แชร์

บทที่ 498

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
เซียวอวี้รู้ดีว่า ที่สถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้ได้ นั่นเป็นเพราะฮองเฮาเสด็จไปหาไทฮองไทเฮาเมื่อตอนกลางวัน

เดิมทีเขาคิดว่า นางกำลังยืมมือขอความช่วยเหลือจากเสด็จย่า

เขาเพิ่งจะรู้ตัวในยามนี้ ว่านางกำลังใช้แผนคนหมู่มากในการโจมตีเขา

ทว่า ตั้วแต่เมื่อใดกันที่นางสนมเหล่านั้นเริ่มที่จะปกป้องนางกัน?

ความสามารถของนางช่างมีมากยิ่งนัก!

เซียวอวี้พลันหมุนกายเข้าไปด้านในตำหนัก ก่อนจะเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ด้วยท่าทีสงบนิ่ง

“นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการจะเห็นเช่นนั้นหรือ?” เซียวอวี้พยายามข่มอารมณ์โกรธของตนเองเอาไว้

แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเต็มไปด้วยความเฉยเมย

“นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

“หากท่านยังคิดดึงดันโดยไม่สนใจสิ่งใดอีก ในภายภาคหน้าย่อมมีขุนนางมากมายยื่นฎีกาฟ้องร้อง รวมไปถึงเหล่าราษฎรและกำลังพลทหารมากมายที่จักลุกขึ้นมายืนหยัดเพื่อหม่อมฉัน”

เซียวอวี้หัวเราะเยาะเย้ยกับตัวเอง

“เหตุใดต้องร้องขอเพื่อเจ้า? กล่าวหาว่าเป็นเพราะเรารังแกเจ้าเช่นนั้นหรือ?”

“เช่นนั้นเราคงเป็นคนแรกที่ตกเป็นผู้ร้ายในสายตาของผู้คนในใต้หล้า!

“ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้าชัด ๆ ! เป็นเพราะเจ้าต้องการหนีไปจากเรา เป็นเจ้าท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Kamonwan Tipaksorn
จบก็ไม่จบก็ดีกันแล้วหรือว่ายังมีปมตรงไหนอีกผมตรงที่คนวางยาก็ไม่ใช่ช่วยกันไปสืบจะได้จบๆเห็นแต่งไปตั้ง 800 กว่าตอนยังไม่จบอีก
goodnovel comment avatar
Kamonwan Tipaksorn
เอาฮองเฮาไปเก็บได้แล้วมั้งเนี่ย
goodnovel comment avatar
Tanavat Yodsuwan
ไม่เข้าใจว่าจะแต่งเรื่องเฉพาะฮ่องเต้กะฮองเฮาเท่านั้นหรือ ช่วงนี้ไม่มีเรื่องอื่นมาบรรยายเลยชักจะไม่อยากคิดตามแระ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 499

    ด้านนอกประตูวังนั้นพลันรายล้อมไปด้วยราษฎรมากมาย “เกิดอะไรขึ้นกัน?”“ไม่รู้สิ ข้าก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน”“ข้าได้ยินมาว่าฮองเฮาต้องการหย่าร้าง...”“อะไรนะ? ! หย่าร้าง? ฮองเฮา? มัน มิน่าจะเป็นไปได้กระมัง!”สตรีธรรมดาที่อยากจะหย่าร้างนั้น ล้วนแต่ถูกบ้านสามีของตนเองถลกหนังทั้งหมด หากว่าในตระกูลที่สูงส่งขึ้นมาหน่อย ก็จักกล่าวว่า “ไร้การหย่าร้าง มีเพียงแค่ปลดภรรยา” แล้วสถานการณ์ของฮองเฮาเล่า?เกรงว่าฮองเฮาจักกลายเป็นบ้าไปแล้วกระมัง...ภายใต้เสียงกลองที่ดังกึ่งก้อง เฟิ่งจิ่วเหยียนเผชิญหน้ากับฝูงชนด้วยสายตาที่แน่วแน่ พลางกล่าวออกมาด้วยความหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำว่า“สวรรค์เบื้องบน!“ฟ้องร้องเรื่องแรก มีงานแต่ไม่แต่ง งานมงคลสมรสของฮ่องเต้นั้น มีการส่งคนมาแทนที่ตนเองยามที่กล่าวคำนับฟ้าดิน“ฟ้องร้องเรื่องที่สอง แต่งไร้ความเชื่อ ยามที่เข้าหอนั้น ฮ่องเต้สงสัยในความบริสุทธ์ของข้า กระทำการหยามหน้าผู้คนในตระกูลเฟิ่ง“ฟ้องร้องเรื่องที่สาม หลงใหลสนมละเลยภรรยา คืนวันงานมงคลสมรส ฝ่าบาทกระทำการละทิ้งภรรยาเอกเพื่อไปอยู่กับสนม ทั้งยังส่งป้ายทองฮองเฮามอบให้กับพระสนมคนโปรดอีก“ฟ้องร้องเรื่องที่สี่ ทำร้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 500

