“ล้านอะไร เงินอะไรกัน” ทิพย์ทิวาซึ่งมาทีหลังเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียงห้วน หน้าตาตื่นเมื่อได้ยินจำนวนเงิน เธอจับแขนของแม้นศรีไว้ แล้วทำตาปริบๆก่อนจะถามคนข้างๆ
“เงินอะไรน่ะเมนี่ พนันอะไรกัน”แต่แทนที่จะตอบทิพย์ทิวาไป แม้นศรีกลับหันไปรับคำท้าจากกิรณา “กระจอก จิ๊บจ๊อย เตรียมเงินไว้จ่ายเลยย่ะ แล้วผู้ชายที่ฉันควงมา จะต้องแซบกว่าเธอสามเท่า เตรียมเสียเงินให้ฉันได้เลย ยัยกี้ อ้อ...นอกจากฉันจะควงหนุ่มสุดฮอตปรอทแตกมาแล้ว ยัยทิช่า” ขณะเอ่ยเธอก็โอบร่างอวบๆ ของเพื่อนเข้ามาหาตัว ถึงจะคนละไซส์ แต่แรงของแม้นศรีก็เล่นเอาทิพย์ทิวาตัวปลิว “ก็จะควงผู้ชายมาด้วย แถมจะผอมเพรียวสลิม ถ้าทำไม่ได้ ยอมจ่ายอีกห้าแสน” “เฮ้ย!” ทิพย์ทิวาอุทานเสียงดัง มองเพื่อนเหมือนถูกผีหลอก แม้นศรีโบกมือ “ไม่ต้องห่วง พี่จัดการเอง”เอ่ยกับทิพย์ทิวาเสร็จ ก็หันไปตอบเสียงแหลมกับคู่ท้าทาย “งานนี้ กล้ามั้ยล่ะมั้ยล่ะ” “กล้าสิยะ ให้มันรู้ไปว่าหนังหน้าศัลยกรรมอย่างเธอ แล้วหน้าสวยธรรมชาติสร้างอย่างฉัน ใครมันจะดีกว่ากัน” กิรณาว่า สองสาวมองตากันเขม็ง เหมือนมีกระแสแล่นเปรี๊ยะในอากาศ ส่วนบัณฑิตาและทิพย์ทิวาได้แต่มองตากันปริบๆ เพราะไม่คิดว่าเรื่องจะลุกลามไปถึงขนาดนี้ แม้นศรีเชิดหน้า แล้วยื่นมือให้กับกิรณา สองสาวจับมือกันเขย่าแรงๆ ก่อนจะรีบปล่อย แล้วโดนเพื่อนซี้ของตนพากันลากออกมาจากที่ตรงนั้น ต่างคนต่างกลับออกไปจากงานพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทิพย์ทิวาจัดการเฉ่งเพื่อนรักทันทีเมื่ออยู่กันตามลำพังสองต่อสอง สาวร่างอวบแปลงกายเป็นนางผีเสื้อสมุทรชั่วคราว เสียงของเธอนั้นดังก้องภายในรถคันหรูที่ตอนนี้แม้นศรีเป็นคนขับเพื่อไปส่งเธอที่บ้าน “พนันอะไรไม่พนัน พนันเรื่องหาผัว แถมยังพนันให้ฉันผอมอีก แกนะแก ทำไมจะต้องลากเอาฉันไปเกี่ยวด้วย แล้วพนันอะไรกันตั้งล้าน จะบ้าเรอะ” “ศึกแห่งศักดิ์ศรีย่ะ แกจะต้องทำด้วยนะ ยัยทิช่า ต้องผอม แล้วต้องหาแฟนมาให้ได้ก่อนงานคืนสู่เหย้าปีหน้า ฉันมีเวลาให้แกปีหนึ่ง ไปผอมมาเลย ถ้าฉันเสียเงินห้าแสนนะ” แม้นศรีถลึงตาใส่เพื่อน แล้วทำเสียงเข้ม “ฉันจะ...” “โอ๊ยๆๆๆ ไม่เด็ดขาด! สำหรับทิช่า เรื่องกินเรื่องใหญ่เสียยิ่งกว่าเรื่องผู้ชาย นี่แกจะให้ทั้งผอมทั้งหาผู้ชาย แกปรึกษาฉันสักคำรึยังยะ เสียไปเลยเงินแกนะ อยากบ้าดีนัก” “เพื่อนรักของเมนี่ กรุณา พลีส นี่มันเป็นชัยชนะที่เราสองคนจะต้องได้มาให้ได้นะ นังพวกนั้นมันจะได้รู้ ว่าใครเป็นใคร แกผอมแล้วจะได้สวย สุขภาพดี มีแฟนก็ดีจะได้มีคนดูแล ดีจะตายไปอะ หมู่บ้านคานทองนิเวศน์ คนจองเต็มไปหมดแล้ว เราสองคนอย่าไปอยู่เลย เชื่อเมนี่ พลีส” เจ้าหล่อนคว้าเอาแขนอวบๆ เพื่อนมาเกาๆ ออดอ้อนเป็นแมว ทิพย์ทิวามองแล้วก็ได้แต่กลอกตาขึ้นบน ปากเบะแล้วถอนใจเฮือกใหญ่ เอายังไงดีหว่าเรา... ผอม! ถ้าพยายามเธอก็พอทำให้ได้ แต่หาผู้ชายมาควงนี่สิคืองานยาก งานหินสำหรับเธอไปมั้ย เธอต้องแรดเพื่อสลัดคานกับยัยเพื่อนบ้า ที่รับคำท้าบ้าๆ มานี่เหรอ โอ๊ย! เครียด อยากกินกุ้งแม่น้ำ นั่นไง พูดถึงกุ้งแม่น้ำ เธอลืมไปเอากุ้งที่สั่งใส่ห่อกลับบ้าน ลืมอะไรไม่ลืม ลืมของโปรด แต่คำพูดของคนข้างๆ ก็ทำให้ทิพย์ทิวาหยุดคิดเรื่องกุ้งแม่น้ำไปชั่วคราว “ฉันรู้ว่าแกไม่เห็นแก่เงินเลยทิช่า แต่ฉันจ้างแกเลย ทุ่มสุดๆ ล้านหนึ่ง เพื่อไม่ให้ฉันเสียหน้า ผอมเหอะเพื่อน ส่วนผู้ชายฉันคิดว่าแกหาได้ง่ายเหมือนลิงหากล้วยกิน” “ดูแกเปรียบ” คนข้างๆ หันมาค้อนขวับให้คนที่กำลังขับรถสปอร์ต “นะแก…ผอมเหอะ พลีส”ไหนๆ ก็ไหนๆ แม้นศรีก็ถึงกับเสียงอ่อน เอ่ยขอให้ทิพย์ทิวาผอมแล้วร่วมทำมิชชั่นระดับชาติกับเธอ “ไม่”คนถูกชวนยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมกับชักมือกลับแล้วนั่งกอดอกแทน “ทิช่า นี่แกไม่รักฉันเลยเหรอ หืม” “รัก…เพราะแกคือเพื่อนรักของฉัน” “ถ้ารักฉันจริง แกก็ผอมเถอะนะเพื่อน ผอมแล้วแกสวย ฉันยังชอบเลย นะทิช่านะ นะๆ”นี่ถ้าไม่ติดว่าดึกแล้ว รอบๆ ข้างถนนมันมืด เธอจะจอดรถแล้วคว้าตัวทิพย์ทิวามากอดแล้วอ้อนเป็นแมวให้เพื่อนใจอ่อน “ฉันขอคิดดูก่อน” “กี่วันอ่ะ” “ไม่รู้” ทิพย์ทิวาตอบตึงๆ กลับไป อันที่จริงเธอไม่ชอบวิธีเอาชนะของแม้นศรีสักเท่าไหร่ แต่ให้ทำไงได้ในเมื่อเพื่อนรักตกปากรับคำท้าไปแล้ว แถมเงินเดิมพันก็สูงลิ่ว แต่จะตอบตกลงไปง่ายๆ ก็กลัวแม้นศรีจะได้ใจ ปากไวเห็นว่ามีเงินแล้วจะพนันอะไรบ้าๆ แบบนี้อีก หึหึ…ถึงคราวเธอเล่นตัวบ้างแล้วยัยแม้นเอ๋ย คราวนี้หล่อนต้องง้อฉัน อิอิ แต่แม้ตอนนี้ทิพย์ทิวาจะยังไม่ตอบตกลง แต่แม้นศรีก็ยืดอกยิ้มกริ่มกับความคิดที่เกิดขึ้นในสมอง เมื่อนึกถึงวันที่เธอควงหนุ่มสุดฮอตมาเย้ยแม่สองคนนั่น