แชร์

บทที่ 383

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
เฉียวม่อจมอยู่กับความโศกเศร้าและความคับแค้นที่ถูกอาจารย์กับอาจารย์หญิงทอดทิ้งและหักหลัง จนเกือบลืมไปว่าตนยังมีป้ายทองไว้ชีวิต

เมื่อครู่นางคิดว่าตนเองต้องตายอย่างแน่นอน

ในยามนี้ดวงตาของนางมีประกายแห่งความหวังปรากฏขึ้นอีกครั้ง

เฉียวม่อพลันเปลี่ยนอารมณ์ทันที นางคุกเข่าลงและยอมรับความผิด

“ฝ่าบาท หม่อมฉันทำผิดสมควรตาย!

“เรื่องกองทัพมังกรพยัคฆ์ หม่อมฉันทำเพื่อล่อศัตรูเข้ามาติดกับ

“แม้ว่าแผนนี้จะสำเร็จและยึดครองรัฐเหลียงได้ แต่หม่อมฉันก็ต้องทนอยู่กับความทุกข์และความรู้สึกผิดมาตลอด

“ทว่าถึงแม้จะให้โอกาสหม่อมฉันอีกครั้ง หม่อมฉันก็ยังจะสละสิ่งที่ไม่สำคัญเพื่อปกป้องสิ่งที่สำคัญ ใช้สิ่งเล็กเดิมพันกับสิ่งใหญ่ หากถึงคราวจำเป็นแม้แต่ตนเองก็ยอมสละได้”

ต้องบอกว่าเฉียวม่อเรียกสติกลับมาได้เร็ว และหาข้อแก้ตัวที่สวยหรูให้กับตนเองได้

นางมั่นใจว่าฮ่องเต้ก็ต้องสละคนที่ไม่สำคัญเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเช่นเดียวกับนาง

เมื่อตอนที่เขานำทัพออกศึก เผชิญกับสถานการณ์คับขัน เขาก็เสียสละกองกำลังส่วนน้อย จนทำให้ฝ่าวงล้อมของศัตรูได้สำเร็จ

ฮ่องเต้ถูกโน้มน้าวจนสำเร็จหรือไม่นั้นไม่มีผู้ใดรู้ ทว่าองค์หญิงใหญ่ทรงเชื่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 384

    องค์หญิงใหญ่ไม่อาจยอมรับการกระทำหลอกลวงเบื้องสูงของเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ นี่ถือเป็นการลบหลู่ทั้งราชวงศ์!สายตาของเซียวอวี้ทอดมองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยท่าทีแน่วแน่“หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยให้ผู้คนทั่วหล้ารับรู้ นั่นถึงจะเสื่อมเสียชื่อเสียงของราชวงศ์“อีกอย่างนางก็เป็นบุตรสาวของตระกูลเฟิ่งเช่นกัน จึงไม่ถือว่าขัดขืนพระประสงค์ของฮ่องเต้องค์ก่อน”องค์หญิงใหญ่รู้สึกแปลกใจ“ฝ่าบาท ท่าน...ท่านคิดจะไม่สืบสวนใช่หรือไม่?”นี่ก็ไร้สาระสิ้นดี!สิ่งที่ตระกูลเฟิ่งทำผิดเป็นโทษร้ายแรงหลอกลวงเบื้องสูง!การเลือกฮองเฮาถือเป็นคำสั่งของฮ่องเต้ตระกูลเฟิ่งเหตุใดจึงกล้าเปลี่ยนตัวเจ้าสาว!สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจที่สุดคือ นึกไม่ถึงว่าฮ่องเต้จะปล่อยวางเรื่องนี้อย่างง่ายดาย“ฝ่าบาท ข้าไม่เห็นด้วย! “องค์หญิงใหญ่ยืนกรานหนักแน่นกว่านางจะพบหลักฐานว่าฮองเฮาอภิเษกสมรสแทนนั้นไม่ง่ายเลย จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไรนางไม่ชอบฮองเฮาผู้นี้อย่างมาก ทั้งใส่ร้ายแม่ทัพน้อยเมิ่ง ล่อลวงฮ่องเต้ และยังละโมบในทรัพย์สินสตรีเช่นนี้มีแต่จะทำร้ายฮ่องเต้เท่านั้น!เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจว่าองค์หญิงใหญ่จะมีเจตนาร้ายต่อนางหรือไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 385

