แชร์

บทที่ 384

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-01 17:00:00
องค์หญิงใหญ่ไม่อาจยอมรับการกระทำหลอกลวงเบื้องสูงของเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ นี่ถือเป็นการลบหลู่ทั้งราชวงศ์!

สายตาของเซียวอวี้ทอดมองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยท่าทีแน่วแน่

“หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยให้ผู้คนทั่วหล้ารับรู้ นั่นถึงจะเสื่อมเสียชื่อเสียงของราชวงศ์

“อีกอย่างนางก็เป็นบุตรสาวของตระกูลเฟิ่งเช่นกัน จึงไม่ถือว่าขัดขืนพระประสงค์ของฮ่องเต้องค์ก่อน”

องค์หญิงใหญ่รู้สึกแปลกใจ

“ฝ่าบาท ท่าน...ท่านคิดจะไม่สืบสวนใช่หรือไม่?”

นี่ก็ไร้สาระสิ้นดี!

สิ่งที่ตระกูลเฟิ่งทำผิดเป็นโทษร้ายแรงหลอกลวงเบื้องสูง!

การเลือกฮองเฮาถือเป็นคำสั่งของฮ่องเต้

ตระกูลเฟิ่งเหตุใดจึงกล้าเปลี่ยนตัวเจ้าสาว!

สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจที่สุดคือ นึกไม่ถึงว่าฮ่องเต้จะปล่อยวางเรื่องนี้อย่างง่ายดาย

“ฝ่าบาท ข้าไม่เห็นด้วย! “องค์หญิงใหญ่ยืนกรานหนักแน่น

กว่านางจะพบหลักฐานว่าฮองเฮาอภิเษกสมรสแทนนั้นไม่ง่ายเลย จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร

นางไม่ชอบฮองเฮาผู้นี้อย่างมาก ทั้งใส่ร้ายแม่ทัพน้อยเมิ่ง ล่อลวงฮ่องเต้ และยังละโมบในทรัพย์สิน

สตรีเช่นนี้มีแต่จะทำร้ายฮ่องเต้เท่านั้น!

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจว่าองค์หญิงใหญ่จะมีเจตนาร้ายต่อนางหรือไ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (32)
goodnovel comment avatar
พรชัย แสงเทพ
เมื่อไหร่นางเอกเขาจะมีใจ ให้พระเอกบางใจแข็งจัง เฮ้อ
goodnovel comment avatar
Noo Siri Siri
ถ้าเขาเทเรา เรียกคืนได้ จะได้เหรียญค่ะ แต่เขาจะรอให้เราเบื่อแล้วเทเขาเองนี่สิค่ะ เราไปหาอ่านใน meb มา3เล่มล่ะ ทางนี้ยังไปไม่ถึงไหนเลยค่ะ เบื่อรอไปเอง ก็หักดิบตัวเองค่ะ ไม่ต้องเติมเหรียญ รออ่านวันละตอนไปเลยค่ะ หมั่นไส้คนแปล!ค่ะ...
goodnovel comment avatar
piyaporn
จริงค่ะ ไปอ่านแอพอื่น ไม่เป็นแบบนี้ เค้าอัพให้จบ สามารถไปปลดล็อกเองได้เลย ไม่ต้องมารอที่ละตอนสองตอนแบบนี้ หลอกลวง ผู้บริโภคแบบนี้ เรียกเงินคืนได้มั้ย ...
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 385

    ภายในคุกเทียนเหลาเฉียวม่อถูกคุมขังทันทีโดยไม่มีโอกาสแก้ตัวต่อหน้าธารกำนัลชุดแม่ทัพที่ดูองอาจน่าเกรงขามแต่เดิมถูกถอดออก และเปลี่ยนเป็นชุดนักโทษสีขาวหม่นแทนแววตาของนางแฝงด้วยความไม่ยินยอม เมื่อนางเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียน สีหน้าของนางพลันเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำเมื่อไม่มีผู้คนอยู่โดยรอบ เฉียวม่อจึงเอ่ยถามออกมาตามตรง“ศิษย์พี่ ท่านไม่นึกถึงความผูกพันในอดีตสักนิดเลยหรือ!“เห็นข้ามีจุดจบในสภาพเช่นนี้ ท่านมีความสุขใช่หรือไม่!“ท่านใช้วิธีใดกันแน่ นึกไม่ถึงว่าฝ่าบาททรงไม่ติดใจเอาความเรื่องที่ท่านหลอกลวงเบื้องสูง!”ทันใดนั้น เฉียวม่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางมองเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยสายตาเหยียดหยาม พร้อมกับเย้ยหยัน“ข้ารู้แล้ว ท่านคงพยายามใช้ท่าทางยั่วยวนตอนอยู่บนเตียง ปรนนิบัติฮ่องเต้จนสบายพระทัยเป็นแน่!“ใช่แล้ว สตรีในวังหลังก็ไม่ต่างจากโสเภณีในหอนางโลม! “เพื่อชื่อเสียงลาภยศจึงขายเรือนร่างของตนเอง“ถึงแม้จะไม่ใช่บุรุษที่ชื่นชอบก็รื่นรมย์กับเรือนกายของเขาได้!“ศิษย์พี่ ข้านึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าท่านจะเหยียบย่ำตนเองเช่นนี้“ตอนที่ท่านนอบน้อมเอาอกเอาใจฝ่าบาท ท่านเคยนึกถึงพี่ใหญ่ต้วนบ้างหรือไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 386

