สามสาวสามวัย กำลังสนุกกับการหยิบอาหารมานั่งทานกันที่โต๊ะ ก่อนที่ทิพย์ทิวาจะลุกขึ้นไปสั่งอุด้งกุ้งอลาสก้า มาซดอีกสักถ้วย เพราะถ้วยเมื่อครู่ถูกวาดดาวแย่งไปชิมจนเกลี้ยง โดยครั้งนี้เธอขอยืนดูขั้นตอนการทำตรงหน้าเตา แทนที่จะออร์เดอร์ไว้แล้วให้พนักงานนำไปเสิร์ฟที่โต๊ะ
ยืนมองไป ทิพย์ทิวาก็กลืนน้ำลายลงคอไปด้วย ยิ่งได้เห็นขั้นตอนการทำ อุด้งกุ้งอลาสก้าก็ยิ่งน่ากิน ส่งผลให้กระเพาะร้องประท้วง ก่อนจะบอกตัวเองในใจ ‘พรุ่งนี้ค่อยลดน้ำหนักนะ แฮ่’ “เสร็จแล้วครับคุณผู้หญิง” “ขอบคุณค่ะ” ทิพย์ทิวาเอ่ยขึ้นแล้วยื่นมือไปรับถ้วยอุด้งกุ้งอลาสก้าร้อนๆ มาถือไว้ กลิ่นหอมที่โชยมาแตะจมูก ทำให้เธอน้ำลายสอ “น่ากินจังเลย” คนชอบทานยิ้มให้กับอุด้งกุ้งอลาสก้าถ้วยในมือ แต่ความที่มัวแต่ชื่นชมจึงไม่ทันระวัง ว่าใครกันมายืนอยู่ข้างๆ หันมาอีกทีก็ชนเข้าอย่างจัง จนน้ำซุปร้อนๆ ของอุด้งกุ้ง อลาสก้ารดถูกคนข้างๆ เสียเกือบหมดถ้วย “อุ๊ย! ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ทิพย์ทิวารีบเอ่ยคำขอโทษทันที “นี่เธอทำอะไร ออกไปให้พ้นเลยยัยอ้วน”เสียงแหลมๆ ชวนแสบแก้วหูที่ดังขึ้น ไม่ได้ทำให้ทิพย์ทิวาสนใจคนพูดแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้เธอสนใจชายหนุ่มที่ยืนกุมมือตัวเองนิ่ง ขณะที่พนักงานในร้าน ต่างพากันกรูเข้ามาดูเหตุการณ์ ก่อนจะช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ชายหนุ่มทันที โดยมีทิพย์ทิวาคอยดูอยู่ใกล้ๆ “คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า ฉันขอดูมือหน่อย”เธอยื่นมือไปหวังขอดูมือชายตรงหน้า แต่กลับถูกผู้หญิงเสียงแหลมๆ คนเดิมปัดมือเธอให้ออกห่างสุดแรงด้วยท่าทางรังเกียจ “เอามืออ้วนๆ ของเธอออกไป ไม่ต้องมาแตะมือแทนไทของฉัน รู้มั้ยว่ามือคู่นี้สำคัญมากขนาดไหน ถ้าเขาเกิดได้รับบาดเจ็บร้ายแรงขึ้นมา เธอรับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ”ม่านฟ้าแว้ดเสียงสูงปรี๊ด แต่ทิพย์ทิวาก็หาได้สนใจเธอ นั่นเพราะสายตาเอาแต่จับจ้องผู้ชายที่เอาแต่นั่งนิ่ง “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า ฉันขอดูมือหน่อย”เอ่ยจบก็ยื่นมือไปหวังขอดูมือชายตรงหน้าอีกครั้ง “ฉันบอกให้หล่อนเอามือออกไป” และคนที่ปัดมือของทิพย์ทิวาออกอีกก็หาใช่คนอื่น ม่านฟ้าคนเดิม เพิ่มเติมคือความโกรธเกรี้ยวประหนึ่งพายุทอร์นาโด “ผมไม่เป็นอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยตอบกลับมาเป็นครั้งแรก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาทิพย์ทิวาเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน “อย่าทำหน้าเหมือนเด็กกำลังจะร้องไห้แบบนั้นสิคุณ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยปลอบสาวร่างอวบที่ตั้งท่ากำลังจะร้องไห้เหมือนเด็กๆ ฉึก! ความรู้สึกยามที่ได้สบตาผู้ชายตรงหน้าทำไมทิพย์ทิวาถึงได้รู้สึกประหม่าแปลกๆ อะไรบางอย่างมันดังกึกก้องอยู่ในสมอง อะไรบางอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร “ไม่เป็นอะไรได้ยังไงคะ มือไทแดงเพราะถูกน้ำร้อนจากความซุ่มซ่ามของผู้หญิงเห็นแก่กินคนนี้น่ะลวกเข้า เกิดร้ายแรงจน…”ม่านฟ้าไม่อยากคิด ว่าหากมือของแทนไทไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว เธอจะทำยังไง แต่บางทีอาจเป็นผลดีกับเธอก็ได้ ที่จะทำให้เขาเลิกสัมผัสเนื้อตัวของผู้หญิงคนอื่นแล้วหันมาสัมผัสแค่เธอคนเดียวเสียที เพราะทุกอย่างที่เป็นของผู้ชายคนนี้ เธอหวงหมด “ผมไม่ได้เป็นอะไรม่านฟ้า คุณไม่ต้องตีโพยตีพายมากไปถึงขนาดนี้หรอก” แทนไทลอบถอนหายใจออกมา เพราะเขารู้ตัวเองดีว่าเจ็บมากหรือน้อย “จะไม่ให้ม่านฟ้าตีโพยตีพายได้ยังไง มือคู่นี้ของไทมีค่ามากกว่าเพชรหรือทองอีกนะคะ” คำพูดของม่านฟ้า พลอยทำให้ทิพย์ทิวาก้มมองมือของชายที่เธอรู้จักว่าเขาชื่อไท แล้วก็ฉุกคิด มือเขามีค่ามากมายขนาดนั้นเลยเหรอ หรือเขาจะเป็นหมอผ่าตัดมือระดับพระกาฬที่หาตัวจับได้ยากกันนะ คิดแล้วก็เกิดความสงสัย “เจ้ทิช่า เกิดอะไรขึ้น” วาดดาวที่มาตามทิพย์ทิวาเพราะเห็นหายมานานเอ่ยถาม “อ้อ…พอดีเจ้ซุ่มซ่ามทำน้ำอุด้งลวกมือผู้ชายคนนี้เข้าน่ะวาด” จังหวะที่ทิพย์ทิวาหันมาตอบวาดดาว แทนไทกับม่านฟ้าก็ลุกออกไป ทั้งคู่ตรงไปยังห้องวีไอพี เพราะที่นี่รองรับลูกค้าที่อยากทานบุฟเฟต์แต่ต้องการความเป็นส่วนตัว เมื่อเข้าไปในห้องได้ ม่านฟ้าก็ร้อนรนถามไถ่อาการของแทนไทครั้งแล้วครั้งเล่า ถามจนชายหนุ่มรำคาญ จนต้องบอกให้เธอเงียบ นั่นแหละปากเล็กๆ ที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเลือดนกจึงหยุด แต่ใบหน้าก็งอง้ำ แสดงออกว่าไม่พอใจที่ถูกเขาดุ ส่วนทิพย์ทิวาก็ได้แต่ชะเง้อมอง ก่อนจะกลับไปที่โต๊ะของเธอพร้อมวาดดาว ตกใจได้ไม่เท่าไหร่ ความสนุกสนาน เฮฮาของสมาชิกเกิร์ลแก๊งอร่อยไม่กลัวอ้วน บุฟเฟต์อยู่ที่ใด โปรดบอกพี่ก็หวนกลับมาอีกครั้ง แต่หนึ่งในนั้นก็แอบคิดถึงความซุ่มซ่ามของตัวเอง จนทำให้คนอื่นเจ็บตัวแทบตลอดเวลา “เขาจะเป็นอะไรมากมั้ย” “แล้วถ้าเป็นขึ้นมา เธอจะถูกฟ้องหรือเปล่า ยัยคนสวยนั่นบอกว่ามือเขามีค่ามากกว่าเพชรหรือทองเสียอีก” “โอ๊ย! เครียด” ประโยคเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่ในความคิดของทิพย์ทิวา ขณะคิดมือก็หยิบนั่นนี่เข้าปาก โดยเฉพาะชีส ก่อนจะตัดสินใจปลีกตัวลงไปที่หน้าโรงแรม เพ่งสายตามองหาร้านขายยา เมื่อเห็นก็ตรงดิ่งไปทันที ก่อนจะกลับมาพร้อมถุงยาใบใหญ่ แต่ทว่ากลับไม่พบชายหนุ่มในห้องวีไอพีเสียแล้ว “เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจของทิพย์ทิวาดังขึ้น ก่อนจะกลับไปซัดบุฟเฟต์แก้เครียดอีกยก เป็นซะแบบนี้เธอจะผอมตอนไหน หืม…ยัยทิช่า ‘พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ฉันจะผอม’บทที่ 7เมื่อส่งม่านฟ้าที่คอนโดมิเนียม แทนไทก็ขับรถไปแฮงเอาท์กับเพื่อนๆ ต่อโดยบอกม่านฟ้า ว่าเขานั้นจะกลับไปพักผ่อน