    ภายในคุกเทียนเหลาเฉียวม่อถูกคุมขังทันทีโดยไม่มีโอกาสแก้ตัวต่อหน้าธารกำนัลชุดแม่ทัพที่ดูองอาจน่าเกรงขามแต่เดิมถูกถอดออก และเปลี่ยนเป็นชุดนักโทษสีขาวหม่นแทนแววตาของนางแฝงด้วยความไม่ยินยอม เมื่อนางเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียน สีหน้าของนางพลันเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำเมื่อไม่มีผู้คนอยู่โดยรอบ เฉียวม่อจึงเอ่ยถามออกมาตามตรง“ศิษย์พี่ ท่านไม่นึกถึงความผูกพันในอดีตสักนิดเลยหรือ!“เห็นข้ามีจุดจบในสภาพเช่นนี้ ท่านมีความสุขใช่หรือไม่!“ท่านใช้วิธีใดกันแน่ นึกไม่ถึงว่าฝ่าบาททรงไม่ติดใจเอาความเรื่องที่ท่านหลอกลวงเบื้องสูง!”ทันใดนั้น เฉียวม่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางมองเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยสายตาเหยียดหยาม พร้อมกับเย้ยหยัน“ข้ารู้แล้ว ท่านคงพยายามใช้ท่าทางยั่วยวนตอนอยู่บนเตียง ปรนนิบัติฮ่องเต้จนสบายพระทัยเป็นแน่!“ใช่แล้ว สตรีในวังหลังก็ไม่ต่างจากโสเภณีในหอนางโลม! “เพื่อชื่อเสียงลาภยศจึงขายเรือนร่างของตนเอง“ถึงแม้จะไม่ใช่บุรุษที่ชื่นชอบก็รื่นรมย์กับเรือนกายของเขาได้!“ศิษย์พี่ ข้านึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าท่านจะเหยียบย่ำตนเองเช่นนี้“ตอนที่ท่านนอบน้อมเอาอกเอาใจฝ่าบาท ท่านเคยนึกถึงพี่ใหญ่ต้วนบ้างหรือไม่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 386

    ราชทูตสงเหยียนเตรียมตัวมาอย่างดี เขาเอ่ยอธิบาย“ฮ่องเต้ฉี ฮ่องเต้เราส่งราชทูตนำของขวัญวันเกิดมาถวายให้ท่านโดยเฉพาะ แต่น่าเสียดายระหว่างทางเจอกับนักฆ่าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงต้องเสียเวลาอยู่หลายวัน“กระหม่อมมาถึงช้าไป ท่านคงไม่ถือสากระมัง?”เหตุผลนี้ฟังดูไม่ขึ้นเลย เห็นกันอยู่ว่าเจตนามาถึงช้า เพราะจะรอให้ปืนหอกไฟสร้างเสร็จก่อน ค่อยเข้ามาแทรกแซง!ชาวเป่ยเยี่ยนช่างอดทนเสียจริงเหล่าขุนนางหนานฉีรู้สึกผิดอย่างมากหากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้แต่แรก กลุ่มคนในกรมศัสตราวุธคงจะไม่รีบร้อนถึงเพียงนี้ถ่วงเวลาเขาไปสักหนึ่งปีหรือครึ่งปีก็คงดี!เซียวอวี้เย้ยหยัน“ราชทูตช่างมีหูตาเฉียบไวยิ่งนัก”สงเหยียนดูเหมือนเคารพนอบน้อม“ฮ่องเต้ฉีทรงชมเกินไปแล้ว!”จากนั้นเขาก็เปลี่ยนมาที่หัวข้อสำคัญ “ฮ่องเต้ฉี กระหม่อมจะเข้าชมปืนหอกไฟได้เมื่อใดพ่ะย่ะค่ะ? หนานฉีเป็นแคว้นใหญ่ คิดว่าคงมีจิตใจกว้างขวางดั่งมหาสมุทร ไม่เหมือนกับแคว้นเล็กอย่างตงเว่ย”เหล่าขุนนางในที่นั้นต่างกระวนกระวายใจทุกคนรู้ดีว่า “มังกรไฟ” ที่แคว้นตงเว่ยสร้างขึ้นมานั้น ตกเป็นเป้าสายตาของมหาอำนาจอย่างเป่ยเยี่ยน และทำเช่นเดียวกันคืออ้างว่าข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 387