    ราชทูตสงเหยียนเตรียมตัวมาอย่างดี เขาเอ่ยอธิบาย“ฮ่องเต้ฉี ฮ่องเต้เราส่งราชทูตนำของขวัญวันเกิดมาถวายให้ท่านโดยเฉพาะ แต่น่าเสียดายระหว่างทางเจอกับนักฆ่าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงต้องเสียเวลาอยู่หลายวัน“กระหม่อมมาถึงช้าไป ท่านคงไม่ถือสากระมัง?”เหตุผลนี้ฟังดูไม่ขึ้นเลย เห็นกันอยู่ว่าเจตนามาถึงช้า เพราะจะรอให้ปืนหอกไฟสร้างเสร็จก่อน ค่อยเข้ามาแทรกแซง!ชาวเป่ยเยี่ยนช่างอดทนเสียจริงเหล่าขุนนางหนานฉีรู้สึกผิดอย่างมากหากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้แต่แรก กลุ่มคนในกรมศัสตราวุธคงจะไม่รีบร้อนถึงเพียงนี้ถ่วงเวลาเขาไปสักหนึ่งปีหรือครึ่งปีก็คงดี!เซียวอวี้เย้ยหยัน“ราชทูตช่างมีหูตาเฉียบไวยิ่งนัก”สงเหยียนดูเหมือนเคารพนอบน้อม“ฮ่องเต้ฉีทรงชมเกินไปแล้ว!”จากนั้นเขาก็เปลี่ยนมาที่หัวข้อสำคัญ “ฮ่องเต้ฉี กระหม่อมจะเข้าชมปืนหอกไฟได้เมื่อใดพ่ะย่ะค่ะ? หนานฉีเป็นแคว้นใหญ่ คิดว่าคงมีจิตใจกว้างขวางดั่งมหาสมุทร ไม่เหมือนกับแคว้นเล็กอย่างตงเว่ย”เหล่าขุนนางในที่นั้นต่างกระวนกระวายใจทุกคนรู้ดีว่า “มังกรไฟ” ที่แคว้นตงเว่ยสร้างขึ้นมานั้น ตกเป็นเป้าสายตาของมหาอำนาจอย่างเป่ยเยี่ยน และทำเช่นเดียวกันคืออ้างว่าข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 387

    องค์หญิงใหญ่จะทรงรู้ได้อย่างไร นางดูถูกฮองเฮา ทว่าพิมพ์เขียวของปืนหอกไฟนั้นก็เป็นเฟิ่งจิ่วเหยียนที่วาดขึ้นมานางมั่นใจว่าเฉียวม่อสามารถแก้ไขได้ คาดไม่ถึงว่าเฉียวม่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องเริ่มลงมืออย่างไรก่อนหน้านี้เฉียวม่อแค่คิดจะคว้าโอกาสนี้เพื่อออกจากคุกเทียนเหลาตอนนี้นางเกิดลังเลขึ้นแล้วโดยเฉพาะได้ยินฮ่องเต้ทรงตรัสว่า: “สิ่งที่เราต้องการคือไร้ข้อผิดพลาด มิเช่นนั้นเจ้าจะถูกเพิ่มโทษขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง”แววตาของเซียวอวี้ดูเย็นชา ไม่ยอมให้โอกาสำหรับต่อรองเฉียวม่อจึงกระวนกระวายใจหากคิดแค่อยากจะลองดูเท่านั้นคงไม่สำเร็จแน่องค์หญิงใหญ่รู้สึกร้อนใจ“ฝ่าบาท เมิ่งเฉียวม่อต้อง...”ก่อนที่คำว่า “ทำได้” จะหลุดออกมา ก็ได้ยินเฉียวม่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“หม่อมฉัน...ทำไม่ได้”องค์หญิงใหญ่ตกใจอย่างมากเมิ่งเฉียวม่อพูดสิ่งใด?!เหตุใดถึงทำไม่ได้? ก็แค่เพิ่มกลไกบางอย่างลงในพิมพ์เขียวเดิมเท่านั้น สำหรับแม่ทัพน้อยเมิ่งผู้องอาจคงไม่ยากกระมัง!แผ่นหลังของเฉียวม่อเต็มไปด้วยเหงื่อนางไม่สามารถถูกเพิ่มโทษขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่มั่นใจเต็มร้อยเพคะ”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 388

