แชร์

บทที่ 583

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
บุรุษถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์อันหล่อเหลา

จากการสังเกตอายุน่าจะยังไม่ถึงยี่สิบปี ในดวงตากลับเคร่งขรึมกว่าคนรุ่นเดียวกัน ราวกับถูกแช่อยู่ในยาน้ำแห่งความเกลียดชังมาตลอดทั้งปี

เขามองดูท่าทางของเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ประหลาดใจจนถึงกับตะลึงงันด้วยความชอบใจ พร้อมเอ่ยโดยเสียงท้ายขึ้นเสียงสูง

“เป็นอย่างไร จำข้ามิได้หรือ? พี่สะใภ้”

เขากัดฟันหนัก ๆ คำว่า “พี่สะใภ้” ทว่ากลับไม่มีความรู้สึกเคารพแม้แต่น้อย

ร่างกายของเฟิ่งจิ่วเหยียนแข็งเกร็ง ม่านตาสั่นไหว

“อาเจิ้ง...”

คนผู้นั้นได้ยินชื่อเรียกที่คุ้นเคยนี้ ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ดวงตากลับแดงก่ำในทันที

“ห้ามเรียกข้าเช่นนี้!

“ก่อนหน้านี้เจ้าเคยเป็นพี่สะใภ้ข้า ตอนนี้ เจ้าใช้สถานะใด?

“ดังนั้น...อย่ามาทำท่าทางที่ดูสนิมสนมกับข้าเสียเหลือเกิน ข้ารู้สึกรังเกียจ!”

ปลายนิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นวาบ

เมื่อมองเห็นใบหน้าดวงนั้นที่มีส่วนคล้ายกับต้วนไหวซวี่ ในเสี้ยววินาทีนั้นในดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความขมขื่น

นางรู้สึกดีใจที่ต้วนเจิ้งยังมีชีวิตอยู่

เมื่อนึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่พบเขา เขามีอายุเพียงสิบสามสิบสี่ปีเท่านั้น ทั้งตัวคนดูผอ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
ยายสี ธัญญ่า
ใกล้จบรึยัง นี่ไปเรื่อยๆ
goodnovel comment avatar
WLFJ
อ้อ ที่แท้น้องชายต้วน อ่ะ บอกรายละเอียดมาค่ะอาเจิ้ง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 584

    คนชุดคลุมดำเคยพูดไว้ นางมิรู้ว่าต้วนไหวซวี่ตายอย่างไร ดูเหมือนว่า การตายของเขาคงมิใช่เพราะพิษวารีสวรรค์ธรรมดาเท่านั้นอีกทั้งยังพูดอีกว่า ต้วนไหวซวี่ใช้ตนเองแลกกับอายุขัยห้าปีของนางจนบัดนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ยังไม่มีเบาะแส ถึงขั้นเคยสงสัยว่า นี่เป็นคำโกหกที่คนชุดคลุมดำทำให้นางหวั่นไหวทว่าตอนนี้ ต้วนเจิ้งก็พูดอย่างมีความหมายอื่นแฝงอยู่ในคำพูดเช่นกันนางจักต้องพยายามถามให้กระจ่าง!“เรื่องของพี่ชายเจ้า เจ้ารู้สิ่งใดกันแน่”ทว่า ต้วนเจิ้งใบหน้าดูหม่นหมอง พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น“เจ้า มิสมควรรู้”ทันทีที่เอ่ยจบ มีดสั้นเล่มหนึ่งก็จ่ออยู่บนคอของเขาต้วนเจิ้งแทบมิอยากเชื่อ“เจ้าต้องการจะสังหารข้า? เฟิ่งจิ่วเหยียน เจ้าเสียสติไปแล้วหรือไม่!”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“อย่าเรียกชื่อข้ามั่ว ๆ ทางที่ดีเจ้าควรจะเชื่อฟังข้า”หลังจากได้ตื่นเต้นกับการพบกันอีกครั้ง ก็กลับมาตั้งสติต้วนเจิ้งในตอนนี้ เป็นคนของพรรคเทียนหลงไปนานแล้วการปรากฏตัวของเขาในคราวนี้ แน่นอนว่ามิได้มาเพื่อพบกับนางแบบสหายอีกอย่างเขากับคนชุดคลุมดำก็อาศัยต้วนไหวซวี่ทำให้จิตใจของนางปั่นป่วนอยู่หลายครั้ง จักต้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 585

