แชร์

บทที่ 499

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-19 17:00:00
ด้านนอกประตูวังนั้นพลันรายล้อมไปด้วยราษฎรมากมาย

“เกิดอะไรขึ้นกัน?”

“ไม่รู้สิ ข้าก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน”

“ข้าได้ยินมาว่าฮองเฮาต้องการหย่าร้าง...”

“อะไรนะ? ! หย่าร้าง? ฮองเฮา? มัน มิน่าจะเป็นไปได้กระมัง!”

สตรีธรรมดาที่อยากจะหย่าร้างนั้น ล้วนแต่ถูกบ้านสามีของตนเองถลกหนังทั้งหมด หากว่าในตระกูลที่สูงส่งขึ้นมาหน่อย ก็จักกล่าวว่า “ไร้การหย่าร้าง มีเพียงแค่ปลดภรรยา” แล้วสถานการณ์ของฮองเฮาเล่า?

เกรงว่าฮองเฮาจักกลายเป็นบ้าไปแล้วกระมัง...

ภายใต้เสียงกลองที่ดังกึ่งก้อง เฟิ่งจิ่วเหยียนเผชิญหน้ากับฝูงชนด้วยสายตาที่แน่วแน่ พลางกล่าวออกมาด้วยความหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำว่า

“สวรรค์เบื้องบน!

“ฟ้องร้องเรื่องแรก มีงานแต่ไม่แต่ง งานมงคลสมรสของฮ่องเต้นั้น มีการส่งคนมาแทนที่ตนเองยามที่กล่าวคำนับฟ้าดิน

“ฟ้องร้องเรื่องที่สอง แต่งไร้ความเชื่อ ยามที่เข้าหอนั้น ฮ่องเต้สงสัยในความบริสุทธ์ของข้า กระทำการหยามหน้าผู้คนในตระกูลเฟิ่ง

“ฟ้องร้องเรื่องที่สาม หลงใหลสนมละเลยภรรยา คืนวันงานมงคลสมรส ฝ่าบาทกระทำการละทิ้งภรรยาเอกเพื่อไปอยู่กับสนม ทั้งยังส่งป้ายทองฮองเฮามอบให้กับพระสนมคนโปรดอีก

“ฟ้องร้องเรื่องที่สี่ ทำร้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (6)
goodnovel comment avatar
[นู๋แหม่ม] MammyTH
แนะนำฮ่องเต้เรียกเข้าวังมาทั้งหมด​ ทั้งตระกูลเฟิ่งและตระกูลเมิ่ง​ ฮองเฮาไม่รักษาสัญญา1ปี​ ฮ่องเต้ก็ไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญาเรื่องไม่เอาผิดกับทั้งสองตระกูล​ ถึงฮองเฮาไม่สนใจตระกูลเฟิ่ง​ แต่นิ่งเฉยไม่ได้แน่ถ้าเป็นสามีภรรยาตระกูลเมิ่ง​ ประกาศเรื่องหลอกลวงเบื้องสูงปลอมตัวมาแต่งงานไปเลย
goodnovel comment avatar
วิไลพร
เสียเงินอ่านมาตั้งเยอะ มาเจอตอนนี้เซ็ง เสียดายเงิน บทฮ่องเฮาเลอะเทอะขึ้นเรื่อยๆ
goodnovel comment avatar
Eak Tan
แต่บทคัดย่อ เขาก็เขียนไว้นะ ตรงตามโครงเรื่องเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 500

    เพียงเซียวอวี้ปรากฏตัวออกมา เหล่าราษฎรต่างพากันหวาดกลัว ทั้งยังมีบางส่วนที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวหลิวซื่อเหลียงพลางตวาดออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวพร้อมน้ำเสียงเล็กแหลมว่า“บังอาจ! เห็นฝ่าบาทแล้วพวกเจ้ายังมิคิดทำความเคารพกันอีก?”เหล่าราษฎรจึงพากันรีบร้อนคุกเข่าคำนับด้วยความเคารพในทันทีทว่า ก็ยังมีบางคนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาว่า“หย่าร้าง...”เซียวอวี้พลันยืนเอามือไพล่หลังเอาไว้ พร้อมทั้งเสื้อคลุมมังกรที่ปลิวสยายไปตามสายลม ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน“ฮองเฮาได้โปรดกลับวังเถิด!”เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ภายใต้กลองร้องทุกข์ด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว “ฝ่าบาทได้โปรดตอบรับคำหย่าร้างของหม่อมฉันด้วยเพคะ”เซียวอวี้กำมือของตนเองเอาไว้แน่น จนทำให้มีรอยบาดแผลบนฝ่ามือในทันที ทว่า ยังไม่เท่ากับบาดแผลที่อยู่ภายในใจของเขาคำพูดที่ฮองเฮากล่าวออกมาเมื่อครู่นั้น เขาต่างก็ได้ยินกับหูทุกอย่างล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ทำเอาเขามิอาจหาโต้แย้งอันใดมาตอบกลับได้มิคิดเลยว่า นางจักจดจำเรื่องราวเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำหากว่านางต้องการออกไปจากวังหลวงเพราะเหตุนี้ละก็ เช่นนั้นเรื่องระหว่างพวกเขายั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 501

