Share

บทที่ 528

Penulis: อี้ซัวเยียนอวี่
“บุตรสาวของจู้กั๋วกง แสดงว่าเป็นองค์หญิงน้อย ลูกพี่ลูกน้องของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันน่ะสิ?!” ฝานจิ้นตกตะลึง

ชาวยุทธภพ ไม่ชอบทุกเรื่องในราชสำนัก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับราชวงศ์

หากองค์หญิงน้อยเป็นอะไรไปในถิ่นของพวกเขา ก็คงกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก

คนอื่น ๆ ค่อนข้างสงสัย

“รองผู้นำพันธมิตร นางบอกเองกับปากหรือ?”

“ข้าเดาเอา” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดตามตรง

“เช่นนั้นท่านดูออกได้อย่างไร?”

ในตอนนี้เอง ตงฟางซื่อก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา

“เสื้อผ้าอาภรณ์ของเด็กคนนั้นดูธรรมดาก็จริง แต่ลืมเปลี่ยนมาใส่รองเท้าธรรมดา

“ผ้ากำมะหยี่  ปักด้วยไหมฝูกวง ล้วนเป็นของพระราชทานในราชวงศ์

“เท้าของเด็กคนนั้นโตเร็ว แถมยังมีลีลาเช่นนี้ ก็คงต้องเป็นองค์หญิงน้อยแห่งจวนจู้กั๋วกงแล้วล่ะ”

เขาพูดจบ จากนั้นก็หันไปมองเฟิ่งจิ่วเหยียน ใช้สายตาถามว่าตัวเองพูดถูกหรือไม่

เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าแทนคำตอบ

นางไม่ได้กล่าวสิ่งหนึ่ง จริง ๆ แล้ววินาทีแรกที่เจอองค์หญิงน้อย ก็รู้สึกว่าหน้าตาของนางกับเซียวอวี้ดูคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง

ฝานจิ้นเสนอตัวเป็นอาสาสมัคร

“ข้าจะไปส่งนางเอง! ฝีเท้าข้าเร็ว แถมแรงเยอะ สามารถแบกนางวิ่งได้”

ตงฟางซื่อไม่เลือก
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 529

    แม้นตงฟางซื่อจะไม่พอใจที่เฟิ่งจิ่วเหยียนหายไปจากพันธมิตรอู่หลินในตอนนั้น กระนั้นก็ทนเห็นนางเข้าไปในแดนศัตรูคนเดียวไม่ได้เขามองนางแน่นิ่ง พูดอย่างประเมินว่า“เจ้าเปลี่ยนไปนะ“เมื่อก่อนเจ้าหวงแหนชีวิตเสียยิ่งกว่าอะไรดี เอาแต่พูดว่าไม่มีผู้ใดสำคัญไปกว่าตัวของเจ้าเอง”เฟิ่งจิ่วเหยียนรัดสนับข้อมือให้แน่น แล้วกล่าวเสียงทุ้มต่ำ“ตอนนี้ข้าก็ยังเป็นเช่นนั้น”ตงฟางซื่อห้ามนาง “เช่นนั้นก็ไม่ต้องรับเรื่องทุกอย่างไว้คนเดียว เจ้าไม่ได้นามสกุลเซียวเสียหน่อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองมาที่เขาอย่างเรียบนิ่งจากนั้นก็ได้ยินเขาพูดอย่างแน่วแน่“ซูฮ่วน เจ้าตั้งใจสืบเรื่องของพรรคเทียนหลงก็พอ ส่วนเรื่องเมืองเซวียน ข้าจะจัดการเอง”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว“เจ้าจะจัดการอย่างไร?”ใบหน้าหล่อเหลาของตงฟางซื่อปกคลุมไปด้วยรอยยิ้ม“วิชาปลอมตัวไง ข้าก็คิดเหมือนเจ้านั่นแหละ ส่วนตัวเลือกนั้น ข้าคิดว่า ไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่าข้าแล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งค้าง “เจ้า?”ขณะที่นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ตงฟางซื่อก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน“นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำในฐานะผู้นำพันธมิตร อย่าคิดที่จะห้ามข้าล่ะ เรื่องดี ๆ ที่สร้างผล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 530

