หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เอมิลี่ เควสสูดหายใจลึก ๆ และพยายามที่จะข่มความกลัวในขณะที่เธอมองไซล่า เควส“เธอจัดการให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ใช่ไหม? เธอทำให้ผู้หญิงคนนั้นกับผู้ชายคนนั้นพูดเรื่องพวกนั้นออกมาเพื่อที่จะโทษทุกอย่างมาที่ที่ฉัน ฉันไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดเรื่องอะไร! ไซล่า เควส ฉันทำอะไรลงไปถึงต้องโดนแบบนี้? เธอตัดสินใจที่จะเป็นคนเลือดเย็นเพียงเพื่อแย่งชิงทายาทของตระกูลใช่ไหม? คุณพ่อคะ คุณแม่คะ พี่ซัลลิแวนคะ พวกคุณต้องไม่เชื่อในสิ่งที่ไซล่าพูดนะคะ เธอจัดฉากเรื่องทั้งหมดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะโทษทุกอย่างมาที่ฉันค่ะ” เอมิลี่กล่าว ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เอมิลี่ต้องปฏิเสธทุกอย่างเพื่ออาจจะมีชีวิตรอด ถ้าเธอยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมด พ่อของเธอคงจะทุบตีเธอจนเละเป็นผุยผง!“ใช่ค่ะ ที่รัก คุณจะฟังความแค่ข้างเดียวไม่ได้นะคะ หลาย ๆ อย่างต้องได้รับการตรวจสอบอย่างค่อยเป็นค่อยไปนะคะ” เมย์ คอนเนอร์พูดเสริมก่อนที่จะเดินเข้าหาเจเรมี่อย่างกังวล เธอเอนตัวพิงที่พักแขนในขณะที่จับแขนของเขาแน่นตั้งแต่แรกเริ่ม ไซล่าไม่พูดแม้อะไรแต่คำเดียว กลับกัน เธอมองดูอย่างสงบที่คู่หูแม่ลูกที่กำลังปกป้องตัวเองอย่างไร้ยางอาย
“พี่ซัลลิแวน ได้โปรดช่วยคุณแม่กับฉันด้วยนะคะ ได้โปรดปกป้องเราด้วย พวกเราบริสุทธิ์จริง ๆ” น้ำตาของเอมิลี่ เควสไม่หยุดไหลลงสองแก้ม ร่างกายของเธอกำลังสั่นอย่างรุนแรงขณะที่เธอมองที่ทอม ซัลลิแวนด้วยสายตาที่สิ้นหวัง“เอมิลี่ เควส ฉันล่ะเศร้าใจกับเธอจริง ๆ ถึงตอนนี้เธอยังจะพยายามแก้ตัวอีกงั้นเหรอ?” ทอมกล่าวพลางกัดฟันขณะที่เขากำหมัดแน่นแม้ว่าเอมิลี่รู้อยู่แล้วว่าทอมจะทำแบบนี้ เธอก็ยังรู้สึกเจ็บหนักเพราะคำพูดของเขาอยู่ดีเอมิลี่รู้สึกราวกับว่าแม่ของเธอและตัวเธอเองเป็นเหมือนหนูบนท้องถนนที่ทุกคนเกลียดชัง“ฉันบอกพี่แล้วว่าเรื่องพวกนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น” เอมิลี่อธิบายอย่างไรก็ตาม ทอมก็ไม่สนใจที่จะฟังคำอธิบายของเธอพร้อมกับที่เขาหันหน้าหนีหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เอมิลี่หยุดตัวเองจากความรู้สึกเจ็บปวดขณะที่เธอรีบเดินเข้าหาเจเรมี่ เควสและคุกเข่าลงบนพื้น“คุณพ่อคะ หนูบริสุทธิ์จริง ๆ นะคะ คุณพ่อสืบเรื่องนี้อีกครั้งนะคะ” เธอจับมือของเจเรมี่แน่น เนื่องจากเจเรมี่โกรธมากอยู่แล้ว การกระทำของเอมิลี่จึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่กระตุ้นเขา“แกเป็นอาชญากรในตระกูลเควส ถ้าแกยังจะพยายามปฏิเสธสิ่งที่แกทำอีก ฉ
