Share

บทที่ 578

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
last update Last Updated: 2024-12-29 17:00:00
ภายใต้ท้องฟ้าทะเลดาว เฟิ่งจิ่วเหยียนเริ่มง่วงขึ้นมา

เซียวอวี้อุ้มนาง แล้วยิ้มบางเบาดุจสายลมเย็น ไร้มาดเคร่งขรึมเหมือนในยามปกติ

“กลับไปนอน”

ภายในเรือน

เฉินจี๋เห็นฝ่าบาทอุ้มซูฮ่วนกลับมา หัวใจพลันกระตุกวูบ

เซียวอวี้กลับเห็นว่า ในเรือนยังมีใครอีกคนยืนอยู่ด้วย

นั่นคือรุ่ยอ๋อง

เมื่อรุ่ยอ๋องเห็นภาพนี้ ดวงตาพลันก่อเกิดอารมณ์แปลกประหลาด

“เจ้ามาทำไม”  เซียวอวี้เอ่ยปาก ซักถามทันที

รุ่ยอ๋องก้มหน้าลงอย่างนอบน้อม

“กระหม่อม เป็นห่วงความปลอดภัยของฝ่าบาท”

เซียวอวี้ก้มมองคนในอ้อมกอด จากนั้นก็พานางเข้าไปส่งในห้องหลักก่อน

รุ่ยอ๋องเงยหน้ามองแผ่นหลังของทั้งสองคน ด้วยสายตามืดสลัว

เหตุใดฝ่าบาทถึงใกล้ชิดกับซูฮ่วนถึงเพียงนี้ล่ะ?

ไม่นานหลังจากนั้น เซียวอวี้ก็ออกมา

เขาอยู่ในชุดคลุมผ้าไหม ไม่เข้ากับสถานที่ธรรมดาแห่งนี้อย่างยิ่ง

“ออกไปคุยข้างนอก” เขาพูดกับรุ่ยอ๋อง

รุ่ยอ๋องตามเขาออกไป

……

“ใครบอกให้เจ้าตามสืบการเดินทางของรา” แววตาของเซียวอวี้เยือกเย็นเล็กน้อย

แม้นรุ่ยอ๋องจะเป็นเสมือนมือซ้ายมือขวาและพี่น้องที่คอยช่วยเหลือกัน ก็ไม่สมควรตามสืบเรื่องของเขาตามอำเภอใจ

รุ่ยอ๋องประสานมือคารวะ

“หรงเฟยพ่ะ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (4)
goodnovel comment avatar
Sutassee Hoffmann
ผู้พิทักษ์เป็นคนเดียวกับบุรุษชุดขาวหรือไม่ ชักจะงง
goodnovel comment avatar
Sutassee Hoffmann
ผู้พิทักษ์คือต้วน แฟนเก่านางเอกแน่ๆ
goodnovel comment avatar
Sakon Jindanin
ยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่ง อิอิ เต้ก็รักของเต้ ไม่รู้ซะแว๊ววว
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 579

    ยุทธภพกับราชสำนัก แบ่งแยกอำนาจการปกครองผู้ใดก็ไม่คาคคิด ว่าทหารจะล้อมปราบปรามแต่ละสำนักอย่างเปิดเผยเช่นนี้ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ เลย แม้แต่พรรคเทียนหลงที่มีหน่วยสอดแนมเป็นหูเป็นตามากมาย ก็ยังไม่เคยได้รับข่าวใด ๆ ดังนั้น สำหรับพวกเขาแล้ว การล้อมปราบปรามในครั้งนี้จึงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเกินไปผู้พิทักษ์พรรคเทียนหลงลุกขึ้นทันที ออกคำสั่งว่า“ล่าถอย”ทันทีที่ปริปาก แม่นางหร่านที่ใส่ผ้าคลุมหน้าก็เข้ามาในห้อง วิ่งตรงเข้ามาหาผู้พิทักษ์“ท่านประมุขรู้เรื่องนี้แล้ว ผู้พิทักษ์ ตอนนี้เจ้ากำลังทำให้ราชสำนักแตกตื่น นับเป็นความผิดมหันต์!”แววตาของผู้พิทักษ์เยือกเย็นเป็นแค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม กล้าดีอย่างไรมาสอนเขา?“เจ้ารีบไปคุ้มกันท่านประมุข ฝากบอกท่านประมุขด้วย ข้าจะไปรับโทษด้วยตัวเอง”คนจากสำนักอื่นที่มาขอความช่วยเหลือเห็นท่าทีไม่ดี จึงพากันรีบเผ่นหนีทหารบุกมาอย่างองอาจ พวกเขารับมือไม่ไหวแน่ทุกสำนักตกอยู่ในศึกอันขมขื่นระยะเวลาเพียงชั่วข้ามคืน ยุทธภพกลับปั่นป่วนไปหมดคุกในแต่ละแห่งอัดแน่นไปด้วยคนจนวุ่นวายชาวยุทธภพลงนามร่วมต่อสู้ ฟ้องร้องเรื่องที่ราชส

