แชร์

บทที่ 531

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-23 17:00:00
เฟิ่งจิ่วเหยียนกับองค์หญิงน้อยนั่งอยู่ภายในรถม้าด้วยกัน

องครักษ์ใบ้ผู้นั้นก็ก้มตัวจะเข้าไปในห้องโดยสารโดยมิรู้ตัว แต่ถูกองค์หญิงน้อยทำท่าทางดุดันใส่

“เจ้าเข้ามา แล้วผู้ใดจะขับรถม้า!”

องครักษ์ใบ้ตัวเกร็งไปชั่วขณะ จากนั้นจึงออกไปทันที

เฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้สึกอึดอัดใจเช่นกัน

“องค์หญิง ข้าน้อยออกไปด้านนอกจะดีกว่า...”

องค์หญิงน้อยกอดแขนของนางเอาไว้แน่น พร้อมกับส่ายหัวให้นาง

“ไม่ได้ พี่ชายใหญ่ ท่านต้องคุ้มกันข้าอย่างใกล้ชิด”

เฟิ่งจิ่วเหยียนดึงแขนของตนออกมา พร้อมเอ่ยอย่างจริงจัง

“องค์หญิง ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน”

ถึงแม้องค์หญิงจะยังทรงพระเยาว์ ก็ควรระวังตัวเช่นกัน

องค์หญิงน้อยกลับจ้องมองนาง พร้อมเอ่ยด้วยท่าทีซ่อนเร้น

“ข้ารู้แล้ว”

รถม้าโคลงเคลง องค์หญิงน้อยทรงง่วงเพลียอย่างมาก จึงเอนตัวลงและบรรทมหลับอยู่ด้านใน

ยามที่ตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว

นางหิวแล้ว จึงทำได้เพียงกินอาหารแห้งไปก่อน

เฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดม่านขึ้น และเอ่ยกับองครักษ์ใบ้ผู้นั้น

“หยุดพักก่อนเถอะ ข้าจะขับให้”

องครักษ์ใบ้ทำเหมือนไม่ได้ยิน บางทีเสียงลมที่พัดผ่านหูอาจจะดังเกินไป จนกลบเสียงของนาง

เฟิ่งจิ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Nichaphat
เสน่ห์แรง จริงๆ ค่ะ
goodnovel comment avatar
Noo Siri Siri
ฮ่องเต้ ก็ปลอมเป็นใบ้ สะได้นะ
goodnovel comment avatar
WLFJ
แล้วองค์หญิงน้อยแอบฟังอะไรอ่ะ 555
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 532

    หลังจากองครักษ์ใบ้กลับเข้าห้อง กลับเห็นบุรุษที่อยู่บนคานห้องผู้นั้นนั่งอยู่ตรงนั้น มือข้างหนึ่งวางอยู่บนเข่าที่งอขึ้น และมองลงมาที่เขา พร้อมกับถามด้วยความสงสัย“ไปทำสิ่งใดมา?”เฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ภายนอกจะระวังตัวอย่างมาก กลางวันนอน และกลางคืนเฝ้ายามขณะที่คนผู้นี้ออกไปนางก็รู้แล้วทว่าเขาอยู่นอกประตูตลอดเวลา มิได้ไปที่ใดอีก นางจึงมิได้ตามออกไปสืบดู นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่รุ่ยอ๋องไว้วางใจ นางก็มิควรทำตัวสอดรู้สอดเห็นองครักษ์ใบ้ทำภาษามือง่าย ๆ ราวกับจะบอกว่าเขาออกไปเดินรอบ ๆ มาเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้เค้นถามสิ่งใดอีก จึงเอนนอนลงไปตามเดิมบุรุษเหลือบมองนางแวบหนึ่ง ในดวงตามีเงามืดกระดำกระด่าง...วันรุ่งขึ้น คณะสามคนรีบเดินทางต่อองค์หญิงน้อยทรงถามเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยความใส่พระทัย“พี่ชายใหญ่ เมื่อคืนท่านกับคนประหลาดผู้นั้นนอนด้วยกันหรือ?”ชายชาตรีสองคน หากไม่นอนด้วยกัน ก็อาจจะดูแปลกอยู่บ้างเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้อธิบายมากความ นางฉวยจังหวะแขวนขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ไว้บนคอขององค์หญิงน้อยองค์หญิงน้อยก็หยิบขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่นั้นขึ้นมากินโดยปริยายเฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 533

