แชร์

บทที่ 368

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-27 18:37:45
จิ้งเฟยยังดิ้นรนอยู่ในน้ำ กลับไม่มีใครลงไปช่วยนาง

องค์หญิงใหญ่คว้าจับเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้อย่างแข็งกร้าว

“ผู้ใดเป็นคนผลัก ผู้นั้นก็ลงไปช่วย!”

ที่นี่เป็นตำหนักฉือหนิง องครักษ์ สาวใช้ในบริเวณโดยรอบนี้ ล้วนเป็นคนขององค์หญิงใหญ่

พูดเสร็จ นางก็จะผลักเฟิ่งจิ่วเหยียนลงไปในน้ำ

ช่วงเดือนมีนาคม น้ำในสระเยือกเย็นไปถึงกระดูก

เฟิ่งจิ่วเหยียนขยับไปด้านข้าง หลบเลี่ยงการผลักขององค์หญิงใหญ่ได้

แววตาองค์หญิงใหญ่โกรธจัด

“ฮองเฮา เจ้า...”

ที่ไหนได้ ถึงแม้เฟิ่งจิ่วเหยียนหลบเลี่ยงนางได้ ทว่าพริบตาเดียวก็กระโดดลงไปในน้ำแล้ว

องค์หญิงใหญ่โกรธจัดจนขำหัวเราะ

“ช่วย...ช่วยข้า...” จิ้งเฟยว่ายน้ำไม่เป็น อาภรณ์เครื่องประดับบนตัวทั้งหนาทั้งหนัก ผูกมัดแขนขาของนางไว้

นางผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ในน้ำ ดื่มน้ำเข้าไปเป็นจำนวนมาก สิ้นหวังอย่างที่สุด

เมื่ออยู่ต่อหน้าความตาย นางยากที่จะสงบสติอารมณ์และมีสติได้

“ช่วยข้า...”

ในขณะที่นางไม่มีเรี่ยวแรงจะดิ้นรนอีก ครั้นกำลังจะจมลงไป ก็มีมือข้างหนึ่งคว้าจับนางไว้

วินาทีนั้น เหมือนแสงแดดส่องลงสู่ในสระน้ำอันเยือกเย็น

ทันใดนั้นก็เหมือนนางสามารถยืนมั่นคงอยู่ในน้ำได้

ฮ่าว...

ศีรษ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (25)
goodnovel comment avatar
Irin Thitipakdeejirayot
คะแนสะสมไว้ 700 กว่า หายไปเฉยๆเลย
goodnovel comment avatar
Tunpimon Vunjun
เติมเงินรอแล้ว มาแบบจุกๆๆๆเลยคะ
goodnovel comment avatar
Kaew Sp
ลงมารัวๆเลยค่ะ พร้อมเปย์มากๆ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 369

    ผมของเฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่แห้งสนิท มัดปักด้วยปิ่นปักผมอย่างง่ายลมเย็นพัดมากระทบหน้า ชายกระโปรงของนางพลิ้วไหวซุนหมัวมัวรีบไล่ตามนาง พูดเกลี้ยกล่อมอยู่อย่างปากเปียกปากแฉะ“ฮองเฮา อย่างน้อยท่านก็อธิบายให้ฝ่าบาทฟังบ้างสิเพคะ?“จะให้ฝ่าบาทเข้าใจท่านผิดเช่นนี้หรือ?”สายตาเฟิ่งจิ่วเหยียนมองไกลออกไปอย่างห่างเหิน“ไม่เป็นไร”เดิมก็เป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางภายในห้องโถงด้านข้างหมอหลวงกำลังตรวจชีพจรให้กับจิ้งเฟยจักรพรรดิยืนเอามือไพล่หลังอยู่ริมหน้าต่าง แววตามองไกลออกไปจิ้งเฟยมองดูเงาหลังของชายหนุ่มด้วยแววตาซับซ้อนหลังจากฮองเฮาไปแล้ว ฝ่าบาทก็ยืนอยู่ตรงนั้นตลอด ไม่รู้ว่ากำลังดูอะไรอยู่หมอหลวงตรวจเสร็จ ก็กราบทูลรายงานฝ่าบาท“ฝ่าบาท พระนางได้รับความเย็น ทำให้ร่างกายอ่อนแอ กระหม่อมจัดยาขับความเย็นให้ทานก็พอ แต่จะโดนความหนาวไม่ได้อีก ไม่อย่างนั้นอาการป่วยจะยิ่งรุนแรง”“อืม” เซียวอวี้หันไปมองจิ้งเฟยทั้งที่ตกน้ำเหมือนกัน นางอ่อนแออยู่ในสภาพเช่นนี้ ฮองเฮากลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยยังไงก็เป็นคนฝึกวรยุทธคิดว่าฮองเฮาคงไม่เป็นอะไรมากหลังจากหมอหลวงกราบทูลออกไปแล้ว จิ้งเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 370

