ภายในห้องส่วนตัวของร้านกาแฟสุดหรูร้านหนึ่งในเมือง เอมิลี่ เควสและเมย์ คอนเนอร์กำลังข้างนั่งอยู่ข้างหน้าต่างพลางดื่มกาแฟและรับประทานของหวานอย่างเอื่อยเฉื่อยทั้งคู่ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ“ตอนนี้ที่นั่นคงจะวุ่นวายกันน่าดูนะคะ หนูคิดว่าไซล่ากำลังรับยูนิตทั้งหมดที่เธอขายไปก่อนหน้านี้คืนอยู่แน่ ๆ”“คุณแม่คะ แม่คิดว่าไซล่าจะดูแย่ไหมคะตอนนี้? ให้ตายสิ หนูอยากจะไปที่นั่นจริง ๆ หนูจะได้เห็นกับตาว่ามันโชคร้ายมากแค่ไหน”เมื่อเธอกล่าวจบ เอมิลี่เย้ยหยันก่อนที่จะยกกาแฟขึ้นมาจิบมันอย่างเอื่อยเฉื่อย“ไม่ว่าใครก็ตามที่กำลังเจอกับสถานการณ์เช่นนั้น เป็นไปไม่ได้หรอกจ่ะที่พวกมันจะรอดพ้นอันตรายไปได้ แม้ว่าไซล่ามีอำนาจแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถจัดการเรื่องแบบนี้ได้อย่างแน่นอน” เมย์กำลังยิ้มแก้มปริพลางคนกาแฟอย่างสง่างาม“มันต้องจัดการกับข่าวลือเรื่องอิมพีเรียล ไพรม์ รับมือกับคนที่อยากจะขอเงินคืนและปัญหาการขายต่าง ๆ นานาที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกด้านหนึ่ง ถ้าหนูเป็นมันนะ หนูคงเป็นบ้าไปแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า…” เอมิลี่กลั้นหัวเราะออกมาเสียงดังไม่ไหวเอมิลี่เอนหลังอย่างเกียจคร้านบนลงบนโซฟา และวางมือของบนที่พักแขนขณะที่พูด
ตอนนี้ ไม่ใช่เพียงแค่วิกฤตการณ์โครงการได้รับการแก้ไข แต่ชารอนและกลุ่มของเธอกลับซื้อยูนิตที่เหลืออีกด้วย ความโชคดีอย่างกะทันหันนี้ทำให้ไซล่าดีใจมากไซล่าหอบร่างกายอันเหนื่อยล้าเดินไปนั่งลงบนโซฟาไซล่าเพิ่งจะนั่งลงในตอนที่พนักงานขายรีบเข้ามาล้อมตัวเธอ ชื่นชมเธอทีละคน“ท่านประธานเควสน่าทึ่งจริง ๆ ค่ะ คุณช่างมีสายตาที่เฉียบคมจริง ๆ ที่สามารถหาตัวปัญหาในกลุ่มฝูงชนที่เยอะเช่นนั้นได้”“ไม่เพียงแค่ท่านประธานเควสของเราจะดูดีเท่านั้น แต่ก็ยังมีความสามารถพิเศษอีกด้วย เธอสามารถแก้ไขวิกฤติครั้งใหญ่นี้อย่างง่ายดายด้วยนะ”“ไม่เพียงแค่วิกฤติจะได้รับการแก้ไขเท่านั้น แต่ยูนิตที่เหลือถูกขายจนเกลี้ยงเหมือนกัน ท่านประธานเควสค่ะ คุณเป็นตัวตนเหนือมนุษย์ประเภทไหนกันคะ? ท่าท่างใจเย็นตอนที่คุณเผชิญหน้ากับอันตรายนั่นเท่มากเลยค่ะ”ทุก ๆ คนกำลังยกยอเธอ ปากของไซล่าเม้มเป็นรอยยิ้มอันอ่อนโยนในทันที เธอเหลือบมองพวกเขา “เอาละ เอาล่ะ เลิกยอฉันได้แล้ว พวกเธอจะทำฉันลอยรึไง?”“ฮิฮิ พวกเราก็แค่พูดความจริง” หนึ่งในพนักงานขายสาวหัวเราะคิกคักขณะที่พูด“หลายสิ่งได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายและยูนิตก็ถูกขายไปอย่างรวดเร็วเช่
