“วันนี้แม่ไปที่อิมพีเรียล ไพรม์มาน่ะ” ชารอนดูตื่นเต้นสแตนลีย์เลิกคิ้วขึ้น เขายืนขึ้นและเดินอย่างเอื่อยเฉื่อยไปที่หน้าต่างบานใหญ่อย่างไร้ความรู้สึก “อ๋อ”หลังจากนั้นเขาหยิกสันจมูก จากนั้นจึงวางมือข้างหนึ่งบนมูลี่ขณะมองไปยังเมืองอันพลุกพล่านเบื้องล่างเขา ชายคนนั้นเป็นเหมือนกับเชื้อพระวงศ์ผู้ชาญฉลาดแต่ไร้ความรู้สึก“ลูกไม่มีอะไรจะพูดกับแม่หน่อยเหรอ?”“แล้วผมต้องพูดอะไร?” เขาถามเบา ๆ “ก็อย่าง ลูกคงไม่รู้ว่าภรรยาของลูกน่าทึ่งมากแค่ไหน” ชารอนตื่นเต้นยิ่งขึ้นขณะที่พูด เธอเริ่มเล่าทุกอย่างที่เธอเห็นที่ศูนย์การขายให้กับสแตนลีย์อย่างกระตือรือร้นชารอนคุยอย่างไม่รู้จบพร้อมกับคำอธิบายที่แสนสดใส ความรักในเสียงของเธอดูชัดเจนสแตนลีย์กำลังฟังด้วยความพอใจอย่างมากพร้อมกับรอยยิ้มที่เห็นชอบที่ริมฝีปากที่งดงามของเขา“พูดก็พูดเถอะ ลูกโชคดีมากขนาดนี้ได้ไง? ถ้าแม่เป็นผู้ชายนะ แม่คงจะอิจฉาลูกแน่เลย” ชารอนพูดเสริม“โอ้” เขาตอบกลับอย่างสงบโดยไม่พูดอะไรต่อตามปกติ“แล้วลูกล่ะ เจ้าเด็กดื้อ! เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้กับภรรยาตัวเอง ทำไมถึงยังไม่หาคนซื้อสินทรัพย์ของเธออีก?” ณ จุดนี้ ชารอนดูหงุดหงิดเล็กน้อย
“คิดว่าตัวเองป็นใครกัน? ถ้าการคาดเดาของฉันถูกต้อง หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ คุณพ่อจะสูญเสียความมั่นใจในตัวเธอไปทั้งหมด ยินดีด้วยนะ!” เอมิลี่เยาะเย้ยต่อไป ยิ่งเธอพูดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นเรื่อย ๆ เอมิลี่สัมผัสได้ถึงชัยชนะในการเยาะเย้ยความล้มเหลวของพี่สาวตนหลังจากที่อดทนมาทั้งวัน ความอดทนของไซล่าก็มาถึงขีดสุด เธอกำหมัดแน่นถึงกระนั้น เธอฝืนความรู้สึกอีกครั้งเพราะไม่จำเป็นที่เธอจะต้องใช้กำลัง“ไปนั่งรอฉันอยู่ในห้องนั่งเล่นนะ” ไซล่ากล่าว“เพื่ออะไร?”“ฉันมีบางจะประกาศให้ทราบ” ไซล่ากล่าวอย่างสงบ เธอเหลือบมองหน้าของเอมิลี่อย่างเฉยเมยก่อนที่จะมุ่งหน้าขึ้นชั้นบน“ประกาศอะไร? ประกาศว่าเธอกำลังจะถอนตัวจากอิมพีเรียล ไพรม์ใช่เปล่า?” เอมิลี่เริ่มหน้าหนายิ่งขึ้นขณะที่พูดเช่นนั้น“ใช่” เมื่อกล่าวจบ ไซล่าก็ขึ้นไปชั้นบนเนื่องจากทุกยูนิตของอิมพีเรียลไพรม์ถูกขายจนหมด ก็ถึงเวลาที่เธอต้องถอนตัวแล้วใช่ไหม?ขณะที่เธอมองท่าทีดีใจของเอมิลี่ เธอก็ยิ่งรู้สึกอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะหลังจากได้ยินเช่นนั้น เอมิลี่จึงดีใจเหลือล้น ตามคาด ไซล่าล้มเหลว! บางทีเธออาจจะขอร้องให้คุณพ่อลงมาที่ชั้นล่างเพ