    ตำหนักหย่งเหอซุนหมัวมัววิ่งเข้ามารายงานอย่างมีความสุขในความโชคร้ายของคนอื่น“ฮองเฮา ท่านทายได้ไหมว่า! เกิดเรื่องกับทางตำหนักซินฮุ่ยแล้ว!“ไม่ง่ายนักที่ฝ่าบาทจะเข้ามาวังหลัง คืนนี้ต้องการให้จิ้งเฟยร่วมบรรทม แต่ไม่รู้ทำไม จิ้งเฟยทำให้ฝ่าบาทขุ่นเคือง ฝ่าบาทจึงทิ้งนางแล้วก็จากไป ยังลงโทษกักบริเวณนางด้วย!”ซุนหมัวมัวยิ่งพูดก็ยิ่งสะใจ เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับรู้สึกปวดศีรษะแปลบ ๆ นายกำลังจัดการกิจการงานทั่วไปของวังหลัง เพียงต้องการให้ทุกเรื่องเรียบร้อยอย่างดีตั้งแต่ต้นจนจบซุนหมัวมัวพูดมากเช่นนี้ นางยากที่จะใจจดใจจ่อ“ออกไป ไม่มีคำสั่งของข้า ผู้ใดก็ห้ามเข้ามา”ซุนหมัวมัวไม่รู้ว่าตนเองพูดอะไรผิดเหลียนซวงกลับไปเยี่ยมญาติที่บ้านเกิด ในที่สุดนางก็ได้คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายฮองเฮา แต่ฮองเฮามักจะเมินเฉยกับนาง ทำให้นางน้อยใจยิ่งนักเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจท่าทีสีหน้าโศกเศร้าของซุนหมัวมัว มือข้างหนึ่งปัดลูกคิด ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา“ยังไม่ออกไปอีก?”ซุนหมัวมัวเพิ่งหันตัว หลังจากเห็นอะไรแล้ว ก็ดีใจตกตะลึงตาค้างคือฝ่าบาท? !นางรีบก้มศีรษะถวายความเคารพ“บ่าวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาทอายุยืนหมื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 371

    พักนี้เพราะความวุ่นวายจากภัยสงครามรอบด้าน ทำให้เซียวอวี้แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนเลยเตียงในตำหนักหย่งเหอหลังนี้ เขานอนแล้วรู้สึกสบายเป็นอย่างมากทว่าเวลานี้เอง ภายในตำหนักซินฮุ่ยจิ้งเฟยนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ ดวงตาบวมด้วยความโศกเศร้าหยาดน้ำตาหยดลงผสมกับน้ำสุดท้ายนางก็ยังทำไม่สำเร็จอยู่ดี...ผู้อื่นต่างคิดว่านางได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทอย่างลึกซึ้ง ทว่าที่จริงแล้วฝ่าบาทไม่เคยแตะต้องนางมาก่อนเลยภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นางจะตั้งครรภ์ได้อย่างไรกัน!คืนนี้นางจึงได้ลองกล่าวเรื่องร่วมบรรทมกับฝ่าบาทฝ่าบาทกลับส่งสายตาที่เย็นชาถึงเพียงนั้นใส่นาง เตือนให้นางอย่าได้คิดเพ้อเจ้อถึงสิ่งที่ตัวเองไม่คู่ควรไม่คู่ควร...ที่แท้แล้วนางไม่คู่ควรกับการให้กำเนิดองค์ชายอย่างนั้นหรือ?“ฮ่าฮ่า...” จิ้งเฟยโมโหจนหัวเราะเสียงต่ำอย่างที่สุดออกมา นางใช้มือกุมปากของตนเอาไว้ กดความโกรธ ความไม่ยินยอมนั้นลงไปฝ่าบาทช่างอำมหิตเสียจริงชิวหงที่ยืนอยู่นอกห้องอาบน้ำเป็นห่วงพระสนมเป็นอย่างยิ่งเดิมทีคืนนี้พระสนมสามารถร่วมบรรทมกับฝ่าบาทได้แท้ ๆ ทว่าฝ่าบาทกลับจากไปทั้งอย่างนี้ณ ตำหนักหย่งเหอท้องฟ้ามืดสนิทแล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 372

