทรเข้ามาพร้อมเสียงร้องไห้ ฉันตกใจเลยรีบออกไป โดยที่ไม่ได้บอกเธอ” และรุ่นพี่ตัวสูงก็เริ่มที่จะเล่าเรื่องราวของคืนวันนั้นให้ฉันได้ฟัง“…..”“พอไปถึงก็เจออันดาอยู่ในสภาพเมามายนั่งกินเหล้าอยู่ เธอบอกว่าทะเลาะกับแฟน ฉันก็ปลอบใจเธอ อยู่เป็นเพื่อนเธอแบบเพื่อน กลัวว่าจะคิดสั้นและฉันก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยนะ อ๋อ อยู่ดีๆอันดาก็เดินเข้ามาจูบฉันก่อน แต่ฉันก็รีบดันเธอออกไปเลยนะหลังจากนั้นพออันดาหลับฉันจึงหลับตาม และรูปนั้นฉันก็ไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ”“….” ฉันจะเชื่อใจผู้ชายคนนี้ได้อีกไหม“ฉันอยากให้เธอเชื่อใจฉัน ฟังแค่ฉัน และรอฉันก่อน ได้ไหม?” และเหมือนเขาจะล่วงรู้ความคิดของฉันได้เขาจึงพูดประโยคนี้ออกมา“มันก็เป็นเรื่องของพวกพี่ค่ะ หนูไม่เกี่ยว” ฉันเริ่มผลักดันร่างกายแกร่งของรุ่นพี่ตัวสูง
“….” ฉันรีบสะบัดมือของเขาออกแล้ว พรางจ้องตาของเขาอย่างไม่ลดละ แสดงอาการหงุดหงิดออกมา“หรือจะให้ฉันอาบน้ำให้ก็ได้อยู่นะ ฉันไม่ขัด” และเหมือนเขาจะรู้ว่าฉันคงไม่ยอมที่จะเข้าไปอาบน้ำแน่ๆเลยจงใจใช้คำพูดแบบนั้นเพื่อเป็นการขู่ฉันทางอ้อม ฉันทำอะไรไม่ได้เลยจำใจรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปอาบน้ำทันทีและเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเช็ดทำความสะอาดตามร่างกายเสร็จ จึงได้รู้ว่าตัวเองนั้นไม่ได้นำเสื้อผ้าชุดใหม่ถือหยิบติดมือเข้ามาในห้องน้ำด้วย ก็เลยต้องออกมาแบบใส่ผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว ชะโงกหน้าดูแล้วไม่พบใครอยู่ภายในห้องนอน ก็รีบเดินไปยังตู้เสื้อผ้าของรุ่นพี่ตัวสูงเพื่อที่จะหยิบชุดใหม่ทันที แต่พอหันหลังกลับจะเข้าไปใส่ชุดใหม่ในห้องน้ำก็ดันชนเข้ากับร่างหนาของรุ่นพี่ตัวสูงเข้าอย่างจัง“อ๊ะ~” เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาของรุ่นพี่ตัวสูงที่กำลังยิ้มร้ายอยู่เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น“พี่เข้ามาทำไมเนี่ย?” ฉันพูดขึ้นและขยับถอยหลังออกมา“ก็นี่มันห้องของฉันไหม”“แต่หนูยังอาบน้ำไม่เสร็จทำไมพี่ไม่รอข้างนอก!!!”“....”“ถอยไปค่ะ!! หนูจะเข้าห้องน้ำ นี่พี่!!”ฉันบอกให้รุ่นพี่นั้นถอยออกไปเพื่อที่ฉันจะได้เดินไปเข
