Share

บทที่ 532

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
หลังจากองครักษ์ใบ้กลับเข้าห้อง กลับเห็นบุรุษที่อยู่บนคานห้องผู้นั้นนั่งอยู่ตรงนั้น มือข้างหนึ่งวางอยู่บนเข่าที่งอขึ้น และมองลงมาที่เขา พร้อมกับถามด้วยความสงสัย

“ไปทำสิ่งใดมา?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ภายนอกจะระวังตัวอย่างมาก กลางวันนอน และกลางคืนเฝ้ายาม

ขณะที่คนผู้นี้ออกไปนางก็รู้แล้ว

ทว่าเขาอยู่นอกประตูตลอดเวลา มิได้ไปที่ใดอีก นางจึงมิได้ตามออกไปสืบดู นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่รุ่ยอ๋องไว้วางใจ นางก็มิควรทำตัวสอดรู้สอดเห็น

องครักษ์ใบ้ทำภาษามือง่าย ๆ ราวกับจะบอกว่าเขาออกไปเดินรอบ ๆ มา

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้เค้นถามสิ่งใดอีก จึงเอนนอนลงไปตามเดิม

บุรุษเหลือบมองนางแวบหนึ่ง ในดวงตามีเงามืดกระดำกระด่าง...

วันรุ่งขึ้น คณะสามคนรีบเดินทางต่อ

องค์หญิงน้อยทรงถามเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยความใส่พระทัย

“พี่ชายใหญ่ เมื่อคืนท่านกับคนประหลาดผู้นั้นนอนด้วยกันหรือ?”

ชายชาตรีสองคน หากไม่นอนด้วยกัน ก็อาจจะดูแปลกอยู่บ้าง

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้อธิบายมากความ นางฉวยจังหวะแขวนขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ไว้บนคอขององค์หญิงน้อย

องค์หญิงน้อยก็หยิบขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่นั้นขึ้นมากินโดยปริยาย

เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ที่
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
WLFJ
เอ๊ะ หรือองค์หญิงน้อยจะรู้ว่านางเอกเป็นผู้หญิง
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 533

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้มาว่า ตอนนี้กองทัพกบฏในเมืองเซวียนถูกแบ่งออกเป็นสองกองกำลังฝ่ายหนึ่งนำโดยแม่ทัพฝ่ายซ้ายหวังโซ่วเหริน พวกเขาเป็นพวกหัวรุนแรง ไม่สนใจชีวิตของราษฎรอีกฝ่ายนำโดยแม่ทัพฝ่ายขวาเซี่ยงเทียน พวกเขาสนับสนุนการใช้สันติวิธีในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงสิ่งที่สมควรได้รับ ทั้งจดจำอยู่เสมอว่าตนคือทหาร เป็นทหารที่ปกป้องราษฎรความละมุนละม่อมเพียงอย่างเดียวมิอาจเอาชนะความโหดเหี้ยมได้ทหารของเซี่ยงเทียนถูกส่งไปเฝ้าประตูเมืองทั้งสี่แห่ง ถูกโยกย้ายออกจากใจกลางของเมืองเซวียนตอนนี้ในเมืองเต็มไปด้วยทหารของหวังโซ่วเหริน พวกเขาถืออำนาจบาตรใหญ่ ไม่เกรงกลัวสิ่งใดจวนของจู้กั๋วกงก็ถูกพวกเขายึดครองด้วยสิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องทำคือรอให้ตงฟางซื่อลงมือเพื่อสถานการณ์โดยรวม นางไม่สามารถก่อปัญหาใหม่เพิ่มมาอีก ในคืนนั้นจึงซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งของชาวบ้านอีกด้านหนึ่งองครักษ์ใบ้พาองค์หญิงน้อยไปค้นหาอยู่รอบหนึ่ง ก็ยังไม่พบแผนที่สมบัติแผ่นนั้น ทว่าเขาขุดต้นไม้ไปหลายต้นแล้วกระทั่งขณะที่ขุดมาถึงต้นที่สิบสอง องครักษ์ใบ้ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป“ท่านจำได้หรือจำไม่ได้กันแน่!”องค์หญิงน้อย: !!!นิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 534