    เซียวอวี้วางถ้วยสุราลงอย่างว่าง่าย น้ำเสียงผ่อนคลายสงบนิ่ง“ได้ ตามที่ฮองเฮาว่า”หลิวซื่อเหลียง : ?เหตุใดจึงไม่เหมือนอย่างที่เขาคิดเอาซะเลย?เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าเขาจะฟังนางถึงเพียงนี้นางเพียงแต่เกรงว่าถ้าเขาดื่มมากจนเมามายไปจะทำลายแผนการของนางก็เท่านั้นขุนนางใหญ่ที่นั่งอยู่เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ ต่างเกิดความรู้สึกซาบซึ้งใจ“ฝ่าบาท ครานี้แคว้นจ้าวพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ สาแก่ใจยิ่งนัก!”“พวกเขาครอบครองผังการวางกำลังป้องกันปลอมดั่งสมบัติล้ำค่า จนนึกว่าจะสามารถทลายแนวป้องกันของหนานฉีเราได้ ช่างเพ้อเจ้อเสียจริง”“ฝ่าบาท ชายแดนเหนือมีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งนาม ‘จางฉี่หยาง’ ครานี้สร้างผลงานการศึกไม่น้อยเลย มีอนาคตยิ่งนัก!”“จางฉี่หยาง? ชื่อนี้คุ้นหูอยู่บ้าง ใช่เด็กหนุ่มที่มอบหินเซวียนอิงให้เราในตอนนั้นหรือไม่?”“ใช่แล้ว เขานั่นแหละ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนจิบสุราอึกหนึ่งโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าเซียวอวี้เกิดความรู้สึกสนใจในตัวของจางฉี่หยางขึ้นมาศิษย์ของซูฮ่วน ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาหากเขาสามารถทำงานรับใช้ราชสำนักต่อไป ราชสำนักย่อมไม่ปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่ยุติธรรมแน่“ถ่ายทอดราช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 373

    เซียวอวี้ไม่ให้โอกาสเฟิ่งจิ่วเหยียนปฏิเสธ“เจ้าจำกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้ได้หรือไม่“ยามนั้นเราโปรยกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้ใส่ร่างนักฆ่าหญิงผู้นั้น บนร่างของเจ้าเองก็มีเช่นกัน”เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันนึกออกจากนั้นก็ได้ยินเขาพูดอีกว่า “กลิ่นดอกหอมหมื่นลี้เป็นของที่ใช้ติดตามคน เมื่อกลิ่นติดตัวแล้ว ภายในสามวันไม่มีทางหลุดออก ทั้งยังไม่อาจกระจายไปยังผู้อื่นได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนชะงักไปเล็กน้อยที่แท้ก็ความแตกมานานแล้วอย่างนั้นหรือ...เซียวอวี้จ้องนางนิ่ง ๆ“เจ้าใช้กำลังภายในเพื่อช่วยเราอย่างไม่เสียดาย“ยาฤทธิ์ร้ายแรงในร่างกายเรา ก็มาจากความช่วยเหลือของเจ้า“ฮองเฮา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าทำเพื่อเรา เราล้วนรู้ดี”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วน้อย ๆ“ที่ข้าช่วยท่าน ก็เพราะฐานะผู้นำแคว้นของท่าน ทว่าท่านไม่เคยรู้สึกสงสัยบ้างเลยหรือ สตรีคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงดูอยู่แต่ในห้องหอ เหตุใดจึงรู้วรยุทธ์?”เซียวอวี้กล่าวตอบทันที“เราเคยให้คนไปตรวจสอบมาก่อน“เคยแม้กระทั่งสงสัยว่าเจ้าไม่ใช่เวยเฉียง“คืนงานเลี้ยงไหว้พระจันทร์คืนนั้น เราจัดการทดสอบหยดเลือดความเป็นพ่อลูกของเจ้าและพ่อของเจ้า พิสูจน์แล้วว่าพวกเจ้าเป็นพ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 374

    เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างหนักแน่น“ทูลฝ่าบาท เรื่องที่ข้าแต่งงานแทนนั้นตระกูลเฟิ่งไม่รู้เรื่องจริง ๆ เพคะ”เซียวอวี้ไม่พูดอะไร เพียงจ้องมองนางอย่างเย็นชา ราวกับต้องการมองทะลุไปในจิตวิญญาณของนางดวงตาสองคู่ประสานกัน ภายในตำหนักเงียบสงัดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของเขาที่ไม่เป็นจังหวะด้วยความโกรธจากนั้นเขาก็ปล่อยมือออกจากคางของนาง เขาหันกายอย่างรวดเร็วและดุดัน หันหลังให้นางเขาประสานมือไว้ด้านหลัง กำหมัดแน่นทำให้ดูออกว่าเขาสกัดกั้นความโกรธเอาไว้“เรื่องใหญ่เช่นนี้ตระกูลเฟิ่งจะไม่รู้เรื่องได้อย่างไร?“นี่เจ้าคิดว่าเราหลอกง่าย หรือมั่นใจว่าเราไม่มีทางเอาเรื่องเจ้ากัน!“ทว่าเจ้าไม่ควร...ไม่ควรอธิบายเรื่องนี้ให้เราฟังในคืนนี้ ยามนี้“เจ้าทำทุกอย่างพังหมดแล้ว!”ทำลายปิ่นหงส์ด้ามนั้น ทำลายความเชื่อใจที่เขายากจะมีเขาคิดว่าในวังหลังที่มีแต่คำหลอกลวงนี้ ฮองเฮาจะเป็นข้อยกเว้นนึกไม่ถึงว่านางก็ไม่ต่างจากผู้อื่นเลย!“ฝ่าบาท...”“หุบปาก! ยามนี้เราไม่อยากได้ยินเจ้าพูดอีก!” เซียวอวี้โมโหอย่างที่สุด เขาหันกลับมาตวาดด้วยความโกรธทว่าเมื่อสบตาเข้ากับดวงตาที่สงบนิ่งคู่นั้น เขากลับไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 375

    สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่ง แววตาเด็ดเดี่ยวแน่วแน่เรื่องที่นางจับหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ไป นางกล้าทำก็กล้ารับ ไม่กลัวว่าจะถูกเซียวอวี้เอาความย้อนหลัง ยามนี้นางจะต้องพูดสิ่งที่ควรพูดออกมาให้หมด“หลิงเยี่ยนเอ๋อร์พูดยอมรับเองกับปาก ที่นางลงมือกับเวยเฉียง เป็นเพราะนางได้รับจดหมายจากบุคคลลึกลับผู้หนึ่ง“บุคคลลึกลับนั่นใช้หลักฐานความผิดมาข่มขู่นาง”“จดหมายนั่น ข้าได้มาแล้ว”นางมอบจดหมายให้เซียวอวี้เซียวอวี้ลังเลอยู่ไม่กี่อึดใจก็เปิดอ่านในเวลาเดียวกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนก็หยิบจดหมายอีกฉบับออกมา“หลายเดือนก่อนหน้านี้ จิ้งเฟยเองก็ได้รับจดหมายจากบุคคลลึกลับเช่นกัน“จดหมายฉบับนี้เผยข้อมูลกับนางว่าพ่อของข้าซื้อตัวพระที่วัดหลงหัว ทำการสลับหนังสือแห่งโชคชะตา”เซียวอวี้ขมวดคิ้วแน่นจิ้งเฟยเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอย่างนั้นหรือ!น้ำเสียงของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่ง นางเตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว ทั้งเป็นระเบียบและมีความชัดเจน“จากนั้นข้าก็ร่วมมือกับจิ้งเฟย ในคืนส่งท้ายปีเก่าบุคคลลึกลับนั่นลอบเข้ามาในตำหนักฟางเฟยเพื่อส่งจดหมายลับอีกครั้ง ข้าจับนางได้คาหนังคาเขา“คนผู้นั้นก็คือเฉียวม่อ”เดิมทีนางได้เต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 376

    บนใบหน้าเยือกเย็นของเฟิ่งจิ่วเหยียน ปกคลุมด้วยความราบเรียบ ดั่งดอกเหมยท่ามกลางเกล็ดน้ำค้าง ผลิบานในยามเหน็บหนาว“ข้าก็เป็นคนตระกูลเมิ่งเช่นเดียวกัน”เพียงประโยคสั้น ๆ พลันก่อคลื่นลูกใหญ่หลายชั้นสีหน้าของเซียวอวี้นิ่งค้างเฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวต่อ“ข้าถูกตระกูลเฟิ่งทอดทิ้ง คนที่รับเลี้ยงข้า คือแม่ทัพเมิ่งกับภรรยา”เซียวอวี้กระจ่างในทันทีไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี่เขารู้สึกว่า นางดูใส่ใจเมิ่งเฉียวม่อเป็นพิเศษ ที่แท้พวกนางก็อยู่ในกองทัพเดียวกันนี่เองและไม่แปลกใจเลยที่วรยุทธ์ของนางจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้มีอาจารย์เป็นถึงเมิ่งฉวี เช่นนั้นก็ไม่แปลกเซียวอวี้ไม่ได้พูดขัดนาง นางจึงพูดต่อ“เรื่องของเวยเฉียง ตอนแรกข้าไม่คิดสงสัยเฉียวม่อเลยสักนิด แต่ต่อมาหลักฐานทุกอย่างที่สืบเจอล้วนบ่งชี้ไปที่นาง“ข้าเองก็ไม่เข้าใจเช่นเดียวกันกับท่าน ข้าเติบโตมาพร้อมกับนางตั้งแต่เด็ก ไม่มีความลับระหว่างกัน เหตุใดนางต้องทำร้ายน้องสาวแท้ ๆ ของข้า“ต่อมา ข้าก็ได้รู้จากปากของท่านอาจารย์ เหตุผลที่เขายินยอมให้คนปลอมตัวเป็นเมิ่งสิงโจว  ก็เพื่อฮูหยินผู้เฒ่าในครอบครัว“หลายปีมานี้ สุขภาพร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 676

