สามสาวสามวัย กำลังสนุกกับการหยิบอาหารมานั่งทานกันที่โต๊ะ ก่อนที่ทิพย์ทิวาจะลุกขึ้นไปสั่งอุด้งกุ้งอลาสก้า มาซดอีกสักถ้วย เพราะถ้วยเมื่อครู่ถูกวาดดาวแย่งไปชิมจนเกลี้ยง โดยครั้งนี้เธอขอยืนดูขั้นตอนการทำตรงหน้าเตา แทนที่จะออร์เดอร์ไว้แล้วให้พนักงานนำไปเสิร์ฟที่โต๊ะ
ยืนมองไป ทิพย์ทิวาก็กลืนน้ำลายลงคอไปด้วย ยิ่งได้เห็นขั้นตอนการทำ อุด้งกุ้งอลาสก้าก็ยิ่งน่ากิน ส่งผลให้กระเพาะร้องประท้วง ก่อนจะบอกตัวเองในใจ ‘พรุ่งนี้ค่อยลดน้ำหนักนะ แฮ่’ “เสร็จแล้วครับคุณผู้หญิง” “ขอบคุณค่ะ” ทิพย์ทิวาเอ่ยขึ้นแล้วยื่นมือไปรับถ้วยอุด้งกุ้งอลาสก้าร้อนๆ มาถือไว้ กลิ่นหอมที่โชยมาแตะจมูก ทำให้เธอน้ำลายสอ “น่ากินจังเลย” คนชอบทานยิ้มให้กับอุด้งกุ้งอลาสก้าถ้วยในมือ แต่ความที่มัวแต่ชื่นชมจึงไม่ทันระวัง ว่าใครกันมายืนอยู่ข้างๆ หันมาอีกทีก็ชนเข้าอย่างจัง จนน้ำซุปร้อนๆ ของอุด้งกุ้ง อลาสก้ารดถูกคนข้างๆ เสียเกือบหมดถ้วย “อุ๊ย! ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ทิพย์ทิวารีบเอ่ยคำขอโทษทันที “นี่เธอทำอะไร ออกไปให้พ้นเลยยัยอ้วน”เสียงแหลมๆ ชวนแสบแก้วหูที่ดังขึ้น ไม่ได้ทำให้ทิพย์ทิวาสนใจคนพูดแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้เธอสนใจชายหนุ่มที่ยืนกุมมือตัวเองนิ่ง ขณะที่พนักงานในร้าน ต่างพากันกรูเข้ามาดูเหตุการณ์ ก่อนจะช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ชายหนุ่มทันที โดยมีทิพย์ทิวาคอยดูอยู่ใกล้ๆ “คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า ฉันขอดูมือหน่อย”เธอยื่นมือไปหวังขอดูมือชายตรงหน้า แต่กลับถูกผู้หญิงเสียงแหลมๆ คนเดิมปัดมือเธอให้ออกห่างสุดแรงด้วยท่าทางรังเกียจ “เอามืออ้วนๆ ของเธอออกไป ไม่ต้องมาแตะมือแทนไทของฉัน รู้มั้ยว่ามือคู่นี้สำคัญมากขนาดไหน ถ้าเขาเกิดได้รับบาดเจ็บร้ายแรงขึ้นมา เธอรับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ”ม่านฟ้าแว้ดเสียงสูงปรี๊ด แต่ทิพย์ทิวาก็หาได้สนใจเธอ นั่นเพราะสายตาเอาแต่จับจ้องผู้ชายที่เอาแต่นั่งนิ่ง “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า ฉันขอดูมือหน่อย”เอ่ยจบก็ยื่นมือไปหวังขอดูมือชายตรงหน้าอีกครั้ง “ฉันบอกให้หล่อนเอามือออกไป” และคนที่ปัดมือของทิพย์ทิวาออกอีกก็หาใช่คนอื่น