แชร์

บทที่ 503

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-20 15:22:10
เซียวอวี้กระชับกอดนางไว้แน่น และเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง

“ฮองเฮา เราไม่ได้โกหกเจ้า บุตรของหรงเฟยนั้น เราสืบพบแล้วว่า มิใช่บุตรของเราจริง ๆ เรากลัวเจ้าจะไม่เชื่อ ทว่าในที่สุด เราก็สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้แล้ว...ฮองเฮา อย่าจากเราไปเลย”

หลังพูดจบ เขาก็ยื่นกระดาษคำให้การของข้าหลวงให้นาง ด้วยมือที่สั่นเทานิด ๆ

เฟิ่งจิ่วเหยียนตกตะลึงไม่น้อย ทันใดนั้นนางก็ผลักมือของเขาออก เวลาเดียวกัน กระดาษพลันกระจัดกระจายอยู่บนพื้น

สายลมที่หนาวเหน็บแห่งสารทฤดู พัดเข้ามาทางหน้าต่าง

เซียวอวี้ก้มลงไปหยิบมันทันที แต่แล้วก็พลันแข็งทื่อ

เมื่อคิดดูแล้ว ดูเหมือนเขาจะกระจ่างขึ้นโดยฉับพลัน จึงโยนคำให้การในมือทิ้งไป พลางลุกขึ้น และเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า ด้วยดวงตาที่แดงเรื่อ

เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้งมากขึ้น

“หรือว่า...เจ้าไม่ได้สนใจ เรื่องที่เราจะบริสุทธิ์หรือไม่เลยรึ”

เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูกระดาษคำให้การที่กระจายเกลื่อนพื้น

“ท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้

“หม่อมฉันไม่เคยเอ่ยว่า สาเหตุที่จะจากไปนั้นเป็นเพราะเรื่องของท่านกับหรงเฟยเพคะ”

จนถึงยามนี้ เข
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Notto Art
ตัวพระนาง อยู่คนล่ะที่ นิยาย ก็เริ่มไม่สนุก เขียนออกทะเล เกินไป ตัวละครเยอะ โผล่มามากเกินไป
goodnovel comment avatar
Notto Art
หย่ากันแล้ว ไม่สนุกแล้ว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 504

    ฮ่องเต้ประชวร เหล่าหมอหลวงกล่าวว่า ฝ่าบาททรงติดเชื้อไข้หวัด ทว่าฝ่าบาทไม่เคยละเลยการออกว่าราชกิจเลยสักวันเดียว ณ วันที่เข้าสู่เดือนสิบสอง ในที่สุดก็มีพระราชโองการหย่าร้าง ประกาศลงมา เหลียนซวงหลั่งน้ำตาด้วยความปีติ “ฮองเฮาเพคะ ในที่สุดท่านก็ได้เป็นอิสระแล้ว!” นางรู้สึกมีความสุขกับฮองเฮาด้วยใจจริง ช่วงเวลาที่ผ่านมา เมื่อได้เห็นฝ่าบาทเป็นเช่นนั้น ก็กลัวเหลือเกินว่าฮองเฮาจะถูกกักขังไว้ในพระราชวังตลอดชีวิต โชคดี ที่สุดท้ายฝ่าบาทก็คล้อยตามกระแสส่วนใหญ่ และยินยอมให้ฮองเฮาจากไป ทว่าสิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือ มิใช่การปลดฮองเฮา แต่เป็นการหย่าขาดจากกัน ในทุกราชวงศ์ที่ผ่านมานั้น ล้วนมิเคยเกิดขึ้น ซุนหมัวมัวนั้นแตกต่างจากเหลียนซวง นางร้องไห้อย่างน่าอนาถ “ฮองเฮาเพคะ ฮองเฮาของบ่าว! เหตุใดท่านจึงปลงไม่ตก เหตุใดจะต้องออกจากวังให้ได้!” ซุนหมัวมัวทรุดกายนั่งอยู่บนชายคาระเบียง และร้องไห้สะเทือนฟ้าดิน ราวกับกำลังไว้ทุกข์ให้บิดามารดา ข้าหลวงหลายคนพยายามดึงนางขึ้นมา กลับไม่สามารถทำได้เลย ณ ฝ่ายใน เฟิ่งจิ่วเหยียนรับพระราชโองการนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 505

