Share

บทที่ 342

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
เมื่อศิษย์พี่ศิษย์น้องมาพบหน้ากัน หาได้มีความอบอุ่นเหมือนเช่นเดิมอีกต่อไปไม่

เฉียวม่อเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่รู้เป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า

“ฮองเฮาเอ่ยเรียกตัวหม่อมฉันเข้าวังมาด้วยเรื่องอันใดกันหรือเพคะ?”

ภายในตำหนักที่มีเพียงคนสองคนเท่านั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า

“เรื่องราวในวันนี้ เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่?”

ใบหน้าเฉียวม่อที่ดูไร้เดียงสา “ฮองเฮาว่าอย่างไรนะเพคะ?”

ทันทีที่เฉียวม่อพูดจบ ฝ่ามืออันรุนแรงของนางก็พุ่งโจมตีไปที่หน้าอกของเฉียวม่อในทันที...

ผลัวะ

เฉียวม่อที่ถูกโจมตีนั้น ทั่วร่างของนางกระเด็นออกไปไหล แผ่นหลังของนางพุ่งไปชนกับเสากลมในทันที พร้อมทั้งคิ้วที่ขมวดเป็นปมไปด้วยความเจ็บปวด

ทว่า เมื่อได้เห็นท่าทีศิษย์พี่กำลังโกรธเกรี้ยวนั้น นางจึงหัวเราะออกมา

“ศิษย์พี่ เป็นท่านที่ทำร้ายข้าก่อน

“เป็นท่านที่เอาแต่กัดข้าไม่ปล่อย ทั้งยังจับตัวคนของข้าไป

“เช่นนี้ ข้าเพียงแต่ขอให้ท่านรับรู้เอาไว้ว่า ข้าหาใช่ลูกพลับนิ่มไม่… เรื่องราวในวันนี้ เป็นเพียงคำเตือนเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น

“หากว่าท่านยังมิคิดคืนคนของข้ามาละก็ ในคราหน้าข้ามิรับประกัน ว่าจักทำอะไรกับคนของตระกูลเฟ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (2)
goodnovel comment avatar
Somporn Songcram
ยืดเยื้อเหลือเกินไม่ลงเอยสักทีเริ่มถอดใจไม่อยากติดตามละ
goodnovel comment avatar
maybe vemnvvx
สมควร55555555 กุขำ สมน้ำหน้าเฉียวม่อ
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 343

    เซียวอวี้ใช้สายตาเย็นชาจ้องมองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน ราวกับพยายามจะมองให้ทะลุปรุโปร่งเฟิ่งจิ่วเหยียนยังมีท่าทีสงบเงียบ หาได้มีท่าทีตื่นตระหนกใด ๆ ไม่ในเมื่อนางเป็นถึงฮองเฮา เหตุใดนางถึงจะไม่ใช้อำนาจสิทธิพิเศษของฮองเฮาเล่า?หากจะลงโทษเฉียวม่อได้นั้น ด่านที่ต้องผ่านไปให้ได้ก็คือเซียวอวี้บางที เพียงแค่อาการบาดเจ็บของนางอาจจะยังไม่เพียงพอเฟิ่งจิ่วเหยียนที่เตรียมคำพูดของตนเองเอาไว้ ยามที่นางกำลังจะเปิดปาดกล่าวออกมานั้น กลับได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำของเซียวอวี้เอ่ยออกมาอย่างเสียงดังว่า“จับกุมเมิ่งเฉียวม่อเข้าคุก!”เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงกับเงียบไปในทันทีเขาจักตัดสินใจเช่นนี้จริง ๆ หรือ?ด้านนอกตำหนักเมื่อรู้ว่าฝ่าบาทต้องการจะลงโทษตนเองนั้น เฉียวม่อตกใจยิ่งนักนางที่เป็นขุนนางที่จงรักภักดีต่อแคว้นหนานฉี มิต้องเอ่ยถึงเรื่องที่นางมิได้เป็นคนลอบสังหารฮองเฮา ถึงแม้ว่านางจักทำจริง ๆ ฝ่าบาทก็มิอาจลงโทษนางเช่นนี้ได้ฝ่าบาทยังมิทันได้ฟังคำพูดของนางเลย เหตุใดถึงได้ตัดสินใจว่าคำพูดของฮองเฮาเป็นเรื่องจริงแล้วเล่า!“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันหาได้ทำการลอบสังหารไม่ หม่อมฉันมิได้ทำ!”ไม่ว่าเฉียวม่อจัก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 344

