Share

บทที่ 23

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ฮ่องเต้เสด็จมาที่ตำหนักหย่งเหออย่างกะทันหัน เหลียนซวงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“ฝ่าบาทเสด็จมาทำอันใดกัน?”

สีหน้าที่ซุนหมัวมัวมองนางราวกับเห็นคนต่างเผ่า

“เจ้าไม่ทราบจริง ๆ หรือ? ตอนกลางวันฮองเฮาเราพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะรับความโปรดปราน ตกกลางคืนกลับให้นางสนมเจียงไปปรนนิบัติแทนฮองเฮา นี่ไม่ใช่แสดงอย่างชัดเจนว่ากำลังปั่นหัวฮ่องเต้อยู่รึ

“ฮ่องเต้เป็นถึงจักพรรดิ! จะทนเรื่องเช่นนี้ไหวได้อย่างไรกัน!”

“ฮองเฮา ท่านรีบเปลี่ยนอาภรณ์เถิด ชะตาชีวิตของพวกหม่อมฉันอยู่ในฝ่ามือของท่านนะเพคะ!”

เฟิ่งจิ่วเหยียน: ?

“เปิ่นกงได้กล่าวเมื่อใดว่าจะปรนนิบัติ!”

นางเสียสติไปแล้วกระมัง!

ซุนหมัวมัวเองก็สับสนงงงวย

หรือว่านางคิดผิดไป?

ทว่าไม่ใช่นางคนเดียวที่คิดเช่นนี้!

อย่างไรเสียในวังนี้ ใคร ๆ ก็ต้องแย่งชิงความโปรดปรานเพื่อตัวเองทั้งนั้น จะให้โอกาสคนอื่นมาแย่งปรนนิบัติได้อย่างไรกัน สมองทึบหรือกระไร?

เรื่องราวพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ซุนหมัวมัวคนเดียวที่คิดต่าง

ค่ำคืนดึกดื่น พวกนางสนมที่นอนไม่หลับอยู่แล้ว หลังจากได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนักจื้อเฉิน ต่างพากันตะลึงงัน

“อะไรกัน? คนที่ปรนนิบัติไม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (5)
goodnovel comment avatar
FDR🙈🐒
สนมอะไรก่อน ฮองเฮาจ้ะ ฮองเฮา หนูลูกกกก บรรทัดรองสุดท้ายหน่ะ เห้อ
goodnovel comment avatar
Chanyanut Saenkam
สนุกกๆๆๆๆมากคืออ่สนแล้วไม่อยากวางอะ
goodnovel comment avatar
Kaewkalaya Na
มีกี่ตอนจบ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 24

    เป็นเขาได้อย่างไรกัน!เฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าสงสัย เหงื่อออกตามมือเล็กน้อยคนที่อยู่ตรงหน้า หน้าตาเหมือนกับบุรุษที่นางเคยประลองมือในวันนั้นทุกกระเบียดนิ้ว!ไม่สิ พูดให้ถูกต้องก็คือพวกเขาคือคนเดียวกันต่างหาก!ใบหน้าหล่อเหลาเช่นเดียวกัน แววตาลึกลับ และยังมีรังสีอาฆาตที่คมคาย...หลังจากที่ประลองมือครั้งแรก นางคิดเองเออเองว่าเขาเป็นองครักษ์ในวังความจริงแล้ว เขาเป็นถึงฮ่องเต้เซียวอวี้!ทว่า จักรพรรดิที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี คิดไม่ถึงเลยว่าศิลปะการต่อสู้จะเก่งกาจขนาดนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนจำเซียวอวี้ได้ ทว่าเซียวอวี้กลับไม่รู้ คนตรงหน้าผู้นี้เป็นนักฆ่าสาวที่เขาเคยประลองมือมาแล้วสองครั้ง“ฮองเฮาจะจ้องเราไปตลอดเลยหรือกระไร” เซียวอวี้พูดอย่างไม่เป็นมิตรเฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งสติทันที หลุบสายตาลง“โปรดอภัยที่หม่อมฉันเสียมารยาท”ภายนอกของนางดูสงบนิ่งเป็นปกติ ความจริงแล้วในใจยังคงมีความประหลาดใจอยู่นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวอวี้ได้มองหน้านางในระยะใกล้เช่นนี้ครั้งก่อนที่เห็นนาง คือตอนที่นางควบม้าไปช่วยไทเฮา เขายืนอยู่ที่สูง มองจากไกล ๆ ...ทันใดนั้น นิ้วเรียวยาวของเซียวอวี้อันเย็นยะเยือกเชิดค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 25