    ราชทูตของเป่ยเยี่ยนพยายามขู่เข็ญ ตลอดทั้งวันจะเฝ้ารออยู่แต่ในกรมศัสตราวุธพวกเขาค้นพบคลังสมบัติห้องหนึ่ง ทว่ากลับถูกห้ามไม่ให้เข้าไปด้านใน หัวหน้าราชทูตสงเหยียนจึงไม่พอใจอย่างมาก“ฮ่องเต้ฉีทรงรับปากแล้วว่า จะให้พวกข้าเยี่ยมชมปืนหอกไฟนั่น พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรมาขัดขวาง!”หัวหน้ากรมศัสตราวุธเดินมาขออภัยด้วยตนเอง“ท่านราชทูต ปืนหอกไฟนั้นยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ โปรดรออีกสักสองสามวัน”สงเหยียนมองออกว่าพวกเขามีเจตนาจะถ่วงเวลา ทว่าหนานฉีก็ยอมอ่อนข้อให้แล้ว หากเป่ยเยี่ยนบีบบังคับมากเกินไป เกรงว่าผลที่ได้จะตรงข้ามกับที่คาดหวังถึงอย่างไรก็แค่รอเพิ่มอีกสองสามวัน เขามีเวลาเหลือเฟือ ก่อนจะกลับ สงเหยียนเอ่ยประโยคหนึ่งที่มีความหมายเป็นนัย ๆ ว่า “ไม่ว่าจะหลบหน้าอย่างไรก็ไม่มีทางหลบพ้นได้”หลังเขาจากไป คนในกรมศัสตราวุธต่างพากันเหงื่อตกเย็นวาบเป่ยเยี่ยนข่มเหงมากเกินไปแล้ว!ในเวลากลางคืนภายในตำหนักหย่งเหอเซียวอวี้ทานอาหารมื้อค่ำร่วมกับเฟิ่งจิ่วเหยียน เขาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในกลางวัน น้ำเสียงฟังดูอ่อนโยน“เมิ่งเฉียวม่อทำความผิดไว้มาก ถึงแม้ครั้งนี้นางจะสร้างความดีความชอบ เราก็จะไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 389

    บนเตียงนั้นมีพื้นที่คับแคบ เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีที่ให้ถอยหนีเซียวอวี้จับเอวของนางไว้ เพื่อให้นางอยู่ในพื้นที่จำกัดนางหันศีรษะหลบหลีกการจูบของเขา ก็ยิ่งทำให้เขาไม่เหลือความอดทนทันใดนั้นเขาจับคางของนางไว้ และมองเข้าไปในดวงตาของนางด้วยสายตาเยือกเย็น “หลบอะไร? หือ?”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งไม่หวั่นไหว มือสองข้างกำหมัดไว้แน่นเซียวอวี้เริ่มโมโห เขาพลันก้มศีรษะลงประกบริมฝีปากของนาง ไม่เหลือพื้นที่ว่างให้นางหายใจผ่านไปไม่นาน การหายใจของเขาเริ่มหอบถี่ ฝ่ามือใหญ่เคลื่อนมาทางด้านหน้าตัวนางแค่ดึงเบา ๆ สายรัดเอวก็หลุดออกฝ่ามือร้อนผ่าวของเขาวางทับอยู่บนหน้าท้องที่กระชับและแบนราบของนาง โดยมีอาภรณ์กั้นอยู่หลายชั้นริมฝีปากบางของเขาเคลื่อนมาข้างใบหูของนาง เหมือนจูบเหมือนขบกัด ทั้งอมติ่งหู พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“มีองค์ชายให้กับเรา...”คำพูดนี้หาใช่จะหารือกับนาง แต่เป็นคำสั่งที่แข็งกร้าวเซียวอวี้เริ่มเกิดอารมณ์เคลิบเคลิ้ม เขาดึงอาภรณ์ของนางอย่างขาดสติเฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงศีรษะ และหันหน้าไปทางผ้าม่านข้างเตียงแววตาของนางเฉยชาและคิ้วขมวดแน่น“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่เต็มใจจะร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 390