    Last Updated : 2024-12-29
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 580

    ภายในศาลาแปดเหลี่ยมอันเงียบสงบทางทิศตะวันตกของวัง มีสองพี่น้องนั่งเผชิญหน้ากันอยู่บนโต๊ะหินมีกระดานหมากรุกวางบนนั้น ซึ่งใกล้จะจบตาแล้วใบหน้าของเซียวจั๋วประดับด้วยรอยยิ้มบางเบา ราวกับว่ายังเป็นพี่ชายผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารีย์เหมือนในตอนนั้น“แนวการเล่นหมากรุกของฝ่าบาทแตกต่างจากเมื่อก่อนเยอะเลย”เซียวอวี้พูดลอย ๆ “ทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง”เซียวจั๋วส่งเสียงกระแอม เหมือนกำลังข่มกลั้นอะไรบางอย่าง“มีบางอย่าง ที่อยากถามฝ่าบาทมาโดยตลอด“เรื่องในครานั้น ท่านเจ้าเชื่อว่าข้าคือผู้บริสุทธิ์หรือไม่?”ตอนนั้น องค์รัชทายาทลอบฆ่าพี่ชายแท้ ๆ ทั้งยังก่อกบฏเพื่อประโยชน์ส่วนตัว สร้างความสั่นสะเทือนแก่ราชสำนักสายตาของเซียวอวี้ทอดมองผิวน้ำบริเวณห่างไกล กล่าวอย่างเชื่องช้าว่า“เรื่องมันผ่านมาตั้งนานแล้ว เราจำไม่ได้”เซียวจั๋วยิ้มออกมาบางเบา นัยน์ตาทอแววขมขื่น“พูดตามตรง จนถึงตอนนี้ข้ายังคาดคิดไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายคนที่ได้นั่งบัลลังก์ จะเป็นท่าน”ในการแข่งขันขององค์ชายทั้งหลาย เซียวอวี้เป็นคนที่ถูกตัดออกไปขุนนางในราชสำนักเองก็ไม่มีใครอยู่ข้างเขาใครก็ไม่รู้ว่า  ฮ่องเต้องค์ก่อนจะเลือกเดิน

    Last Updated : 2024-12-29
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 581

    หลังจากพักฟื้นอยู่สองสามวัน เฟิ่งจิ่วเหยียนก็พอจะลงมาเดินบนพื้นได้ทว่าร่างกายของฝานจิ้นกลับยิ่งแย่ลงตงฟางซื่อจึงหารือกับนาง และคิดจะหาตัวยาบางอย่างมาทดแทน เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของฝานจิ้นหลังจากฝานจิ้นรู้เรื่องก็เป็นฝ่ายปฏิเสธก่อน“มิต้อง เหล่าฝานอย่างข้าจะต้องผ่านพ้นไปได้!”เขาจะมิยอมแพ้และประนีประนอมเด็ดขาดบ่ายวันนั้น ตงฟางซื่อมาที่ห้องของเฟิ่งจิ่วเหยียน และนำภาพเหมือนแผ่นหนึ่งมาให้นางดู“นี่ก็คือศิษย์หญิงของสำนักหลิงซาน--- จางเสวี่ย”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพเหมือนนั้นอย่างละเอียด แววตาพลันหม่นหมองลงทันที“สตรีที่สวมหน้ากากในคืนนั้น มิใช่คนผู้นี้”มิใช่แค่คิ้วและดวงตาที่เผยออกมาภายนอก รูปร่างนี้ก็แตกต่างเช่นกันตงฟางซื่อม้วนภาพเก็บ“ดูเหมือนว่า สตรีผู้นั้นจะหลอกเจ้าแล้ว ทว่านางก็ช่วยเจ้าไว้ ข้าแยกแยะมิออกจริง ๆ ว่า คนผู้นี้เป็นศัตรูหรือเป็นมิตร”เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตกอยู่ในห้วงความคิดในตอนค่ำ เซียวอวี้ก็มาถึงตามเวลาทันทีที่เขาเอ่ยปากก็เป็นความกังวลถึงอาการบาดเจ็บของเฟิ่งจิ่วเหยียน เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบว่า: “ที่จริงก็ดีขึ้นมากแล้ว”ในเวลาเดียวกับที่เซียวอวี้คลายกังวล ก็

    Last Updated : 2024-12-30
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 582