เหอะ! สวยยังสวยได้แล้วเลย กะอีแค่หาว่าที่สามี ทำไมแม้นศรีจะทำไม่ได้ หุหุ‘อร่อยชาตินี้ ผอมอีกทีชาติหน้า’ประโยคนี้คืออุดมการณ์ใหม่ของทิพย์ทิวาหรือที่ใครๆ มักจะเรียกว่าทิช่าชีวิตเธอเคยอ้วนจนตัวแทบแตกมาแล้วในวัยเยาว์ ก่อนจะมาสวยพริ้งตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยสวยชนิดหัวบันไดคอนโดมิเนียมที่เช่าอยู่ไม่เคยว่าง มั่นใจมาก กร๊าก แต่อยู่ๆ เสียงถอนหายใจก็ดังขึ้นเฮือกใหญ่“เฮ้อ!” เสียงนี้ดังออกจากปาก คนที่กำลังนอนรับลมอยู่บนตั่งไม้ใต้ศาลาริมน้ำที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อไว้รับลมเย็นๆ โดยข้างๆ ตัวเธอคือขนม นมเนยของโปรดเธอทั้งนั้น มีบางอย่างที่เธอกินจนเหลือแค่ถุงเปล่าๆ บางอย่างก็เหลือแค่ครึ่งเดียว ยิ่งเครียดทิพย์ทิวาก็ยิ่งกิน ทิพย์ทิวานอนพลิกไปพลิกมาไม่เท่าไหร่ก็ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจดังเฮือก แล้วก็เฮือกอีกเป็นชุด นั่นเพราะในสมองตอนนี้คิดแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ‘หล่อนก็หัดผอมได้แล้วยัยทิช่า ให้อดีตรักอันขมขื่นของหล่อนมาทำให้ชีวิตอ้วนอืดอยู่ได้ตั้งปีๆ หล่อนน่ะหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มจะตายไป สวยนิด คร้านผู้ชายจะวิ่งตามให้ฝุ่นตลบ’ประโยคนี้ของแม้นศรีเพื่อนสนิทดังอยู่ในโสตประสาท แต่ใช่ว่า ทิพย์ทิวาจะไม่มีคำตอบให้ ‘อย่ามายุ่งกะพุงกะทิของเพื่อนได้ปะ กว่าจะได้มาหมดตังค์ไปไม่รู้เท่
“บ้า…ฉันพึ่งฉีด” “แล้วเป็นอะไร เล่ามา” “เรื่องเซอร์ไพรส์สุดๆ ที่ พ่อหาไว้รอฉันตอนกลับบ้านยังไงล่ะถึงได้หน้าเป็นตูดไก่แบบนี้ แกกรุณาอย่าเปรียบอะไรเป็นลิงได้มั้ยพักนี้ มันไม่เข้าหูอย่างแรง”“เออๆ ไม่เปรียบก็ไม่เปรียบ สรุปเซอร์ไพรส์อะไร รึว่าพ่อของแกไปทำดั้งแข่งกับแกมา ยัยเมนี่” มือของสาวอวบหยิบกล้วยเบรกแตกเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างอร่อย แม้นศรีมองค้อนเพื่อน นี่มันจะเลิกสนใจเรื่องกิน มาสนใจเพื่อนสักห้านาทีจะได้มั้ยเนี่ย?“พ่อหาผัวไว้รอฉันยังไงล่ะ งานนี้ไม่ต้องไปหาเลย มีคนควงไปชัวร์ๆ ปีหน้า โอ๊ย...” เจ้าหล่อนทำเสียงแหลมปรี๊ด จนทิพย์ทิวาสะดุ้ง สำลักกล้วยจนหน้าแดง ต้องหาน้ำกินให้วุ่นวาย“หา…อะไรนะ!”