    เซียวอวี้ดูเหมือนเพิ่งตื่นจากการหลับใหล อาภรณ์ของเขาบิดเบี้ยว และหลวมโพรก ผมเผ้ากระจัดกระจายไร้ระเบียบ ยิ่งทำให้ใบหน้านั้นพราวด้วยเสน่ห์ระคนอ่อนแอ ริมฝีปากได้รูปของเขาก็ซีดเซียว คล้ายว่าเจ็บป่วยร้ายแรง ยากที่จะรอดชีวิต หลิวซื่อเหลียงที่อยู่ข้าง ๆ ก็อกสั่นขวัญแขวน ไม่กล้าเอ่ยโน้มน้าวแต่อย่างใด แตกต่างจากเฉินจี๋ที่สงบนิ่ง ยังคงยื่นส่งลูกธนูให้กับฝ่าบาท เซียวอวี้จ้องมองคนที่อยู่ในระยะไกลอย่างไม่เผยอารมณ์ วางลูกธนูไว้บนสายอีกครั้ง และเล็งเป้าไปที่นาง... “ฝ่าบาท อย่านะเพคะ!” นางสนมทั้งหมดรีบเข้ามาสร้างกำแพงมนุษย์ขึ้น ต้องการที่จะขวางลูกธนูนั้น หนิงเฟยกลัวตาย ครั้นไม่รอให้นางได้เลือก ก็ถูกคนสองคนที่อยู่ข้างซ้ายและขวาจับเอาไว้ นางรู้สึกโมโหเล็กน้อย ทว่านางรู้สึกโกรธฝ่าบาทยิ่งกว่า “ฝ่าบาทพคะ! ท่านมิอาจทำร้ายเฟิ่งเวยเฉียงได้!” หนิงเฟยตะโกน ด้วยกลัวว่าฝ่าบาทจะยิงพวกนางตายเช่นกัน มู่หรงฉานไม่พูดจาอย่างนุ่มนวลเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว นางตะโกนอย่างเปี่ยมความชอบธรรม “วิญญูชนรับปากหนึ่งครั้งมีค่าดุจทองพันตําลึง! ฝ่าบาทได้มีพระราชโอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 506

    ฮูหยินเฟิ่งทั้งประหลาดใจและไร้หนทาง ราวกับเด็กคนหนึ่งที่กระทำความผิด “เจ้า...เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ? จะไม่กลับบ้านหรือ? แล้วเจ้าจะไปที่ใด?” นายท่านเฟิ่งเกิดอาการโทสะปะทุฉับพลัน จนกระโดดตัวโยน “ยังจะไปที่ใดได้อีกเล่า! นางอยากกลับไปที่...” เมื่อตระหนักได้ว่ามีคนอยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงกลืนคำว่า “ตระกูลเมิ่ง” ลงคอ ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งสงบ “ฟ้าดินกว้างใหญ่ มีบ้านอยู่ทุกหัวระแหง พวกท่านแค่คิดว่าไม่มีข้าเป็นลูกสาว เฉกเช่นเมื่อในอดีตก็พอ” หลังเอ่ยเช่นนี้แล้ว นางก็เดินจากไปทันที ฝีเท้าเรียบเรื่อย และเด็ดขาด เบื้องหลังคือเสียงดุด่ากราดเกรี้ยวของนายท่านเฟิ่ง และเสียงร้องไห้ของฮูหยินเฟิ่ง “ลูกเนรคุณ! เจ้ามันลูกเนรคุณ! ดี! เจ้าอยากตายในทุ่งหญ้ารกร้างก็เชิญ!” “นายท่าน หยุดพูดได้แล้ว!” “ข้าจะต้องพูด! ละทิ้งแว่นแคว้นไว้เบื้องหลังได้อย่างไร นาง...นางคิดแต่จะท่องไปทั่วยุทธภพ! ข้าควรจับนางกดน้ำให้ตายเสียตั้งแต่แรก! ข้า...” นายท่านเฟิ่งโรคหัวใจกำเริบอีกแล้ว “นายท่าน! นายท่าน!” ฮูหยินเฟิ่งหยิบยาออกมาทันที และป้อนใส่ปากของเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 507

