“ไปไหนอีกคะ? วันนี้หนูไม่ว่างต้องทำรายงาน!!” ฉันพูดกับรุ่นพี่ตัวสูงว่าวันนี้ฉันไม่ว่างจริงๆต้องรีบกลับไปทำรายงานส่งพรุ่งนี้“ไปซื้อของ” รุ่นพี่ตัวสูงพูดจบก็เปิดประตูดันฉันให้ขึ้นไปนั่งบนรถของเขาทันที และเขาก็เดินอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ“ไปซื้อคนดะ..เดียวไม่ได้เหรอ..คะ” แล้วเขาก็ใช้สายตาดุหันมาสบตาจ้องฉัน เฮ้ออ ก็คงต้องไปกลับเขาอยู่ดีห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง“พี่จะไปซื้ออะไรคะ” เมื่อเดินเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้าแล้วฉันก็เอ่ยปากถามรุ่นพี่ตัวสูงทันที“กินข้าวก่อนค่อยไปซื้อ” เขาเดินพาฉันแวะเข้าไปกินอาหารภายในร้านก่อนและพอกินเสร็จเขาพาฉันเดินไปที่ร้านขายมือถือไอโฟนสุดหรู“สวัสดีครับสนใจดูรุ่นไหนดีครับ” เป็นเสียงพนักงานที่พูดต้อนรับพี่วินและฉัน“ครับ ผมขอดูรุ่นที่ใหม่ล่าสุดทีครับ” รุ่นพี่ตัวสูงพูดตอบกลับพนักงาน“เชิญด้านนี้เลยครับ” แล้วพนักงานก็พารุ่นพี่ตัวสูงไปยังฝั่งของโทรศัพท์ไอโฟนสุดหรู“แนะนำเป็นรุ่นนี้เลยครับลูกค้า ไอโฟน15 Pro Max”“ชอบสีอะไร” แล้วเขาก็หันหน้ามามองฉัน“หา” จะซื้อของแล้วจะมาถามฉันทำไม เมื่อฉันไม่ได้ตอบคำถามของเขา เขาก็พูดกับพนักงาน“งั้นเอาสีดำ2เครื่อง นี่บัตรครับ
วันนี้ฉันมีเรียนตอนเช้าและก็เป็นยัยมายูเพื่อนรักของฉันที่เป็นคนมารับฉันที่คอนโด เพราะว่ารุ่นพี่ตัวสูงนั้นขับรถกลับไปนอนที่คอนโดของตัวเองตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเพราะว่ามีสายเรียกเข้ามาพอคุยจบรุ่นพี่ตัวสูงก็รีบออกจากห้องของฉันไปทันทีภายในรถระหว่างทางที่จะมามหาลัย อยู่ดีๆยัยมายูที่กำลังขับรถอยู่ก็พูดถามฉันขึ้นมา“แกกับพี่วินนี่มันยังไงกันว่ะ” มายูพูดขณะที่กำลังขับรถไปด้วยใช้สายตาหันมามองฉันแค่เพียงสักครู่แล้วจึงหันไปมองทางข้างหน้าต่อ“ก็..ไม่มีอะไรนี่” เพราะฉันก็แน่ใจเหมือนกันว่าความสัมพันธ์ของพวกเรานี่มันเรียกว่ายังไง สถานะไหนกันแน่ หรือที่รุ่นตัวสูงนั้นทำก็เพียงแค่ทำตามกิจกรรมเท่านั้น“งั้นเหรอ” มายูแสดงสีหน้างุนงงออกมาแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรฉันต่อ“อืมม”“มีอะไรบอกฉันได้ทุกเรื่องเลยนะ แกรู้ใช่ไหม” พร้อมทั้งใช้มือเข้ามายีที่ผมของฉัน“อืม ขอบใจนะ แต่เดี๋ยวคงจะจบแล้วล่ะ” เพราะวันนี้เป็นสุดท้ายของกินกรรมคู่รักมันครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว“...”“เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วนี่เนอะ” ฉันรู้สึกน้อยใจอยู่นิดๆ“นี่แกพูดเหมือนน้อยใจยังไงไม่รู้ ฮ่าฮ่า” เหมือนยัยเพื่อนตัวแสบของฉันจะรู้ทันในความคิดของฉันเลยพูด