    ไทฮองไทเฮาไม่ได้คิดที่จะตายจริง ๆ เพียงต้องการใช้ความตายมาข่มขู่เท่านั้น เซียวอวี้ทราบจุดประสงค์ของนาง หลังจากที่หมอหลวงยืนยันว่านางปลอดภัยดี เขาก็เอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “เสด็จย่า ท่านก็อยากจะบีบบังคับเราด้วยกระมัง” ไทฮองไทเฮาเอนหลังพึงหัวเตียง และมองเขาด้วยสายตาที่เจ็บปวด “ข้ามิได้บังคับเจ้า ข้าเพียงรู้สึกปวดใจแทนเจ้า! “ฮ่องเต้ ข้าได้ยินเรื่อราวในราชสำนักเหล่านั้นหมดแล้ว “สตรีนางนั้น นางได้บีบบังคับให้เจ้าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ไยเจ้ายังไม่เห็นหัวใจของนางชัดเจนอีกเล่า? “นางตั้งใจจะออกจากวัง “ข้าก็สามารถมองเห็นได้ว่า เจ้ามีนางอยู่ในใจ และต้องการจะเก็บนางไว้ “ทว่าเจ้าจะสามารถกักขังสตรีที่ไม่มีเจ้าอยู่ในหัวใจ ไว้ได้อย่างไรเล่า? ฝ่าบาท ยังจำหยวนเฟยของฮ่องเต้พระองค์ก่อนได้หรือไม่? หากเจ้าชอบฮองเฮาจริง ๆ จักทนเห็นฮองเฮามีจุดจบเช่นนั้นได้หรือ?” ทันใดนั้นเซียวอวี้พลันรู้สึกหนาวสะท้าน หยวนเฟยหญิงงามผู้อาภัพนั้น เป็นพระสนมสุดรักของเสด็จพ่อ ทว่าสตรีนางนั้นมิได้รักเสด็จพ่อ เสด็จพ่อบีบบังคับให้นางอยู่ในวัง ถึงขั้นประสงค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 502

    หลังตื่นจากฝันร้ายนั้น เซียวอวี้ก็ไม่รู้สึกง่วงนอนอีกเลย เขาก้าวลงจากเตียง คว้าเสื้อคลุมที่แขวนอยู่บนฉากบังตาแล้วเดินออกไป มุ่งหน้าไปยังตำหนักหย่งเหอ ครั้นมาถึงตำหนักหย่งเหอ เซียวอวี้ไม่ได้เข้าไปในตำหนักบรรทม เพียงแต่ยืนอยู่ข้างนอกเท่านั้น ในชั่วยามนี้ ฮองเฮาคงจะเข้านอนไปแล้ว เขายืนนิ่งอยู่สักพัก และในยามที่ชั่งใจว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ ซุนหมัวมัวพลันเดินมาหาแล้ว ซุนหมัวมัวต้องการให้ฝ่าบาทและฮองเฮากลับมาคืนดีกันอีกครั้ง จึงเอ่ยหยั่งเชิง ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ “ฝ่าบาท ได้โปรดอย่าใส่พระทัยคำพูดที่รุนแรงของฮองเฮาเลยเพคะ แท้จริงแล้วพระนางก็แค่กำลังแง่งอน และขออภัยที่บ่าวพูดมากเกินไป ฮองเฮาจิตใจสูงส่ง จนไม่อยากจะมองเห็นท่านกับหรงเฟยเพคะ...” เซียวอวี้ขมวดคิ้ว เพียงเหลือบมองจากหางตา “นางเป็นเช่นนี้เพราะหรงเฟยรึ?” ซุนหมัวมัวพยักหน้างึก ๆ “ถูกต้องเพคะ! ฮองเฮามีความรักลึกซึ้งต่อพระองค์ มิฉะนั้นจะเสี่ยงชีวิตเพื่อไปส่งเสบียงอาหารให้ท่านได้อย่างไร? ในช่วงเวลาที่ฝ่าบาทกรีธาทัพออกรบนั้น ฮองเฮาคิดถึงท่านอยู่เสมอเพคะ ทว่าเมื่อหรงเฟยกลับมาแล้ว ฮองเฮ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 503