    ครึ่งชั่วยามต่อมา หลังจากรุ่ยอ๋องหารือเรื่องเข้าเมืองเซวียนกับตงฟางซื่อเสร็จ ก็อยู่ค้างที่หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ต่อเหล่าฝานพาพวกเขาไปยังที่พักทันใดนั้น รุ่ยอ๋องก็โค้งคารวะเฟิ่งจิ่วเหยียน“ท่านนี้คือรองผู้นำพันธมิตรสินะ ตอนมาข้าจำเจ้าไม่ได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนคารวะกลับอย่างเรียบเฉยในตอนนี้เอง เด็กน้อยเซี่ยวเซี่ยวก็วิ่งเข้ามานางโถมตัวเข้าใส่อ้อมกอดของเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างคุ้นเคย จากนั้นก็ออดอ้อนออเซาะ“พี่ชาย ข้ากลัวความมืด เจ้าไปนอนกับข้า…”พูดยังไม่จบ นางก็เหลือบเห็นพวกรุ่ยอ๋องเด็กมักจะเก็บอาการไม่ได้ สีหน้าพลันเผยแววดีใจออกมาคนนี้ เหมือนจะเป็นท่านพี่รุ่ยอ๋องเลย!เขาตั้งใจมารับนางโดยเฉพาะเลยหรือ?องค์หญิงน้อยทั้งดีใจ ทั้งยังไม่อยากกลับ สีหน้าจึงดูยุ่งเหยิงในตอนนี้เอง รุ่ยอ๋องก็มองมาที่เซี่ยวเซี่ยวด้วยใบหน้าอ่อนโยนองค์หญิงน้อยไม่ค่อยกลับเมืองหลวง ครั้งล่าสุดที่เจอนาง เห็นจะเป็นเมื่อสามปีที่แล้วได้ แต่เขาก็ยังจำนางได้ตั้งแต่เห็นครั้งแรกอีกอย่าง ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทได้รับจดหมายจากพันธมิตรอู่หลิน เขียนบอกเรื่องที่พวกเขาช่วยองค์หญิงน้อยเอาไว้การที่เขามาเยือนเมืองตงซิ่นในครั้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 531

    เฟิ่งจิ่วเหยียนกับองค์หญิงน้อยนั่งอยู่ภายในรถม้าด้วยกันองครักษ์ใบ้ผู้นั้นก็ก้มตัวจะเข้าไปในห้องโดยสารโดยมิรู้ตัว แต่ถูกองค์หญิงน้อยทำท่าทางดุดันใส่“เจ้าเข้ามา แล้วผู้ใดจะขับรถม้า!”องครักษ์ใบ้ตัวเกร็งไปชั่วขณะ จากนั้นจึงออกไปทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้สึกอึดอัดใจเช่นกัน“องค์หญิง ข้าน้อยออกไปด้านนอกจะดีกว่า...”องค์หญิงน้อยกอดแขนของนางเอาไว้แน่น พร้อมกับส่ายหัวให้นาง“ไม่ได้ พี่ชายใหญ่ ท่านต้องคุ้มกันข้าอย่างใกล้ชิด”เฟิ่งจิ่วเหยียนดึงแขนของตนออกมา พร้อมเอ่ยอย่างจริงจัง“องค์หญิง ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน”ถึงแม้องค์หญิงจะยังทรงพระเยาว์ ก็ควรระวังตัวเช่นกันองค์หญิงน้อยกลับจ้องมองนาง พร้อมเอ่ยด้วยท่าทีซ่อนเร้น“ข้ารู้แล้ว”รถม้าโคลงเคลง องค์หญิงน้อยทรงง่วงเพลียอย่างมาก จึงเอนตัวลงและบรรทมหลับอยู่ด้านในยามที่ตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้วนางหิวแล้ว จึงทำได้เพียงกินอาหารแห้งไปก่อน เฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดม่านขึ้น และเอ่ยกับองครักษ์ใบ้ผู้นั้น“หยุดพักก่อนเถอะ ข้าจะขับให้”องครักษ์ใบ้ทำเหมือนไม่ได้ยิน บางทีเสียงลมที่พัดผ่านหูอาจจะดังเกินไป จนกลบเสียงของนางเฟิ่งจิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 532

    หลังจากองครักษ์ใบ้กลับเข้าห้อง กลับเห็นบุรุษที่อยู่บนคานห้องผู้นั้นนั่งอยู่ตรงนั้น มือข้างหนึ่งวางอยู่บนเข่าที่งอขึ้น และมองลงมาที่เขา พร้อมกับถามด้วยความสงสัย“ไปทำสิ่งใดมา?”เฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ภายนอกจะระวังตัวอย่างมาก กลางวันนอน และกลางคืนเฝ้ายามขณะที่คนผู้นี้ออกไปนางก็รู้แล้วทว่าเขาอยู่นอกประตูตลอดเวลา มิได้ไปที่ใดอีก นางจึงมิได้ตามออกไปสืบดู นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่รุ่ยอ๋องไว้วางใจ นางก็มิควรทำตัวสอดรู้สอดเห็นองครักษ์ใบ้ทำภาษามือง่าย ๆ ราวกับจะบอกว่าเขาออกไปเดินรอบ ๆ มาเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้เค้นถามสิ่งใดอีก จึงเอนนอนลงไปตามเดิมบุรุษเหลือบมองนางแวบหนึ่ง ในดวงตามีเงามืดกระดำกระด่าง...วันรุ่งขึ้น คณะสามคนรีบเดินทางต่อองค์หญิงน้อยทรงถามเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยความใส่พระทัย“พี่ชายใหญ่ เมื่อคืนท่านกับคนประหลาดผู้นั้นนอนด้วยกันหรือ?”ชายชาตรีสองคน หากไม่นอนด้วยกัน ก็อาจจะดูแปลกอยู่บ้างเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้อธิบายมากความ นางฉวยจังหวะแขวนขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ไว้บนคอขององค์หญิงน้อยองค์หญิงน้อยก็หยิบขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่นั้นขึ้นมากินโดยปริยายเฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 533

