Share

บทที่ 2

‘อร่อยชาตินี้ ผอมอีกทีชาติหน้า’

ประโยคนี้คืออุดมการณ์ใหม่ของทิพย์ทิวาหรือที่ใครๆ มักจะเรียกว่าทิช่าชีวิตเธอเคยอ้วนจนตัวแทบแตกมาแล้วในวัยเยาว์ ก่อนจะมาสวยพริ้งตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยสวยชนิดหัวบันไดคอนโดมิเนียมที่เช่าอยู่ไม่เคยว่าง มั่นใจมาก กร๊าก 

แต่อยู่ๆ เสียงถอนหายใจก็ดังขึ้นเฮือกใหญ่

“เฮ้อ!” 

เสียงนี้ดังออกจากปาก คนที่กำลังนอนรับลมอยู่บนตั่งไม้ใต้ศาลาริมน้ำที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อไว้รับลมเย็นๆ โดยข้างๆ ตัวเธอคือขนม นมเนยของโปรดเธอทั้งนั้น มีบางอย่างที่เธอกินจนเหลือแค่ถุงเปล่าๆ บางอย่างก็เหลือแค่ครึ่งเดียว ยิ่งเครียดทิพย์ทิวาก็ยิ่งกิน 

ทิพย์ทิวานอนพลิกไปพลิกมาไม่เท่าไหร่ก็ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจดังเฮือก แล้วก็เฮือกอีกเป็นชุด นั่นเพราะในสมองตอนนี้คิดแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน 

‘หล่อนก็หัดผอมได้แล้วยัยทิช่า ให้อดีตรักอันขมขื่นของหล่อนมาทำให้ชีวิตอ้วนอืดอยู่ได้ตั้งปีๆ หล่อนน่ะหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มจะตายไป สวยนิด คร้านผู้ชายจะวิ่งตามให้ฝุ่นตลบ’

ประโยคนี้ของแม้นศรีเพื่อนสนิทดังอยู่ในโสตประสาท แต่ใช่ว่า ทิพย์ทิวาจะไม่มีคำตอบให้ 

‘อย่ามายุ่งกะพุงกะทิของเพื่อนได้ปะ กว่าจะได้มาหมดตังค์ไปไม่รู้เท่าไหร่ นี่ฉันยังรักจะกินอยู่ย่ะ ตอนนี้ เวลานี้ผู้ชง ผู้ชายน่ะ เพื่อนไม่ได้สนใจเลย เคยได้ยินมะ เสียใจเพราะผู้ชาย เพื่อนไม่มายเท่าไม่ได้กิน อร่อยชาตินี้ ผอมอีกทีชาติหน้า’

เมื่อปีก่อน หุ่นเธอเป็นแบบนี้เสียเมื่อไหร่ ตอนเด็กๆ อ้วนดำอยู่หรอก พอสาวก็ผอม สวย กับเขาอยู่เหมือนกัน แต่เพราะถูกผู้ชายห่วยๆ อย่าง ปองคุณที่คบหามาหลายปี ถึงขั้นวางแผนแต่งงานบอกเลิกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แถมเลือกวันดีเสียด้วย มาบอกเลิกกันในวันครบรอบที่คบกันมาเจ็ดปีหึ!

คิดเรื่องนี้แล้ว ทิพย์ทิวาก็ยิ้มเหยียดออกมา จำได้ว่าวันนั้นเธอถึงกับเสียศูนย์ นอนจมน้ำตาอยู่หลายวัน ผอมลงมาตั้งสองกิโล แต่พอตั้งสติได้ก็บำบัดอาการอกหักรักคุดของตัวเอง ด้วยการกินแล้วก็กิน กินมันทุกอย่าง จากน้ำหนักแค่สี่สิบเจ็ด ตอนนี้จึงดีดมาหกสิบห้าเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนหนองปลาช่อน อันเป็นชื่อโรงเรียนที่เธอไปงานคืนสู่เหย้าแล้วเกิดเรื่องวุ่นๆ มาเมื่อคืน 

แต่ทว่าตอนนี้เรื่องอกหัก รักขม คงต้องพับเก็บไว้ก่อน เพราะเธอมีเรื่องอื่นให้ปวดหัวแทน จากที่นั่งกินของเธออยู่ดีดี๊ เมื่อคืนยัยแม้นศรีลากเข้าไปเอี่ยวเรื่องหาคู่มาควงในงานคืนสู่เหย้าปีหน้าซะอย่างนั้น

หึ๋ย! 

ทิพย์ทิวาเม้มปาก ถ้าแม้นศรีอยู่ใกล้ๆ เธอคงกระโดดข่วนหน้าเป็นทางไปแล้วแน่ๆ คิดแล้วน่าโมโห แต่พอมาคิดอีกทีก็โมโหไม่ลง เพราะถ้ากิรณาและบัณฑิตาไม่ท้าทายแม้นศรีจนความอดทนทะลุจุดเดือด ตอบรับคำท้าไป เรื่องพนันขันต่อด้วยเงินล้านก็คงไม่เกิด

คิดเรื่องนี้แล้วก็หิว พอหิวจึงเดินไปยังครัวแล้วตักข้าวมานั่งกินมันเสียเลย กินไปก็ถอนหายใจไป 

“เฮ้อ!”