“งั้นพราวขอพูดก่อนแล้วกันนะคะ... “ ฉันพูดหันหน้าบอกกับพวกเพื่อนๆรุ่นปีที่1เสร็จก็เงียบแล้วหันหน้าไปทางพี่วินที่ยืนอยู่ข้างแล้วเริ่มพูดขึ้นอีกครั้ง“เวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา พราวรู้สึกขอบคุณพี่วินมากๆเลยนะคะ ตอนแรกพราวยอมรับว่าไม่อยากเจอพี่เลยค่ะ แต่พี่ก็ทำให้พราวเปลี่ยนไป พี่คงจะรับรู้ได้ใช่ไหมคะ” เมื่อฉันได้พูดความรู้สึกนึกคิดของฉันออกไปก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย และมันก็เรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าบรรดานักศึกษาปีที่1ได้อย่างดีเยี่ยมฉันหันไปมองหน้าสบสายตากับพี่วิน เขาดูมีความกังวลอะไรสักอย่าง หรือว่าอาจเป็นฉันที่คิดไปเองฝ่ายเดียว...“ฉันรับรู้ได้อยู่แล้วล่ะ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ฉันตั้งใจเข้าหาเธอ อยากให้เธออยู่ใกล้ๆ ขอบคุณกิจกรรมนี้ด้วยแล้วกันครับที่จัดขึ้นมา มันดีมากเลยครับ และนอกเหนือจากนั้นขออนุญาตพูดกันแค่สองคนนะครับ ” รุ่นพี่ตัวสูงพูดจบ เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นมาอีกระลอกนึงเมื่อเสร็จกิจกรรมในช่วงเย็นรุ่นพี่ตัวสูงก็พาฉันขึ้นรถพาไปยังห้างสรรพสินค้าแถวมหาวิทยาลัยเพื่อกินอาหารมื้อเย็นกัน“กินเยอะๆนะ” รุ่นพี่ตัวสูงพูดพรางใช้ช้อนกลางตักอาหารให้ฉัน มันคือเมนูสุดโปรดปรานของฉันทั้งนั้นเลย พวกเราอ
“ใจเย็นๆแล้วนี่มันไปไหน” ผมพูดตอบกลับเธอพรางใช้สายตามองดูทั่วห้อง“พอทะเลาะกันเสร็จเขาก็ออกไปเลย ฮึก” เธอยังคงร้องไห้เสียงสั่นเครือพร้อมทั้งก้มหน้าซบกับอกแกร่งของผม“อืม แล้วลองโทรไปใหม่หรือยัง” ผมก็คงได้แค่นั่งเป็นเพื่อนปลอบใจเธอได้แค่นั้น“เรายังไม่พร้อมคุยแหละวิน” หลังจากนั้นผมก็เลือกที่จะเงียบ“วะ..วิน คืนนี้อยู่เป็นเพื่อนเราได้ไหม เราไม่อยากอยู่คนเดียว” เมื่อผมเงียบสักพัก อันดาก็พูดขึ้นพร้อมทั้งเงยหน้ามองสบตากับผมอีกครั้ง“แต่...”“นะวิน โก้ไม่กลับมาหรอก ฮึก”“อืมม..” สุดท้ายผมก็ใจอ่อนแพ้น้ำตาและเสียงอ้อนของเธอหลังจากนั้นผมก็เริ่มเก็บขวดเหล้าเอาไปกองไว้มุมห้องและทำอาหารง่ายๆให้อันดาได้กินเพราะดูแล้วเธอน่าจะยังไม่ได้กินอะไรเลย เมื่อทำเสร็จก็นำมาวางไปให้เธอบนโต๊ะอาหาร“ขอบคุณนะวิน ยังจำได้อยู่หรอว่าเราชอบข้าวผัดกุ้ง”“อืมม รีบกินเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้วจะได้นอนพักผ่อน”“เราจะนอนหลับหรือเปล่ายังไม่รู้เลย” เธอกินข้าวผัดกุ้งพร้อมทั้งทำหน้าซึมเศร้าออกมาและเมื่อกินข้าวเสร็จผมก็นำจานของเธอไปล้างทันที“ขอบคุณนะ วินช่วยเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนอันในห้องได้ไหม อันกลัว” ผมคงต้องอยู่เป็นเพื่อนให้เธอ