เพราะไม่ต้องการให้เธอตามไปด้วยแต่กว่าจะปลีกตัวออกมาได้ก็นานพอดูส่วนมือที่ถูกน้ำร้อนลวกก็แค่เฉียดๆ ไม่ได้ถูกเต็มๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงปวดแสบปวดร้อน จนต้องโร่ไปโรงพยาบาลแล้วรถเอสยูวีคันใหญ่ขับเคลื่อนอยู่บนท้องถนน ขณะที่รอบข้างคือแสงไฟยามค่ำคืน กระทั่งมาจอดเทียบหน้าร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูง ไหล่กว้าง หน้าคมเข้มก้าวลงจากรถ แล้วเดินตรงไปยังโต๊ะที่มีบรรดาเพื่อนๆ นั่งรออยู่ก่อนแล้ว“เฮ้! ไท ทางนี้” ธีระโบกมือเรียกคนสุดท้ายที่มาถึง แทนไทจึงตรงไปนั่ง แต่ความที่ฝ่ามือเขามีผ้าพันแผลพันอยู่ จึงเป็นจุดสนใจ“แล้วนั่นมือเอ็งไปโดนอะไรมา”ยังไม่ทันที่แทนไทจะได้นั่ง บุรีเพื่อนสนิทอีกคนก็เอ่ยถาม“น้ำร้อน”แทนไทเอ่ยตอบอย่างไม่ค่อยสนใจน
หลังจากอิ่มจนพุงกางจากบุฟเฟต์นานาชาติที่ทิพย์ทิวาชิมทุกเมนู ก็ได้เวลาแยกย้ายกลับรังใครรังมัน ซึ่งดูเหมือนรังของเธอดูจะอยู่ใกล้กับโรงแรมมากสุด ขับรถไม่นานก็ถึง เมื่อจอดรถเรียบร้อยก็เดินหอบหิ้วกระเป๋าและสารพัดอย่างขึ้นห้องที่อยู่ชั้นยี่สิบเอ็ดก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม ที่ไปเดินเลือกซื้อมาตกแต่งห้องเองกับมือ โดยมีคนช่วยเลือกคือแม้นศรีเพื่อนรัก เพื่อนเลิฟ สุดท้ายก็ได้โซฟาสีม่วงมาครอง เธอชอบแบบแต่คนไปด้วยชอบสี ตบตีกันอยู่พักใหญ่ สรุปไปๆ มาๆ เธอก็หลงคารมคนไปด้วย รูดบัตรซื้อโซฟาสีม่วงตัวนี้มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว คล้ายจะถูกป้ายยาเมื่อนึกถึงแม้นศรี ทิพย์ทิวาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาเพื่อนรัก เพื่อบอกข่าวเรื่องที่เธอต้องโอนย้ายไปดูแลโซนภาคใต้ รอสายอยู่ไม่นาน แม้นศรีก็กดรับสาย“ว่าไงจ๊ะทิช่าเพื่อนรัก อย่าบอกนะว่าวันนี้ไดเอทแล้วน้ำหนักลด เลยโทร.มาบอกเพื่อน”“เปล่า…ยังไม่ได้เริ่มไดเอท”“งั้นก็คงคิดถึงคนสวย เลยจะโทร.มาเซย์กู๊ดไนท์เหรอ”“ก็ไม่ใช่
“ขาแกต่างหากผู้หญิงอะไร อ้วนขนาดนี้ขายังสวย ฉันนี่โคตรอิจฉา” ว่าแล้ว แม้นศรีก็ยกขาตัวเองขึ้นดู นี่ถ้าไม่ผ่านการทำสปามา ขาเธอจะเนียนสวยแบบนี้เรอะ“ไอ้เราก็นึกว่านม”ทิพย์ทิวาถึงกับสลด ก่อนจะก้มมองขาตัวเองบ้าง จะว่าไปแล้วเธออ้วนขึ้นมาตั้งสิบกว่ากิโล แต่ทำไมขามันยังเท่าเดิมก็ยังแปลกใจอยู่“เหรอ…ตอนนี้นมกับพุงแกมันขนาดพอๆ กัน อ้อ…จะมีเด่นสุดก็คงเป็นไขมัน”“เจ็บ”ประโยคแรกว่าเจ็บแล้ว แต่ประโยคนี้ของแม้นศรีทำเอาทิพย์ทิวาแทบร้องไห้ ถ้าอยู่ใกล้ นี่จะขอกระโดดข่วนหน้าสวยๆ เสียหน่อย“เจ็บก็ลดน้ำหนักได้แล้วยัยธิช่า หล่อนตัวจะแตกอยู่แล้วนะ”“ก็พยายามอยู่ เอางี้ ขึ้นมากรุงเทพฯ เมื่อไหร่ ฉันจะผอมให้แกดู ตกลงไหม”“ตกลง”แม้นศรีตอบตกลงทันที“แล้วนี่แกเดินทางวันไหน”น้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้นฟังดูห้วนขึ้นมา แม้จะรู้ว่าทิพย์ทิวาไปทำงาน แต่ลึกๆ มันก็รู้สึกอดที่จะใจหายไม่ได้