ม่านฟ้าคนเดิม เพิ่มเติมคือความโกรธเกรี้ยวประหนึ่งพายุทอร์นาโด “ผมไม่เป็นอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยตอบกลับมาเป็นครั้งแรก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาทิพย์ทิวาเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน “อย่าทำหน้าเหมือนเด็กกำลังจะร้องไห้แบบนั้นสิคุณ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยปลอบสาวร่างอวบที่ตั้งท่ากำลังจะร้องไห้เหมือนเด็กๆ ฉึก! ความรู้สึกยามที่ได้สบตาผู้ชายตรงหน้าทำไมทิพย์ทิวาถึงได้รู้สึกประหม่าแปลกๆ อะไรบางอย่างมันดังกึกก้องอยู่ในสมอง อะไรบางอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร “ไม่เป็นอะไรได้ยังไงคะ มือไทแดงเพราะถูกน้ำร้อนจากความซุ่มซ่ามของผู้หญิงเห็นแก่กินคนนี้น่ะลวกเข้า เกิดร้ายแรงจน…”ม่านฟ้าไม่อยากคิด ว่าหากมือของแทนไทไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว เธอจะทำยังไง แต่บางทีอาจเป็นผลดีกับเธอก็ได้ ที่จะทำให้เขาเลิกสัมผัสเนื้อตัวของผู้หญิงคนอื่นแล้วหันมาสัมผัสแค่เธอคนเดียวเสียที เพราะทุกอย่างที่เป็นของผู้ชายคนนี้ เธอหวงหมด “ผมไม่ได้เป็นอะไรม่านฟ้า คุณไม่ต้องตีโพยตีพายมากไปถึงขนาดนี้หรอก” แทนไทลอบถอนหายใจออกมา เพราะเขารู้ตัวเองดีว่าเจ็บมากหรือน้อย “จะไม่ให้ม่านฟ้าตีโพยตีพายได้ยังไง มือคู่นี้ของไทมีค่ามากกว่าเพชรหรือทองอีกนะคะ” คำพูดของม่านฟ้า พลอยทำให้ทิพย์ทิวาก้มมองมือของชายที่เธอรู้จักว่าเขาชื่อไท แล้วก็ฉุกคิด มือเขามีค่ามากมายขนาดนั้นเลยเหรอ หรือเขาจะเป็นหมอผ่าตัดมือระดับพระกาฬที่หาตัวจับได้ยากกันนะ คิดแล้วก็เกิดความสงสัย “เจ้ทิช่า เกิดอะไรขึ้น” วาดดาวที่มาตามทิพย์ทิวาเพราะเห็นหายมานานเอ่ยถาม “อ้อ…พอดีเจ้ซุ่มซ่ามทำน้ำอุด้งลวกมือผู้ชายคนนี้เข้าน่ะวาด” จังหวะที่ทิพย์ทิวาหันมาตอบวาดดาว แทนไทกับม่านฟ้าก็ลุกออกไป ทั้งคู่ตรงไปยังห้องวีไอพี เพราะที่นี่รองรับลูกค้าที่อยากทานบุฟเฟต์แต่ต้องการความเป็นส่วนตัว เมื่อเข้าไปในห้องได้ ม่านฟ้าก็ร้อนรนถามไถ่อาการของแทนไทครั้งแล้วครั้งเล่า ถามจนชายหนุ่มรำคาญ จนต้องบอกให้เธอเงียบ นั่นแหละปากเล็กๆ ที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเลือดนกจึงหยุด แต่ใบหน้าก็งอง้ำ แสดงออกว่าไม่พอใจที่ถูกเขาดุ ส่วนทิพย์ทิวาก็ได้แต่ชะเง้อมอง ก่อนจะกลับไปที่โต๊ะของเธอพร้อมวาดดาว ตกใจได้ไม่เท่าไหร่ ความสนุกสนาน เฮฮาของสมาชิกเกิร์ลแก๊งอร่อยไม่กลัวอ้วน บุฟเฟต์อยู่ที่ใด โปรดบอกพี่ก็หวนกลับมาอีกครั้ง แต่หนึ่งในนั้นก็แอบคิดถึงความซุ่มซ่ามของตัวเอง จนทำให้คนอื่นเจ็บตัวแทบตลอดเวลา “เขาจะเป็นอะไรมากมั้ย” “แล้วถ้าเป็นขึ้นมา เธอจะถูกฟ้องหรือเปล่า ยัยคนสวยนั่นบอกว่ามือเขามีค่ามากกว่าเพชรหรือทองเสียอีก” “โอ๊ย! เครียด” ประโยคเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่ในความคิดของทิพย์ทิวา ขณะคิดมือก็หยิบนั่นนี่เข้าปาก โดยเฉพาะชีส ก่อนจะตัดสินใจปลีกตัวลงไปที่หน้าโรงแรม เพ่งสายตามองหาร้านขายยา เมื่อเห็นก็ตรงดิ่งไปทันที ก่อนจะกลับมาพร้อมถุงยาใบใหญ่ แต่ทว่ากลับไม่พบชายหนุ่มในห้องวีไอพีเสียแล้ว “เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจของทิพย์ทิวาดังขึ้น ก่อนจะกลับไปซัดบุฟเฟต์แก้เครียดอีกยก เป็นซะแบบนี้เธอจะผอมตอนไหน หืม…ยัยทิช่า ‘พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ฉันจะผอม’บทที่ 7เมื่อส่งม่านฟ้าที่คอนโดมิเนียม แทนไทก็ขับรถไปแฮงเอาท์กับเพื่อนๆ ต่อโดยบอกม่านฟ้า ว่าเขานั้นจะกลับไปพักผ่อน เพราะไม่ต้องการให้เธอตามไปด้วยแต่กว่าจะปลีกตัวออกมาได้ก็นานพอดูส่วนมือที่ถูกน้ำร้อนลวกก็แค่เฉียดๆ ไม่ได้ถูกเต็มๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงปวดแสบปวดร้อน จนต้องโร่ไปโรงพยาบาลแล้วรถเอสยูวีคันใหญ่ขับเคลื่อนอยู่บนท้องถนน ขณะที่รอบข้างคือแสงไฟยามค่ำคืน กระทั่งมาจอดเทียบหน้าร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูง ไหล่กว้าง หน้าคมเข้มก้าวลงจากรถ แล้วเดินตรงไปยังโต๊ะที่มีบรรดาเพื่อนๆ นั่งรออยู่ก่อนแล้ว“เฮ้! ไท ทางนี้” ธีระโบกมือเรียกคนสุดท้ายที่มาถึง แทนไทจึงตรงไปนั่ง แต่ความที่ฝ่ามือเขามีผ้าพันแผลพันอยู่ จึงเป็นจุดสนใจ“แล้วนั่นมือเอ็งไปโดนอะไรมา”ยังไม่ทันที่แทนไทจะได้นั่ง บุรีเพื่อนสนิทอีกคนก็เอ่ยถาม“น้ำร้อน”แทนไทเอ่ยตอบอย่างไม่ค่อยสนใจน