ฉันตอบกลับเขาไปอยู่ๆก็ต้องสะดุ้งเพราะรุ่นพี่ตัวสูงนั้นใช้ลิ้นหนาเลียลากมายังรูสะดือของฉัน“หิวน้ำเธอ!” พี่วินเงยหน้าขึ้นมาพูดพร้อมทั้งสบตากับฉันแค่เพียงแปบเดียวเขาก็ออกแรงจับขาเรียวทั้งสองข้างของฉันให้แยกออกจากกัน แล้วแทรกตัวเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างขาของฉันแทนทันทีที่ขาของฉันอ้าออกจนกว้าง เขาก็ลอบยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจเพราะตอนนี้ที่กลีบดอกไม้แสนสวยนั้นเริ่มมีน้ำหวานออกมาบ้างแล้ว“อ๊า ไม่นะพี่ อื้อออ” ไม่รอช้าเขาตวัดลิ้นรัวๆขึ้นลงกลีบดอกไม้ของฉัน พร้อมทั้งดูดเม้มที่ปุ่มกระสันของฉันอย่างแรงจนฉันเริ่มที่จะทนไม่ไหวกระดกสะโพกเด้งขึ้นรับริมฝีปากหนาของรุ่นพี่ตัวสูง หลับตาพริ้ม ยื่นมือของตัวเองยื่นไปจับเข้าที่ผมของเขาแล้วออกแรงกดใบหน้าของพี่เขาให้ทำรักให้ฉัน ลิ้นร้ายของรุ่นพี่ตัวสูงยังคงทรมานฉันไม่เลิก“อ่าา อ๊ะ อ๊ะ อื้อออ มะ..ไม่ไหว” มันเสียวเกร็ง สั่นสะท้านไปทั่งตัว และในระหว่างที่รุ่นพี่ตัวสูงกำลังใช้ลิ้นสากร้อนห่อเกร็งลิ้นละเลงขึ้นลงขบเม้มไปตามกลีบดอกไม้ เขาก็สอดนิ้วเรียวเข้าไปในช่องทางรักคับแคบของฉัน“อื้ออ~หนูเจ็บ!!” รุ่นพี่ตัวสูงพยายามที่จะสอดนิ้วเพิ่มเข้ามาอีก พร้อมทั้งชักนิ้วทั้งสองช
พราวได้เดินเข้ามานั่งยังโซฟาตัวโปรดและธาวินก็เดินตามเธอมานั่งลงข้างๆเธอหญิงสาวจึงได้ถามธาวินว่าเขานั้นอยากได้เพศไหนมากกว่ากัน"พี่วินอยากได้ผู้ชายหรือผู้หญิงคะ""อืม คนแรกพี่อยากได้ผู้ชาย จะได้ดูแลน้องได้"ธาวินเขาลูบไปที่หน้าท้องของพราวและพูดว่าเขานั้นอยากได้เด็กผู้ชายเพื่อที่จะได้ปกป้องน้องสาวได้"พี่หมายถึง..พี่อยากมีอีกคนอย่างงั้นเหรอคะ""ได้ไหมล่ะพราว มากกว่า2ก็ได้นะ"ธาวินมองหน้าเธอและพูดขึ้นเจ้าน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ"2คนก็พอแล้วค่ะ กำลังดี"พราวจึงรีบเบรกเขาในทันทีว่าแค่2คนก็พอแล้ว"แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้เพศอ่ะ"ชายหนุ่มยังคงตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้พูดถึงเรื่องลูกที่อยู่ในท้องของเธอ"ประมาณ4-5เดือนค่ะ"เขาลูบไปที่ท้องของพราวอีกครั้งพร้อมกับก้มใบหน้ากระซิบพูดคุยกับลูกในท้อง"โอเคลูกพ่อ อย่าแกล้งแม่เขานะ เป็นเด็กดีนะครับ"และพอเขาพูดเสร็จธาวินก็รู้สึกเวียนหัวจะอ้วกขึ้นมาทันทีอุ๊บ!"พี่วินเป็นอะไรไปคะ"เมื่อเห็นว่าธาวินมีอาการคล้ายๆตนจึงได้พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง"พี่รู้สึกจะอ้วก พี่ขอไป..." ธาวินพูดกับพราวและรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันทีพราวก็รีบโทรไปปรึกษาแม่ของเธอทันทีว่าอาการแบบนี