    เฟิ่งจิ่วเหยียนที่คิดว่าตนเองฟังผิดไปนั้นนางคือฮองเฮาทว่า หร่วนฝูอวี้คิดจะทำร้ายนางเมื่อใดกัน?ผู้ที่หร่วนฝูอวี้ต้องการจะลอบสังหารคือเซียวอวี้ต่างหาก!เฟิ่งจิ่วเหยียนวางไหสุราในมือลง ก่อนจะจ้องมองไปที่เซียวอวี้ พลางเอ่ยถามว่า“ท่าน แน่ใจหรือ?”เรียวคิ้วของเซียวอวี้พลันขมวดเข้าหากันในทันทีซูฮ่วนผู้นี้ มิได้กล่าวว่าตนเองสอบถามเรื่องราวทั้งหมดแล้วงั้นหรือเซียวอวี้ที่มีการเตรียมการมาก่อนแล้วนั้น พลันหยิบกล่องไม้ใบหนึ่งขึ้นมาด้านในเป็นแมงมุมพันร่างที่พวกเขาพบเจอภายในตำหนักหย่งเหอคืนนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกงุนงงยิ่งนักหร่วนฝูอวี้จักสังหารคนนั้น นางฆ่าหนึ่งคน แถมอีกคนขึ้นมาเมื่อใดกัน!อีกทั้ง เซียวอวี้พบแมงมุมพันร่างในตำหนักหย่งเหอได้อย่างไร?จู่ ๆ เฟิงจิ่วเหยียนก็จำได้ในทันที งานเลี้ยงวันเกิดของเขาในคืนนั้น เขาเคยเรียกนางไปที่ตำหนักจื่อเฉินหรือว่าจะเป็นตอนนั้นกัน...ดวงตาของเซียวอวี้ที่พาดผ่านไปด้วยความเย็นชานั้น ราวกับว่าเรื่องนี้มิอาจหารือเจรจาต่อไปได้อีกหลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนสงบสติอารมณ์ของตนเองแล้ว“สืบเรื่องต้องให้ลึกถึงตอ นั่นคือสงครามชายแดนระหว่างสองแคว้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 345

    “หร่วนฝูอวี้ เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนเช่นใดกัน!”นางจักไปเป็นนายบำเรอได้อย่างไร!หร่วนฝูอวี้หาได้ฟังคำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ สายตายังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟัน“ข้าว่าแล้ว จักต้องเป็นสารเลวผู้นั้นที่แย่งชิงท่านไป!”หร่วนฝูอวี้เป็นคนแรกที่เรียกขานฝ่าบาทว่าสารเลวผู้นั้นไม่ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนจักเอ่ยปฏิเสธเพียงใด หร่วนฝูอวี้หาได้ฟังเข้าหูนางไม่ทั้งยังคิดว่าสิ่งที่ตนเองคิดเป็นเรื่องที่ถูกต้องอีกด้วย“เจ้ากล่าวว่าตนเองชอบบุรุษ อีกทั้งฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ข้าได้ยินมาว่าเขามิใคร่ชื่นชมสตรีเท่าใด อีกทั้งตำหนักในวังหลัง หาได้มีหวงกุ้ยเฟยไม่ เกรงว่าเขาคงใช้นางสนมเหล่านั้นเป็นฉากหน้า และคอยเก็บซ่อนชายบำเรอเช่นเจ้าเอาไว้อย่างแน่นอน!”ความคิดที่ผิดแปลกของหร่วนฝูอวี้กลับพูดถูกออกมาครึ่งหนึ่งยิ่งเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินคำว่า “สารเลว” และ “ชายบำเรอ” จากปากของนางแล้วนั้น นางถึงกับหมดคำจะพูด“เจ้า……”ทว่า ยามที่หร่วนฝูอวี้กำลังมีอารมณ์ดุเดือดเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนย่อมมิอาจเอ่ยแทรกอันใดเข้าไปได้“เป็นเพราะสารเลวผู้นั้นหลอกลวงเจ้า! สามปีที่ผ่านมาของเจ้านั้น... เจ้าผ่านมันมาได้อย่างไร…”ยิ่งพูดมาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 346