    เฟิ่งจิ่วเหยียนที่ถูกบีบคออยู่ สีหน้าเริ่มซีดเซียว“เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่จดหมายตระกูลกล่าวถึง...”“จดหมายตระกูล?” เซียวอวี้ไม่เชื่ออย่างแน่นอนเขาสั่งให้นางนำสิ่งที่เรียกว่าจดหมายตระกูลฉบับนั้นออกมาซุนหมัวมัวที่อยู่ด้านนอกตกตะลึงตาค้างมีจดหมายตระกูลที่ใดกัน?พอหันกลับไป...คุณพระ นางเสียขวัญ!เด็กเหลียนซวงนี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?และในมือของนางถืออะไรอยู่?เหลียนซวงไม่สนใจซุนหมัวมัวที่ยืนแข็งเป็นหิน ตาลีตาเหลือกเดินเข้าในตำหนัก“ฝ่าบาท นี่เป็นจดหมายที่นายท่านส่งมาวันนี้”เซียวอวี้ปล่อยมือ เปิดดูด้วยตนเองนี่เป็นจดหมายที่บิดาเขียนให้ลูกสาว——“ลูกเวยเฉียง จดหมายของเจ้าก่อนหน้านี้ ภายใต้ความรับผิดชอบของฮองเฮา จะห่วงใยเหล่านางสนมราวกับเป็นพี่น้อง ทำให้พ่อรู้สึกสบายใจ ได้สืบทราบเรื่องบางอย่างที่เกี่ยวงข้อง หวังว่าจะช่วยเหลือเจ้าได้...”เนื้อหาหลังจากนี้ไม่เพียงแต่พูดถึงนางสนมเจียงเท่านั้น ยังกล่าวถึงนางสนมคนอื่นอีกด้วยทว่าใจความสำคัญของจดหมายคือ ช่วงเวลาที่พวกนางเข้าวัง ความสัมพันธ์ของบิดามารดาในครอบครัว รวมถึงสิ่งที่ชื่นชอบทว่าอ่านจดหมายฉบับนี้ รู้สึกได้ถึงคว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 26

    เฟิ่งจิ่วเหยียนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมา สายตาเรียบเฉย ราวกับเป็นน้ำนิ่งที่ไม่มีคลื่นเลยแม้แต่น้อย“ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้หม่อมฉันพูดจาอวดดี ทำให้ฝ่าบาททรงกริ้ว ทบทวความผิดของตนเองมาตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่คู่ควรที่จะปรนนิบัติพระองค์จริง ๆ เพคะ”ดวงตาของเซียวอวี้เย็นชาและล้ำลึก แอบซ่อนไปด้วยความอันตราย“ฮองเฮาก็รู้ตัวเองดีนี่”“เคลื่อนขบวน ไปตำหนักหลิงเซียว” ......หลังจากฮ่องเต้เสด็จกลับ เหลียนซวงดูเหมือนกับทั้งร่างแตกสลาย ตัวอ่อนยวบเท้ามุมโต๊ะเอาไว้“พระนาง บ่าวตกใจแย่แล้วเพคะ...”เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย เหลียนซวงกล่าวเตือนอย่างเป็นห่วง“พระนาง ฝ่าบาทไม่ได้ทรงโปรดปรานนางสนมเจียง ท่านอยากให้นางทำลายความเป็นสนมคนโปรดเพียงผู้เดียวของหวงกุ้ยเฟย ก็จัดว่าล้มเหลว”“ไม่เพียงแค่นี้ ท่านยังทำให้ฝ่าบาทไม่ทรงพอพระทัย ทั้งยังเกิดความบาดหมางกับหวงกุ้ยเฟย และนางสนมเจียงอีก สถานการณ์ของพวกเราจะไม่ยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมหรือเพคะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่คิดว่าล้มเหลวนางกล่าวอย่างสุขุม“นางสนมเจียงกับหวงกุ้ยเฟยสนิทกันมาก จะต้องได้รับผลประโยชน์เพราะอยู่ใกล้ชิดกัน หากฝ่าบาททรงมีใจให้กับนาง คงจะทรงโป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 27