    ทันใดนั้น มีคนสวมหน้ากากผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น และขวางทางเซี่ยงเทียนกับคณะของเขาไว้“เจ้าเป็นผู้ใด!!” เซี่ยงเทียนระแวดระวังขึ้นมาทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เอ่ยสิ่งใด พร้อมกระโดดขึ้นไปบนหลังคาเซี่ยงเทียนรีบตามไปทันที และตะโกนว่า “จับนักฆ่า!”อีกด้านหนึ่งณ จวนจู้กั๋วกงในห้องโถงหลักหวังโซ่วเหรินกำลังสนทนากับคนผู้หนึ่ง คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็คือ บุรุษสวมชุดคลุมขาวผู้หนึ่ง บนใบหน้าสวมหน้ากาก มองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน ทว่าบนนิ้วมือมีแหวนน้าวสวมอยู่หวังโซ่วเหรินมีท่าทีเคารพคนผู้นี้เป็นพิเศษ“นายท่านวางใจได้ ทุกอย่างดำเนินตามแผนของนายท่าน...”ทันใดนั้น คนชุดคลุมขาวรับรู้ถึงบางอย่าง เขาเหวี่ยงมือ อาวุธลับที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อก็พุ่งออกไปขณะที่ทั้งสองคนไล่ตามออกไป ก็เห็นเพียงเงาดำกระโดดข้ามออกจากกำแพงไปหวังโซ่วเหรินเหงื่อแตกพลั่กในทันที “นี่...”คนชุดคลุมขาวสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ไล่ตาม!”ทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีคนสวมชุดคลุมขาวเหมือนกันหลายสิบคนปรากฏตัวออกมาจากในที่ลับ ราวกับลูกธนูคมไล่ตามคนชุดดำผู้นั้นไปหลังจากองครักษ์ใบ้หนีออกมาจากจวนจู้กั๋วกง ก็มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกด้านหลัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 535

    ด้านนอกประตู แม่เล้าขวางทหารกบฏเหล่านั้นไว้“ด้านในคือน้องชายของแม่ทัพหวัง...”“เหตุใดจึงไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวใด ๆ ?”“นี่...บางทีอาจจะเหนื่อยและหลับไปแล้ว?” แม่เล้าคาดเดา“ไม่ชอบมาพากล! เปิดประตู!”ภายในห้องเหตุการณ์คับขันไม่มีทางออกแล้ว องครักษ์ใบ้เห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็หันหลังจะกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่างเฟิ่งจิ่วเหยียนขวางเขาไว้ และชี้ไปทางอ่างน้ำพร้อมส่งภาษามือให้เขาแววตาของบุรุษดูเยือกเย็นนี่จะให้เขาลงไปในอ่างน้ำหรือ?เวลาคับขัน เฟิ่งจิ่วเหยียนมิพูดพร่ำทำเพลง ขณะที่เขากำลังลังเลไร้สติอยู่นั้น นางก็ผลักเขาลงไปในอ่างน้ำอย่างมิเกรงใจไอ้บ้าเอ๊ย!หลังจากบุรุษขึ้นมาจากน้ำ วินาทีแรกคือขยับหน้ากากบนใบหน้าของเขาให้ตรงทว่ากลับเห็นซูฮ่วนนำสตรีผู้นั้นซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็สวมชุดคลุมตัวนอกของหญิงสาว พร้อมปล่อยผมดำขลับลงมาอย่างรวดเร็วจากนั้นนางก็ลงไปในอ่างน้ำ...ปัง! กองทัพกบฏใช้กำลังพังประตูเห็นเพียงในอ่างน้ำภายในห้องนั้น หญิงสาวหันหลังให้พวกเขา กำลังดันตัวบุรุษไปที่ขอบอ่างน้ำ ท่าทางของทั้งสองคนนั้นดูใกล้ชิดแนบแน่น...หลังจากแม่เล้าเห็นแล้ว นัยน์ตาพลันม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 536