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมั่นใจว่า ต้วนไหวซวี่ตายไปแล้วร่างของเขาเป็นนางที่ฝังเองกับมือ...ต้วนเจิ้งมองดูปฏิกิริยาของนาง พร้อมทั้งหรี่ตาเขาเย้ยหยัน“เป็นอย่างไร มิดีใจหรือ?“ได้ยินว่าพี่ชายข้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้ารู้สึกผิดหรือ? มิกล้าเผชิญหน้ากับเขาหรือ?“ก็อาจจะใช่ เจ้ายุ่งเกี่ยวกับบุรุษคนอื่น แล้วเจ้าจะมีหน้าไปพบพี่ชายข้าได้อย่างไร...”เฟิ่งจิ่วเหยียนเมินเฉยต่อคำพูดไร้สาระเหล่านั้นของเขา แววตาของนางเคร่งขรึมและเย็นชา ภายในกลับมีเปลวไฟที่ลุกโชน“เขายังมีชีวิตอยู่จริงหรือ ต้วนเจิ้ง พูดความจริงมา!”ต้วนเจิ้งก้มหน้าลง “ความจริงก็คือ พี่ชายข้ายังมีชีวิตอยู่! เจ้าก็คงรู้เรื่องข้อตกลงห้าปีนั้นกระมัง เหตุใดเจ้าถึงไม่ลองคิดดูว่า หากพี่ชายข้าตายแล้ว พรรคเทียนหลงของเขาเหตุใดจะยังคงรักษาข้อตกลงนั้นอยู่ พวกเขาเป็นพวกโง่เขลาหรือ!”หัวใจของเฟิ่งจิ่วเหยียนสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็จริงอยู่ หากข้อตกลงห้าปียังอยู่ สิ่งใดถึงจะสามารถรับประกันได้ว่าข้อตกลงนี้จะยังคงได้รับการปฏิบัติ? อย่างไรเสียก็เป็นข้อตกลงที่ตกลงกันด้วยปากเปล่า สามารถยึดตามการตายของฝ่ายหนึ่ง โดยอีกฝ่ายก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาข้อตกลง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 586

    ภายในห้องมืดสนิท ต้วนเจิ้งรู้สึกตัวแล้ว ทว่าร่างกายถูกมัดติดกับเก้าอี้ ปากก็ยังถูกอุดอยู่ ไม่มีทางช่วยเหลือตนเองได้ และขอความช่วยเหลือก็ไม่มีทางเช่นกันเขาเหมือนกับหมาป่าหิวโหยที่ดุร้าย จ้องมองไปที่ประตู และอยากรู้ว่าเมื่อใดเฟิ่งจิ่วเหยียนจะกลับมานางต้องรู้แล้วว่า เขาแสร้งลวงให้สับสน โดยให้นักฆ่าไปโอบล้อมตงฟางซื่อ...เมื่อครั้งแรกที่พบนาง นางยืนอยู่ข้าง ๆ พี่ชาย สีหน้าไร้ความรู้สึก บนตัวมีไอแห่งความแค้น ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้างทว่าตามด้วยเสียงที่เขาเรียกว่า “พี่สะใภ้” ในดวงตาที่สงบนิ่งของนางนั้นราวกับรู้สึกเบิกบานขึ้นมาเขาคิดว่า ครอบครัวของพวกเขาจะอยู่ด้วยกันไปตลอดกาลทว่าโชคชะตามักจะเล่นตลกกับคนเรา...ขณะที่ต้วนเจิ้งกำลังนึกย้อนไปถึงอดีต จู่ ๆ ประตูก็เปิดออกเขามองไปทางนอกประตูอย่างระแวดระวังในทันทีทว่ากลับเห็น เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมในมือยังถือกล่องอาหาร......ต้วนเจิ้งหิวมาทั้งวันแล้ว เมื่อเห็นอาหารที่เฟิ่งจิ่วเหยียนนำมา เขากลับปฏิเสธเสียงแข็ง“เอาไปพ้น! ข้าไม่กิน!”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“อาหารก่อนถูกประหารตัดหัว เป็นมื้อสุดท้าย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 587