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้มาว่า ตอนนี้กองทัพกบฏในเมืองเซวียนถูกแบ่งออกเป็นสองกองกำลังฝ่ายหนึ่งนำโดยแม่ทัพฝ่ายซ้ายหวังโซ่วเหริน พวกเขาเป็นพวกหัวรุนแรง ไม่สนใจชีวิตของราษฎรอีกฝ่ายนำโดยแม่ทัพฝ่ายขวาเซี่ยงเทียน พวกเขาสนับสนุนการใช้สันติวิธีในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงสิ่งที่สมควรได้รับ ทั้งจดจำอยู่เสมอว่าตนคือทหาร เป็นทหารที่ปกป้องราษฎรความละมุนละม่อมเพียงอย่างเดียวมิอาจเอาชนะความโหดเหี้ยมได้ทหารของเซี่ยงเทียนถูกส่งไปเฝ้าประตูเมืองทั้งสี่แห่ง ถูกโยกย้ายออกจากใจกลางของเมืองเซวียนตอนนี้ในเมืองเต็มไปด้วยทหารของหวังโซ่วเหริน พวกเขาถืออำนาจบาตรใหญ่ ไม่เกรงกลัวสิ่งใดจวนของจู้กั๋วกงก็ถูกพวกเขายึดครองด้วยสิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องทำคือรอให้ตงฟางซื่อลงมือเพื่อสถานการณ์โดยรวม นางไม่สามารถก่อปัญหาใหม่เพิ่มมาอีก ในคืนนั้นจึงซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งของชาวบ้านอีกด้านหนึ่งองครักษ์ใบ้พาองค์หญิงน้อยไปค้นหาอยู่รอบหนึ่ง ก็ยังไม่พบแผนที่สมบัติแผ่นนั้น ทว่าเขาขุดต้นไม้ไปหลายต้นแล้วกระทั่งขณะที่ขุดมาถึงต้นที่สิบสอง องครักษ์ใบ้ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป“ท่านจำได้หรือจำไม่ได้กันแน่!”องค์หญิงน้อย: !!!นิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 534

    ทันใดนั้น มีคนสวมหน้ากากผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น และขวางทางเซี่ยงเทียนกับคณะของเขาไว้“เจ้าเป็นผู้ใด!!” เซี่ยงเทียนระแวดระวังขึ้นมาทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เอ่ยสิ่งใด พร้อมกระโดดขึ้นไปบนหลังคาเซี่ยงเทียนรีบตามไปทันที และตะโกนว่า “จับนักฆ่า!”อีกด้านหนึ่งณ จวนจู้กั๋วกงในห้องโถงหลักหวังโซ่วเหรินกำลังสนทนากับคนผู้หนึ่ง คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็คือ บุรุษสวมชุดคลุมขาวผู้หนึ่ง บนใบหน้าสวมหน้ากาก มองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน ทว่าบนนิ้วมือมีแหวนน้าวสวมอยู่หวังโซ่วเหรินมีท่าทีเคารพคนผู้นี้เป็นพิเศษ“นายท่านวางใจได้ ทุกอย่างดำเนินตามแผนของนายท่าน...”ทันใดนั้น คนชุดคลุมขาวรับรู้ถึงบางอย่าง เขาเหวี่ยงมือ อาวุธลับที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อก็พุ่งออกไปขณะที่ทั้งสองคนไล่ตามออกไป ก็เห็นเพียงเงาดำกระโดดข้ามออกจากกำแพงไปหวังโซ่วเหรินเหงื่อแตกพลั่กในทันที “นี่...”คนชุดคลุมขาวสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ไล่ตาม!”ทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีคนสวมชุดคลุมขาวเหมือนกันหลายสิบคนปรากฏตัวออกมาจากในที่ลับ ราวกับลูกธนูคมไล่ตามคนชุดดำผู้นั้นไปหลังจากองครักษ์ใบ้หนีออกมาจากจวนจู้กั๋วกง ก็มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกด้านหลัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1

    “แม่ทัพน้อย สารด่วนที่สุด! คุณหนูใหญ่ได้รับความอัปยศจนปลิดชีพตัวเอง นายหญิงต้องการให้ท่านกลับโดยเร็วที่สุด เพื่ออภิเษกสมรสแทนคุณหนูใหญ่!”ชายแดนแคว้นหนานฉี เกือกม้าย่ำผ่านลำธารที่เพิ่งละลาย หยดน้ำกระเซ็นซ่านเฟิ่งจิ่วเหยียนควบม้านำอยู่หน้าสุด นางสวมอาภรณ์เรียบง่ายแขนสอบสีดำ ใช้ปิ่นไม้อันเดียวรวบผมดำขลับ เส้นผมและชายชุดสะบัดพลิ้ว ในความองอาจเหนือคนนั้นแฝงไว้ซึ่งอารมณ์อันคุกรุ่นนางกับเฟิ่งเวยเฉียงน้องสาวเป็นฝาแฝดกัน แต่เนื่องจากการมีฝาแฝดไม่เป็นมงคล นางจึงถูกเลี้ยงดูอยู่ข้างนอกมาตั้งแต่เล็กเวยเฉียงมีนิสัยอ่อนโยนอ่อนหวาน ไม่เคยผูกความแค้นกับใครนางไม่เข้าใจเลย ใครจะทำร้ายคนที่บริสุทธิ์ดีงามเช่นนั้นนางจะจับคนผู้นั้นมาถลกหนังเลาะกระดูก สับเป็นชิ้น ๆ ป้อนให้สุนัขกินเสีย!องครักษ์เห็นว่าจะตามไม่ทันความเร็วของนางแล้วจึงตะโกนว่า“แม่ทัพน้อย ตอนนี้ควบม้าตายไปสองตัวแล้ว ข้างหน้ามีโรงเตี๊ยม แวะพักก่อนดีหรือไม่...”เฟิ่งจิ่วเหยียนสะบัดแส้ม้า“ตามไม่ทันก็ไสหัวกลับค่ายทหาร! ย่าห์!”โง่เง่า! มีเวลามาพักผ่อนเสียที่ไหน!สิ่งที่นางแบกรับอยู่ตอนนี้คือหนึ่งร้อยกว่าชีวิตในตระกูลเฟิ่ง!องคร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-10
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 2