    เซียวอวี้ยืนอยู่หน้าประตูไม้การบูร มิได้ก้าวเข้าสู่ตำหนักชั้นใน ราวกับว่า ตราบใดที่ไม่ผลักเปิดประตูนั้น เขาก็ยังสามารถหลอกตัวเองได้——ฮองเฮายังอยู่ข้างใน ครั้นได้ยินเหลียนซวงทำความเคารพ เขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “นางก็ทิ้งเจ้าไว้เช่นกันรึ” เหลียนซวงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของเขา ซึ่งดูเหมือนอ่อนแอยิ่งนัก ด่านของความรักช่างผ่านไปยากจริง ๆ เซียวอวี้อยู่ในตำหนักหย่งเหอตลอดทั้งวัน หนังสือฎีกาก็กองพะเนินอยู่ในห้องทรงพระอักษรแบบนั้น เมื่อหรงเฟยได้ทราบเรื่อง ก็มาเกลี้ยกล่อมถึงตำหนักหย่งเหอด้วยตนเอง ครั้นเห็น ฮ่องเต้เพียงยืนอยู่ริมหน้าต่าง และมองดูต้นไม้ในลานกว้าง ผ่านหน้าต่างบานนั้น โดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอันใดอยู่ ได้ทราบจากปากข้าหลวงว่า เขายืนอยู่เช่นนี้ตลอดทั้งวันแล้ว ในเวลานี้ตะวันคล้อยลับฟ้า ถึงเวลาสำรับเย็นแล้ว เขากลับไม่ยอมให้ผู้ใดมารบกวน ณ ประตูตำหนัก เหลียนซวงเห็นหรงเฟยเดินเข้ามา ก็เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก มาพอดีเวลา ได้โปรดรีบพาฝ่าบาทเสด็จออกไปเร็ว ๆ เถิด นี่มันน่าหวาดผวาเกินไปแล้ว หรงเฟยเดินไปหยุดอยู่ข้าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 508

    สิบวันให้หลัง ณ ชายแดนแคว้นหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนหันกลับไปมองด้วยความเหงาครู่หนึ่ง ซึ่งตกอยู่ในสายตาของอู๋ไป๋ เขาจึงอดพูดไม่ได้ “แม่ทัพน้อย ถ้าหันกลับไปตอนนี้ ก็ยังไม่สายเกินนะขอรับ” เขารู้ชัดเจน แม่ทัพน้อยมิใช่คนเย็นชาไร้น้ำใจ ตรงกันข้ามคือให้ความสำคัญกับมิตรภาพเป็นพิเศษ หากมีบ้านให้กลับไป เหตุใดจะต้องแยกย้ายไปสุดฟ้า ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงความลำบากใจของแม่ทัพน้อย เหมือนกับที่เขารู้ ในมุมหนึ่ง จากคำพูดของคนชุดคลุมดำ บัดนี้แม่ทัพน้อยตกเป็นเป้าหมายของสมาชิกพรรคเทียนหลง ไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นรู้จักโฉมหน้าแท้จริงภายใต้หน้ากากของแม่ทัพน้อย ตั้งแต่เมื่อใด และยังรู้ด้วยว่าฮองเฮาองค์ปัจจุบันเคยเป็น “เมิ่งสิงโจว” โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเบาะแสที่สืบได้ล่าสุด พรรคเทียนหลงแอบฟื้นคืนความรุ่งโรจน์มานานแล้ว อีกทั้งประมุขพรรคของพวกเขา จะออกจากที่ซ่อนในเร็ววันนี้ ในอีกด้านหนึ่ง “เมิ่งสิงโจว” กลายเป็นหนามยอกอกของพวกเขา กอปรกับตัวตนของซูฮ่วน——เป็นหนึ่งในผู้นำที่กวาดล้างพรรคเทียนหลงในปีนั้น เกรงว่าพรรคเทียนหลงจะรู้ความจริงในไม่ช้าก็เร็ว และชำระแค้นเก่าแค้นใหม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 509

    มังกรพสุธาที่อัดแน่นอยู่ในนั้น ทำให้คนรู้สึกขนพองสยองเกล้า ราวกับว่าพวกมันสัมผัสได้ถึงอันตราย จึงค่อย ๆ ว่ายมาทางเฟิ่งจิ่วเหยียน พร้อมกับดวงตาที่เปล่งแสงสีเขียวเข้ม บ้างก็กระโดดขึ้นไป เกาะติดอยู่บนกำแพงหิน แล้วคลานเข้าไปหานาง พวกมันไม่ใช่มังกรพสุธาธรรมดาอีกแล้ว จากผิวหนังที่นูนและบวมนั้น มองแวบแรกก็รู้ว่ามีพิษ เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบกินยาเม็ดต้านพิษ และค่อย ๆ ชักกระบี่ออกจากฝัก... สองชั่วยามต่อมา นอกถ้ำ อู๋ไป๋รอคอยอย่างกระวนกระวายใจ และกังวล เขากลัวว่าแม่ทัพน้อยจะตกอยู่ในอันตราย จึงอยากจะเข้าไปตรวจสอบ ในขณะที่เขาลังเลไม่กล้าตัดสินใจ พลันมีคนเดินออกมาแล้ว เขารีบเข้าไปต้อนรับทันที “แม่ทัพน้อย...” ครั้นเพิ่งจะเปิดปากพูด ก็ได้เห็นเลือดเต็มใบหน้าของแม่ทัพน้อย ซึ่งน่าหวาดผวายิ่งนัก อู๋ไป๋พลันตื่นตัวขึ้นมาทันที รีบไปอารักขาจากด้านหลัง เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ไม่มีคนอยู่ข้างใน” อู๋ไป๋ยังสงสัย “แล้วเลือดบนร่างกายของท่าน…” เมื่อเอ่ยเช่นนี้ เขาพลันตอบสนองขึ้นมาอย่างกะทันหัน “หรือเป็นมังกรพสุธาขอรับ? แม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 510