    จดหมายของอาจารย์หญิงที่ส่งมานั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งใจอ่านตัวอักษรทุกตัวมิให้ตกหล่นแม้แต่ตัวเดียวแววตาของนางค่อย ๆ เย็นยะเยือกลง ราวกับธารน้ำแข็งที่มิมีวันละลายหายไปทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิด เป็นฝีมือของเฉียวม่อจริง ๆ ด้วย!เฟิ่งจิ่วเหยียนกำจดหมายเอาไว้แน่น สีหน้าของนางแสดงถึงความโกรธเกรี้ยวออกมาอย่างปิดไม่มิดนางอยากจะรีบวิ่งไปที่คุกหลวงเพื่อสังหารเฉียวม่อให้ตายคามือทว่า สติกลับเอาชนะความเลือดร้อนในกายของนางเอาไว้ได้ ยิ่งเป็นช่วงเวลาเช่นนี้ นางยิ่งแต่ต้องเก็บงำอารมณ์กรุ่นโกรธของตนเองเอาไว้หากมิมีแผนการรับมือนั้น ย่อมมิอาจลงมือบุ่มบ่ามได้แม้จักสังหารเฉียวม่อลงไปแล้วก็ตาม ก็มิอาจทำให้นางถูกโทษทัณฑ์ใด ๆ ได้อยู่ดีเรื่องกองทัพมังกรพยัคฆ์ถูกลวงไปสังหาร เหตุการณ์ของเวยเฉียง บัญชีแค้นทั้งหมดนี้ นางจะต้องให้เฉียวม่อชำระคืนทีเดียวเลย!เนื้อหาในจดหมายที่อาจารย์หญิงส่งมานั้น ยังเอ่ยถึงจางฉี่หยางอีกด้วยเขาช่างเป็นคนกล้าหาญชาญชัยยิ่งนัก ขาดเพียงโอกาสที่จะให้เขาได้สร้างผลงานทั้งอาจารย์และอาจารย์หญิงต่างก็รับรู้แผนการของนางเป็นอย่างดี ทั้งยังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยฝึกฝนจางฉี่หยา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 347

    เมื่อเผชิญหน้ากับการชี้ตัวของนางกำนัลนั้น หนิงเฟยจึงได้แต่ต้องปฏิเสธออกมา“ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันหาได้รู้จักนางไม่เพคะ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเงยหน้าขึ้น ก่อนจ้องมองมาด้วยแววตาเฉียบคม“ยังมิถึงคราวที่เจ้าจักต้องพูดออกมา”นางกำนัลผู้นั้นพลางชำเลืองมองหนิงเฟย ก่อนจะรีบก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว พลางหลับตากล่าวออกมาว่า“เป็นหนิงเฟยที่ซื้อตัวบ่าวมาเพคะ ทั้งยังสั่งให้บ่าวช่วยนำพิษหอมที่ทำให้สตรีมิอาจตั้งครรภ์ได้ใส่ลงไปในของขวัญที่จิ้งเฟยจัดเตรียมเป็นของขวัญมอบให้กับฮองเฮาเพคะ…”“ไร้สาระ!” หนิงเฟยหันมาตวาดนางกำนัลด้วยความโกรธเกรี้ยวหนิงเฟยรีบเอ่ยแก้ตัวออกมาในทันที“ฮองเฮาเพคะ ท่านมิสามารถเชื่อเพียงลมปากของบ่าวไพร่แล้วคิดว่าหม่อมฉันมีฐานความผิดเช่นนี้นะเพคะ“สิ่งที่นางกำนัลผู้นี้กล่าวออกมานั้น หม่อมฉันหาได้เคยทำไม่!”นางกำนัลผู้นั้นมิอาจนำหลักฐานอื่น ๆ ออกมาได้แล้วนางจึงทำได้เพียงแต่ใช้หัวโขกลงบนพื้นเพื่อคำนับซ้ำแล้วซ้ำเล่า“ฮองเฮาเพคะ บ่าวสมควรตายเพคะ ทุกอย่างเป็นสิ่งที่หนิงเฟยเอ่ยสั่งการให้บ่าวกระทำเพคะ! หากหม่อมฉันพูดปดแม้แต่เพียงเล็กน้อย ขอให้ฟ้าผ่าตายได้เลยเพคะ!”น้ำเสียงของเฟิ่งจิ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 348