    เฟิ่งจิ่วเหยียนกับองครักษ์ใบผู้นั้น ทั้งสองคนกำลังสกัดกั้นกองทัพกบฏจำนวนนับไม่ถ้วนทว่ากองทัพกบฏทุกคนที่พุ่งเข้ามาด้านหน้า จะถูกเตะลอยคว้างและล้มลงด้วยความเร็วที่รุนแรงฉับพลันส่วนทั้งสองคนนั้นดูเหมือนไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยหวังโซ่วเหรินนั่งอยู่บนหลังม้า และมองดูจากตำแหน่งที่ไม่ไกลนัก ในใจยิ่งรู้สึกหวาดหวั่นมิได้การ!จะเสียเวลาเช่นนี้ต่อไปอีกมิได้แล้ว!เขาต้องทำตามคำสั่งของนายท่านให้สำเร็จโดยเร็ว สังหารฮ่องเต้ผู้นั้นเสีย!หวังโซ่วเหรินหยิบคันธนูและลูกธนูออกมา และยิงออกไปทางฮ่องเต้ผู้นั้นทว่า ลูกธนูดอกนั้นเห็นชัดว่ายิงออกไปอย่างแม่นยำ และขณะที่ลูกธนูอยู่ห่างจากตัวฮ่องเต้เป็นระยะห่างสามฉื่อ มันกลับหยุดลงอย่างน่าประหลาด!หวังโซ่วเหรินมิอยากเชื่อภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ จึงรีบขยี้ตาในทันทีตงฟางซื่อมีประสาทการรับรู้ต่อภัยอันตรายที่ฉับไวมาโดยตลอดเขาใช้มือข้างหนึ่งทำให้ลูกธนูดอกนั้นลอยอยู่กับที่ เพียงโบกมือเบา ๆ ลูกธนูก็ร่วงลงพื้นแล้วทว่าดูเหมือนเขาจะมิได้รับผลกระทบใด ๆ แม้แต่น้อย ยังคงจดจ่ออยู่กับการแก้กลไกลของค่ายกลประตูนั้น หวังโซ่วเหรินมิอยากเชื่อ ลูกธนูที่ยิงออกไปติด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 537

    ด้านนอกเมืองเซวียน รุ่ยอ๋องนั่งอยู่บนหลังม้า สายตาที่ดูเหมือนละมุนละม่อม กลับแฝงด้วยเจตจำนงของการสู้รบอย่างเต็มเปี่ยม“บุก!”เมื่อสูญเสียผนังทองแดงกำแพงเหล็กของประตูเมือง บวกกับไม่มีทหารมากพอที่จะสกัดกั้น ไม่นานก็ต้านทานแรงกระแทกของอาวุธที่ทำการพังประตูเมืองไม่ได้ จึงถูกกระแทกจนเปิดออกกองทัพใหญ่ของรุ่ยอ๋องบุกเข้าไปในเมืองเซวียน ภายใต้เกือกม้าเหล็กทำให้ฝุ่นลอยตลบอบอวล เหล่ากองทัพกบฏโกลาหลวุ่นวายขึ้นมาทันที เมื่อสูญเสียข้อได้เปรียบในการป้องกันที่มีอยู่เดิม ดูเหมือนจะเหลือเพียงสถานะที่ถูกฝ่ายตรงข้ามบดขยี้เท่านั้นอย่างไรเสียกองทัพใหญ่ที่นำโดยราชสำนักก็มีจำนวนหลายหมื่นคน...ในเวลาเดียวกันนั้น องครักษ์ใบ้ผู้นั้นทะยานตัวขึ้น และเตะหวังโซ่วเหรินผู้นำกองทัพกบฏตกลงจากหลังม้าทว่าหวังโซ่วเหรินสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพได้ หาใช่มาดดีแต่ไร้ฝีมือไม่หลังจากเขาตกลงจากหลังม้า ก็รีบลุกขึ้นยืน และชักกระบี่ออกมาเพื่อป้องกันตัวจากศัตรูทว่าสุดท้ายก็ยังพ่ายแพ้ต่อองครักษ์ใบ้ผู้นั้น ไม่เกินสิบกระบวนท่า เขาก็ถูกฝ่ามือขององครักษ์ใบ้ฟาดจนกระดูกซี่โครงหัก แม้แต่แขนที่ถือดาบก็ถูกบิดจนหักด้วยตามด้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 538

    เมื่อเห็นน้องชายตายต่อหน้าต่อตา หวังโซ่วเหรินก็คำรามด้วยความโมโหอย่างสุดเสียง“ไม่! โซ่วอี้ โซ่วอี้!!!”เขาจ้องมองไปทางองครักษ์ใบ้ผู้นั้นด้วยแววตาเคียดแค้น“เป็นเจ้า เป็นเจ้าสังหารน้องชายข้า! ข้าต้องการให้เจ้าตาย!!”องครักษ์ใบ้วางคันธนูลง แววตาเยือกเย็นไร้ความรู้สึกเฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองเขาโดยไม่กระพริบตา มือกำไว้แน่นอย่างอดมิได้เหล่ากองทัพกบฏที่จับตัวราษฎรเห็นหวังโซ่วอี้ตายแล้ว ก็ทำสิ่งใดไม่ถูกหวังโซ่วเหรินจึงสั่งการกองกำลังนั้น“สังหารพวกเขา! ฝ่าบาทและราชสำนักเดิมก็มิเคยสนใจชีวิตของราษฎรเมืองเซวียนอยู่แล้ว! เช่นนั้นก็สังหารพวกเขาให้หมด! ข้าต้องการให้พวกเขาถูกฝังไปพร้อมกับโซ่วอี้!”กองทัพกบฏเหล่านั้นต่างมองหน้ากัน กำลังลังเล และไม่มีการลงมือหวังโซ่วเหรินผิดหวังอย่างหนัก “เหล่าราษฎรเมืองเซวียน จงฟังให้ดี ฝ่าบาทมิใช่ตัวจริง! ราชสำนักมาเพื่อสังหารราษฎรทั้งเมือง! พวกเขาต้องการจะสังหารกองทัพกบฏอย่างพวกเรา พวกเจ้าก็ไม่รอดเช่นกัน! จงรีบหนีไป!“ประตูเมืองเปิดแล้ว จงหนีไป---”เหล่าราษฎรที่หลบซ่อนอยู่ในบ้านเรือนของตนได้ยินเสียงแว่ว ๆ ก็รู้สึกกระวนกระวายบางคนยืนกรานที่จะหลบซ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 539