    ความนุ่มนวลจากการจูบ ราวกับถูกปกคลุมด้วยขนนก ทั้งทะนุถนอม ดูเหมือนกลัวว่าจะทำให้นางเจ็บ เพียงสัมผัสแรกก็แยกออกจากกัน เซียวอวี้มีความสามารถในการดื่มสุราอย่างมากในฐานะฮ่องเต้ ขาดมิได้ที่จะต้องดื่มสุราในงานเลี้ยงภายในวังหากไม่มีความสามารถในการดื่มเพียงใดก็ไม่เมา ก็คงจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะได้สุราเพียงเล็กน้อยในคืนนี้ ยังมิเพียงพอที่จะทำให้เขาขาดสติในเวลานี้ เขาออกแรงโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขน โดยแสร้งทำเป็นขาดสติจากการมึนเมาเฟิ่งจิ่วเหยียนตกใจกับจูบเมื่อครู่นี้ จึงรีบผลักเขาออกไป และถอยหนี จนแผ่นหลังชนเข้ากับผนัง ฝ่ามือใหญ่ของบุรุษวางทับอยู่บนแผ่นหลังของนาง ภายใต้การปกป้องของมือ นางจึงมิได้รับแรงกระแทกมากเกินไปแม้กระทั่งความร้อนจากฝ่ามือของเขายังทะลุผ่านอาภรณ์ และส่งต่อมายังผิวหนังของนาง หากเทียบกับการจูบเมื่อครู่ที่ราวกับแมลงปอบินแตะน้ำนั้น ร้อนแรงกว่ามาก ทำให้นางตัวสั่นอยู่พักหนึ่งนางชะงักงันอย่างกะทันหัน เซียวอวี้มือหนึ่งเลื่อนมาหลังศีรษะนาง และก้มหัวลงมาตรงซอกคอของนางพร้อมหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ทั้งค่อย ๆ โน้มตัวลง ราวกับว่าในเสี้ยววินาทีนั้นเขาสูญเสียพละกำลังทั้งหมด“เรา.

    Last Updated : 2024-12-30
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 583

    บุรุษถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์อันหล่อเหลาจากการสังเกตอายุน่าจะยังไม่ถึงยี่สิบปี ในดวงตากลับเคร่งขรึมกว่าคนรุ่นเดียวกัน ราวกับถูกแช่อยู่ในยาน้ำแห่งความเกลียดชังมาตลอดทั้งปีเขามองดูท่าทางของเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ประหลาดใจจนถึงกับตะลึงงันด้วยความชอบใจ พร้อมเอ่ยโดยเสียงท้ายขึ้นเสียงสูง “เป็นอย่างไร จำข้ามิได้หรือ? พี่สะใภ้”เขากัดฟันหนัก ๆ คำว่า “พี่สะใภ้” ทว่ากลับไม่มีความรู้สึกเคารพแม้แต่น้อยร่างกายของเฟิ่งจิ่วเหยียนแข็งเกร็ง ม่านตาสั่นไหว“อาเจิ้ง...”คนผู้นั้นได้ยินชื่อเรียกที่คุ้นเคยนี้ ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ดวงตากลับแดงก่ำในทันที“ห้ามเรียกข้าเช่นนี้!“ก่อนหน้านี้เจ้าเคยเป็นพี่สะใภ้ข้า ตอนนี้ เจ้าใช้สถานะใด?“ดังนั้น...อย่ามาทำท่าทางที่ดูสนิมสนมกับข้าเสียเหลือเกิน ข้ารู้สึกรังเกียจ!”ปลายนิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นวาบเมื่อมองเห็นใบหน้าดวงนั้นที่มีส่วนคล้ายกับต้วนไหวซวี่ ในเสี้ยววินาทีนั้นในดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความขมขื่น นางรู้สึกดีใจที่ต้วนเจิ้งยังมีชีวิตอยู่เมื่อนึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่พบเขา เขามีอายุเพียงสิบสามสิบสี่ปีเท่านั้น ทั้งตัวคนดูผอ

    Last Updated : 2024-12-30
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 584