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้มาว่า ตอนนี้กองทัพกบฏในเมืองเซวียนถูกแบ่งออกเป็นสองกองกำลังฝ่ายหนึ่งนำโดยแม่ทัพฝ่ายซ้ายหวังโซ่วเหริน พวกเขาเป็นพวกหัวรุนแรง ไม่สนใจชีวิตของราษฎรอีกฝ่ายนำโดยแม่ทัพฝ่ายขวาเซี่ยงเทียน พวกเขาสนับสนุนการใช้สันติวิธีในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงสิ่งที่สมควรได้รับ ทั้งจดจำอยู่เสมอว่าตนคือทหาร เป็นทหารที่ปกป้องราษฎรความละมุนละม่อมเพียงอย่างเดียวมิอาจเอาชนะความโหดเหี้ยมได้ทหารของเซี่ยงเทียนถูกส่งไปเฝ้าประตูเมืองทั้งสี่แห่ง ถูกโยกย้ายออกจากใจกลางของเมืองเซวียนตอนนี้ในเมืองเต็มไปด้วยทหารของหวังโซ่วเหริน พวกเขาถืออำนาจบาตรใหญ่ ไม่เกรงกลัวสิ่งใดจวนของจู้กั๋วกงก็ถูกพวกเขายึดครองด้วยสิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องทำคือรอให้ตงฟางซื่อลงมือเพื่อสถานการณ์โดยรวม นางไม่สามารถก่อปัญหาใหม่เพิ่มมาอีก ในคืนนั้นจึงซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งของชาวบ้านอีกด้านหนึ่งองครักษ์ใบ้พาองค์หญิงน้อยไปค้นหาอยู่รอบหนึ่ง ก็ยังไม่พบแผนที่สมบัติแผ่นนั้น ทว่าเขาขุดต้นไม้ไปหลายต้นแล้วกระทั่งขณะที่ขุดมาถึงต้นที่สิบสอง องครักษ์ใบ้ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป“ท่านจำได้หรือจำไม่ได้กันแน่!”องค์หญิงน้อย: !!!นิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 534

    ทันใดนั้น มีคนสวมหน้ากากผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น และขวางทางเซี่ยงเทียนกับคณะของเขาไว้“เจ้าเป็นผู้ใด!!” เซี่ยงเทียนระแวดระวังขึ้นมาทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เอ่ยสิ่งใด พร้อมกระโดดขึ้นไปบนหลังคาเซี่ยงเทียนรีบตามไปทันที และตะโกนว่า “จับนักฆ่า!”อีกด้านหนึ่งณ จวนจู้กั๋วกงในห้องโถงหลักหวังโซ่วเหรินกำลังสนทนากับคนผู้หนึ่ง คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็คือ บุรุษสวมชุดคลุมขาวผู้หนึ่ง บนใบหน้าสวมหน้ากาก มองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน ทว่าบนนิ้วมือมีแหวนน้าวสวมอยู่หวังโซ่วเหรินมีท่าทีเคารพคนผู้นี้เป็นพิเศษ“นายท่านวางใจได้ ทุกอย่างดำเนินตามแผนของนายท่าน...”ทันใดนั้น คนชุดคลุมขาวรับรู้ถึงบางอย่าง เขาเหวี่ยงมือ อาวุธลับที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อก็พุ่งออกไปขณะที่ทั้งสองคนไล่ตามออกไป ก็เห็นเพียงเงาดำกระโดดข้ามออกจากกำแพงไปหวังโซ่วเหรินเหงื่อแตกพลั่กในทันที “นี่...”คนชุดคลุมขาวสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ไล่ตาม!”ทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีคนสวมชุดคลุมขาวเหมือนกันหลายสิบคนปรากฏตัวออกมาจากในที่ลับ ราวกับลูกธนูคมไล่ตามคนชุดดำผู้นั้นไปหลังจากองครักษ์ใบ้หนีออกมาจากจวนจู้กั๋วกง ก็มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกด้านหลัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 535