    เซียวอวี้กระชับกอดนางไว้แน่น และเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง “ฮองเฮา เราไม่ได้โกหกเจ้า บุตรของหรงเฟยนั้น เราสืบพบแล้วว่า มิใช่บุตรของเราจริง ๆ เรากลัวเจ้าจะไม่เชื่อ ทว่าในที่สุด เราก็สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้แล้ว...ฮองเฮา อย่าจากเราไปเลย” หลังพูดจบ เขาก็ยื่นกระดาษคำให้การของข้าหลวงให้นาง ด้วยมือที่สั่นเทานิด ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียนตกตะลึงไม่น้อย ทันใดนั้นนางก็ผลักมือของเขาออก เวลาเดียวกัน กระดาษพลันกระจัดกระจายอยู่บนพื้น สายลมที่หนาวเหน็บแห่งสารทฤดู พัดเข้ามาทางหน้าต่าง เซียวอวี้ก้มลงไปหยิบมันทันที แต่แล้วก็พลันแข็งทื่อ เมื่อคิดดูแล้ว ดูเหมือนเขาจะกระจ่างขึ้นโดยฉับพลัน จึงโยนคำให้การในมือทิ้งไป พลางลุกขึ้น และเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า ด้วยดวงตาที่แดงเรื่อ เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้งมากขึ้น “หรือว่า...เจ้าไม่ได้สนใจ เรื่องที่เราจะบริสุทธิ์หรือไม่เลยรึ” เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูกระดาษคำให้การที่กระจายเกลื่อนพื้น “ท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ “หม่อมฉันไม่เคยเอ่ยว่า สาเหตุที่จะจากไปนั้นเป็นเพราะเรื่องของท่านกับหรงเฟยเพคะ” จนถึงยามนี้ เข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 504

    ฮ่องเต้ประชวร เหล่าหมอหลวงกล่าวว่า ฝ่าบาททรงติดเชื้อไข้หวัด ทว่าฝ่าบาทไม่เคยละเลยการออกว่าราชกิจเลยสักวันเดียว ณ วันที่เข้าสู่เดือนสิบสอง ในที่สุดก็มีพระราชโองการหย่าร้าง ประกาศลงมา เหลียนซวงหลั่งน้ำตาด้วยความปีติ “ฮองเฮาเพคะ ในที่สุดท่านก็ได้เป็นอิสระแล้ว!” นางรู้สึกมีความสุขกับฮองเฮาด้วยใจจริง ช่วงเวลาที่ผ่านมา เมื่อได้เห็นฝ่าบาทเป็นเช่นนั้น ก็กลัวเหลือเกินว่าฮองเฮาจะถูกกักขังไว้ในพระราชวังตลอดชีวิต โชคดี ที่สุดท้ายฝ่าบาทก็คล้อยตามกระแสส่วนใหญ่ และยินยอมให้ฮองเฮาจากไป ทว่าสิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือ มิใช่การปลดฮองเฮา แต่เป็นการหย่าขาดจากกัน ในทุกราชวงศ์ที่ผ่านมานั้น ล้วนมิเคยเกิดขึ้น ซุนหมัวมัวนั้นแตกต่างจากเหลียนซวง นางร้องไห้อย่างน่าอนาถ “ฮองเฮาเพคะ ฮองเฮาของบ่าว! เหตุใดท่านจึงปลงไม่ตก เหตุใดจะต้องออกจากวังให้ได้!” ซุนหมัวมัวทรุดกายนั่งอยู่บนชายคาระเบียง และร้องไห้สะเทือนฟ้าดิน ราวกับกำลังไว้ทุกข์ให้บิดามารดา ข้าหลวงหลายคนพยายามดึงนางขึ้นมา กลับไม่สามารถทำได้เลย ณ ฝ่ายใน เฟิ่งจิ่วเหยียนรับพระราชโองการนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 505

    เซียวอวี้ดูเหมือนเพิ่งตื่นจากการหลับใหล อาภรณ์ของเขาบิดเบี้ยว และหลวมโพรก ผมเผ้ากระจัดกระจายไร้ระเบียบ ยิ่งทำให้ใบหน้านั้นพราวด้วยเสน่ห์ระคนอ่อนแอ ริมฝีปากได้รูปของเขาก็ซีดเซียว คล้ายว่าเจ็บป่วยร้ายแรง ยากที่จะรอดชีวิต หลิวซื่อเหลียงที่อยู่ข้าง ๆ ก็อกสั่นขวัญแขวน ไม่กล้าเอ่ยโน้มน้าวแต่อย่างใด แตกต่างจากเฉินจี๋ที่สงบนิ่ง ยังคงยื่นส่งลูกธนูให้กับฝ่าบาท เซียวอวี้จ้องมองคนที่อยู่ในระยะไกลอย่างไม่เผยอารมณ์ วางลูกธนูไว้บนสายอีกครั้ง และเล็งเป้าไปที่นาง... “ฝ่าบาท อย่านะเพคะ!” นางสนมทั้งหมดรีบเข้ามาสร้างกำแพงมนุษย์ขึ้น ต้องการที่จะขวางลูกธนูนั้น หนิงเฟยกลัวตาย ครั้นไม่รอให้นางได้เลือก ก็ถูกคนสองคนที่อยู่ข้างซ้ายและขวาจับเอาไว้ นางรู้สึกโมโหเล็กน้อย ทว่านางรู้สึกโกรธฝ่าบาทยิ่งกว่า “ฝ่าบาทพคะ! ท่านมิอาจทำร้ายเฟิ่งเวยเฉียงได้!” หนิงเฟยตะโกน ด้วยกลัวว่าฝ่าบาทจะยิงพวกนางตายเช่นกัน มู่หรงฉานไม่พูดจาอย่างนุ่มนวลเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว นางตะโกนอย่างเปี่ยมความชอบธรรม “วิญญูชนรับปากหนึ่งครั้งมีค่าดุจทองพันตําลึง! ฝ่าบาทได้มีพระราชโอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 506

    ฮูหยินเฟิ่งทั้งประหลาดใจและไร้หนทาง ราวกับเด็กคนหนึ่งที่กระทำความผิด “เจ้า...เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ? จะไม่กลับบ้านหรือ? แล้วเจ้าจะไปที่ใด?” นายท่านเฟิ่งเกิดอาการโทสะปะทุฉับพลัน จนกระโดดตัวโยน “ยังจะไปที่ใดได้อีกเล่า! นางอยากกลับไปที่...” เมื่อตระหนักได้ว่ามีคนอยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงกลืนคำว่า “ตระกูลเมิ่ง” ลงคอ ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งสงบ “ฟ้าดินกว้างใหญ่ มีบ้านอยู่ทุกหัวระแหง พวกท่านแค่คิดว่าไม่มีข้าเป็นลูกสาว เฉกเช่นเมื่อในอดีตก็พอ” หลังเอ่ยเช่นนี้แล้ว นางก็เดินจากไปทันที ฝีเท้าเรียบเรื่อย และเด็ดขาด เบื้องหลังคือเสียงดุด่ากราดเกรี้ยวของนายท่านเฟิ่ง และเสียงร้องไห้ของฮูหยินเฟิ่ง “ลูกเนรคุณ! เจ้ามันลูกเนรคุณ! ดี! เจ้าอยากตายในทุ่งหญ้ารกร้างก็เชิญ!” “นายท่าน หยุดพูดได้แล้ว!” “ข้าจะต้องพูด! ละทิ้งแว่นแคว้นไว้เบื้องหลังได้อย่างไร นาง...นางคิดแต่จะท่องไปทั่วยุทธภพ! ข้าควรจับนางกดน้ำให้ตายเสียตั้งแต่แรก! ข้า...” นายท่านเฟิ่งโรคหัวใจกำเริบอีกแล้ว “นายท่าน! นายท่าน!” ฮูหยินเฟิ่งหยิบยาออกมาทันที และป้อนใส่ปากของเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 507

    เซียวอวี้ยืนอยู่หน้าประตูไม้การบูร มิได้ก้าวเข้าสู่ตำหนักชั้นใน ราวกับว่า ตราบใดที่ไม่ผลักเปิดประตูนั้น เขาก็ยังสามารถหลอกตัวเองได้——ฮองเฮายังอยู่ข้างใน ครั้นได้ยินเหลียนซวงทำความเคารพ เขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “นางก็ทิ้งเจ้าไว้เช่นกันรึ” เหลียนซวงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของเขา ซึ่งดูเหมือนอ่อนแอยิ่งนัก ด่านของความรักช่างผ่านไปยากจริง ๆ เซียวอวี้อยู่ในตำหนักหย่งเหอตลอดทั้งวัน หนังสือฎีกาก็กองพะเนินอยู่ในห้องทรงพระอักษรแบบนั้น เมื่อหรงเฟยได้ทราบเรื่อง ก็มาเกลี้ยกล่อมถึงตำหนักหย่งเหอด้วยตนเอง ครั้นเห็น ฮ่องเต้เพียงยืนอยู่ริมหน้าต่าง และมองดูต้นไม้ในลานกว้าง ผ่านหน้าต่างบานนั้น โดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอันใดอยู่ ได้ทราบจากปากข้าหลวงว่า เขายืนอยู่เช่นนี้ตลอดทั้งวันแล้ว ในเวลานี้ตะวันคล้อยลับฟ้า ถึงเวลาสำรับเย็นแล้ว เขากลับไม่ยอมให้ผู้ใดมารบกวน ณ ประตูตำหนัก เหลียนซวงเห็นหรงเฟยเดินเข้ามา ก็เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก มาพอดีเวลา ได้โปรดรีบพาฝ่าบาทเสด็จออกไปเร็ว ๆ เถิด นี่มันน่าหวาดผวาเกินไปแล้ว หรงเฟยเดินไปหยุดอยู่ข้าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 688