    คนชุดคลุมดำเคยพูดไว้ นางมิรู้ว่าต้วนไหวซวี่ตายอย่างไร ดูเหมือนว่า การตายของเขาคงมิใช่เพราะพิษวารีสวรรค์ธรรมดาเท่านั้นอีกทั้งยังพูดอีกว่า ต้วนไหวซวี่ใช้ตนเองแลกกับอายุขัยห้าปีของนางจนบัดนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ยังไม่มีเบาะแส ถึงขั้นเคยสงสัยว่า นี่เป็นคำโกหกที่คนชุดคลุมดำทำให้นางหวั่นไหวทว่าตอนนี้ ต้วนเจิ้งก็พูดอย่างมีความหมายอื่นแฝงอยู่ในคำพูดเช่นกันนางจักต้องพยายามถามให้กระจ่าง!“เรื่องของพี่ชายเจ้า เจ้ารู้สิ่งใดกันแน่”ทว่า ต้วนเจิ้งใบหน้าดูหม่นหมอง พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น“เจ้า มิสมควรรู้”ทันทีที่เอ่ยจบ มีดสั้นเล่มหนึ่งก็จ่ออยู่บนคอของเขาต้วนเจิ้งแทบมิอยากเชื่อ“เจ้าต้องการจะสังหารข้า? เฟิ่งจิ่วเหยียน เจ้าเสียสติไปแล้วหรือไม่!”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“อย่าเรียกชื่อข้ามั่ว ๆ ทางที่ดีเจ้าควรจะเชื่อฟังข้า”หลังจากได้ตื่นเต้นกับการพบกันอีกครั้ง ก็กลับมาตั้งสติต้วนเจิ้งในตอนนี้ เป็นคนของพรรคเทียนหลงไปนานแล้วการปรากฏตัวของเขาในคราวนี้ แน่นอนว่ามิได้มาเพื่อพบกับนางแบบสหายอีกอย่างเขากับคนชุดคลุมดำก็อาศัยต้วนไหวซวี่ทำให้จิตใจของนางปั่นป่วนอยู่หลายครั้ง จักต้

    Last Updated : 2024-12-30
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 585

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมั่นใจว่า ต้วนไหวซวี่ตายไปแล้วร่างของเขาเป็นนางที่ฝังเองกับมือ...ต้วนเจิ้งมองดูปฏิกิริยาของนาง พร้อมทั้งหรี่ตาเขาเย้ยหยัน“เป็นอย่างไร มิดีใจหรือ?“ได้ยินว่าพี่ชายข้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้ารู้สึกผิดหรือ? มิกล้าเผชิญหน้ากับเขาหรือ?“ก็อาจจะใช่ เจ้ายุ่งเกี่ยวกับบุรุษคนอื่น แล้วเจ้าจะมีหน้าไปพบพี่ชายข้าได้อย่างไร...”เฟิ่งจิ่วเหยียนเมินเฉยต่อคำพูดไร้สาระเหล่านั้นของเขา แววตาของนางเคร่งขรึมและเย็นชา ภายในกลับมีเปลวไฟที่ลุกโชน“เขายังมีชีวิตอยู่จริงหรือ ต้วนเจิ้ง พูดความจริงมา!”ต้วนเจิ้งก้มหน้าลง “ความจริงก็คือ พี่ชายข้ายังมีชีวิตอยู่! เจ้าก็คงรู้เรื่องข้อตกลงห้าปีนั้นกระมัง เหตุใดเจ้าถึงไม่ลองคิดดูว่า หากพี่ชายข้าตายแล้ว พรรคเทียนหลงของเขาเหตุใดจะยังคงรักษาข้อตกลงนั้นอยู่ พวกเขาเป็นพวกโง่เขลาหรือ!”หัวใจของเฟิ่งจิ่วเหยียนสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็จริงอยู่ หากข้อตกลงห้าปียังอยู่ สิ่งใดถึงจะสามารถรับประกันได้ว่าข้อตกลงนี้จะยังคงได้รับการปฏิบัติ? อย่างไรเสียก็เป็นข้อตกลงที่ตกลงกันด้วยปากเปล่า สามารถยึดตามการตายของฝ่ายหนึ่ง โดยอีกฝ่ายก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาข้อตกลง

    Last Updated : 2024-12-31
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 586

    ภายในห้องมืดสนิท ต้วนเจิ้งรู้สึกตัวแล้ว ทว่าร่างกายถูกมัดติดกับเก้าอี้ ปากก็ยังถูกอุดอยู่ ไม่มีทางช่วยเหลือตนเองได้ และขอความช่วยเหลือก็ไม่มีทางเช่นกันเขาเหมือนกับหมาป่าหิวโหยที่ดุร้าย จ้องมองไปที่ประตู และอยากรู้ว่าเมื่อใดเฟิ่งจิ่วเหยียนจะกลับมานางต้องรู้แล้วว่า เขาแสร้งลวงให้สับสน โดยให้นักฆ่าไปโอบล้อมตงฟางซื่อ...เมื่อครั้งแรกที่พบนาง นางยืนอยู่ข้าง ๆ พี่ชาย สีหน้าไร้ความรู้สึก บนตัวมีไอแห่งความแค้น ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้างทว่าตามด้วยเสียงที่เขาเรียกว่า “พี่สะใภ้” ในดวงตาที่สงบนิ่งของนางนั้นราวกับรู้สึกเบิกบานขึ้นมาเขาคิดว่า ครอบครัวของพวกเขาจะอยู่ด้วยกันไปตลอดกาลทว่าโชคชะตามักจะเล่นตลกกับคนเรา...ขณะที่ต้วนเจิ้งกำลังนึกย้อนไปถึงอดีต จู่ ๆ ประตูก็เปิดออกเขามองไปทางนอกประตูอย่างระแวดระวังในทันทีทว่ากลับเห็น เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมในมือยังถือกล่องอาหาร......ต้วนเจิ้งหิวมาทั้งวันแล้ว เมื่อเห็นอาหารที่เฟิ่งจิ่วเหยียนนำมา เขากลับปฏิเสธเสียงแข็ง“เอาไปพ้น! ข้าไม่กิน!”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“อาหารก่อนถูกประหารตัดหัว เป็นมื้อสุดท้าย