“ทุกอย่างก็ดูเรียบร้อยดีนิคะ ที่รัก คุณโกรธจนตะโกนเสียงดังใส่เอมิลี่ด้วยล่ะคะ?” เมย์ คอนเนอร์เดินลงจากบันไดก่อนที่จะหยุดที่บันไดขั้นสุดท้ายและวางมือข้างหนึ่งไว้บนราวและกวาดตาดูคนตรงนั้น หลังจากนั้น เมย์ก็เหลือบมองไซล่า เควสอย่างเยือกเย็นก่อนที่จะรีบเข้าไปหาเจเรมี่ เควสและเอนตัวพิงที่พักแขนโซฟา “คุณเป็นทุกข์เพราะคนมากมายกำลังเรียกร้องขอเงินคืนเรืองห้องของโครงการอิมพีเรียล ไพรม์ใช่ไหม และทั้งหมดก็เพราะไซล่าไร้ความรับผิดชอบของเธอใช่ไหมคะ?” เมย์ถามอย่างไรก็ตาม เจเรมี่ไม่พูดแม้แต่คำเดียว เขายังคงมีใบหน้าเคร่งขรึมและจ้องเขม็งไปข้างหน้าอย่างโกรธเคืองถ้าสายตาของคนคนหนึ่งสามารถฆ่าคนได้ เอมิลี่ก็รู้สึกว่าเธอคงจะตายตรงจุดนั้นแล้วเมื่อเมย์เห็นท่าทีของเจเรมี่ เธอก็มั่นใจได้ว่าการที่เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้เป็นเพราะสาเหตุเช่นเดียวกับที่เธอคิดแน่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจเรมี่จะโกรธ เขาจะระบายอารมณ์กับลูกสาวของเมย์ได้อย่างไร?เห็นได้ชัดว่า ไซล่าคือคนที่สร้างความปั่นป่วนครั้งนี้“ไซล่า...ถ้าเธอรู้ตัวว่าไม่มีความสามารถที่จะรับมือกับเรื่องทั้งหมดนี้ได้ ทำไมเธอจะต้องฝืนตัวเองแบกรับความรับผิดชอบ
ณ เวลานั้น เอมิลี่ เควสค่อนข้างรู้สึกผิดหวังที่ทอม ซัลลิแวนจะไม่เห็นความหายนะของไซล่า เควส ตอนนี้การที่ทอมมาที่นี่ มันจึงเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขาที่จะเห็นทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าเอมิลี่และแม่ของเธอ ในตอนนั้น เอมิลี่มั่นใจว่าทอมคงจะมีความรู้แย่ต่อไซล่าเอมิลี่เปิดประตูอย่างร่าเริงและพบว่าทอมกำลังยืนอยู่ด้านนอกเนื่องจากหิมะกำลังตกอยู่ด้านนอก มีหิมะเป็นชั้น ๆ อยู่บนหัวและหมวกคลุมไหล่ของสูทผ้าวูลสีน้ำเงินเข้มมีสีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความเหนื่อยหน่ายที่เขารู้สึกอย่างมาก“เธอดูไม่เหมือนกับปวดท้องเลยนะ” เขากล่าวอย่างหมดความอดทนด้วยน้ำเสียงต่ำ“ฉันรู้สึกไม่ดีจริง ๆ ตอนที่ฉันโทรหาพี่ แต่ฉันก็ขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุสักพักแล้ว” เอมิลี่อธิบายอย่างเร่งรีบ“ในเมื่อเธอสบายดี ฉันจะกลับไปที่ทำงานแล้ว ฉันต้องจัดการหลายอย่างในที่ทำงาน” ทอม ซัลลิแวนกล่าวอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะหันหลังและเตรียมพร้อมที่จะออกไปพลางกอดอกระหว่างช่วงเวลานี้ ตระกูลซัลลิแวนได้ประสบปัญหามากมายเนื่องด้วยสื่อด้านลบได้เผยแพร่เรื่องของพวกเขา ดังนั้น ทอมจึงเผชิญกับงานที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้น เขาไม่อยากที่เสียเวลาและคว