    ก่อนเฟิ่งจิ่วเหยียนจะขึ้นสนามประลอง ก็วางแผนเส้นทางหลบหนีไว้อย่างดีแล้วนางรู้ข้อจำกัดของตนเองดีอาศัยพละกำลังของนางในตอนนี้ มิอาจยืนหยัดจนถึงท้ายที่สุดได้การต่อสู้แบบหลายคนผลัดกันขึ้นสู้กับคนคนเดียวประเภทนี้ไม่ยุติธรรมดังนั้น ตั้งแต่แรกที่เริ่มประลอง นางก็มิได้ตัดสินใจว่าจะปกป้องสังเวียนจนถึงท้ายที่สุดการประลองหลายรอบก่อนหน้านี้ ก็เพื่อให้ผู้ชมเหล่านั้นวางเดิมพันข้างนาง และกดดันให้สนามประลองยุทธ์ปล่อยตัวติงหยวนเอ๋อร์ออกมาจนถึงตอนนี้เจียงหลินก็ยังคงเรียกสติกลับมาไม่ได้ เอาแต่วิ่งตามไปกับคนของสำนักเฉวียนเจินเหล่านั้นซูฮ่วนนี่เหลือเกินจริง ๆ!ก่อนจะทำสิ่งใด จะบอกให้เขารู้บ้างไม่ได้เชียวหรือ!ไม่มีผู้ใดรู้ว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนมิอาจอธิบายให้ผู้ใดฟังได้นางลักพาตัวติงหยวนเอ๋อร์ไปคนเดียว คนของสนามประลองยุทธ์ก็จะไล่ตามนางเท่านั้นทว่าทันทีที่นางมีพรรคพวก พรรคพวกยิ่งมาก ความเป็นไปได้ที่จะหนีรอดไปพร้อมกันก็จะยิ่งน้อยลงสำหรับเรื่องนี้ เหลิ่งเซียนเอ๋อร์เข้าใจเป็นอย่างดีดังนั้น นางจึงชักกระบี่ไล่ตามไป“ไอ้คนไร้ยางอาย! คืนศิษย์สำนักเฉวียนเจินของข้ามา!”เจียงหลินถึงกระจ่างขึ้นมาใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 687

    การตายของอู๋เซียง ไม่มีผู้ใดเสียดายการลาลับของเขา มีแต่ดื่มด่ำอยู่ในห้วงความรื่นเริงของรอบใหม่คนที่เดิมทีกำลังลังเลไม่ตัดสินใจเหล่านั้น ก็ทยอยนำทรัพย์สินมาวางเดิมพันที่ตัวเฟิ่งจิ่งเหยียนในเวลานี้ เจียงหลินเต็มไปด้วยความสับสนเขาได้ยินว่าซูฮ่วนชนะแล้ว ถึงกล้าลืมตาจากนั้นเขาถามด้วยความงงงวย“ทำได้อย่างไร...ซูฮ่วน เมื่อครู่เขามิได้ถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าหรอกหรือ?”เหลิ่งเซียนเอ๋อร์ที่อยู่ไม่ไกลงึมงำ“เส้นไหมสังหาร ซูฮ่วนซ่อนเส้นไหมสังหารของคู่ต่อสู้ไว้”ในเวลานี้ ฟางหมิ่นที่ฟื้นแล้วก็เอ่ยขึ้น“ไม่เพียงเท่านั้น ซูฮ่วนยังเรียนรู้กระบวนท่าหมัดกำไลเหล็กด้วย!”ถูกต้อง!นี่ถึงจะเป็นกุญแจสำคัญเส้นไหมสังหารนั้น มีเพียงหมัดกำไลเหล็กถึงจะสามารถแสดงศักยภาพของมันได้อีกทั้งยังเป็นเส้นไหมสังหารที่ถูกย้อมเป็นสีแดง และถูกเปิดเผยแล้วท่าไม้ตายชุดสุดท้ายของซูฮ่วน มีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!และนางคว้าโอกาสนั้นไว้ได้เหลิ่งเซียนเอ๋อร์รู้สึกละอายใจตัวเองหากเปลี่ยนเป็นนาง คงไม่มีทางสังเกตกระบวนท่าของคู่ต่อสู้ในระหว่างการประลองได้ รวมถึงยังลอกเลียนท่าทางอีกด้วยกลยุทธ์นี้ก็คือ หินจา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 686