    คนชุดคลุมดำล้มลงกับพื้น จนกระทั่งตายก็ยังคิดไม่ตก ว่าเพราะเหตุใด... อย่าว่าแต่คนชุดคลุมดำแล้ว แม้แต่ผู้คนรอบข้าง รวมทั้งหร่วนฝูอวี้ ก็ล้วนตะลึงงัน พวกเขาหันมามองหน้ากันเลิ่กลั่ก สังหารคนทั้งอย่างนี้เลยหรือ? ไม่ต้องสอบปากคำเลยหรือไร? อู๋ไป๋ก็งุนงงมาก พวกเขาใช้เวลาสืบหานานนัก แม่ทัพน้อยกลับสังหารอีกฝ่ายในพริบตา นางไม่อยากจะรู้แล้วหรือว่า เบื้องหลังการตายของต้วนไหวซวี่คืออะไร? หร่วนฝูอวี้กลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะยกนิ้วหัวแม่มือให้ และยิ้มแห้ง ๆ “การแทงของสามีนี้ ช่างสะใจยิ่งนัก!” ซูฮ่วนผู้นี้ บางครั้งก็ชั่วร้ายเสียยิ่งกว่านาง เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้หางตามองร่างในชุดคลุมดำอย่างเย็นชา นางเดินทางมาไกลนับพันลี้ ก็เพียงเพื่อที่จะฆ่าเขา ไยจะต้องปล่อยให้เขาจูงจมูกได้อีกเล่า? การแก้แค้นนั้น สังหารศัตรูต้องมาก่อน ความจริงเป็นเรื่องรอง โดยเฉพาะกับคนที่ปากแข็ง และคนที่ไม่มีจุดอ่อนเลย เป็นที่แน่ชัดว่าเค้นเอาคำตอบไม่ได้ กับโจรประเภทนี้ เพียงแค่สังหารโดยตรง และไม่ต้องเอ่ยไร้สาระ จากนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปเอ่ยกับหร่วนฝูอวี้ “ควักอวัยวะภายใน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 511

    เมื่อมาถึงชายแดนแคว้นหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนกับอู๋ไป๋หาโรงเตี๊ยมพักผ่อนระหว่างทางก่อนทั้งสองคนสวมหน้ากาก นั่งอยู่ที่ตำแหน่งใกล้ถนนคนงานโรงเตี๊ยมไม่เห็นว่านี่เป็นเรื่องแปลก บริการอาหารเสร็จ ก็ไปดูแลรับแขกคนอื่นวันนี้โรงเตี๊ยมนี้คึกคักมาก มีกลุ่มคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ พูดคุยกันขึ้นมา“เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงเมื่อปีก่อน พวกเจ้าได้ยินกันแล้วหรือยัง?”“เรื่องอันใด?”“เจ้าไม่รู้หรือ? ปีที่แล้ว ฝ่าบาทกับฮองเฮาหย่าร้างกันแล้ว!”“อ้อ อ้อ จำได้แล้ว ตอนนั้นถือเป็นเรื่องร้อนแรงช่วงเวลาหนึ่ง!”“ข้าว่า ฮองเฮาไม่มีเหตุผล หาเรื่องไม่เป็นเรื่อง! สตรีทั่วไปล้วนยึดหลักสามคล้อยสี่คุณธรรม ในฐานะที่นางเป็นราชินีแห่งแผ่นดิน กลับตำหนิฝ่าบาทต่อหน้าสาธารณะ ‘หลิ้วเก้า’ อะไรนั่น ตัวนางเองกระทำได้ไม่ดี ฝ่าบาทลงโทษนางแล้วยังไง?”“ใช่ ๆ ข้าว่า สตรีเช่นนี้ ไม่เอาก็ช่างเถอะ! ฝ่าบาทควรที่จะปลดฮองเฮา!”“ใช่ ๆ สตรีของตระกูลเฟิ่ง ต่อไปไม่ต้องคิดที่จะได้แต่งงานอีก ก่อให้เกิดเรื่องแบบนี้ คนที่เสียเปรียบไม่ใช่ตัวนางเองหรือ หากข้ามีลูกสาวแบบนี้ คงทุบตีนางตายแน่ จะได้ไม่ทำให้ข้าอับอายขายหน้า! ”ชายอ้วนหัวโตใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 642