    Last Updated : 2024-12-31

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 596

    เมื่อเศษละอองฝุ่นจางหายออกไปแล้วนั้น ก็พลันพบกับสตรีที่สวมใส่ผ้าคลุมหน้านางหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังของท่านประมุข ก่อนจะใช้มีดด้ามเดียวปลิดชีพประมุขพรรคเทียนหลงเพียงแค่มองครั้งเดียว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็จำได้ในทันทีว่าสตรีผู้นี้คือคนที่ยืมมือมาช่วยเหลือนางภายในอารามเต๋าคืนนั้น ทั้งยังเรียกขานตัวเองว่า “จางเสวี่ย”“แม่นางหร่าน! เจ้ากำลังทำอะไร!” เหล่าลูกศิษย์พรรคเทียนหลงที่จดจำนางได้จากไกล ๆ นั้น พลางเอ่ยถามด้วยความโกรธแค้นประมุขพรรคที่ถูกแทงนั้น พลันหันมาคว้าคอของหร่านชิวเอาไว้เขามิเคยคิดเลยว่า ลูกศิษย์ที่รักของตนเอง จักกล้ากระทำตัวหักหลังต่อตนเองเช่นนี้ได้ประมุขพรรคที่กำลังรวบรวมกำลังภายในเมื่อครู่นั้น เขาย่อมมิมีทางรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นได้ทัน ผู้ที่ลงมือกับเขาในยามนี้ ถือว่าเป็นการมุ่งร้ายจะเอาชีวิตเลยทีเดียว!เขาต้องการฆ่านังคนทรยศผู้นี้!หากแต่เซียวอวี้ก้าวไวกว่าเขาไปหนึ่งก้าว พลางประทับฝ่ามือไปที่ด้านหลังประมุขพรรคในทันทีฉึก—เลือดสด ๆ สาดกระเซ็นบนผ้าคลุมหน้าของหร่านชิว แววตาของนางเจือไปด้วยความอำมหิต พร้อมทั้งแทงมีดลงไปที่ทรวงอกของประมุขพรรคเทียนหลงในทันท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 595

    หลังจากที่เกิดช่องว่างที่ประตูเมืองแล้วนั้น กองทัพมนุษย์โอสถที่ได้ยินเช่นนั้น ก็ทำการเคลื่อนไหวในทันทีพวกเขาพยายามทะลวงเข้ามาเรื่อย ๆ กองทหารรักษาการณ์ที่อยู่ด้านหลังประตุเมืองนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างก็เข้าประจันหน้ากันเมื่อเห็นว่าฝ่าบาทกำลังตกอยุ่ในอันตรายนั้น รุ่ยอ๋องที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองจึงร้องตะโกนออกมาว่า“คุ้มกันฝ่าบาท!”เซียวอวี้จึงกระโดดหลบหนีเหล่ากองทัพมนุษย์โอสถในทันทีก่อนจะได้มาเผชิญหน้ากับประมุขพรรคเทียนหลงแบบตัวต่อตัวและยังมีเฟิ่งจิ่วเหยียนเขานึกแปลกใจเล็กน้อยที่นางกลับมาเป็นไปได้หรือไม่ว่า หลังจากที่นางช่วยเหลือต้วนไหวซวี่ได้แล้วนั้น ตนเองเกิดวางภาระหน้าที่ในฐานะท่านแม่ทัพน้อยเมิ่งไม่ลง จึงได้กลับมาช่วยกอบกู้เมืองหลวงเช่นนี้?ถึงอย่างไร ย่อมมิใช่เพราะกลับมาช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอนนอกจากมนุษย์โอสถของพรรคเทียนหลงแล้วนั้น ยังมีลูกศิษย์ของพรรคเทียนหลงอีกไม่น้อยเลยพวกเขายืนอยู่ข้างหลังของประมุขพรรค ก่อนจะเผชิญหน้ากับกองกำลังของเซียวอวี้อย่างไม่เกรงกลัวประมุขพรรคพุ่งตัวเข้าใส่เซียวอวี้พลางกล่าวว่า“ในเมื่อฮ่องเต้ทรราชไร้เมตตา เช่นนั้นพวกเราจักสถาปนาฮ่องเต้องค์

