Share

บทที่ 570

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
สตรีคลุมหน้าปฏิเสธว่าไม่ได้มาเพื่อแก้แค้น

“ไม่ ข้าไม่คิดเช่นนั้น

“คุณชายซู ในทางกลับกัน ข้าคิดว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายเช่นนี้

“พี่ชายแอบสืบเรื่องที่ประมุขพรรคชิงอวี่ถูกสังหารมาตลอด ภายหลังเขาสืบรู้ความจริงอย่างที่คิด เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพรรคเทียนหลง ทว่าจนใจที่ไม่มีหลักฐาน

“เขานำเรื่องที่คาดเดาบอกเจ้าสำนักกับพวกศิษย์พี่ ทว่าไม่มีใครเชื่อเขา เจ้าสำนักยังถึงขั้นข่มขู่ว่าจะขับไล่เขาออกจากสำนัก

“ทว่าข้าเชื่อเขา

“ก่อนที่เขาจะไปยังพรรคเทียนหลง ก็ตัดสินใจที่จะทุ่มสุดตัว กระชากหน้ากากเปิดตัวความจริงของพรรคเทียนหลงต่อหน้าทุกคน ทว่าเขาตายแล้ว ข้าสงสัยว่า เขาถูกพรรคเทียนหลงฆ่าตาย

“หลังจากที่เขาตายไปแล้วสองวัน สำนักหลิงซานถูกฆ่าล้างสำนัก เจ้าสำนักพวกศิษย์พี่ล้วนถูกฆ่าตายหมด จนไม่หลงเหลือสำนักอีกต่อไป ข้าไม่มีทางไป จึงคิดว่าจะมาตามหาเจ้ากับผู้นำพันธมิตรตงฟาง”

เซียวอวี้เป็นคนขี้ระแวง “ล้วนตายหมดแล้ว ทำไมเจ้ายังมีชีวิตอยู่”

“หลังจากพี่ชายตาย ข้าก็ลงเขา ข้าคิดอยากสืบสาเหตุการตายของเขา จึงบังเอิญรอดชีวิตมาได้ ระหว่างทางได้เจอคนของสำนักจื่อหยาง ข้าจึงสะกดรอยตามพวกเขา...”

นางหันไปมองเฟิ่งจิ่วเห
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 571

    เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้ว่าตนสลบไปนานแค่ไหนแล้ว ยามที่ลืมตาอีกครั้ง นางกับเซียวอวี้ยังคงอยู่ในเส้นทางนั้นทว่านางเห็นแสงสว่างอยู่ด้านหน้าราง ๆคาดว่าคงจะใกล้ทางออกมากขึ้นเรื่อย ๆในเวลาเดียวกันนี้เองภายในวิหารลัทธิเต๋าท้องฟ้าสว่างแล้วเฉินจี๋และกลุ่มองครักษ์ยังไม่ได้จากไปไฟไหม้ใหญ่เมื่อคืนวาน เกือบจะทำลายวิหารลัทธิเต๋าทั้งหมดไปเสียแล้วความโชคดีเพียงหนึ่งเดียวก็คือกลไกนั่นแข็งแกร่งมาก ไฟจึงไหม้ไปไม่ถึงใต้ดินเฉินจี๋มั่นใจว่าฝ่าบาทจะต้องปลอดภัยเป็นแน่เพียงแต่กำแพงอิฐที่ใช้ควบคุมกลไกถูกไฟเผาจนพังทลายไปแล้ว ยามนี้จะช่วยฝ่าบาทออกมา ก็ทำได้แต่ขุดพื้นเท่านั้นเขาสั่งการให้องครักษ์เหล่านั้นลงมือทันทีส่วนทางด้านวังหลวง เขาทำได้เพียงปิดเรื่องนี้ไว้ก่อนเท่านั้นไม่เช่นนั้นย่อมเกิดความโกลาหล......เซียวอวี้พาเฟิ่งจิ่วเหยียนออกจากเส้นทางที่ทั้งแคบและยาวนั้นจนมาถึงมุมหนึ่งของหุบเขาสองฝั่งเป็นเขาสูงชะลูดที่เต็มไปด้วยอันตรายและลำธารใสกระจ่างที่ส่งกลิ่นหอมหวานเขานำเฟิ่งจิ่วเหยียนไปวางไว้ข้างต้นไม้ จากนั้นก็ตรวจดูบาดแผลที่ขาเฟิ่งจิ่วเหยียนห้ามเขาทันที“ข้าใส่ยาเองแล้ว”ยามนี้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 572

