หลังจากอิ่มจนพุงกางจากบุฟเฟต์นานาชาติที่ทิพย์ทิวาชิมทุกเมนู ก็ได้เวลาแยกย้ายกลับรังใครรังมัน ซึ่งดูเหมือนรังของเธอดูจะอยู่ใกล้กับโรงแรมมากสุด ขับรถไม่นานก็ถึง เมื่อจอดรถเรียบร้อยก็เดินหอบหิ้วกระเป๋าและสารพัดอย่างขึ้นห้องที่อยู่ชั้นยี่สิบเอ็ดก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม ที่ไปเดินเลือกซื้อมาตกแต่งห้องเองกับมือ โดยมีคนช่วยเลือกคือแม้นศรีเพื่อนรัก เพื่อนเลิฟ สุดท้ายก็ได้โซฟาสีม่วงมาครอง เธอชอบแบบแต่คนไปด้วยชอบสี ตบตีกันอยู่พักใหญ่ สรุปไปๆ มาๆ เธอก็หลงคารมคนไปด้วย รูดบัตรซื้อโซฟาสีม่วงตัวนี้มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว คล้ายจะถูกป้ายยาเมื่อนึกถึงแม้นศรี ทิพย์ทิวาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาเพื่อนรัก เพื่อบอกข่าวเรื่องที่เธอต้องโอนย้ายไปดูแลโซนภาคใต้ รอสายอยู่ไม่นาน แม้นศรีก็กดรับสาย“ว่าไงจ๊ะทิช่าเพื่อนรัก อย่าบอกนะว่าวันนี้ไดเอทแล้วน้ำหนักลด เลยโทร.มาบอกเพื่อน”“เปล่า…ยังไม่ได้เริ่มไดเอท”“งั้นก็คงคิดถึงคนสวย เลยจะโทร.มาเซย์กู๊ดไนท์เหรอ”“ก็ไม่ใช่
“ขาแกต่างหากผู้หญิงอะไร อ้วนขนาดนี้ขายังสวย ฉันนี่โคตรอิจฉา” ว่าแล้ว แม้นศรีก็ยกขาตัวเองขึ้นดู นี่ถ้าไม่ผ่านการทำสปามา ขาเธอจะเนียนสวยแบบนี้เรอะ“ไอ้เราก็นึกว่านม”ทิพย์ทิวาถึงกับสลด ก่อนจะก้มมองขาตัวเองบ้าง จะว่าไปแล้วเธออ้วนขึ้นมาตั้งสิบกว่ากิโล แต่ทำไมขามันยังเท่าเดิมก็ยังแปลกใจอยู่“เหรอ…ตอนนี้นมกับพุงแกมันขนาดพอๆ กัน อ้อ…จะมีเด่นสุดก็คงเป็นไขมัน”“เจ็บ”ประโยคแรกว่าเจ็บแล้ว แต่ประโยคนี้ของแม้นศรีทำเอาทิพย์ทิวาแทบร้องไห้ ถ้าอยู่ใกล้ นี่จะขอกระโดดข่วนหน้าสวยๆ เสียหน่อย“เจ็บก็ลดน้ำหนักได้แล้วยัยธิช่า หล่อนตัวจะแตกอยู่แล้วนะ”“ก็พยายามอยู่ เอางี้ ขึ้นมากรุงเทพฯ เมื่อไหร่ ฉันจะผอมให้แกดู ตกลงไหม”“ตกลง”แม้นศรีตอบตกลงทันที“แล้วนี่แกเดินทางวันไหน”น้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้นฟังดูห้วนขึ้นมา แม้จะรู้ว่าทิพย์ทิวาไปทำงาน แต่ลึกๆ มันก็รู้สึกอดที่จะใจหายไม่ได้
สายตาของผู้หญิงที่ควงแขนปองคุณไม่ปล่อยมองมา มันส่งมาหยามกันชัดๆ มีหรือที่ทิพย์ทิวาจะมองไม่ออก ได้แต่สั่งให้ตัวเอง ‘ใจเย็นไว้ทิช่าเอ๋ย ใจเย็นไว้อย่าฟาดงวงฟาดงาออกตอนนี้ ไม่ดี ไม่งาม’“ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ พอดีช่วงนี้เจริญอาหารมากไปหน่อย น้ำหนักเลยขึ้นอย่างที่เห็น แต่อีกไม่กี่เดือนก็ผอม ทิช่าอ้วนง่าย ผอมง่าย แป๊บๆ ก็กลับมาหุ่นดีเหมือนเดิม”พูดออกไปแล้วก็ลอบถอนหายใจ เธอเป็นคนประเภทที่พูดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ น้ำหนักขึ้นง่ายแต่ลงโคตรยากล่ะสิไม่ว่า“งั้นเหรอ…ได้ยินแบบนี้พี่ก็โล่งอก เพราะอ้วนมันไม่ดีต่อสุขภาพ” เมื่อเห็นว่าบทสนทนาระหว่างคนรักหนุ่มกับสาวอวบที่เป็นอดีตคนเคยรักชักจะเกินเลยในความคิดเธอ น้องหนูจึงไม่อาจยืนฟังนิ่งๆ ได้อีกต่อไป“ใครหรือคะพี่ปอง”“อ้อ…คือว่านี่คือทิช่าครับน้องหนู ทิช่าเป็น…”“อดีตคนเคยคบน่ะจ้ะ”เมื่อเห็นปองคุณอ้ำๆ อึ้งๆ ทิพย์ทิวาจึงเอ่ยต่อแทน“อ
“นี่…” เห็นท่าไม่ดี น้องหนูผีของปองคุณก็ถอยมาตั้งหลัก แต่ยังไม่ยอมถอยทัพกลับเสียทีเดียว“หก เจ็ด แปด เก้า…”“ฝากไว้ก่อนเถอะ”เอ่ยจบก็จ้ำอ้าวออกไปอย่างเร็ว วันพระไม่ได้มีหนเดียว รับรองเธอจะตามแขวะ ตามกัดทิพย์ทิวาให้ย้ายออกไปจากคอนโดมิเนียมนี้ไม่ทัน เพราะเธอก็ไม่อยากอยู่ใกล้อดีตคนรักของปองคุณนักหรอก“ถ้าอยากหน้าแหกก็รีบมารับคืนไปไวๆ นะจ๊ะน้องหนูผี” ทิพย์ทิวาเอ่ยตามหลัง ก่อนจะส่ายหน้าให้ คนที่ถูกทำเสน่ห์คงเป็นปองคุณมากกว่า นี่ไม่รู้ไปคว้าสก๊อยจากไหนมาควง คำพูดบ่งบอกนิสัย หน้าอย่าง หลังอย่างแบบนี้ คิดแล้วก็สมน้ำหน้า! อยากทิ้งเพชรอย่างเธอไปคว้าก้อนกรวดเอง ช่วยไม่ได้ และคนอย่างเธอต้องหาผู้ชายดีๆ มาควงเย้ยยัยหนูผีกับปองคุณและถ้าหาไม่ได้จริงๆ เธอก็จะใช้บริการเช่า อย่างที่แม้นศรีได้เอ่ยไว้แต่ก่อนจะเช่าผู้ชายมาควง เธอคงต้องสลิมให้ได้ก่อน คิดเรื่องนี้ก็ก้มมองพุงตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาดังเฮือก จะผอม! มันใช่เรื่องง่ายๆ เส
“ช่วยทายาบนมือผมหน่อยแล้วกันคุณ ถือว่าไถ่โทษ”แทนไทยื่นมือมาหาคนที่เขาขอให้ทายาให้“อ่ะๆ ก็ได้”“งั้นผมจอดรถให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า”“ฉันไปนั่งรอตรงนู้นนะคุณ”ตรงนู้นที่ว่าคือเก้าอี้นั่งเล่นแถวๆ ลานจอดรถ“ครับ” เสียงทุ้มที่เอ่ยรับ สะกิดหัวใจของคนฟังอย่างไม่รู้ตัว ทำไมเธอถึงรู้สึกอบอุ่นกับแค่คำว่า ‘ครับ’ สั้นๆ ก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันทิพย์ทิวาเดินไปนั่งรอแทนไทบนเก้าอี้ ขณะนั้นสายตาก็แทบไม่ได้ละมองไปจุดอื่นนอกเสียจากรถเอสยูวีสวยๆ ที่กำลังจอดอยู่ไม่ไกล ก่อนที่เจ้าของรถจะเดินตรงมาหาเธอถ้าเธอควงผู้ชายคนนี้ไปเย้ยยัยหนูผี นางจะเงิบไหมนะหึแล้วถ้าเธอควงผู้ชายคนนี้ไปเย้ยยัยกิรณากับยัยบัณฑิตา สองนางจะอ้าปากค้างหรือเปล่าหึหึ คิดเรื่องนี้ ทิพย์ทิวาก็อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ว่าแต่เขาจะให้เธอ ‘เช่า’ไปควงแขนหรือเปล่านี่สิ งื้อ…หล่อๆ แบบนี้ค่