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 594

    ความรู้สึกที่ถูกบีบคออยู่นั้น น่าอึดอัดยิ่งนักความรู้สึกที่หายใจไม่ออก จนทำให้ผู้คนต้องดิ้นรนตามสัญชาตญาณเอาชีวิตรอดของตัวเองทว่า เฟิงจิ่วเหยียนหาได้เป็นเช่นนั้นไม่นางชักลูกธนูออกมาจากแขนเสื้อของตนเองหากว่ากันตามจริงแล้ว ระยะห่างเพียงเท่านี้ ประมุขพรรคย่อมต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยจู่ ๆ ……ปั้ง!กำลังภายในของบุรุษตรงหน้าที่สะท้อนออกมา ทำเอาร่างของเฟิ่งจิ่วเหยียนและลูกธนูที่อยู่ในมือนั้นกระเด็นออกจากรถม้าไปในทันทีผลัก!หลังของเฟิ่งจิ่วเหยียนล้มกระแทกลงบนพื้นเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองนั้น ก็พบว่าผนังรถม้ากลายเป็นรูขนาดใหญ่ พร้อมทั้งด้านในที่มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาให้ทุกคนได้เห็นคนผู้นั้นก็คือประมุขพรรคเทียนหลง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทำความผิดในครานี้เขาจ้องมองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยความเย็นชา“ผู้ที่คิดต่อต้านข้า จักต้องตาย!”พูดจบ เขาพลันยื่นมือออกมา ก่อนที่กำลังภายในมากมายจะพุ่งเข้าหาเฟิ่งจิ่วเหยียนในทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะใช้ลูกเตะปรายมารเตะศพร่างหนึ่งออกไปเพื่อขวางกั้นแรงลมของกำลังภายในที่กำลังดูดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะก้มลงไปหยิบดา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 593

    ภายในรถม้านั้น ประมุขพรรคเทียนหลงหาได้มีท่าทีตื่นกลัวใด ๆ ไม่ กลับกันเขากับหันมามองเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยใบหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความใจดี“คุณชายซู ไม่เจอกันนานเลย สบายดีหรือไม่เล่า?”ยามที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น มือสังหารสองคนพลันมาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหลังของเฟิ่งจิ่วเหยียนในทันทีพวกเขาเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน อีกคนฝ่ายรับอีกคนฝ่ายรุก ผลัดกันโจมตีเข้ามาด้วยความดุเดือดไม่นานนัก พวกเขาก็สามารถทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนล่าถอยออกไปได้ ทั้งยังกลับมาปกป้องรถม้าได้อีกครั้งประมุขพรรคที่นั่งอยู่ในรถม้านั้น หาได้เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ในสายตาไม่ เขากลับเป็นกังวลเรื่องการโจมตีประตูเมืองหลวงเสียมากกว่าถึงแม้ว่าการที่กองทัพหวงปั้วจักหันมาเปลี่ยนข้างไปนั้น จะไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาก็ตามทว่า พวกเขาหาได้มิมีการเตรียมตัวรับมือในเรื่องนี้ไม่ท่านประมุขพรรคจึงยกมือขึ้นมา ผู้ที่อยู่ข้างกายจึงเข้าใจได้ในทันทีพร้อมทั้งมีเสียงนกหวีดดังตามมา ก่อนจะพบว่าบนฟากฟ้ามีนกตัวใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏตัวขึ้น ก่อนจะโบยบินพุ่งมาที่กำแพงเมืองกรงเล็บที่แหลมคมของพวกมันดุร้ายยิ่งนัก ปีกของพวกมันก็มีพละกำลังมากเช่นกันบนกำแพ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 592

    ด้านหลังประตูลับนั้น ภาพตรงหน้าที่ฉายเข้ามาในม่านตาเป็นสระยาขนาดใหญ่ด้านในสระเต็มไปด้วยสิ่งมีพิษมากมาย รวมไปถึงร่างกายพิกลพิการที่กำลังส่งกลิ่นเน่าเหม็นออกมาเมื่อเห็นสภาพตรงหน้านั้น ต่างก็สามารถจินตนาการได้ในทันทีว่าคนพวกนี้ก่อนตายจักต้องพบเจอกับการทรมานเช่นไรบ้างกำแพงโดยรอบนั้นเต็มไปด้วยภาพฝาผนังมากมาย ทั้งยังมีความรายละเอียดที่เห็นเรื่องราวได้ชัดมากเสียยิ่งกว่าด้านนอกเมื่อครู่เสียอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนพบเบาะแสสำคัญจากภาพวาดในทันทีด้านบนพลันมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เรียกว่า “หนอนผีเสื้อ”หนอนผีเสื้อนั้น นับว่าเป็นโอสถวิเศษชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับร่างของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว หากแต่วิญญาณยังคงสถิตอยู่ในร่างอยู่โดยส่วนมากนั้น ผู้คนเหล่านี้มักจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติไป หากแต่ยังมีลมหายใจอยู่ จึงจำเป็นต้องใช้หนอนผีเสื้อเพื่อชุบชีวิตพวกเขาขึ้นมาการจะฝึกฝนเพื่อให้ได้โอสถชนิดนี้นั้น จำเป็นต้องใช้มนุษย์ที่มีชีวิตอยู่เป็นตัวทดลอง ใช้เลือดคนจริง ๆ มาผสมกับคนตายที่หมดสติไป เพื่อเป็นการถ่ายเลือดทุกเดือนสิ่งที่โหดร้ายมากที่สุดก็คือ ผู้ที่เป็นตัวทดลองยานั้น บนร่างกายจักต้องถูกกรีดออกเป็นช