    “หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”เซียวอวี้เข้ามาช่วยพยุงเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยตัวเอง “มิจำเป็นต้องมากพิธี”ทันทีที่เซียวอวี้จับไปที่แขนของนางนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงท่าทีต่อต้านของเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ในทันทีเนื่องจากนางพยายามหลีกเลี่ยงเขาด้วยท่าทีที่เป็นธรรมชาติคิ้วของเซียวอวี้ขมวดคิ้วลงครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมาเป็นดังเดิมเดิมทีฮองเฮาก็มิชอบเข้าหาผู้อื่นหรือใกล้ชิดผู้อื่นอยู่แล้ว เกรงว่านี่คงเป็นเรื่องราวที่ฝังใจของนางก่อนหน้านั้นกระมัง“วันนี้เป็นวันเกิดของเจ้า เราย่อมต้องมาอยู่กับเจ้า”เดิมทีเฟิ่งจิ่วเหยียนควรจะโค้งคำนับขอบคุณสำหรับความโปรดปรานที่ฝ่าบาทมีให้แก่นางหากแต่นางกลับแน่นิ่งไปเฉย ๆ ในความทรงจำของนางพลันมีเสียงดังขึ้นมาว่า – “จากนี้ไปวันเกิดของเจ้านั้น ข้าจักมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงรีบร้อนควบคุมอารมณ์ที่เกิดขึ้นมาในทันที“ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”เซียวอวี้ที่เห็นว่านางมีท่าทีผิดปกติไปนั้น ก็หาได้เอ่ยถามอันใดให้มากความไม่ยามเช้าเขาได้สั่งให้คนนำของขวัญมามอบให้นางไปแล้ว ล้วนแต่เป็นสิ่งของล้ำค่าและเครื่องประดับราคาแพงทั้งนั้นทว่า ในยามนี้เองหลิวซื่อเหลียงก็ได

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 349

    การเคลื่อนไหวของเซียวอวี้หยุดชะงักไปเล็กน้อยความอ่อนโยนที่เกิดขึ้นเมื่อครุ่พลันกลายเป็นความหนาวเย็นในทันทีเซียวอวี้จ้องมองไปที่นาง“เราเป็นบุรุษ ก็แค่นั้น”พูดจบ เซียวอวี้ก็ก้มหน้าลงมาจูบนางหากว่ากันตามตรงแล้วหาใช่เป็นการจูบไม่ เซียวอวี้กัดลงมาที่ริมฝีปากของเฟิ่งจิ่วอวี้ถึงสองครั้ง พร้อมกับผละออกมาในใจของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวหลังจากที่เซียวอวี้ผละตัวออกมานั้น นางก็จับชายเสื้อของเขาเอาไว้ ก่อนจะกัดริมฝีปากเขากลับไปอย่างไม่ไยดีเซียวอวี้ตัวแข็งทื่อไปในทันที ราวกับถูกสกัดจุดก็ไม่ปานเฟิ่งจิ่วเหยียนกัดเข้าไปเต็มแรง จนทำให้เลือดออกใบหน้าของเซียวอวี้พลันมืดครึ้มไปในทันทีน่าตาย!สตรีบ้าผู้นี้!เซียวอวี้จับหลังคอของนางเอาไว้เพื่อที่จะสั่งสอนนางให้หลาบจำเฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้มีท่าทีเกรงกลัวเขาไม่หากเขากล้าทำอีกละก็ นางจะกัดให้ปากเขาเต็มไปด้วยเลือดเสีย!ทันใดนั้น ด้านนอกพลันมีเสียงเคาะประตูของเฉินจี๋ดังเข้ามา พร้อมกับน้ำเสียงที่ร้อนรน“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมมีเรื่องสำคัญที่จะต้องรายงานแก่พระองค์!!”เซียวอวี้จึงยอมลามือเขาเดินออกจากตำหนักไปแล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 350