    “ท่านเป็นฮ่องเต้ ท่านจะมาชอบบุรุษได้อย่างไรกัน!”เฟิ่งจิ่วเหยียนโมโหจัดเดิมนางคิดว่าที่เขามาช่วยนางเพราะคุณธรรมและมิตรภาพปรากฏว่าเป็นเพราะเขาชอบบุรุษ!นี่ทำให้นางรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก“เซียวอวี้ ท่านเคยคิดถึงราษฎร คิดถึงราชสำนักและแคว้นหรือไม่ หากท่านพบกับเรื่องอันตรายเข้าล่ะ ท่านเคยคิดบ้างไหม...ข้า ที่ข้าอยู่ในเมืองหลวงก็เพื่อปกป้องฮ่องเต้ให้ปลอดภัย ท่านกลับ ท่านกลับคิดแต่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ พวกนี้ ท่าน...นี่ท่านรู้สึกละอายใจต่อความหวังดีของข้าและตงฟางซื่อบ้างหรือไม่!“ท่าน ท่านอยู่ให้ห่างจากข้าหน่อย! ข้าบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าข้าไม่ชอบบุรุษ!”จู่ ๆ อารมณ์นางก็พลุ่งพล่าน นางเริ่มรู้สึกเวียนหัวตาลายอีกแล้วเซียวอวี้เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกไม่สบายจึงรีบตอบว่า“เอาล่ะ เอาล่ะ เราผิดเอง เช่นนั้นพวกเราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เลย วิหารลัทธิเต๋าลับนั่นเชื่อมมาที่หุบเขานี้ เราไม่อาจอยู่ที่นี่นานได้ พวกเรารีบออกไปกันเถอะ”เขากวาดตามองสภาพแวดล้อมรอบด้าน จากนั้นก็อุ้มนางขึ้นในแนวขวางเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกต่อต้านเป็นอย่างมาก เพราะทั้งโมโหและได้รับบาดเจ็บ นางจึงพูดอย่างยากลำบาก “เจ้า...เจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 573

    ณ ห้องส่วนตัวในโรงพักแรมเจินเจินคารวะเซียวอวี้อย่างเต็มพิธีการ“หม่อมฉันคารวะฝ่าบาทเพคะ!”เซียวอวี้หันไปอธิบายให้เฟิ่งจิ่วเหยียนฟัง“นี่คือบุตรสาวของเจินหรูไห่ นามเจินเจิน เราสั่งให้นางจัดตั้งกองทัพหญิง”เจินเจินคำนับเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างคนระดับเดียวกันเฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าตอบเจินเจินพูดกับนางอย่างตรงไปตรงมาว่า“วันที่ฝ่าบาทเสด็จไปตรวจสอบกองทัพทรงเห็นข้าว่าใช้ทวนยาวได้ดี จึงทรงให้ข้าเข้าร่วมกองทัพตามอุดมการณ์ของข้า ทั้งยังทรงช่วยถอนหมั้นให้ข้า“ฝ่าบาททรงมีบุญคุณต่อข้า ข้าไม่มีทางทำผิดต่อความคาดหวังนี้เด็ดขาด“สตรีในเมืองหลวงส่วนใหญ่ถูกเลี้ยงดูอย่างเอาแต่ใจมาแต่เด็ก ไม่มีเด็กสาวสมัครเป็นทหารหญิงซักเท่าใด ข้าจึงลองมาที่เมืองอันดู“นึกไม่ถึงว่าจะบังเอิญถึงเพียงนี้...”ยามที่นางกำลังพูดอยู่ เซียวอวี้สังเกตสีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยสีหน้าคลุมเครือทว่าเพราะมีหน้ากากบังอยู่ เขาจึงได้แต่ตัดสินจากแววตาและวงโค้งของมุมปากว่านางอารมณ์ดีหรือไม่ดีทว่านางเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมา ทำให้เขาเดาไม่ถูกเขายอมรับ ตอนแรกนั้นเขารู้สึกว่าเจินเจินมีส่วนที่เหมือนนางจริง ๆ ใช้ทวนยาวเหมื