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 591

    ภูเขาหวู่หยางเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ต่อสู้กับราชามังกรเขียวมาหลายสิบกระบวนท่าแล้วนั้น ยังคงมิอาจเดาได้ว่าผู้ใดจักเป็นคนพ่ายหรือผู้ใดจักได้ชัยต้วนเจิ้งจึงรับหน้าที่จัดการกับลูกสมุนของราชามังกรเขียวแทนคลื่นลมภายในภูเขา พัดแรงเสียจนส่งเสียงดังไปมาเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ถือดาบด้ามยาว พลังงานจากดาบแผ่กระจายออกมา พร้อมด้วยกระบวนท่าที่อุกอาจและแข็งกร้าวราชามังกรเขียวใช้ใบไม้แปรเปลี่ยนเป็นอาวุธ ด้านหน้าพลันเกิดการรวมตัวของใบไม้ขึ้นมาเป็นค่ายกล ยามที่ราชามังกรเขียวใช้กำลังภายในควบคุมพวกมันอยู่นั้น ไม่นานนักใบไม้เหล่านั้นก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมาเป็นชั้นวงกลมในทันทีทันใดนั้น ราชามังกรเขียวพลันผลักฝ่ามือทั้งสองข้างออกมา ใบไม้เหล่านั้นจึงแปรเปลี่ยนเป็นคมมีดพุ่งโจมตีใส่เฟิ่งจิ่วเหยียนในทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบยกดาบขึ้นมารับโจมตีด้วยความเร็วไว จนทำให้เกิดกระแสพลังออกมาทว่า เพียงต้านทานใบไม้ได้แค่บางส่วนเท่านั้นใบไม้อื่น ๆ ที่ทะลุผ่านม่านกำแพงออกมาได้นั้น พลันกีดบาดอาภรณ์ของเฟิ่งจิ่วเหยียนจนขาดวิ่นแม้แต่ ปอยเส้นผมของนางก็ยังถูกใบไม้ตัดจนตกลงที่ข้างเท้าของนางหากมิเพราะมีหน้ากากสีเงินปกปิดใบหน้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 590

    กองทัพกบฏโจมตีกะทันหัน เมืองหลวงจึงตกอยู่ในความตื่นตระหนกทันทีทันใดราษฎรพากันตกใจและหวาดกลัว ทั้งก็เชื่อมั่นว่า อาณาจักรของโอรสสวรรค์ กองทัพกบฏมิอาจโจมตีเข้ามาได้ทว่า ในเวลานี้กองทัพกบฏที่อยู่นอกเมือง มีจำนวนมากกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้มากผู้นำกองทัพกบฏหวงปั้วเอะอะโวยวายอยู่ด้านล่างประตูเมือง“ฮ่องเต้ทรราชไร้ความเมตตา พวกเราทำตามบัญชาสวรรค์ ราษฎรในเมือง หากมีผู้ใดมิยอมรับฮ่องเต้โง่เขลาเช่นเดียวกัน ก็ถืออาวุธลุกขึ้นมา เพื่อร่วมกันโค่นล้มกับข้า!!”เหล่าทหารที่รักษาเมืองตะโกนด้วยความโกรธเคือง“หวงปั้ว! คนคิดคดทรยศ อย่าหาข้อแก้ตัวที่ฟังดูเหมือนสูงส่ง! เจ้าตะโกนไปเถอะ ไม่มีผู้ใดเห็นด้วยกับเจ้าหรอก! รีบยอมแพ้และกลับไป มิเช่นนั้น วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า!” หวงปั้วถอยหลัง เหล่าทหารที่รักษาเมืองเข้าใจว่าเขาหวาดกลัว ทว่ากลับเห็นบุรุษผู้หนึ่งสวมเกราะเงิน พร้อมท่วงท่าสง่างามกำลังขี่ม้าขึ้นมาด้านหน้า“ข้าคืออดีตรัชทายาทเซียวจั๋ว ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงโง่เขลา ขุนนางชั่วก็ยึดกุมอำนาจ ทั้งปรักปรำข้า และถอดถอนข้าจากตำแหน่งที่ตำหนักบูรพา ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันก็ทรงโง่เขลา ทำลายกฎระเบียบของข้า ส่งเส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 589