เขาพูดเสร็จธาวินก็แทรกกลางหว่างขาเธอและกดจ่อท่อนเอ็นเข้ามาภายในตัวเธอทีเดียวจนสุดโคนสวบ!ธาวินเริ่มกดกระแทกเข้าออกร่องของเธอและก้มตัวลงไปประกบริมฝีปากจูบเธอ เขาควานลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากนิ่มของเธอและพราวก็เริ่มจูบตอบเขากลับทันทีเมื่อจูบจนพอใจชายหนุ่มก็ยันกายลุกนั่งจับสะโพกของพราวไว้แน่นและเริ่มกระแทกท่อนเอ็นเข้าออกร่องรักของเธอ"อ่าาส์ เสียว" ธาวินครางเสียงแหบพร่าออกมาด้วยความเสียวไม่ว่าจะกี่ครั้งร่องของเธอก็ยังคงแน่นและตอดรัดเขาเป็นอย่างดีปึก! ปึก! ปึก!10นาทีผ่านไปธาวินจับพราวเปลี่ยนท่าไปมาจนเธอนั้นเริ่มที่จะไม่มีแรงเหลือแล้วไหนจะโดนกระแทกทั้งข้างล่างและข้างบนก็โดนทั้งลิ้นและมือที่บีบเคล้นของธาวินอีก"หนูไม่ไหวแล้ว..อ๊ะ" ชายหนุ่มรู้ว่าเธอนั้นใกล้จะเสร็จแล้วจึงได้จับขาเธอให้กว้างขึ้นและเริ่มตอกอัดกระแทกท่อนเอ็นร้อนใส่เข้าออกแบบเน้นๆจนสุดท้ายหญิงสาวที่โดนกระแทกแบบนั้นก็ได้ถึงจุดสุดยอดเธอครางออกมา"อ่าาส์ อ๊ะ อร้ายย"เธอได้ไปถึงสวรรค์อีกครั้งด้วยฝีมือของแฟนหนุ่มที่ตอนนี้ต้องเรียกว่าสามีแล้วสินะและธาวินก็เสร็จตามเธอไปแบบติดๆเขาได้ปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นไว้ในร่องของเธอ"พี่จะเสร็จ ม
งานแต่งงานธาวินและพราวงานได้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ครอบครัวของเขาได้เชิญเพื่อนนักธุรกิจของพ่อและคนที่รู้จักมาในงาน อีกทั้งยังมีญาติของทั้งสองฝ่ายอีกไหนจะบรรดาเพื่อนๆของทั้งธาวินและพราวด้วยโดยที่ธีมของงานยังคงคอนเซ็ปต์เดิมนั่นคือธีมสีขาว-ม่วงพาสเทลพิธีกรของงานเริ่มพูดขึ้นเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม“ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีด้วยนะครับ”เจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ได้พากันขึ้นมาบนเวทีในวันนี้ธาวินสวมชุดสูทสีดำส่วนพราวนั้นใส่ชุดเจ้าสาวเป็นชุดเกาะอกสีขาวละมุน"ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวพูดอะไรหน่อยครับ"ธาวินจึงได้เริ่มเป็นคนพูดก่อน“ขอบคุณแขกทุกท่านที่มางานแต่งของผมกับพราวนะครับ ผมดีใจมากที่มีวันนี้ ผมขอสัญญาว่าผมจะรักและดูแลเธอให้ดีที่สุดครับ”จากนั้นเขาก็ยื่นไมค์ให้กับพราวได้พูดต่อจากเขา“ค่ะ พราวขอขอบคุณทุกท่านที่มาเป็นพยานรักในงานแต่งงานของเราอีกครั้งนะคะ วันนี้พราวมีความสุขมากๆเลยค่ะ พราวมีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนที่น่ารักและตอนนี้ก็มีสามีที่ดีที่ทั้งรักพราวและรักพ่อกับแม่ของพราวอีกด้วย รับได้กับทุกอย่างที่เป็นพราว พราวขอบคุณพี่วินมากเลยนะคะ ที่พี่เป็นคนดีและขอให้พี่ดีแบบนี้ตลอดไปเลยนะคะ”เมื่