    องค์หญิงใหญ่จะทรงรู้ได้อย่างไร นางดูถูกฮองเฮา ทว่าพิมพ์เขียวของปืนหอกไฟนั้นก็เป็นเฟิ่งจิ่วเหยียนที่วาดขึ้นมานางมั่นใจว่าเฉียวม่อสามารถแก้ไขได้ คาดไม่ถึงว่าเฉียวม่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องเริ่มลงมืออย่างไรก่อนหน้านี้เฉียวม่อแค่คิดจะคว้าโอกาสนี้เพื่อออกจากคุกเทียนเหลาตอนนี้นางเกิดลังเลขึ้นแล้วโดยเฉพาะได้ยินฮ่องเต้ทรงตรัสว่า: “สิ่งที่เราต้องการคือไร้ข้อผิดพลาด มิเช่นนั้นเจ้าจะถูกเพิ่มโทษขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง”แววตาของเซียวอวี้ดูเย็นชา ไม่ยอมให้โอกาสำหรับต่อรองเฉียวม่อจึงกระวนกระวายใจหากคิดแค่อยากจะลองดูเท่านั้นคงไม่สำเร็จแน่องค์หญิงใหญ่รู้สึกร้อนใจ“ฝ่าบาท เมิ่งเฉียวม่อต้อง...”ก่อนที่คำว่า “ทำได้” จะหลุดออกมา ก็ได้ยินเฉียวม่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“หม่อมฉัน...ทำไม่ได้”องค์หญิงใหญ่ตกใจอย่างมากเมิ่งเฉียวม่อพูดสิ่งใด?!เหตุใดถึงทำไม่ได้? ก็แค่เพิ่มกลไกบางอย่างลงในพิมพ์เขียวเดิมเท่านั้น สำหรับแม่ทัพน้อยเมิ่งผู้องอาจคงไม่ยากกระมัง!แผ่นหลังของเฉียวม่อเต็มไปด้วยเหงื่อนางไม่สามารถถูกเพิ่มโทษขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่มั่นใจเต็มร้อยเพคะ”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 388

    ราชทูตของเป่ยเยี่ยนพยายามขู่เข็ญ ตลอดทั้งวันจะเฝ้ารออยู่แต่ในกรมศัสตราวุธพวกเขาค้นพบคลังสมบัติห้องหนึ่ง ทว่ากลับถูกห้ามไม่ให้เข้าไปด้านใน หัวหน้าราชทูตสงเหยียนจึงไม่พอใจอย่างมาก“ฮ่องเต้ฉีทรงรับปากแล้วว่า จะให้พวกข้าเยี่ยมชมปืนหอกไฟนั่น พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรมาขัดขวาง!”หัวหน้ากรมศัสตราวุธเดินมาขออภัยด้วยตนเอง“ท่านราชทูต ปืนหอกไฟนั้นยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ โปรดรออีกสักสองสามวัน”สงเหยียนมองออกว่าพวกเขามีเจตนาจะถ่วงเวลา ทว่าหนานฉีก็ยอมอ่อนข้อให้แล้ว หากเป่ยเยี่ยนบีบบังคับมากเกินไป เกรงว่าผลที่ได้จะตรงข้ามกับที่คาดหวังถึงอย่างไรก็แค่รอเพิ่มอีกสองสามวัน เขามีเวลาเหลือเฟือ ก่อนจะกลับ สงเหยียนเอ่ยประโยคหนึ่งที่มีความหมายเป็นนัย ๆ ว่า “ไม่ว่าจะหลบหน้าอย่างไรก็ไม่มีทางหลบพ้นได้”หลังเขาจากไป คนในกรมศัสตราวุธต่างพากันเหงื่อตกเย็นวาบเป่ยเยี่ยนข่มเหงมากเกินไปแล้ว!ในเวลากลางคืนภายในตำหนักหย่งเหอเซียวอวี้ทานอาหารมื้อค่ำร่วมกับเฟิ่งจิ่วเหยียน เขาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในกลางวัน น้ำเสียงฟังดูอ่อนโยน“เมิ่งเฉียวม่อทำความผิดไว้มาก ถึงแม้ครั้งนี้นางจะสร้างความดีความชอบ เราก็จะไม่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 389

    บนเตียงนั้นมีพื้นที่คับแคบ เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีที่ให้ถอยหนีเซียวอวี้จับเอวของนางไว้ เพื่อให้นางอยู่ในพื้นที่จำกัดนางหันศีรษะหลบหลีกการจูบของเขา ก็ยิ่งทำให้เขาไม่เหลือความอดทนทันใดนั้นเขาจับคางของนางไว้ และมองเข้าไปในดวงตาของนางด้วยสายตาเยือกเย็น “หลบอะไร? หือ?”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งไม่หวั่นไหว มือสองข้างกำหมัดไว้แน่นเซียวอวี้เริ่มโมโห เขาพลันก้มศีรษะลงประกบริมฝีปากของนาง ไม่เหลือพื้นที่ว่างให้นางหายใจผ่านไปไม่นาน การหายใจของเขาเริ่มหอบถี่ ฝ่ามือใหญ่เคลื่อนมาทางด้านหน้าตัวนางแค่ดึงเบา ๆ สายรัดเอวก็หลุดออกฝ่ามือร้อนผ่าวของเขาวางทับอยู่บนหน้าท้องที่กระชับและแบนราบของนาง โดยมีอาภรณ์กั้นอยู่หลายชั้นริมฝีปากบางของเขาเคลื่อนมาข้างใบหูของนาง เหมือนจูบเหมือนขบกัด ทั้งอมติ่งหู พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“มีองค์ชายให้กับเรา...”คำพูดนี้หาใช่จะหารือกับนาง แต่เป็นคำสั่งที่แข็งกร้าวเซียวอวี้เริ่มเกิดอารมณ์เคลิบเคลิ้ม เขาดึงอาภรณ์ของนางอย่างขาดสติเฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงศีรษะ และหันหน้าไปทางผ้าม่านข้างเตียงแววตาของนางเฉยชาและคิ้วขมวดแน่น“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่เต็มใจจะร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 390