    กองทัพกบฏทั้งหมดล้มเลิกที่จะต่อต้าน เหล่าราษฎรก็คุกเข่าลงอย่างสงบเรียบร้อยสายตาของเซียวอวี้เยือกเย็นและเฉียบคม“เรามาเมืองเซวียนก็เพื่อสืบหาความจริง“วันนี้พบความจริงแล้วว่า กองทัพกบฏเอื้อประโยชน์ให้กับหวังโซ่วเหรินเป็นส่วนมาก“จุดประสงค์ของเขา มิใช่อยู่ที่เบี้ยหวัดทหาร ทว่าอยู่ที่สมบัติในเมืองเซวียน จนกระทั่งคิดจะลอบสังหารกษัตริย์ หวังโซ่วเหริน เจ้ามีความผิดมหันต์!”บาดแผลของหวังโซ่วเหรินมีเลือดไหลไม่หยุด ในแววตาไม่มีความหดหู่ของผู้แพ้ มีเพียงความไม่ยินยอมเท่านั้น“เหลืออีกนิดเดียว อีกนิดเดียว ข้าก็จะทำสำเร็จแล้ว! ท่านสังหารน้องชายของข้า ฮ่องเต้ทรราชอย่างท่าน ผู้ใดก็สังหารได้!”รุ่ยอ๋องขอคำแนะนำ: “ฝ่าบาท คนที่คิดวางแผนการกบฏเช่นนี้ มีหลักฐานแน่นหนา จะสังหารเขาตอนนี้เลยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เซียวอวี้สั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เขายังมีคนสมรู้ร่วมคิด ลากตัวไป และสอบสวนอย่างละเอียด ส่วนคนอื่น ๆ ก็คุมขังไว้ก่อน รอตัดสินทีละคน”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”หลังจากเหล่ากองทัพกบฏถูกจับกุม ตงฟางซื่อก็ก้าวมาข้างหน้า“ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้มิรู้สถานะของท่าน จึงล่วงเกินไปมาก”คำพูดของเขาเป็นการพูดแทนซ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 540

    องค์หญิงน้อยสวมชุดสีสันสดใส ดวงตากลมโตงดงามเต็มไปด้วยความยินดีนางทำความเคารพเซียวอวี้ตามประสา จากนั้นก็นั่งลงบนม้านั่งตัวเดียวกับเฟิ่งจิ่วเหยียน“เสด็จพี่ฮ่องเต้ ท่านพ่อฟื้นแล้ว! ท่านหมอบอกว่าท่านพ่อปลอดภัยแล้ว ขอเพียงทานยาตรงเวลา ไม่นานก็จะกลับมาแข็งแรง!”องค์หญิงน้อยเดิมทีก็อยู่ในวัยไร้เดียงสาและไร้ความกังวล ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายได้คลี่คลายแล้ว รอยยิ้มจึงยิ่งเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์เซียวอวี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มโดยใบหน้าไม่แสดงความรู้สึก“เซียวหย่า ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน”องค์หญิงน้อยมองดูคล้ายนกกระทา นางก้มหัวลง“หม่อมฉันรู้”รุ่ยอ๋องที่มีสีหน้าดูอ่อนโยน เอ่ยโน้มน้าวว่า “ฝ่าบาท องค์หญิงยังเด็ก บวกกับจู้กั๋วกงเพิ่งจะฟื้นตัว การดีใจชั่วครั้งชั่วคราวก็เป็นอารมณ์ปกติของคนเรา”เซียวอวี้สั่งการองครักษ์: “เพิ่มที่นั่งให้องค์หญิงด้วย” ผลสุดท้าย...บุรุษสี่คนนั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกัน ส่วนองค์หญิงน้อยนั่งอยู่ลำพังที่โต๊ะด้านข้าง มองดูโดดเดี่ยวและอ้างว้างนี่ถือว่าเพิ่มที่นั่งแบบใดกัน?เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเพิ่มโต๊ะ!ฮือฮือ...เสด็จพี่ฮ่องเต้ทรงใจร้ายจริง ๆ!หลังอาหาร เซียวอว