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 574

    เพื่อที่จะสลัดเซียวอวี้ออกให้ได้ เฟิ่งจิ่วเหยียนทำได้เพียงทำทุกอย่างให้บรรลุผลเป้าหมายโดยไม่เลือกวิธีการ“ใช่ ข้า...ตกหลุมรักแม่นางเจินเจินตั้งแต่แรกเห็น”เซียวอวี้หัวเราะเย็นทันใดนั้นก็ดูเหมือนเขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ยกมือพาดคล้องคอนางด้านหลัง“เช่นนั้น เราพระราชทานสมรสให้พวกเจ้า ดีหรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยายามดันมือของเขาออก เขากลับยิ่งรัดให้แน่นขึ้น ทั้งยังเอียงลำตัวช่วงบนมาชิดนาง“ถึงอย่างไรเราก็ไม่อาจแต่งตั้งบุรุษเป็นสนมได้ เจ้าแต่งเข้าตระกูลเจิน ทีนี้ก็ต้องอยู่ที่เมืองหลวงตลอดไปแล้ว“ช่วงเช้าเจ้าก็เป็นสามีภรรยากับเจินเจินผู้นั้น ตกกลางคืนก็มาเป็นสามีภรรยากับเรา...”“เหลวไหลสิ้นดี!” เฟิ่งจิ่วเหยียนคิดอยากใช้แรงผลักเขาออกไปทว่าพลันถูกเขาจับมือข้างนั้นที่ใช้ผลักคนไปคำพูดเมื่อครู่ของนางออกจะดังไปซักหน่อย เจินเจินที่อยู่ด้านนอกได้ยินจึงลดความเร็วลงแล้วถามด้วยความกังวล“ฝ่าบาท คุณชายซู พวกท่านเป็นอะไรหรือไม่?”“ไม่มีอะไร” น้ำเสียงที่น่าเกรงขามของเซียวอวี้ ทำให้นางหมดความสงสัยมือหนึ่งเขาคล้องหลังคอของเฟิ่งจิ่วเหยียน อีกข้างจับข้อมือของนาง ส่วนนางใช้มืออีกข้างดันลงบนอกของ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 575

    เฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองเซียวอวี้อย่างสงบแล้วเอ่ยถาม“เหตุใดท่านต้องหลอกข้าว่าท่านชอบบุรุษด้วย”ดวงตาสีดำสนิทของเซียวอวี้ลึกล้ำและเด็ดเดี่ยว“เป็นเจ้าที่เข้าใจเราผิดก่อนว่าเราชอบบุรุษ เราก็แค่เอาคืนเจ้า”เมื่อฟังคำตอบเฟิ่งจิ่วเหยียนก็อยากจะกัดเขาให้ตายเอาคืน?ทำไมเขาถึงใจแคบขนาดนี้!ไม่รู้หรือว่านางอกสั่นขวัญหายมาตลอดทาง เอาแต่วิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา!ทว่าโชคดีนักที่เขาไม่ได้ชอบบุรุษจริง ๆเซียวอวี้กลับถามอีกครั้งว่า“ว่าแต่เจ้าชอบสตรีจริง ๆ รึ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าทันที “ใช่”เซียวอวี้มองสังเกตนางทั้งร่าง“หร่วนฝูอวี้ตามติดเจ้ามาหลายปีขนาดนี้ ก็ไม่เห็นเจ้าจะสู่ขอนาง หรือเจ้าจะไม่ไหว?”เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบเขาอย่างใจเย็น“ยุทธภพยังไม่สงบ จะสร้างครอบครัวได้อย่างไร”เซียวอวี้ตอบอย่างเคร่งขรึมว่า“นี่มันสลับกันแล้ว จะสร้างตัวสร้างฐานะต้องมีครอบครัวก่อนจึงจะถูก”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างสงบว่า“สำหรับข้าแล้วการมีครอบครัวเป็นเรื่องยุ่งยาก”ตอนนี้นางตัวคนเดียวก็ดีอยู่เซียวอวี้แก้คำพูดนางอย่างผู้มีประสบการณ์“เจ้าไม่เคยแต่งงานย่อมไม่เคยรับรู้ถึงรสชาติของการแต่งงาน หยินหยางผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย    บทที่ 576

    เรื่องที่ฮ่องเต้เสี่ยงชีวิตช่วยคน ตงฟางซื่อไม่ได้คิดไปในแง่ที่ลึกกว่านั้น เขาเพียงถอนหายใจออกมาแล้วกล่าวว่า“ฝ่าบาทช่างเห็นค่าบุญคุณยิ่งนัก ข้าไม่นึกเสียใจเลย ที่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยตอนสงครามเมืองเซวียน”ต่อมาก็เอ่ยเตือนเฟิ่งจิ่วเหยียน“วิหารลัทธิเต๋าไฟไหม้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เมื่อคืนมีคนจ้องจะเล่นงานเราถึงตาย”เฟิ่งจิ่วเหยียนคิดเช่นนั้นเหมือนกัน จึงเล่าให้ตงฟางซื่อฟังว่า นางพลัดตกกับดักกลไกและเซียวอวี้ช่วยนางอย่างไร สุดท้าย นางก็คาดการณ์ว่า“นักฆ่าที่โผล่มาในตอนหลัง ต้องเป็นคนจากสำนักอื่นแน่ ๆ”“ถ้าพวกเขาไม่ได้ร่วมมือกับสำนักจื่อหยาง ก็ต้องแอบวางแผนอะไรลับ ๆ อยู่เป็นแน่ ถ้าเป็นอย่างแรก ก็คงเป็นสำนักทั่วไป หากเป็นอย่างหลัง…”ต่อมา ตงฟางซื่อก็พูดเป็นเสียงเดียวกันกับนางอย่างรู้ใจ “ก็แสดงว่าเป็นพรรคเทียนหลง”หลังจากเอ่ยถ้อยคำนี้ ตงฟางซื่อก็ทำการตัดสิน“กลไกที่ห้องโถงหลักในวิหารลัทธิเต๋า ต้องไม่ได้อยู่ในแผนการของสำนักจื่อหยางแน่ ๆ”“มิเช่นนั้น พวกเขาคงสามารถล่อพวกเราไปที่ห้องโถงหลักตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว“ด้วยเหตุนี้ข้าจึงเอนเอียงไปทาง ความเป็นไปได้ที่ว่าพรรคเทียนหลงกำลังว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 577