    ด้านนอกประตู แม่เล้าขวางทหารกบฏเหล่านั้นไว้“ด้านในคือน้องชายของแม่ทัพหวัง...”“เหตุใดจึงไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวใด ๆ ?”“นี่...บางทีอาจจะเหนื่อยและหลับไปแล้ว?” แม่เล้าคาดเดา“ไม่ชอบมาพากล! เปิดประตู!”ภายในห้องเหตุการณ์คับขันไม่มีทางออกแล้ว องครักษ์ใบ้เห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็หันหลังจะกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่างเฟิ่งจิ่วเหยียนขวางเขาไว้ และชี้ไปทางอ่างน้ำพร้อมส่งภาษามือให้เขาแววตาของบุรุษดูเยือกเย็นนี่จะให้เขาลงไปในอ่างน้ำหรือ?เวลาคับขัน เฟิ่งจิ่วเหยียนมิพูดพร่ำทำเพลง ขณะที่เขากำลังลังเลไร้สติอยู่นั้น นางก็ผลักเขาลงไปในอ่างน้ำอย่างมิเกรงใจไอ้บ้าเอ๊ย!หลังจากบุรุษขึ้นมาจากน้ำ วินาทีแรกคือขยับหน้ากากบนใบหน้าของเขาให้ตรงทว่ากลับเห็นซูฮ่วนนำสตรีผู้นั้นซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็สวมชุดคลุมตัวนอกของหญิงสาว พร้อมปล่อยผมดำขลับลงมาอย่างรวดเร็วจากนั้นนางก็ลงไปในอ่างน้ำ...ปัง! กองทัพกบฏใช้กำลังพังประตูเห็นเพียงในอ่างน้ำภายในห้องนั้น หญิงสาวหันหลังให้พวกเขา กำลังดันตัวบุรุษไปที่ขอบอ่างน้ำ ท่าทางของทั้งสองคนนั้นดูใกล้ชิดแนบแน่น...หลังจากแม่เล้าเห็นแล้ว นัยน์ตาพลันม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 536

    เฟิ่งจิ่วเหยียนกับองครักษ์ใบผู้นั้น ทั้งสองคนกำลังสกัดกั้นกองทัพกบฏจำนวนนับไม่ถ้วนทว่ากองทัพกบฏทุกคนที่พุ่งเข้ามาด้านหน้า จะถูกเตะลอยคว้างและล้มลงด้วยความเร็วที่รุนแรงฉับพลันส่วนทั้งสองคนนั้นดูเหมือนไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยหวังโซ่วเหรินนั่งอยู่บนหลังม้า และมองดูจากตำแหน่งที่ไม่ไกลนัก ในใจยิ่งรู้สึกหวาดหวั่นมิได้การ!จะเสียเวลาเช่นนี้ต่อไปอีกมิได้แล้ว!เขาต้องทำตามคำสั่งของนายท่านให้สำเร็จโดยเร็ว สังหารฮ่องเต้ผู้นั้นเสีย!หวังโซ่วเหรินหยิบคันธนูและลูกธนูออกมา และยิงออกไปทางฮ่องเต้ผู้นั้นทว่า ลูกธนูดอกนั้นเห็นชัดว่ายิงออกไปอย่างแม่นยำ และขณะที่ลูกธนูอยู่ห่างจากตัวฮ่องเต้เป็นระยะห่างสามฉื่อ มันกลับหยุดลงอย่างน่าประหลาด!หวังโซ่วเหรินมิอยากเชื่อภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ จึงรีบขยี้ตาในทันทีตงฟางซื่อมีประสาทการรับรู้ต่อภัยอันตรายที่ฉับไวมาโดยตลอดเขาใช้มือข้างหนึ่งทำให้ลูกธนูดอกนั้นลอยอยู่กับที่ เพียงโบกมือเบา ๆ ลูกธนูก็ร่วงลงพื้นแล้วทว่าดูเหมือนเขาจะมิได้รับผลกระทบใด ๆ แม้แต่น้อย ยังคงจดจ่ออยู่กับการแก้กลไกลของค่ายกลประตูนั้น หวังโซ่วเหรินมิอยากเชื่อ ลูกธนูที่ยิงออกไปติด