    เฟิ่งจิ่วเหยียนที่กำลังตรวจสอบศพของสายลับอย่างละเอียดนั้น พลันพบรอยสักเล็ก ๆ ที่ด้านในของแขนเขาหากมองผ่าน ๆ มิได้สังเกตนั้นย่อมคิดว่าเป็นปานเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงวาดลวดลายรอยสักนั้นบนกระดาษในทันที มันคล้ายกับรูปร่างของอสรพิษที่กำลังขดตัวลวดลายนี้ ราวกับนางเคยพบเห็นที่ไหนมาก่อนหากแต่นางจำมิได้แล้วหลังจากที่สอบถามจากทุกฝ่ายแล้วนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่านี่คือสัญลักษณ์เดิมของแคว้นจ้าวแคว้นจ้าวนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแคว้นหนานฉี หลังจากประวัติศาสตร์ผ่านพ้นไปกว่าสิบชั่วอายุคนนั้น สัญลักษณ์เดิมของแคว้นจึงค่อย ๆ เปลี่ยนไปผู้ที่ยังคงรักษาสัญลักษณ์เดิมเอาไว้นั้นก็คือจิ้งอ๋องแห่งแคว้นจ้าวที่แตกแยกออกมา“รองผู้นำพันธมิตรขอรับ เมื่อมองดูเช่นนี้แล้ว สายลับผู้นี้ย่อมเป็นคนของแคว้นจ้าวอย่างแน่นอน!” เถ้าแก่ร้านรับจำนำผิงอันพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีโล่งใจนับว่าสายตาเฉียบคมมีแววยิ่งนักนั่นเป็นเพราะสายตาของรองผู้นำพันธมิตรที่มีความเฉียบคมหากเป็นสายตาของเฒ่าชราเช่นเขาละก็ คงมิมีทางหาเจออย่างแน่นอนเมื่อมีเบาะแสแล้วนั้น เรื่องราวก็สามารถจัดการได้ง่ายขึ้นเฟิ่งจิ่วเหยียน

Pinakabagong kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1205

    ขณะที่องค์หญิงเซี่ยนอี๋กำลังถือพู่หยกอย่างพึงพอใจ ทันใดนั้นชายหนุ่มก็บีบคอของนาง  จนโซ่ที่ล่ามไว้ส่งเสียง“อึก!” นางพลันเบิกตากว้างไหนเสด็จพี่สี่บอกว่า ฮ่องเต้ฉีสูญเสียพลังภายในไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?เดิมทีเซียวอวี้คิดจะให้ความร่วมมือนาง เพื่อให้นางช่วยตัวเองหนีออกไปจากที่แห่งนี้ทว่า เขาประเมินความอดทนของตัวเองไว้สูงเกินไปเขาทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ!นางกล้าเอาพู่หยกนั้นไป!หลังจากเซียวอวี้บีบคอนาง นางก็พยายามชูพู่หยกไปด้านหลัง ไม่ยอมคืนให้เขาแต่ด้วยแรงมือของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ นางใกล้หมดลม แขนจึงหลุบลงเช่นนี้ เซียวอวี้จึงแย่งพู่หยกกลับมาได้ จากนั้นก็สะบัดนางออก ราวกับเพิ่งจับสิ่งของสกปรกมา ทั้งยังพูดอย่างไม่รักษาน้ำใจ“ไสหัวไป!”องค์หญิงเซี่ยนอี๋ได้รับความรักมาตั้งแต่เด็ก ไฉนเลยจะเคยถูกดูแคลนขนาดนี้นางไม่ยอม จึงจ้องเซียวอวี้ตาเขม็ง“ท่านจะต้องเสียใจ! นอกจากข้า ก็ไม่มีผู้ใดช่วยเจ้าออกไปจากที่นี่ได้!”เซียวอวี้ไม่สนใจนางอีกหากเพื่อหนีออกไป แล้วต้องร่วมเออออห่อหมกไปกับผู้หญิงคนนี้ เขากลัวสกปรกองค์หญิงเซี่ยนอี๋ถูกทำลายศักดิ์ศรี ลุกขึ้น แล้วยิ้มเยาะ“ท่านลำพองใจอะไรนัก? เป็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1204