    นางสนมเจียงทั้งประหลาดใจทั้งดีใจ รีบเช็ดน้ำตาหันหน้ามองออกไปเมื่อเห็นฉากบังลมสีทองนั้น นางลืมความเจ็บปวดที่แผลไปหมดแล้วสาวใช้ที่อยู่ข้างกายคาดเดา“พระนาง ได้ข่าวว่าหลังจากที่ฝ่าบาทเสด็จออกจากตำหนักหย่งเหอ ก็ไปที่ตำหนักหลิงเซียว จะต้องเป็นเพราะหวงกุ้ยเฟยกล่าวชื่นชมกับฝ่าบาท ถึงได้ตกรางวัลมา ท่านจะต้องซาบซึ้งให้มาก ๆ นะเจ้าคะ!”นางสนมเจียงพยักหน้าแรง ๆ“ถูกต้อง อย่างไรเสียพี่หญิงหวงกุ้ยเฟยก็ปฏิบัติต่อข้าด้วยความจริงใจ ไม่เหมือนกับฮองเฮานั่น!”เมื่อเอ่ยถึงฮองเฮา ความเคียดแค้นของนางก็พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้งความแค้นครั้งนี้ นางจะต้องเอาคืน!……ตำหนักจื้อเฉินภายในตำหนักใหญ่ที่เงียบสงัดกลางดึกฟึ่บ——มือข้างหนึ่งปัดผ้าม่านออกจากด้านใน แฝงไปด้วยความกระวนกระวายใจแสงจันทร์ที่เล็ดลอดเข้ามา สาดส่องมาที่ด้านในมุ้ง เซียวอวี้นั่งอยู่ตรงนั้น เสื้อคลุมที่เปิดออกกว้าง เผยให้เห็นแผ่นอกที่แข็งแกร่งมือข้างหนึ่งของเขาประคองหน้าผากเอาไว้ นวดหว่างคิ้วด้วยความวุ่นวายใจนอนไม่หลับเอาแต่คิดถึงบทสนทนาตอนที่อยู่ตำหนักหย่งเหอซ้ำไปซ้ำมาไม่ถูกต้อง!ตอนนั้นเขาอยากจะลงโทษสาวใช้ของฮองเฮา เ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 28

    หวงกุ้ยเฟยคิดว่าตนเองหูฝาดไปแล้วฝ่าบาทจะทรงเสด็จไปที่ตำหนักของนางสนมเจียงได้อย่างไรกัน?จ้าวเฉียนพูดต่อ“เรื่องจริงแท้แน่นอนเจ้าค่ะ หลิวกงกงมาส่งข่าว บอกให้ท่านไม่ต้องรอแล้วเจ้าค่ะ ฝ่าบาทจะเสวยกระยาหารเย็นที่ตำหนักของนางสนมเจียงเจ้าค่ะ”หวงกุ้ยเฟยรู้สึกไม่สบายใจ ขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่เมื่อครุ่นคิด ถึงแม้ว่าจะเสวยพระกระยาหารเย็นด้วยกัน ฝ่าบาทก็ไม่มีทางโปรดปรานนางสนมเจียง ไม่มีทางอย่างเด็ดขาด...นางจะกระวนกระวายใจไปเอง เพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้ และจะทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอาได้แต่ละตำหนักได้ข่าวว่าฝ่าบาทเสด็จไปหานางสนมเจียง ทุกคนก็พากันตื่นตะลึงหนิงเฟยโมโหมาก นางขว้างชามใบหนึ่งทันที“นางสนมเจียงเพิ่งจะเข้าวังได้นานขนาดไหน? นางมีสิทธิ์อะไรถึงได้รับความโปรดปรานก่อนข้ากัน!!”สาวใช้กล่าวเตือนอย่างระวัง“พระนาง ฝ่าบาทแค่เพียงเสด็จไปที่ตำหนักของนางสนมเจียง ได้ข่าวว่าบิดาของนางสนมเจียงได้สร้างความดีความชอบในการศึก บางทีฝ่าบาทอาจจะแค่แสดงความเมตตาก็เท่านั้นเจ้าค่ะ”หนิงเฟยขมวดคิ้วทันที“เจ้าว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ท่านป้าจะกล่าวไม่ผิด? ฮองเฮาแอบช่วยเหลือนางสนมเจียงอยู่เ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 29

    กลางดึก ตำหนักจื้อเฉินฟิ้ว——ลูกธนูแหลมคมดอกหนึ่งยิงเข้าใส่ที่ขอบประตูของตำหนักชั่วพริบตาเดียว บรรดาองครักษ์ก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน“มีนักฆ่า!”ด้านในตำหนักเซียวอวี้สวมชุดนอนผ้าไหมเพียงตัวเดียว ผมสีดำแผ่สยายราวกับน้ำตก ขับให้ใบหน้าที่หล่อเหลามีเสน่ห์ของเขาให้โดดเด่นขึ้น“มีเรื่องอะไร”มือทั้งสองข้างของหลิวซื่อเหลียงถือลูกธนูดอกนั้น หัวธนูมีกระดาษแผ่นหนึ่ง เดินมาที่ด้านหน้ามุ้งอย่างระวัง“ฝ่าบาท นักฆ่าทิ้งของสิ่งนี้เอาไว้พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวอวี้ยื่นมือข้างหนึ่งออกมาจากด้านในมุ้ง นิ้วเรียวยาวแข็งแรงภายใต้แสงเทียน เขาเห็นตัวหนังสือบนจดหมายอย่างชัดเจน‘ยามไห้คืนพรุ่งนี้ ที่ตำหนักหวาชิง จะถอนพิษให้ฝ่าบาท’รูม่านตาของเซียวอวี้หดเล็กลงทันทีจากนั้นก็ขยำกระดาษแผ่นนั้นจนแหลกคามือ“ไม่คิดเลยว่านางยังจะกล้ามาอีก”ดูท่าจะรู้ตัวตนของเขาแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะส่งจดหมายมาที่ตำหนักจื้อเฉินตรง ๆหลิวซื่อเหลียงไม่รู้สาเหตุเขาคือใคร?หรือว่าฝ่าบาทจะทรงรู้จักนักฆ่าคนนั้น?......ตอนกลางคืนของวันถัดไปตำหนักหวาชิงบรรดาองครักษ์ลับล้อมวังเย็นเอาไว้หลายชั้น กำลังรอให้นักฆ่าปรากฏตัวทันทีที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 30