    แม้นในใจเซียวอวี้จะหงุดหงิดเพียงใด แต่เบื้องหน้ายังต้องแสร้งทำเป็นไม่มีอะไร“พวกเจ้ากำลังดูอะไรกันอยู่หรือ?”ตงฟางซื่อเงยหน้าขึ้นมา แล้วอธิบายว่า“แผนที่น่ะ ซูฮ่วนอยากรู้ว่าเส้นทางไหนสามารถขุดจากเมืองหลวงไปถึงเมืองอานได้…”เซียวอวี้: แค่ดูแผนที่ จำเป็นต้องใกล้กันขนาดนั้นเลยหรือ?เขาเดินเข้าไป และนั่งลงที่ขอบเตียงเช่นกัน“เราขอดูด้วย”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้คิดอะไรมาก จึงชี้แผนที่ที่ทำสัญลักษณ์ไว้แล้วให้เขาดู“เมื่อครู่พวกข้ากำลังถกประเด็นกัน จากวิหารลัทธิเต๋าถึงเมืองอาน คร่าว ๆ ต้องเริ่มจากทิศตะวันออก ผ่านเมืองร้าง ไปถึงหุบเขาหลิวหลี ยึดตามข้อมูลที่สอบถามมาได้ วิหารลัทธิเต๋าถูกปล่อยร้างเมื่อหลายปีก่อน บางทีอาจจะมีคนเริ่มขุดตั้งแต่ตอนนั้นก็ได้…”เซียวอวี้ฟังนางพูดไปพลาง มองดูแผนที่จากนั้น นิ้วมือเรียวยาวของเขาก็ชี้ไปยังมุมทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวง“ระยะช่วงแรกไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ระยะช่วงหลังมานี่ น่าจะขุดตรงไปทางทิศตะวันออกไม่ได้ ต้องหักเอียงไปทางทิศใต้แทน แล้วค่อยวกขึ้นเหนือ”เมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนมองสถานที่ที่นิ้วมือของเขาชี้ หัวคิ้วก็ขมวดเล็กน้อย“นั่นหมายความว่าต้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 578

    ภายใต้ท้องฟ้าทะเลดาว เฟิ่งจิ่วเหยียนเริ่มง่วงขึ้นมาเซียวอวี้อุ้มนาง แล้วยิ้มบางเบาดุจสายลมเย็น ไร้มาดเคร่งขรึมเหมือนในยามปกติ“กลับไปนอน”ภายในเรือนเฉินจี๋เห็นฝ่าบาทอุ้มซูฮ่วนกลับมา หัวใจพลันกระตุกวูบเซียวอวี้กลับเห็นว่า ในเรือนยังมีใครอีกคนยืนอยู่ด้วยนั่นคือรุ่ยอ๋องเมื่อรุ่ยอ๋องเห็นภาพนี้ ดวงตาพลันก่อเกิดอารมณ์แปลกประหลาด“เจ้ามาทำไม”  เซียวอวี้เอ่ยปาก ซักถามทันทีรุ่ยอ๋องก้มหน้าลงอย่างนอบน้อม“กระหม่อม เป็นห่วงความปลอดภัยของฝ่าบาท”เซียวอวี้ก้มมองคนในอ้อมกอด จากนั้นก็พานางเข้าไปส่งในห้องหลักก่อนรุ่ยอ๋องเงยหน้ามองแผ่นหลังของทั้งสองคน ด้วยสายตามืดสลัวเหตุใดฝ่าบาทถึงใกล้ชิดกับซูฮ่วนถึงเพียงนี้ล่ะ?ไม่นานหลังจากนั้น เซียวอวี้ก็ออกมาเขาอยู่ในชุดคลุมผ้าไหม ไม่เข้ากับสถานที่ธรรมดาแห่งนี้อย่างยิ่ง“ออกไปคุยข้างนอก” เขาพูดกับรุ่ยอ๋องรุ่ยอ๋องตามเขาออกไป……“ใครบอกให้เจ้าตามสืบการเดินทางของรา” แววตาของเซียวอวี้เยือกเย็นเล็กน้อยแม้นรุ่ยอ๋องจะเป็นเสมือนมือซ้ายมือขวาและพี่น้องที่คอยช่วยเหลือกัน ก็ไม่สมควรตามสืบเรื่องของเขาตามอำเภอใจรุ่ยอ๋องประสานมือคารวะ“หรงเฟยพ่ะ