“นี่ครับ นามบัตรผม”เอ่ยจบก็ยื่นนามบัตรให้ทิพย์ทิวาไป“อ้อค่ะ”มืออวบๆ ยื่นไปรับนามบัตรสีขาวมาถือไว้“ถ้าคุณพร้อมจะออกเดตเมื่อไหร่ ก็โทร.หาผมได้ตลอดเวลานะครับ”“ค่ะ”ทิพย์ทิวาเอ่ยรับอย่างไม่ค่อยจะรู้เนื้อรู้ตัวนัก เพราะมัวแต่พ้อ“ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า ขอบคุณสำหรับยา แล้วก็ขอบคุณที่เราเกิดวันและเดือนเดียวกัน ราตรีสวัสดิ์ครับคุณทิช่า”เสียงทุ้มที่แสนจะน่าฟังของแทนไท ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของทิพย์ทิวา“ระ…ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณไท”เธอเอ่ยตอบเขาอย่างตะกุกตะกัก ก่อนที่แทนไทจะเดินกลับไปที่รถแล้วขับออกไปจากคอนโดมิเนียมที่เมื่อชั่วโมงก่อน เขาขับมาส่งบุรีที่ดื่มหนักไปหน่อย จนขับรถตัวเองกลับไม่ไหวส่วนทิพย์ทิวานั้นยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง นั่นเพราะกำลังใช้สมองส่วนหนึ่งคิด ว่าเธอจะใช้เวลาหนึ่งวันที่แสนจะมีค่ากับแทนไทในวันไหนดี จะใช้วันเสาร์อาทิตย์นี้ หรือจะเก็บไว้ใช้ในงานคืนสู่เหย้าปีหน้า
“อื้อ…ลาริมาร์คือหินพบรัก ชอบเลยใช่ไหมละเจ้”“ชอบ…ขอบใจนะวาด เจ้ดา” ขณะเอ่ยทิพย์ทิวาก็น้ำตาคลอเบาๆ มาซึ้งเอาอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็พากันร้องไห้เป็นเผาเต่ากันพอดี“งั้น…การย้ายไปทำงานที่กระบี่ครั้งนี้ เค้าขอให้เจ้ได้ เจ้โดน กลับมาเมืองกรุง หิ้วหนุ่มปักษ์ใต้หล่อคมเข้มมาด้วยนะเจ้นะ มันจะเริ่ดมาก”วาดดาวยิ้มกริ่ม“ยัยวาดบ้า”“ฉันเห็นด้วยกับน้องวาดนะแก ไปครั้งนี้ฉันก็ขอให้แกได้ แกโดน ขอให้มีคนสอยแกลงจากคานหรือไม่ก็ขอให้แกแรดสลัดจนคานกระเจิงแล้วได้ผัวสมใจ”แม้นศรีรีบเอ่ยอีกคน ไหนๆ มีวาดดาวคอยกระตุ้นเรื่องได้เรื่องโดนแล้ว เธอก็ตามน้ำไปอีกคนแล้วกัน“เหรอ! ปากหรือน่ะ อวยพรอะไรไม่อวย ดั๊นมาอวยให้เพื่อนได้ผัว”“มีๆ ไปเถอะ แล้วแกจะรู้ว่าสวรรค์บนดินมันมีอยู่จริง”“แหม…พูดยังกับตัวเองเคยมีประสบการณ์อย่างว่านะยัยเมนี่”“ถึงตอนนี้จะไม
“เฮ้อ! นี่ก็อยากเห็นมากสินะ ไม่มีใครสอนเรื่องมารยาททางสังคม ว่าห้ามยุ่งเรื่องคนอื่นหรือไงจ๊ะ หา”“นี่พี่ด่าน้องหนูเหรอ”คนตรงหน้าเต้นเร่าๆส่วนทิพย์ทิวาได้แต่ส่ายหน้าให้ อยู่ดีๆ ไม่ว่าดี เดินมาให้เธอแขวะถึงที่ ถึงเธอจะอ้วนแล้วไง ไม่ได้เป็นนางเอกที่จะให้เด็กเมื่อวานซืนมายืนแขวะได้ทุกครั้งที่เจอหน้ากันหรอกนะ“ชมอยู่มั้งคะน้องนิสัยแบบน้องนี่โคตรน่ารำคาญ”“ถึงจะน่ารำคาญ แต่พี่ปองเขาก็รักหนูมากนะคะ ไม่งั้นเขาคงไม่ทิ้งพี่ทิช่าแล้วมาคบกับหนูหรอก อ้อ…อันที่จริงเราคบกันก่อนที่พี่ปองจะเลิกกับพี่ทิช่าเสียอีกนะ อุ๊ย!”“แหม…ทำเป็นตกใจ ตั้งใจพูดซะขนาดนี้ ไม่ต้องตกใจทิ้งท้ายก็ได้มั้งคะ มันไม่เนียน”“นี่พี่ทิช่าไม่ตกใจเลยเหรอคะเนี่ย”“ไม่…พูดจบยัง”“ยังค่ะ ถ้าพี่ทิช่าไม่อยากให้หนูดีมายุ่งวุ่นวายก็รีบพาแฟนใหม่มาโชว์เร็วๆ นะคะ เอ๊! หรือว่าที่รีรอเพราะไม่มีใครจริงๆ