    ในห้องทรงพระอักษรหลิวซื่อเหลียงนำยาทาแผลน้ำร้อนลวกมาวางบนโต๊ะแล้วเขาหูตาว่องไว แค่เห็นฮองเฮาอยู่ด้านในด้วย ไม่ต้องรอได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ก็ถอยพรวดพราดออกไปแล้วเซียวอวี้นั่งลงตรงนั้นและวางมือไว้บนโต๊ะเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ตรงข้ามกับเขา เริ่มจากพับแขนเสื้อของเขาขึ้นมาก่อน ถึงมองเห็นตำแหน่งทั้งหมดที่ถูกน้ำร้อนลวกตอนอยู่ที่ค่ายทหารนางก็ทำแผลใส่ยาอยู่เป็นประจำ ท่าทางจึงดูคล่องแคล่วแค่ผ่านไปชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น นางก็เงยหน้าขึ้น“เสร็จแล้วเพคะ”เซียวอวี้: รวดเร็วเพียงนี้เชียวหรือ?เมื่อเห็นนางจะลุกขึ้น เขาพลันมองไปทางสาส์นกราบทูลที่วางกองอยู่บนโต๊ะ“ไปหยิบสาส์นกราบทูลมา เราจะพูดแล้วเจ้าก็เขียน”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกแปลกใจ “ฝ่าบาท วังหลังไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับราชกิจเพคะ”ยิ่งไปกว่านั้นจักให้นางเขียนแทนด้วยซ้ำ สีหน้าของเซียวอวี้ดูเรียบเฉย “ทั้งหมดเป็นสาส์นกราบทูลที่ไม่มีแก่นสาร ไม่ได้สลักสำคัญอะไร”สาส์นกราบทูลในแต่ละวันที่เป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ มีน้อยมากส่วนใหญ่เป็นเรื่องไร้แก่นสารที่ไม่มีผลใด ๆ เดิมทีเฟิ่งจิ่วเหยียนคิดว่าเขาพูดเกินจริง ทว่าหลังจากพลิกดูตามคำขอของเขา ถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 391

    เมื่อฮูหยินเฟิ่งต้องมาเผชิญหน้ากับฝ่าบาทเป็นครั้งแรกเช่นนี้ ทำเอานางรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งถึงแม้เซียวอวี้จักอนุญาตให้นางนั่งลงก็ตาม ทว่า นางคล้ายกับตนเองนั่งอยู่เบาะที่มีเข็มก็ไม่ปานแม้แต่ชาที่ข้ารับใช้รินให้นั้น นางก็ยังมิกล้าแตะต้องเมื่อเห็นฮูหยินเฟิ่งมีท่าทีตื่นเต้นเช่นนี้ เซียวอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า“มิต้องตระหนกถึงเพียงนั้น เราเพียงแค่อยากจะถามอะไรบางอย่างเท่านั้น หลังจากที่ฮองเฮาเกิดออกมาแล้วถูกส่งไปยังตระกูลเมิ่งนั้น เรื่องของนางพวกเจ้ารู้มากเท่าใดกัน”เมื่อเซียวอวี้เอ่ยถามเรื่องนี้ขึ้นมา ทำเอาฮูหยินเฟิ่งยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้นไปอีกนางพลันลุกขึ้นพร้อมเอ่ยปฏิเสธออกมาในทันที“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันมิทราบว่าผู้ใดเอ่ยเรื่องราวไร้สาระเช่นนี้ขึ้นมา ทว่า ฮองเฮาได้รับการเลี้ยงดูอยู่ภายในตระกูลเฟิ่งมาโดยตลอดเพคะ หาได้มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลเมิ่งไม่!”แววตาของเซียวอวี้พลันมืดครึ้มลงเมื่อเห็นปฏิกิริยาของฮูหยินเฟิ่งเป็นเช่นนี้แล้ว เกรงว่าถามไปคงมิได้คำตอบอะไรกลับมาเท่าใดนักหากเค้นถามต่อไป เกรงว่าจักให้นางเป็นลมไปได้เซียวอวี้จึงออกคำสั่งเสียงเข้มมาว่า“ส่งตัวฮูหยินเฟ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 392

    ระยะทางของคุกเทียนเหลานั้นอยู่ใกล้กับพระราชวังเป็นอย่างมากหากเกิดเหตุการณ์นักโทษแหกคุกเมื่อใดนั้น ทางราชวังก็สามารถเข้าจัดการและควบคุมได้ในทันทีในยามนี้ บริเวณพื้นที่เปิดโล่งของคุกเทียนเหลานั้น เฉียวม่อกำลังถูกคุ้มกันโดยกองทัพอินทรีเหิน นางอาศัยการต่อสู้ของพวกเขาเพื่อให้เหลือหนทางสีเลือดให้กับตนเอง นับตั้งแต่แหกคุกจนมาถึงที่ตรงนี้ได้นั้น นางได้จะทะลวงเกราะป้องกันด่านที่สามแล้วด้านหน้าคือด่านสุดท้ายของการหลบหนีในครานี้ขอเพียงแค่นางสามารถทะลวงออกไปจนถึงประตูหลักได้เมื่อใดนั้น นางก็จะสามารถหลบหนีออกไปได้สำเร็จเหล่าเจ้าหน้าที่ในราชสำนักมีมากมายนัก ในมือพลันถือโล่ถือหอกเอาไว้ แปลงขบวนเป็นกำแพงมนุษย์เพื่อต้านทานการโจมตีของเหล่ากองทัพอินทรีเหินในขณะเดียวกัน รอบด้านทั้งสี่พลันถูกโอบล้อมไปด้วยกำแพงสูงและหอคอยปราการ ด้านบนกำแพงมีพลธนูยืนรออยู่นับไม่ถ้วน พวกเขาง้างคันธนูจนสุดสาย พร้อมทั้งลูกธนูนับหมื่นที่พุ่งลงมาในทันทีเหล่ากองทัพอินทรีเหินที่มากกว่าสองร้อยนายนั้น พวกเขาใช้ร่างของตนเองคุ้มกันเฉียวม่อเอาไว้ด้วยวิชาระฆังทองคุ้มกาย ฝ่าการโจมตีออกไปด้วยความยากลำบากพวกเขาที่เคยผ่านสน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 676