“นางแพศยาอย่างพวกแกตั้งใจที่จะไม่ยอมรับในสิ่งที่พวกแกทำลงไปอยู่แล้สใช่ไหม?...ฉันจะไม่เถียงเรื่องนี้ต่อแล้ว ฉันไม่ต้องการจัดการเรื่องนี้ภายในอยู่แล้ว ใครก็ได้ มานี่หน่อย! เอาตัวเอมิลี่กับแม่ของมันไปส่งตำรวจ!” เจเรมี่ เควสออกคำสั่งอย่างเยือกเย็นเมื่อเอมิลี่และเมย์ได้ยินเช่นนี้ หน้าของพวกเธอก็เริ่มซีด“ถ้าพวกแกไม่ยอมพูดความจริงที่นี่ ตำรวจที่โรงพักจะทำให้พวกแกพูดได้เอง!” เจเรมี่เสียงแตกในขณะที่เขาใกล้จะจบประโยค“หนูไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมคุณพ่อต้องส่งหนูให้กับตำรวจด้วย? หนูตั้งท้องอยู่ด้วยนะคะ” เอมิลี่ตะโกนในขณะที่เธอวางมือลงบนท้องพร้อมกับลูบขึ้น“ท้องก็แล้วไงล่ะ? ผู้หญิงท้องก็ยังถูกตำรวจสอบสวนได้! แกยังถือว่าโชคดีที่แกเป็นผู้หญิงท้อง ไม่งั้น ฉันจะจัดการแกโดยตรงเองแล้ว!” เจเรมี่ตะโกน“ที่รัก มาจัดการเรื่องนี้แบบภายในเถอะนะคะ เราไม่ควรสาวใส่ให้กากินนะคะ คุณตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?” เมย์ตะโกนหลังจากนั้น เมย์คุกเข่าต่อหน้าเจเรมี่พร้อมประกบฝ่ามือเข้าด้วยกันขณะที่เธอถูมันไปมา“เรานอนด้วยกันมาตั้งหลายปี อีกอย่าง เอมิลี่ก็เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของคุณ แถมเธอยังท้องด้วยนะคะ คุณมีเมตตากับเธอไม่ได้เหรอ
“คุณตำรวจครับ ได้ยินนั่นไหม? เธอยอมรับแล้ว เอาตัวเธอไปเดี๋ยวนี้! ไม่จำเป็นต้องสืบสวนแล้ว! แล้วก็ ได้โปรดสืบสวนภรรยาของผมด้วย เธอเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้!” เจเรมี่ยืนขึ้นและกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในตอนนั้น เอมิลี่รู้สึกสิ้นหวังแล้ว เธอรู้นี่คือจุดจบของเธอ“พี่ซัลลิแวน ทำไมพี่ไม่พูดอะไรเพื่อช่วยฉันบ้างล่ะ? ถ้าฉันถูกพาตัวไป งานแต่งงานของเราอาจจะถูกเลื่อนไปอย่างแน่นอน! ลูกของเราก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย!” เอมิลี่หันไปมองทอม ซัลลิแวนในทันทีเนื่องจากทอมกระตืนรือร้นที่จะให้เอมิลี่ถูกพาตัวไป และเขาไม่อยากแต่งงานกับเธออยู่แล้ว เขาจึงไม่สนใจว่าเธอจะถูกส่งเข้าคุกหรือไม่ อีกอย่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำให้ลูกของเธอปลอดภัยเมื่อเธอคลอดดังนั้น ทอมเบือนหน้าหนีโดยไม่พูดสักคำ แน่นอนว่า เอมิลี่ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บจากท่าทีของเขาเมย์ คอนเนอร์ทนเรื่องนี้ไม่ไหวอีกต่อไป เธอชี้นิ้วไปที่ทอม ซัลลิแวน “ทอม ทำไมแกถึงไร้ความเป็นมนุษย์ขนาดนี้? เธอกำลังอุ้มท้องลูกของแกนะ!” เมย์ตะคอกทอมอย่างโกรธเคือง“นั่นก็เพราะว่าเขาบอกความแตกต่างระหว่างผิดกับถูกได้ไงละ ไม่เหมือนแก!” เจเรมี่ตอบทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจใส่กุญแ