“ฝากไว้กับเธอก่อน ฉันกลัวหายน่ะ ส่วนเข็มกลัดนั่นก็ของเธอไม่ใช่เหรอไง” เขาพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยแต่ฉันก็เห็นแววตาร้ายกาจในตาของเขา เขานี่มัน.. อึก..อลิสถึงกับต้องกลืนน้ำลายแล้วหันไปทางกลุ่มเพื่อนของเธอเองว่ามีสีหน้ายังไงเพราะเธอนั้นได้โกหกเพื่อนสาวเอาไว้เรื่องเข็มกลัด“ไอ้สัสมึงนี่นะเก็บเงียบเลยนะ ที่แท้ก็น้องอลิสนี่เอง” เวหาเพื่อนของเขาก็พูดแซวสายฟ้าขึ้นทันทีแต่สายฟ้าทำแค่เพียงยิ้มกริ่มไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรกลับไปจนอลิสต้องรีบแก้ตัวออกไปเพราะกลัวพวกรุ่นพี่นั้นจะเข้าใจผิด“ไม่ใช่นะคะพี่ พวกพี่อย่าเข้าใจหนูผิดเด็ดขาด”เวหาที่เห็นว่าอลิสเริ่มใบหน้าแดงก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอายจึงได้พูดขึ้นอีกครั้ง“พวกพี่ไม่แซวแล้วก็ได้ครับ ฮ่าฮ่า ไอ้สายฟ้าแฟนมึงเขินหน้าแดงยันหูแล้ว”“ไม่ใช่แฟนนะคะพวกพี่ จิ๊ เพราะพี่คนเดียวเลย คนอื่นเข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว พี่ไม่คิดจะแก้ตัวให้อลิสบ้างเลยเหรอคะ”“ฉันไม่ชอบโกหกใครนะ ถ้าฉันพูดเกรงว่าเธอจะไม่พอใจเอาได้นะ” สายฟ้าก็พูดตอบไปยังอลิสด้วยใบหน้านิ่งเรียบ“ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูดและเอาดอกไม้ของพี่คืนไปเลย ขอตัวก่อนนะคะ” เธอโกรธเขาและยัดช่อดอกไม้คืนไปให้แก่เขาและรีบเดินออก
ธาวินพูดขึ้นแล้วหันไปมองคู่หมั้นสาวที่ยืนอยู่เคียงข้างกันวันนี้เขามีความสุขมากไม่คิดเลยว่าผู้ชายอย่างเขาจะมีวันนี้เกิดขึ้นได้ วันนี้เขามีผู้หญิงที่เขารักและเธอก็ยืนอยู่เคียงข้างเขา“พี่มีความสุขมากเลยขอบคุณที่เรายอมกลับมาหาพี่อีกครั้งนะ”“หนูก็มีความสุขมากๆเลยค่ะ หนูรักพี่นะคะ ต่อไปนี้พี่วินเป็นของหนูคนเดียวแล้วนะคะ” พราวจึงยิ้มและพูดตอบกลับไปยังคู่หมั้นหนุ่มของตนเช่นกันว่าเธอนั้นรักเขาและต่อไปนี้เขานั้นเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวธาวินเมื่อได้ฟังคำบอกรักของพราวก็บอกความในใจของตนว่าเขานั้นตกเป็นของเธอมาตั้งนานแล้วและพูดบอกเธอเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าเขานั้นอยากมีลูกแล้ว “พี่เป็นของเราคนเดียวมานานแล้วครับ ไว้รอเราเรียนจบ พวกเราแต่งงานกันเลยนะ พี่อยากมีลูกแล้ว”“ค่ะ พี่รอไปก่อนนะคะ” พราวหน้าแดงขึ้นเพราะความเขินและตอบกลับธาวินว่าให้รอเธอเรียนจบก่อนและจู่ๆพราวก็เห็นเพื่อนสนิทอย่างอลิสกำลังรีบเดินหนีไปอีกทางจึงได้ชี้ให้ธาวินได้เห็นและพูดขึ้นอย่างคนที่สงสัย“เอ๊ะนั่นอลิสนี่ เดินหนีใครมากันนะ”และเหมือนทั้งคู่จะได้คำตอบแล้วเพราะสายฟ้านั้นก็ได้เดินตามอลิสไปติดๆเช่นกันจนธาวินพูดขึ้นมาว่า“นั่น