สายตาของผู้หญิงที่ควงแขนปองคุณไม่ปล่อยมองมา มันส่งมาหยามกันชัดๆ มีหรือที่ทิพย์ทิวาจะมองไม่ออก ได้แต่สั่งให้ตัวเอง ‘ใจเย็นไว้ทิช่าเอ๋ย ใจเย็นไว้อย่าฟาดงวงฟาดงาออกตอนนี้ ไม่ดี ไม่งาม’“ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ พอดีช่วงนี้เจริญอาหารมากไปหน่อย น้ำหนักเลยขึ้นอย่างที่เห็น แต่อีกไม่กี่เดือนก็ผอม ทิช่าอ้วนง่าย ผอมง่าย แป๊บๆ ก็กลับมาหุ่นดีเหมือนเดิม”พูดออกไปแล้วก็ลอบถอนหายใจ เธอเป็นคนประเภทที่พูดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ น้ำหนักขึ้นง่ายแต่ลงโคตรยากล่ะสิไม่ว่า“งั้นเหรอ…ได้ยินแบบนี้พี่ก็โล่งอก เพราะอ้วนมันไม่ดีต่อสุขภาพ” เมื่อเห็นว่าบทสนทนาระหว่างคนรักหนุ่มกับสาวอวบที่เป็นอดีตคนเคยรักชักจะเกินเลยในความคิดเธอ น้องหนูจึงไม่อาจยืนฟังนิ่งๆ ได้อีกต่อไป“ใครหรือคะพี่ปอง”“อ้อ…คือว่านี่คือทิช่าครับน้องหนู ทิช่าเป็น…”“อดีตคนเคยคบน่ะจ้ะ”เมื่อเห็นปองคุณอ้ำๆ อึ้งๆ ทิพย์ทิวาจึงเอ่ยต่อแทน“อ
“นี่…” เห็นท่าไม่ดี น้องหนูผีของปองคุณก็ถอยมาตั้งหลัก แต่ยังไม่ยอมถอยทัพกลับเสียทีเดียว“หก เจ็ด แปด เก้า…”“ฝากไว้ก่อนเถอะ”เอ่ยจบก็จ้ำอ้าวออกไปอย่างเร็ว วันพระไม่ได้มีหนเดียว รับรองเธอจะตามแขวะ ตามกัดทิพย์ทิวาให้ย้ายออกไปจากคอนโดมิเนียมนี้ไม่ทัน เพราะเธอก็ไม่อยากอยู่ใกล้อดีตคนรักของปองคุณนักหรอก“ถ้าอยากหน้าแหกก็รีบมารับคืนไปไวๆ นะจ๊ะน้องหนูผี” ทิพย์ทิวาเอ่ยตามหลัง ก่อนจะส่ายหน้าให้ คนที่ถูกทำเสน่ห์คงเป็นปองคุณมากกว่า นี่ไม่รู้ไปคว้าสก๊อยจากไหนมาควง คำพูดบ่งบอกนิสัย หน้าอย่าง หลังอย่างแบบนี้ คิดแล้วก็สมน้ำหน้า! อยากทิ้งเพชรอย่างเธอไปคว้าก้อนกรวดเอง ช่วยไม่ได้ และคนอย่างเธอต้องหาผู้ชายดีๆ มาควงเย้ยยัยหนูผีกับปองคุณและถ้าหาไม่ได้จริงๆ เธอก็จะใช้บริการเช่า อย่างที่แม้นศรีได้เอ่ยไว้แต่ก่อนจะเช่าผู้ชายมาควง เธอคงต้องสลิมให้ได้ก่อน คิดเรื่องนี้ก็ก้มมองพุงตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาดังเฮือก จะผอม! มันใช่เรื่องง่ายๆ เส
“ช่วยทายาบนมือผมหน่อยแล้วกันคุณ ถือว่าไถ่โทษ”แทนไทยื่นมือมาหาคนที่เขาขอให้ทายาให้“อ่ะๆ ก็ได้”“งั้นผมจอดรถให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า”“ฉันไปนั่งรอตรงนู้นนะคุณ”ตรงนู้นที่ว่าคือเก้าอี้นั่งเล่นแถวๆ ลานจอดรถ“ครับ” เสียงทุ้มที่เอ่ยรับ สะกิดหัวใจของคนฟังอย่างไม่รู้ตัว ทำไมเธอถึงรู้สึกอบอุ่นกับแค่คำว่า ‘ครับ’ สั้นๆ ก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันทิพย์ทิวาเดินไปนั่งรอแทนไทบนเก้าอี้ ขณะนั้นสายตาก็แทบไม่ได้ละมองไปจุดอื่นนอกเสียจากรถเอสยูวีสวยๆ ที่กำลังจอดอยู่ไม่ไกล ก่อนที่เจ้าของรถจะเดินตรงมาหาเธอถ้าเธอควงผู้ชายคนนี้ไปเย้ยยัยหนูผี นางจะเงิบไหมนะหึแล้วถ้าเธอควงผู้ชายคนนี้ไปเย้ยยัยกิรณากับยัยบัณฑิตา สองนางจะอ้าปากค้างหรือเปล่าหึหึ คิดเรื่องนี้ ทิพย์ทิวาก็อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ว่าแต่เขาจะให้เธอ ‘เช่า’ไปควงแขนหรือเปล่านี่สิ งื้อ…หล่อๆ แบบนี้ค่