Bab terbaru

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1010

    ฉึก---ตามเข็มที่หร่วนฝูอวี้แทงลงไป กู่เสน่ห์ในร่างกายของรุ่ยอ๋องก็แตกระเบิด แปรเปลี่ยนเป็นกองเลือดในเวลานี้ รุ่ยอ๋องรู้สึกเพียงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงโจมตีเข้ามา จากนั้นตามมาด้วยความรู้สึกโล่งสบายราวกับปล่อยวางของหนักกู่เสน่ห์ หายไปแล้วเขาผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ มิคาดคิดว่า กู่เสน่ห์ที่ทรมานเขามาหลายเดือนนั้น จะกำจัดได้อย่างราบรื่นเช่นนี้...ในชั่วขณะนั้น หร่วนฝูอวี้ในสภาพราวกับใบไม้แห้งที่อยู่ตรงหน้าเขา ทั้งตัวคนกลับเอนมาทางด้านหน้า และล้มลงในอ้อมอกเขารุ่ยอ๋องรีบประคองนางไว้ทันที โดยมิรู้สาเหตุ“เจ้าเป็นอะไร?”เมื่อครู่นางก็ยังดี ๆ อยู่มิใช่หรือ?เมื่อก้มลงมอง สีหน้านางซีดขาวไร้เลือดฝาด ส่งเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดรุ่ยอ๋องรับรู้ได้ทันทีว่า นี่อาจจะเป็นผลที่ย้อนกลับมาทำร้ายของกู่เสน่ห์!หากต้องการจะฝังกู่เสน่ห์ให้กับคนอื่น ตนเองก็ต้องฝังกู่เสน่ห์ตัวแม่ไว้ด้วยเช่นกันตอนนี้กู่เสน่ห์ตัวลูกในร่างกายของเขาตายไปแล้ว หร่วนฝูอวี้ย่อมต้องทรมานเป็นธรรมดาทว่าเขามิมีความรู้ด้านนี้มากนัก มิรู้ว่าอาการของนางร้ายแรงเพียงใด เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหรือไม่รุ่ยอ๋องจึงตัดสินใจเด็ดข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1009

    หลิวอิ๋งต้องการอาศัยสถานะราชทูต เพื่อเข้าวังไปพบฮ่องเต้ทว่า ฮ่องเต้และฮองเฮาเสด็จออกไปภายนอก ยังมิได้เสด็จกลับวัง ข้าหลวงจึงเพียงรายงานเรื่องนี้ขึ้นไปตามลำดับขั้นภายในวังเมื่อฮองเฮาไม่อยู่ หน้าที่ในวังหลังจึงอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของหนิงเฟยนางได้ยินว่าด้านนอกประตูวังมีราชทูตมาจากแคว้นซีหนี่ว์ ต้องการจะขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้ พลันรู้สึกราวกับว่าเผชิญศัตรูตัวฉกาจถึงอย่างไร นางก็แค่รับผิดชอบแต่ในวังหลัง นี่เกี่ยวข้องกับเรื่องสำคัญของบ้านเมือง นางมิเคยจัดการมาก่อนเช่นกัน“รีบไปเชิญรุ่ยอ๋องมาเดี๋ยวนี้!”หายากที่นางจะมีช่วงเวลาที่สงบสุขไม่กี่วัน จู่ ๆ ก็มีราชทูตมาเยือน คงมิใช่ต้องการให้นางจัดงานเลี้ยงในวัง และต้อนรับราชทูตอีกแล้วกระมัง!เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หนิงเฟยรู้สึกหงุดหงิดกระวนกระวายนางเริ่มจะคิดถึงฮองเฮาขึ้นมาแล้วเหตุการณ์ในวังแห่งนี้ ช่างเกิดขึ้นเรื่องแล้วเรื่องเล่า จนรู้สึกสับสนวุ่นวายรุ่ยอ๋องก็มิเคยได้ยินมาก่อนว่า ราชทูตจากแคว้นซีหนี่ว์จะเดินทางมาเยือนเขาพบกับหลิวอิ๋งเป็นการส่วนตัวสิ่งที่นางพูด เป็นคำพูดเพียงฝ่ายเดียวถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ทว่าก็ควรเชื่อแม้จะยังยื

