Share

แม่ใจร้าย ไม่อยากให้ฉันได้สามีดี
แม่ใจร้าย ไม่อยากให้ฉันได้สามีดี
ผู้แต่ง: วันเดือนปี

ตอนที่ 1

ตอนที่คุณแม่บอกฉันว่าจางถิงมีชู้ ความคิดแรกของฉันคือท่านถูกหลอก

แทนที่จะเชื่อว่าจางถิงนอกใจ ฉันยอมเชื่อว่ามีผีอยู่บนโลกนี้จะดีกว่า

ไม่ใช่ว่าฉันหลงใหลในความรักเกินไป แต่เพราะในสมองของจางถิงมีแค่โปรแกรม

คุณแม่ของจางถิงมักทอดถอนใจอยู่บ่อย ๆ ว่าถ้าไม่มีฉัน ท่านถึงขั้นสงสัยว่าเขาจะแต่งงานกันคอมพิวเตอร์เสียแล้ว

"มัวยืนเหม่ออะไรอยู่? ยังไม่รีบเอาทะเบียนบ้านไปหย่ากับเขาอีก!"

จางชิงแม่ของฉันจับข้อมือฉัน พลางขมวดคิ้วเร่งรัด

เมื่อฉันรู้สึกตัวขึ้นมาอีกที ก็พยายามพูดอย่างสงบที่สุด "รอจางถิงเลิกงานกลับมาหนูจะคุยกับเขาอีกที..."

"แกยังจะคุยอะไรกับเขาอีก?"

จางชิงบิดหูฉัน ดึงจนฉันรู้สึกเจ็บ "ฉันบอกแกแต่แรกแล้ว ทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองอย่างจางถิงเชื่อถือไม่ได้หรอก นักศึกษาอนุปริญญาอย่างแก หน้าตาไม่ดีแถมยังเป็นคนซื่อ ๆ เขาจะชอบแกจริง ๆ ได้ยังไง?"

"ฉันเป็นแม่แก จะทำร้ายแกได้ยังไง?"

หูของฉันทั้งเจ็บทั้งแสบ ถูกดึงจนเกือบจะขาดอยู่แล้ว

ฉันพยายามจนดิ้นหลุดจากมือของท่าน ขยับออกมาห่าง ๆ แล้วถึงเอ่ยขึ้น "หนูไม่ได้บอกว่าแม่จะทำร้ายหนู แต่หนูต้องคุยต่อหน้าต่อตากับจางถิงก่อน ถ้าเกิดเขามีชู้จริง ๆ หนูก็ต้องรักษาสิทธิ์ของหนูเอาไว้"

"อีกอย่างวันนี้เป็นงานนิทรรศการศิลปะวันแรกของหนู หนูต้องทำงาน"

ถึงจะไม่เชื่อว่าจางถิงคบชู้ แต่ฉันก็ต้องทำให้แม่วางใจไปก่อน

ไม่อย่างนั้นถ้าแม่ก่อความวุ่นวายในนิทรรศการศิลปะ น้ำพักน้ำแรงของฉันก็จะเสียเปล่า

ฉันคิดว่าตนเองได้หาข้ออ้างที่ดีมากมาถ่วงเวลา แต่ใครจะคิดเล่าว่า เมื่อจางชิงได้ยินเช่นนี้ ก็ยังคงดึงมือฉันไม่ยอมปล่อย แถมยังทำท่าทางปวดอกปวดใจมาก

"หลี่มู่มู่ ฉันเลี้ยงดูแกมาอย่างยากลำบาก เพื่อให้แกมาหลอกเงินผู้ชายหรือไง?"

"แกยังมียางอายอยู่หรือเปล่า เขาไม่ได้รักแกเลย แกยังจะเกาะเขาไม่ยอมปล่อยอยู่ทำไม จะปล่อยให้คนอื่นเขาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีอยู่แบบนี้เหรอ"

เสียงของท่านดังมาก แขกหลายคนในแกลเลอรีต่างมองมาที่ฉันด้วยความตกใจ

ใบหน้าของฉันร้อนผ่าว เอื้อมมือออกไปคว้าท่าน "แม่คะ หนูมีแขกอยู่ตรงนี้ มีอะไรพวกเราเข้าไปคุยกันข้างใน..."

ท่านสะบัดมือฉันทิ้ง ชี้จมูกฉันแล้วพูดกับบรรดาแขกเหรื่อ "พวกคุณช่วยฉันตัดสินหน่อยสิ ฉันพูดผิดตรงไหน ทั้งที่รู้ว่าผู้ชายไม่รัก เธอยังจะไปขอเงินชดใช้จากฝ่ายชายอีก มันเป็นพฤติกรรมที่ไร้ยางอายขนาดไหน!"

แขกทุกคนขมวดคิ้ว และมองมาที่ฉันด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม

ท่านถอนหายใจยาว ๆ และมองมาที่ฉัน "มู่มู่ ถึงแกจะเป็นผู้หญิง แต่แกก็ควรยืนด้วยขาด้วยตัวเอง อาศัยผู้ชายเพื่อจัดนิทรรศการ ทำเงิน มันแตกต่างอะไรกับการออกไปขายตัว"

"ต่อให้แกไปเป็นเด็กล้างจานฉันก็ไม่รู้สึกอาย เพราะนั่นมันได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของแก! แต่แกทำแบบนี้ ต่อให้หาเงินมาได้มากมายขนาดไหนฉันก็รู้สึกละอายใจแทนแก!"

"ฟังแม่นะ ไปตัดขาดกับเขาตอนนี้เลย ฉันเป็นแม่แก ฉันจะทำร้ายแกงั้นเหรอ"

ท่านพูดจาอย่างมีทักษะมาก แต่ละคำแต่ละประโยค ราวกับว่านิทรรศการของฉันจัดขึ้นได้เพราะอาศัยผู้ชายจริง ๆ

แถมผู้ชายคนนี้ยังไม่ใช่สามีที่ได้รับการยอมรับทางกฎหมายของฉัน แต่เป็นผู้ชายข้างนอก

แขกที่อยู่รอบ ๆ ซึ่งไม่รู้ความจริงต่างพากันพยักหน้า คนที่อารมณ์ร้อนหน่อยอดไม่ได้ที่จะพูดช่วยอีกแรง

"คุณหลี่ ฉันคิดมาโดยตลอดว่าภาพของคุณเกิดตามแสงอาทิตย์ แต่ทำไมสิ่งที่คุณทำมันไม่สอดคล้องกับภาพวาดเลยล่ะ"

"คนหนุ่มสาวเดินทางผิดไม่น่ากลัว สิ่งสำคัญคือแก้ไขให้ทันเวลา"

"ฟังคุณแม่ของคุณเถอะ เธอคงไม่ทำร้ายคุณหรอก"

แขกที่มาชมงานนิทรรศการส่วนใหญ่ล้วนได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดี ไม่ได้ออกปากสาปแช่ง

แต่ทุกคำพูดของพวกเขา เป็นเหมือนมีดที่กรีดศักดิ์ศรีของฉัน แทบจะเหยียบย่ำฉันให้ตายอยู่ในโคลนตม

ฉันจ้องมองแม่ของฉัน และไม่พลาดแววตาของความได้ใจที่แว็บผ่านไปในตาของท่าน

ท่านเป็นแบบนี้มาโดยตลอด มักใช้คำพูดหลอกลวงเพื่อหาพันธมิตร ทำเหมือนว่าฉันเป็นลูกสาวหัวรั้นไม่รักดี

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status