    เจ็ดวันต่อมาณ เมืองไท่ชางกลุ่มของเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าพักในโรงพักแรมทันทีที่เข้ามาในโรงพักแรม นางก็เห็นคนคุ้นตาคนผู้นั้นอยู่ในชุดไหมสีแดง กำลังพูดคุยกับคนที่นั่งร่วมโต๊ะอย่างสนุกสนาน ขณะที่อีกฝ่ายบังเอิญเงยหน้าขึ้นมา ก็จำหน้ากากเงินของนางได้ เจียงหลินสวมใส่ชุดแดง ดูสะดุดตาท่ามกลางผู้คนอย่างมากเฟิ่งจิ่วเหยียนก้าวถอยหลังโดยพลันทำไมถึงมาเจอเจ้านี้อีกแล้ว นี่มันบุพเพอาละวาดชัด ๆ ให้ตายสิ…ชั่วขณะนั้น เหมือนเจียงหลินจะเห็นคนไร้หัวใจที่ทอดทิ้งตัวเอง พลันลุกขึ้นมา ตะโกนท่ามกลางผู้คนว่า “ซูฮ่วน! ข้าเห็นเจ้าแล้ว! เจ้าไม่ต้องหลบ!”เฟิ่งจิ่วเหยียน: นางไม่ได้หลบเสียหน่อยเจียงหลินเดินพรดพราดเข้ามา จับแขนของนางเอาไว้ “เจ้ากับซ่งหลีนี่แน่จริง ๆ ไปไหนก็ไม่คิดจะบอกกล่าว รู้ไหมว่าข้าตามหาพวกเจ้านานแค่ไหน!”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความน้อยใจ ความจริงแล้ว เขาเองก็ไม่ได้มุ่งมั่นตามหาพวกเขาเหมือนกันเขามีฐานะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเจียง จึงมีเรื่องให้จัดการมากมายในชีวิตประจำวัน ที่กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา ก็แค่อยากให้ซูฮ่วนรู้สึกผิด และช่วยเบิกทางค้าขายให้เขาขณะที่กำลังพูด เขาพลันรู้สึกได้ถึงไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 675

    เฟิ่งจิ่วเหยียนหันหน้ามา ใบหน้านิ่งเฉยมองไปทางเซียวอวี้จู่ ๆ เขาก็บอกว่าตนเองจะกลับวังหลวง ไม่อธิบายล่วงหน้า กลับมาพูดเอาวันที่จะต้องจากไป ไม่ใช่เพราะตั้งใจ อยากเห็นนางลนลานหรอกหรือ“ไม่มีอะไรจะพูด” แววตาของนางสงบดั่งน้ำนิ่งสีหน้าของเซียวอวี้ตอนนี้ไม่น่าดูนักนางไร้น้ำใจเพียงนี้เชียวหรือ?เขาเริ่มสงสัยจริง ๆ แล้วว่านางเพียงต้องการร่างกายของเขาเท่านั้น!ระหว่างที่เซียวอวี้กำลังโศกเศร้านี้เอง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ถามกลับว่า“ไม่ใช่ว่าพวกเราไปทางเดียวกันหรือ?”เขากลับเมืองหลวง นางไปเมืองโบ๋วโจว ล้วนต้องลงใต้ทั้งคู่แบบนี้แล้วหากจะบอกลากันตอนนี้ ออกจะเร็วไปเสียหน่อยเซียวอวี้จึงได้สติกลับมา “เจ้าจะออกเดินทางไปกับเราหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าตอบ“แน่นอน การเดินทางไปเมืองโบ๋วโจวเป็นเรื่องด่วน”......เมื่อรู้ว่าจิ่วเหยียนจะไปแล้ว แม้ฮูหยินเมิ่งจะไม่อาจทำใจได้ ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรแต่ไหนแต่ไรมาเด็กคนนี้ก็ไปมาดุจลม อยู่ได้เพียงไม่นานคำพูดพร่ำบ่น นางก็ไม่คิดจะพูดแล้ว จึงส่งเค้กเกาลัดถุงหนึ่งให้เฟิ่งจิ่วเหยียนนำไปกินระหว่างทางเพื่อให้ง่ายต่อการเดินทาง เฟิ่งจิ่วเหย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 674