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1008

    เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้กลับไปยังเมืองหลวงในทันทีไม่ นางต้องการจะสืบเรื่องของซู่ยวนให้กระจ่างเซียวอวี้ยังมีราชกิจที่ต้องสะสาง สองคนจึงแยกทางกันณ เมืองหลวงหลิวอิ๋งแม่ลูกมาถึงในฐานะราชทูต คณะก็เข้าพักในโรงพักแรม ทว่ามิคาดคิดว่า วันต่อมาก็เกิดเรื่องไม่ชอบมาพากลขึ้นเช้าวันรุ่งขึ้น เจิ้งจีวิ่งเข้ามาพร้อมกับร้องตะโกน“ท่านแม่! ท่านแม่! เหตุใดคนอื่น ๆ ถึงหายไปแล้วเจ้าคะ?”สีหน้าหลิวอิ๋งเต็มไปด้วยความประหลาดใจคณะราชทูตที่มาพร้อมกับพวกนาง ยังมีขุนนางอีกหลายคนคนเหล่านั้นจะหายไปได้อย่างไร?หลิวอิ๋งวิ่งไปยังห้องที่พวกเขาพักอยู่ ตรวจดูแต่ละห้อง ทว่าว่างเปล่าไร้เงาคนนี่ช่างน่าแปลกยิ่งนัก!สีหน้าเจิ้งจีดูกังวลใจ“ท่านแม่ พวกเขาคงมิได้ถูกมองว่าเป็นสายลับ และถูกจับตัวไปแล้ว?”หลิวอิ๋งสงบสติ เอ่ยพึมพำ“เป็นไปมิได้”แคว้นซีหนี่ว์กับหนานฉีเป็นพันธมิตรกัน หนานฉีคงมิทำให้พวกนางต้องขุ่นเคืองใจหลิวอิ๋งจึงตัดสินใจในทันที “ไปแจ้งทางการ!”ณ ที่ว่าการเจ้าหน้าที่ศาลพาสองแม่ลูกมายังห้องโถงรองซึ่งแตกต่างจากห้องโถงหลักที่ใช้สอบสวนคดี ห้องโถงรองเป็นสถานที่ที่ขุนนางจัดการงานราชการ และรับรองสหาย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1007

    เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบนายหญิงเฟิ่งด้วยท่าทีระวังคำพูด“หลิวอิ๋งต่างหากที่เป็นหลิวหนิงบุตรสาวคนโตเริ่มแรกของตระกูลหลิว “ทว่า นี่เป็นเพียงการคาดเดาของข้า มิได้มั่นใจเต็มร้อย”นางยึดถือตามความเชื่อเรื่องการกดดวงชะตา จึงได้คาดเดาทว่าประมุขแคว้นซีหนี่ว์กลับเชื่ออย่างสนิทใจหากเป็นเช่นนั้น ข้อสงสัยเกี่ยวกับอายุ ก็คลี่คลายได้มิยากแล้วนางมองไปที่นายหญิงเฟิ่ง สายตาแสดงออกถึงความอ่อนโยน“เจ้าถึงจะเป็นน้องสาวของเรา ตระกูลหลิวให้เจ้าเป็นตัวตายตัวแทน ให้เจ้าแทนที่ตัวตนของหลิวหนิง“ปิ่นปักผมที่หักนั้น ก็เป็นของเจ้า มันเป็นหลักฐานที่ทำให้พวกเราพี่น้องได้รู้ถึงสายสัมพันธ์”นายหญิงเฟิ่งสีหน้าดูสับสน แยกไม่ออกว่าอะไรจริง และอะไรเท็จขึ้นมาชั่วขณะเฟิ่งจิ่วเหยียนเสนอแนะ“รอหม่อมฉันกลับไปที่หนานฉี จะสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างต่อไป”ประมุขแคว้นกังวลพระทัยว่านางจักพานายหญิงเฟิ่งกลับไปด้วย สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีจากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนมองไปทางมารดา “สิ่งที่ข้ารู้ ก็บอกให้ท่านรู้แล้วทั้งหมด ตอนนี้ ถึงเวลาที่ท่านต้องตัดสินใจแล้ว ท่านจะกลับไปหนานฉีกับข้า หรือจะอยู่ต่อ?”นายหญิงเฟิ่งตกอยู่ในภาวะก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1006

    นายหญิงเฟิ่งคิดอย่างไรก็ยังมิเข้าใจว่า ตนเองกลายเป็นน้องสาวของประมุขแคว้นซีหนี่ว์ได้อย่างไรเห็นกันอยู่ว่านางเป็นบุตรแท้ ๆ ของท่านพ่อท่านแม่ เรื่องนี้ เพื่อนบ้านและญาติมิตรที่บ้านเกิด ล้วนเป็นพยานได้พวกเขาต่างเห็นตอนนางคลอดเฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบภาพเหมือนของคนตระกูลหลิวออกมา แล้ววางไว้บนโต๊ะตรงหน้ามารดา“หากดูจากภาพเหมือนแล้ว ท่านไม่เหมือนบุตรแท้ ๆ ของพวกเขาเลย”นายหญิงเฟิ่งคิ้วขมวดแน่น ในช่วงเวลาสั้น ๆ มิอาจยอมรับเรื่องเช่นนี้ได้หากนางมิใช่บุตรแท้ ๆ เหตุใดถึงถูกท่านพ่อท่านแม่รับมาเลี้ยงยังมี ปิ่นปักผมที่หักอันนั้น ก็มิใช่ของอาอิ๋งหรอกหรือ?นางรู้สึกสับสนในใจยิ่งนักในเวลานี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบมองไปยังประมุขแคว้นซีหนี่ว์ พลางเอ่ยอย่างช้า ๆ “ข้าสืบพบว่า ตอนนั้นสามีภรรยาตระกูลหลิวให้กำเนิดบุตรสาวคนโต พร้อมกับตั้งชื่อว่าหลิวหนิง“หลิวหนิงตั้งแต่เกิด ร่างกายก็มิค่อยแข็งแรง มักจะร้องไห้งอแงในตอนกลางคืน“คนในหมู่บ้านต่างพูดว่า นางถูกวิญญาณชั่วร้ายตามรังควาน ในไม่ช้าก็จะถูกวิญญาณอาฆาตมาเอาชีวิต”นายหญิงเฟิ่งได้ยินเช่นนี้ จึงพยักหน้าเล็กน้อย“มีเรื่องเช่นนั้นจริง ท่านพ่อท่านแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1005