    ท้ายที่สุดซ่งหลีก็ต้องจากไปทว่า การจากไปในครานี้หาใช่เป็นการล้มเลิกไม่ แต่เป็นการกลับไปที่ตระกูลซ่งเพื่อเกลี้ยกล่อมและโน้มน้าวบิดามารดาของตน ยามที่ต้องแยกจากกันนั้น เขายังเอ่ยกำชับกับไฉเยว่อีกด้วยว่าต้องให้เวยเฉียงกินยาทุกวัน ก่อนจะหันไปกล่าวกับเวยเฉียงด้วยความรักใคร่อันสุดซึ้งว่า“รอข้า ข้าจักต้องกลับมารับเจ้าอย่างแน่นอน”“อื้ม” เฟิ่งเวยเฉียงพลันหันหน้าหนี เพื่อเก็บซ่อนหยาดน้ำตาของตนเองเอาไว้ซ่งหลีจึงหันไปหาเฟิ่งจิ่วเหยียนก่อนจะโค้งกายคำนับ “ได้โปรดดูแลเวยเฉียงด้วย”เฟิงจิ่วเหยียนจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก“น้องสาวของข้า ข้าย่อมต้องดูแลนางเป็นอย่างดี ซ่งหลี หากเจ้ามิอาจแก้ปัญหาได้แล้วละก็ เขียนจดหมายส่งกลับมาเสีย อย่าได้ปล่อยให้เวยเฉียงรอเจ้าไปโดยเปล่าประโยชน์ พวกข้าหาได้ถือโทษโกรธเคืองเจ้าไม่”ซ่งหลีโค้งกายคำนับอีกครั้ง “ข้าจะกลับมา”สุดท้าย ซ่งหลีมองไปที่เฟิ่งเวยเฉียงอย่างไม่เต็มใจจาก พลางเดินขึ้นรถม้าไปหลังจากที่ซ่งหลีจากไปนั้น เฟิ่งเวยเฉียงก็อดไม่ได้พลันร่ำไห้ออกมา“ท่านพี่...เขา เขาจะกลับมาจริง ๆ ใช่หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนโอบกอดนางเบา ๆ “ต้องมา”ยามที่เอ่ยออ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 641

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันมองไปยังฮูหยินผู้สูงศักดิ์นางหนึ่งที่กำลังเดินลงบันไดมาใบหน้าของฮูหยินนั้นดูซีดเซียวเล็กน้อย คงเป็นเพราะว่าเร่งเดินทางมานานหลายวัน เมื่อเห็นมีคนยืนอยู่ด้านหน้าเซียวเหยาจวีนั้น นางจึงเหลือบตามองครู่หนึ่ง พลางเผยท่าทีผู้สูงศักดิ์ออกมา “บุตรชายของข้า ซ่งหลีอยู่ที่ใด”เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงรับรู้ได้ในทันทีว่า คนผู้นี้คือมารดาของซ่งหลีอย่างแน่นอน ใบหน้ามีความคล้ายคลึงเจือไปด้วยความฉลาดเฉลียว ใบหน้าเรียวเล็ก ดูผอมบาง หากแต่ดวงตาทั้งสองข้างนั้นกลับเจือไปด้วยความดุดันเข้มงวด ราวกับอาจารย์ที่ใบหน้ามิค่อยยิ้มแย้ม ในมือพลันถือไม้เรียวเอาไว้ภายในเซียวเหยาจวีนั้นด้านหน้าห้องโถงถึงแม้ว่าแม่ซ่งจักเป็นแขก ทว่า เนื่องด้วยนางมีสถานะเป็นผู้อาวุโสจึงได้รับเกียรติให้นั่งหัวโต๊ะในทันทีซ่งหลีจับมือเฟิ่งเวยเฉียงเอาไว้ พลางแสดงความเคารพต่อแม่ซ่งพร้อมกันฮูหยินซ่งมิได้เหลือบตามองดูพวกเขาแม้แต่น้อย นางพลันหลุบสายตาลงเพื่อก้มหน้าดื่มชาด้วยท่าทีสำรวมบรรยากาศภายในห้องพลันตกสู่ความเงียบงันไปในทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนที่นั่งอยู่ด้วยนั้น ดวงตาของนางพลางทอประกายความเย็นชาออกมาแม่ซ่งผู้นี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 640