มหาวิทยาลัย CH“เพราะพี่เลยเนี่ย หนูเกือบจะเข้าเรียนไม่ทันอยู่แล้ว” ก็เพราะรุ่นพี่ตัวสูงจริงๆนั่นแหละ เขาบอกฉันว่าแค่แปบเดียว แต่มันแปบเดียวตามที่ปากของเขาบอกกันซะที่ไหนฉันโดนจัดหนักไปสองรอบ“หึ..”รุ่นพี่ตัวสูงแค่นหัวเราะออกมา“หนูไปเรียนแล้วนะ” เมื่อรถของรุ่นพี่ตัวสูงมาจอดที่หน้าตึกคณะของฉันแล้ว ไม่รอช้า~ฉันกล่าวบอกเขาแล้วเปิดประตูรถเร่งรีบก้าวเท้าเดินจ้ำอ้าวเข้าไปยังห้องที่ฉันมีเรียนวิชาแรกทันที เมื่อผมส่งยัยเด็กดื้อที่ใต้ตึกคณะเสร็จผมก็ขับรถมาจอดที่ยังใต้ตึกคณะวิศวะของผมในทันที เมื่อจอดรถเสร็จผมก็เดินเข้ามานั่งรอกลุ่มเพื่อนของผมที่ตรงใต้ตึกคณะของผม สักพักเพื่อนของผมก็เดินเข้ามา“ไงมึงมาเช้าเชียว” ไอ้สายฟ้าพูดขึ้นมาเมื่อเห็นผมมาเช้า เพราะเมื่อคืนกว่าผมจะกลับจากผับของมันก็ดึกพอสมควร“อืมม เด็กกูมีเรียนเช้าเลยต้องรีบมาก่อน” ผมจึงตอบกลับไอ้สายฟ้าไป“แหมๆมีเรียกเด็กกูซะด้วยว่ะ ฮ่าฮ่า” เป็นเสียงไอ้เวหาที่ได้ทีรีบแซวผม“พบคนคลั่งรักแล้วหนึ่ง ฮ่าฮ่าฮ่า” ไอ้ออสตินก็พูดเสริมทัพขึ้นมาอีกคน“...” ผมยิ้มไม่ได้พูดอะไรโต้กลับเพื่อนของผมไปก็คงจะจริงดั่งคำที่พวกมันว่านั่นแหละ“อีกสิบนาทีได้เวลา
ภายในรถของพี่วิน“วันนี้ฉันไปนอนห้องเธอนะ” ขณะที่ขับรถอยู่ พี่วินก็พูดออกมาโดยที่ไม่ได้หันมามองฉัน แต่ก็นะก็ไปนอนเกือบจะทุกวันอยู่แล้วไหมล่ะ เสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆของพี่เขาอยู่ภายในห้องของฉันเต็มไปหมดจนแทบจะกลายเป็นห้องของพี่วินไปแล้ว“ค่ะ” ฉันตอบรับคำพูดของพี่วินทันทีพร้อมทั้งพยักหน้า แต่แล้วคำพูดของรุ่นพี่สาวสุดสวยที่พวกกลุ่มพี่วินบอกว่าเป็นแค่เพื่อนต่างสถาบันก็ลอยเข้ามาในหัวอีกแล้ว ‘ใจร้ายเหมือนเมื่อคืนเลยนะ / ทำไมเมื่อคืนวินไม่เห็นบอกอะไรพี่เลยนี่ / จะได้รู้อะไรดีๆมากขึ้น’อย่างนั้นเหรอมันทำให้ฉันคิดไปต่างๆนาๆ หรือว่าเมื่อคืนพวกเขาอาจจะอยู่ด้วยกัน ก็พวกพี่เขาบอกว่าเป็นเพื่อนกันนี่นาก็อาจจะนัดพบนัดเจอกันก็ได้นี่เนอะแต่คำพูดทั้งหมดทั้งมวลมันทำให้ฉันเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี ชาวูบไปทั้งตัว ใจเริ่มสั่นไหว หรือมันคงมีอะไรสักอย่างระหว่างพวกพี่เขาทั้งสอง ที่ฉันยังไม่รู้และก็คงไม่อยากบอกให้คนอย่างฉันได้รู้...แล้วเมื่อมาถึงคอนโดและพากันขึ้นมาถึงห้องพักของฉันกันแล้ว เราต่างก็เดินไปนั่งที่โซฟามุมห้องรับแขกแล้วเปิดทีวีดูซีรี่ย์ และพอผ่านไปได้สักพัก“ไปอาบน้ำสิ” รุ่นพี่ตัวสูงพูดข