    เจ็ดวันต่อมาณ เมืองไท่ชางกลุ่มของเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าพักในโรงพักแรมทันทีที่เข้ามาในโรงพักแรม นางก็เห็นคนคุ้นตาคนผู้นั้นอยู่ในชุดไหมสีแดง กำลังพูดคุยกับคนที่นั่งร่วมโต๊ะอย่างสนุกสนาน ขณะที่อีกฝ่ายบังเอิญเงยหน้าขึ้นมา ก็จำหน้ากากเงินของนางได้ เจียงหลินสวมใส่ชุดแดง ดูสะดุดตาท่ามกลางผู้คนอย่างมากเฟิ่งจิ่วเหยียนก้าวถอยหลังโดยพลันทำไมถึงมาเจอเจ้านี้อีกแล้ว นี่มันบุพเพอาละวาดชัด ๆ ให้ตายสิ…ชั่วขณะนั้น เหมือนเจียงหลินจะเห็นคนไร้หัวใจที่ทอดทิ้งตัวเอง พลันลุกขึ้นมา ตะโกนท่ามกลางผู้คนว่า “ซูฮ่วน! ข้าเห็นเจ้าแล้ว! เจ้าไม่ต้องหลบ!”เฟิ่งจิ่วเหยียน: นางไม่ได้หลบเสียหน่อยเจียงหลินเดินพรดพราดเข้ามา จับแขนของนางเอาไว้ “เจ้ากับซ่งหลีนี่แน่จริง ๆ ไปไหนก็ไม่คิดจะบอกกล่าว รู้ไหมว่าข้าตามหาพวกเจ้านานแค่ไหน!”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความน้อยใจ ความจริงแล้ว เขาเองก็ไม่ได้มุ่งมั่นตามหาพวกเขาเหมือนกันเขามีฐานะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเจียง จึงมีเรื่องให้จัดการมากมายในชีวิตประจำวัน ที่กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา ก็แค่อยากให้ซูฮ่วนรู้สึกผิด และช่วยเบิกทางค้าขายให้เขาขณะที่กำลังพูด เขาพลันรู้สึกได้ถึงไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 675

    เฟิ่งจิ่วเหยียนหันหน้ามา ใบหน้านิ่งเฉยมองไปทางเซียวอวี้จู่ ๆ เขาก็บอกว่าตนเองจะกลับวังหลวง ไม่อธิบายล่วงหน้า กลับมาพูดเอาวันที่จะต้องจากไป ไม่ใช่เพราะตั้งใจ อยากเห็นนางลนลานหรอกหรือ“ไม่มีอะไรจะพูด” แววตาของนางสงบดั่งน้ำนิ่งสีหน้าของเซียวอวี้ตอนนี้ไม่น่าดูนักนางไร้น้ำใจเพียงนี้เชียวหรือ?เขาเริ่มสงสัยจริง ๆ แล้วว่านางเพียงต้องการร่างกายของเขาเท่านั้น!ระหว่างที่เซียวอวี้กำลังโศกเศร้านี้เอง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ถามกลับว่า“ไม่ใช่ว่าพวกเราไปทางเดียวกันหรือ?”เขากลับเมืองหลวง นางไปเมืองโบ๋วโจว ล้วนต้องลงใต้ทั้งคู่แบบนี้แล้วหากจะบอกลากันตอนนี้ ออกจะเร็วไปเสียหน่อยเซียวอวี้จึงได้สติกลับมา “เจ้าจะออกเดินทางไปกับเราหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าตอบ“แน่นอน การเดินทางไปเมืองโบ๋วโจวเป็นเรื่องด่วน”......เมื่อรู้ว่าจิ่วเหยียนจะไปแล้ว แม้ฮูหยินเมิ่งจะไม่อาจทำใจได้ ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรแต่ไหนแต่ไรมาเด็กคนนี้ก็ไปมาดุจลม อยู่ได้เพียงไม่นานคำพูดพร่ำบ่น นางก็ไม่คิดจะพูดแล้ว จึงส่งเค้กเกาลัดถุงหนึ่งให้เฟิ่งจิ่วเหยียนนำไปกินระหว่างทางเพื่อให้ง่ายต่อการเดินทาง เฟิ่งจิ่วเหย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 674