    เพียงเซียวอวี้ปรากฏตัวออกมา เหล่าราษฎรต่างพากันหวาดกลัว ทั้งยังมีบางส่วนที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวหลิวซื่อเหลียงพลางตวาดออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวพร้อมน้ำเสียงเล็กแหลมว่า“บังอาจ! เห็นฝ่าบาทแล้วพวกเจ้ายังมิคิดทำความเคารพกันอีก?”เหล่าราษฎรจึงพากันรีบร้อนคุกเข่าคำนับด้วยความเคารพในทันทีทว่า ก็ยังมีบางคนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาว่า“หย่าร้าง...”เซียวอวี้พลันยืนเอามือไพล่หลังเอาไว้ พร้อมทั้งเสื้อคลุมมังกรที่ปลิวสยายไปตามสายลม ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน“ฮองเฮาได้โปรดกลับวังเถิด!”เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ภายใต้กลองร้องทุกข์ด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว “ฝ่าบาทได้โปรดตอบรับคำหย่าร้างของหม่อมฉันด้วยเพคะ”เซียวอวี้กำมือของตนเองเอาไว้แน่น จนทำให้มีรอยบาดแผลบนฝ่ามือในทันที ทว่า ยังไม่เท่ากับบาดแผลที่อยู่ภายในใจของเขาคำพูดที่ฮองเฮากล่าวออกมาเมื่อครู่นั้น เขาต่างก็ได้ยินกับหูทุกอย่างล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ทำเอาเขามิอาจหาโต้แย้งอันใดมาตอบกลับได้มิคิดเลยว่า นางจักจดจำเรื่องราวเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำหากว่านางต้องการออกไปจากวังหลวงเพราะเหตุนี้ละก็ เช่นนั้นเรื่องระหว่างพวกเขายั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 501

    ไทฮองไทเฮาไม่ได้คิดที่จะตายจริง ๆ เพียงต้องการใช้ความตายมาข่มขู่เท่านั้น เซียวอวี้ทราบจุดประสงค์ของนาง หลังจากที่หมอหลวงยืนยันว่านางปลอดภัยดี เขาก็เอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “เสด็จย่า ท่านก็อยากจะบีบบังคับเราด้วยกระมัง” ไทฮองไทเฮาเอนหลังพึงหัวเตียง และมองเขาด้วยสายตาที่เจ็บปวด “ข้ามิได้บังคับเจ้า ข้าเพียงรู้สึกปวดใจแทนเจ้า! “ฮ่องเต้ ข้าได้ยินเรื่อราวในราชสำนักเหล่านั้นหมดแล้ว “สตรีนางนั้น นางได้บีบบังคับให้เจ้าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ไยเจ้ายังไม่เห็นหัวใจของนางชัดเจนอีกเล่า? “นางตั้งใจจะออกจากวัง “ข้าก็สามารถมองเห็นได้ว่า เจ้ามีนางอยู่ในใจ และต้องการจะเก็บนางไว้ “ทว่าเจ้าจะสามารถกักขังสตรีที่ไม่มีเจ้าอยู่ในหัวใจ ไว้ได้อย่างไรเล่า? ฝ่าบาท ยังจำหยวนเฟยของฮ่องเต้พระองค์ก่อนได้หรือไม่? หากเจ้าชอบฮองเฮาจริง ๆ จักทนเห็นฮองเฮามีจุดจบเช่นนั้นได้หรือ?” ทันใดนั้นเซียวอวี้พลันรู้สึกหนาวสะท้าน หยวนเฟยหญิงงามผู้อาภัพนั้น เป็นพระสนมสุดรักของเสด็จพ่อ ทว่าสตรีนางนั้นมิได้รักเสด็จพ่อ เสด็จพ่อบีบบังคับให้นางอยู่ในวัง ถึงขั้นประสงค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 502