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 842

    คนเหล่านี้คงเป็นองครักษ์ที่ประมุขแคว้นซีหนี่ว์จัดให้มาปกป้องตนเองกระมังมิน่าเล่า อีกฝ่ายถึงกล้ามิพาคนมาคอยอารักขาตนเอง ยามที่พบหน้ากันครั้งแรกผู้ที่ขึ้นเป็นจักรพรรดิของแว่นแคว้นได้ หาได้มีผู้ใดเป็นคนโง่เง่าไม่ประมุขแคว้นซีหนี่ว์พลางลุกขึ้นยืน ก่อนจะเข้าไปเล่นกับดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง“อาการป่วยของเรานั้น ยามที่ยังวัยสาวอยู่ได้ทิ้งอาการป่วยเหล่านี้เอาไว้ หลายปีที่ผ่านมา อาการกับค่อย ๆ แย่ลงเรื่อย ๆ“โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ อาการป่วยกลับทรุดหนักเสียจนมิอาจลุกขึ้นมาสะสางราชกิจบ้านเมืองได้ อัครมหาเสนาบดีจึงใช้โอกาสนี้ในการรวบรวมพรรคพวกของตนเองขึ้นมา เมื่อเรารู้สึกตัวอีกที นางก็มีอำนาจมากมายเสียแล้ว”ท่านประมุขพลันหันหน้ากลับมามองเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยท่าทีสงบนิ่งแม้ว่าภูเขาไท่ซานจะถล่มลงมาตรงหน้าก็ตาม พลางยกยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า“ผู้ที่ทรยศเรา สมควรตาย”เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางเอ่ยถามด้วยท่าทีใจเย็นว่า: “รวมไปถึงน้องสาวแท้ ๆ ของท่านด้วยหรือไม่?”นิ้วมือของประมุขแคว้นซีหนี่ว์พลันสั่นเทาเล็กน้อยนางมิได้ตอบคำถามของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทว่า กลับเอ่ยเปลี่ยนเรื่องอื่นแทน“แค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 841

    เนื่องจากความประมาทเลินเล่อที่ภูเขาหิมะเทียนฉือ หยิ่นลิ่วจึงตั้งใจชดใช้ความผิดของตน ทั้งยังเพื่อลบล้างความอับอายในหน้าที่ของตนเองอีกด้วย ทำให้ในยามนี้เขาตั้งใจทำตามคำสั่งของฮองเฮายิ่งนักเพื่อจับตาดูความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติไปภายในจวนอัครมหาเสนาบดีนั้น ทุก ๆ วันได้นอนหลับเพียงแค่หนึ่งชั่วยามเท่านั้นในที่สุด หยิ่นลิ่วก็พบกับเหตุการณ์ที่ผิดปกติไปในทันที“นายท่านขอรับ เมื่อคืนวานนี้ น้องสาวฝาแฝดของประมุขแคว้นซีหนี่ว์ได้ลอบเข้ามาทางประตูด้านหลังของจวนอัครมหาเสนาบดี ทั้งยังพูดคุยกันลับ ๆ อยู่นานสองนาน ข้าน้อยมิอาจเข้าไปใกล้ ๆ ได้ ทว่า พอจะฟังออกคร่าว ๆ ว่า พวกนางกำลังพยายามคิดที่จะกำจัดประมุขแคว้นซีหนี่ว์....”กองทัพอินทรีเหินสองสามคนที่อยู่ในห้องนั้นต่างพากันลอบสบตากันนี่มันลอบพระชนม์!เกรงว่าแคว้นซีหนี่ว์เองก็กำลังจะเกิดความวุ่นวาย!หัวหน้ากองทัพอินทรีเหินพลันลุกขึ้นยืน ก่อนจะโค้งกายคำนับต่อเฟิ่งจิ่วเหยียน“กระหม่อมคิดว่า การเมืองภายในแคว้นซีหนี่ว์กำลังจักเกิดความระส่ำระส่าย แม้แต่ตัวประมุขแคว้นซีหนี่ว์เองก็ยากที่จะรักษาชีวิตของตนเองไว้ได้ พวกเขาย่อมมิอาจตอบรับอันใดพวกเราได้เช่นก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 840

    หลังออกจากพระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ เฟิ่งจิ่วเหยียนยังมิกลับไปที่โรงพักแรมในทันทีคนเก่งกาจเพียงใดก็มิอาจสู้คนท้องถิ่นได้เพื่อป้องกันมิให้อัครมหาเสนาบดีแคว้นซีหนี่ว์ประพฤติชั่วช้า จักต้องเพิ่มความระมัดระวัง และรอบคอบไว้ดีที่สุดดังนั้น นางจึงเดินจากหอคณิกาไปที่หอหนานเฟิง แล้วค่อยวกกลับมาที่หอคณิกาอีกครั้ง ประการแรกเพื่อหาโอกาสปลอมตัวอีกครั้งเพื่อออกไปได้ง่าย ประการที่สองก็เพื่อสืบหาข่าวอย่างไรเสีย สถานที่เริงรมย์เช่นนี้ ข่าวสารจะรับรู้ได้ไวที่สุดภายในหอคณิกาเฟิ่งจิ่วเหยียนเรียกนางคณิกาที่ขายศิลปะมิขายเรือนร่างผู้หนึ่งมา เพราะรู้ว่าหญิงสาวผู้นี้มิต้องการปรนเปรอลูกค้า จึงจ่ายเงินจ้างนางแบบเหมาครึ่งเดือน เมื่ออยู่ในห้องนางก็แค่เล่นดนตรีและขับร้อง เพื่อเป็นการบังหน้าให้กับนางดังนั้นจึงได้รับประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่ายเพียงแต่รู้สึกเสียดายเงินก้อนนั้นนางคณิกาผู้นี้ตกคืนละสามตำลึงเงิน แพงกว่าค่าโรงพักแรมที่นางพักอยู่ตั้งมากโขนางใช้เงินก้อนนี้ ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกปวดใจยังดีที่นางคณิกาผู้นี้เชื่อฟัง และมีเรื่องพูดคุย“...คุณชาย ท่านอาจจะยังมิรู้ว่า ประมุขแคว้นของเราเคยได้รับบา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 839

    เฟิ่งจิ่วเหยียนท่าทางดูเหมือนจะหมดหนทาง“เรียนใต้เท้า ทักษะการแพทย์ของข้าน้อยด้อยฝีมือ”ซู่ยวนได้ยินเช่นนั้น น้ำตาพลันร่วงไหลลงมาทันที แสดงออกถึงความรักและความห่วงใยที่แท้จริงนัก“เจ้าก็ไม่มีหนทางเลยหรือ...”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนมืดมน “ข้าน้อยขอลาก่อน”เดิมคิดว่าเมื่อพบกับซู่ยวน จะไม่พบปัญหาอื่นใดอีกผลสุดท้าย ขณะที่ใกล้จะถึงประตูวัง ก็พบกับสตรีผู้หนึ่งในชุดเครื่องแบบขุนนางข้าหลวงเตือนว่า“ผู้นั้นคือใต้เท้าจ้าวอัครมหาเสนาบดี เจ้าก็ควรแสดงความเคารพด้วยเช่นกัน”อัครมหาเสนาบดีจ้าวหรู่หลานหยุดฝีก้าว และมองดูเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างวิเคราะห์“เจ้าก็คือหมอที่หยิบประกาศเสนอตัวผู้นั้นใช่หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนก้มหัวลง “ขอรับ”จ้าวหรู่หลานยื่นมือออกมาทันที และเชยคางนางขึ้นในแคว้นซีหนี่ว์ สตรีทำเรื่องเช่นนี้กับบุรุษ ไม่ถือว่าเสียมารยาทจ้าวหรู่หลานอายุน้อยกว่าประมุขแคว้น และผอมกว่าเล็กน้อยดวงตาหางตาชี้ชันคู่หนึ่ง เต็มไปด้วยความพินิจพิเคราะห์คนที่ได้เป็นถึงอัครมหาเสนาบดี หาใช่จะเป็นผู้ที่หลอกลวงได้ง่าย ๆ ไม่นางถามด้วยเสียงดุดัน“เหตุใดมิทันไรก็รีบออกจากวังแล้ว?”เฟิ่งจิ่วเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 838