    องค์ชายสี่อ่านความคิดขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ออก จึงมีสีหน้าเคร่งขรึม“คนที่ขังอยู่ในนั้นคือใคร เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ต่อให้เสด็จพ่อจะตามใจเจ้าแค่ไหน ก็ไม่มีทางมอบเขาให้เจ้าแน่ เซี่ยนอี๋ เจ้าเลิกคิดเถิด”“หากท่านไม่บอก พรุ่งนี้ข้าจะมาอีก!” องค์หญิงเซี่ยนอี๋กอดอก พูดข่มขู่องค์ชายสี่กลัวเหลือเกินว่านางจะมาสร้างเรื่องวุ่นวายยัยเด็กนี่ดื้อรั้นมาตั้งแต่เด็ก ไม่ถึงเป้าหมายก็จะไม่ยอมหยุดครุ่นคิดอยู่นาน องค์ชายสี่ก็ตัดสินใจบอกนาง“นั่นคือฮ่องเต้ฉี คนที่เสด็จพ่อใช้ความพยายามอย่างมากในการจับตัวมา”ให้นางรู้ถึงตัวตนของคนผู้นั้น นางจะได้หวาดกลัวองค์หญิงเซี่ยนอี๋เบิกตาอ้าปากค้างในทันที จากนั้นใบหน้าก็ก่อเกิดริ้วแดง“เขาคือ…”นางไม่อยากจะเชื่อชื่อเสียงของฮ่องเต้หนุ่มจากหนานฉี นางเคยได้ยินมาเป็นเวลานานแล้วครั้งนี้ได้มาเจอ ช่างหล่อเหลาโดดเด่นอย่างที่ร่ำลือกันไม่มีผิดดูดีกว่าบรรดาราชบุตรเขยที่เสด็จพ่อให้นางเลือกเสียอีกและยังเป็นคนน่าเกรงขามถึงเพียงนั้น…องค์หญิงเซี่ยนอี๋จับชายเสื้อขององค์ชายสี่อย่างตื่นเต้น “เสด็จพี่ เสด็จพี่คนดีของข้า ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเรื่องสำคัญของท่านกับเสด็จพ่อเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1203

    วังหลังเหล่าสนมต่างเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับราชสำนักส่วนหน้ามาบ้าง“ฮองเฮาจะให้เด็กเล็กขนาดนั้นขึ้นครองราชย์จริงหรือ? ช่างเละเทะเสียจริง!”“เห็นได้ชัดว่าหวังเพื่อควบคุมโอรสสวรรค์!”“นี่ก็เป็นส่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มิใช่หรือ ในเมื่อเหล่าขุนนางต่างพากันกดดันอย่างหนัก และยังมีทายาทในราชวงศ์ที่ไม่อยู่นิ่งอีกด้วย…”“ใช่สิ หากฮองเฮาไม่ทำเช่นนี้ พวกเราก็จะเดือดร้อนด้วย หากมีฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์  สิ่งแรกที่จะทำต้องเป็นการจัดวังหลังใหม่เป็นแน่”พวกนางกังวลเกี่ยวกับผลสรุปของราชสำนักส่วนหน้าหลังจากรอคอยอยู่หนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็มีขันทีมารายงาน——องค์ชายน้อยได้ขึ้นครองบัลลังก์มังกรสำเร็จแล้ว แต่ยังมีคนยึดติดเรื่องฝาแฝดไม่ยอมปล่อยวาง บังคับให้ฮองเฮาต้องสังหารองค์ชายอีกองค์ทิ้งเมื่อเหล่านางสนมได้ยิน ก็เริ่มเป็นห่วงฮองเฮาขึ้นมาในฐานะเป็นแม่ จะทำใจทิ้งลูกแท้ ๆ ได้อย่างไร?ขุนนางใหญ่เหล่านั้นทำมากเกินไปแล้ว!ทว่า ฝาแฝดก็เป็นปัญหาจริง ๆ ไม่รู้ว่าฮองเฮาจะรับมืออย่างไรไม่นาน ก็มีขันทีมารายงานอีก“พระนางทุกท่าน เหล่าขุนนางได้สลายตัวแล้ว!”นางสนมทั้งหลายแปลกใจอย่างมากทำไมสลายต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1202