หลังจากอิ่มจนพุงกางจากบุฟเฟต์นานาชาติที่ทิพย์ทิวาชิมทุกเมนู ก็ได้เวลาแยกย้ายกลับรังใครรังมัน ซึ่งดูเหมือนรังของเธอดูจะอยู่ใกล้กับโรงแรมมากสุด ขับรถไม่นานก็ถึง เมื่อจอดรถเรียบร้อยก็เดินหอบหิ้วกระเป๋าและสารพัดอย่างขึ้นห้องที่อยู่ชั้นยี่สิบเอ็ดก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม ที่ไปเดินเลือกซื้อมาตกแต่งห้องเองกับมือ โดยมีคนช่วยเลือกคือแม้นศรีเพื่อนรัก เพื่อนเลิฟ สุดท้ายก็ได้โซฟาสีม่วงมาครอง เธอชอบแบบแต่คนไปด้วยชอบสี ตบตีกันอยู่พักใหญ่ สรุปไปๆ มาๆ เธอก็หลงคารมคนไปด้วย รูดบัตรซื้อโซฟาสีม่วงตัวนี้มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว คล้ายจะถูกป้ายยาเมื่อนึกถึงแม้นศรี ทิพย์ทิวาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาเพื่อนรัก เพื่อบอกข่าวเรื่องที่เธอต้องโอนย้ายไปดูแลโซนภาคใต้ รอสายอยู่ไม่นาน แม้นศรีก็กดรับสาย“ว่าไงจ๊ะทิช่าเพื่อนรัก อย่าบอกนะว่าวันนี้ไดเอทแล้วน้ำหนักลด เลยโทร.มาบอกเพื่อน”“เปล่า…ยังไม่ได้เริ่มไดเอท”“งั้นก็คงคิดถึงคนสวย เลยจะโทร.มาเซย์กู๊ดไนท์เหรอ”“ก็ไม่ใช่
“ขาแกต่างหากผู้หญิงอะไร อ้วนขนาดนี้ขายังสวย ฉันนี่โคตรอิจฉา” ว่าแล้ว แม้นศรีก็ยกขาตัวเองขึ้นดู นี่ถ้าไม่ผ่านการทำสปามา ขาเธอจะเนียนสวยแบบนี้เรอะ“ไอ้เราก็นึกว่านม”ทิพย์ทิวาถึงกับสลด ก่อนจะก้มมองขาตัวเองบ้าง จะว่าไปแล้วเธออ้วนขึ้นมาตั้งสิบกว่ากิโล แต่ทำไมขามันยังเท่าเดิมก็ยังแปลกใจอยู่“เหรอ…ตอนนี้นมกับพุงแกมันขนาดพอๆ กัน อ้อ…จะมีเด่นสุดก็คงเป็นไขมัน”“เจ็บ”ประโยคแรกว่าเจ็บแล้ว แต่ประโยคนี้ของแม้นศรีทำเอาทิพย์ทิวาแทบร้องไห้ ถ้าอยู่ใกล้ นี่จะขอกระโดดข่วนหน้าสวยๆ เสียหน่อย“เจ็บก็ลดน้ำหนักได้แล้วยัยธิช่า หล่อนตัวจะแตกอยู่แล้วนะ”“ก็พยายามอยู่ เอางี้ ขึ้นมากรุงเทพฯ เมื่อไหร่ ฉันจะผอมให้แกดู ตกลงไหม”“ตกลง”แม้นศรีตอบตกลงทันที“แล้วนี่แกเดินทางวันไหน”น้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้นฟังดูห้วนขึ้นมา แม้จะรู้ว่าทิพย์ทิวาไปทำงาน แต่ลึกๆ มันก็รู้สึกอดที่จะใจหายไม่ได้
สายตาของผู้หญิงที่ควงแขนปองคุณไม่ปล่อยมองมา มันส่งมาหยามกันชัดๆ มีหรือที่ทิพย์ทิวาจะมองไม่ออก ได้แต่สั่งให้ตัวเอง ‘ใจเย็นไว้ทิช่าเอ๋ย ใจเย็นไว้อย่าฟาดงวงฟาดงาออกตอนนี้ ไม่ดี ไม่งาม’“ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ พอดีช่วงนี้เจริญอาหารมากไปหน่อย น้ำหนักเลยขึ้นอย่างที่เห็น แต่อีกไม่กี่เดือนก็ผอม ทิช่าอ้วนง่าย ผอมง่าย แป๊บๆ ก็กลับมาหุ่นดีเหมือนเดิม”พูดออกไปแล้วก็ลอบถอนหายใจ เธอเป็นคนประเภทที่พูดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ น้ำหนักขึ้นง่ายแต่ลงโคตรยากล่ะสิไม่ว่า“งั้นเหรอ…ได้ยินแบบนี้พี่ก็โล่งอก เพราะอ้วนมันไม่ดีต่อสุขภาพ” เมื่อเห็นว่าบทสนทนาระหว่างคนรักหนุ่มกับสาวอวบที่เป็นอดีตคนเคยรักชักจะเกินเลยในความคิดเธอ น้องหนูจึงไม่อาจยืนฟังนิ่งๆ ได้อีกต่อไป“ใครหรือคะพี่ปอง”“อ้อ…คือว่านี่คือทิช่าครับน้องหนู ทิช่าเป็น…”“อดีตคนเคยคบน่ะจ้ะ”เมื่อเห็นปองคุณอ้ำๆ อึ้งๆ ทิพย์ทิวาจึงเอ่ยต่อแทน“อ
“นี่…” เห็นท่าไม่ดี น้องหนูผีของปองคุณก็ถอยมาตั้งหลัก แต่ยังไม่ยอมถอยทัพกลับเสียทีเดียว“หก เจ็ด แปด เก้า…”“ฝากไว้ก่อนเถอะ”เอ่ยจบก็จ้ำอ้าวออกไปอย่างเร็ว วันพระไม่ได้มีหนเดียว รับรองเธอจะตามแขวะ ตามกัดทิพย์ทิวาให้ย้ายออกไปจากคอนโดมิเนียมนี้ไม่ทัน เพราะเธอก็ไม่อยากอยู่ใกล้อดีตคนรักของปองคุณนักหรอก“ถ้าอยากหน้าแหกก็รีบมารับคืนไปไวๆ นะจ๊ะน้องหนูผี” ทิพย์ทิวาเอ่ยตามหลัง ก่อนจะส่ายหน้าให้ คนที่ถูกทำเสน่ห์คงเป็นปองคุณมากกว่า นี่ไม่รู้ไปคว้าสก๊อยจากไหนมาควง คำพูดบ่งบอกนิสัย หน้าอย่าง หลังอย่างแบบนี้ คิดแล้วก็สมน้ำหน้า! อยากทิ้งเพชรอย่างเธอไปคว้าก้อนกรวดเอง ช่วยไม่ได้ และคนอย่างเธอต้องหาผู้ชายดีๆ มาควงเย้ยยัยหนูผีกับปองคุณและถ้าหาไม่ได้จริงๆ เธอก็จะใช้บริการเช่า อย่างที่แม้นศรีได้เอ่ยไว้แต่ก่อนจะเช่าผู้ชายมาควง เธอคงต้องสลิมให้ได้ก่อน คิดเรื่องนี้ก็ก้มมองพุงตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาดังเฮือก จะผอม! มันใช่เรื่องง่ายๆ เส
“ช่วยทายาบนมือผมหน่อยแล้วกันคุณ ถือว่าไถ่โทษ”แทนไทยื่นมือมาหาคนที่เขาขอให้ทายาให้“อ่ะๆ ก็ได้”“งั้นผมจอดรถให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า”“ฉันไปนั่งรอตรงนู้นนะคุณ”ตรงนู้นที่ว่าคือเก้าอี้นั่งเล่นแถวๆ ลานจอดรถ“ครับ” เสียงทุ้มที่เอ่ยรับ สะกิดหัวใจของคนฟังอย่างไม่รู้ตัว ทำไมเธอถึงรู้สึกอบอุ่นกับแค่คำว่า ‘ครับ’ สั้นๆ ก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันทิพย์ทิวาเดินไปนั่งรอแทนไทบนเก้าอี้ ขณะนั้นสายตาก็แทบไม่ได้ละมองไปจุดอื่นนอกเสียจากรถเอสยูวีสวยๆ ที่กำลังจอดอยู่ไม่ไกล ก่อนที่เจ้าของรถจะเดินตรงมาหาเธอถ้าเธอควงผู้ชายคนนี้ไปเย้ยยัยหนูผี นางจะเงิบไหมนะหึแล้วถ้าเธอควงผู้ชายคนนี้ไปเย้ยยัยกิรณากับยัยบัณฑิตา สองนางจะอ้าปากค้างหรือเปล่าหึหึ คิดเรื่องนี้ ทิพย์ทิวาก็อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ว่าแต่เขาจะให้เธอ ‘เช่า’ไปควงแขนหรือเปล่านี่สิ งื้อ…หล่อๆ แบบนี้ค่