    บ่าข้างหนึ่งของเฟิ่งจิ่วเหยียนถูกกดเอาไว้ มือข้างหนึ่งถูกจับเอาไว้ถึงอย่างไรเซียวอวี้ก็เป็นบุรุษ มีแรงมากเมื่อตกอยู่ในมือของเขา ก็อย่าคิดว่าจะได้ไปไหน!“ใครก็ได้!”ทันทีที่เขาออกคำสั่ง องครักษ์ที่อยู่ด้านนอกก็พุ่งตัวเข้ามาข้างในทันที“จับตัวนักฆ่า!”เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะมาจับกุมตน เฟิ่งจิ่วเหยียนยกเข่าข้างหนึ่งขึ้น กระแทกเข้าไปที่เป้ากางเกงของเซียวอวี้เซียวอวี้โยกหลบไปด้านข้าง มือข้างที่จับบ่าของนางเอาไว้ผ่อนแรงลงเล็กน้อยยอดฝีมือประลองฝีมือกัน แต่ไหนแต่ไรมาประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยในเวลาเดียวกันกับที่เขาคลายแรงลงเล็กน้อย เฟิ่งจิ่วเหยียนหลุดพ้นจากพันธนาการของเขา ดึงเข็มขัดกางเกงของเขาออกทันที...ฟึ่บ——ภายในชั่วพริบตา บรรดาองครักษ์ก็หันหน้ากลับไปด้วยจิตใต้สำนึก เพื่อเลี่ยงที่จะได้เห็นจักรพรรดิกางเกงหลุดภายในระยะเวลาอันสั้น เซียวอวี้รีบใช้มือข้างที่ว่าง คว้ากางเกงเอาไว้ ถึงได้ป้องกันไม่ให้มันหลุดร่วงทว่า ก็เป็นเพราะการกระทำที่ปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง เขาจึงปล่อยมือออกทั้งหมด มีเพียงมือข้างเดียวที่จับเฟิ่งจิ่วเหยียนเอาไว้ดังคำกล่าวที่ว่าอย่าเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง เช

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 31

    ภายในตำหนักเงียบกริบ เหลียนซวงชี้ไปที่เข็มขัดพลางถาม“ฮองเฮา เจ้านี่ควรจัดการอย่างไรดีเพคะ?”ไม่รู้ว่าเป็นเข็มขัดของบุรุษคนไหนฮองเฮาออกไปทำสิ่งใดกันแน่!เหลียนซวงตระหนกตกใจยิ่งนัก แต่นางก็ไม่กล้าถามเฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้สึกว่าเรื่องนี้จัดการยากนางวางเข็มขัดลงบนโต๊ะแล้วมองดูอยู่สักพักไม่สามารถเก็บไว้โดยเด็ดขาดแต่ถ้าจะโยนทิ้งไปแบบนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ได้เช่นกันเพราะนางยังต้องแก้พิษให้ฮ่องเต้ทรราชผู้นั้นต่อไปไม่อาจปล่อยให้เรื่องส่วนตัวส่งผลกระทบต่อการใหญ่นี่คือกฎคิดว่าในฐานะฮ่องเต้ ความระแวงของเขาคงไม่น้อยถึงเพียงนั้น“เอาไปซ่อนไว้ก่อน” นางสั่งการไว้เช่นนี้ตอนไปแก้พิษคราวหน้าค่อยเอาไปคืนเขาเหลียนซวงหยิบเข็มขัดเส้นนั้นขึ้นมาพลางเอ่ยถาม“ฮองเฮา เจ้าของเข็มขัดนี้คือผู้ใดหรือเพคะ?”“ฝ่าบาท”อะไรนะ!เหลียนซวงพลันรู้สึกว่าร้อนลวกมือ เกือบทำเข็มขัดนั้นหลุดมือไปแล้ว“ฮองเฮา คืนนี้ท่านไปเพื่อขโมยเข็มขัดมาหรือเพคะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนก้มหน้าจิบชา นางตวัดสายตามองอีกฝ่ายทันทีพลางเอ่ยกลับ“ข้าดูเหมือนคนน่าเบื่อขนาดนั้นเลยรึ? ข้าดึงเข็มขัดนี่ลงมาจากบนตัวเขาต่างหาก”เหลียนซวงเบ