    “พี่ชายเจ้า เดิมก็เป็นคนของพรรคเทียนหลง...”ในความทรงจำของเฟิ่งจิ่วเหยียน ต้วนไหวซวี่เป็นคนจิตใจดีและอ่อนโยนเสมอมา ไม่ว่ากับผู้ใดเขาก็จะปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้ นางยังรู้ด้วยว่า หลายปีก่อนเนื่องจากตระกูลต้วนคิดก่อกบฏจึงถูกฆ่าล้างตระกูลทว่านางเข้าใจมาตลอดว่า คนคิดก่อกบฏคือคนรุ่นปู่ของต้วนไหวซวี่ ในเวลานั้นต้วนไหวซวี่ยังเด็ก เขาไม่มีความผิด ดังนั้นในใจของนาง ต้วนไหวซวี่ผู้นี้จึงดีอย่างไร้ที่ติเสมอมา เมื่อชอบผู้ใดสักคน ก็จะมองไม่เห็นข้อบกพร่องของอีกฝ่าย ยิ่งไปกว่านั้น ต้วนไหวซวี่ก็ยัง “ตาย” ในขณะที่นางรักเขามากที่สุด นางมิเคยคิดด้วยซ้ำว่า “การตาย” ของเขา หรือกระทั่งการปรากฏตัวของเขา ทั้งหมดล้วนเป็นแผนชั่วร้าย... เมื่อต้วนไหวซวี่เป็นคนของพรรคเทียนหลง ทุกอย่างล้วนสมเหตุสมผล ในตอนนั้นนางสังหารบุตรชายของประมุขพรรคเทียนหลง พรรคเทียนหลงเพื่อแก้แค้น จึงสืบหาจนพบนาง ต้วนไหวซวี่ก็คือคนที่ถูกมอบหมายให้เข้ามาใกล้ชิดนางในเวลานั้น ต้วนเจิ้งมองเห็นความรู้สึกในดวงตาของนางชัดเจน ก็ปากไวรีบอธิบายแทนพี่ชายของตน“เจ้ากำลังสงสัยสิ่งใด?“ข้าจะบอกเจ้าว่า ถึงแม้พี่ชายข้าจะเป็นคนของพรรคเที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 588

    กลางดึก ณ ภูเขาหวู่หยางตูม!ตามเสียงที่ดังสนั่น เศษหินบนภูเขาแตกกระเด็น กำแพงหินที่เดิมทีมีสภาพสมบูรณ์ก็ปรากฏมีช่องว่างท่ามกลางฝุ่นควันตลบอบอวล คนผู้หนึ่งก็เดินออกมาจากด้านในคนหลายคนที่อยู่ด้านนอกก็คุกเข่าลงทันที และเปล่งเสียงพร้อมกัน“น้อมรับประมุขพรรคออกจากการบำเพ็ญตน!”ท่ามกลางก้อนหินกระจัดกระจาย ประมุขพรรคเทียนหลงผู้นั้นสวมชุดคลุมสีม่วง ใบหน้าที่มีอายุราวสี่สิบปีนั้น ก็มีริ้วรอยตามวัย ดวงตาเผยให้เห็นความเมตตา ทว่าก็ดูน่าเกรงขามเช่นกันในผมสีดำก็มีผมสีเงินปะปนอยู่หลายเส้น โหนกแก้มยกสูง ริมฝีปากซีดเซียวเมื่อเห็นผู้คนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น เขาก็ยกแขนขึ้น“ทุกคนลุกขึ้นเถิด”ท่ามกลางฝูงชน แม่นางหร่านที่สวมผ้าคลุมหน้าก็แอบเงยหน้าขึ้น และมองเข้าไปด้านในกำแพงหินนั้นพี่ไหวซวี่จะต้องอยู่ข้างในเป็นแน่ในเวลานี้ ผู้พิทักษ์ก้าวมาข้างหน้า“ท่านประมุขพรรค กองทัพหวงปั้วยอมสวามิภักดิ์แล้ว ขอเพียงท่านออกคำสั่ง ก็สามารถบุกไปโจมตีเมืองหลวงได้ทันที”ประมุขพรรคมองไปทางหญิงสาวที่สวมผ้าคลุมหน้าผู้นั้น“อาหร่าน เจ้าคำนวณวันเวลาไว้แล้วใช่หรือไม่” แม่นางหร่านตอบอย่างนอบน้อม “ศิษย์คำนวณไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 589