    หลังตื่นจากฝันร้ายนั้น เซียวอวี้ก็ไม่รู้สึกง่วงนอนอีกเลย เขาก้าวลงจากเตียง คว้าเสื้อคลุมที่แขวนอยู่บนฉากบังตาแล้วเดินออกไป มุ่งหน้าไปยังตำหนักหย่งเหอ ครั้นมาถึงตำหนักหย่งเหอ เซียวอวี้ไม่ได้เข้าไปในตำหนักบรรทม เพียงแต่ยืนอยู่ข้างนอกเท่านั้น ในชั่วยามนี้ ฮองเฮาคงจะเข้านอนไปแล้ว เขายืนนิ่งอยู่สักพัก และในยามที่ชั่งใจว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ ซุนหมัวมัวพลันเดินมาหาแล้ว ซุนหมัวมัวต้องการให้ฝ่าบาทและฮองเฮากลับมาคืนดีกันอีกครั้ง จึงเอ่ยหยั่งเชิง ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ “ฝ่าบาท ได้โปรดอย่าใส่พระทัยคำพูดที่รุนแรงของฮองเฮาเลยเพคะ แท้จริงแล้วพระนางก็แค่กำลังแง่งอน และขออภัยที่บ่าวพูดมากเกินไป ฮองเฮาจิตใจสูงส่ง จนไม่อยากจะมองเห็นท่านกับหรงเฟยเพคะ...” เซียวอวี้ขมวดคิ้ว เพียงเหลือบมองจากหางตา “นางเป็นเช่นนี้เพราะหรงเฟยรึ?” ซุนหมัวมัวพยักหน้างึก ๆ “ถูกต้องเพคะ! ฮองเฮามีความรักลึกซึ้งต่อพระองค์ มิฉะนั้นจะเสี่ยงชีวิตเพื่อไปส่งเสบียงอาหารให้ท่านได้อย่างไร? ในช่วงเวลาที่ฝ่าบาทกรีธาทัพออกรบนั้น ฮองเฮาคิดถึงท่านอยู่เสมอเพคะ ทว่าเมื่อหรงเฟยกลับมาแล้ว ฮองเฮ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 503

    เซียวอวี้กระชับกอดนางไว้แน่น และเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง “ฮองเฮา เราไม่ได้โกหกเจ้า บุตรของหรงเฟยนั้น เราสืบพบแล้วว่า มิใช่บุตรของเราจริง ๆ เรากลัวเจ้าจะไม่เชื่อ ทว่าในที่สุด เราก็สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้แล้ว...ฮองเฮา อย่าจากเราไปเลย” หลังพูดจบ เขาก็ยื่นกระดาษคำให้การของข้าหลวงให้นาง ด้วยมือที่สั่นเทานิด ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียนตกตะลึงไม่น้อย ทันใดนั้นนางก็ผลักมือของเขาออก เวลาเดียวกัน กระดาษพลันกระจัดกระจายอยู่บนพื้น สายลมที่หนาวเหน็บแห่งสารทฤดู พัดเข้ามาทางหน้าต่าง เซียวอวี้ก้มลงไปหยิบมันทันที แต่แล้วก็พลันแข็งทื่อ เมื่อคิดดูแล้ว ดูเหมือนเขาจะกระจ่างขึ้นโดยฉับพลัน จึงโยนคำให้การในมือทิ้งไป พลางลุกขึ้น และเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า ด้วยดวงตาที่แดงเรื่อ เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้งมากขึ้น “หรือว่า...เจ้าไม่ได้สนใจ เรื่องที่เราจะบริสุทธิ์หรือไม่เลยรึ” เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูกระดาษคำให้การที่กระจายเกลื่อนพื้น “ท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ “หม่อมฉันไม่เคยเอ่ยว่า สาเหตุที่จะจากไปนั้นเป็นเพราะเรื่องของท่านกับหรงเฟยเพคะ” จนถึงยามนี้ เข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 504

    ฮ่องเต้ประชวร เหล่าหมอหลวงกล่าวว่า ฝ่าบาททรงติดเชื้อไข้หวัด ทว่าฝ่าบาทไม่เคยละเลยการออกว่าราชกิจเลยสักวันเดียว ณ วันที่เข้าสู่เดือนสิบสอง ในที่สุดก็มีพระราชโองการหย่าร้าง ประกาศลงมา เหลียนซวงหลั่งน้ำตาด้วยความปีติ “ฮองเฮาเพคะ ในที่สุดท่านก็ได้เป็นอิสระแล้ว!” นางรู้สึกมีความสุขกับฮองเฮาด้วยใจจริง ช่วงเวลาที่ผ่านมา เมื่อได้เห็นฝ่าบาทเป็นเช่นนั้น ก็กลัวเหลือเกินว่าฮองเฮาจะถูกกักขังไว้ในพระราชวังตลอดชีวิต โชคดี ที่สุดท้ายฝ่าบาทก็คล้อยตามกระแสส่วนใหญ่ และยินยอมให้ฮองเฮาจากไป ทว่าสิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือ มิใช่การปลดฮองเฮา แต่เป็นการหย่าขาดจากกัน ในทุกราชวงศ์ที่ผ่านมานั้น ล้วนมิเคยเกิดขึ้น ซุนหมัวมัวนั้นแตกต่างจากเหลียนซวง นางร้องไห้อย่างน่าอนาถ “ฮองเฮาเพคะ ฮองเฮาของบ่าว! เหตุใดท่านจึงปลงไม่ตก เหตุใดจะต้องออกจากวังให้ได้!” ซุนหมัวมัวทรุดกายนั่งอยู่บนชายคาระเบียง และร้องไห้สะเทือนฟ้าดิน ราวกับกำลังไว้ทุกข์ให้บิดามารดา ข้าหลวงหลายคนพยายามดึงนางขึ้นมา กลับไม่สามารถทำได้เลย ณ ฝ่ายใน เฟิ่งจิ่วเหยียนรับพระราชโองการนั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 505