    อู๋เซียงทำลายความศรัทธาของเฟิ่งจิ่วเหยียนทีละขั้น เสียงพูดยังคงต่อเนื่อง“ซูฮ่วน เจ้าคิดจะกำจัดคนชั่วในใต้หล้าไปให้หมด ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ“เจ้าคิดว่า สนามประลองยุทธ์ใต้ดินที่มีอยู่แห่งนี้ ราชสำนักมิรู้เลยอย่างนั้นหรือ?“ขุนนางท้องถิ่นคนใดจะไม่แอบอนุญาต? เพราะอะไร? พวกเขาต้องการเงินทอง ต้องการความสำเร็จในหน้าที่“แล้วเจ้าล่ะ? เจ้าทำเพื่ออะไร?“เจ้าเอาพวกเราเป็นใบไม้เขียวที่ตัดให้เจ้าได้โดดเด่นขึ้นมา“หากเอาชนะพวกเรา ก็จะมีผู้คนมากมายยกย่องเจ้าเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่“แต่ข้าจะถามเจ้าว่า สิ่งที่เรียกว่าเที่ยงธรรมคืออะไร? ผู้ใดเป็นคนชั่วกัน? ข้าเป็นคนชั่ว แล้วราชสำนักที่บ่มเพาะความชั่วช้านั้นก็มิใช่อย่างนั้นหรือ?“จริงอยู่ เจ้าฆ่าข้าได้ แต่เจ้าฆ่าความคิดชั่วร้ายในจิตใจคนได้หมดหรือ?“ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ ตราบใดที่ความคิดชั่วร้ายยังอยู่ ความชั่วร้ายก็จะอยู่ตลอดไป“เจ้าเป็นเพียงคนธรรมดา มีสิทธิอะไรจะต่อสู้กับธรรมชาติของมนุษย์ได้ “เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนชั่ว ทว่าข้าก็เคยทำความดี เช่นว่า ข้าเคยช่วยกระต่ายตัวหนึ่งที่บาดเจ็บจากลูกธนู“คนที่เจ้าเข้าใจว่าเป็นคนดีเหล่านั้น ใครบ้างมิเคยทำควา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 685

    อู๋เซียงเดินเข้าไปในกรงเหล็ก ราวกับว่ากำลังเดินเล่นอยู่ในลานบ้านของตนเอง มิได้มองว่านี่เป็นการประลองหลังจากประตูกรงเหล็กปิดลง อู๋เซียงก็ยังไม่รีบร้อนโจมตี แต่มองไปรอบ ๆ และย้อนถามเฟิ่งจิ่วเหยียน“ซูฮ่วน เจ้าดูสิ พวกเขาเชื่อหรือว่าเจ้าจะชนะ?”สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่ง และมิได้ตอบเขาจากนั้น กรงเหล็กก็ค่อย ๆ ถูกยกขึ้น และลอยห่างจากพื้นขณะที่กรงหยุดอยู่กลางอากาศ อู๋เซียงก็ยังคงไม่โจมตีเขาเอามือสองข้างไพล่หลัง เหมือนผู้มีปัญญาและผู้อาวุโส กำลังเอ่ยตักเตือนด้วยความหวังดี“ซูฮ่วน เจ้ายังคงเป็นคนหนุ่มเลือดร้อน“การประลองครั้งนี้มิควรเป็นเช่นนี้“เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือ? สิ่งที่เจ้าต้องการ มิใช่การจูบ แต่คิดจะใช้โอกาสนี้ช่วยเหลือติงหยวนเอ๋อร์”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูเย็นชาพวกเขาพูดคุยกันอยู่ในกรงเหล็ก ผู้คนบนอัฒจันทร์ไม่ได้ยินอู๋เซียงถึงขั้นปลอบใจนาง: “มิต้องกังวล ข้าจะไม่บอกพวกเขา มิเช่นนั้น การประลองครั้งนี้ก็จะไม่สนุก อีกครึ่งชั่วยาม หากเจ้าไม่โค่นล้มข้า ก็จะเป็นข้าที่ทำร้ายเจ้า...จนตาย”หลังจากพูดจบ เขาก็เอียงศีรษะพร้อมกับยิ้มจากนั้นก็รวบรวมพลังในฝ่ามือ และโจมตี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 684

