แชร์

บทที่ 535

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-24 17:00:00
ด้านนอกประตู แม่เล้าขวางทหารกบฏเหล่านั้นไว้

“ด้านในคือน้องชายของแม่ทัพหวัง...”

“เหตุใดจึงไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวใด ๆ ?”

“นี่...บางทีอาจจะเหนื่อยและหลับไปแล้ว?” แม่เล้าคาดเดา

“ไม่ชอบมาพากล! เปิดประตู!”

ภายในห้อง

เหตุการณ์คับขันไม่มีทางออกแล้ว องครักษ์ใบ้เห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็หันหลังจะกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่าง

เฟิ่งจิ่วเหยียนขวางเขาไว้ และชี้ไปทางอ่างน้ำพร้อมส่งภาษามือให้เขา

แววตาของบุรุษดูเยือกเย็น

นี่จะให้เขาลงไปในอ่างน้ำหรือ?

เวลาคับขัน เฟิ่งจิ่วเหยียนมิพูดพร่ำทำเพลง ขณะที่เขากำลังลังเลไร้สติอยู่นั้น นางก็ผลักเขาลงไปในอ่างน้ำอย่างมิเกรงใจ

ไอ้บ้าเอ๊ย!

หลังจากบุรุษขึ้นมาจากน้ำ วินาทีแรกคือขยับหน้ากากบนใบหน้าของเขาให้ตรง

ทว่ากลับเห็นซูฮ่วนนำสตรีผู้นั้นซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็สวมชุดคลุมตัวนอกของหญิงสาว พร้อมปล่อยผมดำขลับลงมาอย่างรวดเร็ว

จากนั้นนางก็ลงไปในอ่างน้ำ...

ปัง!

กองทัพกบฏใช้กำลังพังประตู

เห็นเพียงในอ่างน้ำภายในห้องนั้น หญิงสาวหันหลังให้พวกเขา กำลังดันตัวบุรุษไปที่ขอบอ่างน้ำ ท่าทางของทั้งสองคนนั้นดูใกล้ชิดแนบแน่น...

หลังจากแม่เล้าเห็นแล้ว นัยน์ตาพลันม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Nichaphat
อุ๊ยย อิอิ
goodnovel comment avatar
WLFJ
คุ้นริมฝีปากแล้ว จูบเค้าบ่อยอ่ะ จำได้หริอยัง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 536

    เฟิ่งจิ่วเหยียนกับองครักษ์ใบผู้นั้น ทั้งสองคนกำลังสกัดกั้นกองทัพกบฏจำนวนนับไม่ถ้วนทว่ากองทัพกบฏทุกคนที่พุ่งเข้ามาด้านหน้า จะถูกเตะลอยคว้างและล้มลงด้วยความเร็วที่รุนแรงฉับพลันส่วนทั้งสองคนนั้นดูเหมือนไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยหวังโซ่วเหรินนั่งอยู่บนหลังม้า และมองดูจากตำแหน่งที่ไม่ไกลนัก ในใจยิ่งรู้สึกหวาดหวั่นมิได้การ!จะเสียเวลาเช่นนี้ต่อไปอีกมิได้แล้ว!เขาต้องทำตามคำสั่งของนายท่านให้สำเร็จโดยเร็ว สังหารฮ่องเต้ผู้นั้นเสีย!หวังโซ่วเหรินหยิบคันธนูและลูกธนูออกมา และยิงออกไปทางฮ่องเต้ผู้นั้นทว่า ลูกธนูดอกนั้นเห็นชัดว่ายิงออกไปอย่างแม่นยำ และขณะที่ลูกธนูอยู่ห่างจากตัวฮ่องเต้เป็นระยะห่างสามฉื่อ มันกลับหยุดลงอย่างน่าประหลาด!หวังโซ่วเหรินมิอยากเชื่อภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ จึงรีบขยี้ตาในทันทีตงฟางซื่อมีประสาทการรับรู้ต่อภัยอันตรายที่ฉับไวมาโดยตลอดเขาใช้มือข้างหนึ่งทำให้ลูกธนูดอกนั้นลอยอยู่กับที่ เพียงโบกมือเบา ๆ ลูกธนูก็ร่วงลงพื้นแล้วทว่าดูเหมือนเขาจะมิได้รับผลกระทบใด ๆ แม้แต่น้อย ยังคงจดจ่ออยู่กับการแก้กลไกลของค่ายกลประตูนั้น หวังโซ่วเหรินมิอยากเชื่อ ลูกธนูที่ยิงออกไปติด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 537