    เตาหลอมยาเผาไหม้ตลอดทั้งคืน ผู้คนในพรรคเทียนหลงนั่งล้อมวงกัน เฝ้ารอยาวิเศษนั้นออกมาจากเตาต้วนเจิ้งเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ในใจรู้สึกเย้ยหยัน วันพรุ่งนี้จะเข้าโจมตีเมืองหลวงแล้ว และยังเป็นวันที่เขานัดหมายกับเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้วันนี้เขาจะต้องลงจากเขาทว่าตรงทางแยกของตีนเขา หญิงสาวที่สวมผ้าคลุมหน้าผู้นั้นขวางทางเขาอยู่“ต้วนเจิ้ง เจ้าจะไปที่ใด พวกเราตกลงกันแล้วมิใช่หรือว่า จะให้เจ้าแอบช่วยพี่ไหวซวี่?”ต้วนเจิ้งมีท่าทางที่ดูเย็นชา“หร่านชิว ตัวคน ข้าจักต้องช่วยแน่นอน นั่นเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของข้า ข้ายิ่งห่วงใยเขามากกว่าเจ้า”หร่านชิวเอ่ยด้วยเสียงต่ำ“เจ้ารู้ก็ดีแล้ว ครั้งนี้พวกเราไม่มีทางถอย”คืนพรุ่งนี้ทุกคนจะเข้าไปโจมตีเมืองหลวง ก็เป็นโอกาสดีสำหรับพวกเขาในการลงมือพี่ไหวซวี่ของนาง ในที่สุดก็จะได้เห็นแสงอาทิตย์อีกครั้งเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ในดวงตาของหร่านชิวก็มีน้ำตาอุ่น ๆ ที่แฝงไว้ด้วยความตื่นเต้นดีใจ......เพื่อช่วยเหลือต้วนไหวซวี่ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเตรียมการอย่างเต็มที่ลำพังอาวุธลับที่ซ่อนอยู่บนตัวก็มิใช่มีแค่หนึ่งหรือสองชิ้นก๊อกก๊อก!ด้านนอกมีคนเคาะประตู“ผู้ใด?”จากนั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 590

    กองทัพกบฏโจมตีกะทันหัน เมืองหลวงจึงตกอยู่ในความตื่นตระหนกทันทีทันใดราษฎรพากันตกใจและหวาดกลัว ทั้งก็เชื่อมั่นว่า อาณาจักรของโอรสสวรรค์ กองทัพกบฏมิอาจโจมตีเข้ามาได้ทว่า ในเวลานี้กองทัพกบฏที่อยู่นอกเมือง มีจำนวนมากกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้มากผู้นำกองทัพกบฏหวงปั้วเอะอะโวยวายอยู่ด้านล่างประตูเมือง“ฮ่องเต้ทรราชไร้ความเมตตา พวกเราทำตามบัญชาสวรรค์ ราษฎรในเมือง หากมีผู้ใดมิยอมรับฮ่องเต้โง่เขลาเช่นเดียวกัน ก็ถืออาวุธลุกขึ้นมา เพื่อร่วมกันโค่นล้มกับข้า!!”เหล่าทหารที่รักษาเมืองตะโกนด้วยความโกรธเคือง“หวงปั้ว! คนคิดคดทรยศ อย่าหาข้อแก้ตัวที่ฟังดูเหมือนสูงส่ง! เจ้าตะโกนไปเถอะ ไม่มีผู้ใดเห็นด้วยกับเจ้าหรอก! รีบยอมแพ้และกลับไป มิเช่นนั้น วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า!” หวงปั้วถอยหลัง เหล่าทหารที่รักษาเมืองเข้าใจว่าเขาหวาดกลัว ทว่ากลับเห็นบุรุษผู้หนึ่งสวมเกราะเงิน พร้อมท่วงท่าสง่างามกำลังขี่ม้าขึ้นมาด้านหน้า“ข้าคืออดีตรัชทายาทเซียวจั๋ว ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงโง่เขลา ขุนนางชั่วก็ยึดกุมอำนาจ ทั้งปรักปรำข้า และถอดถอนข้าจากตำแหน่งที่ตำหนักบูรพา ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันก็ทรงโง่เขลา ทำลายกฎระเบียบของข้า ส่งเส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 591