    ในห้องทรงพระอักษรหลิวซื่อเหลียงนำยาทาแผลน้ำร้อนลวกมาวางบนโต๊ะแล้วเขาหูตาว่องไว แค่เห็นฮองเฮาอยู่ด้านในด้วย ไม่ต้องรอได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ก็ถอยพรวดพราดออกไปแล้วเซียวอวี้นั่งลงตรงนั้นและวางมือไว้บนโต๊ะเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ตรงข้ามกับเขา เริ่มจากพับแขนเสื้อของเขาขึ้นมาก่อน ถึงมองเห็นตำแหน่งทั้งหมดที่ถูกน้ำร้อนลวกตอนอยู่ที่ค่ายทหารนางก็ทำแผลใส่ยาอยู่เป็นประจำ ท่าทางจึงดูคล่องแคล่วแค่ผ่านไปชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น นางก็เงยหน้าขึ้น“เสร็จแล้วเพคะ”เซียวอวี้: รวดเร็วเพียงนี้เชียวหรือ?เมื่อเห็นนางจะลุกขึ้น เขาพลันมองไปทางสาส์นกราบทูลที่วางกองอยู่บนโต๊ะ“ไปหยิบสาส์นกราบทูลมา เราจะพูดแล้วเจ้าก็เขียน”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกแปลกใจ “ฝ่าบาท วังหลังไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับราชกิจเพคะ”ยิ่งไปกว่านั้นจักให้นางเขียนแทนด้วยซ้ำ สีหน้าของเซียวอวี้ดูเรียบเฉย “ทั้งหมดเป็นสาส์นกราบทูลที่ไม่มีแก่นสาร ไม่ได้สลักสำคัญอะไร”สาส์นกราบทูลในแต่ละวันที่เป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ มีน้อยมากส่วนใหญ่เป็นเรื่องไร้แก่นสารที่ไม่มีผลใด ๆ เดิมทีเฟิ่งจิ่วเหยียนคิดว่าเขาพูดเกินจริง ทว่าหลังจากพลิกดูตามคำขอของเขา ถึ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 391

    เมื่อฮูหยินเฟิ่งต้องมาเผชิญหน้ากับฝ่าบาทเป็นครั้งแรกเช่นนี้ ทำเอานางรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งถึงแม้เซียวอวี้จักอนุญาตให้นางนั่งลงก็ตาม ทว่า นางคล้ายกับตนเองนั่งอยู่เบาะที่มีเข็มก็ไม่ปานแม้แต่ชาที่ข้ารับใช้รินให้นั้น นางก็ยังมิกล้าแตะต้องเมื่อเห็นฮูหยินเฟิ่งมีท่าทีตื่นเต้นเช่นนี้ เซียวอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า“มิต้องตระหนกถึงเพียงนั้น เราเพียงแค่อยากจะถามอะไรบางอย่างเท่านั้น หลังจากที่ฮองเฮาเกิดออกมาแล้วถูกส่งไปยังตระกูลเมิ่งนั้น เรื่องของนางพวกเจ้ารู้มากเท่าใดกัน”เมื่อเซียวอวี้เอ่ยถามเรื่องนี้ขึ้นมา ทำเอาฮูหยินเฟิ่งยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้นไปอีกนางพลันลุกขึ้นพร้อมเอ่ยปฏิเสธออกมาในทันที“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันมิทราบว่าผู้ใดเอ่ยเรื่องราวไร้สาระเช่นนี้ขึ้นมา ทว่า ฮองเฮาได้รับการเลี้ยงดูอยู่ภายในตระกูลเฟิ่งมาโดยตลอดเพคะ หาได้มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลเมิ่งไม่!”แววตาของเซียวอวี้พลันมืดครึ้มลงเมื่อเห็นปฏิกิริยาของฮูหยินเฟิ่งเป็นเช่นนี้แล้ว เกรงว่าถามไปคงมิได้คำตอบอะไรกลับมาเท่าใดนักหากเค้นถามต่อไป เกรงว่าจักให้นางเป็นลมไปได้เซียวอวี้จึงออกคำสั่งเสียงเข้มมาว่า“ส่งตัวฮูหยินเฟ