    เฟิ่งจิ่วเหยียนอุ้มลูก ยืนอยู่บนที่สูง แววตาสุขุมแน่วแน่“หากข้าอยากว่าราชการหลังม่าน แล้วเหตุใดจะไม่ได้?”เมื่อคำนี้พูดออกมา ทุกคนต่างส่งเสียงเกรียวกราว“ฮองเฮา ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับให้แม่ไก่มาขันในตอนเช้า นั่นฝ่าฝืนกฎเกณฑ์!”“ขออภัยกระหม่อมขอคัดค้าน!”ไทฮองไทเฮามีสีหน้าโรยรา มองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียน แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอาฮองเฮาทำเช่นนี้ มันเสี่ยงมากเกินไปพูดตรงขนาดนี้ ขุนนางคนไหนจะยอมรับได้?เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น จึงวางองค์ชายลงบนบัลลังก์“ไม่ต้องกล่าวถึงว่าฝ่าบาทยังไม่เสด็จสวรรคต ถึงแม้ว่าท่านเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็ยังมีองค์ชายสืบราชบัลลังก์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงเวลาสำหรับทุกท่านหรอก“วันนี้พวกเจ้าต่างพูดกันเซ็นแซ่ ราวกับอยากวางแผนชิงบัลลังก์เลยนะ!”ทหารคนหนึ่งโต้กลับไปอย่างฮึกเหิม“ฮองเฮา พวกกระหม่อมบริสุทธิ์ใจ กลับถูกท่านหยามเกียรติเช่นนี้! พวกกระหม่อมไม่ยอม!”ท่านอ๋องผู้หนึ่งมองไปทางไทฮองไทเฮา“เสด็จย่า ท่านพูดอะไรบ้างสิ!”เด็กทารกจะไปทำอะไรได้? คุ้มครองแผ่นดินไหวหรือ?จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็บอกว่าปวดหัว แล้วให้สาวใช้ประคองตัวเองออกไปเหล่าท่านอ๋องต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1201

    แคว้นหนานฉีณ เมืองหลวงเรื่องที่ฮองเฮากลับวัง และให้กำเนิดฝาแฝด ใต้หล้าต่างรู้กันถ้วนหน้าอย่างรวดเร็วในวังหลวง ไทเฮาทั้งดีใจที่องค์ชายถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งกังวลเรื่องฝาแฝดนางเรียกฮองเฮามาที่ตำหนักฉือหนิง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับอีกฝ่าย“หากราชวงศ์มีฝาแฝด โดยเฉพาะองค์ชาย เช่นนั้นก็ต้องส่งคนหนึ่งออกไปนอกวัง“ฮองเฮา ข้ารู้ ไม่ว่าจะหน้ามือหรือหลังมือล้วนคือเลือดเนื้อ แต่เพื่อราชวงศ์ เจ้าต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด”ขนาดตอนนั้นตระกูลเฟิ่งมีลูกแฝดยังทอดทิ้งหนึ่งคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ใบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ กล่าวเหมือนไม่ได้ยิน“เด็กทั้งสองคน จะไม่มีใครถูกส่งออกไปทั้งนั้น”เซียวอวี้เองก็เคยพูด เขาจะปกป้องลูกของตัวเองไทเฮารู้เป็นอย่างดีว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กฎก็เป็นเช่นนี้“ฮองเฮา อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลย แม้นข้าจะยินยอม ขุนนางใหญ่เหล่านั้นก็คงไม่ยอมอยู่ดี“วันนี้อยากให้เจ้าเตรียมพร้อม“สุดท้ายเจ้าก็ต้องตัดสินใจ”วังหลังเหล่านางสนมรวมตัวกัน ต่างคนต่างมีความคิดแตกต่างกัน“มีคนบอกว่าฝ่าบาทเกิดเรื่อง  จริงหรือไม่?”“มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1200

    เซียวอวี้ที่ยังคงคอพับไร้เรี่ยวแรง ยกยิ้มเย็นที่มุมปากอย่างถากถางเขาไม่พูดอะไร ท่าทางทะนงองอาจคนที่อยู่ตรงหน้าแนะนำตัว “ข้าคือองค์ชายสี่แห่งแคว้นเป่ยเยี่ยน ครั้งนี้มาเป็นตัวแทนของเสด็จพ่อ เพื่อแสดงไมตรีในฐานะเจ้าบ้านต่อฮ่องเต้หนานฉี”เมื่อองค์ชายสี่มองส่งสัญญาณ ข้ารับใช้ก็นำอาหารเข้ามาเซียวอวี้ไม่แม้แต่จะมององค์ชายสี่มีความอดทน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม“ฮ่องเต้หนานฉี พวกเราแคว้นเป่ยเยี่ยนเชิญท่านมาเป็นแขกด้วยความจริงใจ“เพียงแต่ข้างนอกอันตรายเกินไป จึงได้แต่จัดให้ท่านอยู่ที่นี่“ท่านวางใจเถิด รอให้แคว้นเป่ยเยี่ยนขับไล่กองทัพแคว้นหนานฉีออกไปจนได้ดินแดนที่สูญเสียไปคืนมา ย่อมปล่อยตัวท่านกลับไป”ริมฝีปากบางของเซียวอวี้ยิ้มเยาะเบา ๆพูดเสียดูดี ที่จริงก็แค่เอาเขาเป็นตัวประกัน ทำให้กองทัพแคว้นหนานฉีต่อต้านไม่ได้ก็เท่านั้นองค์ชายสี่เห็นเขาเยือกเย็นเพียงนี้ จึงขอตัวไปก่อนทว่าเมื่อออกมาด้านนอก องค์ชายสี่ก็พูดอย่างเย้ยหยัน“ตกเป็นเชลยแล้วยังจะโอหังเพียงนี้!”ที่ปรึกษาที่อยู่ข้างกายเขาพูด“องค์ชาย ฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ได้ยินว่าฮ่องเต้หนานฉีผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1199