“พี่พอเถอะค่ะ ถ้าไม่สำคัญแล้วทำไมเมื่อคืนนั้นพี่ถึงได้รีบออกไปจากห้องของหนูทันทีเลยละคะ แล้วในรูปนี่มันคืออะไรคะ” พอฟังประโยคที่พี่วินพูดว่าแฟนเก่าของเขาไม่ได้สำคัญอะไร ทำเอาฉันนี่ขึ้นเลย รีบพูดแทรกคำพูดของพี่วิน พร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูที่พี่เขาซื้อให้ยื่นไปให้เขาได้ดูรูปอันหวานซึ้งระหว่างพวกเขา“…..” และเมื่อได้เห็นรูป พี่วินก็พูดอะไรไม่ออกพร้อมกับเริ่มทำหน้าขรึม“ตอนนี้พี่ช่วยออกไปจากห้องของหนูก่อนได้ไหมคะ” ตอนนี้ฉันต้องรักษาเยียวยาใจให้ตัวเองก่อน ถ้ารุ่นพี่อยู่ด้วยฉันก็จะไม่มีทางเลิกร้องไห้ได้แน่นอน ฉันจึงต้องบอกให้รุ่นพี่ตัวสูงนั้นช่วยออกไปจากห้องของฉัน“ไม่..ฉันไม่ออก” พี่วินยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็งว่ายังไงก็จะไม่ยอมออกไปจากห้องของฉัน“ขอร้องเถอะค่ะ หนูอยากอยู่คนเดียว” เมื่อเขาเสียงแข็งมา ฉันก็ต้องพูดโต้กลับด้วยเสียงแข็งและหนักแน่นเหมือนกัน เมื่อพูดบอกกล่าวพี่วินเสร็จฉันก็หันหลังให้เขาในทันที“แต่ฉัน..ก็ได้ไว้รอให้เธอใจเย็นลงก่อน เราค่อยมาคุยกัน” เมื่อพูดจบประโยคแล้ว รุ่นพี่ตัวสูงก็เข้าไปแต่งตัวภายในห้องน้ำและเมื่อเสร็จแล้วจึงสาวเท้าเดินออกไปจากห้องของฉันด้านธาวิน
“เหอะ สงสัยจะซึ้งมากน้ำตาท่วมจอเลยมั้งเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า” แล้วยัยมายูก็พูดตอบกลับด้วยคำพูดชวนตลกเพื่อที่ไม่อยากจะให้ฉันเศร้าและคิดมากอีกพูดถึงยังไม่ทันขาดคำเพื่อนสาวสองคนของฉันก็เดินเข้ามาทันที ยัยอลิสและชะเอม เนื่องจากทั้งสองบ้านอยู่ใกล้กันเลยจะมาพร้อมกันอยู่บ่อยๆ“พราว ตาบวมเชียวไปทำอะไรมา ร้องไห้ทำไม” อลิสเดินดุ่มๆเดินเข้ามาหาฉัน พรางจับเข้าที่ไหล่ของฉันอย่างเบามือด้วยความห่วงใย“ปะ..เปล่าหรอก เมื่อคืนฉันดูซีรี่ย์เกาหลีแล้วมันซึ้งมากๆ น้ำตาแตกเลยแหละ” ฉันพูดตอบกลับอลิสกลับไปด้วยสีหน้าที่ยิ้มออกมา“อ๋ออะเค แล้วพวกแกกินข้าวกันมายัง ฉันยังเลย” อลิสมีสีหน้าที่คลายความกังวลลงทันทีเมื่อฉันบอกว่าแค่ดูซีรี่ย์และร้องไห้เฉยๆจ๊อกจ๊อก~~เป็นเสียงท้องร้องของยัยอลิสที่ส่งเสียงดังขึ้น“แฮร่ๆ ก็บอกแล้วว่าหิว”“งั้นพวกเราไปกินข้าวกัน ฉันก็ไม่ได้กินไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน นั่งดูซีรี่ย์ดึกไปหน่อย” และเป็นฉันที่ชวนเพื่อนๆไปนั่งกินข้าวเช้ากันที่โรงอาหารของคณะระหว่างที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ในโรงอาหารของคณะ จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้น พร้อมกับโชว์สายเรียกเข้าเป็นเบอร์แปลก เอ๊ะ!!หรือว่าจะเป็นคุณมิจ