    ภูเขาหวู่หยางเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ต่อสู้กับราชามังกรเขียวมาหลายสิบกระบวนท่าแล้วนั้น ยังคงมิอาจเดาได้ว่าผู้ใดจักเป็นคนพ่ายหรือผู้ใดจักได้ชัยต้วนเจิ้งจึงรับหน้าที่จัดการกับลูกสมุนของราชามังกรเขียวแทนคลื่นลมภายในภูเขา พัดแรงเสียจนส่งเสียงดังไปมาเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ถือดาบด้ามยาว พลังงานจากดาบแผ่กระจายออกมา พร้อมด้วยกระบวนท่าที่อุกอาจและแข็งกร้าวราชามังกรเขียวใช้ใบไม้แปรเปลี่ยนเป็นอาวุธ ด้านหน้าพลันเกิดการรวมตัวของใบไม้ขึ้นมาเป็นค่ายกล ยามที่ราชามังกรเขียวใช้กำลังภายในควบคุมพวกมันอยู่นั้น ไม่นานนักใบไม้เหล่านั้นก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมาเป็นชั้นวงกลมในทันทีทันใดนั้น ราชามังกรเขียวพลันผลักฝ่ามือทั้งสองข้างออกมา ใบไม้เหล่านั้นจึงแปรเปลี่ยนเป็นคมมีดพุ่งโจมตีใส่เฟิ่งจิ่วเหยียนในทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบยกดาบขึ้นมารับโจมตีด้วยความเร็วไว จนทำให้เกิดกระแสพลังออกมาทว่า เพียงต้านทานใบไม้ได้แค่บางส่วนเท่านั้นใบไม้อื่น ๆ ที่ทะลุผ่านม่านกำแพงออกมาได้นั้น พลันกีดบาดอาภรณ์ของเฟิ่งจิ่วเหยียนจนขาดวิ่นแม้แต่ ปอยเส้นผมของนางก็ยังถูกใบไม้ตัดจนตกลงที่ข้างเท้าของนางหากมิเพราะมีหน้ากากสีเงินปกปิดใบหน้า

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1205

    ขณะที่องค์หญิงเซี่ยนอี๋กำลังถือพู่หยกอย่างพึงพอใจ ทันใดนั้นชายหนุ่มก็บีบคอของนาง  จนโซ่ที่ล่ามไว้ส่งเสียง“อึก!” นางพลันเบิกตากว้างไหนเสด็จพี่สี่บอกว่า ฮ่องเต้ฉีสูญเสียพลังภายในไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?เดิมทีเซียวอวี้คิดจะให้ความร่วมมือนาง เพื่อให้นางช่วยตัวเองหนีออกไปจากที่แห่งนี้ทว่า เขาประเมินความอดทนของตัวเองไว้สูงเกินไปเขาทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ!นางกล้าเอาพู่หยกนั้นไป!หลังจากเซียวอวี้บีบคอนาง นางก็พยายามชูพู่หยกไปด้านหลัง ไม่ยอมคืนให้เขาแต่ด้วยแรงมือของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ นางใกล้หมดลม แขนจึงหลุบลงเช่นนี้ เซียวอวี้จึงแย่งพู่หยกกลับมาได้ จากนั้นก็สะบัดนางออก ราวกับเพิ่งจับสิ่งของสกปรกมา ทั้งยังพูดอย่างไม่รักษาน้ำใจ“ไสหัวไป!”องค์หญิงเซี่ยนอี๋ได้รับความรักมาตั้งแต่เด็ก ไฉนเลยจะเคยถูกดูแคลนขนาดนี้นางไม่ยอม จึงจ้องเซียวอวี้ตาเขม็ง“ท่านจะต้องเสียใจ! นอกจากข้า ก็ไม่มีผู้ใดช่วยเจ้าออกไปจากที่นี่ได้!”เซียวอวี้ไม่สนใจนางอีกหากเพื่อหนีออกไป แล้วต้องร่วมเออออห่อหมกไปกับผู้หญิงคนนี้ เขากลัวสกปรกองค์หญิงเซี่ยนอี๋ถูกทำลายศักดิ์ศรี ลุกขึ้น แล้วยิ้มเยาะ“ท่านลำพองใจอะไรนัก? เป็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1204