Pinakabagong kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1202

    เฟิ่งจิ่วเหยียนอุ้มลูก ยืนอยู่บนที่สูง แววตาสุขุมแน่วแน่“หากข้าอยากว่าราชการหลังม่าน แล้วเหตุใดจะไม่ได้?”เมื่อคำนี้พูดออกมา ทุกคนต่างส่งเสียงเกรียวกราว“ฮองเฮา ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับให้แม่ไก่มาขันในตอนเช้า นั่นฝ่าฝืนกฎเกณฑ์!”“ขออภัยกระหม่อมขอคัดค้าน!”ไทฮองไทเฮามีสีหน้าโรยรา มองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียน แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอาฮองเฮาทำเช่นนี้ มันเสี่ยงมากเกินไปพูดตรงขนาดนี้ ขุนนางคนไหนจะยอมรับได้?เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น จึงวางองค์ชายลงบนบัลลังก์“ไม่ต้องกล่าวถึงว่าฝ่าบาทยังไม่เสด็จสวรรคต ถึงแม้ว่าท่านเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็ยังมีองค์ชายสืบราชบัลลังก์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงเวลาสำหรับทุกท่านหรอก“วันนี้พวกเจ้าต่างพูดกันเซ็นแซ่ ราวกับอยากวางแผนชิงบัลลังก์เลยนะ!”ทหารคนหนึ่งโต้กลับไปอย่างฮึกเหิม“ฮองเฮา พวกกระหม่อมบริสุทธิ์ใจ กลับถูกท่านหยามเกียรติเช่นนี้! พวกกระหม่อมไม่ยอม!”ท่านอ๋องผู้หนึ่งมองไปทางไทฮองไทเฮา“เสด็จย่า ท่านพูดอะไรบ้างสิ!”เด็กทารกจะไปทำอะไรได้? คุ้มครองแผ่นดินไหวหรือ?จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็บอกว่าปวดหัว แล้วให้สาวใช้ประคองตัวเองออกไปเหล่าท่านอ๋องต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1201

    แคว้นหนานฉีณ เมืองหลวงเรื่องที่ฮองเฮากลับวัง และให้กำเนิดฝาแฝด ใต้หล้าต่างรู้กันถ้วนหน้าอย่างรวดเร็วในวังหลวง ไทเฮาทั้งดีใจที่องค์ชายถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งกังวลเรื่องฝาแฝดนางเรียกฮองเฮามาที่ตำหนักฉือหนิง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับอีกฝ่าย“หากราชวงศ์มีฝาแฝด โดยเฉพาะองค์ชาย เช่นนั้นก็ต้องส่งคนหนึ่งออกไปนอกวัง“ฮองเฮา ข้ารู้ ไม่ว่าจะหน้ามือหรือหลังมือล้วนคือเลือดเนื้อ แต่เพื่อราชวงศ์ เจ้าต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด”ขนาดตอนนั้นตระกูลเฟิ่งมีลูกแฝดยังทอดทิ้งหนึ่งคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ใบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ กล่าวเหมือนไม่ได้ยิน“เด็กทั้งสองคน จะไม่มีใครถูกส่งออกไปทั้งนั้น”เซียวอวี้เองก็เคยพูด เขาจะปกป้องลูกของตัวเองไทเฮารู้เป็นอย่างดีว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กฎก็เป็นเช่นนี้“ฮองเฮา อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลย แม้นข้าจะยินยอม ขุนนางใหญ่เหล่านั้นก็คงไม่ยอมอยู่ดี“วันนี้อยากให้เจ้าเตรียมพร้อม“สุดท้ายเจ้าก็ต้องตัดสินใจ”วังหลังเหล่านางสนมรวมตัวกัน ต่างคนต่างมีความคิดแตกต่างกัน“มีคนบอกว่าฝ่าบาทเกิดเรื่อง  จริงหรือไม่?”“มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1200