“เอาล่ะ พ่อจะขึ้นไปพักชั้นบนนะ ลูกก็ควรพักเร็ว ๆ ด้วย ทอม นี่ก็ดึกแล้ว นายควรกลับบ้านโดยเร็วนะ” เจเรมี่ เควสกล่าวก่อนจะลุกขึ้นและมุ่งขึ้นชั้นบนเมื่อไซล่า เควสเห็นเขาออกไป เธออดที่จะรู้สึกปวดใจแทนเขาไม่ได้ มันคงรู้สึกแย่มากแน่ ๆ ที่ถูกคนที่เขาไว้ใจที่สุดทรยศ มันคงเจ็บยิ่งกว่าที่ต้องส่งคนที่เขารักเข้าคุกหลังจากเจเรมี่ออกไป ไซล่าจึงเดินขึ้นไปชั้นบนด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าเธอไม่อยากคุยกับทอมซัลลิแวนเลยแม้แต่น้อยอนิจจา ไซล่าเห็นกลอุบายของทอมอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว เขาเป็นคนโง่โดยแท้จริงที่ไม่ควรค่าแก่การมองด้วยซ้ำอย่างไรก็ตาม ทันทีที่ไซล่ามาถึงที่ขั้นบันได ทอมก็รีบวิ่งตามเธอไป เขาก้าวนำหน้าขึ้นขั้นบันไดหนึ่งก้าวและยืนขวางทางเธอหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาโอบมือรอบไหล่ของเธอแน่น“ฉันห่วงเธอมากหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับอิมพีเรียล ไพรม์ ในตอนที่ฉันเห็นว่าเธอรับมือกับสถานการณ์ได้ดีแค่ไหน ฉันก็รู้สึกมีความสุขกับเธอมาก ๆ ทำไมเธอถึงไม่ตอบข้อความฉันเลยล่ะ? ฉันห่วงเธอนะ” ทอมกล่าวสัมผัสและคำพูดหวานหูของชายตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงไม่น้อยหลายสิ่งที่เธอชอบมากที่สุดในอดีตได้กลายเป็นสิ่งที่เธอเ
อย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่ตอบสนองกับความเหลวไหลของเขา กลับกัน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะใช้ไหล่ของเธอยกทอม ซัลลิแวนทุ่มลงบนพื้นหลังจากนั้น เธอจึงรีบหาทางขึ้นไปยังชั้นบนและหลบมุมไปโดยไม่ลังเลหลังจากที่ถูกโยนลงบนพื้น ทอม ซัลลิแวนแทบไม่มีแรงลุกขึ้น และไม่ติดใจที่จะตามไซล่าต่อหลังจากนั้นพักหนึ่ง ในที่สุด เขาก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาได้ด้วยความยากลำบากพร้อมกับหอบและจบราวบันไดไว้ไซล่ารู้เรื่องศิลปะป้องกันตัวด้วยงั้นเหรอ? ตอนนี้เธอก็ยิ่งน่าหลงไหลมากขึ้น“ไซล่า ฉันจะไม่ยอมแพ้เธอแน่” ทอมมีแววตาที่มุ่งมั่นหลังจากไซล่าขึ้นมายังชั้นบน เธอตรงไปที่ห้องนอนใหญ่ ขณะที่ประตูปิดไม่สนิท เธอจึงเห็นได้ว่าเจเรมี่กำลังสูบบุหรี่อยู่บนเตียงขณะที่เขาหันหลังให้กับประตูท่ามกลางกลุ่มควัน ไซล่าเห็นได้ว่าเขาดูเศร้ามากแค่ไหน เธอเห็นใจเขา แม้ว่าไซล่าอยากที่เข้าไปปลอบเขา แต่เธอกลับตัดสินใจปิดประตูอย่าง ๆ เงียบหลังจากที่คิดอะไรบางอย่าง เธอรู้ว่าพ่อของเธอต้องการอยู่อย่างเงียบ ๆ กับตัวเองในตอนนี้หลังจากที่ยืนอยู่หน้าประตูครู่หนึ่ง ไซล่าหันหลังและกลับไปที่ห้องของเธอ หลังจากนั้นเธอจึงเข้าไปในอ่างอาบน้ำร้อนเพื่