    ด้านนอกเมืองเซวียน รุ่ยอ๋องนั่งอยู่บนหลังม้า สายตาที่ดูเหมือนละมุนละม่อม กลับแฝงด้วยเจตจำนงของการสู้รบอย่างเต็มเปี่ยม“บุก!”เมื่อสูญเสียผนังทองแดงกำแพงเหล็กของประตูเมือง บวกกับไม่มีทหารมากพอที่จะสกัดกั้น ไม่นานก็ต้านทานแรงกระแทกของอาวุธที่ทำการพังประตูเมืองไม่ได้ จึงถูกกระแทกจนเปิดออกกองทัพใหญ่ของรุ่ยอ๋องบุกเข้าไปในเมืองเซวียน ภายใต้เกือกม้าเหล็กทำให้ฝุ่นลอยตลบอบอวล เหล่ากองทัพกบฏโกลาหลวุ่นวายขึ้นมาทันที เมื่อสูญเสียข้อได้เปรียบในการป้องกันที่มีอยู่เดิม ดูเหมือนจะเหลือเพียงสถานะที่ถูกฝ่ายตรงข้ามบดขยี้เท่านั้นอย่างไรเสียกองทัพใหญ่ที่นำโดยราชสำนักก็มีจำนวนหลายหมื่นคน...ในเวลาเดียวกันนั้น องครักษ์ใบ้ผู้นั้นทะยานตัวขึ้น และเตะหวังโซ่วเหรินผู้นำกองทัพกบฏตกลงจากหลังม้าทว่าหวังโซ่วเหรินสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพได้ หาใช่มาดดีแต่ไร้ฝีมือไม่หลังจากเขาตกลงจากหลังม้า ก็รีบลุกขึ้นยืน และชักกระบี่ออกมาเพื่อป้องกันตัวจากศัตรูทว่าสุดท้ายก็ยังพ่ายแพ้ต่อองครักษ์ใบ้ผู้นั้น ไม่เกินสิบกระบวนท่า เขาก็ถูกฝ่ามือขององครักษ์ใบ้ฟาดจนกระดูกซี่โครงหัก แม้แต่แขนที่ถือดาบก็ถูกบิดจนหักด้วยตามด้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 538

    เมื่อเห็นน้องชายตายต่อหน้าต่อตา หวังโซ่วเหรินก็คำรามด้วยความโมโหอย่างสุดเสียง“ไม่! โซ่วอี้ โซ่วอี้!!!”เขาจ้องมองไปทางองครักษ์ใบ้ผู้นั้นด้วยแววตาเคียดแค้น“เป็นเจ้า เป็นเจ้าสังหารน้องชายข้า! ข้าต้องการให้เจ้าตาย!!”องครักษ์ใบ้วางคันธนูลง แววตาเยือกเย็นไร้ความรู้สึกเฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองเขาโดยไม่กระพริบตา มือกำไว้แน่นอย่างอดมิได้เหล่ากองทัพกบฏที่จับตัวราษฎรเห็นหวังโซ่วอี้ตายแล้ว ก็ทำสิ่งใดไม่ถูกหวังโซ่วเหรินจึงสั่งการกองกำลังนั้น“สังหารพวกเขา! ฝ่าบาทและราชสำนักเดิมก็มิเคยสนใจชีวิตของราษฎรเมืองเซวียนอยู่แล้ว! เช่นนั้นก็สังหารพวกเขาให้หมด! ข้าต้องการให้พวกเขาถูกฝังไปพร้อมกับโซ่วอี้!”กองทัพกบฏเหล่านั้นต่างมองหน้ากัน กำลังลังเล และไม่มีการลงมือหวังโซ่วเหรินผิดหวังอย่างหนัก “เหล่าราษฎรเมืองเซวียน จงฟังให้ดี ฝ่าบาทมิใช่ตัวจริง! ราชสำนักมาเพื่อสังหารราษฎรทั้งเมือง! พวกเขาต้องการจะสังหารกองทัพกบฏอย่างพวกเรา พวกเจ้าก็ไม่รอดเช่นกัน! จงรีบหนีไป!“ประตูเมืองเปิดแล้ว จงหนีไป---”เหล่าราษฎรที่หลบซ่อนอยู่ในบ้านเรือนของตนได้ยินเสียงแว่ว ๆ ก็รู้สึกกระวนกระวายบางคนยืนกรานที่จะหลบซ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 539