    องค์ชายสี่อ่านความคิดขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ออก จึงมีสีหน้าเคร่งขรึม“คนที่ขังอยู่ในนั้นคือใคร เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ต่อให้เสด็จพ่อจะตามใจเจ้าแค่ไหน ก็ไม่มีทางมอบเขาให้เจ้าแน่ เซี่ยนอี๋ เจ้าเลิกคิดเถิด”“หากท่านไม่บอก พรุ่งนี้ข้าจะมาอีก!” องค์หญิงเซี่ยนอี๋กอดอก พูดข่มขู่องค์ชายสี่กลัวเหลือเกินว่านางจะมาสร้างเรื่องวุ่นวายยัยเด็กนี่ดื้อรั้นมาตั้งแต่เด็ก ไม่ถึงเป้าหมายก็จะไม่ยอมหยุดครุ่นคิดอยู่นาน องค์ชายสี่ก็ตัดสินใจบอกนาง“นั่นคือฮ่องเต้ฉี คนที่เสด็จพ่อใช้ความพยายามอย่างมากในการจับตัวมา”ให้นางรู้ถึงตัวตนของคนผู้นั้น นางจะได้หวาดกลัวองค์หญิงเซี่ยนอี๋เบิกตาอ้าปากค้างในทันที จากนั้นใบหน้าก็ก่อเกิดริ้วแดง“เขาคือ…”นางไม่อยากจะเชื่อชื่อเสียงของฮ่องเต้หนุ่มจากหนานฉี นางเคยได้ยินมาเป็นเวลานานแล้วครั้งนี้ได้มาเจอ ช่างหล่อเหลาโดดเด่นอย่างที่ร่ำลือกันไม่มีผิดดูดีกว่าบรรดาราชบุตรเขยที่เสด็จพ่อให้นางเลือกเสียอีกและยังเป็นคนน่าเกรงขามถึงเพียงนั้น…องค์หญิงเซี่ยนอี๋จับชายเสื้อขององค์ชายสี่อย่างตื่นเต้น “เสด็จพี่ เสด็จพี่คนดีของข้า ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเรื่องสำคัญของท่านกับเสด็จพ่อเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1203

    วังหลังเหล่าสนมต่างเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับราชสำนักส่วนหน้ามาบ้าง“ฮองเฮาจะให้เด็กเล็กขนาดนั้นขึ้นครองราชย์จริงหรือ? ช่างเละเทะเสียจริง!”“เห็นได้ชัดว่าหวังเพื่อควบคุมโอรสสวรรค์!”“นี่ก็เป็นส่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มิใช่หรือ ในเมื่อเหล่าขุนนางต่างพากันกดดันอย่างหนัก และยังมีทายาทในราชวงศ์ที่ไม่อยู่นิ่งอีกด้วย…”“ใช่สิ หากฮองเฮาไม่ทำเช่นนี้ พวกเราก็จะเดือดร้อนด้วย หากมีฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์  สิ่งแรกที่จะทำต้องเป็นการจัดวังหลังใหม่เป็นแน่”พวกนางกังวลเกี่ยวกับผลสรุปของราชสำนักส่วนหน้าหลังจากรอคอยอยู่หนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็มีขันทีมารายงาน——องค์ชายน้อยได้ขึ้นครองบัลลังก์มังกรสำเร็จแล้ว แต่ยังมีคนยึดติดเรื่องฝาแฝดไม่ยอมปล่อยวาง บังคับให้ฮองเฮาต้องสังหารองค์ชายอีกองค์ทิ้งเมื่อเหล่านางสนมได้ยิน ก็เริ่มเป็นห่วงฮองเฮาขึ้นมาในฐานะเป็นแม่ จะทำใจทิ้งลูกแท้ ๆ ได้อย่างไร?ขุนนางใหญ่เหล่านั้นทำมากเกินไปแล้ว!ทว่า ฝาแฝดก็เป็นปัญหาจริง ๆ ไม่รู้ว่าฮองเฮาจะรับมืออย่างไรไม่นาน ก็มีขันทีมารายงานอีก“พระนางทุกท่าน เหล่าขุนนางได้สลายตัวแล้ว!”นางสนมทั้งหลายแปลกใจอย่างมากทำไมสลายต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1202