“พ่อจะจับฉันหมั้น แล้วก็แต่งงานกับ กับ แก แก๊...” เสียงที่ว่าแหลม หนนี้ปรี๊ดไปอีกสามเท่า พลางทำท่าขนลุก“คนอะไร หน้าตายังกับคิงคอง เหมือนมาก...จนฉันนึกว่าอยู่ในสวนสัตว์พาต้า เวลามองฉันก็ทำน้ำลายยืดๆ แล้วแบบ...คือฉันไม่ได้รู้สึกรังเกียจคนที่หน้าตาอย่างเดียวเพียวๆนะทิช่า แต่อีตาคนนี้อะ ดูอวดรวย ไม่สลดในความหน้าตาดูไม่ได้ของตัวเองเล้ย ทำเหมือนตัวเองหล่อมาก อวดๆๆ อวดว่ารวย อวดว่าหล่อมาก มีผู้หญิงมาช
วันหยุดหมดลงไปอย่างรวดเร็ว เวลานี้ทิพย์ทิวากำลังง่วนอยู่กับงานที่ต้องเคลียร์ กระทั่งเกือบๆ จะได้เวลาเลิกงาน เธอกลับมายืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานของผู้จัดการใหญ่ ที่เรียกคำสั้นๆ ติดปากว่า ‘นาย’ทิพย์ทิวาถูกเรียกให้มาพบด่วน ในสมองของสาวอวบตอนนี้กำลังคิดไปต่างๆ นานา ว่าเหตุผลอะไร ผู้จัดการใหญ่ถึงเรียกเธอมา แต่คิดไปก็เท่านั้น จึงเปิดประตูเข้าไปหาคำตอบผ่านไปเกือบชั่วโมง ร่างอวบก็เดินกลับออกมาจากห้อง สีหน้าของเธอดูเรียบเฉย พลอยทำเอาเกิร์ลแก๊งอร่อยไม่กลัวอ้วน บุฟเฟต์อยู่ที่ใด โปรดบอกพี่ โดยมีทิพย์ทิวาเป็นหัวหน้า ยืนรออยู่ ออกแนวงงๆ ไปด้วย ก่อนที่คนผอมสุดในกลุ่มจะเดินเข้าไปหานั่นเพราะรายนี้กินเท่าไหร่ น้ำหนักก็ไม่เห็นจะขึ้น ผิดกับเธอ ที่แค่ได้กลิ่น น้ำหนักก็พุ่งพรวดๆ “ว่าไงบ้างเจ้ทิช่า” น้ำเสียงของวาดดาวรุ่นน้องที่ทำงานเอ่ยถามนั้นแฝงไว้ด้วยความเป็นห่วง เพราะเธอรู้สึกสังหรณ์ใจบอกไม่ถูก “เย็นนี้มีคูปองบุฟเฟต์ฟรีสามที่ เราไปกินกันมั้ย”ผู้มีอุปการคุณที่มอบคูปองให้ก็ไม่ใช่ใครอื่น คือบอสคนที่เรียกเธอไปพบนั่นเอง สงสัยต้องการปลอบใจ เธอก็อุตส่าห์จะลดความอ้วนให้ได้ผอมเพื่อจะทำมิชชั่นระดับชาติกับแม้น
“เจ้ทิช่าก็ไปออเซาะกับนายบ้างสิ”วาดดาวยิ้มกริ่ม ทิพย์ทิวากลอกตาบนแล้วหันมาตอบ“ให้เจ้เอาอะไรไปออเซาะ ไขมันเรอะ”คำตอบที่ได้ยิน ทำเอาวาดดาวกลั้นหัวเราะแทบไม่ไหว นี่ขนาดตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เพื่อนรุ่นพี่เธอก็ช่างตอบมาได้“เจ้ก็พูดไป ถึงเจ้ของหนูจะอวบเอนไปทางอ้วนหน่อยๆ แต่เจ้ทิช่าของน้องก็ทำงานดีเลิศได้เกรดเอทุกปีนะ”วาดดาวยิ้มหวานให้ ก่อนจะอ้าแขนกว้างแล้วรั้งตัวทิพย์ทิวาไปกอด“จริงด้วย ครั้งก่อนที่นายส่งคุณน้องไปคุมงานโซนตะวันออก ผลงานก็ดีเลิศเลอ ยอดพุ่งฉิว ลูกค้าชมเปาะ หรือว่าเพราะเหตุนี้นายถึงเลือกคุณน้อง”“รู้งี้ตอนนั้นไม่ไฟแรงก็ดี จะได้ไม่ต้องย้ายไปคุมที่นั่น ที่นี่บ่อยๆ” ทิพย์ทิวาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ครั้งนั้นเธอสนุกกับงาน แม้จะอยู่ไกลบ้านแต่ก็มีรักจากผู้ชายคอยหล่อเลี้ยงให้คลายเหงา คลายกังวลตอนนี้ผู้ชายที่เธอเคยคิดว่าเขาดี กลับดีแตกไปแล้ว! นี่สิ แล้วที่สำคัญ เมื่อวานเธอเห็นว่าปองคุณย้ายเข้ามาอยู่คอนโดมิเนียมเดียวกันก
สามสาวสามวัย กำลังสนุกกับการหยิบอาหารมานั่งทานกันที่โต๊ะ ก่อนที่ทิพย์ทิวาจะลุกขึ้นไปสั่งอุด้งกุ้งอลาสก้า มาซดอีกสักถ้วย เพราะถ้วยเมื่อครู่ถูกวาดดาวแย่งไปชิมจนเกลี้ยง โดยครั้งนี้เธอขอยืนดูขั้นตอนการทำตรงหน้าเตา แทนที่จะออร์เดอร์ไว้แล้วให้พนักงานนำไปเสิร์ฟที่โต๊ะยืนมองไป ทิพย์ทิวาก็กลืนน้ำลายลงคอไปด้วย ยิ่งได้เห็นขั้นตอนการทำ อุด้งกุ้งอลาสก้าก็ยิ่งน่ากิน ส่งผลให้กระเพาะร้องประท้วง ก่อนจะบอกตัวเองในใจ ‘พรุ่งนี้ค่อยลดน้ำหนักนะ แฮ่’“เสร็จแล้วครับคุณผู้หญิง”“ขอบคุณค่ะ” ทิพย์ทิวาเอ่ยขึ้นแล้วยื่นมือไปรับถ้วยอุด้งกุ้งอลาสก้าร้อนๆ มาถือไว้ กลิ่นหอมที่โชยมาแตะจมูก ทำให้เธอน้ำลายสอ“น่ากินจังเลย” คนชอบทานยิ้มให้กับอุด้งกุ้งอลาสก้าถ้วยในมือ แต่ความที่มัวแต่ชื่นชมจึงไม่ทันระวัง ว่าใครกันมายืนอยู่ข้างๆ หันมาอีกทีก็ชนเข้าอย่างจัง จนน้ำซุปร้อนๆ ของอุด้งกุ้ง อลาสก้ารดถูกคนข้างๆ เสียเกือบหมดถ้วย“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ทิพย์ทิวารีบเอ่ยคำขอโทษทันที“นี่เธอทำอะไร ออกไปให้พ้นเลยยัยอ้วน&
บทที่ 7เมื่อส่งม่านฟ้าที่คอนโดมิเนียม แทนไทก็ขับรถไปแฮงเอาท์กับเพื่อนๆ ต่อโดยบอกม่านฟ้า ว่าเขานั้นจะกลับไปพักผ่อน เพราะไม่ต้องการให้เธอตามไปด้วยแต่กว่าจะปลีกตัวออกมาได้ก็นานพอดูส่วนมือที่ถูกน้ำร้อนลวกก็แค่เฉียดๆ ไม่ได้ถูกเต็มๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงปวดแสบปวดร้อน จนต้องโร่ไปโรงพยาบาลแล้วรถเอสยูวีคันใหญ่ขับเคลื่อนอยู่บนท้องถนน ขณะที่รอบข้างคือแสงไฟยามค่ำคืน กระทั่งมาจอดเทียบหน้าร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูง ไหล่กว้าง หน้าคมเข้มก้าวลงจากรถ แล้วเดินตรงไปยังโต๊ะที่มีบรรดาเพื่อนๆ นั่งรออยู่ก่อนแล้ว“เฮ้! ไท ทางนี้” ธีระโบกมือเรียกคนสุดท้ายที่มาถึง แทนไทจึงตรงไปนั่ง แต่ความที่ฝ่ามือเขามีผ้าพันแผลพันอยู่ จึงเป็นจุดสนใจ“แล้วนั่นมือเอ็งไปโดนอะไรมา”ยังไม่ทันที่แทนไทจะได้นั่ง บุรีเพื่อนสนิทอีกคนก็เอ่ยถาม“น้ำร้อน”แทนไทเอ่ยตอบอย่างไม่ค่อยสนใจน