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 750

    หยางเหลียนซั่วสูญเสียกำลังภายในของตนเองไปทั้งหมด ทั้งยังมิอาจต้านทานอันใดได้อีกเพียงแค่สัญญาณมือของเซียวอวี้ ทหารองครักษ์จึงก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะจับหยางเหลียนซั่วล็อคด้วยโซ่ตรวนเอาไว้ และนำตัวไปขังไว้ในกรงเหล็กที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ยามที่หยางเหลียนซั่วถูกนำตัวไปนั้น ปากเขายังคงก่นด่าสาปแช่งออกมาไม่มีหยุด“ซูฮ่วน! เจ้าต้องไม่ตายดี——”ฝานจิ้นพลางทุบหม้อข้าวหม้อแกงทั้งหมดพลางเอ่ยถามความเป็นไปเป็นมาว่า“ซูฮ่วน เจ้ารีบบอกมาเร็วเข้า เจ้าคิดหาวิธีมาต่อกรกับหยางเหลียนซั่วได้อย่างไร?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ยามที่หยางเหลียนซั่วดูดซับกำลังภายในของฝ่าบาทนั้น พลังงานที่แท้จริงของเขาหาได้เสถียรไม่ นั่นจึงทำให้ข้าเริ่มสงสัย“ต่อมา หลังจากที่ข้าเห็นหร่านชิวดูดซับกำลังภายในของหยางเหลียนซั่วไปแล้วนั้น ข้าก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น”“มั่นใจเรื่องอะไร” ฝานจิ้นที่มีนิสัยใจร้อนนั้น เขาจึงรีบเร่งถามออกมาเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงพูดต่อไปอีกว่า“วิชาดาราโรยหมื่นวิถีนั้น มิอาจดูดซับกำลังภายในของผู้อื่นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด“แม้แต่เหวก็ยังมีก้นบึ้ง“หร่านชิวมิอาจดูดซับกำลังภายในได้ม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 749

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางหันไปพูดกับตงฟางซื่อพร้อมพรรคพวกของเขา “ส่งกำลังภายในของพวกเจ้ามาให้ข้า!”ตงฟางซื่อหาได้มีท่าทีสงสัยอันใดไม่ รีบวิ่งเข้าไปที่ข้างหลังของนางในทันที ก่อนจะทำเช่นเดียวกันกับเซียวอวี้ พร้อมถ่ายทอดพลังกำลังภายในของตนเองให้นางแม้ว่าคนอื่นจักไม่ค่อยเข้าใจเหตุผล ทว่า ด้วยความเชื่อใจที่พวกเขามีให้แก่ซูฮ่วนนั้น เขาเลือกที่จะเชื่อใจนางเฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองหยางเหลียนซั่วที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเย็นชาหยางเหลียนซั่วพลันเอ่ยหัวเราะเยาะนางออกมาว่า“ซูฮ่วน! เจ้าที่รนหาที่ตาย ยังต้องการลากผู้อื่นลงไปตายพร้อมกับเจ้าอีกงั้นหรือ! ดี ข้าจักทำให้ความหวังของเจ้าเป็นจริง!”หยางเหลียนซั่วที่คล้ายกับธาตุไฟเข้าแทรกไปมากขึ้นทุกที ทว่า สติอันน้อยนิดกำลังดึงตัวเขาเอาไว้ ให้เขาตั้งใจต่อกรกับคนตรงหน้าทว่า เมื่อคิดไปถึงหร่านชิวที่เป็นบุตรสาวของตนเองนั้น ทั้งยังตกตายด้วยน้ำมือของเขาอีก ความตั้งใจของเขาก็สั่นคลอน พร้อมกำลังภายในที่เกิดความแปรปรวนขึ้นมา ราวกับสายน้ำที่กำลังเดือดพล่านปะทุขึ้น...หร่วนฝูอวี้ที่กำลังถ่ายทอดกำลังภายในของตนเองให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยเช่นกัน นางพลันรู้สึกว่ายากลำบ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 748

    เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงก้าวไปข้างหน้า พลางหันไปกล่าวกับหยางเหลียนซั่ว“หยางเหลียนซั่ว หร่านชิวเป็นบุตรสาวของเจ้าจริง ๆ เป็นบุตรสาวแท้ ๆ ของเจ้า”หยางเหลียนซั่วยังคงมีท่าทีไม่เชื่อตงฟางซื่อจึงออกหน้าช่วยพูดอีกแรง“ข้าสามารถพิสูจน์ได้ หยางเหลียนซั่ว ก่อนหน้านั้นที่กลายว่าเจ้ามิใช่ทายาทสายเลือดแคว้นฉินนั้น ล้วนแต่หลอกเจ้า ทว่า หร่านชิว เป็นบุตรของเจ้าจริง ๆ ”“ไร้สาระ! นางมิมีทางเป็นบุตรสาวของข้าได้!” หยางเหลียนซั่วตอบกลับด้วยท่าทีฉุนเฉียว “ข้าจักสังหารพวกเจ้าทั้งหมด——”หร่านชิวที่ใกล้จะหมดลมหายใจก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกันตงฟางซื่อได้แต่ถอนหายใจออกมา“หร่านชิว เป็นไปไม่ได้ที่มารดาของเจ้าจักเอาเรื่องเช่นนี้มาโกหกเจ้า เจ้าเพียงแค่เรียก 'บิดา' ออกมาคำเดียว แล้วก็จากไปอย่างสงบเสียเถิด”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา“เพียงเพื่อฝึกฝนวิชามารนั้น หร่านชิวทำร้ายผู้คนในพันธมิตรอู่หลินไปมากมาย นางมีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก เหมือนกับบิดาของตนเองมิมีผิด“หยางเหลียนซั่ว เจ้าควรดีใจที่มีบุตรสาวเช่นนี้“หากว่าเจ้าสามารถฟื้นคืนราชวงศ์เฉินได้จริง มีบุตรสาวเช่นนี้ สายเลือดของเจ้าย่อมมิมีท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 747

    หร่านชิวที่รู้สึกผิดอยู่ในใจนั้น ค่อย ๆ เดินถอยหลัง “ไม่ ไม่ใช่... ข้ามิใช่วิชาดาราโรยหมื่นวิถี ข้า...เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หยางเหลียนซั่วคือบิดาของเจ้า พวกเจ้าบุตรบิดาต่างก็ทำให้ทั่วทั้งยุทธภพหาได้มีความสงบสุขไม่ หร่านชิว เจ้าก็สมควรตาย”“ไม่! เขามิใช่บิดาของข้า!” หร่านชิวรีบร้อนปฏิเสธออกมาในทันทีนางเพียงแค่ต้องการครอบครองโลกของวรยุทธ์ อยากได้รับความชื่นชมการยอมรับจากผู้คนมากมาย นางจักมีบิดาที่เลวร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร!เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาอย่างเย็นชาว่า“หรือมิใช่พวกเจ้าสองพ่อลูกรวมหัวกัน จัดฉากละครนี้ขึ้นมา แท้จริงแล้วก็เพื่อที่จะกำจัดพวกข้าทิ้งไปงั้นหรือ!”“ซูฮ่วน! เจ้าใส่ร้ายฉัน! ข้ากับเขา…”เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางเอ่ยตัดบดออกมา ก่อนจะกล่าววาจาเกรี้ยวกราดออกมาว่า“เหตุใดเจ้าถึงหยุดมือเล่า เหตุใดถึงมิคิดต่อสู้กับเขาต่อไป! ที่เจ้าต้องการให้คนอื่นขึ้นไปสู้แทนนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้แก่ใจว่าพวกเข้ามิอาจเอาชนะหยางเหลียนซั่วได้ นั่นก็เพราะต้องการส่งพวกข้าไปตาย แล้วให้เขาสูบฉีดกำลังภายในของพวกข้าไปใช่หรือไม่!”หร่านชิวพลันส่ายหัวไปมาไม่มีหยุด“ไม่... ข้าได้ร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 746