วิดีโอกำลังแสดงภาพวงจรปิดของแกลเลอรี่เซลของอิมพีเรียล ไพรม์ในฉากโกลาหลที่ตามมา ผู้คนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งห้อมล้อมไซล่า เควสไว้ในขณะที่ร้องขอเงินคืนเรื่องยูนิตของพวกเขาทั้งสามคนดูวิดีโออย่างเงียบ ๆ ในขณะที่สงสัยว่าทำไมเจเรมี่ เควสอยากที่จะให้พวกเขาดูภาพนี้หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ก็เห็นไซล่าเข้าไปหาผู้หญิงผมบลอนด์ในวิดีโอ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาคุยอะไรกันเพราะไม่มีเสียงบันทึกในภาพวงจรปิดหลังจากนั้นไม่นาน ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกพาตัวไปโดยกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลุ่มหนึ่งเมื่อเอมิลี่ เควสและเมย์ คอนเนอร์เห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้น รูม่านตาของพวกเธอก็เบิกกว้างในขณะที่หัวใจเริ่มเต้นตึกตัก มือของเอมิลี่ที่วางอยู่บนหน้าตักเริ่มสั่นเล็กน้อยเอมิลี่ควรจะทำอะไรดี? ไซล่าจำผู้หญิงที่เอมิลี่จ้างวานเพื่อไปก่อเหตุได้งั้นเหรอ? พวกเขากำลังคุยอะไรกัน? ผู้หญิงคนนั้นสารภาพทุกอย่างใช่ไหม?พ่อของพวกเธอโกรธเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม? มันจบสิ้นแล้ว! ชีวิตของเอมิลี่จบสิ้นแล้ว!เมย์ คอนเนอร์กำลังตื่นตระหนกด้วยเช่นกันขณะที่จังหวะเต้นหัวใจของเธอเริ่มสูงขึ้น สมองได้ว่างเปล่าไปแล้วตอนนี้ทันใดนั้น วิดีโอก็หยุดเล่
“เอมิลี่ เควส เธอทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง? เธอไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยเหรอ?” ทอม ซัลลิแวนถามพลางขมวดคิ้ว“มีบางอย่างแย่ยิ่งกว่านี้เสียอีก” ไซล่า เควสเหลือบมองเอมิลี่ก่อนที่จะเทน้ำผลไม้อีกแก้ว“มีเสียงบันทึกอีกอันข้างล่างนั่น เปิดขึ้นมาสิ” ไซล่ากล่าวขณะที่จิบอึกหนึ่งทันใดนั้น เอมิลี่รู้สึกตื่นตระหนก จะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? มีหลักฐานว่าเธอขอให้ใครบางคนแต่งเรื่องทั้งหมดขึ้นงั้นเหรอ? นั่นเป็นไปไม่ได้ ได้โปรดเถอะ ไม่นะ!ถ้าเรื่องนี้แดงออกมาพร้อมกัน เอมิลี่คงจบสิ้นแน่เอมิลี่มองไซล่าขึ้นและลงอย่างกังวล เธอไม่กล้ามองหน้าเจเรมี่ขณะที่ทำการเปิดบันทึกเสียงที่สองด้วยมือที่สั่นเทา“ผมไม่ต้องการสร้างเรื่องอะไรขึ้น เอมิลี่เอาแต่ขอให้ผมทำ เราเป็นเพื่อนกัน เพราะงั้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่ผมจะปฏิเสธเธอได้ เธอบอกว่าจะไม่ยอมให้อิมพีเรียล ไพรม์ขายดี เธอยอมไม่ได้ที่ไซล่าประสบความสำเร็จอย่างง่ายดาย เพราะงั้น เธอจึงต้องการสร้างข่าวลือเพื่อคนที่ซื้อยูนิตไปแล้วกลับมาขอเงินคืน ทั้งโครงการจะล้มเหลวในมือของไซล่า” คนที่กล่าวนี้คือ มัฟฟี่ เธอเป็นทั้งเพื่อนที่แสนดีของเอมิลี่และเป็นแฮ็คเกอร์มืออาชีพเช่นกัน‘ให้ตายส