“นี่ครับ นามบัตรผม”เอ่ยจบก็ยื่นนามบัตรให้ทิพย์ทิวาไป“อ้อค่ะ”มืออวบๆ ยื่นไปรับนามบัตรสีขาวมาถือไว้“ถ้าคุณพร้อมจะออกเดตเมื่อไหร่ ก็โทร.หาผมได้ตลอดเวลานะครับ”“ค่ะ”ทิพย์ทิวาเอ่ยรับอย่างไม่ค่อยจะรู้เนื้อรู้ตัวนัก เพราะมัวแต่พ้อ“ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า ขอบคุณสำหรับยา แล้วก็ขอบคุณที่เราเกิดวันและเดือนเดียวกัน ราตรีสวัสดิ์ครับคุณทิช่า”เสียงทุ้มที่แสนจะน่าฟังของแทนไท ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของทิพย์ทิวา“ระ…ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณไท”เธอเอ่ยตอบเขาอย่างตะกุกตะกัก ก่อนที่แทนไทจะเดินกลับไปที่รถแล้วขับออกไปจากคอนโดมิเนียมที่เมื่อชั่วโมงก่อน เขาขับมาส่งบุรีที่ดื่มหนักไปหน่อย จนขับรถตัวเองกลับไม่ไหวส่วนทิพย์ทิวานั้นยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง นั่นเพราะกำลังใช้สมองส่วนหนึ่งคิด ว่าเธอจะใช้เวลาหนึ่งวันที่แสนจะมีค่ากับแทนไทในวันไหนดี จะใช้วันเสาร์อาทิตย์นี้ หรือจะเก็บไว้ใช้ในงานคืนสู่เหย้าปีหน้า
“อื้อ…ลาริมาร์คือหินพบรัก ชอบเลยใช่ไหมละเจ้”“ชอบ…ขอบใจนะวาด เจ้ดา” ขณะเอ่ยทิพย์ทิวาก็น้ำตาคลอเบาๆ มาซึ้งเอาอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็พากันร้องไห้เป็นเผาเต่ากันพอดี“งั้น…การย้ายไปทำงานที่กระบี่ครั้งนี้ เค้าขอให้เจ้ได้ เจ้โดน กลับมาเมืองกรุง หิ้วหนุ่มปักษ์ใต้หล่อคมเข้มมาด้วยนะเจ้นะ มันจะเริ่ดมาก”วาดดาวยิ้มกริ่ม“ยัยวาดบ้า”“ฉันเห็นด้วยกับน้องวาดนะแก ไปครั้งนี้ฉันก็ขอให้แกได้ แกโดน ขอให้มีคนสอยแกลงจากคานหรือไม่ก็ขอให้แกแรดสลัดจนคานกระเจิงแล้วได้ผัวสมใจ”แม้นศรีรีบเอ่ยอีกคน ไหนๆ มีวาดดาวคอยกระตุ้นเรื่องได้เรื่องโดนแล้ว เธอก็ตามน้ำไปอีกคนแล้วกัน“เหรอ! ปากหรือน่ะ อวยพรอะไรไม่อวย ดั๊นมาอวยให้เพื่อนได้ผัว”“มีๆ ไปเถอะ แล้วแกจะรู้ว่าสวรรค์บนดินมันมีอยู่จริง”“แหม…พูดยังกับตัวเองเคยมีประสบการณ์อย่างว่านะยัยเมนี่”“ถึงตอนนี้จะไม
ส่วนแม้นศรีนั้นแอบเช็ดน้ำตาป้อยๆ ก่อนจะเดินไปยังรถของเธอที่ก้องภพรออยู่เช่นกัน จากนั้นรถทั้งสองคันก็ขับออกไปจากโรงเรียนหนองปลาช่อน สถานที่ที่ทิพย์ทิวาและแม้นศรีได้พบและเป็นเพื่อนกันจนถึงวันนี้และตลอดไปแต่เมื่อมาถึงบ้าน คนข้างๆ กลับลีลาที่จะขับรถกลับโรงแรม แทนไทดูอิดออด นั่นเพราะอยากนอนค้างที่นี่ด้วยกัน“กลับได้แล้วค่ะพี่ไท”“พี่นอนที่นี่ไม่ได้หรือครับ”“ไม่ได้ค่ะ ขืนพ่อกับแม่รู้ว่าพี่ไทนอนค้างด้วย มีหวังหัวแบะเอาได้” ทิพย์ทิวาเอ่ยยิ้มๆ นั่นเพราะต่อให้เธอกับแทนไทกำลังคบหากันอยู่ แต่การจะให้ชายหนุ่มมานอนค้างที่บ้านด้วย ใช่เรื่องง่ายเสียเมื่อไหร่“วันนี้ที่งาน สองคนที่ทิช่าเอาการ์ดแต่งงานไปให้ดู เขาเป็นยังไงบ้างครับ”“ก็อึ้งกิมกี่ไปเลย หน้านี่เหวอมาก อยากให้พี่ไทเห็นจริงๆ”คิดแล้วก็ยังสะใจไม่หาย“งั้นก็ชวนเขามางานแต่งงานของเราด้วยสิครับ”“ก็ถ้ามีนะคะ”คนข้างๆ เอ่ยทีเล่นทีจริง เพราะคิดว่าแทนไทแค่พูดเล่นๆ เท่านั้น“ทิช่า”“คะ&r