พ่อของธาวินยกยิ้มขึ้นทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบของลูกชายพร้อมทั้งพูดและหยิบโทรศัพท์ยื่นไปทางปฐวีเพื่อให้เขานั้นได้กดเบอร์มือถือส่วนตัวให้แก่เขา“ดี ถ้างั้นทางฉันจะจัดเตรียมงานหมั้นเอาไว้และจะบอกเอ็งกับเมียอีกทีนะว่าจะได้ฤกษ์วันไหน เอาเบอร์ของเอ็งมาด้วยไอ้วี หวังว่าต่อไปพวกเราคงไม่ขาดการติดต่อกันอีกแล้วนะโว้ย”พ่อของพราวหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์และยื่นคืนให้เพื่อนสนิทและพูดขอบคุณที่ยอมรับในตัวลูกสาวของเขา“หึ ขอบใจนะที่เอ็งยอมรับในตัวพราว”“ก็ต้องขอโทษลูกของเอ็งกับเจ้าวินด้วยเหมือนกัน เมื่อก่อนฉันคิดแต่จะให้เจ้าวินจับคู่กับพวกผู้หญิงที่อยู่ในเครือข่ายธุรกิจด้วยกันเพื่อหวังขยายอำนาจและธุรกิจจนลืมนึกถึงใจลูกๆไปเลย เห้ออ”ธาวินจึงได้เอ่ยพูดกับพ่อของเขาอีกครั้งพร้อมกับยื่นมือไปบีบฝ่ามือของพ่อเบาๆ“ทุกอย่างมันได้ผ่านไปแล้วครับพ่อ พวกเรายังเริ่มใหม่ได้เสมอนะครับ”“อืม เอาสิ พ่อขอเริ่มใหม่กับลูกทั้งสองด้วยนะ แล้วนี่เอ็งจะกลับต่างจังหวัดเลยงั้นหรือ” พ่อของธาวินใช้อีกมือทาบทับไปบนมือของลูกชายและยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ลูกยอมยกโทษให้กับตนและถามไปยังเพื่อนสนิทอีกครั้ง“อือ ช่วงนี้ธุรกิจกำลังไปได้ดีมีลูกค้าเพ
“ฉันมีนัดคุยงานกับลูกค้าน่ะ งั้นเดี๋ยวฉันขอไปทำงานก่อนแล้วกันนะ เอ็งอย่าพึ่งหนีไปไหนล่ะ”“เออๆ ข้ามากินข้าวกับลูกสาว ลูกเขย และเพื่อนๆของลูกสาวข้าน่ะ พราวนี่เพื่อนของพ่อเองพวกเราไม่ได้ติดต่อกันนานมาก เอ็งไปทำธุระก่อนได้เลย เดี๋ยวข้าจะรอที่นี่” พ่อแนะนำธนภพให้กับลูกสาวได้รู้จักและบอกให้เพื่อนไปทำธุระให้เสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยมานั่งคุยกัน“เด็กคนนี้คือลูกสาวเอ็งหรอกเหรอ?” พอได้ฟังปฐวีแนะนำว่าพราวนั้นเป็นลูกของเขา ธนภพก็อึ้งไปเล็กน้อยและพูดถามไปยังปฐวีเพื่อยืนยันอีกครั้ง“เออก็ใช่อ่ะดิ ทำไมหรือ” ปฐวีได้ทำการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาเห็นเพื่อนเก่ามองพราวกับตนเองสลับกันไปมาเลยถามไปยังธนภพอีกครั้งว่าทำไมหรือ“นี่ธาวินลูกชายของฉันเอง” ธนภพจึงได้แนะนำลูกชายของตนแก่เพื่อนเก่าบ้างปฐวีที่ได้ฟังธนภพแนะนำลูกชายของตนก็ตกใจไม่คิดว่าธาวินจะเป็นลูกของธนภพลูกชายของเพื่อนสนิทตนเองได้แต่ก็แนะนำให้เพื่อนนั้นไปคุยธุระเรื่องงานให้เสร็จสรรพก่อน“หาเด็กสองคนนี้ งั้นก็..เออๆไว้ค่อยคุย เอ็งไปทำธุระให้เสร็จก่อนเถอะ”ธนภพจึงพยักหน้าตอบรับและหันไปพูดคุยกับทางลูกค้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและชวนลูกค้าไปนั่งยังโต๊ะที่