    เจียงหลินจ้องมองอู๋เซียงตาเขม็ง--- บุรุษผู้นั้นที่มองดูแสนธรรมดา หากอยู่ท่ามกลางฝูงชนก็จะหาไม่พบทันที“ในเวลานั้น ครั้งแรกที่ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรอู่หลิน ในยุทธภพปรากฏหัวโจกโฉดชั่วอยู่สามคน อู๋เซียงก็คือลูกพี่ใหญ่ในกลุ่มของพวกเขา“พวกเขาเป็นศิษย์นอกของเส้าหลิน ทำความชั่วสารพัด ทั้งวางเพลิง ฆ่าคน ข่มขืน และปล้นสะดม เพื่อกำจัดทั้งสามคนนี้ กลุ่มพันธมิตรอู่หลินจึงตัดสินใจจะต่อสู้กันที่ภูเขาฉงหัว “ในการต่อสู้ครั้งนั้น ชาวพันธมิตรอู่หลินได้ร่วมมือกัน และสังหารคนโฉดชั่วได้สองคน ทว่าวิทยายุทธ์ของอู๋เซียงนั้นแข็งแกร่ง จึงหลบหนีไปได้“การต่อสู้ครั้งนั้นซูฮ่วนได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งไม่กี่วันต่อมา อู๋เซียงก็ลักพาตัวภรรยาที่เพิ่งแต่งงานของตงฟางซื่อไป...”แม้ผ่านมาหลายปี เมื่อเจียงหลินนึกถึงความทรงจำในช่วงนั้นอีก ก็ยังรู้สึกขนลุกเขาต่างจากคนเหลาะแหละในเวลาปกติ หลังจากกลั้นหายใจไม่กี่อึดใจ ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“เขาแยกร่างฮูหยินตงฟางออกเป็นหลายส่วน ในแต่ละวันจะส่งมาให้หนึ่งชิ้น จนทำให้ตงฟางซื่อแทบจะคลุ้มคลั่ง“ภายหลัง ซูฮ่วนหาอู๋เซียงจนพบ ไม่มีผู้ใดรู้รายละเอียดการต่อสู้ระหว่างซูฮ่วนก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 683

    คนกลุ่มหนึ่งตะโกนเสียงดัง“ให้เขาดู! ให้เขาดู!”“บ้าเอ๊ย พวกเราตั้งหลายคนเดิมพันให้เขาชนะ หากเขายอมแพ้ พวกเราก็ต้องเสียเงินย่อยยับ!”“พาติงหยวนเอ๋อร์ออกมา ข้าก็อยากดูเช่นกัน หญิงสาวผู้นั้นมีชีวิตอยู่หรือตายกันแน่!”คำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทำให้ผู้คนเริ่มกระวนกระวายผู้ประกาศจึงรีบเกลี้ยกล่อมพวกเขา“ทุกท่าน ทุกท่าน! อดทนหน่อยอย่าเพิ่งใจร้อน!“ข้าขอรับรองกับพวกท่าน คนจะต้องมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน...”เฟิ่งจิ่วเหยียนดูนิ่งเฉยและแน่วแน่“หากไม่เห็นติงหยวนเอ๋อร์ ข้าก็ล้มเลิกการประลอง”หลังจากนางประลองจบแล้วสองรอบ คนที่เดิมพันว่านางชนะก็ยิ่งมีมากขึ้น หากตอนนี้นางถอนตัวออกจากการประลอง จะทำให้ผลประโยชน์ของพวกเขาเสียหายพวกเขาจึงตะโกนพร้อมกัน“พาติงหยวนเอ๋อร์ออกมา!”“ใช่ มิเช่นนั้นพวกเราจะขอเงินคืน!!!”เสียงตะโกนของผู้คนเกือบพันคนในสนาม ทำให้สีหน้าท่าทางของผู้ประกาศดูลนลานเขาออกจากสนามอย่างเงียบ ๆ และเข้าไปทางประตูลับ เพื่อไปขอคำชี้แนะผ่านไปไม่นาน เขาก็ออกมา“ได้ นายท่านของเราบอกว่า ให้พาติงหยวนเอ๋อร์ออกมาก่อนได้ เพื่อให้ทุกท่านได้เห็นว่า นางมีชีวิตอยู่หรือตาย! ทว่าทุกท่านต้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 682

    เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เอาแต่หลบเพื่อป้องกันตัวอีกต่อไป และเปลี่ยนมาเป็นโจมตีแบบประชิดทันใดนั้นก็เห็นนางทำเหมือนกับ “ค้างคาวเลือด” ที่ชื่อเกาหยวนก่อนหน้านี้ ปีนขึ้นไปบนกรงเหล็กและพลิกกลับลงมาหมัดของคู่ต่อสู้โจมตีมา ทว่ากลับถูกนางคว้าข้อมือเอาไว้ได้ โดยใช้น้ำหนักของทั้งร่างกายกดลงไปเต็มแรง และทำลายวิชาหมัดมวยของคู่ต่อสู้ ในเวลาเดียวกัน ยังทำให้กระดูกข้อมือของเขาหลุดออก จากนั้นแค่บิดเบา ๆ ก็พลิกเส้นไหมสังหารกลับไปคล้องที่คอของเขา พร้อมกับออกแรงรัดเอาไว้...ในชั่วพริบตา สายตาของผู้ชมที่อยู่ข้างสนามต่างจับจ้องตาไม่กะพริบ รอว่าศีรษะคนจะหล่นลงพื้นไม่ว่าจะเป็นศีรษะของผู้ใดก็ได้ทั้งนั้น!ทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบมองผู้คนที่อยู่ข้างสนามแวบหนึ่ง นางแค่รัดคอคู่ต่อสู้ให้หมดสติชั่วคราวเท่านั้นข้างสนามมีเสียงแสดงความไม่พอใจดังขึ้นมา“ฆ่ามันเลย! ฆ่ามันเลย!”“บ้าเอ๊ย! ข้าพนันว่าเจ้าชนะ มิใช่ให้เจ้ามาทำตัวเป็นพระโพธิสัตว์!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจคนพวกนั้น และมองไปทางผู้ประกาศบนสนามประลองยุทธ์อย่างเฉยชา“คนต่อไป”ผู้ประกาศมองดูนาง และเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งเขาประกาศว่า: “ผู้รั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 681