    เฟิ่งจิ่วเหยียนหยุดชะงักเล็กน้อย สายตาเคลื่อนลงมา มองดูคมกระบี่ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมถึงแม้จะถูกเปิดโปงสถานะ แต่นางยังคงมีท่าทีสงบนิ่งเมื่อเงยหน้าขึ้นก็มองเห็น ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ในชุดบรรทมสีเหลือง พระชันษาราวสี่สิบกว่า พระเกศาสยายคลุมบ่า พระพักตร์มีริ้วรอย ทว่า กาลเวลามิอาจเอาชนะหญิงงามได้ ทั้งตัวนางยังคงมีความสง่าผ่าเผย มั่นคงราวกับเสาค้ำทะเลตงไห่แคว้นซีหนี่ว์มีประมุขแคว้นเช่นนี้ มิน่าแปลกใจที่ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ประมุขแคว้นซีหนี่ว์มองสำรวจเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างเย็นชา“ให้ฮองเฮาเยี่ยงเจ้ามาที่แคว้นซีหนี่ว์ ฮ่องเต้ฉีทรงตัดพระทัยได้จริงหรือ เหตุใด มิกลัวว่าเราจะฆ่าเจ้า?”เฟิ่งจิ่วเหยียนก็มิเสแสร้งแกล้งทำอีก พร้อมกับยอมรับตามตรง“คารวะประมุขแคว้น”“ครั้งนี้มาเยือนแคว้นท่าน คือมาในฐานะราชทูต หาใช่มาในฐานะฮองเฮาแห่งหนานฉี และยิ่งมิใช่ในฐานะแม่ทัพน้อยเมิ่งอะไรนั่น“ที่ปลอมตัวมาพบท่าน เป็นเพราะสถานการณ์กำลังวุ่นวาย หากมีสิ่งใดรบกวนพระทัย หวังว่าท่านจะให้อภัย“ทว่า ตัวหม่อมฉัน และแม้แต่ทั้งหนานฉี ก็ไม่มีเจตนาจะล่วงเกินต่อท่าน”ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ยังคงถือกระบี่จ่ออยู่ที่นาง พร้อมกับ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 837

    ช่วงกลางเดือนแปด ดวงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้าเฟิ่งจิ่วเหยียนพร้อมคณะเดินทางมาถึงแคว้นซีหนี่ว์อย่างราบรื่นแคว้นซีหนี่ว์นั้นผู้นำล้วนเป็นสตรี และที่พบเห็นตามถนนหนทาง ปรากฏตัวในที่สาธารณะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสตรีทหารรักษาเมืองที่ลาดตระเวน ก็เป็นสตรีทั้งหมดเช่นกันแคว้นซีหนี่ว์ในอดีต บุรุษก็เคยเป็นผู้นำสูงสุดทว่าจากสงครามหายนะครั้งใหญ่ เหล่าบุรุษทั้งหมดตายในสนามรบ เหล่าสตรีทำได้เพียงต้องแบกรับภาระอันหนักหน่วงนานวันเข้า ถึงแม้ภายหลังบุรุษจะเพิ่มขึ้น ทว่า เหล่าสตรีได้สัมผัสกับรสชาติของการมีอำนาจ จึงไม่เต็มใจจะวางมืออีกแล้วเพื่อปฏิบัติตามแนวทางแห่งสตรีของราชวงศ์ ประมุขแคว้นแต่ละคน จึงส่งต่อบัลลังก์ให้บุตรสาวมิส่งให้บุตรชายคนที่เข้ามาเป็นขุนนาง ส่วนใหญ่ก็เป็นสตรีที่ครองตำแหน่งมากกว่าบุรุษก็เป็นขุนนางได้ ทว่ามีจำนวนน้อย อีกทั้งมิอาจครอบครองอำนาจที่แท้จริงได้เหล่าสตรีของแคว้นซีหนี่ว์เชื่อว่า มีเพียงผู้นำเป็นสตรี ถึงจะรับประกันได้ว่าอำนาจของสตรีจะไม่หลุดมือไปหากเปลี่ยนเป็นบุรุษ จักต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่ดังนั้น ต่อให้ประมุขแคว้นซีหนี่ว์มีโอรส บัลลังก์ก็จะไม่มีทางส่งต่อให้องค์ชาย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 836

    เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยอย่าง “เห็นอกเห็นใจ”“ข้ารู้ว่าสิ่งนี้ไม่ยุติธรรมกับเจ้า หากเจ้าไม่เต็มใจ...”นางพูดไปได้ครึ่งทาง ถานไถเหยี่ยนก็เทยาออกมา และกลืนมันลงไปเสี้ยววินาทีนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงกับตาค้างเพื่อทำลายหนานฉี ถานไถเหยี่ยนสามารถเสียสละถึงเพียงนี้เชียวหรือ......หลังอาหาร ขณะทั้งสองกำลังจะแยกย้ายกันเฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยอย่างจนใจ“ฝ่าบาทกังวลพระทัยว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับบุตรของข้า ทรงต้องการให้ข้าพักผ่อนดูแลครรภ์ สถาบันทางการทหารข้าก็มิได้ไปอีกแล้ว หากเจ้ามีปัญหาอันใด ให้ทูลรายงานกับฮ่องเต้ได้โดยตรง”ถานไถเหยี่ยนเอ่ยออกมาตามตรง“หนานฉีมีแม่ทัพที่เก่งกาจและมีชื่อเสียงอยู่มากมาย ข้ามิใช่ราษฎรของหนานฉี ถึงแม้จะมียุทธวิธีดี ๆ ทูลเสนอ ฝ่าบาทก็อาจมิทรงเชื่อ“สิ่งที่ข้าทำเพื่อหนานฉีได้ ก็คือค้นหาเส้นทางลับของ ‘ใยแมงมุม’ ทั้งหมดให้ครบ เพราะมันจะสร้างประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ในขณะทำสงครามได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นด้วยกับความคิดของเขา“ข้าจะพูดโน้มน้าวฝ่าบาท ให้เขายอมตกลงให้เจ้าร่วมสืบหา ‘ใยแมงมุม’”หลังจากนั้น ถานไถเหยี่ยนก็มองตามจนนางขึ้นรถม้าไม่นาน เขาก็จากไปเช่นกันรอจนเขากลับม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 835