“เป็นอะไรลูก” จันทร์ที่นั่งปอกเงาะให้เอ่ยถามบุตรสาว ที่ตอนนี้เอาแต่ถอนหายใจเฮือกๆ แต่ปากก็ยังเคี้ยวตุ้ยๆ อยู่ 

“เครียดอยู่จ้ะแม่”

“เอ็งอย่าเครียดมาก กับข้าวจวนจะหมดโต๊ะอยู่แล้ว เดี๋ยวพ่อกับพี่เอ็งไม่มีข้าวเย็นกิน” ถึงจะเอ่ยแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วจันทร์ชอบที่บุตรสาวอ้วน เพราะดูน่ารัก น่ากอด ไม่ได้ผอมแห้งอย่างเมื่อปีสองปีก่อน แต่จะว่าไปเธอก็แปลกใจ ที่อยู่ๆ ทิพย์ทิวาก็กลับมาอ้วนแบบนี้ 

“อุ๊ย! หนูลืมตัว โทษทีจ้ะแม่” ทิพย์ทิวาส่งยิ้มแห้งๆ ให้มารดา ที่เผลอกินเยอะไปหน่อย 

“สรุปเครียดเรื่องอะไร” 

“อ้อ…เรื่องเมนี่”ชื่อที่ได้ยิน ทำให้จันทร์เลิกคิ้วสูง นั่นเพราะไม่คุ้นหูกับชื่อเพื่อนใหม่ของบุตรสาวคนนี้นัก 

“ใครกันเมนี่ เพื่อนใหม่ลูกเรอะ”

“เพื่อนเก่าจ้ะแม่ เพื่อนเก่าแต่นางมาในร่างใหม่ เป็นร่างอวตาร สวยเช้ง”

“เอ็งพูดอะไร แม่งงไปหมดแล้ว”

“เมนี่ที่หนูพูดถึงก็ยัยแม้นน่ะแหละจ้ะ เมนี่กับแม้นศรี คนคนเดียวกัน”

“อ้อ…แม่ก็นึกว่าใคร” จันทร์พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะวางเงาะให้บุตรสาวไปจานใหญ่ ไม่นานนักเงาะที่เธอนั่งปอกเปลือกแล้วคว้านเอาเมล็ดออกก็หายวับไปกับตา

แต่เพราะความที่ยังไม่รู้สึกว่าอิ่ม จึงขอให้มารดาปอกเงาะให้อีกจาน โดยเจ้าตัวกลับไปนั่งคิดอะไรคนเดียว ที่ศาลาริมน้ำ คนเป็นแม่หรือจะขัดได้ ในเมื่อลูกสาวอยู่ในวัยกำลังกิน กำลังโตแบบนี้ (หืม…มันใช่หรือคะแม่จันทร์) 

ขณะที่นั่งคิดเรื่องนี้ หูของทิพย์ทิวาก็ได้ยินเสียงรถดังแว่ว พอหันกลับไปมองหน้าบ้านก็เห็นรถคันหรูที่แม้นศรีขับเมื่อคืนแล่นเข้ามาจอด รถที่เธอคิดว่าเพื่อนทุ่มเงินซื้อ แต่ที่ไหนได้ แม้นศรีแค่เช่ามาเพื่อขับโก้ๆ หรูๆ ให้ใครๆ มองแล้วต่อมอิจฉาทำงานก็เท่านั้น 

พอรถจอดสนิท เธอก็เห็นสาวร่างสวยก้าวเดินลงมา ตอนนี้แม้นศรีเปลี่ยนไปแล้ว เธอสวยมาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพราะเจ้าหล่อนถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่หลายสิบล้าน สิ่งแรกที่ทำคือเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สวยเช้ง ลบคำว่าขี้เหร่ไปจากสมอง

“เมนี่…ทางนี้” ทิพย์ทิวาโบกมือเรียก นั่นทำให้แม้นศรีเดินเข้าไปหา ซึ่งเจ้าบ้านมั่นใจว่าเพื่อนสาวมาง้อ ให้เธอร่วมทำ มิชชั่นระดับชาติที่รับคำท้ามาจากกิรณาและบัณฑิตาเมื่อคืนเป็นแน่ 

“เป็นอะไรไปอะเมนี่ หน้างอยังกะตูดลิง นี่แกตกลงมาง้อฉัน รึว่าอะไรกันแน่อ่ะ” พอเห็นหน้าแม้นศรี ที่อึมครึมมาแต่ไกลทิพย์ทิวาถาม ก่อนจะรั้งตัวผู้มาเยือนยามบ่ายให้นั่งลงบนตั่งไม้ใต้ศาลา บนโต๊ะเต็มไปด้วยของอร่อยๆ ที่มารดาขนมาปรนเปรอ เมื่อรู้ว่าบุตรสาวกลับมาพักอยู่บ้านหลายวัน

“มาง้อสิ มาวิงวอน มาขอให้ช่วย” พูดไปก็หน้าหงิกหน้างอไป จนทิพย์ทิวาต้องขมวดคิ้ว

“อะไรของหล่อน หน้าตามาง้อฉัน ทำไมมันบูดบึ้งหรือโบท็อกซ์มันหมดอายุ”

 

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status