    กองทัพกบฏทั้งหมดล้มเลิกที่จะต่อต้าน เหล่าราษฎรก็คุกเข่าลงอย่างสงบเรียบร้อยสายตาของเซียวอวี้เยือกเย็นและเฉียบคม“เรามาเมืองเซวียนก็เพื่อสืบหาความจริง“วันนี้พบความจริงแล้วว่า กองทัพกบฏเอื้อประโยชน์ให้กับหวังโซ่วเหรินเป็นส่วนมาก“จุดประสงค์ของเขา มิใช่อยู่ที่เบี้ยหวัดทหาร ทว่าอยู่ที่สมบัติในเมืองเซวียน จนกระทั่งคิดจะลอบสังหารกษัตริย์ หวังโซ่วเหริน เจ้ามีความผิดมหันต์!”บาดแผลของหวังโซ่วเหรินมีเลือดไหลไม่หยุด ในแววตาไม่มีความหดหู่ของผู้แพ้ มีเพียงความไม่ยินยอมเท่านั้น“เหลืออีกนิดเดียว อีกนิดเดียว ข้าก็จะทำสำเร็จแล้ว! ท่านสังหารน้องชายของข้า ฮ่องเต้ทรราชอย่างท่าน ผู้ใดก็สังหารได้!”รุ่ยอ๋องขอคำแนะนำ: “ฝ่าบาท คนที่คิดวางแผนการกบฏเช่นนี้ มีหลักฐานแน่นหนา จะสังหารเขาตอนนี้เลยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เซียวอวี้สั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เขายังมีคนสมรู้ร่วมคิด ลากตัวไป และสอบสวนอย่างละเอียด ส่วนคนอื่น ๆ ก็คุมขังไว้ก่อน รอตัดสินทีละคน”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”หลังจากเหล่ากองทัพกบฏถูกจับกุม ตงฟางซื่อก็ก้าวมาข้างหน้า“ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้มิรู้สถานะของท่าน จึงล่วงเกินไปมาก”คำพูดของเขาเป็นการพูดแทนซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 540

    องค์หญิงน้อยสวมชุดสีสันสดใส ดวงตากลมโตงดงามเต็มไปด้วยความยินดีนางทำความเคารพเซียวอวี้ตามประสา จากนั้นก็นั่งลงบนม้านั่งตัวเดียวกับเฟิ่งจิ่วเหยียน“เสด็จพี่ฮ่องเต้ ท่านพ่อฟื้นแล้ว! ท่านหมอบอกว่าท่านพ่อปลอดภัยแล้ว ขอเพียงทานยาตรงเวลา ไม่นานก็จะกลับมาแข็งแรง!”องค์หญิงน้อยเดิมทีก็อยู่ในวัยไร้เดียงสาและไร้ความกังวล ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายได้คลี่คลายแล้ว รอยยิ้มจึงยิ่งเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์เซียวอวี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มโดยใบหน้าไม่แสดงความรู้สึก“เซียวหย่า ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน”องค์หญิงน้อยมองดูคล้ายนกกระทา นางก้มหัวลง“หม่อมฉันรู้”รุ่ยอ๋องที่มีสีหน้าดูอ่อนโยน เอ่ยโน้มน้าวว่า “ฝ่าบาท องค์หญิงยังเด็ก บวกกับจู้กั๋วกงเพิ่งจะฟื้นตัว การดีใจชั่วครั้งชั่วคราวก็เป็นอารมณ์ปกติของคนเรา”เซียวอวี้สั่งการองครักษ์: “เพิ่มที่นั่งให้องค์หญิงด้วย” ผลสุดท้าย...บุรุษสี่คนนั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกัน ส่วนองค์หญิงน้อยนั่งอยู่ลำพังที่โต๊ะด้านข้าง มองดูโดดเดี่ยวและอ้างว้างนี่ถือว่าเพิ่มที่นั่งแบบใดกัน?เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเพิ่มโต๊ะ!ฮือฮือ...เสด็จพี่ฮ่องเต้ทรงใจร้ายจริง ๆ!หลังอาหาร เซียวอว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 541

    “ซูฮ่วนเป็นสตรีหรือ?” จู้กั๋วกงหันไปมองบุตรสาวที่ไร้เดียงสาของตนเองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อจักเป็นไปได้อย่างไรกัน! อย่างมาก ซูฮ่วนก็หาได้มีนิสัยหยาบคายขนาดนั้นไม่...เซียวอวี้ขมวดคิ้วเป็นปมไปในทันที พลางเอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีจริงจังว่า“เจ้ารู้ได้อย่างไรกัน?”เซียวหย่าจึงเอ่ยออกมาด้วยท่าทีจริงจัง“ข้ารู้แล้วกัน เสด็จพี่ฮ่องเต้จักไม่ยอมเชื่อก็ตามใจ!”ยามที่เซียวอวี้ต้องการจะไล่จี้ถามนั้น องค์หญิงน้อยพลันวิ่งฮึดฮัดออกไปเสียแล้วเซียวอวี้คล้ายกับเหม่อลอยไปครู่หนึ่งที่จริงแล้ว หากว่าซูฮ่วนเป็นสตรีจริง ก็หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับเขาไม่ทว่า เขากลับรู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก ทำเอาเขาอยากที่จะสืบเรื่องนี้ต่อคืนนั้น ยามที่ซูฮ่วนอยู่ใกล้เขาในอ่างอาบน้ำ ทั้งริมฝีปาก รูปปากเหล่านั้น ทำเอาเขารู้สึกคุ้นเคยกับมันยิ่งนักคล้ายกับคนที่เขาเคยจูบ...ในยามนั้นเซียวอวี้คิดว่าเป็นเพียงเรื่องบังเอิญถึงอย่างไรใต้หล้าก็มีคนที่รูปหน้าคล้ายคลึงกันมากมาย นับประสาอะไรกับรูปปากกันบางที เขาอาจจะยังปล่อยวางสตรีนางนั้นไปไม่ได้...ทว่า หากเซียวหย่ากล่าวว่าซูฮ่วนเป็นสตรีนั้นจู้กั๋วกงหาได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 542

    ภายในห้องนั้นเงียบสงัด มีเพียงเสียงหมากล้อมที่ถูกวางเท่านั้นฝ่าบาทที่สวมใส่อาภรณ์สีม่วง แววตาที่เต็มไปด้วยความล้ำลึก เพียงแค่เล่นหมอกล้อม หากแต่ทั่วร่างกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารมากมาย“รองผู้นำพันธมิตรซู ดูเหมือนจะระมัดระวังตนเองยิ่งนัก”เซียนอวี้พลันเงยหน้าขึ้นมามองคนที่อยู่ตรงข้าม ก่อนจะส่งเสียงเย็นยะเยือกออกมาราวกับจะลองเชิงเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงตอบกลับไปด้วยท่าทีเฉยเมยว่า“หมากล้อมของฝ่าบาทนับว่ามีทักษะสูงยิ่งนัก กระหม่อมมิอาจวางหมากลงไปโดยไร้การไตร่ตรองได้”เนื่องจากนางและเซียวอวี้เคยเล่นหมากล้อมด้วยกันมาก่อน นางย่อมมิอาจให้เขามองวิถีหมากล้อมของนางออกได้เซียวอวี้พลางหัวเราะเยาะเย้ยออกมาด้วยความเย็นชา คิ้วที่ขมวดเป็นปม“มิผิดที่ต้องคิดให้รอบคอบ ทว่า หากคิดมากไป กลับจะยิ่งทำให้เผยข้อบกพร่องของตนเองออกมามากยิ่งขึ้น”มือที่เฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังจะวางหมากนั้น พลันหยุดชะงักไปในทันทีมิรู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด นางกลับรู้สึกว่าเซียวอวี้มีท่าทีแปลกไปยิ่งนักทำเอาการเดินหมากของนางเกิดความวุ่นวายไปในทันที...ราตรีนี้ เซียวอวี้เพียงแค่เล่นหมากล้อมกับนางเท่านั้น หาได้เอ่ยอันใดกับนางไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 543

    ด้านในถาดกลับมีหัวคนอยู่ในนั้น! ! !ขุนนางที่ขี้ขลาดตาขาวนั้นพลันเป็นลมล้มพับหน้าซีดหน้าเซียวไปในทันทีเซียวอวี้ใช้เวลาชื่นชมปฏิกิริยาของผู้คนเหล่านี้“พวกเจ้ามิใช่ขอให้เราตรวจสอบอย่างเข้มงวดหรือ เหตุใดถึงได้มีท่าทีเป็นกังวลเช่นนี้กัน?”“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ นี่ นี่มัน...”เฉินจี๋จึงเป็นผู้ตอบแทนฝ่าบาทเอง“พวกเขาล้วนแต่เป็นขุนนางที่ทำการยักยอกเบี้ยหวัดทหารของเมืองเซวียน ขุนนางทุกท่านจงดูเอาไว้ ไม่แน่ว่า อาจจะมีคนที่พวกท่านคุ้นเคยอยู่ด้วยก็เป็นได้”เหล่าขุนนางต่างพากันตกอกตกใจก่อนจะรีบลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นในทันที“ฝ่าบาททรงปราดเปรื่องยิ่งนัก! การสังหารขุนนางที่ก่อกรรมทำเรื่องทุจริต ทั้งยังคืนความสงบสุขให้กับเมืองเซวียนอีกด้วย!”“ขุนนางที่ละโมบย่อมสมควรถูกประหาร!”ตงฟางซื่อที่มองไปยังหัวที่เปื้อนเลือดนั้น เขาพลันรู้สึกหัวไก่ที่อยู่ในชามดูน่าขยะแขยงยิ่งนักทันใดนั้น เซียวอวี้จึงกวาดสายตามองเหล่าขุนนางทุกคนภายในงานเลี้ยง แววตาเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟัน “ย่อมสมควรถูกประหาร ทว่า เพียงเท่านี้หาได้เพียงพอไม่”พูดจบ ประตูใหญ่พลันถูกปิดลงดัง “ปั้ง”ทำเอาเหล่าขุนนางพากันตกใจไปในทันทีพร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 676