“วันนี้แม่ไปที่อิมพีเรียล ไพรม์มาน่ะ” ชารอนดูตื่นเต้นสแตนลีย์เลิกคิ้วขึ้น เขายืนขึ้นและเดินอย่างเอื่อยเฉื่อยไปที่หน้าต่างบานใหญ่อย่างไร้ความรู้สึก “อ๋อ”หลังจากนั้นเขาหยิกสันจมูก จากนั้นจึงวางมือข้างหนึ่งบนมูลี่ขณะมองไปยังเมืองอันพลุกพล่านเบื้องล่างเขา ชายคนนั้นเป็นเหมือนกับเชื้อพระวงศ์ผู้ชาญฉลาดแต่ไร้ความรู้สึก“ลูกไม่มีอะไรจะพูดกับแม่หน่อยเหรอ?”“แล้วผมต้องพูดอะไร?” เขาถามเบา ๆ “ก็อย่าง ลูกคงไม่รู้ว่าภรรยาของลูกน่าทึ่งมากแค่ไหน” ชารอนตื่นเต้นยิ่งขึ้นขณะที่พูด เธอเริ่มเล่าทุกอย่างที่เธอเห็นที่ศูนย์การขายให้กับสแตนลีย์อย่างกระตือรือร้นชารอนคุยอย่างไม่รู้จบพร้อมกับคำอธิบายที่แสนสดใส ความรักในเสียงของเธอดูชัดเจนสแตนลีย์กำลังฟังด้วยความพอใจอย่างมากพร้อมกับรอยยิ้มที่เห็นชอบที่ริมฝีปากที่งดงามของเขา“พูดก็พูดเถอะ ลูกโชคดีมากขนาดนี้ได้ไง? ถ้าแม่เป็นผู้ชายนะ แม่คงจะอิจฉาลูกแน่เลย” ชารอนพูดเสริม“โอ้” เขาตอบกลับอย่างสงบโดยไม่พูดอะไรต่อตามปกติ“แล้วลูกล่ะ เจ้าเด็กดื้อ! เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้กับภรรยาตัวเอง ทำไมถึงยังไม่หาคนซื้อสินทรัพย์ของเธออีก?” ณ จุดนี้ ชารอนดูหงุดหงิดเล็กน้อย
“คิดว่าตัวเองป็นใครกัน? ถ้าการคาดเดาของฉันถูกต้อง หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ คุณพ่อจะสูญเสียความมั่นใจในตัวเธอไปทั้งหมด ยินดีด้วยนะ!” เอมิลี่เยาะเย้ยต่อไป ยิ่งเธอพูดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นเรื่อย ๆ เอมิลี่สัมผัสได้ถึงชัยชนะในการเยาะเย้ยความล้มเหลวของพี่สาวตนหลังจากที่อดทนมาทั้งวัน ความอดทนของไซล่าก็มาถึงขีดสุด เธอกำหมัดแน่นถึงกระนั้น เธอฝืนความรู้สึกอีกครั้งเพราะไม่จำเป็นที่เธอจะต้องใช้กำลัง“ไปนั่งรอฉันอยู่ในห้องนั่งเล่นนะ” ไซล่ากล่าว“เพื่ออะไร?”“ฉันมีบางจะประกาศให้ทราบ” ไซล่ากล่าวอย่างสงบ เธอเหลือบมองหน้าของเอมิลี่อย่างเฉยเมยก่อนที่จะมุ่งหน้าขึ้นชั้นบน“ประกาศอะไร? ประกาศว่าเธอกำลังจะถอนตัวจากอิมพีเรียล ไพรม์ใช่เปล่า?” เอมิลี่เริ่มหน้าหนายิ่งขึ้นขณะที่พูดเช่นนั้น“ใช่” เมื่อกล่าวจบ ไซล่าก็ขึ้นไปชั้นบนเนื่องจากทุกยูนิตของอิมพีเรียลไพรม์ถูกขายจนหมด ก็ถึงเวลาที่เธอต้องถอนตัวแล้วใช่ไหม?ขณะที่เธอมองท่าทีดีใจของเอมิลี่ เธอก็ยิ่งรู้สึกอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะหลังจากได้ยินเช่นนั้น เอมิลี่จึงดีใจเหลือล้น ตามคาด ไซล่าล้มเหลว! บางทีเธออาจจะขอร้องให้คุณพ่อลงมาที่ชั้นล่างเพ