    หยางเหลียนซั่วมิเคยคิดเลยว่า ตนเองจะมีบุตรสาวแท้ ๆ กับเขาด้วยเขาไม่เชื่อหร่านชิวก็ไม่เชื่อเช่นกัน“ท่านแม่! ท่านกำลังพูดเรื่องอะไรกัน!”คนพวกนี้เพียงเพราะต้องการช่วยเหลือนาง ถึงได้เอ่ยคำโกหกเหล่านี้ออกมางั้นหรือ?เมื่อเห็นว่าหยางเหลียนซั่วยังมีเจตนาที่ต้องการจะสังหารบุตรสาวของตนเองอีกครั้ง ฮูหยินหร่านจึงเปิดเผยเรื่องราวที่แท้จริงในปีนั้นออกมาโดยมิสนสิ่งใดอีก“หยางเหลียนซั่ว! ท่านจำมิได้หรือ... ในปีนั้น ยามที่ท่านฝึกฝนวิชามารได้ไม่นาน เกิดธาตุไฟเข้าแทรก จึงจำความสิ่งใดมิชัดแจ้ง ถึงได้ ถึงได้ทำให้ข้าได้รับความอับอายเช่นนั้น!“หร่านชิวคือบุตรสาวของท่าน! เป็นบุตรสาวที่ข้าตั้งครรภ์ในคืนนั้น!”หยางเหลียนซั่วก่นด่าสาปแช่งออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว“นังสารเลว! ผู้ที่ธาตุไฟเข้าแทรกคือเจ้าต่างหาก!”หร่านชิวเมื่อเห็นมารดาของตนเองสำลักออกมาเป็นเลือดไม่มีหยุดนั้น พร้อมทั้งร่างกายที่ค่อย ๆ เย็นชืดนางพยายามประคองมารดาของตนเอง “ท่านแม่ ท่านมิต้องพูดอันใดแล้ว ท่านมิควรมาที่นี่!”กำลังภายในในร่างกายของหยางเหลียนซั่วนั้นกำลังเกิดการปั่นป่วนยิ่งนัก หากแต่ถูกเขากดมันเอาไว้หยางเหลียนซั่วนึกหง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 745

    หร่านชิวที่เป็นผู้ฝึกตนวิชาดาราโรยหมื่นวิถีนั้น กำลังดูดซับกำลังภายในของหยางเหลียนซั่ว จนทำให้ทักษะของนางเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากทั้งนางและหยางเหลียนซั่วต่างก็ต่อกรกันตั้งแต่พื้นดินจนไปถึงบนภูเขา ทว่า ไม่ว่าพวกเขาจะเคลื่อนตัวไปที่ใด ทั้งฝุ่นควันเศษหินต่างก็ปลิวว่อนตลบอบอวลไปหมดในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง กองทัพหนานฉีก็กำลังโรมรันกับกองทัพเยี่ยนรองแม่ทัพเยี่ยนที่เห็นเงาของหยางเหลียนซั่วเลือนรางนั้น ภายในใจนึกเป็นกังวลยิ่งนักมิใช่กล่าวว่าตนเองสามารถสังหารฮ่องเต้หนานฉีได้อย่างง่ายดายงั้นหรือ?เหตุใดยามนี้ถึงยังไม่ยอมจัดการเล่า?ฝั่งของเขาใกล้จะต้านไม่ไหวเต็มทีแล้ว!เมื่อพบเจอกับการซุ่มโจมตีของกองทัพหนานฉีหลายต่อหลายครั้งเช่นนี้ ยามที่พวกเขาคิดว่าสามารถจัดการได้แล้วนั้น ก็มักจะมีคนกลุ่มใหม่พุ่งเข้ามาต่ำช้ายิ่งนัก!เหล่าทหารของกองทัพเยี่ยนต่างก็หวาดผวาไปในทันทีแม่ทัพใหญ่กองทัพฉีกวนไหลอิ้งขี่ม้าบุกเข้ามา พลางร้องตะโกนออกมาว่า“กองทัพเยี่ยนจงฟัง ท่านแม่ทัพของเรากล่าวว่า ตราบใดที่พวกเจ้ายอมวางอาวุธ ถอดชุดเกราะออก และโยนหมวกเหล็กบนหัวทิ้งไปเพื่อยอมจำนนนั้น ก็จักอนุญาติให้กองทัพเยี่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 744

    “พวกเจ้ายังคิดที่จะโกหกข้าอีกหรือ! ซูฮ่วน เจ้าสมควรตาย!” หยางเหลียนซั่วไม่มีทางที่ถูกคำพูดยั่วยุของพวกเขาทำให้ไขว้เขวอีกต่อไปเขาหาได้คิดฟังสิ่งใดไม่ พลางสูบฉีดกำลังภายในของตงฟางซื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนชักดาบของตนเองออกมาในทันที ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าไป ราวกับนกนางแอ่นที่บินได้อย่างคล่องแคล่ว พลางพุ่งตรงไปที่หยางเหลียนซั่ว...หูทั้งสองข้างของหยางเหลียนซั่วกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังดาบอันแหลมคมที่เข้ามาใกล้ ๆ เขาเอียงตัวไปด้านข้าง ถูกบังคับให้เก็บพลังภายในกลับตงฟางซื่อถือโอกาสหลุดพ้นออกมาและล้มลง หลังของเขากระแทกกับพื้นหินอันขรุขระไปในทันที พร้อมด้วยผมเผ้าที่กระจัดกระจายออกมาหยางเหลียนซั่วมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปโต้กลับเฟิ่งจิ่วเหยียนภายในใจของเขาที่มีจิตใจอาฆาตแค้นนั้น อยากที่จะสังหารนักฆ่าที่ปลิดชีพบุตรชายของตนเป็นอย่างยิ่ง!ทว่า หยางเหลียนซั่วหาได้โจมตีออกไปโดยตรงไม่ แต่กลับเคลื่อนที่ไปที่ข้างหลังของนางแทนพร้อมทั้งฝ่ามือที่กำลังจะกระแทกมาที่หลังของนาง“ซูฮ่วน! ระวัง!” ตงฟางซื่อร้องเตือนผัวะยามที่เฟิ่งจิ่วเหยียนหันหน้ากลับมานั้น เป็นเซียวอวี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 743