ครืด~เสียงโทรศัพท์ของพราวดังขึ้นเธอจึงรีบกดรับสายทันที“ค่าแม่ โทรมาคิดถึงหนูเหรอคะ”(ยัยตัวแสบของแม่ แม่คิดถึงเราอยู่แล้วแหละ แม่โทรมาบอกว่าแม่ได้ออเดอร์ใหญ่จากทางกรุงเทพ ตอนนี้พ่อกับแม่กำลังเข้าไปส่งดอกไม้ที่กรุงเทพและคงจะแวะไปหาหนูด้วย พ่อกับแม่น่าจะถึงช่วงเย็นๆ)“จริงเหรอคะ ดีมากๆเลยค่ะ หนูจะรอพ่อกับแม่นะคะ วันนี้หนูมีเรียนแค่ช่วงบ่ายวิชาเดียว เดี๋ยวหนูส่งโลเคชั่นคอนโดของพี่วินไปให้พ่อนะคะ”(โอเคจ้ะ ไว้เจอกันนะลูกสาวแม่ ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ)เมื่อพราวกดวางสายแล้วอลิสจึงได้ถามขึ้นทันทีให้แน่ใจว่าเธอได้ยินไม่ผิดว่าพ่อกับแม่ของพราวจะลงมาหา“พ่อกับแม่พราวจะมาหาเหรอ?”พราวจึงได้ยิ้มพร้อมกับถามไปยังกลุ่มเพื่อนของเธออีกครั้งว่าพวกเธอนั้นอยากจะเจอกับพ่อแม่ของตนไหม“ช่าย อยากเจอพ่อกับแม่ของฉันกันไหม”“อยากเจอสิ พาพวกท่านไปกินอาหารที่ร้านกันนะ” มายูจึงรีบตอบพราวเพราะเธอนั้นคิดถึงและอยากเจอกับพ่อแม่ของพราว“ฉันก็ว่าดีเหมือนกันนะ เดี๋ยวบอกพี่วินไว้ก่อนดีกว่า” ว่าแล้วเธอก็กดพิมพ์ข้อความแล้วกดส่งไปบอกชายหนุ่มว่าพ่อกับแม่ของเธอลงมาส่งดอกไม้ที่กรุงเทพและจะแวะเข้ามาหาพวกเราน่าจะถึงในช่วงเย็น“ได้เวล
“แล้วไอริสว่าไงลูก” พ่อของเธอหันมาถามไปยังไอริสว่าจะเอายังไงกับผู้ชายคนนี้เธอหันไปมองใบหน้าหล่อเหล่าของชายหนุ่มคู่นอนที่เธอนั้นไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของเขาด้วยซ้ำคิดชั่งใจว่าจะเอายังไงดีจะชอบเขาดีไหม หน้าตาก็ดี รวยก็คือของแถม แต่ลีลาเซ็กส์ของเขานี่ซิที่ทำให้เธอชอบ“ไอริสก็ชอบคุณค่ะงั้นพวกเราลองมาคบกันดู คุณว่าดีไหมคะ?”“ตกลงครับ” ทั้งคู่ต่างตกลงที่จะลองคบหากันดูเพราะต่างก็ชื่นชอบในเซ็กส์ของกันและกันช่วงเวลาสายๆของวันถัดมาธาวินลืมตาตื่นขึ้นมามองไปรอบข้างก็ไม่เห็นแฟนสาวของเขาแล้ว ชายหนุ่มจึงได้ยันกายลุกขึ้นนั่งบิดกายไปมาเพื่อสลัดความง่วงทิ้งแล้วจึงเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อออกมาดูว่าแฟนของเขานั้นหายไปไหนซึ่งก็ได้คำตอบแล้วก็คือ เธอนั้นกำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวธาวินจึงเดินย่องเข้าไปทางด้านหลังของเธอ หญิงสาวที่กำลังร้องฮัมเพลงไปตามเสียงเพลงที่เธอเปิดไว้ก็ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนด้านหลังเขาเดินเข้าไปโอบกอดเธอจากทางด้านหลังจึงทำให้หญิงสาวเกิดอาการสะดุ้งโหยงเล็กน้อยและพูดใส่หูของแฟนสาว“เช้านี้เมียพี่ทำอะไรให้พี่กินครับ”“หนูตกใจหมดเลย พี่ทำไมเดินเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยล่ะคะ”“เรานั