หลังจากอิ่มจนพุงกางจากบุฟเฟต์นานาชาติที่ทิพย์ทิวาชิมทุกเมนู ก็ได้เวลาแยกย้ายกลับรังใครรังมัน ซึ่งดูเหมือนรังของเธอดูจะอยู่ใกล้กับโรงแรมมากสุด ขับรถไม่นานก็ถึง เมื่อจอดรถเรียบร้อยก็เดินหอบหิ้วกระเป๋าและสารพัดอย่างขึ้นห้องที่อยู่ชั้นยี่สิบเอ็ดก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม ที่ไปเดินเลือกซื้อมาตกแต่งห้องเองกับมือ โดยมีคนช่วยเลือกคือแม้นศรีเพื่อนรัก เพื่อนเลิฟ สุดท้ายก็ได้โซฟาสีม่วงมาครอง เธอชอบแบบแต่คนไปด้วยชอบสี ตบตีกันอยู่พักใหญ่ สรุปไปๆ มาๆ เธอก็หลงคารมคนไปด้วย รูดบัตรซื้อโซฟาสีม่วงตัวนี้มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว คล้ายจะถูกป้ายยาเมื่อนึกถึงแม้นศรี ทิพย์ทิวาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาเพื่อนรัก เพื่อบอกข่าวเรื่องที่เธอต้องโอนย้ายไปดูแลโซนภาคใต้ รอสายอยู่ไม่นาน แม้นศรีก็กดรับสาย“ว่าไงจ๊ะทิช่าเพื่อนรัก อย่าบอกนะว่าวันนี้ไดเอทแล้วน้ำหนักลด เลยโทร.มาบอกเพื่อน”“เปล่า…ยังไม่ได้เริ่มไดเอท”“งั้นก็คงคิดถึงคนสวย เลยจะโทร.มาเซย์กู๊ดไนท์เหรอ”“ก็ไม่ใช่
“ขาแกต่างหากผู้หญิงอะไร อ้วนขนาดนี้ขายังสวย ฉันนี่โคตรอิจฉา” ว่าแล้ว แม้นศรีก็ยกขาตัวเองขึ้นดู นี่ถ้าไม่ผ่านการทำสปามา ขาเธอจะเนียนสวยแบบนี้เรอะ“ไอ้เราก็นึกว่านม”ทิพย์ทิวาถึงกับสลด ก่อนจะก้มมองขาตัวเองบ้าง จะว่าไปแล้วเธออ้วนขึ้นมาตั้งสิบกว่ากิโล แต่ทำไมขามันยังเท่าเดิมก็ยังแปลกใจอยู่“เหรอ…ตอนนี้นมกับพุงแกมันขนาดพอๆ กัน อ้อ…จะมีเด่นสุดก็คงเป็นไขมัน”“เจ็บ”ประโยคแรกว่าเจ็บแล้ว แต่ประโยคนี้ของแม้นศรีทำเอาทิพย์ทิวาแทบร้องไห้ ถ้าอยู่ใกล้ นี่จะขอกระโดดข่วนหน้าสวยๆ เสียหน่อย“เจ็บก็ลดน้ำหนักได้แล้วยัยธิช่า หล่อนตัวจะแตกอยู่แล้วนะ”“ก็พยายามอยู่ เอางี้ ขึ้นมากรุงเทพฯ เมื่อไหร่ ฉันจะผอมให้แกดู ตกลงไหม”“ตกลง”แม้นศรีตอบตกลงทันที“แล้วนี่แกเดินทางวันไหน”น้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้นฟังดูห้วนขึ้นมา แม้จะรู้ว่าทิพย์ทิวาไปทำงาน แต่ลึกๆ มันก็รู้สึกอดที่จะใจหายไม่ได้