    เซียวอวี้ที่ยังคงคอพับไร้เรี่ยวแรง ยกยิ้มเย็นที่มุมปากอย่างถากถางเขาไม่พูดอะไร ท่าทางทะนงองอาจคนที่อยู่ตรงหน้าแนะนำตัว “ข้าคือองค์ชายสี่แห่งแคว้นเป่ยเยี่ยน ครั้งนี้มาเป็นตัวแทนของเสด็จพ่อ เพื่อแสดงไมตรีในฐานะเจ้าบ้านต่อฮ่องเต้หนานฉี”เมื่อองค์ชายสี่มองส่งสัญญาณ ข้ารับใช้ก็นำอาหารเข้ามาเซียวอวี้ไม่แม้แต่จะมององค์ชายสี่มีความอดทน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม“ฮ่องเต้หนานฉี พวกเราแคว้นเป่ยเยี่ยนเชิญท่านมาเป็นแขกด้วยความจริงใจ“เพียงแต่ข้างนอกอันตรายเกินไป จึงได้แต่จัดให้ท่านอยู่ที่นี่“ท่านวางใจเถิด รอให้แคว้นเป่ยเยี่ยนขับไล่กองทัพแคว้นหนานฉีออกไปจนได้ดินแดนที่สูญเสียไปคืนมา ย่อมปล่อยตัวท่านกลับไป”ริมฝีปากบางของเซียวอวี้ยิ้มเยาะเบา ๆพูดเสียดูดี ที่จริงก็แค่เอาเขาเป็นตัวประกัน ทำให้กองทัพแคว้นหนานฉีต่อต้านไม่ได้ก็เท่านั้นองค์ชายสี่เห็นเขาเยือกเย็นเพียงนี้ จึงขอตัวไปก่อนทว่าเมื่อออกมาด้านนอก องค์ชายสี่ก็พูดอย่างเย้ยหยัน“ตกเป็นเชลยแล้วยังจะโอหังเพียงนี้!”ที่ปรึกษาที่อยู่ข้างกายเขาพูด“องค์ชาย ฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ได้ยินว่าฮ่องเต้หนานฉีผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1199

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพรวมเป็นสำคัญ จึงต้องกลับแคว้นหนานฉีก่อนอู๋ไป๋วิตกกังวล“ท่านประมุข กระหม่อมกลัวว่านักฆ่าพวกนั้นจะลงมือกับท่านด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าท่านประมุขเพิ่งจะคลอดลูก จะทนรับแรงสั่นสะเทือนจากการเดินทางได้เช่นไร?สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“กลับแคว้นหนานฉี”ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ต้องกลับไปกลัวก็กลัวแต่ เป้าหมายของนักฆ่าพวกนั้นคือก่อกวนแคว้นหนานฉี นางจะปล่อยให้พวกเขาสมหวังไม่ได้เด็ดขาดก่อนที่จะตามหาเซียวอวี้เจอ นางจะต้องช่วยเขาปกป้องแคว้นหนานฉีเอาไว้ให้ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดการเรื่องในแคว้นซีนี่ว์ไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงว่าจะจัดการขับไล่กองทัพแคว้นเป่ยเยี่ยนอย่างไร ไปจนถึงผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นคนใหม่ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ประมุขคนใหม่ใช้อำนาจอย่างเผด็จการ นางจึงจัดตั้งนโยบายสามประมุขขึ้นในบรรดาสามคนนี้ มีคนหนึ่งเป็นบุรุษทำเช่นนี้จะได้ปลอบโยนเหล่าบุรุษในแคว้นซีนี่ว์ ป้องกันไม่ให้พวกเขาสร้างเรื่องวุ่นวายอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนออกเดินทางกลับแคว้นหนานฉีอย่างรวดเร็วแม้ว่าหูย่วนเอ๋อร์จะตัดใจไม่ลง ทว่านางก็รู้ดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1198