“นี่ครับ นามบัตรผม”เอ่ยจบก็ยื่นนามบัตรให้ทิพย์ทิวาไป“อ้อค่ะ”มืออวบๆ ยื่นไปรับนามบัตรสีขาวมาถือไว้“ถ้าคุณพร้อมจะออกเดตเมื่อไหร่ ก็โทร.หาผมได้ตลอดเวลานะครับ”“ค่ะ”ทิพย์ทิวาเอ่ยรับอย่างไม่ค่อยจะรู้เนื้อรู้ตัวนัก เพราะมัวแต่พ้อ“ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า ขอบคุณสำหรับยา แล้วก็ขอบคุณที่เราเกิดวันและเดือนเดียวกัน ราตรีสวัสดิ์ครับคุณทิช่า”เสียงทุ้มที่แสนจะน่าฟังของแทนไท ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของทิพย์ทิวา“ระ…ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณไท”เธอเอ่ยตอบเขาอย่างตะกุกตะกัก ก่อนที่แทนไทจะเดินกลับไปที่รถแล้วขับออกไปจากคอนโดมิเนียมที่เมื่อชั่วโมงก่อน เขาขับมาส่งบุรีที่ดื่มหนักไปหน่อย จนขับรถตัวเองกลับไม่ไหวส่วนทิพย์ทิวานั้นยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง นั่นเพราะกำลังใช้สมองส่วนหนึ่งคิด ว่าเธอจะใช้เวลาหนึ่งวันที่แสนจะมีค่ากับแทนไทในวันไหนดี จะใช้วันเสาร์อาทิตย์นี้ หรือจะเก็บไว้ใช้ในงานคืนสู่เหย้าปีหน้า
“อื้อ…ลาริมาร์คือหินพบรัก ชอบเลยใช่ไหมละเจ้”“ชอบ…ขอบใจนะวาด เจ้ดา” ขณะเอ่ยทิพย์ทิวาก็น้ำตาคลอเบาๆ มาซึ้งเอาอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็พากันร้องไห้เป็นเผาเต่ากันพอดี“งั้น…การย้ายไปทำงานที่กระบี่ครั้งนี้ เค้าขอให้เจ้ได้ เจ้โดน กลับมาเมืองกรุง หิ้วหนุ่มปักษ์ใต้หล่อคมเข้มมาด้วยนะเจ้นะ มันจะเริ่ดมาก”วาดดาวยิ้มกริ่ม“ยัยวาดบ้า”“ฉันเห็นด้วยกับน้องวาดนะแก ไปครั้งนี้ฉันก็ขอให้แกได้ แกโดน ขอให้มีคนสอยแกลงจากคานหรือไม่ก็ขอให้แกแรดสลัดจนคานกระเจิงแล้วได้ผัวสมใจ”แม้นศรีรีบเอ่ยอีกคน ไหนๆ มีวาดดาวคอยกระตุ้นเรื่องได้เรื่องโดนแล้ว เธอก็ตามน้ำไปอีกคนแล้วกัน“เหรอ! ปากหรือน่ะ อวยพรอะไรไม่อวย ดั๊นมาอวยให้เพื่อนได้ผัว”“มีๆ ไปเถอะ แล้วแกจะรู้ว่าสวรรค์บนดินมันมีอยู่จริง”“แหม…พูดยังกับตัวเองเคยมีประสบการณ์อย่างว่านะยัยเมนี่”“ถึงตอนนี้จะไม