    สิ่งที่อยู่ในกล่องไม้หาใช่ถุงยางที่เฟิ่งจิ่วเหยียนคุ้นเคยไม่ แต่เป็นยาขวดหนึ่งยานี้...เป็นสิ่งที่อาจารย์หญิงทำเองเช่นกันนางชัดเจนในเรื่องนี้ดีนี่คือยาคุมกำเนิดสำหรับบุรุษ ที่หายากอย่างยิ่งเท่าที่นางรู้ อาจารย์หญิงทำขึ้นมาเพียงหนึ่งขวดเท่านั้นเมื่อบุรุษกินยานี้เข้าไปหนึ่งเม็ด ภายในหนึ่งวันไม่ว่าจะทำอย่างไร สตรีจะไม่มีทางตั้งครรภ์เด็ดขาด...ปฏิกิริยาตอบโต้แรกของเฟิ่งจิ่วเหยียนคือ...รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง!ทว่าในชั่วพริบตาที่นางกำลังจะเคลื่อนตัวหนี เซียวอวี้ก็คาดการณ์ได้ถึงความเคลื่อนไหวของนาง แขนเสื้อยาวโบกสะบัด พลังภายในกลายเป็นแรงผลักโครม!โครม!ประตูและหน้าต่างถูกปิดลงทั้งหมดแล้ว!ขณะเดียวกัน แขนของเขาก็ยื่นออกไปโอบเอวของนางเอาไว้“คิดจะหนีรึ?”สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนดูหงุดหงิดอยู่มากจากนั้นเซียวอวี้ก็ยกนางขึ้นไปพาดบนบ่า แล้วเดินอย่างมั่นคงไปยังเตียงตั่ง“ปล่อยข้านะ!”เซียวอวี้ตอบ “เจ้าพูดเอง การทหารไม่หน่ายกลอุบาย”เดิมทีเขาอยากให้เมิ่งฉวีออกหน้า ให้ฮูหยินเมิ่งทำถุงยางออกมาเพิ่มอีกหน่อยทว่าเมิ่งฉวีทำไม่สำเร็จฮูหยินเมิ่งกล่าวว่าคนหนุ่มสาวต้องรู้จักควบคุ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 673

    เฟิ่งเหยียนเฉินตกตะลึงอยู่นาน เขาไม่อาจทำใจเชื่อสิ่งที่ได้ยินเลยแม่เฟิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง“เป็นจิ่วเหยียน หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามท่านพ่อของเจ้า“เมิ่งสิงโจวตัวจริงตายจากไปนานแล้ว หลายปีที่ผ่านมาเป็นจิ่วเหยียนที่เสี่ยงชีวิตปลอมตัวเป็นเขา ทว่าผู้ที่สร้างความชอบทางการทหารตลอดมาล้วนเป็นจิ่วเหยียน น้องสาวของเจ้า”เมื่อเห็นท่านแม่สงบนิ่งเพียงนี้ มั่นใจถึงเพียงนี้ ลมหายใจของเฟิ่งเหยียนเฉินก็ช้าลง“ท่านแม่ จิ่วเหยียนมีความสามารถเพียงนี้จริงหรือ?”ปกป้องรักษาชายแดนเหนือเป็นเวลาเพียงสามปี นางก็กลายเป็นแม่ทัพน้อยเมิ่งที่ทำให้ศัตรูหวาดกลัวจนตัวสั่นผลงานการรบอันเลื่องลือที่นางสร้าง แม้แต่บุรุษยังยากที่จะทัดเทียมได้เขายังคิดว่าจากนี้จะต้องปกป้องน้องสาวทั้งสองคนให้ดีทว่าตอนนี้ดูไปแล้ว...เป็นน้องสาวที่ปกป้องเขา ปกป้องราษฎรของหนานฉีต่างหาก!ไม่นึกเลยว่าเขาจะมีน้องสาวที่เก่งกาจดุจเทพเช่นนี้!ชั่วขณะหนึ่งเขาก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมิน่าเล่าคราแรกที่เห็นฮองเฮาในวัง ถึงได้รู้สึกว่านางแผ่บรรยากาศที่แข็งแกร่งออกมา ไม่เหมือนเวยเฉียงที่เขาคุ้นเคยยามนั้นเขายังนึกว่าเป็นลักษณะอันน่าเกรง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 672