    เจ็ดวันต่อมาณ เมืองไท่ชางกลุ่มของเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าพักในโรงพักแรมทันทีที่เข้ามาในโรงพักแรม นางก็เห็นคนคุ้นตาคนผู้นั้นอยู่ในชุดไหมสีแดง กำลังพูดคุยกับคนที่นั่งร่วมโต๊ะอย่างสนุกสนาน ขณะที่อีกฝ่ายบังเอิญเงยหน้าขึ้นมา ก็จำหน้ากากเงินของนางได้ เจียงหลินสวมใส่ชุดแดง ดูสะดุดตาท่ามกลางผู้คนอย่างมากเฟิ่งจิ่วเหยียนก้าวถอยหลังโดยพลันทำไมถึงมาเจอเจ้านี้อีกแล้ว นี่มันบุพเพอาละวาดชัด ๆ ให้ตายสิ…ชั่วขณะนั้น เหมือนเจียงหลินจะเห็นคนไร้หัวใจที่ทอดทิ้งตัวเอง พลันลุกขึ้นมา ตะโกนท่ามกลางผู้คนว่า “ซูฮ่วน! ข้าเห็นเจ้าแล้ว! เจ้าไม่ต้องหลบ!”เฟิ่งจิ่วเหยียน: นางไม่ได้หลบเสียหน่อยเจียงหลินเดินพรดพราดเข้ามา จับแขนของนางเอาไว้ “เจ้ากับซ่งหลีนี่แน่จริง ๆ ไปไหนก็ไม่คิดจะบอกกล่าว รู้ไหมว่าข้าตามหาพวกเจ้านานแค่ไหน!”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความน้อยใจ ความจริงแล้ว เขาเองก็ไม่ได้มุ่งมั่นตามหาพวกเขาเหมือนกันเขามีฐานะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเจียง จึงมีเรื่องให้จัดการมากมายในชีวิตประจำวัน ที่กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา ก็แค่อยากให้ซูฮ่วนรู้สึกผิด และช่วยเบิกทางค้าขายให้เขาขณะที่กำลังพูด เขาพลันรู้สึกได้ถึงไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 675

    เฟิ่งจิ่วเหยียนหันหน้ามา ใบหน้านิ่งเฉยมองไปทางเซียวอวี้จู่ ๆ เขาก็บอกว่าตนเองจะกลับวังหลวง ไม่อธิบายล่วงหน้า กลับมาพูดเอาวันที่จะต้องจากไป ไม่ใช่เพราะตั้งใจ อยากเห็นนางลนลานหรอกหรือ“ไม่มีอะไรจะพูด” แววตาของนางสงบดั่งน้ำนิ่งสีหน้าของเซียวอวี้ตอนนี้ไม่น่าดูนักนางไร้น้ำใจเพียงนี้เชียวหรือ?เขาเริ่มสงสัยจริง ๆ แล้วว่านางเพียงต้องการร่างกายของเขาเท่านั้น!ระหว่างที่เซียวอวี้กำลังโศกเศร้านี้เอง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ถามกลับว่า“ไม่ใช่ว่าพวกเราไปทางเดียวกันหรือ?”เขากลับเมืองหลวง นางไปเมืองโบ๋วโจว ล้วนต้องลงใต้ทั้งคู่แบบนี้แล้วหากจะบอกลากันตอนนี้ ออกจะเร็วไปเสียหน่อยเซียวอวี้จึงได้สติกลับมา “เจ้าจะออกเดินทางไปกับเราหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าตอบ“แน่นอน การเดินทางไปเมืองโบ๋วโจวเป็นเรื่องด่วน”......เมื่อรู้ว่าจิ่วเหยียนจะไปแล้ว แม้ฮูหยินเมิ่งจะไม่อาจทำใจได้ ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรแต่ไหนแต่ไรมาเด็กคนนี้ก็ไปมาดุจลม อยู่ได้เพียงไม่นานคำพูดพร่ำบ่น นางก็ไม่คิดจะพูดแล้ว จึงส่งเค้กเกาลัดถุงหนึ่งให้เฟิ่งจิ่วเหยียนนำไปกินระหว่างทางเพื่อให้ง่ายต่อการเดินทาง เฟิ่งจิ่วเหย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 674