    “หยางเหลียนซั่ว ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวออกมาเสียที!”บนเนินเขา ตงฟางซื่อพร้อมทั้งเหล่าสหายในยุทธภพมากมายมารวมตัวกันจัดตั้งค่ายกลเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ได้ติดต่อกับพวกเขามาก่อนหน้านั้น การซุ่มโจมตีกานโจวในครานี้ ไม่เพียงแต่เพื่อกองทัพเยี่ยนเท่านั้น แต่ยังเพื่อจับกุมหยางเหลียนซั่วอีกด้วยถึงแม้ว่าหยางเหลียนซั่วจักสามารถระบุตำแหน่งได้จากการฟังเสียงก็ตาม แต่นั่นก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควรอีกทั้ง กานโจวแห่งนี้เป็นสถานที่ที่หยางเหลียนซั่วไม่คุ้นชินอีกด้วยผมเผ้าของหยางเหลียนซั่วที่มิได้มัดให้เรียบร้อยนั้น ทว่า ดวงตาทั้งสองข้างกลับถูกมัดด้วยผ้าสีดำ หูของเขาตั้งขึ้นเพื่อพยายามแยกแยะเสียงอย่างเต็มที่“เซียวอวี้! ซูฮ่วน! พวกเจ้าสองคน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”อย่างแรก เขาต้องการหวนคืนแว่นแคว้น อย่างที่สองเขาต้องการแก้แค้นพวกมันสองคนสังหารบุตรชายของเขา แค้นในครานี้อย่างไรก็ต้องชำระ!เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่บนที่สูง พลางก้มมองดูเขาอย่างเย็นชาผู้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นางนั้นคือเซียวอวี้เหล่าแม่ทัพคนอื่น ๆ ก็นำกองกำลังของตนออกไปสู้รบกับกองทัพเยี่ยนที่เนินเขาด้วยกำลังพลเพียงแค่ห้าพันนายเท่านั้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 742

    เมื่อเป่ยเยี่ยนต้องการถอยทัพนั้น หาใช่เรื่องดีสำหรับหยางเหลียนซั่วไม่เขาจึงเข้าพบฉินเซียวในทันที“ท่านแม่ทัพ นี่เป็นเพียงเล่ห์เหลี่ยมของพวกฉีเท่านั้น…”กองทัพใหญ่ได้เคลื่อนย้ายแล้ว ฉินเซียวมิต้องการฟังเรื่องไร้สาระอันใดจากเขาอีก“หยางเหลียนซั่ว เป็นเพราะเจ้ากล่าวว่าพวกเรามีโอกาสได้ชัย ฝ่าบาทจึงส่งกองกำลังเสริมมาให้กับพวกเราแน่! พวกเราหาได้มีความคิดที่จะต้องมารบกับหนานฉีจริง ๆ ไม่! ยามนี้งามหน้ายิ่งนัก เรื่องของเจ้าก็มิอาจจัดการได้สำเร็จ ยังมาทำให้พวกเราต้องสูญเสียกองกำลังอีกครึ่งหนึ่งไปอีก!“แม่ทัพเช่นข้านึกสงสัยยิ่งนัก ว่าเจ้าร่วมมือกับเซียวอวี้เพื่อมาทำลายเป่ยเยี่ยนของข้าใช่หรือไม่!“ไสหัวไป! คิดว่าตนเองเป็นใครกัน ถึงจะมาให้พวกข้าทำงานถวายชีวิตให้กับเจ้า?”ใบหน้าของหยางเหลียนซั่วพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาไปในทันทีเพียงแค่เขาโบกมือเล็กน้อยก็คว้าเข้าที่คอของฉินเซียวฉินเซียวตกใจยิ่งนักทั้งยังเจือไปด้วยความโกรธเกรี้ยว“หยางเหลียนซั่ว...เจ้า...”ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ากำลังภายในที่ร่างกายของเขากำลังรั่วไหลออกมาหยางเหลียนซั่วที่กำลังดูดซึมกำลังภายใน พลางเอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีเคร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status