    เซียวอวี้ดูเหมือนเพิ่งตื่นจากการหลับใหล อาภรณ์ของเขาบิดเบี้ยว และหลวมโพรก ผมเผ้ากระจัดกระจายไร้ระเบียบ ยิ่งทำให้ใบหน้านั้นพราวด้วยเสน่ห์ระคนอ่อนแอ ริมฝีปากได้รูปของเขาก็ซีดเซียว คล้ายว่าเจ็บป่วยร้ายแรง ยากที่จะรอดชีวิต หลิวซื่อเหลียงที่อยู่ข้าง ๆ ก็อกสั่นขวัญแขวน ไม่กล้าเอ่ยโน้มน้าวแต่อย่างใด แตกต่างจากเฉินจี๋ที่สงบนิ่ง ยังคงยื่นส่งลูกธนูให้กับฝ่าบาท เซียวอวี้จ้องมองคนที่อยู่ในระยะไกลอย่างไม่เผยอารมณ์ วางลูกธนูไว้บนสายอีกครั้ง และเล็งเป้าไปที่นาง... “ฝ่าบาท อย่านะเพคะ!” นางสนมทั้งหมดรีบเข้ามาสร้างกำแพงมนุษย์ขึ้น ต้องการที่จะขวางลูกธนูนั้น หนิงเฟยกลัวตาย ครั้นไม่รอให้นางได้เลือก ก็ถูกคนสองคนที่อยู่ข้างซ้ายและขวาจับเอาไว้ นางรู้สึกโมโหเล็กน้อย ทว่านางรู้สึกโกรธฝ่าบาทยิ่งกว่า “ฝ่าบาทพคะ! ท่านมิอาจทำร้ายเฟิ่งเวยเฉียงได้!” หนิงเฟยตะโกน ด้วยกลัวว่าฝ่าบาทจะยิงพวกนางตายเช่นกัน มู่หรงฉานไม่พูดจาอย่างนุ่มนวลเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว นางตะโกนอย่างเปี่ยมความชอบธรรม “วิญญูชนรับปากหนึ่งครั้งมีค่าดุจทองพันตําลึง! ฝ่าบาทได้มีพระราชโอง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 506

    ฮูหยินเฟิ่งทั้งประหลาดใจและไร้หนทาง ราวกับเด็กคนหนึ่งที่กระทำความผิด “เจ้า...เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ? จะไม่กลับบ้านหรือ? แล้วเจ้าจะไปที่ใด?” นายท่านเฟิ่งเกิดอาการโทสะปะทุฉับพลัน จนกระโดดตัวโยน “ยังจะไปที่ใดได้อีกเล่า! นางอยากกลับไปที่...” เมื่อตระหนักได้ว่ามีคนอยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงกลืนคำว่า “ตระกูลเมิ่ง” ลงคอ ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งสงบ “ฟ้าดินกว้างใหญ่ มีบ้านอยู่ทุกหัวระแหง พวกท่านแค่คิดว่าไม่มีข้าเป็นลูกสาว เฉกเช่นเมื่อในอดีตก็พอ” หลังเอ่ยเช่นนี้แล้ว นางก็เดินจากไปทันที ฝีเท้าเรียบเรื่อย และเด็ดขาด เบื้องหลังคือเสียงดุด่ากราดเกรี้ยวของนายท่านเฟิ่ง และเสียงร้องไห้ของฮูหยินเฟิ่ง “ลูกเนรคุณ! เจ้ามันลูกเนรคุณ! ดี! เจ้าอยากตายในทุ่งหญ้ารกร้างก็เชิญ!” “นายท่าน หยุดพูดได้แล้ว!” “ข้าจะต้องพูด! ละทิ้งแว่นแคว้นไว้เบื้องหลังได้อย่างไร นาง...นางคิดแต่จะท่องไปทั่วยุทธภพ! ข้าควรจับนางกดน้ำให้ตายเสียตั้งแต่แรก! ข้า...” นายท่านเฟิ่งโรคหัวใจกำเริบอีกแล้ว “นายท่าน! นายท่าน!” ฮูหยินเฟิ่งหยิบยาออกมาทันที และป้อนใส่ปากของเขา