    “ท่านแม่! ท่านว่าอะไรนะ ข้ายังมีน้องสาวอีกคนรึ?!”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่อยากจะเชื่อน้องสาวอีกคนนึงของเขา เพิ่งเกิดได้ไม่นานก็ถูกส่งตัวออกไปแล้วที่ฮูหยินเฟิ่งบอกเขาก็เพราะหวังว่าบุตรชายจะได้รู้ว่าเขายังมีน้องสาวที่ต้องปกป้องอีกคนหนึ่งเฟิ่งเหยียนเฉินอึ้งไปครู่หนึ่ง“ท่านแม่ เดี๋ยวนะ เหตุใดคนที่แต่งกับฮ่องเต้แต่แรกถึงเป็นจิ่วเหยียน ไม่ใช่เวยเฉียงเล่า?“เช่นนั้นเวยเฉียงล่ะ? เวยเฉียงไปไหนแล้ว?”แววตาของฮูหยินเฟิ่งแฝงไปด้วยความโกรธแค้น“เป็นท่านพ่อของเจ้า สามีชั่วนั่น! เขาคิดว่าหลังจากเวยเฉียงถูกลักพาตัวไปก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่อาจเข้าวังไปเป็นฮองเฮาได้ จึงส่งเวยเฉียงออกไปเสีย ทั้งยังโกหกว่านางตายแล้ว! เขาหลอกพวกเราทุกคน!”“หากไม่ใช่เพราะจิ่วเหยียน ยามนี้เวยเฉียงจะเป็นหรือตายอยู่ข้างนอกก็ไม่รู้!”เฟิ่งเหยียนเฉินที่น่าสงสารถูกปกปิดจนไม่รู้อะไรเลย แม้แต่เรื่องที่เวยเฉียงถูกลักพาตัวไป สูญเสียความบริสุทธิ์ เขาก็เพิ่งได้รู้ความจริงเอาตอนนี้เขารู้สึกว่าในหัวมีแต่เสียงดังหึ่งหึ่งสวรรค์!ในช่วงที่เขาตกอยู่ในความกลัดกลุ้มนั่น ที่แท้ตระกูลเฟิ่งกลับเกิดเรื่องมากมายเพียงนี้เขาที่เป็นพี่ชาย ช่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 671

    ณ ค่ายเป่ยต้าสีหน้าของเมิ่งฉวีเขียวคล้ำ เขามองไปที่ฮ่องเต้เบื้องหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ“ฝ่าบาท ท่าน...” ตรัสว่าอะไรนะ ถุงยาง?ยังอยากให้ฮูหยินทำถุงยางให้มากหน่อย?จากที่เขารู้ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะทำให้ไปสิบอันหรอกหรือ?ใช้หมดเร็วขนาดนี้เลยหรือ?!เมิ่งฉวีอดไม่ได้ที่จะคิดว่า...หนุ่มแน่นช่างกำลังวังชาดีเสียจริงเซียวอวี้ไม่สะดวกที่จะพูดเรื่องนี้กับฮูหยินเมิ่ง จึงคิดจะพูดกับเมิ่งฉวีแทนถึงอย่างไรก็เป็นบุรุษด้วยกันเมิ่งฉวีรู้สึกลิ้นจุกปาก “ฝ่าบาท เรื่องนี้ยากนัก กับฮูหยิน กระหม่อมเองก็พูดไม่ออกพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้นั่งดื่มชาอยู่ในกระโจม ท่าทางดูผ่อนคลายสงบนิ่งเขากล่าวอย่างไม่ช้าไม่เร็วว่า“จิ่วเหยียนกับฮูหยินเมิ่งผูกพันดุจมารดาและบุตร นางต้องแต่งงานไปไกลถึงเมืองหลวง เราตัดสินใจว่าจะให้ฮูหยินเมิ่งติดตามไปด้วย”เมิ่งฉวี: !!!ฝ่าบาทจะมาพรากพวกเขาสามีภรรยาออกจากกันได้อย่างไร!นี่กำลังขู่เขาอย่างนั้นหรือ?……ณ จวนแม่ทัพเวยเฉียงกับสาวใช้นามไฉ่เยว่ย้ายมาอยู่ที่นี่ รู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่บ้างยังดีที่นางคุ้นเคยกับท่านพี่และฮูหยินเมิ่ง จึงไม่ถึงกับประหม่าฮูหยินเมิ่งสงสารที่เวยเฉี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 670

    วินาทีที่ถอดหน้ากากของนางออก เซียวอวี้เห็นนางยิ้มดั่งดอกไม้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนางยิ้มอย่างปล่อยตัว มีความสุขอาจเป็นเพราะดื่มจนเมา ทิ้งเกราะป้องกันตัว นางล้มสู่อ้อมกอดของเขา เกาะไหล่ของเขา แล้วลุกขึ้นมา“ข้าไม่ได้เมา...”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเดินยังไม่มั่นคง ยังบอกว่าไม่เมา?“ตงฟางซื่อส่งเจ้ากลับมา” เขาไม่ได้ถาม ทว่าเป็นการพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจหยิ่นลิ่วคอยปกป้องนางอยู่ตลอดตอนที่ตงฟางซื่อไปหาถึงเซียวเหยาจวี เซียวอวี้ก็รู้แล้วภายหลังนางตามตงฟางซื่อไปยังหอสุรา ดื่มสุราทานข้าวกับคนเหล่านั้น เขาก็รู้เขาอดกลั้นไม่ไปรบกวนนาง เพราะเขารู้ดี นั่นคือเพื่อนสนิทของนาง เป็นวิถีชีวิตของนางถึงแม้ว่านางกำลังจะแต่งงานกับเขา นั่นก็คือสิ่งที่นางไม่อาจทอดทิ้งทว่า นางเป็นสตรีผู้หนึ่ง ดื่มอยู่ข้างนอกจนดึกขนาดนี้ เหลวไหลเกินไปแล้วเซียวอวี้วางหน้ากาก จับปลายคางของนางไว้“ดื่มไปมากเท่าไหร่? ถึงได้เมาเป็นสภาพเช่นนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนคลี่มือของเขาออก แววตาเต็มไปด้วยความมัวหมอง ไม่เย็นชาเหินห่างเหมือนทุกวันที่ผ่านมา“ก็บอกแล้ว ข้าไม่ได้เมา”นางลุกขึ้น อยากหาน้ำดื่มทว่าเวลาถัดมา ตรงแขนมีแรง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 669

    ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ตงฟางซื่อยิ่งอยู่ยิ่งดำเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นมาต้อนรับ“เจ้ามาได้อย่างไร?”ตงฟางซื่อหรี่ตายิ้มแย้ม “ข้าได้เจอกับอู๋ไป๋ จึงถามเขาว่าเจ้าอยู่ที่ใด ไม่ใช่ว่าไม่ต้อนรับข้ากระมัง?”สหายเก่ามาพานพบ มิใช่เรื่องน่ายินดีหรือเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างจริงใจ “เป็นไปได้อย่างไร เชิญนั่ง”สายตาของตงฟางซื่อหันไปมองเฟิ่งเวยเฉียง เห็นนางหน้าตาเหมือนกับซูฮ่วน ก็เดารู้ว่าพวกนางเป็นพี่น้องกันเฟิ่งจิ่วเหยียนแนะนำให้เขารู้จัก“คนนี้คือน้องสาวข้า เวยเฉียง”“เวยเฉียง คนนี้คือคุณชายตงฟาง”ทั้งสองคนต่างผงกศีรษะเป็นการทักทายตงฟางซื่อพูดเข้าเรื่องทันที“เรื่องของหยางเหลียนซั่ว ข้าได้บอกพวกเหล่าฝานแล้ว ทุกคนกำลังตามสืบร่องรอยของเขา ข้ามาหาเจ้าในวันนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งจะปรึกษา”เฟิ่งจิ่วเหยียนให้เวยเฉียงกับต้วนเจิ้งกลับห้องไปก่อนเวยเฉียงพูดขึ้นมาด้วยเสียงเบา “ท่านพี่ คุณชายตงฟาง พวกเจ้าคุยกันตามสบาย”ต้วนเจิ้งกลับไม่ยอม“ข้าไม่ไป หยางเหลียนซั่วทำให้พี่ชายข้าตาย เป็นศัตรูของข้า ข้าจะไปตามหาเขาพร้อมกับพวกเจ้า แล้วก็ฆ่าเขา!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจ เพียงเร่งเร้าตงฟางซื่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 668

    เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ปิดบังแล้วนางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา“ท่านดูไม่ออกหรือ ข้าไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนั้น?”ตลก ผู้ลี้ภัย ลิงผอมตัวดำ! ตอนกลางวันเขาพูดว่านางเช่นนี้ !นางอยากยอมรับสิแปลก!เวลานี้ เซียวอวี้ก็คิดขึ้นมาได้ นางกำลังไม่พอใจอะไรที่แท้ก็อยากรักษาภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากยอมรับว่านางคือลิงน้อยคนนั้นเขาเสียใจอย่างมาก รีบพูดขอโทษขึ้นมา“เราผิดไปแล้ว ตอนนั้น...เรากลัวว่าเจ้าจะเข้าใจผิด จึงตั้งใจพูดแบบนั้น ความจริงแล้ว เราจดจำเจ้ามาตลอด วีรชนน้อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงศีรษะเล็กน้อย มองดูเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเซียวอวี้จูบบนหน้าผากของนาง จากนั้นก็หยิบผ้าแห้งผืนนั้นมา เช็ดผมที่เปียกให้กับนางด้วยตนเอง กระทำอยู่อย่างอ่อนโยน ราวกับในมือถือสิ่งของล้ำค่าเอาไว้“ปีนั้นเมืองซีซิ่นเกิดทุพภิกขภัย เราเพิ่งเข้าเมืองมาก็ถูกปล้นแล้ว ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายประชาชน โชคดีที่เจ้ามาปรากฏ เวลานี้เราพูดความจริง เจ้าในตอนนั้นถึงแม้ยังเด็ก ทว่าท่าทีขี่ม้า ดูสง่างามยิ่งกว่าบุรุษจริงๆ”“ไม่ใช่ตลกหรอกหรือ?” นางยังคงไม่ยิ้มแย้ม คำพูดแฝงไปด้วยความเหน็บแ

DMCA.com Protection Status