ส่วนกิรณากับบัณฑิตานั้น หลังจากที่เหวอกับเรื่องที่แม้นศรีจะแต่งงานไปรอบหนึ่งแล้ว รอบสองก็ยิ่งเหวอเข้าไปอีก เพราะไม่คิดว่าทิพย์ทิวาจะสละโสดพร้อมกับแม้นศรีได้“เธอสองคนกำลังจะแต่งงาน!!”“ใช่” ทิพย์ทิวาเอ่ยรับในทันที แต่แม้นศรียังคงอึ้งอยู่ แต่ก็ใช้จังหวะที่กิรณากับบัณฑิตากำลังนั่งตกใจ หันมากระซิบถามกับทิพย์ทิวา“แกกำลังจะแต่งงานเหรอทิช่า”“อื้อ…แล้วแก จะแต่งงานทำไมไม่บอกกันก่อน” ทิพย์ทิวาเอ่ยถามลอดไรฟันกลับไปบ้าง นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องเก๊กท่าทาง เธอคงกรี๊ดกับข่าวนี้ไปแล้วแน่ๆยัยแม้นศรีระเบิดคานทิ้งได้สำเร็จแล้วพี่น้อง“ก็ฉันตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์แกกับยัยสองคนนี้พร้อมกันน่ะสิ แต่แกก็ยังมีเรื่องให้ฉันเซอร์ไพรส์อี๊ก”แม้นศรีเน้นคำสุดท้ายหน่อย“บิ๊กเซอร์ไพรส์”อดีตสาวอวบยักคิ้วให้ หลังจบเรื่องคงได้เฉลยว่าการแต่งงานของเธอมันก็แค่งานปลอม ที่กุขึ้นมาก็เท่านั้นเอง“มาก” แม้นศรีเอ่ยรับ เพราะยังไม่รู้ความจริง“ไว้เราค่อยกลับไ
รถสปอร์ตสีขาวคันสวย กำลังขับมุ่งหน้าไปยังจังหวัดอยุธยา โดยมีแทนไทเป็นคนขับ ส่วนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ คือสาวสวยอย่างทิพย์ทิวานอกจากรถสปอร์ตสีขาวแล้ว รถที่แล่นตามหลังพวกเขามานั้นก็ราคาแพงไม่แพ้กัน สองคนที่นั่งอยู่ข้างในก็ไม่ใช่ใครอื่นนั่นคือแม้นศรีกับก้องภพเมื่อมาถึงลานจอดรถของโรงเรียนหนองปลาช่อน ที่วันนี้ดูเหมือนจะครึกครื้นกันเป็นพิเศษ นั่นเพราะมีการจัดงานคืนสู่เหย้าขึ้นทุกๆ ปี เมื่อมาถึงทั้งสี่ก็ก้าวลงจากรถก่อนที่ทิพย์ทิวาจะเอ่ยขึ้น“พี่ไทกับถั่ว รออยู่ในรถกันก่อนนะคะ สักสิบนาทีค่อยตามพวกเราเข้าไปในงาน”“เอ้า! ทำไมอ่ะแก มาถึงที่แล้วก็เข้าไปพร้อมกันเลยสิ ฉันอยากเห็นหน้ายัยกี้กับยัยเบลจะแย่แล้ว” แม้นศรีค้านขึ้น“เอาน่ะ ฉันมีแผนเด็ด”“แผนเด็ดอะไร ไหนว่ามาซิ”สาวสวยอย่างแม้นศรีเอ่ยถาม ส่วนสองหนุ่มได้แต่ยืนฟัง“ก็แสร้งทำให้สองคนนั้นตายใจ ก่อนจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ตามมาไง”“อ๋อ…เข้าใจแล้ว” แม้นศรีลากเสียงยาว พอจะเข้าใจแผนที่ว่าของทิพย์ทิวา ทำตามนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะคืนนี
เสียงเคาะแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ในห้องนอน ดังมาให้แทนไทได้ยินเป็นระยะๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอี้ยวตัวไปมองคนรักสาว ที่ตอนนี้ดูง่วนอยู่กับอะไรสักอย่างตอนนี้เขากับทิพย์ทิวาคบหาดูใจกันมาก็ได้นานหลายเดือน แต่เพราะเธอยังต้องอยู่ทำงานที่กระบี่ ทำให้แทนไทเปลี่ยนที่ทำงานไปด้วย นั่นเพราะตอบได้อย่างไม่อายว่าเขา ‘หวง’ เธอ ขืนไม่ดูแล ไม่เอาใจใคร เกิดมีไอ้หนุ่มที่ไหนมาขายขนมจีบ เขาจะทำยังไงและเพราะอยากรู้ ว่าตอนนี้ทิพย์ทิวาทำอะไรอยู่ แทนไทจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ“ทำอะไรครับทิช่า” ขณะถามก็สวมกอดเธอจากทางด้านหลัง ก่อนจะฝังจมูกลงไปสูดดมความหอมบนเรือนผมของเธอ“การ์ดแต่งงานน่ะค่ะ”“หืม” คำว่าการ์ดแต่งงาน ทำให้แทนไทต้องสนใจเป็นพิเศษก่อนจะเพ่งมองรายละเอียดบนการ์ด เพราะชื่อเจ้าบ่าวที่ระบุลงไปมันคือชื่อเขานี่นา“ไม่ต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นก็ได้ค่ะพี่ไท นี่มันแค่การ์ดแต่งงานหลอกๆ เท่านั้นเอง”ทิพย์ทิวาส่ายหน้าให้คนรัก เธอไม่บ้าพอที่จะร่อนการ์ดเชิญ โดยที่ผู้ชายยังไม่เอ่ยปากขอหรอกนะ ถึงแม้ตอนนี้จะรออยู่ก็เถอะและเ
งานเปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าของแสงแข จัดขึ้นที่แกลเลอรีแสดงผ้าแห่งหนึ่งในตัวเมือง ทิพย์ทิวาควงแขนแฟนหนุ่มอย่างแทนไทไปร่วมงาน โดยหวังว่าการเปิดตัวคนรักของเธอในครั้งนี้ จะทำให้แม้นศรีอ้าปากจนกรามค้างเป็นแน่ เพราะเรื่องที่เธอซุ่มคบหาอยู่กับแทนไท แม้นศรียังไม่รู้นั่นเองคืนนี้ต่างฝ่าย ต่างนัดเจอกันที่หน้างาน แล้วจะเดินเข้าไปพร้อมกัน ทิพย์ทิวามาถึงก่อน เมื่อแทนไทจอดรถเสร็จ ชายหนุ่มก็เดินอ้อม มาเปิดประตูให้คนรักสาว ที่วันนี้แต่งตัวสวยเป็นพิเศษ รูปร่างก็สมส่วนจนเขาอดที่จะหวงไม่ได้ แต่จะเก็บเธอไว้เชยชมคนเดียวก็คงไม่แฟร์สักเท่าไหร่“วันนี้ทิช่าของพี่สวย” แทนไทเอ่ยชมทิพย์ทิวาอีกครั้งทิพย์ทิวาก้มมองตัวเอง ทีแรกก็นึกว่าจะใส่ชุดโปรดนี้ไม่ได้เสียอีก“ผอมลงไปก็หลายกิโลอยู่นะคะ รู้แบบนี้ทำการทดลองเรื่องนั้นตั้งนานแล้ว” เรื่องนั้นที่ทิพย์ทิวาเอ่ย มีหรือที่แทนไทจะไม่รู้ว่าเรื่องไหนชายหนุ่มเอื้อมมือขึ้นมาบีบจมูกโด่งรั้นของเธออย่างมันเขี้ยวที่ชอบพูดจาเซี้ยวๆ แบบนี้ออกมาให้ได้ยิน แต่เขาว่าผู้หญิงทะลึ่
‘ยิ่งได้อยู่ใกล้ ก็ยิ่งได้รัก’คำๆ นี้ดูเหมือนแทนไทและทิพย์ทิวาจะพิสูจน์กันมาแล้วว่าจริง นั่นเพราะตอนนี้ทั้งคู่กำลังมีความรัก ที่มองไปทางไหนโลกนี้ก็สีชมพู เมื่อไหร่ที่มีเวลาว่าง พวกเขาต่างทุ่มเทเวลาเหล่านั้นให้กันและกันอย่างเช่นวันนี้ ที่แทนไทอาสาเป็นพ่อครัว ทำอาหารเย็นให้คนรักสาวได้ชิม แม้จะห่วงเรื่องน้ำหนักตัว แต่อาหารหน้าตาน่าทานก็ยั่วให้ทิพย์ทิวาน้ำลายสอ โยนเรื่องน้ำหนักตัวทิ้งไปชั่วคราว ซึ่งก็เข้าทางแทนไท“อร่อยไหมครับ”“อร่อยค่ะ ผู้ชายทำกับข้าวเป็นนี่มีเสน่ห์จัง”ทิพย์ทิวาเอ่ยชม เธอทำบุญมาด้วยอะไรนะ ถึงมีแฟนทั้งหล่อ ทั้งเก่งแบบนี้ คิดแล้วนึกถึงแม้นศรี ถ้าเห็นเธอควงแทนไทไปงานเปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าของแสงแขจะทำหน้ายังไงน้อ อยากรู้จัง คึคึ“พูดแบบนี้แสดงว่าหลงพี่แล้วใช่ไหม”“อื้อ…หลงจนหัวปักหัวปำเชียวล่ะ”“พี่ก็หลงทิช่า หลงจนอยากกระโจนใส่ตอนนี้”“บ้า” ทิพย์ท