    เฟิ่งจิ่วเหยียนที่อยู่ในห้องหรี่ดวงเนตรงามลงเล็กน้อยวันนี้ไม่ว่าผลตรวจร่างกายเป็นเช่นไร ก็ล้วนแต่ไม่เป็นผลดีต่อตระกูลเฟิ่งทั้งสิ้นหวงกุ้ยเฟยจะต้องตัดสินว่าบุตรีตระกูลเฟิ่งไม่บริสุทธิ์เป็นแน่ จากนั้นก็ใช้เหตุนี้สร้างเรื่องตามมาถ้าคนที่มาสวมรอยแทนอย่างนางถูกตรวจร่างกายได้ผลว่ายังบริสุทธิ์ ถึงจะสามารถป้องกันแผนร้ายของหวงกุ้ยเฟย แต่ก็คงจะทำให้หวงกุ้ยเฟยนึกสงสัยขึ้นมาทันทีที่เรื่องสวมรอยแต่งงานมีพิรุธปรากฏ ถึงยามนั้นโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงก็เพียงพอให้ตระกูลเฟิ่งประสบหายนะได้แล้ว!สายตาเฟิ่งจิ่วเหยียนมองตรงไปข้างหน้า ใช้มือที่จับทวนมาจนชินนั้นแต้มบุปผาตรงหว่างคิ้วของตนเองอย่างหนักแน่นสิ่งที่อาจารย์สั่งสอนนางมีเพียงหลักพิชัยสงครามและหลักการเป็นขุนนางอาจารย์หญิงเคยสอนหลักการครองเรือนให้นาง ในนั้นย่อมมีธรรมเนียมปฏิบัติในวังหลวงด้วยเช่นกัน ยามนั้นแม้นางได้เรียนรู้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้นำมาใช้งานเพราะปณิธานของนางอยู่ที่ใต้หล้า ไม่ต้องการถูกคุมขังไว้ในเรือน เป็นเพียงภรรยาตัวน้อยที่โอนอ่อนผ่อนตามสามีคิดไม่ถึงว่าคนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิตนอกห้องขันทีผู้นั้นเดินนำนางกำนัลจากในวังหลวงตรงมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-10
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 3

    ณ ตำหนักฉือหนิง ที่ประทับของไทเฮาไทเฮาได้ยินเรื่องที่จวนตระกูลเฟิ่งแล้วก็มีสีพระพักตร์แช่มชื่น กล่าวกับกุ้ยหมัวมัวที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายว่า“ตอนงานวันเกิดของข้าปีที่แล้ว เคยเห็นเฟิ่งเวยเฉียงผู้นั้น นิสัยนางอ่อนโยนเกินไป เวลานั้นข้าก็รู้สึกว่านางยากจะรั้งตำแหน่งฮองเฮาได้“เรื่องในวันนี้กลับแปลกใหม่นัก ถึงกับโต้แย้งคนของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ต่อหน้าธารกำนัล“ข้าต้องมองนางใหม่เสียแล้ว”กุ้ยหมัวมัวเป็นคนเก่าคนแก่ข้างกายไทเฮา เข้าใจความซับซ้อนในวังอย่างลึกซึ้ง นางรินน้ำชาร้อนกรุ่นให้ไทเฮา“แต่ดูจากความโปรดปรานที่ฝ่าบาทมีต่อหวงกุ้ยเฟย แม้ฮองเฮาจะปราดเปรื่องกล้าหาญเพียงไหนก็ยากจะรับมือท่านที่อยู่ตำหนักหลิงเซียวผู้นั้นได้ คืนนี้ ยากจะรับประกันว่าหวงกุ้ยเฟยจะไม่ก่อเรื่องนะเพคะ”เห็นได้ชัดว่านางมีความเห็นแตกต่างจากไทเฮา ไม่คิดว่าฮองเฮาจะมีความสามารถถึงเพียงนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าไทเฮาสลายไป“เจ้าพูดถูก ข้ายังจำได้ว่า วันที่ซิ่วหว่านเข้าวัง เดิมนั้นฝ่าบาทตั้งใจจะไปหานาง ผู้ใดจะคาดคิดว่าหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ผู้นั้นจะเข้ามาขัดขวาง เชิญฝ่าบาทไปหา“น่าสงสารก็แต่ซิ่วหว่านเด็กคนนั้น แม้แต่อาหญิงอย่างข้าก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-10
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 4