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1090

    ที่ว่าการเจียงโจวได้รับคำสั่ง ก็รีบเฝ้าประตูเมืองไว้อย่างแน่นหนา จับตัวเหล่าชาวยุทธภพไว้อย่างลับ ๆนายท่านเฟิ่งพาผู้ติดตามมาด้วยกลุ่มหนึ่ง ต้องการจะจับคน แต่กลับถูกคนกลุ่มนั้นทำร้ายยังดีที่เฟิ่งจิ่วเหยียนผ่านมา จึงจัดการเรื่องนี้ให้เมื่อนายท่านเฟิ่งเห็นนางกับฝ่าบาท ก็รีบโทษตัวเองอย่างหนัก!“ฝ่าบาท ฮองเฮา กระหม่อมสำนึกผิดแล้ว! เจียงโจวเกิดเรื่องมากมายถึงเพียงนี้ ล้วนเป็นเพราะกระหม่อมละเลยหน้าที่…”เฟิ่งจิ่วเหยียนทนมองท่าทางจอมปลอมของเขาไม่ได้ จึงตัดบทคำพูดของเขา“หยุดเสแสร้งได้แล้ว ที่ว่าการมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ พาผู้ติดตามของท่านกลับไปซะ อย่าสร้างความวุ่นวายเพิ่ม”นายท่านเฟิ่งรู้ว่านางไร้ความรู้สึก แต่ก็ไม่คิดว่านางจะไม่ไว้หน้ากันขนาดนี้ร้ายดีอย่างไร เขาก็เป็นบิดาแท้ ๆ ของนาง เขาเองก็อยากช่วยเหมือนกัน!ถึงเขาจะไม่มีคุณงามความดีแต่ก็มีความทุ่มเทเหมือนกัน!เซียวอวี้พูดเสียงทุ้มต่ำ“ฮองเฮาบอกให้เจ้ากลับไป เจ้าก็กลับไปซะ”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ทว่า ในเมื่อท่านทั้งสองมาถึงเจียงโจวแล้ว อาศัยอยู่ข้างนอกก็คงลำบาก สู้คืนนี้ไปที่จวนซือหม่า…”เขาพูดยังไม่จบ ฮ่องเต้กับฮองเฮาก็ขี่ม้าจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1089

    เลี่ยอู๋ซินนั่งลงแล้วดื่มน้ำ เล่าเรื่องราวรายละเอียดให้ทุกคนฟัง“ข้าแฝงตัวอยู่ในสำนักอวิ๋นซาน ตอนแรกยังไม่สังเกตเห็นความผิดปกติอะไร“และเมื่อวันนี้เอง ผู้อาวุโสเหยียนที่สวมรอยเป็นชิวเฮ่อได้รับจดหมายลับฉบับหนึ่ง“เขาไหว้วานให้ข้านำจดหมายลับกลับมาด้วย เพื่อปรึกษาว่าควรจัดการเรื่องนี้อย่างไร”หากตามแผนของเฟิ่งจิ่วเหยียน แน่นอนว่าต้องรีบตอบตกลง  และจัดการ “ขนย้าย” มนุษย์โอสถทันทีดีที่สุดคือจับได้คาหนังคาเขาและพร้อมของกลางทว่า กลุ่มค้ามนุษย์โอสถระมัดระวังตัวอย่างมาก ไม่ยอมเปิดเผยง่าย ๆสกัดสินค้าง่าย แต่จับคนค่อนข้างยากอีกอย่างในตอนนี้ นางยังมีปริศนาอีกหนึ่งอย่างที่ยังไม่คลี่คลาย“วันนี้หลังจากที่งานชุมนุมประลองยุทธ์สิ้นสุดลง สำนักเฉวียนเจินเพิ่งประกาศร่วมมือกับราชสำนัก กำจัดกลุ่มมนุษย์โอสถ“สำนักอวิ๋นซานได้รับจดหมายลับเร็วขนาดนี้ นั่นแสดงว่ากลุ่มค้ามนุษย์โอสถได้ข่าวเร็วเช่นกัน”ตงฟางซื่อคาดเดา“การส่งข่าวไปมา ไม่มีทางส่งเร็วขนาดนี้ นอกเสียจากว่ากลุ่มมนุษย์โอสถมีเส้นสายในเจียงโจว หรือบางที…”เขาจงใจไม่พูดออกไปให้ชัดเจน หันไปมองเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกฝ่ายรับคำอย่างรู้ใจ“หรือบา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1088