“ทุกอย่างก็ดูเรียบร้อยดีนิคะ ที่รัก คุณโกรธจนตะโกนเสียงดังใส่เอมิลี่ด้วยล่ะคะ?” เมย์ คอนเนอร์เดินลงจากบันไดก่อนที่จะหยุดที่บันไดขั้นสุดท้ายและวางมือข้างหนึ่งไว้บนราวและกวาดตาดูคนตรงนั้น หลังจากนั้น เมย์ก็เหลือบมองไซล่า เควสอย่างเยือกเย็นก่อนที่จะรีบเข้าไปหาเจเรมี่ เควสและเอนตัวพิงที่พักแขนโซฟา “คุณเป็นทุกข์เพราะคนมากมายกำลังเรียกร้องขอเงินคืนเรืองห้องของโครงการอิมพีเรียล ไพรม์ใช่ไหม และทั้งหมดก็เพราะไซล่าไร้ความรับผิดชอบของเธอใช่ไหมคะ?” เมย์ถามอย่างไรก็ตาม เจเรมี่ไม่พูดแม้แต่คำเดียว เขายังคงมีใบหน้าเคร่งขรึมและจ้องเขม็งไปข้างหน้าอย่างโกรธเคืองถ้าสายตาของคนคนหนึ่งสามารถฆ่าคนได้ เอมิลี่ก็รู้สึกว่าเธอคงจะตายตรงจุดนั้นแล้วเมื่อเมย์เห็นท่าทีของเจเรมี่ เธอก็มั่นใจได้ว่าการที่เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้เป็นเพราะสาเหตุเช่นเดียวกับที่เธอคิดแน่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจเรมี่จะโกรธ เขาจะระบายอารมณ์กับลูกสาวของเมย์ได้อย่างไร?เห็นได้ชัดว่า ไซล่าคือคนที่สร้างความปั่นป่วนครั้งนี้“ไซล่า...ถ้าเธอรู้ตัวว่าไม่มีความสามารถที่จะรับมือกับเรื่องทั้งหมดนี้ได้ ทำไมเธอจะต้องฝืนตัวเองแบกรับความรับผิดชอบ
ณ เวลานั้น เอมิลี่ เควสค่อนข้างรู้สึกผิดหวังที่ทอม ซัลลิแวนจะไม่เห็นความหายนะของไซล่า เควส ตอนนี้การที่ทอมมาที่นี่ มันจึงเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขาที่จะเห็นทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าเอมิลี่และแม่ของเธอ ในตอนนั้น เอมิลี่มั่นใจว่าทอมคงจะมีความรู้แย่ต่อไซล่าเอมิลี่เปิดประตูอย่างร่าเริงและพบว่าทอมกำลังยืนอยู่ด้านนอกเนื่องจากหิมะกำลังตกอยู่ด้านนอก มีหิมะเป็นชั้น ๆ อยู่บนหัวและหมวกคลุมไหล่ของสูทผ้าวูลสีน้ำเงินเข้มมีสีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความเหนื่อยหน่ายที่เขารู้สึกอย่างมาก“เธอดูไม่เหมือนกับปวดท้องเลยนะ” เขากล่าวอย่างหมดความอดทนด้วยน้ำเสียงต่ำ“ฉันรู้สึกไม่ดีจริง ๆ ตอนที่ฉันโทรหาพี่ แต่ฉันก็ขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุสักพักแล้ว” เอมิลี่อธิบายอย่างเร่งรีบ“ในเมื่อเธอสบายดี ฉันจะกลับไปที่ทำงานแล้ว ฉันต้องจัดการหลายอย่างในที่ทำงาน” ทอม ซัลลิแวนกล่าวอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะหันหลังและเตรียมพร้อมที่จะออกไปพลางกอดอกระหว่างช่วงเวลานี้ ตระกูลซัลลิแวนได้ประสบปัญหามากมายเนื่องด้วยสื่อด้านลบได้เผยแพร่เรื่องของพวกเขา ดังนั้น ทอมจึงเผชิญกับงานที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้น เขาไม่อยากที่เสียเวลาและคว