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 962

    จวนพลทหารนายหญิงเฟิ่งฟื้นเมื่อหนึ่งชั่วยามก่อนหน้า นางปฏิเสธข้อเสนอของฝ่าบาทและฮองเฮา——เรื่องพักฟื้นในวังเพราะว่า มีบางเรื่อง นางต้องพูดกับอาอิ๋งให้ชัดเจนนายหญิงเฟิ่งถูกหมัวมัวในวังพามาส่ง สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรนักโจวซื่อผู้เป็นลูกสะใภ้ประคองนางนั่งลงบนเตียง ใบหน้าแสดงความห่วงใยไม่น้อย“ท่านแม่ ร่างกายของท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ยังเจ็บอยู่หรือไม่?”นางได้ยินองครักษ์พูดว่า ท่านแม่เป็นลมหมดสติไปในวังการเข้าวังในครั้งนี้ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? นายหญิงเฟิ่งตบหลังมือของลูกสะใภ้ “ไม่มีอะไร ประเดี๋ยวจะมีแขกมาหา เจ้าพานางเข้ามาได้เลยนะ”“เจ้าค่ะ”ไม่นาน หลิวอิ๋งก็มาถึงโจวซื่อโค้งให้หลิวอิ๋งเล็กน้อย จากนั้นก็พูดกับนายหญิงเฟิ่งอย่างเหมาะเจาะ “ท่านแม่ ข้าขอไปดูเฉียวเอ๋อร์ก่อนนะ”เฉียวเอ๋อร์คือลูกสาวของนางกับเฟิ่งเหยียนเฉิน อายุสองขวบ อยู่ในช่วงวัยที่กำลังติดคนนายหญิงเฟิ่งพยักหน้าให้โจวซื่อ “อืม ไปเถอะ ฝากปิดประตูด้วยนะ”หลังจากปิดประตู ภายในห้องก็เหลือแค่สองพี่น้องหลิวอิ๋งนั่งลงข้างนายหญิงเฟิ่ง ถามอย่างร้อนใจ“ท่านพี่ ฮองเฮาทรงว่าอย่างไรบ้าง?”ถึงแม้จะถามออกไปเช่นนี้ แ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 961

    อารมณ์ของนายหญิงเฟิ่งซับซ้อนอย่างมาก พลันน้ำตาไหลพรากออกมากลับได้ยิน หยวนเส่ากล่าวต่อ“แม้นหลิวอิ๋งจะตั้งท้องลูกของคุณชาย ฮูหยินเฒ่ายังไม่ยอมดังเดิม“นางให้เงินตระกูลหลิวไปก้อนหนึ่ง เพื่อให้พวกเขาได้กินอยู่อย่างสุขสบาย แต่มีข้อแม้อยู่สองอย่าง อย่างแรกคือให้หลิวอิ๋งเอาเด็กออก และอย่าได้คิดที่จะเข้ามาในจวนตระกูลเฟิ่ง ส่วนอีกอย่างคือ…”นางมองนายหญิงเฟิ่ง “ต้องตัดความสัมพันธ์กับท่าน”นายหญิงเฟิ่งไม่คิดเลยว่า เรื่องมันจะเป็นเช่นนี้คำพูดต่อมา เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นคนเล่าเอง“เงินเหล่านั้น เดิมทีมากพอให้ตระกูลหลิวมีกินมีใช้ แต่น่าเสียดายที่บุตรชายของพวกเขาไม่เอาไหน เอาแต่เที่ยวกินติดพนัน จนกิจการตระกูลล่มจมหมดตัว“ส่วนน้าหญิง นางไม่ได้ทำแท้งตามที่ตระกูลเฟิ่งบอกในตอนนั้น แต่พาลูก พร้อมสินสมรสมากมาย ไปแต่งงานกับพ่อค้าผู้หนึ่ง ณ ที่ห่างไกล“ยามที่ตระกูลหลิวอับจนหนทาง เพราะหนี้สิน เคยไปขอความช่วยเหลือที่เจียงโจว แต่กลับถูกปฏิเสธไล่ตะเพิดออกมานอกประตู”นี่คือเรื่องที่นางส่งคนไปสืบที่เจียงโจวเมื่อนายหญิงเฟิ่งรู้ต้นสายปลายเหตุทั้งหมด บริเวณหน้าอกพลันบีบรัด ในหูมีเสียงอื้ออึงดังขึ้นมาไม่หย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 960