    หลังจากงานชุมนุมประลองยุทธ์สิ้นสุดลง แต่ละสำนักก็อยู่ประชุมต่อ ว่าควรกำจัดกลุ่มมนุษย์โอสถอย่างไรส่วนเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้กลับมาที่เรือนพักระหว่างทาง เซียวอวี้เปลี่ยนกลับมาใส่ชุดบุรุษเพื่องานชุมนุมประลองยุทธ์ในครั้งนี้ เขาอุทิศไปมากมายเฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นแก่ที่เขายอมลำบาก จึงนวดไหล่ให้เขาเองกับมือ“สามีของข้าช่างเก่งยิ่งนัก”เพียงประโยคนี้ประโยคเดียว ก็ทำให้เซียวอวี้จิตใจเบิกบานเขายื่นมือออกไป คว้าตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนจากข้างหลัง ให้นางนั่งเอียงตัวบนตักของตน“คิดได้หรือยังว่าจะชดเชยให้สามีอย่างไร?”เฟิ่งจิ่วเหยียนโอบลำคอของเขา เป็นฝ่ายโน้มหน้าเข้าไปก่อนชั่ววินาทีที่เข้าไปใกล้ริมฝีปากของเขา ก็เบี่ยงหน้าออก กระซิบแนบใบหูของเขาเสียงเบา“วันนี้หม่อมฉันจะเข้าครัว ทำอาหารบำรุงท่านดี ๆ”เซียวอวี้ยังไม่เคยชิมฝีมือของนางจริง ๆ จัง ๆแต่เขารู้ดี ว่าฝีมือของนางกับตงฟางซื่อเหมือนกัน ไม่สามารถบรรยายได้ในประโยคเดียวเซียวอวี้อุ้มนางขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ไม่ลำบากฮูหยินหรอก เจ้าก็รู้ เทียบกับสิ่งเหล่านั้นแล้ว เราอยาก…”แววตาของเขาเร่าร้อน ส่อความนัยล้นเปี่ยมที่นี่คือเรือนพักของเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1087

    “เฝิงเกาจากสำนักอวิ๋นซาน โปรดแนะนำด้วย”เซียวอวี้มองคู่ประลองที่อยู่ตรงหน้า เขาสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตบนร่างของอีกฝ่ายเฝิงเกาที่จ้องเซียวอวี้ ดูเหมือนจะดื่มสุราเข้าไป สายตาดูมึนเมา“เป็นสตรีนี่เอง”น้ำเสียงของเขาแฝงความเหยียดหยามสำนักอื่นต่างเคยได้ยินเรื่องของเฝิงเกาคนผู้นี้ลงมืออำมหิต ศิษย์ของสำนักเฉวียนเจินผู้นั้น อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขายิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นการประลองรอบแรกของเฝิงเกา เขาได้เปรียบเรื่องพลังกายมากกว่าสำนักอสนีบาตไม่ยอมสำนักอวิ๋นซาน จึงลุกขึ้นตะโกนลั่น“นี่มันแกล้งกันเกินไปแล้ว!”รองเจ้าสำนักสำนักอวิ๋นซานยิ้มบางตอบ“เฝิงเกาก็เป็นศิษย์ของสำนักอวิ๋นซาน เหตุใดจะร่วมการประลองไม่ได้?”สำนักอสนีบาตยุยงเหลิ่งเซียนเอ๋อร์อีกครั้ง“รองเจ้าสำนักเหลิ่ง เรื่องนี้ท่านก็ยอมทนได้หรือ? สำนักอวิ๋นซานกลั่นแกล้งผู้ที่อ่อนแอกว่าอยู่ชัด ๆ !”คนอื่น ๆ ก็ช่วยพูดโน้มน้าวด้วยเช่นกัน“หากเฝิงเกาลงมือ ไม่ตายก็พิการ! รองเจ้าสำนักเหลิ่ง หากท่านเป็นห่วงศิษย์จริง ๆ ก็รีบหยุดมือเถิด! แค่งานชุมนุมประลองยุทธ์เท่านั้น เหตุใดต้องให้มีคนตายอีกเพื่องานนี้ด้วยเล่า?”เฝิงเกาเลียริมฝีปาก จ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1086