    “จิ่วเหยียน?” ฮูหยินเมิ่งลองเอ่ยถาม“เจ้าค่ะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ เดิมคิดว่าจะได้คลายความกลัดกลุ้ม จึงออกจากเซียวเหยาจวีมาที่จวนแม่ทัพโดยมิรู้ตัวฮูหยินเมิ่งจุดตะเกียง เมื่อมองเห็นรอยคล้ำใต้ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียน ก็รู้ว่านางต้องพบเจอปัญหาอะไรบางอย่างเฟิ่งจิ่วเหยียนบอกเรื่องของเวยเฉียงกับซ่งหลี พร้อมกับถามว่า: “ข้ายื่นมือเข้าไปยุ่งมากเกินไปหรือไม่?”ฮูหยินเมิ่งกุมมือของนาง และเอ่ยโน้มน้าว“หากพวกเขารักกัน ต่อให้เจ้าใช้ทุกวิถีทาง ก็แยกพวกเขาออกจากกันไม่ได้ ซ่งหลีข้าเคยพบแล้ว นับว่าเป็นคนที่มีความรับผิดชอบคนหนึ่ง“เวยเฉียงอยู่กับเขา จะไม่มีทางลำบาก“ข้ากลับเป็นห่วงเจ้ามากกว่า”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอาจารย์หญิงถึงเป็นห่วงตนฮูหยินเมิ่งตบหลังมือของนางเบา ๆ “เจ้ามักจะคำนึงถึงเรื่องต่าง ๆ มากมาย การทำศึกสำหรับเจ้ามิใช่เรื่องยาก สิ่งที่เจ้าผ่านได้ยากที่สุด คือด่านความรัก”เฟิ่งจิ่วเหยียนเม้มริมฝีปาก“อาจารย์หญิง บอกท่านตามตรง ตอนนี้ข้ากำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่จริง ๆ”แววตาของฮูหยินเมิ่งเผยให้เห็นความสงสัยในทันทีหลังจากต้วนไหวซวี่ตายแล้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 639

    ไฉ่เยว่รู้สึกกังวลใจ “คุณหนูตกลงรับรักของท่านหมอซ่งแล้ว เดิมนี่เป็นเรื่องดี ทว่าบ่าวกังวลว่า ตระกูลซ่ง...ตระกูลซ่งจะไม่ยอมรับคุณหนู ถึงเวลานั้นอาจจะดีใจเก้อ คนที่เสียใจก็จะเป็นคุณหนู“คุณหนูจิ่วเหยียน ท่านช่วยเกลี้ยกล่อมคุณหนูเถอะเจ้าค่ะ”ไฉ่เยว่จะคิดถึงคุณหนูในทุกเรื่อง เช่นเดียวกับคนในครอบครัวเดียวกัน จึงไม่แปลกที่จะมองการณ์ไกลบ้างครั้งก่อนที่เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับมาที่ชายแดนเหนือ ก็รู้ความรู้สึกของซ่งหลีที่มีต่อเวยเฉียงในตอนนั้นนางก็เคยเตือนซ่งหลี ให้ทำความเข้าใจกับผู้อาวุโสของตระกูลซ่งก่อน จากนั้นค่อยมาสานสัมพันธ์กับเวยเฉียงอีกอย่างในตอนนั้น นางมิรู้ด้วยซ้ำว่าเวยเฉียงรู้สึกอย่างไรกับซ่งหลีในขณะนี้ ความคืบหน้าของเรื่องนี้ได้เกินกว่าที่นางคาดหมายไว้นางจึงรีบไปพบซ่งหลีทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับการซักถามของนาง ซ่งหลีก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา“ข้าตัดสินใจแล้วว่า จะแต่งงานกับเวยเฉียงเท่านั้น“ข้าได้เขียนจดหมายถึงผู้อาวุโสในครอบครัวก่อนหน้านี้แล้ว พวกเขาก็มิได้คัดค้าน”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่ง ทว่ากลับข่มกลั้นบางอย่างไว้“เจ้าบอกความจริงหรือไม่ พวกเขารู้หรือไม่ว่าเวยเฉียง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 638