    ภายในห้องบรรทมประมุขแคว้นถอดเสื้อคลุมมังกรออก เปลี่ยนใส่เสื้อคลุมเรียบง่ายเจิ้งจีเดินเข้ามา ถามอย่างสงสัย“ท่านป้า นี่ท่านกำลังจะไปที่ไหน?”ประมุขแคว้นมีสีหน้าราบเรียบ “ตรวจลาดตระเวนการประปา”เจิ้งจีเดินเข้าไปประคองแขนของประมุขแคว้นอย่างสนิทสนม แล้วออดอ้อนนาง“ท่านป้าช่างมุ่งมั่นเพื่อประชาชนจริง ๆ!“ฮ่องเต้ทั่วใต้หล้านี้  ไม่มีผู้ใดดีเท่าท่านแล้ว“ท่านป้า เมื่อครู่ข้าเห็นฮองเฮาแคว้นหนานฉี นางมาทำไมหรือ?”ประมุขแคว้นกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติ พูดอย่างสงบนิ่งเป็นพิเศษ “นางติดตามฮ่องเต้ฉีใส่ชุดสามัญชนออกเยี่ยมแต่ละแคว้น จึงตั้งใจแวะเวียนมาที่แคว้นซีหนี่ว์ เพื่อเจรจาเรื่องพันธมิตรของทั้งสองแคว้น”“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง เช่นนั้น…ฮ่องเต้ฉีเสด็จมาหรือไม่?” เจิ้งจีสนใจฮ่องเต้ฉี มากกว่าสนใจป้าของตัวเอง จนไม่สังเกตว่า ประมุขแคว้นที่อยู่ข้าง ๆ ริมฝีปากเริ่มซีดขาวอย่างมากมั่วซินหมัวมัวเดินเข้ามาอย่างเหมาะเจาะ“ท่านประมุข รถม้าเตรียมเสร็จแล้ว”ประมุขแคว้นดึงแขนตัวเองออก ก่อนจะไปก็กำชับเจิ้งจีว่า“เจ้ากับแม่ของเจ้าอยู่ในวังกันดี ๆ พรุ่งนี้เตรียมออกปฏิบัติภารกิจราชทูตที่แคว้นหนานฉี”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1004

    “ออกไปให้หมด” ประมุขแคว้นออกคำสั่งเหล่าขุนนาง จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้มั่วซินหมัวมัว พาเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้ามาสองเค่อยามต่อมา เฟิ่งจิ่วเหยียนก็มาถึงห้องบรรทมนางอยู่ในชุดสีเข้ม ใบหน้าสุขุมเยือกเย็นประมุขแคว้นซีหนี่ว์ไล่ข้าหลวงทุกคนออกไป เหลือไว้เพียงมั่วซินหมัวมัวคนเดียว“ท่านแม่ของข้าอยู่ที่ใด” เฟิ่งจิ่วเหยียนถามเข้าประเด็นทันทีประมุขแคว้นกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “นั่งลงคุยกันก่อนสิ”เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับนางจ้องประมุขบนเตียงอย่างแน่นิ่งไม่เจอกันเพียงไม่กี่เดือน อาการป่วยของประมุขแคว้นซีหนี่ว์ยิ่งหนักขึ้นเรื่อย ๆเฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน“ท่านต้องการตามหาซู่ยวน หากไม่มีอะไรผิดพลาด ท่านแม่ของข้าคือ…”ประมุขแคว้นยิ้มมุมปากเบา ๆ“เจ้าก็รู้นี่ ว่าแม่ของเจ้าหน้าคล้ายหลายส่วน…แค่ก ๆ!”พูดถึงตรงนี้ จู่ ๆ นางก็เริ่มไอออกมามั่วซินหมัวมัวรีบเข้าไปช่วย ใช้ผ้าเช็ดหน้ารองรับเลือดที่ประมุขแคว้นอาเจียนออกมาประมุขแคว้นค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น มองเฟิ่งจิ่วเหยียน“เด็กน้อย เจ้ามานี่สิ…”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองนาง ไม่ขยับไหวติงมั่วซินหมัวมัวเห็นเช