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เอมิลี่ เควสสูดหายใจลึก ๆ และพยายามที่จะข่มความกลัวในขณะที่เธอมองไซล่า เควส“เธอจัดการให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ใช่ไหม? เธอทำให้ผู้หญิงคนนั้นกับผู้ชายคนนั้นพูดเรื่องพวกนั้นออกมาเพื่อที่จะโทษทุกอย่างมาที่ที่ฉัน ฉันไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดเรื่องอะไร! ไซล่า เควส ฉันทำอะไรลงไปถึงต้องโดนแบบนี้? เธอตัดสินใจที่จะเป็นคนเลือดเย็นเพียงเพื่อแย่งชิงทายาทของตระกูลใช่ไหม? คุณพ่อคะ คุณแม่คะ พี่ซัลลิแวนคะ พวกคุณต้องไม่เชื่อในสิ่งที่ไซล่าพูดนะคะ เธอจัดฉากเรื่องทั้งหมดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะโทษทุกอย่างมาที่ฉันค่ะ” เอมิลี่กล่าว ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เอมิลี่ต้องปฏิเสธทุกอย่างเพื่ออาจจะมีชีวิตรอด ถ้าเธอยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมด พ่อของเธอคงจะทุบตีเธอจนเละเป็นผุยผง!“ใช่ค่ะ ที่รัก คุณจะฟังความแค่ข้างเดียวไม่ได้นะคะ หลาย ๆ อย่างต้องได้รับการตรวจสอบอย่างค่อยเป็นค่อยไปนะคะ” เมย์ คอนเนอร์พูดเสริมก่อนที่จะเดินเข้าหาเจเรมี่อย่างกังวล เธอเอนตัวพิงที่พักแขนในขณะที่จับแขนของเขาแน่นตั้งแต่แรกเริ่ม ไซล่าไม่พูดแม้อะไรแต่คำเดียว กลับกัน เธอมองดูอย่างสงบที่คู่หูแม่ลูกที่กำลังปกป้องตัวเองอย่างไร้ยางอาย
“พี่ซัลลิแวน ได้โปรดช่วยคุณแม่กับฉันด้วยนะคะ ได้โปรดปกป้องเราด้วย พวกเราบริสุทธิ์จริง ๆ” น้ำตาของเอมิลี่ เควสไม่หยุดไหลลงสองแก้ม ร่างกายของเธอกำลังสั่นอย่างรุนแรงขณะที่เธอมองที่ทอม ซัลลิแวนด้วยสายตาที่สิ้นหวัง“เอมิลี่ เควส ฉันล่ะเศร้าใจกับเธอจริง ๆ ถึงตอนนี้เธอยังจะพยายามแก้ตัวอีกงั้นเหรอ?” ทอมกล่าวพลางกัดฟันขณะที่เขากำหมัดแน่นแม้ว่าเอมิลี่รู้อยู่แล้วว่าทอมจะทำแบบนี้ เธอก็ยังรู้สึกเจ็บหนักเพราะคำพูดของเขาอยู่ดีเอมิลี่รู้สึกราวกับว่าแม่ของเธอและตัวเธอเองเป็นเหมือนหนูบนท้องถนนที่ทุกคนเกลียดชัง“ฉันบอกพี่แล้วว่าเรื่องพวกนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น” เอมิลี่อธิบายอย่างไรก็ตาม ทอมก็ไม่สนใจที่จะฟังคำอธิบายของเธอพร้อมกับที่เขาหันหน้าหนีหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เอมิลี่หยุดตัวเองจากความรู้สึกเจ็บปวดขณะที่เธอรีบเดินเข้าหาเจเรมี่ เควสและคุกเข่าลงบนพื้น“คุณพ่อคะ หนูบริสุทธิ์จริง ๆ นะคะ คุณพ่อสืบเรื่องนี้อีกครั้งนะคะ” เธอจับมือของเจเรมี่แน่น เนื่องจากเจเรมี่โกรธมากอยู่แล้ว การกระทำของเอมิลี่จึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่กระตุ้นเขา“แกเป็นอาชญากรในตระกูลเควส ถ้าแกยังจะพยายามปฏิเสธสิ่งที่แกทำอีก ฉ