    หลังจากไปคารวะอาจารย์หญิงแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็มุ่งตรงไปที่เซียวเหยาจวีทันทีนางสวมเครื่องแต่งกายบุรุษ และสวมหน้ากากอยู่ แต่กลัวว่าเวยเฉียงจะจำนางไม่ได้ จนกระทบกระเทือนจิตใจ ดังนั้นก่อนจะเข้าไปที่เซียวเหยาจวี นางจึงถอดหน้ากากออกเมื่อเดินเข้าไปในลานกว้าง นางก็เห็นเวยเฉียงกำลังนั่งอยู่บนชิงช้า ซ่งหลีคอยผลักให้เบา ๆ อยู่ด้านข้าง แววตาดูอ่อนโยนและห่วงใยในตอนนั้น เวยเฉียงเงยหน้าขึ้นและมองเห็นนาง“พี่สาว!” เฟิ่งเวยเฉียงราวกับผีเสื้อเริงร่า นางยืนขึ้น และวิ่งโผเข้ามาหานางเฟิ่งจิ่วเหยียนยื่นมือออกไปรับนางไว้ได้เห็นใบหน้านางแดงระเรื่อ สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มของความดีใจหากกำจัดปานปลอมที่ใช้แปลงโฉมง่าย ๆ บนแก้มแล้ว พวกนางก็มีหน้าตาแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง“พี่สาว! ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!”ซ่งหลียืนอยู่ที่ไกล ครั้งแรกที่เห็นหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียน ก็รู้สึกตกใจสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ รูปลักษณ์ภายนอกของคนผู้นี้ช่างเหมือนกับซูฮ่วน! ทว่า คนฉลาดอย่างเขา ลองคิดกลับกันก็น่าจะเดาความจริงได้เขาอดถอนหายใจมิได้---ซูฮ่วนหลอกเขาเสียสนิทเลยทว่า ยังดีที่เป็นเช่นนี้มิเช่นนั้นแล้วเขาจะรู้ส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 637

    วันที่สองหลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนจากไป เซียวอวี้ก็เดินทางกลับเมืองหลวงเช่นกันเพื่อป้องกันมิให้ราษฎรตื่นตระหนก เขาจึงตั้งใจสั่งให้หนานซานอ๋องกับเหล่าทหาร ปิดปากเงียบเรื่องของเจดีย์เก้าชั้นกับหยางเหลียนซั่วตงฟางซื่อก็ตัดสินใจไปท่องยุทธภพต่อ ทำตัวเป็นคนพเนจรพรรคเทียนหลงใช้แผนการชั่วร้าย ทำให้ชาวยุทธภพตายไปไม่น้อยยุทธภพในตอนนี้ จึงต้องการคนอีกมากลุกขึ้นยืนหยัดบางคนเสนอให้จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรอู่หลินขึ้นมาใหม่ ทั้งเสนอแนะให้ตงฟางซื่อเป็นผู้นำทว่า หลังจากที่ตงฟางซื่อผ่านเรื่องราวเหล่านั้น ก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่าตนไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ อีกทั้งเขาก็หาใช่คนที่ตอบแทนความแค้นด้วยการทำดีตอบ จึงปฏิเสธไปตามตรงเขาเข้าใจแจ่มแจ้ง พันธมิตรอู่หลินคืออะไร ในยามต้องการก็เป็นสมบัติ ส่วนในยามที่ไม่ต้องการก็เป็นฟางเน่ามิน่าเล่าในตอนแรกไม่ว่าจะพูดอย่างไรซูฮ่วนก็ไม่ยอมเป็นรองผู้นำกลุ่มพันธมิตรที่ใดมีผู้คน ที่นั่นย่อมมีการหลอกลวงและการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น แม้ยุทธภพมิใช่ราชสำนัก ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการปฏิบัติเช่นกันเขายอมเป็นจอมยุทธ์ที่มีอิสระดีกว่าตงฟางซื่อปฏิเสธที่จะเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตร ดั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 636

    “เจ้าต้องการจะกลับไปชายแดนเหนือ?” เซียวอวี้มองไปยังคนตรงหน้าที่มาอำลาตน เขารู้สึกแน่นในทรวงอกเดิมเขาคิดว่า เมื่อเรื่องเจดีย์เก้าชั้นจบลงแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็สามารถกลับเมืองหลวงไปกับเขาดังนั้น เขาจึงเฝ้ารอนางมาตลอด และรีรอไม่ออกเดินทางมิง่ายเลยกว่าจะรอให้ต้วนไหวซวี่หมดลมหายใจ แต่เพื่อเถ้ากระดูกของต้วนไหวซวี่แล้วนางยังต้องการจะไปชายแดนเหนืออันที่จริง นางเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรักและมิตรภาพ เรื่องทำนองนี้ก็มิใช่เรื่องใหญ่ทว่าแล้วเขาเล่า?นางเคยนึกถึงเขาบ้างหรือไม่?เซียวอวี้ยืนอยู่ที่เดิม หมัดเริ่มกำแน่นเขาควบคุมอารมณ์พร้อมถามว่า “เจ้า...จะกลับมาอีกหรือไม่”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองเข้าไปในดวงตาของเขา และมิได้ตอบเขาในวินาทีแรกในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่อึดใจขณะที่นางกำลังลังเล เซียวอวี้ก็หมดความอดทน ดวงตาดำมืดของเขาคู่นั้น พลันปกคลุมไปด้วยความหม่นหมองในทันที ทันใดนั้นเขาจับไหล่ของเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้ และดันนางไปที่หลังประตู น้ำเสียงของเขาแหบพร่า“เจ้าจะไม่กลับมาแล้วใช่หรือไม่!“เฟิ่งจิ่วเหยียน เจ้าทำเช่นนี้กับเราได้อย่างไร!“เป็นเพราะคำพูดสุดท้ายก่อนตายของต้วนไหวซวี่ใช่หรือ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 635