    ฮ่องเต้ทรราชจะเสด็จมา เฟิ่งจิ่วเหยียนได้แต่บอกให้เหลียนซวงทำทรงผมกลับไปตามเดิม แต่มือของเหลียนซวงสั่นเทิ้ม คิดว่าคงเป็นเพราะหวาดกลัวฮ่องเต้ทรราชที่กำลังจะมาเยือนผู้นั้นนางมือสั่น ย่อมทำผิดพลาดอย่างไม่อาจเลี่ยงเมื่อถูกถอนผมเป็นเส้นที่สาม เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ทนไม่ไหว เอ่ยเสียงเย็นชาว่า“ถอยไป ข้าจัดการเอง” นางเชี่ยวชาญวิชาแปลงโฉม การฝึกฝนทำผมทรงต่าง ๆ ให้ได้อย่างคล่องแคล่วจึงเป็นสิ่งจำเป็นด้วยเหตุนี้ นางจัดแจงเพียงไม่กี่ครั้งก็ทำให้ทรงผมกลับไปเหมือนตอนแรกได้แล้ว เหลียนซวงเห็นแล้วก็ตกตะลึงเหลือล้น“ฮองเฮา ท่านมีฝีมือยอดเยี่ยมนักเพคะ!”แต่ขณะที่ฝั่งพวกนางเตรียมความพร้อมต้อนรับฮ่องเต้ คนจากนอกตำหนักก็มารายงานอีกครั้งว่า“ฮองเฮา โรคปวดศีรษะของหวงกุ้ยเฟยกำเริบ ฝ่าบาทเสด็จไปตำหนักหลิงเซียวแล้วเพคะ”เหลียนซวงเผยอปาก รู้สึกโมโหแต่ไม่กล้าพูดออกมาหวงกุ้ยเฟยจะต้องแกล้งป่วยเป็นแน่ โรคปวดศีรษะกำเริบขึ้นมาตอนนี้ จะเหมาะเจาะขนาดนี้ได้อย่างไรคงเห็นว่าฝ่าบาทเสด็จกลับวังมาแล้วจึงให้คนไปเชิญน่ะสิพอเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินคำว่าหวงกุ้ยเฟยก็คิดถึงเวยเฉียงน้องสาวเวยเฉียงถูกทำร้ายแสนสาหัสจนถึงแก่คว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-10
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 5

    กลับถึงห้องหอ หัวหน้าหมัวมัวที่ตอนแรกก้มหน้าก้มตาท่าทางเข้มงวดก็สั่งให้คนเตรียมน้ำมาปรนนิบัติฮองเฮาอาบน้ำนางเบียดเหลียนซวงออก เข้ามายิ้มกว้างให้เฟิ่งจิ่วเหยียน“ฮองเฮา หลายปีมานี้ นอกจากหวงกุ้ยเฟยแล้ว ฝ่าบาทยังไม่เคยโปรดปรานสนมคนอื่นมาก่อนเลยนะเพคะ ท่านนับเป็นคนแรก!”เหลียนซวงยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกไม่ใคร่พอใจหมัวมัวผู้นี้ตอนแรกยังไม่เห็นว่านางจะปรนนิบัติด้วยความกระตือรือร้นปานนี้ ช่างเป็นพวกประจบผู้มีอำนาจเหยียบย่ำคนฐานะต่ำกว่าโดยแท้ในวังหลวงแห่งนี้ ฐานะของสตรีล้วนพึ่งพาความโปรดปรานของฮ่องเต้ดังคาด มิฉะนั้น ต่อให้สูงส่งเป็นฮองเฮาก็ยังถูกเมินเฉยไม่ได้รับการเหลียวแลหัวหน้าหมัวมัวพูดอะไรไปมากมาย เฟิ่งจิ่วเหยียนล้วนไม่ตอบนางสั่งความอย่างเย็นชา “ออกไปให้หมด ให้เหลียนซวงปรนนิบัติในตำหนักคนเดียวก็พอ”……หลังจากในตำหนักเงียบลงแล้ว เหลียนซวงก็ถามอย่างกังวลใจ“ฮองเฮา ฝ่าบาทเสด็จมาย่อมเป็นเรื่องดี“แต่ท่านทำเช่นนี้ จะมิเป็นการขัดแย้งกับหวงกุ้ยเฟยหรือเพคะ?“นายหญิงบอกให้พวกเราอยู่ในวังหลวงอย่างเงียบ ๆ อย่าสร้างศัตรู โดยเฉพาะหวงกุ้ยเฟย...”“ท่านแม่ก็สอนเวยเฉียงเช่นนี้หรือ” เฟิ่งจิ่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-10