    สิ่งที่อยู่ในกล่องไม้หาใช่ถุงยางที่เฟิ่งจิ่วเหยียนคุ้นเคยไม่ แต่เป็นยาขวดหนึ่งยานี้...เป็นสิ่งที่อาจารย์หญิงทำเองเช่นกันนางชัดเจนในเรื่องนี้ดีนี่คือยาคุมกำเนิดสำหรับบุรุษ ที่หายากอย่างยิ่งเท่าที่นางรู้ อาจารย์หญิงทำขึ้นมาเพียงหนึ่งขวดเท่านั้นเมื่อบุรุษกินยานี้เข้าไปหนึ่งเม็ด ภายในหนึ่งวันไม่ว่าจะทำอย่างไร สตรีจะไม่มีทางตั้งครรภ์เด็ดขาด...ปฏิกิริยาตอบโต้แรกของเฟิ่งจิ่วเหยียนคือ...รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง!ทว่าในชั่วพริบตาที่นางกำลังจะเคลื่อนตัวหนี เซียวอวี้ก็คาดการณ์ได้ถึงความเคลื่อนไหวของนาง แขนเสื้อยาวโบกสะบัด พลังภายในกลายเป็นแรงผลักโครม!โครม!ประตูและหน้าต่างถูกปิดลงทั้งหมดแล้ว!ขณะเดียวกัน แขนของเขาก็ยื่นออกไปโอบเอวของนางเอาไว้“คิดจะหนีรึ?”สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนดูหงุดหงิดอยู่มากจากนั้นเซียวอวี้ก็ยกนางขึ้นไปพาดบนบ่า แล้วเดินอย่างมั่นคงไปยังเตียงตั่ง“ปล่อยข้านะ!”เซียวอวี้ตอบ “เจ้าพูดเอง การทหารไม่หน่ายกลอุบาย”เดิมทีเขาอยากให้เมิ่งฉวีออกหน้า ให้ฮูหยินเมิ่งทำถุงยางออกมาเพิ่มอีกหน่อยทว่าเมิ่งฉวีทำไม่สำเร็จฮูหยินเมิ่งกล่าวว่าคนหนุ่มสาวต้องรู้จักควบคุ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 673

    เฟิ่งเหยียนเฉินตกตะลึงอยู่นาน เขาไม่อาจทำใจเชื่อสิ่งที่ได้ยินเลยแม่เฟิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง“เป็นจิ่วเหยียน หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามท่านพ่อของเจ้า“เมิ่งสิงโจวตัวจริงตายจากไปนานแล้ว หลายปีที่ผ่านมาเป็นจิ่วเหยียนที่เสี่ยงชีวิตปลอมตัวเป็นเขา ทว่าผู้ที่สร้างความชอบทางการทหารตลอดมาล้วนเป็นจิ่วเหยียน น้องสาวของเจ้า”เมื่อเห็นท่านแม่สงบนิ่งเพียงนี้ มั่นใจถึงเพียงนี้ ลมหายใจของเฟิ่งเหยียนเฉินก็ช้าลง“ท่านแม่ จิ่วเหยียนมีความสามารถเพียงนี้จริงหรือ?”ปกป้องรักษาชายแดนเหนือเป็นเวลาเพียงสามปี นางก็กลายเป็นแม่ทัพน้อยเมิ่งที่ทำให้ศัตรูหวาดกลัวจนตัวสั่นผลงานการรบอันเลื่องลือที่นางสร้าง แม้แต่บุรุษยังยากที่จะทัดเทียมได้เขายังคิดว่าจากนี้จะต้องปกป้องน้องสาวทั้งสองคนให้ดีทว่าตอนนี้ดูไปแล้ว...เป็นน้องสาวที่ปกป้องเขา ปกป้องราษฎรของหนานฉีต่างหาก!ไม่นึกเลยว่าเขาจะมีน้องสาวที่เก่งกาจดุจเทพเช่นนี้!ชั่วขณะหนึ่งเขาก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมิน่าเล่าคราแรกที่เห็นฮองเฮาในวัง ถึงได้รู้สึกว่านางแผ่บรรยากาศที่แข็งแกร่งออกมา ไม่เหมือนเวยเฉียงที่เขาคุ้นเคยยามนั้นเขายังนึกว่าเป็นลักษณะอันน่าเกรง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 672