    เตาหลอมยาเผาไหม้ตลอดทั้งคืน ผู้คนในพรรคเทียนหลงนั่งล้อมวงกัน เฝ้ารอยาวิเศษนั้นออกมาจากเตาต้วนเจิ้งเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ในใจรู้สึกเย้ยหยัน วันพรุ่งนี้จะเข้าโจมตีเมืองหลวงแล้ว และยังเป็นวันที่เขานัดหมายกับเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้วันนี้เขาจะต้องลงจากเขาทว่าตรงทางแยกของตีนเขา หญิงสาวที่สวมผ้าคลุมหน้าผู้นั้นขวางทางเขาอยู่“ต้วนเจิ้ง เจ้าจะไปที่ใด พวกเราตกลงกันแล้วมิใช่หรือว่า จะให้เจ้าแอบช่วยพี่ไหวซวี่?”ต้วนเจิ้งมีท่าทางที่ดูเย็นชา“หร่านชิว ตัวคน ข้าจักต้องช่วยแน่นอน นั่นเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของข้า ข้ายิ่งห่วงใยเขามากกว่าเจ้า”หร่านชิวเอ่ยด้วยเสียงต่ำ“เจ้ารู้ก็ดีแล้ว ครั้งนี้พวกเราไม่มีทางถอย”คืนพรุ่งนี้ทุกคนจะเข้าไปโจมตีเมืองหลวง ก็เป็นโอกาสดีสำหรับพวกเขาในการลงมือพี่ไหวซวี่ของนาง ในที่สุดก็จะได้เห็นแสงอาทิตย์อีกครั้งเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ในดวงตาของหร่านชิวก็มีน้ำตาอุ่น ๆ ที่แฝงไว้ด้วยความตื่นเต้นดีใจ......เพื่อช่วยเหลือต้วนไหวซวี่ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเตรียมการอย่างเต็มที่ลำพังอาวุธลับที่ซ่อนอยู่บนตัวก็มิใช่มีแค่หนึ่งหรือสองชิ้นก๊อกก๊อก!ด้านนอกมีคนเคาะประตู“ผู้ใด?”จากนั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 588

    กลางดึก ณ ภูเขาหวู่หยางตูม!ตามเสียงที่ดังสนั่น เศษหินบนภูเขาแตกกระเด็น กำแพงหินที่เดิมทีมีสภาพสมบูรณ์ก็ปรากฏมีช่องว่างท่ามกลางฝุ่นควันตลบอบอวล คนผู้หนึ่งก็เดินออกมาจากด้านในคนหลายคนที่อยู่ด้านนอกก็คุกเข่าลงทันที และเปล่งเสียงพร้อมกัน“น้อมรับประมุขพรรคออกจากการบำเพ็ญตน!”ท่ามกลางก้อนหินกระจัดกระจาย ประมุขพรรคเทียนหลงผู้นั้นสวมชุดคลุมสีม่วง ใบหน้าที่มีอายุราวสี่สิบปีนั้น ก็มีริ้วรอยตามวัย ดวงตาเผยให้เห็นความเมตตา ทว่าก็ดูน่าเกรงขามเช่นกันในผมสีดำก็มีผมสีเงินปะปนอยู่หลายเส้น โหนกแก้มยกสูง ริมฝีปากซีดเซียวเมื่อเห็นผู้คนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น เขาก็ยกแขนขึ้น“ทุกคนลุกขึ้นเถิด”ท่ามกลางฝูงชน แม่นางหร่านที่สวมผ้าคลุมหน้าก็แอบเงยหน้าขึ้น และมองเข้าไปด้านในกำแพงหินนั้นพี่ไหวซวี่จะต้องอยู่ข้างในเป็นแน่ในเวลานี้ ผู้พิทักษ์ก้าวมาข้างหน้า“ท่านประมุขพรรค กองทัพหวงปั้วยอมสวามิภักดิ์แล้ว ขอเพียงท่านออกคำสั่ง ก็สามารถบุกไปโจมตีเมืองหลวงได้ทันที”ประมุขพรรคมองไปทางหญิงสาวที่สวมผ้าคลุมหน้าผู้นั้น“อาหร่าน เจ้าคำนวณวันเวลาไว้แล้วใช่หรือไม่” แม่นางหร่านตอบอย่างนอบน้อม “ศิษย์คำนวณไ

DMCA.com Protection Status