    นายหญิงเฟิ่งไม่สามารถยอมรับได้ในขณะนั้น น้องสาวแท้ ๆ ของตัวเอง แอบตั้งท้องกับเฟิ่งหลิน!นางรับได้ที่น้องสาวจะแต่งงานกับเฟิ่งหลินในตอนนี้ แต่กลับรับไม่ได้ที่พวกเขาโกหกนาง และทรยศนาง!เจิ้งจีอายุเท่าเหยียนเฉินหากสิ่งที่จิ่วเหยียนพูดมาคือความจริง เช่นนั้น ช่วงที่นางกับเฟิ่งหลินเพิ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ อาอิ๋งก็คง…นายหญิงเฟิ่งหายใจอย่างเจ็บปวด ออกแรงจับกุมมือของเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้ มองบุตรสาวอย่างมีความหวัง“จิ่วเหยียน มันคือเรื่องจริงหรือ? พวกเขา…”ความเจ็บปวดระยะยาวไม่เท่าความเจ็บปวดระยะสั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างจริงจัง“ใช่ ข้าไม่เอาเรื่องแบบนี้มาโกหกท่านหรอก”การฟังความเพียงข้างเดียว อาจทำให้ท่านแม่เชื่อได้ยากนางจึงหาพยานหลักฐานมาด้วยหนึ่งชั่วยามต่อมา อู๋ไป๋ก็พาหญิงชราคนหนึ่ง มาที่ตำหนักหย่งเหอหญิงชราผู้นั้นผมหงอก ก้าวเดินอย่างโซเซอู๋ไป๋ยืนอยู่นอกตำหนัก ปล่อยให้นางเข้าไปเองคนเดียวหญิงชราโค้งคำนับให้เฟิ่งจิ่วเหยียน การสั่งสอนที่ฝังลึกอยู่ในร่างกาย ทำให้นางทำความเคารพได้อย่างถูกต้อง“ข้าน้อย ถวายบังคมฮองเฮา”หญิงชราอายุราว ๆ เจ็ดสิบแปดสิบ ฟันหลุดไปแล้วหลายซี่ทว่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 959

    นายหญิงเฟิ่งรู้สึกผิดต่อน้องสาวมาก หลายปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่อาอิ๋งมาขอความช่วยเหลือจากนาง นางอยากเข้าร่วมงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในวัง นางคิดว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำให้อาอิ๋งสมปรารถนาให้ได้วันรุ่งขึ้น นางเข้าวังขอเข้าพบฮองเฮาภายในตำหนักหย่งเหอสองแม่ลูกนั่งอยู่ด้วยกัน มีเพียงหว่านซิวอยู่รับใช้เพียงคนเดียว ไม่มีเรื่องต้องห้ามอะไรนายหญิงเฟิ่งพูดอย่างจริงจัง“ฮองเฮา ทางบ้านของแม่เหลือเพียงท่านน้าของเจ้าแล้ว“นางเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของข้า หลายปีมานี้ ข้าไม่ได้ดูแลนางให้ดี“สามีของนางจากไปเร็ว เด็กกำพร้ากับหญิงหม้าย ใช้ชีวิตอย่างลำบาก...”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกสงสาร ถามนางอย่างตรงไปตรงมา“ท่านอยากจะพูดอะไร?”คำพูดของนายหญิงเฟิ่งถูกขัดจังหวะ จึงยิ่งอ้ำ ๆ อึ้ง ๆนี่เป็นบุตรสาวแท้ ๆ ของนางก็จริง ทว่าด้วยเหตุที่ไม่ได้เลี้ยงจนโตด้วยตนเอง หรืออาจเป็นเพราะบุตรสาวคนนี้อยู่ในค่ายทหารมาหลายปี บนร่างจึงเจือด้วยรังสีฆ่าฟัน มีนิสัยทำอะไรเด็ดขาด ตนจึงรู้สึกกลัวนางอยู่บ้างนายหญิงเฟิ่งหลุบตาลงและค่อย ๆ พูดว่า“ข้า...ข้าได้ยินว่าใกล้จะถึงงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในวังแล้ว ท่านน้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 958

    เฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดตามองเหล่าทหารใหม่หลายร้อยนายนั้น แล้วหันไปสั่งการอู๋ไป๋“คะแนนสอบกลศึกของทหารเหล่านี้ ไม่ให้แต้มแม้แต่แต้มเดียว”อู๋ไป๋ยืดคอตั้งตรง เผยให้เห็นความหยิ่งยโสอยู่หลายส่วน“พ่ะย่ะค่ะ!”ทหารหลายร้อยนายเหล่านั้นเบิกตากว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมการสอบประเมินทหารใหม่ที่เพิ่งเข้าค่ายทหารนั้น ครอบคลุมไปถึงกลศึก การขี่ม้ายิงธนู และการวาดแผนที่เป็นต้นคะแนนสอบที่สูงหรือต่ำนั้น ใช้ตัดสินว่าพวกเขาจะได้เป็นทหารทัพไหนทัพกลางดีที่สุดทัพซ้ายและขวา สองทัพนี้รองลงมาที่แย่ที่สุดคือกองเสบียง กองดูแลอาวุธ ที่อนาคตไม่มีโอกาสได้เข้าสู่สนามรบยามนี้แค่คำพูดเดียวของฮองเฮา ก็ทำให้คะแนนกลศึกของพวกเขากลายเป็นศูนย์ ใช้อำนาจรังแกคนชัด ๆ!“ฮองเฮา เพราะเหตุใดพ่ะย่ะค่ะ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้อธิบายให้มากความ“ในเมื่อรู้ว่าสตรีเป็นทหารไม่ง่าย ก็ต้องเห็นคุณค่าของโอกาสในตอนนี้ของพวกเจ้าให้ดี“พอถูกสตรีนำหน้า ก็อับอายจนโมโห ทำไม อยากให้ข้าชมพวกเจ้าว่ามีอนาคตยาวไกล จะต้องเอาชนะกองทัพสตรีได้แน่อย่างนั้นรึ?“ทหารทุกนาย วิ่งรอบค่ายร้อยรอบ!”เหล่าทหารใหม่ที่ถูกกดขี่บีบบังคับได้แต่ทำ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 957

    ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว วันนี้เป็นวันหยุด เฟิ่งเหยียนเฉินจะพาโจวซื่อไปบ้านพ่อตาเพื่อส่งของขวัญเทศกาลไหว้พระจันทร์ล่วงหน้าระหว่างที่โจวซื่อกำลังช่วยเฟิ่งเหยียนเฉินสวมเข็มขัด สาวใช้ก็เข้ามาในห้อง แล้วรายงานอยู่ข้างฉากบังลม“ใต้เท้า ฮูหยิน แม่หญิงหลิวผู้นั้นมาอีกแล้วเจ้าค่ะ!”สองสามีภรรยามองตากันด้วยสีหน้าจนปัญญาเฟิ่งเหยียนเฉินขมวดคิ้วถาม“นางมาทำอะไร”“มาอยู่เป็นเพื่อนฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าค่ะ”โจวซื่อกดแขนของเฟิ่งเหยียนเฉิน เงยหน้ามองเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ท่านพี่ อย่าบุ่มบ่าม ถึงอย่างไรก็เป็นแขกของท่านแม่ พวกเราเป็นคนรุ่นหลัง จะไล่คนไปก็คงไม่ดี คอยสังเกตการณ์เงียบ ๆ จะดีกว่า”เฟิ่งเหยียนเฉินกดอารมณ์ร้อนของตนลงเมื่อนึกได้ว่าอีกซักครู่ยังต้องไปบ้านท่านพ่อตา เช่นนั้นก็ช่างเรื่องท่านน้า เขาเพียงสั่งข้ารับใช้ว่า “ปกป้องท่านแม่ให้ดี”“ขอรับ ใต้เท้า!”นายหญิงเฟิ่งพักอยู่ที่เรือนรองนางพาหลิวอิ๋งเดินชมด้านในจวนพลทหารรอบหนึ่งหลังจากคนทั้งสองเดินกลับถึงเรือนรอง หลิวอิ๋งก็จับมือนาง แล้วกล่าวด้วยความกระดากใจอย่างยิ่งว่า“พี่หญิง เรื่องเมื่อวานเป็นข้าที่เลอะเลือนเอง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 956

    จวนพลทหารเฟิ่งเหยียนเฉินเห็นแก่ท่านแม่ จึงฝืนใจยอมนั่งโต๊ะเดียวกับคนที่เรียกว่าเป็นน้าหญิงสกุลโจวก็เห็นแก่หน้าแม่สามีเหมือนกัน ไม่ถือสาเรื่องที่ผ่านมา มีไมตรีจิตรกับน้าหญิงคนนี้สีหน้าหลิวอิ๋งแสดงออกถึงท่าทีรู้สึกผิด ยกจอกสุราลุกขึ้นมา“เรื่องในวันนี้ เป็นเรื่องเข้าใจผิด“พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ควรทะเลาะกันเช่นนี้“พี่สาว อภัยให้ข้าด้วย ข้าคิดถึงเรื่องของท่านพ่อท่านแม่กับน้องชาย จึงล่วงเกินเจ้า ล่วงเกินหลานสะใภ้”นางยกจอกสุราคารวะนายหญิงเฟิ่งนายหญิงเฟิ่งใจอ่อน “อาอิ๋ง เจ้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของข้า ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้”นางไม่ได้เลี้ยงดูส่งทั้งสองท่านเป็นครั้งสุดท้าย เป็นสิ่งที่นางเสียใจที่สุดในชีวิต ไม่โทษที่หลิวอิ๋งต่อว่านาง ต่อหน้าทุกคน“พี่สาว เหยียนเฉิน ข้าดื่มหมดจอก!” หลิวอิ๋งดื่มสุราในจอกจนหมดเฟิ่งเหยียนเฉินไม่พูดอันใดตลอดมื้ออาหารครั้งนี้จนหลังทานอาหารค่ำแล้วเสร็จ หลังจากทุกคนส่งน้าหญิงกลับไปแล้ว เขาค่อยพูดกล่อมท่านแม่“ข้าคิดว่า น้าหญิงคนนี้ไม่ควรผูกมิตร ต่อไปท่านไปมาหาสู่นางน้อยหน่อย”นายหญิงเฟิ่งขมวดคิ้ว“เหยียนเฉิน อย่างไรนั่นก็เป็นน้องสาวของข้า เป็นญ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 955