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 534

    ทันใดนั้น มีคนสวมหน้ากากผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น และขวางทางเซี่ยงเทียนกับคณะของเขาไว้“เจ้าเป็นผู้ใด!!” เซี่ยงเทียนระแวดระวังขึ้นมาทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เอ่ยสิ่งใด พร้อมกระโดดขึ้นไปบนหลังคาเซี่ยงเทียนรีบตามไปทันที และตะโกนว่า “จับนักฆ่า!”อีกด้านหนึ่งณ จวนจู้กั๋วกงในห้องโถงหลักหวังโซ่วเหรินกำลังสนทนากับคนผู้หนึ่ง คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็คือ บุรุษสวมชุดคลุมขาวผู้หนึ่ง บนใบหน้าสวมหน้ากาก มองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน ทว่าบนนิ้วมือมีแหวนน้าวสวมอยู่หวังโซ่วเหรินมีท่าทีเคารพคนผู้นี้เป็นพิเศษ“นายท่านวางใจได้ ทุกอย่างดำเนินตามแผนของนายท่าน...”ทันใดนั้น คนชุดคลุมขาวรับรู้ถึงบางอย่าง เขาเหวี่ยงมือ อาวุธลับที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อก็พุ่งออกไปขณะที่ทั้งสองคนไล่ตามออกไป ก็เห็นเพียงเงาดำกระโดดข้ามออกจากกำแพงไปหวังโซ่วเหรินเหงื่อแตกพลั่กในทันที “นี่...”คนชุดคลุมขาวสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ไล่ตาม!”ทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีคนสวมชุดคลุมขาวเหมือนกันหลายสิบคนปรากฏตัวออกมาจากในที่ลับ ราวกับลูกธนูคมไล่ตามคนชุดดำผู้นั้นไปหลังจากองครักษ์ใบ้หนีออกมาจากจวนจู้กั๋วกง ก็มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกด้านหลัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 533

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้มาว่า ตอนนี้กองทัพกบฏในเมืองเซวียนถูกแบ่งออกเป็นสองกองกำลังฝ่ายหนึ่งนำโดยแม่ทัพฝ่ายซ้ายหวังโซ่วเหริน พวกเขาเป็นพวกหัวรุนแรง ไม่สนใจชีวิตของราษฎรอีกฝ่ายนำโดยแม่ทัพฝ่ายขวาเซี่ยงเทียน พวกเขาสนับสนุนการใช้สันติวิธีในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงสิ่งที่สมควรได้รับ ทั้งจดจำอยู่เสมอว่าตนคือทหาร เป็นทหารที่ปกป้องราษฎรความละมุนละม่อมเพียงอย่างเดียวมิอาจเอาชนะความโหดเหี้ยมได้ทหารของเซี่ยงเทียนถูกส่งไปเฝ้าประตูเมืองทั้งสี่แห่ง ถูกโยกย้ายออกจากใจกลางของเมืองเซวียนตอนนี้ในเมืองเต็มไปด้วยทหารของหวังโซ่วเหริน พวกเขาถืออำนาจบาตรใหญ่ ไม่เกรงกลัวสิ่งใดจวนของจู้กั๋วกงก็ถูกพวกเขายึดครองด้วยสิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องทำคือรอให้ตงฟางซื่อลงมือเพื่อสถานการณ์โดยรวม นางไม่สามารถก่อปัญหาใหม่เพิ่มมาอีก ในคืนนั้นจึงซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งของชาวบ้านอีกด้านหนึ่งองครักษ์ใบ้พาองค์หญิงน้อยไปค้นหาอยู่รอบหนึ่ง ก็ยังไม่พบแผนที่สมบัติแผ่นนั้น ทว่าเขาขุดต้นไม้ไปหลายต้นแล้วกระทั่งขณะที่ขุดมาถึงต้นที่สิบสอง องครักษ์ใบ้ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป“ท่านจำได้หรือจำไม่ได้กันแน่!”องค์หญิงน้อย: !!!นิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 532