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1003

    มั่วซินหมัวมัวเห็นนายหญิงเฟิ่งทรุดนั่งบนเก้าอี้ ท่าทางเจ็บปวดรวดร้าว ก็รีบเข้าไปประคองนางขึ้นมา“ฮูหยินเฟิ่ง ท่านเป็นอะไรไป!”หลิวอิ๋งเองก็รีบลุกขึ้น “มั่วซิน รีบไปเรียกหมอหลวงมา ไม่รู้นางเป็นอะไรไป อยู่ ๆ ก็หายใจไม่ออก”ไม่นาน หมอหลวงก็มาหลังจากฝังเข็มเสร็จ อาการของนายหญิงเฟิ่งก็ดีขึ้นเพียงแต่ แววตาของนางว่างเปล่า ไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่เจิ้งจียืนอยู่ข้างมารดา ดวงตาเต็มไปด้วยแววคาดโทษนังแก่นี่ กล้าปากมากก็ลองดู!ทว่า ต่อให้ท่านป้าผู้เป็นประมุขแคว้นรู้แล้วอย่างไร? นางกับท่านแม่ต่างหากคือครอบครัวเดียวกัน แล้วนังแก่นี่เป็นใคร?ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน นายหญิงเฟิ่งก็ค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมา“ข้าจะกลับแคว้นหนานฉี”มั่วซินหมัวมัวมีสีหน้าเรียบเฉย “รอบ่าวไปเรียนแจ้งประมุขแคว้นสักครู่”หลิวอิ๋งค่อนข้างสงสัยฉงนใจถึงขั้นส่งมั่วซินหมัวมัวตามมาที่ตำหนักข้างด้วยขนาดนี้ เหมือนประมุขแคว้นจะใส่ใจหลิวหนิงมากเกินไปแล้วทว่า ประมุขแคว้นยอมให้นายหญิงเฟิ่งกลับไปที่แคว้นหนานฉีทันที ทำลายล้างความสงสัยของหลิวอิ๋งนายหญิงเฟิ่งออกจากวังหลวง โดยมีหลิวอิ๋งมาส่งนางขณะกำลังจะแยกจากกัน หลิวอิ๋งก็แสร้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1002

    นายหญิงเฟิ่งยืนอึ้งอยู่กับที่เจิ้งจีพร่ำเพ้อถึงฝ่าบาท ทั้งยังคิดจะตั้งครรภ์ราชโอรส!เช่นนั้นก็ไม่แปลกใจ ที่จิ่วเหยียนจะไล่พวกนางออกไป“อาอิ๋ง เรื่องนี้ เจ้ารู้หรือไม่?” ความรู้สึกผิดบนใบหน้าของนายหญิงเฟิ่งเลือนหายไป แปรเปลี่ยนเป็นซักถามหลิวอิ๋งไม่ปฏิเสธ“ท่านพี่ พวกเราคือครอบครัวเดียวกัน เด็กที่เจิ้งจีคลอดออกมา ก็คือหลานของฮองเฮา แทนที่จะเสียเปรียบให้นางสนมคนอื่น มิสู้…”“อาอิ๋ง เจ้าเลอะเลือนหรือไร!” นายหญิงเฟิ่งตำหนิอย่างเด็ดขาดไม่คิดเลยว่าอาอิ๋งจะมีความคิดเช่นนี้นายหญิงเฟิ่งตำหนิพวกนางต่อ“พวกเจ้า เหตุใดพวกเจ้าถึงได้คิดเยี่ยงนี้! จิ่วเหยียนลูกของข้า ไม่ชอบให้มีอะไรขัดหูขัดตา  พวกเจ้าคิดจะให้ท่าฝ่าบาทต่อหน้าต่อตานางเช่นนี้ แล้วจะไม่ให้นางโกรธได้อย่างไร?”เจิ้งจีเลิกเสแสร้ง แสยะยิ้มออกมา“ให้ท่าอะไร? ลูกสาวของท่านไม่มีน้ำยาเอง ยังมีหน้าอยากครอบครองฝ่าบาทอีก! ต่อให้ไม่มีข้า ไม่ช้าก็เร็วฝ่าบาทก็ต้องให้ความโปรดปรานแก่สตรีคนอื่นอยู่ดี ถึงเวลานั้น พวกท่านสองแม่ลูกต้องร้องไห้แน่!”หลิวอิ๋งเองก็ห้ามปรามด้วยน้ำเสียงไพเราะ“ท่านพี่ แม้นข้าจะเป็นคนของแคว้นซีหนี่ว์ แต่พวกเราก็เป็

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status