วิดีโอกำลังแสดงภาพวงจรปิดของแกลเลอรี่เซลของอิมพีเรียล ไพรม์ในฉากโกลาหลที่ตามมา ผู้คนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งห้อมล้อมไซล่า เควสไว้ในขณะที่ร้องขอเงินคืนเรื่องยูนิตของพวกเขาทั้งสามคนดูวิดีโออย่างเงียบ ๆ ในขณะที่สงสัยว่าทำไมเจเรมี่ เควสอยากที่จะให้พวกเขาดูภาพนี้หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ก็เห็นไซล่าเข้าไปหาผู้หญิงผมบลอนด์ในวิดีโอ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาคุยอะไรกันเพราะไม่มีเสียงบันทึกในภาพวงจรปิดหลังจากนั้นไม่นาน ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกพาตัวไปโดยกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลุ่มหนึ่งเมื่อเอมิลี่ เควสและเมย์ คอนเนอร์เห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้น รูม่านตาของพวกเธอก็เบิกกว้างในขณะที่หัวใจเริ่มเต้นตึกตัก มือของเอมิลี่ที่วางอยู่บนหน้าตักเริ่มสั่นเล็กน้อยเอมิลี่ควรจะทำอะไรดี? ไซล่าจำผู้หญิงที่เอมิลี่จ้างวานเพื่อไปก่อเหตุได้งั้นเหรอ? พวกเขากำลังคุยอะไรกัน? ผู้หญิงคนนั้นสารภาพทุกอย่างใช่ไหม?พ่อของพวกเธอโกรธเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม? มันจบสิ้นแล้ว! ชีวิตของเอมิลี่จบสิ้นแล้ว!เมย์ คอนเนอร์กำลังตื่นตระหนกด้วยเช่นกันขณะที่จังหวะเต้นหัวใจของเธอเริ่มสูงขึ้น สมองได้ว่างเปล่าไปแล้วตอนนี้ทันใดนั้น วิดีโอก็หยุดเล่
“เอมิลี่ เควส เธอทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง? เธอไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยเหรอ?” ทอม ซัลลิแวนถามพลางขมวดคิ้ว“มีบางอย่างแย่ยิ่งกว่านี้เสียอีก” ไซล่า เควสเหลือบมองเอมิลี่ก่อนที่จะเทน้ำผลไม้อีกแก้ว“มีเสียงบันทึกอีกอันข้างล่างนั่น เปิดขึ้นมาสิ” ไซล่ากล่าวขณะที่จิบอึกหนึ่งทันใดนั้น เอมิลี่รู้สึกตื่นตระหนก จะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? มีหลักฐานว่าเธอขอให้ใครบางคนแต่งเรื่องทั้งหมดขึ้นงั้นเหรอ? นั่นเป็นไปไม่ได้ ได้โปรดเถอะ ไม่นะ!ถ้าเรื่องนี้แดงออกมาพร้อมกัน เอมิลี่คงจบสิ้นแน่เอมิลี่มองไซล่าขึ้นและลงอย่างกังวล เธอไม่กล้ามองหน้าเจเรมี่ขณะที่ทำการเปิดบันทึกเสียงที่สองด้วยมือที่สั่นเทา“ผมไม่ต้องการสร้างเรื่องอะไรขึ้น เอมิลี่เอาแต่ขอให้ผมทำ เราเป็นเพื่อนกัน เพราะงั้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่ผมจะปฏิเสธเธอได้ เธอบอกว่าจะไม่ยอมให้อิมพีเรียล ไพรม์ขายดี เธอยอมไม่ได้ที่ไซล่าประสบความสำเร็จอย่างง่ายดาย เพราะงั้น เธอจึงต้องการสร้างข่าวลือเพื่อคนที่ซื้อยูนิตไปแล้วกลับมาขอเงินคืน ทั้งโครงการจะล้มเหลวในมือของไซล่า” คนที่กล่าวนี้คือ มัฟฟี่ เธอเป็นทั้งเพื่อนที่แสนดีของเอมิลี่และเป็นแฮ็คเกอร์มืออาชีพเช่นกัน‘ให้ตายส
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