    หลังจากองครักษ์ใบ้กลับเข้าห้อง กลับเห็นบุรุษที่อยู่บนคานห้องผู้นั้นนั่งอยู่ตรงนั้น มือข้างหนึ่งวางอยู่บนเข่าที่งอขึ้น และมองลงมาที่เขา พร้อมกับถามด้วยความสงสัย“ไปทำสิ่งใดมา?”เฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ภายนอกจะระวังตัวอย่างมาก กลางวันนอน และกลางคืนเฝ้ายามขณะที่คนผู้นี้ออกไปนางก็รู้แล้วทว่าเขาอยู่นอกประตูตลอดเวลา มิได้ไปที่ใดอีก นางจึงมิได้ตามออกไปสืบดู นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่รุ่ยอ๋องไว้วางใจ นางก็มิควรทำตัวสอดรู้สอดเห็นองครักษ์ใบ้ทำภาษามือง่าย ๆ ราวกับจะบอกว่าเขาออกไปเดินรอบ ๆ มาเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้เค้นถามสิ่งใดอีก จึงเอนนอนลงไปตามเดิมบุรุษเหลือบมองนางแวบหนึ่ง ในดวงตามีเงามืดกระดำกระด่าง...วันรุ่งขึ้น คณะสามคนรีบเดินทางต่อองค์หญิงน้อยทรงถามเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยความใส่พระทัย“พี่ชายใหญ่ เมื่อคืนท่านกับคนประหลาดผู้นั้นนอนด้วยกันหรือ?”ชายชาตรีสองคน หากไม่นอนด้วยกัน ก็อาจจะดูแปลกอยู่บ้างเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้อธิบายมากความ นางฉวยจังหวะแขวนขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ไว้บนคอขององค์หญิงน้อยองค์หญิงน้อยก็หยิบขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่นั้นขึ้นมากินโดยปริยายเฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 531

    เฟิ่งจิ่วเหยียนกับองค์หญิงน้อยนั่งอยู่ภายในรถม้าด้วยกันองครักษ์ใบ้ผู้นั้นก็ก้มตัวจะเข้าไปในห้องโดยสารโดยมิรู้ตัว แต่ถูกองค์หญิงน้อยทำท่าทางดุดันใส่“เจ้าเข้ามา แล้วผู้ใดจะขับรถม้า!”องครักษ์ใบ้ตัวเกร็งไปชั่วขณะ จากนั้นจึงออกไปทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้สึกอึดอัดใจเช่นกัน“องค์หญิง ข้าน้อยออกไปด้านนอกจะดีกว่า...”องค์หญิงน้อยกอดแขนของนางเอาไว้แน่น พร้อมกับส่ายหัวให้นาง“ไม่ได้ พี่ชายใหญ่ ท่านต้องคุ้มกันข้าอย่างใกล้ชิด”เฟิ่งจิ่วเหยียนดึงแขนของตนออกมา พร้อมเอ่ยอย่างจริงจัง“องค์หญิง ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน”ถึงแม้องค์หญิงจะยังทรงพระเยาว์ ก็ควรระวังตัวเช่นกันองค์หญิงน้อยกลับจ้องมองนาง พร้อมเอ่ยด้วยท่าทีซ่อนเร้น“ข้ารู้แล้ว”รถม้าโคลงเคลง องค์หญิงน้อยทรงง่วงเพลียอย่างมาก จึงเอนตัวลงและบรรทมหลับอยู่ด้านในยามที่ตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้วนางหิวแล้ว จึงทำได้เพียงกินอาหารแห้งไปก่อน เฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดม่านขึ้น และเอ่ยกับองครักษ์ใบ้ผู้นั้น“หยุดพักก่อนเถอะ ข้าจะขับให้”องครักษ์ใบ้ทำเหมือนไม่ได้ยิน บางทีเสียงลมที่พัดผ่านหูอาจจะดังเกินไป จนกลบเสียงของนางเฟิ่งจิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 530

    ครึ่งชั่วยามต่อมา หลังจากรุ่ยอ๋องหารือเรื่องเข้าเมืองเซวียนกับตงฟางซื่อเสร็จ ก็อยู่ค้างที่หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ต่อเหล่าฝานพาพวกเขาไปยังที่พักทันใดนั้น รุ่ยอ๋องก็โค้งคารวะเฟิ่งจิ่วเหยียน“ท่านนี้คือรองผู้นำพันธมิตรสินะ ตอนมาข้าจำเจ้าไม่ได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนคารวะกลับอย่างเรียบเฉยในตอนนี้เอง เด็กน้อยเซี่ยวเซี่ยวก็วิ่งเข้ามานางโถมตัวเข้าใส่อ้อมกอดของเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างคุ้นเคย จากนั้นก็ออดอ้อนออเซาะ“พี่ชาย ข้ากลัวความมืด เจ้าไปนอนกับข้า…”พูดยังไม่จบ นางก็เหลือบเห็นพวกรุ่ยอ๋องเด็กมักจะเก็บอาการไม่ได้ สีหน้าพลันเผยแววดีใจออกมาคนนี้ เหมือนจะเป็นท่านพี่รุ่ยอ๋องเลย!เขาตั้งใจมารับนางโดยเฉพาะเลยหรือ?องค์หญิงน้อยทั้งดีใจ ทั้งยังไม่อยากกลับ สีหน้าจึงดูยุ่งเหยิงในตอนนี้เอง รุ่ยอ๋องก็มองมาที่เซี่ยวเซี่ยวด้วยใบหน้าอ่อนโยนองค์หญิงน้อยไม่ค่อยกลับเมืองหลวง ครั้งล่าสุดที่เจอนาง เห็นจะเป็นเมื่อสามปีที่แล้วได้ แต่เขาก็ยังจำนางได้ตั้งแต่เห็นครั้งแรกอีกอย่าง ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทได้รับจดหมายจากพันธมิตรอู่หลิน เขียนบอกเรื่องที่พวกเขาช่วยองค์หญิงน้อยเอาไว้การที่เขามาเยือนเมืองตงซิ่นในครั้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 529