    เฟิ่งหลินโกรธจนขำหัวเราะ“เก้ามิ่งก็คือเก้ามิ่ง ข้ายังจะโกหกเจ้าได้รึ?“หลิวอิ๋ง เจ้ายังไม่ได้แต่งงานเข้ามา ก็ก่อเรื่องวุ่นวายให้ข้าขนาดนี้ ต่อไปจะไม่ยิ่งกว่านี้รึ?“วันนี้ หากเจ้าไม่ไปขอโทษ งั้นการแต่งงานระหว่างเจ้ากับข้า ก็ยกเลิก!”หลิวอิ๋งมือสั่น หว่างหัวคิ้วมืดคล้ำ “ได้! ข้าไปขอโทษ! ทว่าไม่ใช่เพราะท่านข่มขู่ข้า เป็นเพราะข้าคำนึงถึงท่าน ไม่อยากให้จวนตระกูลเฟิ่งเสื่อมเสียชื่อเสียง”นายท่านเฟิ่งรู้จักนางดีตั้งแต่ต้นแล้วเขาส่งเสียงเมิน “หากเจ้าหวังดีกับข้าจริง ๆ ก็จะไม่บีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า !”คำพูดประโยคนี้ทิ่มแทงใจหลิวอิ๋งนางหัวเราะเย้ย“ซานหลาง ข้าบีบบังคับเจ้าจริง ๆ หรือ? เราแต่งงานกัน ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของกันและกันหรือ?”นางต้องการอำนาจกับทรัพย์สินเปิดเส้นทางการค้าระหว่างแต่ละแคว้น อาศัยเพียงสถานะป้าของฮองเฮา ยังไม่เพียงพอนางยังต้องส่งลูกสาวไปยังตำแหน่งสูงศักดิ์ส่วนเฟิ่งหลิน เขาต้องการลูกสาวที่เชื่อฟัง คลอดโอรสให้กับตระกูลเฟิ่งของพวกเขาทันใดนั้น เฟิ่งหลินพูดอะไรไม่ออก ไม่สนใจนาง สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไปข้างนอกห้องตรงระเบียงทางเดินสาวใช้พูดเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 954

    หลิวอิ๋งมาถึงจวนตระกูลเฟิ่ง วางมาดเป็นเหมือนนายหญิงกลับจวน นำรังนกยื่นให้สาวใช้“นำรังนกไปตุ๋น เดี๋ยวข้าจะดื่ม”สาวใช้ยื่นมือทั้งคู่รับมา ไม่กล้าที่จะละเลยพ่อบ้านเหลือบมองรังนก แล้วก็แอบส่ายหัวฮูหยินในอนาคตคนนี้หาเงินเก่งก็จริง ทว่าใช้จ่ายเงินก็ไม่ธรรมดาหากให้นางดูแลจัดการจวนตระกูลเฟิ่ง จะมีชีวิตที่ดีได้หรือ?หลิวอิ๋งอายุสี่สิบกว่า ปกติใช้เงินจำนวนมากในการบำรุงดูแล ใช้ผงแป้งไข่มุกทุกวัน แลดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงอย่างน้อยเจ็ดแปดปีวันนี้นางแต่งตัวสวมชุดกระโปรงเบาสบายทันสมัย กล่าวกันว่าเป็นแบบที่ฝ่าบาทออกแบบให้กับฮองเฮาด้วยพระองค์เอง เมื่อสวมใส่แล้วมีความสง่ากล้าหาญ นางคิดว่า คู่ควรกับสถานะของนางที่เป็นหญิงแกร่งทางการค้าเวลานี้ มุมหนึ่งตรงระเบียงทางเดิน อี๋เหนียงหลินกับสาวใช้ยืนอยู่ตรงนั้น แอบมองดูอยู่สาวใช้แสดงสีหน้าสมน้ำหน้า“อี๋เหนียง นายท่านโกรธขนาดนี้ แม่หญิงหลิวคนนั้นโชคร้ายแน่”สายตาอี๋เหนียงหลินแฝงไปด้วยความเกลียดแค้น ชิงชัง มือออกแรง แทบอยากฉีกผ้าเช็ดหน้าให้ขาด“สารเลว! อย่าให้นางเข้ามาอยู่ที่นี่ดีที่สุด!”……หลิวอิ๋งเข้าไปในห้องโถงหน้า ก็เห็นเฟิ่งหลินจับจ้องต

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status