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพรวมเป็นสำคัญ จึงต้องกลับแคว้นหนานฉีก่อนอู๋ไป๋วิตกกังวล“ท่านประมุข กระหม่อมกลัวว่านักฆ่าพวกนั้นจะลงมือกับท่านด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าท่านประมุขเพิ่งจะคลอดลูก จะทนรับแรงสั่นสะเทือนจากการเดินทางได้เช่นไร?สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“กลับแคว้นหนานฉี”ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ต้องกลับไปกลัวก็กลัวแต่ เป้าหมายของนักฆ่าพวกนั้นคือก่อกวนแคว้นหนานฉี นางจะปล่อยให้พวกเขาสมหวังไม่ได้เด็ดขาดก่อนที่จะตามหาเซียวอวี้เจอ นางจะต้องช่วยเขาปกป้องแคว้นหนานฉีเอาไว้ให้ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดการเรื่องในแคว้นซีนี่ว์ไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงว่าจะจัดการขับไล่กองทัพแคว้นเป่ยเยี่ยนอย่างไร ไปจนถึงผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นคนใหม่ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ประมุขคนใหม่ใช้อำนาจอย่างเผด็จการ นางจึงจัดตั้งนโยบายสามประมุขขึ้นในบรรดาสามคนนี้ มีคนหนึ่งเป็นบุรุษทำเช่นนี้จะได้ปลอบโยนเหล่าบุรุษในแคว้นซีนี่ว์ ป้องกันไม่ให้พวกเขาสร้างเรื่องวุ่นวายอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนออกเดินทางกลับแคว้นหนานฉีอย่างรวดเร็วแม้ว่าหูย่วนเอ๋อร์จะตัดใจไม่ลง ทว่านางก็รู้ดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1198

    ประตูตำหนักเปิดออก นางกำนัลเดินออกมาจากด้านในแล้วพูดกับหูย่วนเอ๋อร์: “ท่านแม่ทัพ ท่านประมุขคลอดองค์ชายพระองค์หนึ่งออกมาอย่างปลอดภัยเพคะ”ที่แคว้นซีหนี่ว์ มีเพียงองค์หญิงเท่านั้นที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขได้ ดังนั้นองค์ชายผู้นี้จึงไม่เป็นที่ต้องการทว่าหูย่วนเอ๋อร์ยังคงรู้สึกขอบคุณสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง“องค์ชายก็ดี ปลอดภัยก็ดีแล้ว”ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสายเลือดเชื้อพระวงศ์เพิ่งจะพูดจบ หมอตำแยข้างในก็ร้องตะโกนอย่างตกใจ“ยังมีอีกพระองค์หนึ่ง!”ที่แท้ท่านประมุขก็ทรงตั้งครรภ์ฝาแฝดนี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคนแววตาหูย่วนเอ๋อร์มีความยินดีและการเฝ้ารอพาดผ่านหวังว่าจะเป็นแฝดชายหญิงหากเป็นองค์หญิง อนาคตย่อมสามารถสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นได้ภายในตำหนักเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกไม่ถึงว่าคลอดออกมาแล้วคนหนึ่ง แล้วยังมีอีกคนโชคดีที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังใช้แรงไปไม่หมดก่อนหน้านี้เป็นเพราะตำแหน่งครรภ์ไม่ตรงจึงคลอดยากคนที่สองนี้กลับคลอดง่ายกว่ามาก ทว่าตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกอะไรแล้ว นางเจ็บปวดจนชาไปหมดแล้ว ร่างกายส่วนล่างบวมเสียจนเหมือนว่าเนื้อส่วนนั้นไม่ใช่ของนางอีกต่อไปจนกร

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status