    แม้นตงฟางซื่อจะไม่พอใจที่เฟิ่งจิ่วเหยียนหายไปจากพันธมิตรอู่หลินในตอนนั้น กระนั้นก็ทนเห็นนางเข้าไปในแดนศัตรูคนเดียวไม่ได้เขามองนางแน่นิ่ง พูดอย่างประเมินว่า“เจ้าเปลี่ยนไปนะ“เมื่อก่อนเจ้าหวงแหนชีวิตเสียยิ่งกว่าอะไรดี เอาแต่พูดว่าไม่มีผู้ใดสำคัญไปกว่าตัวของเจ้าเอง”เฟิ่งจิ่วเหยียนรัดสนับข้อมือให้แน่น แล้วกล่าวเสียงทุ้มต่ำ“ตอนนี้ข้าก็ยังเป็นเช่นนั้น”ตงฟางซื่อห้ามนาง “เช่นนั้นก็ไม่ต้องรับเรื่องทุกอย่างไว้คนเดียว เจ้าไม่ได้นามสกุลเซียวเสียหน่อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองมาที่เขาอย่างเรียบนิ่งจากนั้นก็ได้ยินเขาพูดอย่างแน่วแน่“ซูฮ่วน เจ้าตั้งใจสืบเรื่องของพรรคเทียนหลงก็พอ ส่วนเรื่องเมืองเซวียน ข้าจะจัดการเอง”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว“เจ้าจะจัดการอย่างไร?”ใบหน้าหล่อเหลาของตงฟางซื่อปกคลุมไปด้วยรอยยิ้ม“วิชาปลอมตัวไง ข้าก็คิดเหมือนเจ้านั่นแหละ ส่วนตัวเลือกนั้น ข้าคิดว่า ไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่าข้าแล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งค้าง “เจ้า?”ขณะที่นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ตงฟางซื่อก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน“นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำในฐานะผู้นำพันธมิตร อย่าคิดที่จะห้ามข้าล่ะ เรื่องดี ๆ ที่สร้างผล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 528

    “บุตรสาวของจู้กั๋วกง แสดงว่าเป็นองค์หญิงน้อย ลูกพี่ลูกน้องของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันน่ะสิ?!” ฝานจิ้นตกตะลึงชาวยุทธภพ ไม่ชอบทุกเรื่องในราชสำนัก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับราชวงศ์หากองค์หญิงน้อยเป็นอะไรไปในถิ่นของพวกเขา ก็คงกลายเป็นเรื่องยุ่งยากคนอื่น ๆ ค่อนข้างสงสัย“รองผู้นำพันธมิตร นางบอกเองกับปากหรือ?”“ข้าเดาเอา” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดตามตรง“เช่นนั้นท่านดูออกได้อย่างไร?”ในตอนนี้เอง ตงฟางซื่อก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา“เสื้อผ้าอาภรณ์ของเด็กคนนั้นดูธรรมดาก็จริง แต่ลืมเปลี่ยนมาใส่รองเท้าธรรมดา “ผ้ากำมะหยี่  ปักด้วยไหมฝูกวง ล้วนเป็นของพระราชทานในราชวงศ์“เท้าของเด็กคนนั้นโตเร็ว แถมยังมีลีลาเช่นนี้ ก็คงต้องเป็นองค์หญิงน้อยแห่งจวนจู้กั๋วกงแล้วล่ะ”เขาพูดจบ จากนั้นก็หันไปมองเฟิ่งจิ่วเหยียน ใช้สายตาถามว่าตัวเองพูดถูกหรือไม่เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าแทนคำตอบนางไม่ได้กล่าวสิ่งหนึ่ง จริง ๆ แล้ววินาทีแรกที่เจอองค์หญิงน้อย ก็รู้สึกว่าหน้าตาของนางกับเซียวอวี้ดูคล้ายคลึงกันอยู่บ้างฝานจิ้นเสนอตัวเป็นอาสาสมัคร“ข้าจะไปส่งนางเอง! ฝีเท้าข้าเร็ว แถมแรงเยอะ สามารถแบกนางวิ่งได้”ตงฟางซื่อไม่เลือก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 527