“พะ…พี่ไท...อืม” ร่างบอบบางส่งสียงครางออกมา ช่างเป็นเสียงที่น่าฟังนัก แทนไทปล่อยให้บิกินียังคงอยู่บนตัว ทิพย์ทิวาอีกหน่อย จากนั้นก็ไล้จูบ ฝังจมูกและปากไปตามหน้าขา ซึ่งตอนนั้นทิพย์ทิวาเอาแต่หนีบขาตัวเองแน่น ก่อนจะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อรู้ว่าตอนนี้แทนไทกำลังไล้จูบต่ำลงไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงข้อเท้า“พี่ชอบขาทิช่าจัง” แทนไทพร่ำบอก ขณะจูบเรียวขาของทิพย์ทิวาทั้งซ้ายและขวา ใช่ว่าตัวเธอจะหอมเท่านั้น เรียวขาทั้งสองข้างก็ยังนุ่มและหอมมากอีกด้วย“แค่ขาเหรอคะ” คำถามของทิพย์ทิวาทำให้แทนไทยิ้ม“ตรงนี้ก็ชอบครับ” ตรงนี้ที่ว่าคือหน้าขา ที่เขาพึ่งไล้จูบขึ้นมาเมื่อครู่ จากนั้นก็ลากผ่านปลายลิ้นไปหยุดอยู่ตรงที่หน้าท้อง ขยับขึ้นอีกนิดก็ถึงหน้าอกคู่สวย ที่เม็ดยอดสีชมพูสดยังเป็นเม็ดท้าทาย“ตรงนี้ก็ด้วย” เอ่ยจบก็จูบไซ้ลงไปบนหน้าอกอย่างไม่อาจห้ามตัวเองได้ ทิพย์ทิวาอ่อนระทวยแล้วระทวยอีก ก่อนจะหรี่ตาที่หวานเยิ้มด้วยความปรารถนามองหน้าแทนไท“โดยเฉพาะตรงนี้” จุดที่ว่าคือริมฝีปากอิ่มที่ไม่ว่าจะจูบสั
“ไม่ได้เมาจนขาดสติ แต่อาจจะเมานิดๆ หน่อยๆ” ทิพย์ทิวาเอ่ยตอบ แล้วจากนั้นก็ขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตัวแทนไท ยิ่งใกล้ชิด ชายหนุ่มก็ยิ่งร้อน เส้นความอดทนเขายิ่งบางๆ อยู่แล้วด้วย ดีไม่ดี วันนี้มันอาจขาดผึงเอาได้“มีคนเคยวิจัยเรื่องเซ็กซ์ช่วยลดน้ำหนัก”ทิพย์ทิวาตัวร้อนผ่าว เมื่อเอ่ยประโยคนี้ออกไป ไม่กล้าสบตาแทนไทสักเท่าไหร่นัก ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ของเธอทำให้ชายหนุ่มยิ้ม“ครับ…พี่เองก็เคยได้อ่านมาบ้าง”“แต่ทิช่าว่าวิจัยพวกนี้ มันไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่” ขณะพูดก็ไล้ปลายนิ้วลงไปบนแผงอกของแทนไท ท่าทางยั่วยวนของเธอ ทำเอาชายหนุ่มต้องกัดฟัน“แล้วไงต่อครับ พี่รอฟังอยู่”“ก็เลยอยากจะลองทำวิจัยด้วยตัวเองสักครั้ง ว่ามันจะทำให้ทิช่าผอมได้จริงๆ มั้ย”พูดไปแล้วก็เขินจนหน้าแดง ตัวแดงไปหมด แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอกระโดดขึ้นขี่ เอ้ย! ขึ้นคร่อมหลังเสือแล้วจะลงก็คงเสียฟอร์มที่สำคัญแทนไทเองก็คงไม่ยอมปล่อยให้แม่เสือสาว
“ครับ”แทนไทยิ้ม ท่าทางเขาดูเขินๆ น่ามองไปอีกแบบ“ฟอร์มเยอะ รักเค้าก็ไม่บอกว่ารัก ชิ”ถ้าเวลาปรกติทิพย์ทิวาคงไม่พูดแบบนี้ เพราะเธอเองต้องเขินมากแน่ๆ แต่นี่ดื่มแอลกอฮอล์ปลุกพลังเสือในตัวไปหลายแก้ว ทำให้กล้าที่จะถาม จะพูดอะไรต่างไปจากปรกติ“รักครับ ต่อให้ทิช่าอ้วน พี่ก็รัก”บอกรักไปแล้วก็ขอสบตาทิพย์ทิวาเสียหน่อย จากที่ไม่เขิน ก็พานทำเอาเธอเขินสายตาที่แทนไทส่งมาให้ จนต้องดื่มคอกเทลไปอีกแก้ว“แปลก”“พี่รักนี่ก็แปลกเหรอครับ”สีหน้าของแทนไทดูงง เพราะชักจะเดาความคิดผู้หญิงไม่ออกก็งานนี้“แปลกที่พี่ไทอยากมีแฟนอ้วน”“แปลกตรงไหน อ้วนแล้วกอดอุ่นดีออก หรือไม่เชื่อ งั้นคืนนี้เรามานอนกอดกันไหม”คำชวนตรงๆ โต้งๆ ของแทนไททำเอาทิพย์ทิวายิ่งอาย พออายมากๆ ก็ไปลงที่คอกเทล หมดไปอีกหนึ่งแก้ว“ทะลึ่ง เดี๋ยวเถอะ”“พอแล้วครับ เดี๋ยวเมา แล้วปล้ำพี่ขึ้นมาทำ