    สิ่งที่อยู่ในกล่องไม้หาใช่ถุงยางที่เฟิ่งจิ่วเหยียนคุ้นเคยไม่ แต่เป็นยาขวดหนึ่งยานี้...เป็นสิ่งที่อาจารย์หญิงทำเองเช่นกันนางชัดเจนในเรื่องนี้ดีนี่คือยาคุมกำเนิดสำหรับบุรุษ ที่หายากอย่างยิ่งเท่าที่นางรู้ อาจารย์หญิงทำขึ้นมาเพียงหนึ่งขวดเท่านั้นเมื่อบุรุษกินยานี้เข้าไปหนึ่งเม็ด ภายในหนึ่งวันไม่ว่าจะทำอย่างไร สตรีจะไม่มีทางตั้งครรภ์เด็ดขาด...ปฏิกิริยาตอบโต้แรกของเฟิ่งจิ่วเหยียนคือ...รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง!ทว่าในชั่วพริบตาที่นางกำลังจะเคลื่อนตัวหนี เซียวอวี้ก็คาดการณ์ได้ถึงความเคลื่อนไหวของนาง แขนเสื้อยาวโบกสะบัด พลังภายในกลายเป็นแรงผลักโครม!โครม!ประตูและหน้าต่างถูกปิดลงทั้งหมดแล้ว!ขณะเดียวกัน แขนของเขาก็ยื่นออกไปโอบเอวของนางเอาไว้“คิดจะหนีรึ?”สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนดูหงุดหงิดอยู่มากจากนั้นเซียวอวี้ก็ยกนางขึ้นไปพาดบนบ่า แล้วเดินอย่างมั่นคงไปยังเตียงตั่ง“ปล่อยข้านะ!”เซียวอวี้ตอบ “เจ้าพูดเอง การทหารไม่หน่ายกลอุบาย”เดิมทีเขาอยากให้เมิ่งฉวีออกหน้า ให้ฮูหยินเมิ่งทำถุงยางออกมาเพิ่มอีกหน่อยทว่าเมิ่งฉวีทำไม่สำเร็จฮูหยินเมิ่งกล่าวว่าคนหนุ่มสาวต้องรู้จักควบคุ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 673

    เฟิ่งเหยียนเฉินตกตะลึงอยู่นาน เขาไม่อาจทำใจเชื่อสิ่งที่ได้ยินเลยแม่เฟิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง“เป็นจิ่วเหยียน หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามท่านพ่อของเจ้า“เมิ่งสิงโจวตัวจริงตายจากไปนานแล้ว หลายปีที่ผ่านมาเป็นจิ่วเหยียนที่เสี่ยงชีวิตปลอมตัวเป็นเขา ทว่าผู้ที่สร้างความชอบทางการทหารตลอดมาล้วนเป็นจิ่วเหยียน น้องสาวของเจ้า”เมื่อเห็นท่านแม่สงบนิ่งเพียงนี้ มั่นใจถึงเพียงนี้ ลมหายใจของเฟิ่งเหยียนเฉินก็ช้าลง“ท่านแม่ จิ่วเหยียนมีความสามารถเพียงนี้จริงหรือ?”ปกป้องรักษาชายแดนเหนือเป็นเวลาเพียงสามปี นางก็กลายเป็นแม่ทัพน้อยเมิ่งที่ทำให้ศัตรูหวาดกลัวจนตัวสั่นผลงานการรบอันเลื่องลือที่นางสร้าง แม้แต่บุรุษยังยากที่จะทัดเทียมได้เขายังคิดว่าจากนี้จะต้องปกป้องน้องสาวทั้งสองคนให้ดีทว่าตอนนี้ดูไปแล้ว...เป็นน้องสาวที่ปกป้องเขา ปกป้องราษฎรของหนานฉีต่างหาก!ไม่นึกเลยว่าเขาจะมีน้องสาวที่เก่งกาจดุจเทพเช่นนี้!ชั่วขณะหนึ่งเขาก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมิน่าเล่าคราแรกที่เห็นฮองเฮาในวัง ถึงได้รู้สึกว่านางแผ่บรรยากาศที่แข็งแกร่งออกมา ไม่เหมือนเวยเฉียงที่เขาคุ้นเคยยามนั้นเขายังนึกว่าเป็นลักษณะอันน่าเกรง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 672