    ณ จวนหนานซานอ๋องวันรุ่งขึ้น เฟิ่งจิ่วเหยียนฟื้นขึ้นมาในห้องของตนเมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นสาวใช้เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียง“คุณชายซู ท่านฟื้นแล้ว!” สาวใช้ในจวนมิรู้ตัวตนของนาง เมื่อเห็นบนตัวนางสวมเครื่องแต่งกายบุรุษ จึงเรียกว่าคุณชายมาตลอดเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นนั่ง เอามือค้ำหน้าผาก ความคิดก็พลุ่งพล่านหยางเหลียนซั่วหนีไปแล้วมิรู้ว่าถูกผู้ใดช่วยไปแล้วดูเหมือนว่า ยังมีคนที่พวกเขามิได้สังเกต และแอบสอดแนมอยู่ตลอดหลังจากนางชำระกายอย่างง่าย ๆ ก็ไปพบกับเซียวอวี้เซียวอวี้เห็นนางตื่นเช้าเช่นนี้ จึงเตือนนางว่า “เจ้าบาดเจ็บภายใน จักต้องพักผ่อนให้มากถึงจะหายดี”เฟิ่งจิ่วเหยียนมิสนใจคำพูดทักทาย กลับเอ่ยถามออกมาตรง ๆ“ส่งคนไปตามหาหยางเหลียนซั่วแล้วหรือไม่? มีข่าวคราวใดบ้าง?”เซียวอวี้ตอบนางว่า “จนบัดนี้ก็ยังไม่มีเบาะแส ในเมื่อตื่นแล้ว ก็ทานอาหารมื้อเช้าก่อนเถอะ หยางเหลียนซั่วร่างกายบาดเจ็บสาหัส มิอาจสร้างความวุ่นวายใหญ่โตได้”ขณะที่พูด เขาก็ส่งสัญญาณทางสายตาให้เฉินจี๋ไปนำอาหารมื้อเช้ามาเมื่อมีเรื่องราวที่ทับถมอยู่ในใจของนาง เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นอาหารเหล่านี้ ก็แทบไม่มีความอยากอาหารในห้องด้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 634

    เพื่อรับมือกับหยางเหลียนซั่ว เซียวอวี้ได้เตรียมการป้องกันไว้แล้วเหล่าองครักษ์จึงตั้งค่ายกล พร้อมปล่อยตาข่ายลงมา เหมือนกับดักจับปลา ทำให้หยางเหลียนซั่วติดอยู่ในตาข่ายจากนั้นคนจำนวนหนึ่งก็รีบล้อมวงเข้ามา และย้ายตำแหน่งกัน ปากตาข่ายจึงรัดแน่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ตามการเคลื่อนไหวของพวกเขาหยางเหลียนซั่วเหวี่ยงมือทั้งสองข้าง และดิ้นรนทว่า การพังทลายของเจดีย์เก้าชั้น เดิมก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นยังต่อสู้กับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะการโจมตีของซูฮ่วน บวกกับในเวลานี้เขาธาตุไฟเข้าแทรก พลังเจินชี่กลับรั่วไหลออกมา ตาข่ายนี้ ในยามปกติเขาสามารถทำลายได้อย่างง่ายดาย ทว่าตอนนี้กลับมีกำลังไม่เพียงพอพลังเจินชี่รั่วไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเขาก็ได้รับความทรมานเช่นกัน“ยิงธนู!!” หนานซานอ๋องออกคำสั่งตามมาในขณะที่กำลังจะยิงสังหารราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่นี้ได้ แต่จู่ ๆ หมอกควันสีขาวก็กระจายฟุ้งขึ้นมาโดยรอบตรงกลางหมอกควันนั้น ก็คือหยางเหลียนซั่ว เฟิ่งจิ่วเหยียนหัวใจบีบแรงแย่แล้ว!มีคนช่วยหยางเหลียนซั่ว!หมอกควันหนาทึบ ทุกคนมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ชัด ทั้งยังสำลักควันหนานซานอ๋

DMCA.com Protection Status