    เฟิ่งจิ่วเหยียนอุ้มลูก ยืนอยู่บนที่สูง แววตาสุขุมแน่วแน่“หากข้าอยากว่าราชการหลังม่าน แล้วเหตุใดจะไม่ได้?”เมื่อคำนี้พูดออกมา ทุกคนต่างส่งเสียงเกรียวกราว“ฮองเฮา ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับให้แม่ไก่มาขันในตอนเช้า นั่นฝ่าฝืนกฎเกณฑ์!”“ขออภัยกระหม่อมขอคัดค้าน!”ไทฮองไทเฮามีสีหน้าโรยรา มองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียน แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอาฮองเฮาทำเช่นนี้ มันเสี่ยงมากเกินไปพูดตรงขนาดนี้ ขุนนางคนไหนจะยอมรับได้?เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น จึงวางองค์ชายลงบนบัลลังก์“ไม่ต้องกล่าวถึงว่าฝ่าบาทยังไม่เสด็จสวรรคต ถึงแม้ว่าท่านเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็ยังมีองค์ชายสืบราชบัลลังก์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงเวลาสำหรับทุกท่านหรอก“วันนี้พวกเจ้าต่างพูดกันเซ็นแซ่ ราวกับอยากวางแผนชิงบัลลังก์เลยนะ!”ทหารคนหนึ่งโต้กลับไปอย่างฮึกเหิม“ฮองเฮา พวกกระหม่อมบริสุทธิ์ใจ กลับถูกท่านหยามเกียรติเช่นนี้! พวกกระหม่อมไม่ยอม!”ท่านอ๋องผู้หนึ่งมองไปทางไทฮองไทเฮา“เสด็จย่า ท่านพูดอะไรบ้างสิ!”เด็กทารกจะไปทำอะไรได้? คุ้มครองแผ่นดินไหวหรือ?จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็บอกว่าปวดหัว แล้วให้สาวใช้ประคองตัวเองออกไปเหล่าท่านอ๋องต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1201

    แคว้นหนานฉีณ เมืองหลวงเรื่องที่ฮองเฮากลับวัง และให้กำเนิดฝาแฝด ใต้หล้าต่างรู้กันถ้วนหน้าอย่างรวดเร็วในวังหลวง ไทเฮาทั้งดีใจที่องค์ชายถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งกังวลเรื่องฝาแฝดนางเรียกฮองเฮามาที่ตำหนักฉือหนิง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับอีกฝ่าย“หากราชวงศ์มีฝาแฝด โดยเฉพาะองค์ชาย เช่นนั้นก็ต้องส่งคนหนึ่งออกไปนอกวัง“ฮองเฮา ข้ารู้ ไม่ว่าจะหน้ามือหรือหลังมือล้วนคือเลือดเนื้อ แต่เพื่อราชวงศ์ เจ้าต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด”ขนาดตอนนั้นตระกูลเฟิ่งมีลูกแฝดยังทอดทิ้งหนึ่งคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ใบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ กล่าวเหมือนไม่ได้ยิน“เด็กทั้งสองคน จะไม่มีใครถูกส่งออกไปทั้งนั้น”เซียวอวี้เองก็เคยพูด เขาจะปกป้องลูกของตัวเองไทเฮารู้เป็นอย่างดีว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กฎก็เป็นเช่นนี้“ฮองเฮา อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลย แม้นข้าจะยินยอม ขุนนางใหญ่เหล่านั้นก็คงไม่ยอมอยู่ดี“วันนี้อยากให้เจ้าเตรียมพร้อม“สุดท้ายเจ้าก็ต้องตัดสินใจ”วังหลังเหล่านางสนมรวมตัวกัน ต่างคนต่างมีความคิดแตกต่างกัน“มีคนบอกว่าฝ่าบาทเกิดเรื่อง  จริงหรือไม่?”“มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1200

    เซียวอวี้ที่ยังคงคอพับไร้เรี่ยวแรง ยกยิ้มเย็นที่มุมปากอย่างถากถางเขาไม่พูดอะไร ท่าทางทะนงองอาจคนที่อยู่ตรงหน้าแนะนำตัว “ข้าคือองค์ชายสี่แห่งแคว้นเป่ยเยี่ยน ครั้งนี้มาเป็นตัวแทนของเสด็จพ่อ เพื่อแสดงไมตรีในฐานะเจ้าบ้านต่อฮ่องเต้หนานฉี”เมื่อองค์ชายสี่มองส่งสัญญาณ ข้ารับใช้ก็นำอาหารเข้ามาเซียวอวี้ไม่แม้แต่จะมององค์ชายสี่มีความอดทน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม“ฮ่องเต้หนานฉี พวกเราแคว้นเป่ยเยี่ยนเชิญท่านมาเป็นแขกด้วยความจริงใจ“เพียงแต่ข้างนอกอันตรายเกินไป จึงได้แต่จัดให้ท่านอยู่ที่นี่“ท่านวางใจเถิด รอให้แคว้นเป่ยเยี่ยนขับไล่กองทัพแคว้นหนานฉีออกไปจนได้ดินแดนที่สูญเสียไปคืนมา ย่อมปล่อยตัวท่านกลับไป”ริมฝีปากบางของเซียวอวี้ยิ้มเยาะเบา ๆพูดเสียดูดี ที่จริงก็แค่เอาเขาเป็นตัวประกัน ทำให้กองทัพแคว้นหนานฉีต่อต้านไม่ได้ก็เท่านั้นองค์ชายสี่เห็นเขาเยือกเย็นเพียงนี้ จึงขอตัวไปก่อนทว่าเมื่อออกมาด้านนอก องค์ชายสี่ก็พูดอย่างเย้ยหยัน“ตกเป็นเชลยแล้วยังจะโอหังเพียงนี้!”ที่ปรึกษาที่อยู่ข้างกายเขาพูด“องค์ชาย ฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ได้ยินว่าฮ่องเต้หนานฉีผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1199