    ประตูตำหนักเปิดออก นางกำนัลเดินออกมาจากด้านในแล้วพูดกับหูย่วนเอ๋อร์: “ท่านแม่ทัพ ท่านประมุขคลอดองค์ชายพระองค์หนึ่งออกมาอย่างปลอดภัยเพคะ”ที่แคว้นซีหนี่ว์ มีเพียงองค์หญิงเท่านั้นที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขได้ ดังนั้นองค์ชายผู้นี้จึงไม่เป็นที่ต้องการทว่าหูย่วนเอ๋อร์ยังคงรู้สึกขอบคุณสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง“องค์ชายก็ดี ปลอดภัยก็ดีแล้ว”ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสายเลือดเชื้อพระวงศ์เพิ่งจะพูดจบ หมอตำแยข้างในก็ร้องตะโกนอย่างตกใจ“ยังมีอีกพระองค์หนึ่ง!”ที่แท้ท่านประมุขก็ทรงตั้งครรภ์ฝาแฝดนี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคนแววตาหูย่วนเอ๋อร์มีความยินดีและการเฝ้ารอพาดผ่านหวังว่าจะเป็นแฝดชายหญิงหากเป็นองค์หญิง อนาคตย่อมสามารถสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นได้ภายในตำหนักเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกไม่ถึงว่าคลอดออกมาแล้วคนหนึ่ง แล้วยังมีอีกคนโชคดีที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังใช้แรงไปไม่หมดก่อนหน้านี้เป็นเพราะตำแหน่งครรภ์ไม่ตรงจึงคลอดยากคนที่สองนี้กลับคลอดง่ายกว่ามาก ทว่าตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกอะไรแล้ว นางเจ็บปวดจนชาไปหมดแล้ว ร่างกายส่วนล่างบวมเสียจนเหมือนว่าเนื้อส่วนนั้นไม่ใช่ของนางอีกต่อไปจนกร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1197

    เคร้ง!พู่กันในมือเฟิ่งจิ่วเหยียนหล่นลง นางมองอู๋ไป๋ด้วยสีหน้าเย็นชา“พวกเฉินจี๋เล่า!”อู๋ไป๋ส่ายศีรษะ“เฉินจี๋เองก็หายตัวไปพ่ะย่ะค่ะ ไม่ง่ายเลยที่จะส่งข่าวนี้กลับมา! ท่านประมุข พวกเราทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตรายแต่ก็ไม่ตื่นตระหนก หลังจากสงบอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็วก็สั่งอู๋ไป๋“สั่งการลงไปให้ทุกจวนในแคว้นซีหนี่ว์ตามหาพระสวามี“พร้อมทั้งส่งองครักษ์ลับทุกคนออกไป รวมถึงกองทัพอินทรีเหิน“ให้พวกเขาตามหาฝ่าบาทตามแนวชายแดน!”อู๋ไป๋รีบไปจัดการตามคำสั่งหากเกิดอะไรขึ้นกับฝ่าบาทต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่!หลังจากอู๋ไป๋ออกไป เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าฝ่ามือของตนเต็มไปด้วยเหงื่อฎีกาบนโต๊ะนางก็ดูไม่รู้เรื่องแล้วทุกอย่างที่คิด มีแต่เรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของเซียวอวี้เป็นไปได้มากว่าคนที่ลงมือรู้ถึงฐานะของเขาดีเฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าเคร่งขรึม หน้าซีดไร้เลือดไม่นานอู่ไป๋ก็กลับมา“ท่านประมุข จัดการเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ยังมีองครักษ์ที่มาส่งข่าวผู้นั้น ท่านต้องการพบเขาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เขาพูดจบแล้ว ทว่ากลับไม่ได้ยินท่านประมุขตอบอะไรอู่ไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1196

    พรุ่งนี้เซียวอวี้ก็ต้องเดินทางกลับแคว้นหนานฉีแล้ว คืนนี้เขานอนกอดเฟิ่งจิ่วเหยียน ทั้งคืนไม่อาจหลับตาลงได้เขาวางมือข้างหนึ่งไว้บนท้องของนาง สัมผัสกับการเคลื่อนไหวในครรภ์ที่มีอยู่บางเวลาหากเวลาหยุดลงตรงนี้ได้ ก็คงจะดีทว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงเขายังคงเป็นฮ่องเต้แคว้นหนานฉี ไม่อาจเห็นแก่ความรู้สึกส่วนตัว ละเลยความปลอดภัยของแคว้นได้เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็นอนไม่หลับนางกุมแขนของเขาเบา ๆ พูดด้วยน้ำเสียงสงบและอ่อนโยน“อย่างมากสุดหนึ่งเดือน หม่อมฉันก็จะกลับแคว้นหนานฉีเพคะ”เซียวอวี้จุมพิตซอกคอนาง “ได้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะไม่ผิดคำพูด”ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใดเขาถึงรู้สึกกระวนกระวายใจเหมือนกับท้องฟ้าที่มืดครึ้มไปด้วยฝน ยากที่ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งวันที่สอง ในที่สุดเซียวอี้ก็ต้องออกเดินทางแล้ววันนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ว่าราชการ นางนั่งรถม้าไปส่งเขาออกจากเมืองด้วยตนเองข้างกายเซียวอวี้มีองครักษ์ติดตามมากมาย ส่วนเหล่าองครักษ์เงา เขาล้วนให้อยู่กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ให้พวกเขาคอยปกป้องฮองเฮาและเด็กให้ดีส่งกันพันลี้ ก็ต้องจากกันเซียวอวี้กำชับหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการกินข้าวและการนอน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1195