    “ท่านแม่! ท่านว่าอะไรนะ ข้ายังมีน้องสาวอีกคนรึ?!”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่อยากจะเชื่อน้องสาวอีกคนนึงของเขา เพิ่งเกิดได้ไม่นานก็ถูกส่งตัวออกไปแล้วที่ฮูหยินเฟิ่งบอกเขาก็เพราะหวังว่าบุตรชายจะได้รู้ว่าเขายังมีน้องสาวที่ต้องปกป้องอีกคนหนึ่งเฟิ่งเหยียนเฉินอึ้งไปครู่หนึ่ง“ท่านแม่ เดี๋ยวนะ เหตุใดคนที่แต่งกับฮ่องเต้แต่แรกถึงเป็นจิ่วเหยียน ไม่ใช่เวยเฉียงเล่า?“เช่นนั้นเวยเฉียงล่ะ? เวยเฉียงไปไหนแล้ว?”แววตาของฮูหยินเฟิ่งแฝงไปด้วยความโกรธแค้น“เป็นท่านพ่อของเจ้า สามีชั่วนั่น! เขาคิดว่าหลังจากเวยเฉียงถูกลักพาตัวไปก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่อาจเข้าวังไปเป็นฮองเฮาได้ จึงส่งเวยเฉียงออกไปเสีย ทั้งยังโกหกว่านางตายแล้ว! เขาหลอกพวกเราทุกคน!”“หากไม่ใช่เพราะจิ่วเหยียน ยามนี้เวยเฉียงจะเป็นหรือตายอยู่ข้างนอกก็ไม่รู้!”เฟิ่งเหยียนเฉินที่น่าสงสารถูกปกปิดจนไม่รู้อะไรเลย แม้แต่เรื่องที่เวยเฉียงถูกลักพาตัวไป สูญเสียความบริสุทธิ์ เขาก็เพิ่งได้รู้ความจริงเอาตอนนี้เขารู้สึกว่าในหัวมีแต่เสียงดังหึ่งหึ่งสวรรค์!ในช่วงที่เขาตกอยู่ในความกลัดกลุ้มนั่น ที่แท้ตระกูลเฟิ่งกลับเกิดเรื่องมากมายเพียงนี้เขาที่เป็นพี่ชาย ช่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 671

    ณ ค่ายเป่ยต้าสีหน้าของเมิ่งฉวีเขียวคล้ำ เขามองไปที่ฮ่องเต้เบื้องหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ“ฝ่าบาท ท่าน...” ตรัสว่าอะไรนะ ถุงยาง?ยังอยากให้ฮูหยินทำถุงยางให้มากหน่อย?จากที่เขารู้ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะทำให้ไปสิบอันหรอกหรือ?ใช้หมดเร็วขนาดนี้เลยหรือ?!เมิ่งฉวีอดไม่ได้ที่จะคิดว่า...หนุ่มแน่นช่างกำลังวังชาดีเสียจริงเซียวอวี้ไม่สะดวกที่จะพูดเรื่องนี้กับฮูหยินเมิ่ง จึงคิดจะพูดกับเมิ่งฉวีแทนถึงอย่างไรก็เป็นบุรุษด้วยกันเมิ่งฉวีรู้สึกลิ้นจุกปาก “ฝ่าบาท เรื่องนี้ยากนัก กับฮูหยิน กระหม่อมเองก็พูดไม่ออกพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้นั่งดื่มชาอยู่ในกระโจม ท่าทางดูผ่อนคลายสงบนิ่งเขากล่าวอย่างไม่ช้าไม่เร็วว่า“จิ่วเหยียนกับฮูหยินเมิ่งผูกพันดุจมารดาและบุตร นางต้องแต่งงานไปไกลถึงเมืองหลวง เราตัดสินใจว่าจะให้ฮูหยินเมิ่งติดตามไปด้วย”เมิ่งฉวี: !!!ฝ่าบาทจะมาพรากพวกเขาสามีภรรยาออกจากกันได้อย่างไร!นี่กำลังขู่เขาอย่างนั้นหรือ?……ณ จวนแม่ทัพเวยเฉียงกับสาวใช้นามไฉ่เยว่ย้ายมาอยู่ที่นี่ รู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่บ้างยังดีที่นางคุ้นเคยกับท่านพี่และฮูหยินเมิ่ง จึงไม่ถึงกับประหม่าฮูหยินเมิ่งสงสารที่เวยเฉี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 670

    วินาทีที่ถอดหน้ากากของนางออก เซียวอวี้เห็นนางยิ้มดั่งดอกไม้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนางยิ้มอย่างปล่อยตัว มีความสุขอาจเป็นเพราะดื่มจนเมา ทิ้งเกราะป้องกันตัว นางล้มสู่อ้อมกอดของเขา เกาะไหล่ของเขา แล้วลุกขึ้นมา“ข้าไม่ได้เมา...”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเดินยังไม่มั่นคง ยังบอกว่าไม่เมา?“ตงฟางซื่อส่งเจ้ากลับมา” เขาไม่ได้ถาม ทว่าเป็นการพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจหยิ่นลิ่วคอยปกป้องนางอยู่ตลอดตอนที่ตงฟางซื่อไปหาถึงเซียวเหยาจวี เซียวอวี้ก็รู้แล้วภายหลังนางตามตงฟางซื่อไปยังหอสุรา ดื่มสุราทานข้าวกับคนเหล่านั้น เขาก็รู้เขาอดกลั้นไม่ไปรบกวนนาง เพราะเขารู้ดี นั่นคือเพื่อนสนิทของนาง เป็นวิถีชีวิตของนางถึงแม้ว่านางกำลังจะแต่งงานกับเขา นั่นก็คือสิ่งที่นางไม่อาจทอดทิ้งทว่า นางเป็นสตรีผู้หนึ่ง ดื่มอยู่ข้างนอกจนดึกขนาดนี้ เหลวไหลเกินไปแล้วเซียวอวี้วางหน้ากาก จับปลายคางของนางไว้“ดื่มไปมากเท่าไหร่? ถึงได้เมาเป็นสภาพเช่นนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนคลี่มือของเขาออก แววตาเต็มไปด้วยความมัวหมอง ไม่เย็นชาเหินห่างเหมือนทุกวันที่ผ่านมา“ก็บอกแล้ว ข้าไม่ได้เมา”นางลุกขึ้น อยากหาน้ำดื่มทว่าเวลาถัดมา ตรงแขนมีแรง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 669

    ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ตงฟางซื่อยิ่งอยู่ยิ่งดำเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นมาต้อนรับ“เจ้ามาได้อย่างไร?”ตงฟางซื่อหรี่ตายิ้มแย้ม “ข้าได้เจอกับอู๋ไป๋ จึงถามเขาว่าเจ้าอยู่ที่ใด ไม่ใช่ว่าไม่ต้อนรับข้ากระมัง?”สหายเก่ามาพานพบ มิใช่เรื่องน่ายินดีหรือเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างจริงใจ “เป็นไปได้อย่างไร เชิญนั่ง”สายตาของตงฟางซื่อหันไปมองเฟิ่งเวยเฉียง เห็นนางหน้าตาเหมือนกับซูฮ่วน ก็เดารู้ว่าพวกนางเป็นพี่น้องกันเฟิ่งจิ่วเหยียนแนะนำให้เขารู้จัก“คนนี้คือน้องสาวข้า เวยเฉียง”“เวยเฉียง คนนี้คือคุณชายตงฟาง”ทั้งสองคนต่างผงกศีรษะเป็นการทักทายตงฟางซื่อพูดเข้าเรื่องทันที“เรื่องของหยางเหลียนซั่ว ข้าได้บอกพวกเหล่าฝานแล้ว ทุกคนกำลังตามสืบร่องรอยของเขา ข้ามาหาเจ้าในวันนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งจะปรึกษา”เฟิ่งจิ่วเหยียนให้เวยเฉียงกับต้วนเจิ้งกลับห้องไปก่อนเวยเฉียงพูดขึ้นมาด้วยเสียงเบา “ท่านพี่ คุณชายตงฟาง พวกเจ้าคุยกันตามสบาย”ต้วนเจิ้งกลับไม่ยอม“ข้าไม่ไป หยางเหลียนซั่วทำให้พี่ชายข้าตาย เป็นศัตรูของข้า ข้าจะไปตามหาเขาพร้อมกับพวกเจ้า แล้วก็ฆ่าเขา!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจ เพียงเร่งเร้าตงฟางซื่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 668

    เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ปิดบังแล้วนางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา“ท่านดูไม่ออกหรือ ข้าไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนั้น?”ตลก ผู้ลี้ภัย ลิงผอมตัวดำ! ตอนกลางวันเขาพูดว่านางเช่นนี้ !นางอยากยอมรับสิแปลก!เวลานี้ เซียวอวี้ก็คิดขึ้นมาได้ นางกำลังไม่พอใจอะไรที่แท้ก็อยากรักษาภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากยอมรับว่านางคือลิงน้อยคนนั้นเขาเสียใจอย่างมาก รีบพูดขอโทษขึ้นมา“เราผิดไปแล้ว ตอนนั้น...เรากลัวว่าเจ้าจะเข้าใจผิด จึงตั้งใจพูดแบบนั้น ความจริงแล้ว เราจดจำเจ้ามาตลอด วีรชนน้อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงศีรษะเล็กน้อย มองดูเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเซียวอวี้จูบบนหน้าผากของนาง จากนั้นก็หยิบผ้าแห้งผืนนั้นมา เช็ดผมที่เปียกให้กับนางด้วยตนเอง กระทำอยู่อย่างอ่อนโยน ราวกับในมือถือสิ่งของล้ำค่าเอาไว้“ปีนั้นเมืองซีซิ่นเกิดทุพภิกขภัย เราเพิ่งเข้าเมืองมาก็ถูกปล้นแล้ว ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายประชาชน โชคดีที่เจ้ามาปรากฏ เวลานี้เราพูดความจริง เจ้าในตอนนั้นถึงแม้ยังเด็ก ทว่าท่าทีขี่ม้า ดูสง่างามยิ่งกว่าบุรุษจริงๆ”“ไม่ใช่ตลกหรอกหรือ?” นางยังคงไม่ยิ้มแย้ม คำพูดแฝงไปด้วยความเหน็บแ

DMCA.com Protection Status