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพรวมเป็นสำคัญ จึงต้องกลับแคว้นหนานฉีก่อนอู๋ไป๋วิตกกังวล“ท่านประมุข กระหม่อมกลัวว่านักฆ่าพวกนั้นจะลงมือกับท่านด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าท่านประมุขเพิ่งจะคลอดลูก จะทนรับแรงสั่นสะเทือนจากการเดินทางได้เช่นไร?สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“กลับแคว้นหนานฉี”ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ต้องกลับไปกลัวก็กลัวแต่ เป้าหมายของนักฆ่าพวกนั้นคือก่อกวนแคว้นหนานฉี นางจะปล่อยให้พวกเขาสมหวังไม่ได้เด็ดขาดก่อนที่จะตามหาเซียวอวี้เจอ นางจะต้องช่วยเขาปกป้องแคว้นหนานฉีเอาไว้ให้ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดการเรื่องในแคว้นซีนี่ว์ไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงว่าจะจัดการขับไล่กองทัพแคว้นเป่ยเยี่ยนอย่างไร ไปจนถึงผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นคนใหม่ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ประมุขคนใหม่ใช้อำนาจอย่างเผด็จการ นางจึงจัดตั้งนโยบายสามประมุขขึ้นในบรรดาสามคนนี้ มีคนหนึ่งเป็นบุรุษทำเช่นนี้จะได้ปลอบโยนเหล่าบุรุษในแคว้นซีนี่ว์ ป้องกันไม่ให้พวกเขาสร้างเรื่องวุ่นวายอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนออกเดินทางกลับแคว้นหนานฉีอย่างรวดเร็วแม้ว่าหูย่วนเอ๋อร์จะตัดใจไม่ลง ทว่านางก็รู้ดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1198

    ประตูตำหนักเปิดออก นางกำนัลเดินออกมาจากด้านในแล้วพูดกับหูย่วนเอ๋อร์: “ท่านแม่ทัพ ท่านประมุขคลอดองค์ชายพระองค์หนึ่งออกมาอย่างปลอดภัยเพคะ”ที่แคว้นซีหนี่ว์ มีเพียงองค์หญิงเท่านั้นที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขได้ ดังนั้นองค์ชายผู้นี้จึงไม่เป็นที่ต้องการทว่าหูย่วนเอ๋อร์ยังคงรู้สึกขอบคุณสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง“องค์ชายก็ดี ปลอดภัยก็ดีแล้ว”ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสายเลือดเชื้อพระวงศ์เพิ่งจะพูดจบ หมอตำแยข้างในก็ร้องตะโกนอย่างตกใจ“ยังมีอีกพระองค์หนึ่ง!”ที่แท้ท่านประมุขก็ทรงตั้งครรภ์ฝาแฝดนี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคนแววตาหูย่วนเอ๋อร์มีความยินดีและการเฝ้ารอพาดผ่านหวังว่าจะเป็นแฝดชายหญิงหากเป็นองค์หญิง อนาคตย่อมสามารถสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นได้ภายในตำหนักเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกไม่ถึงว่าคลอดออกมาแล้วคนหนึ่ง แล้วยังมีอีกคนโชคดีที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังใช้แรงไปไม่หมดก่อนหน้านี้เป็นเพราะตำแหน่งครรภ์ไม่ตรงจึงคลอดยากคนที่สองนี้กลับคลอดง่ายกว่ามาก ทว่าตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกอะไรแล้ว นางเจ็บปวดจนชาไปหมดแล้ว ร่างกายส่วนล่างบวมเสียจนเหมือนว่าเนื้อส่วนนั้นไม่ใช่ของนางอีกต่อไปจนกร

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status