    หลังจากที่เหลิ่งเซียนเอ๋อร์ถูกคนรับตัวไว้ นางก็รีบหันกลับมาในทันทีภายใต้สถานการณ์ที่มิรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูหรือเป็นมิตร นางจึงเตรียมการป้องกันอย่างระแวดระวัง โดยจะใช้มือแทนมีดทว่า วินาทีที่หันกลับมา และเห็นผู้ที่มา มือของนางก็คลายลงทันที...ซูฮ่วน! เป็นเขาได้อย่างไร!เฟิ่งจิ่วเหยียนประคองหลังของนาง และช่วยให้นางลงมายืนบนพื้นอย่างมั่นคงขอบตาของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์พลันเปลี่ยนเป็นแดงก่ำนางนึกไม่ถึงว่า ซูฮ่วนจะทะยานลงมาจากฟ้าอย่าว่าแต่นางเลย เซียวอวี้กับเจียงหลินก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่า เดิมทีคนที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา จะหายไปในชั่วพริบตา!เซียวอวี้รีบกระโดดตามลงมา และเดินมาอยู่ด้านข้างของเฟิ่งจิ่วเหยียนธูปบนเวทีเพิ่งจะถูกเผาไหม้ไปเพียงครึ่งเดียวทว่าบรรดาคนที่ท้าประลองเหล่านั้นราวกับมวลน้ำมหาศาล ราวกับตั๊กแตนก็มิปานพวกเขามิอาจถอยหนีได้คนของสำนักเฉวียนเจินเหล่านี้ก็มิอาจขวางทางพวกเขาได้ และคนส่วนใหญ่ก็ได้รับบาดเจ็บแล้วจักต้องยับยั้งทั้งหมดนี้!เฟิ่งจิ่วเหยียนปล่อยเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ และทะยานขึ้นไปบนเวทีโดยมิสนใจการขัดขวางของเซียวอวี้ดวงตาคู่งามของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์เบิกกว้าง มิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 680

    เฟิ่งจิ่วดหยียนถลึงตาใส่เจียงหลินอย่างเย็นชา “พูดเหลวไหลอะไร?”เจียงหลินกลัวว่านางจะลงไม้ลงมือ จึงเดินอ้อมไปอยู่ข้าง ๆ เซียวอวี้ล่วงหน้า“มีอะไรให้ปฏิเสธ? เรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ ของชายหนึ่งหญิงสองอย่างเหลิ่งเซียนเอ๋อร์กับหร่วนฝูอวี้ มีใครไม่รู้บ้าง?“หากไม่ใช่เพราะหร่วนฝูอวี้เอาเรื่องที่อยู่ของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ไปบอกเจ้าสำนักเฉวียนเจิน จนนางถูกเจ้าสำนักจับตัวกลับไป เจ้าก็คงได้สุขสำราญพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว!“คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ นางอายุน้อยขนาดนี้ ก็ได้เป็นรองเจ้าสำนักแล้ว!”เซียวอวี้หน้าอึมครึม มือกำหมัดแน่นชายหนึ่งหญิงสองงั้นหรือแม่ทัพน้อยของเขา ช่างเนื้อหอมจริง ๆหากนางเป็นบุรุษจริง คงเป็นของคนอื่นไปนานแล้วไม่สิ…หากนางเป็นผู้ชาย เขาก็คงไม่ใส่ใจแล้ว!เกือบจะเคลิ้มไปด้วย เซียวอวี้จึงตั้งสติเฟิ่งจิ่วเหยียนกระแอมไอแล้วเอ่ยเสียงต่ำ“เจียงหลิน ชื่อเสียงของคนอื่นเสียหายเพราะเจ้าหมดแล้ว ถ้าเจ้ายังปากมากอีก ข้าจะฉีกมันทิ้งซะ”เจียงหลินรีบหุบปากทันทีแต่ในใจก็ยังไม่ยอมเขาไม่ได้พูดอะไรผิดเสียหน่อยตอนนั้นเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ คิดจะหนีออกมาจากสำนักเฉวียนเจินเพราะซูฮ่วนด้วยซ้ำ นางใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status