    บนเวทีประลอง คู่ประลองของเซียวอวี้คือศิษย์สำนักอวิ๋นซานสายตาของเขาเย็นยะเยือกแฝงรังสีสังหารด้านล่างเวทีมีคนจำเขาได้“นี่คือยอดฝีมือของสำนักเฉวียนเจินนี่! เมื่อวานเป็นนางที่ช่วยให้สำนักเฉวียนเจินชนะไปหลายครั้ง!”“ใช่ ข้าก็จำได้! ข้ายังเคยประลองกับนางด้วย! ถึงแม้นางจะสวมหน้ากาก ทว่ารูปร่างนี้ข้าจำได้ ช่างบึกบีน ไม่เหมือนสตรีซักนิด!”“เมื่อวานหากไม่ใช่เพราะอินซื่อเฉิงใช้ยาพิษ นางก็จะชนะต่อไป นี่เป็นศัตรูที่แข็งแกร่งผู้หนึ่ง!”ครั้งนี้เซียวอวี้ไม่จำเป็นต้องถ่วงเวลาออกไปดังนั้น จึงใช้เวลาเพียงชั่วครู่ เขาก็ปลดอาวุธของคู่ประลอง เตะคนลงจากเวทีสีหน้าของคนผู้นั้นดูไม่อยากจะเชื่อ“ข้าแพ้แล้วหรือ?”รองเจ้าเจ้าสำนักสำนักอวิ๋นซานที่นั่งอยู่ด้านบนลุกขึ้นยืน คิดอยากจะมองให้ชัดเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น?นี่จบแล้วหรือ?สำนักเฉวียนเจินมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ!การประลองดำเนินต่อไป ศิษย์สำนักอวิ๋นซานขึ้นไปท้าประลองอย่างต่อเนื่องน่าเสียดายที่พวกเขาล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวอวี้เวลาสั้น ๆ เพียงครึ่งชั่วยาม เซียววอี้ก็ชนะไปแล้วสิบครั้งอีกทั้งเขายังดูไม่เหนื่อยเลยแม้แต่น้อยด้วยจิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1085

    มีจดหมายจากแคว้นซีหนี่ว์ เฟิ่งจิ่วเหยียนกังวลว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเวยเฉียงที่อยู่ทางนั้นนางเปิดจดหมายอ่านทันทีในจดหมายพูดถึงเรื่องของท่านแม่เวยเฉียงบอกว่า ท่านแม่ป่วย อาการไม่ได้หนักอะไร แต่เห็นได้ว่าท่านแม่อยากกลับแคว้นหนานฉี ดังนั้นจึงส่งจดหมายมาปรึกษาสำหรับเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้ว เรื่องนี้แก้ได้ง่ายมากนางไม่มีทางบังคับให้ท่านแม่อยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ต่อ หากท่านแม่อยากกลับมา ก็สามารถส่งคนไปรับได้ทันทีครั้นแล้วนางจึงยกพู่กันเขียนจดหมาย บอกความคิดของนางกับเวยเฉียงเมื่อเขียนจดหมายเสร็จ เซียวอวี้ก็เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วเมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้น สีหน้าดูตกตะลึงอาภรณ์ชุดนั้นสีค่อนข้างเรียบ นึกไม่ถึงว่าจะเข้ากับเขามากโดยเฉพาะผมของเขาที่ยังไม่ได้มัด มองแค่ข้างหลัง ก็มีลักษณะอย่างศิษย์สำนักเฉวียนเจินอยู่หลายส่วนแล้ว——ลอยล่องดั่งเซียนตกสวรรค์ทว่าเมื่อเขาหันกลับมา นางก็ไม่กล้ามองเขาตรง ๆ แล้ว.......ภายในสำนักอวิ๋นซานงานชุมนุมประลองยุทธ์ดำเนินไปตามปกติข่าวที่ชิวเฮ่อบาดเจ็บสาหัส สำนักอวิ๋นซานยังไม่ได้เปิดเผยต่อภายนอก เพียงบอกว่าหลังจากเขากลับมาจากที่ว่าการ ร่างกายย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1084

    “ข้ารู้สึกเพลียอยู่บ้าง” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดเสียงอ่อนล้าเซียวอวี้ไม่ค่อยได้เห็นนางเหนื่อยล้าอ่อนแรงเช่นนี้เขาขมวดคิ้วด้วยความห่วงใย จากนั้นก็หันไปดึงนางเข้ามาในอ้อมกอดเฟิ่งจิ่วเหยียนจับชายอาภรณ์ของเขาเบา ๆ“ข้าเพียงแค่อยากช่วยเหลือผู้คน ไม่คิดจะให้พวกนางมาชื่นชอบข้าจนถึงขนาดตายเพื่อข้าเช่นนี้“น้ำใจนี้...หนักหนาเกินไป”เซียวอวี้ตบหลังปลอบนางเบา ๆ“นี่คือเหตุและผล เพราะทำความดี จึงได้รับการตอบแทน อีกอย่างการที่ช่วยเจ้าคนเดียว แล้วเจ้าก็สามารถช่วยคนอื่นได้มากขึ้นอีก”เฟิ่งจิ่วเหยียนปรับอารมณ์กลับมาได้อย่างรวดเร็วนางปล่อยเซียวอวี้ แววตากลับมาหนักแน่นจากนั้นนางก็เดินเร็ว ๆ ออกจากเรือนรอง จนตามเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ทัน“ทำอะไรต้องทำให้เสมอต้นเสมอปลาย งานชุมนุมประลองยุทธ์ สำนักเฉวียนเจินยังขาดอีกสองครั้งก็จะเป็นผู้ชนะ”เหลิ่งเซียนเอ๋อร์ขมวดคิ้ว“ท่านจะทำอะไร?”สายลมเย็นพัดมา เส้นผมของคนทั้งสองเต้นไปตามลม ดูดุดันอย่างเห็นได้ชัดเฟิ่งจิ่วเหยียนพูด“เดิมข้าคิดว่า การที่ไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาพัวพันมากไปกว่านี้ ก็เพื่อตัวของพวกเขาเอง“ทว่าตอนนี้ดูจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น“มีเรื่องที่ท่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1083