หลังจากสามวินาที แซ็ค แคสซิดี้ก็ตั้งสติตัวเอง อย่างไรก็ตาม เขาอยู่ในสภาพที่ไม่อยากเชื่อนายน้อยห้าไม่เคยเป็นแบบนี้ ในตอนนั้น จอคอมพิวเตอร์ของเขาเปลี่ยนเป็นสีเทาในขณะที่ประโยคหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ“คุณถูกฆ่า”สแตนลีย์ แบตตันทำเหมือนว่าเขาไม่เห็น กลับกันเขาหันสายตากลับมาที่แซ็คทันใดนั้น แซ็คจึงดูแสดงความเคารพเหมือนเช่นเคย“คนที่ปล่อยข่าวลือไปทั่วถูกจับแล้วครับ คน ๆ นั้นคือแฮ็คเกอร์ชื่อดังคนหนึ่ง ตอนนี้ เขายอมรับทุกอย่างแล้ว เขากล่าวว่าเอมิลี่ เควสคือคนที่สั่งให้เขาทำแบบนั้น ผมได้ยินมาว่าคุณผู้หญิงถอดรหัสไอพีแอดเดรสปลอมของผู้ชายคนนั้นและตามล่าเขาด้วยตัวเธอเอง ผมคาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ขนาดนี้ เธอช่างน่าทึ่งจริง ๆ นะครับ” แซ็คกล่าวสแตนลีย์ยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่พูดอะไร เขายำเกรงต่อความสามารถของไซล่าไม่น้อย“ตอนนี้ ตราบใดตระกูลเควสแถลงการณ์เพื่อแสดงหลักฐานว่าสิ่งนั้นได้รั่วไหลออกไปจริง ๆ เรื่องทั้งหมดจะคลี่คลายลงครับ” แซ็คกล่าวด้วยท่าทีจริงจังและระวังไม่ให้มีเรื่องไหนตกหล่น“พูดต่อไป” สแตนลีย์เยือกเย็นเช่นปกติ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าเขากำลังรู้สึกอะไ
ช่วงเวลาที่น่าอับอายมักจะมาในเวลาที่ไม่มีใครพร้อมรับมันในขณะเดียวกัน สแตนลีย์ แบตตันเลือกที่จะเมินข้อความของพวกเขาและเล่นเกมต่ออย่างเต็มศักยภาพ เขาคลิกเมาส์อย่างรวดเร็วเพื่อเปิดใช้งานสกิลหนึ่งตามด้วยสกิลอื่น ๆ แม้ว่ามันเป็นแค่เกม เขาได้ทำให้มันดูเหมือนกับว่าเขากำลังเล่นเปียโน เขาคือนักฆ่าที่สง่างามที่สุดในโลกทันใดนั้น ทีมของสแตนลีย์ได้รับชัยชนะ เขารีบถอนตัวออกจากคิวเข้าร่วมแมตช์และเปิดห้องแชทระหว่างเขากับไซล่า เควสในแอพวีแชทหลังจากจิ้มนิ้วเหนือหน้าจออยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หรี่ตาเล็กน้อย “ฉันจำหนังสือหมดแล้ว อะไรต่อล่ะ?”ขณะเดียวกัน ไซล่าก็กำลังรอคิวสำหรับเพื่อนร่วมทีมของเธอให้แมตช์กัน“ปี๊บ ปี๊บ…”ทันใดนั้น โทรศัพท์ของไซล่าเริ่มสั่น เธอจึงหันไปมองโทรศัพท์เธอประหลาดใจเมื่ออ่านสิ่งที่ไฟฟ์ แบตตันส่งให้เธอเขาสามารถจำทุกอย่างในหนังสือนั่นในช่วงเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้อย่างไร? เขามีสมองไว้ใช้จำเหมือนตอนเราถ่ายภาพรึไง? นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร?แม้ไซล่าเชื่อว่าเธอเองมีความจำที่ดี แต่มันก็ทำให้เธอใช้เวลาทั้งอาทิตย์เพื่อจดจำเรื่องพวกนั้น สแตนลีย์น่าทึ่งเกินไปไหม? ไซล่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นม
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