    เห็นเพียง บุรุษสวมใส่เสื้อแขนสั้นเนื้อหยาบสีเข้ม  ร่างกายเปื้อนไปด้วยดินโคลน มือหนึ่งจับไก่ มือหนึ่งคล้องตะกร้าผลไม้ไม่รู้ชื่อ ใบหน้าดำคล้ำ ประดับรอยยิ้มดีใจเปี่ยมล้น“เพิ่งหว่านเมล็ดพันธุ์เสร็จน่ะ เจอสภาพอากาศเหมาะพอดี” ตงฟางซื่อหน้าตาหล่อเหลา ภายนอกดูเหมือนพวกบัณฑิตหน้าดำ ไม่มีพิษภัยอะไรขณะที่อู๋ไป๋กำลังจะลุกขึ้น เตรียมทำความเคารพ ทันใดนั้นพลันรู้สึกได้ถึงไอสังหารบางอย่างชั่วขณะที่เหลือบเห็นซูฮ่วนท่ามกลางฝูงคน ดวงตาของตงฟางซื่อพลันทอประกายคมกริบ แล้วโยนไก่ในมือออกไปเป็นอันดับแรกผลปรากฏว่าไก่ตัวนั้นกางปีกบินพุ่งเข้าไปหาเฟิ่งจิ่วเหยียน ราวกับรู้จักเจ้าของ“ตุบ ๆ ๆ!”ในเวลาเดียวกัน เขาก็หยิบผลไม้ในตะกร้า ปาใส่เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ยั้ง ราวกับยิงอาวุธลับอู๋ไป๋เบิกตาอ้าปากค้าง แทบไม่รู้ว่าต้องหลบอย่างไรเมื่อหันไปมอง เหมือนทุกคนจะเตรียมป้องกันไว้ล่วงหน้า ต่างหลบกันถ้วนหน้า แม้แต่เซี่ยวเซี่ยวก็ยังรีบมุดลงใต้โต๊ะอย่างมีไหวพริบหันมามองอีกครั้ง ไม่รู้ว่าแม่ทัพน้อยถือร่มไว้ในมือตั้งแต่เมื่อไร นำมาบังตรงหน้าไว้ จากนั้นก็หุบร่มด้วยท่วงท่าสง่า ไร้วี่แววหมดสภาพส่วนอู๋ไป๋ที่ถูกผลไม้ป่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 526

    เมื่อออกมาจากเมืองเสี่ยวหลิน ก็มุ่งไปทางทิศใต้นั่นก็คือเมืองตงซิ่นพันธมิตรอู่หลินอยู่ในหมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ภายในเมืองตงซิ่นดูเผิน ๆ อาจจะเหมือนหมู่บ้านทั่วไป แต่เป็นสถานที่ตั้งสำนักใหญ่ของพันธมิตรอู่หลิน ในนั้นมียอดฝีมือแห่งยุทธภพมากมายจนนับไม่หวาดไม่ไหว หน้าทางเข้าหมู่บ้านมีหินก้อนใหญ่ตั้งอยู่ บนนั้นสลักชื่อไว้หลายคนบุรุษสองพาสาวน้อยมาด้วยหนึ่งคน ทั้งยังใส่หน้ากาก จึงทำให้คนระแวงอย่างเลี่ยงไม่ได้คนเฝ้าหมู่บ้านเข้ามาขวางทางทั้งสามคน เอ่ยถามว่า“มาจากไหน  ไปแห่งหนใด”อู๋ไป๋ตัดสินได้อย่างมีประสบการณ์ สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้คือตอบรับสัญญาณลับ ดังนั้น เขาจึงหันไปมองแม่ทัพน้อยเฟิ่งจิ่วเหยียนก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว คารวะตามขนบชาวยุทธภพอย่างเคร่งครัดต่อมานางก็กล่าวด้วยพลังเต็มเปี่ยม“มาจากปรโลก หวนคืนสู่ปรโลก! มิตรภาพแน่นแฟ้นร่วมมีเกียรติร่วมเสื่อมเสีย จับมือสร้างตำนานแห่งยุทธภพ! คารวะ! ผู้นำพันธมิตรทรงอำนาจ!”“พรืด——”อู๋ไป๋หลุดขำอย่างอดไม่ได้สัญญาณลับนี้…ฟังดูเชยอย่างยิ่ง!คนอย่างแม่ทัพน้อย ทนรับได้อย่างไรกันนะ?หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดจบ สีหน้าก็แข็งทื่อเล็กน้อยต

DMCA.com Protection Status