    “ท่านแม่! ท่านว่าอะไรนะ ข้ายังมีน้องสาวอีกคนรึ?!”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่อยากจะเชื่อน้องสาวอีกคนนึงของเขา เพิ่งเกิดได้ไม่นานก็ถูกส่งตัวออกไปแล้วที่ฮูหยินเฟิ่งบอกเขาก็เพราะหวังว่าบุตรชายจะได้รู้ว่าเขายังมีน้องสาวที่ต้องปกป้องอีกคนหนึ่งเฟิ่งเหยียนเฉินอึ้งไปครู่หนึ่ง“ท่านแม่ เดี๋ยวนะ เหตุใดคนที่แต่งกับฮ่องเต้แต่แรกถึงเป็นจิ่วเหยียน ไม่ใช่เวยเฉียงเล่า?“เช่นนั้นเวยเฉียงล่ะ? เวยเฉียงไปไหนแล้ว?”แววตาของฮูหยินเฟิ่งแฝงไปด้วยความโกรธแค้น“เป็นท่านพ่อของเจ้า สามีชั่วนั่น! เขาคิดว่าหลังจากเวยเฉียงถูกลักพาตัวไปก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่อาจเข้าวังไปเป็นฮองเฮาได้ จึงส่งเวยเฉียงออกไปเสีย ทั้งยังโกหกว่านางตายแล้ว! เขาหลอกพวกเราทุกคน!”“หากไม่ใช่เพราะจิ่วเหยียน ยามนี้เวยเฉียงจะเป็นหรือตายอยู่ข้างนอกก็ไม่รู้!”เฟิ่งเหยียนเฉินที่น่าสงสารถูกปกปิดจนไม่รู้อะไรเลย แม้แต่เรื่องที่เวยเฉียงถูกลักพาตัวไป สูญเสียความบริสุทธิ์ เขาก็เพิ่งได้รู้ความจริงเอาตอนนี้เขารู้สึกว่าในหัวมีแต่เสียงดังหึ่งหึ่งสวรรค์!ในช่วงที่เขาตกอยู่ในความกลัดกลุ้มนั่น ที่แท้ตระกูลเฟิ่งกลับเกิดเรื่องมากมายเพียงนี้เขาที่เป็นพี่ชาย ช่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 671

    ณ ค่ายเป่ยต้าสีหน้าของเมิ่งฉวีเขียวคล้ำ เขามองไปที่ฮ่องเต้เบื้องหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ“ฝ่าบาท ท่าน...” ตรัสว่าอะไรนะ ถุงยาง?ยังอยากให้ฮูหยินทำถุงยางให้มากหน่อย?จากที่เขารู้ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะทำให้ไปสิบอันหรอกหรือ?ใช้หมดเร็วขนาดนี้เลยหรือ?!เมิ่งฉวีอดไม่ได้ที่จะคิดว่า...หนุ่มแน่นช่างกำลังวังชาดีเสียจริงเซียวอวี้ไม่สะดวกที่จะพูดเรื่องนี้กับฮูหยินเมิ่ง จึงคิดจะพูดกับเมิ่งฉวีแทนถึงอย่างไรก็เป็นบุรุษด้วยกันเมิ่งฉวีรู้สึกลิ้นจุกปาก “ฝ่าบาท เรื่องนี้ยากนัก กับฮูหยิน กระหม่อมเองก็พูดไม่ออกพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้นั่งดื่มชาอยู่ในกระโจม ท่าทางดูผ่อนคลายสงบนิ่งเขากล่าวอย่างไม่ช้าไม่เร็วว่า“จิ่วเหยียนกับฮูหยินเมิ่งผูกพันดุจมารดาและบุตร นางต้องแต่งงานไปไกลถึงเมืองหลวง เราตัดสินใจว่าจะให้ฮูหยินเมิ่งติดตามไปด้วย”เมิ่งฉวี: !!!ฝ่าบาทจะมาพรากพวกเขาสามีภรรยาออกจากกันได้อย่างไร!นี่กำลังขู่เขาอย่างนั้นหรือ?……ณ จวนแม่ทัพเวยเฉียงกับสาวใช้นามไฉ่เยว่ย้ายมาอยู่ที่นี่ รู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่บ้างยังดีที่นางคุ้นเคยกับท่านพี่และฮูหยินเมิ่ง จึงไม่ถึงกับประหม่าฮูหยินเมิ่งสงสารที่เวยเฉี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 670

    วินาทีที่ถอดหน้ากากของนางออก เซียวอวี้เห็นนางยิ้มดั่งดอกไม้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนางยิ้มอย่างปล่อยตัว มีความสุขอาจเป็นเพราะดื่มจนเมา ทิ้งเกราะป้องกันตัว นางล้มสู่อ้อมกอดของเขา เกาะไหล่ของเขา แล้วลุกขึ้นมา“ข้าไม่ได้เมา...”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเดินยังไม่มั่นคง ยังบอกว่าไม่เมา?“ตงฟางซื่อส่งเจ้ากลับมา” เขาไม่ได้ถาม ทว่าเป็นการพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจหยิ่นลิ่วคอยปกป้องนางอยู่ตลอดตอนที่ตงฟางซื่อไปหาถึงเซียวเหยาจวี เซียวอวี้ก็รู้แล้วภายหลังนางตามตงฟางซื่อไปยังหอสุรา ดื่มสุราทานข้าวกับคนเหล่านั้น เขาก็รู้เขาอดกลั้นไม่ไปรบกวนนาง เพราะเขารู้ดี นั่นคือเพื่อนสนิทของนาง เป็นวิถีชีวิตของนางถึงแม้ว่านางกำลังจะแต่งงานกับเขา นั่นก็คือสิ่งที่นางไม่อาจทอดทิ้งทว่า นางเป็นสตรีผู้หนึ่ง ดื่มอยู่ข้างนอกจนดึกขนาดนี้ เหลวไหลเกินไปแล้วเซียวอวี้วางหน้ากาก จับปลายคางของนางไว้“ดื่มไปมากเท่าไหร่? ถึงได้เมาเป็นสภาพเช่นนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนคลี่มือของเขาออก แววตาเต็มไปด้วยความมัวหมอง ไม่เย็นชาเหินห่างเหมือนทุกวันที่ผ่านมา“ก็บอกแล้ว ข้าไม่ได้เมา”นางลุกขึ้น อยากหาน้ำดื่มทว่าเวลาถัดมา ตรงแขนมีแรง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 669

    ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ตงฟางซื่อยิ่งอยู่ยิ่งดำเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นมาต้อนรับ“เจ้ามาได้อย่างไร?”ตงฟางซื่อหรี่ตายิ้มแย้ม “ข้าได้เจอกับอู๋ไป๋ จึงถามเขาว่าเจ้าอยู่ที่ใด ไม่ใช่ว่าไม่ต้อนรับข้ากระมัง?”สหายเก่ามาพานพบ มิใช่เรื่องน่ายินดีหรือเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างจริงใจ “เป็นไปได้อย่างไร เชิญนั่ง”สายตาของตงฟางซื่อหันไปมองเฟิ่งเวยเฉียง เห็นนางหน้าตาเหมือนกับซูฮ่วน ก็เดารู้ว่าพวกนางเป็นพี่น้องกันเฟิ่งจิ่วเหยียนแนะนำให้เขารู้จัก“คนนี้คือน้องสาวข้า เวยเฉียง”“เวยเฉียง คนนี้คือคุณชายตงฟาง”ทั้งสองคนต่างผงกศีรษะเป็นการทักทายตงฟางซื่อพูดเข้าเรื่องทันที“เรื่องของหยางเหลียนซั่ว ข้าได้บอกพวกเหล่าฝานแล้ว ทุกคนกำลังตามสืบร่องรอยของเขา ข้ามาหาเจ้าในวันนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งจะปรึกษา”เฟิ่งจิ่วเหยียนให้เวยเฉียงกับต้วนเจิ้งกลับห้องไปก่อนเวยเฉียงพูดขึ้นมาด้วยเสียงเบา “ท่านพี่ คุณชายตงฟาง พวกเจ้าคุยกันตามสบาย”ต้วนเจิ้งกลับไม่ยอม“ข้าไม่ไป หยางเหลียนซั่วทำให้พี่ชายข้าตาย เป็นศัตรูของข้า ข้าจะไปตามหาเขาพร้อมกับพวกเจ้า แล้วก็ฆ่าเขา!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจ เพียงเร่งเร้าตงฟางซื่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 668

    เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ปิดบังแล้วนางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา“ท่านดูไม่ออกหรือ ข้าไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนั้น?”ตลก ผู้ลี้ภัย ลิงผอมตัวดำ! ตอนกลางวันเขาพูดว่านางเช่นนี้ !นางอยากยอมรับสิแปลก!เวลานี้ เซียวอวี้ก็คิดขึ้นมาได้ นางกำลังไม่พอใจอะไรที่แท้ก็อยากรักษาภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากยอมรับว่านางคือลิงน้อยคนนั้นเขาเสียใจอย่างมาก รีบพูดขอโทษขึ้นมา“เราผิดไปแล้ว ตอนนั้น...เรากลัวว่าเจ้าจะเข้าใจผิด จึงตั้งใจพูดแบบนั้น ความจริงแล้ว เราจดจำเจ้ามาตลอด วีรชนน้อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงศีรษะเล็กน้อย มองดูเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเซียวอวี้จูบบนหน้าผากของนาง จากนั้นก็หยิบผ้าแห้งผืนนั้นมา เช็ดผมที่เปียกให้กับนางด้วยตนเอง กระทำอยู่อย่างอ่อนโยน ราวกับในมือถือสิ่งของล้ำค่าเอาไว้“ปีนั้นเมืองซีซิ่นเกิดทุพภิกขภัย เราเพิ่งเข้าเมืองมาก็ถูกปล้นแล้ว ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายประชาชน โชคดีที่เจ้ามาปรากฏ เวลานี้เราพูดความจริง เจ้าในตอนนั้นถึงแม้ยังเด็ก ทว่าท่าทีขี่ม้า ดูสง่างามยิ่งกว่าบุรุษจริงๆ”“ไม่ใช่ตลกหรอกหรือ?” นางยังคงไม่ยิ้มแย้ม คำพูดแฝงไปด้วยความเหน็บแ

DMCA.com Protection Status