    ในใจเฟิ่งจิ่วเหยียนพลุ่งพล่านด้วยเพลิงอารมณ์อันร้อนแรง นางเม้มริมฝีปาก พูดกับเซียวอวี้“เราเป็นสามีภรรยากัน ข้าย่อมมิอาจทำใจห่างจากท่านได้ “แต่ราชการบ้านเมืองประดุจเพลิงโหมกระหน่ำ จะให้ข้ามีจิตห่วงใยแต่เรื่องรักใคร่ได้อย่างไร? “ฝ่าบาท ท่านก็เช่นกัน อย่าได้พูดสิ่งที่หามีสาระไม่ เร่งจัดการราชกิจให้เป็นกิจจะลักษณะเถิดเพคะ...”นางพลางพูด พลางถอยออกจากอ้อมกอดของเขา บีบคั้นให้เขาจำต้องให้ความสำคัญแก่งานราชกิจก่อนสิ่งอื่นใดเซียวอวี้จ้องนางนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างอดกลั้น“ได้”พูดจบ เขาก็หมุนตัวออกจากห้องทรงพระอักษร เหมือนกลั้นลมหายใจไว้ มิคาดหวังคำปลอบประโลมจากนางอีกต่อไปด้านนอกตำหนัก เซียวอวี้ยืนท่ามกลางลมห้วงราตรี สัมผัสได้ถึงไอสังหารเยือกเย็นของแคว้นซีหนี่ว์สายตาของเขาทอดมองไกลลิบ สั่งเฉินจี๋ด้วยสีหน้าเรียบเฉย“เตรียมรถม้า พรุ่งนี้กลับแคว้นหนานฉี”สีหน้าเฉินจี๋ไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใด ๆ แต่ในใจกลับแอบลิงโลด ในที่สุดก็ได้ออกจากแคว้นซีหนี่ว์แล้วเฉินจี๋ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม “จะให้จัดหมอตำแยติดตามไปด้วยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เผื่อฮองเฮาประสูติกลางทา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1194

    เฟิ่งจิ่วเหยียนจำลายมือในกระดาษนั้นได้แน่ชัด ว่าเป็นลายมือของเลี่ยอู๋ซิน เลี่ยอู๋ซินเป็นสหายสนิทของเมิ่งสิงโจวศิษย์พี่ของนาง ก่อนหน้านี้เพื่อสืบหาความจริงคดีมนุษย์โอสถ นางเคยติดต่อกับเลี่ยอู๋ซิน ได้ข่าวว่าหลังจากความจริงกระจ่าง เลี่ยอู๋ซินก้ไปยังแคว้นตงซาน ไล่ล่าซุนโฉวที่เป็นหัวหน้ากลุ่มมนุษย์โอสถที่หลงเหลือ ครั้งนี้เขาส่งข่าวสารมาโดยมิได้ปรากฏตัว ดูท่าออกจะลึกลับพิกลอยู่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “หากมีสิ่งใดเคลื่อนไหวผิดแผก ไยไม่เขียนบอกให้ชัดเจนโดยตรง?”นางก้มมองข้อความ เซียวอวี้ผู้ยืนอยู่ข้างตัวนางคาดคะเน “เลี่ยอู๋ซินอาจไม่สะดวกปรากฏตน หรือผู้ที่ส่งข่าวครั้งนี้ มิใช่เขาเองก็เป็นได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนโน้มเอียงไปทางข้อสันนิษฐานประการหลังมากกว่า อาจเป็นเลี่ยอู๋ซินมอบหมายให้คนนำข้อความมา หากมิใช่เช่นนั้น คงไม่จำต้องปิดบังอำพรางถึงเพียงนี้“แคว้นตงซาน…” เฟิ่งจิ่วเหยียนพึมพำในลำคอ ครานั้นแต่ละแคว้นโจมตีแคว้นหนานฉี ก็เพราะแคว้นตงซานเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง เห็นได้ชัดว่าความทะเยอทะยานของพวกเขาไม่ธรรมดา ยามนี้แคว้นตงซานเคลื่อนไหวผิดแผก เกรงว่า

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status