    ภายในห้องไม่มีคนอื่น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงมิลังเล และบีบนวดหน้าท้องของเซียวอวี้เซียวอวี้ตัวเกร็งขึ้นมาในทันที สูดลมหายใจเข้า และกลั้นเอาไว้ผ่านไปไม่กี่อึดใจ เฟิ่งจิ่วเหยียนดูเหมือนจะค้นพบสิ่งที่ชื่นชอบ นางพลันยกคิ้วขึ้น เหลือบตามองไปที่เซียวอวี้“ท่านยุ่งถึงเพียงนี้ ยังมีเวลาฝึกฝนพละกำลัง?”เซียวอวี้กลั้นลมหายใจนั้นมิอยู่แล้ว จึงคว้ามือของนางที่วางอยู่บนหน้าท้องของเขาขึ้นมา วางลงที่ริมฝีปากและจูบไปสองครั้ง“แผนการแต่ละวันต้องเริ่มทำตอนรุ่งสาง อีกอย่าง ศัตรูต่างแคว้นก็จดจ้องตาเป็นมัน เรายิ่งต้องทำให้ร่างกายแข็งแรงกำยำ เพื่อเตรียมพร้อมกับการนำทัพออกศึก ดังนั้น ช่วงหลายวันมานี้จึงขยันฝึกฝนมากขึ้น“เป็นอย่างไร? ฮองเฮาพอใจหรือไม่?”เขาตั้งตารอคอยคำตอบของนางเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่แสดงความเห็นใดนางเข้าไปใกล้หูเขา น้ำเสียงแผ่วเบา ลมหายใจราวกับขนนก พัดผ่านใบหูของเขา ใจที่สงบนิ่งของเขากระตุ้นให้เกิดระลอกคลื่นนับพันเขาเพียงแค่ฟังนางเอ่ยอย่างช้า ๆ“คืนนี้ จะเปิดประตูรอท่านพี่...”เซียวอวี้ถูกปลุกเร้า ตอนนี้คิดจะ “ประหัตประหาร” นางในที่นี้ทันทีฝ่ามือใหญ่ของเขาทาบลงที่หลังเอวของนาง แล้วออ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 834

    เฟิ่งจิ่วเหยียนตัดสินใจแน่วแน่ที่จะไปเป็นราชทูตยังแคว้นซีหนี่ว์ ก่อนหน้าที่จะไป นางมิลืมที่จะเตรียมการทุกอย่างในหนานฉีทางนี้ให้เรียบร้อย“ฝ่าบาท ถานไถเหยี่ยนมีคำพูดหนึ่งที่เอ่ยไว้ไม่ผิด ก่อนหน้านี้หม่อมฉันไปสำรวจที่ช่องทางลับ และถูกซุ่มโจมตีด้วยดินปืน แน่นอนว่าจักต้องมีคนที่รู้เรื่องนี้ล่วงหน้า“แท้จริงแล้วเป็นผู้ใดกันที่แอบลงมือ จุดประสงค์นั้นคือเพื่อทำลาย ‘ใยแมงมุม’ และยังตัดขาดเบาะแสของมนุษย์โอสถด้วย หรือไม่ก็ อาจจะต้องการชีวิตของหม่อมฉัน ทั้งหมดจึงควรสืบให้กระจ่าง”เซียวอวี้เริ่มครุ่นคิดอย่างจริงจังเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ“คนที่รู้ว่าเจ้าจะไปที่ช่องทางลับ ล้วนเป็นองครักษ์คู่ใจของเรา พวกเขาแต่ละคนผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด ไม่มีทางทรยศต่อเราเด็ดขาด ทว่า ไม่มีสิ่งใดที่แน่นอน หากพัวพันกับความปลอดภัยของเจ้า เราจักสืบสวนอย่างละเอียด...”เฟิ่งจิ่วเหยียนขัดจังหวะคำพูดของเขา และเอ่ยอย่างจริงจัง“คนที่หม่อมฉันสงสัยมิใช่พวกเขา“ท่านมิจำเป็นต้องเสียเวลาไปสืบสวนพวกเขา เพื่อมิให้พวกเขารู้สึกเสียกำลังใจ“สิ่งที่หม่อมฉันสงสัยคือ มีคนแอบเฝ้าสังเกตการณ์อยู่“คนผู้นี้อาจจะแอบซุ่มอยู

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status