    ภายในห้อง ผู้เฒ่าเหยียนที่ปลอมตัวเป็นชิวเฮ่อกำลังนอนราบ แววตาจ้องมองหลังคาอย่างเย็นชา ในสมองล้วนเป็นภาพเงาร่างของบิดาที่จากไปแล้วเขากำฟูกใต้ร่างแน่น ในแววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นความแค้นที่ฆ่าบิดา ไม่อาจอยู่ร่วมฟ้าได้แค้นต้องชำระ ทว่าการปกป้องสำนักอวิ๋นซานก็สำคัญเช่นกันพวกสารเลวที่ซื้อขายมนุษย์โอสถ เป็นพวกเขาที่ทำลายชื่อเสียงของสำนักอวิ๋นซาน!เขาจะต้องหาตัวพวกเขาออกมาแล้วกำจัดให้สิ้น!……ราตรียามดึกมากแล้วเหล่าศิษย์ของสำนักอื่นที่พักอยู่ที่นี่ มักจะรู้สึกแปลก ๆพวกเขาระวังตัวอย่างยิ่ง กลัวว่าสำนักอวิ๋นซานจะวางแผนใส่ยาพิษลงไปในมื้อเย็นของพวกเขา ทำให้พวกเขาเข้าร่วมงานชุมนุมประลองยุทธ์ไม่ได้ศิษย์สำนักเฉวียนเจินทั้งหมดพักรวมอยู่ในห้องเดียวกัน ห้องข้าง ๆ เป็นศิษย์ของสำนักอสนีบาต เดิมก็เสียใจเพราะการตายของติงหยวนเอ๋อร์อยู่แล้ว ตอนนี้ยังได้ยินเสียงกรนของพวกบุรุษหน้าเหม็น พวกนางยิ่งนอนไม่หลับพลิกตัวไปมา“รองเจ้าสำนัก พวกเรายังจะเข้าร่วมงานชุมนุมประลองยุทธ์ต่อหรือไม่?” มีคนถามเสียงเบา ดูท่าทางถอดใจเหลิ่งเซียนเอ๋อร์นั่งลงในท่าขัดสมาธิ คิดจะบำเพ็ญตนนางพูดขึ้นช้า ๆ“พรุ่งนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1082

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างไร้หัวไร้หาง ทำให้หลายคนงุนงงไปตาม ๆ กัน เซียวอวี้ก็พลันคิดถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ ตงฟางซื่อถามเฟิ่งจิ่วเหยียนโดยตรง “ไก่มีปัญหาอะไรหรือ?” เจียงหลินที่นั่งอยู่ข้างกองไฟ กำลังจะกินนกพิราบย่างก็สะดุ้ง แล้วรีบแก้คำพูดของนาง “บอกแล้ว นี่ไม่ใช่ไก่ แต่เป็นนกพิราบ และยังเป็นนกพิราบบินได้ที่แพงที่สุดด้วย! ทว่า ที่เจ้าพูดว่ามีปัญหา พวกมันถูกวางยาหรือ?” เจียงหลินรีบโยนนกพิราบหอม ๆ ในมือทิ้งไป เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายหน้าให้เขา “ไม่เกี่ยวกับนกพิราบของเจ้า ที่ข้าพูดถึง คือไก่ในหมู่บ้านจู๋ซานเหล่านั้น” นางหันไปมองคนอื่น ๆ “พวกเจ้าจำได้หรือไม่ ในพิษมนุษย์โอสถนั้น หญ้าบัวแดงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้?” เลี่ยอู๋ซินตอบรับเป็นคนแรก “จำได้สิ ไม่ใช่ยังเหลือคนไว้ที่หมู่บ้านจู๋ซานคนหนึ่ง เพื่อสืบสาวถึงผู้ซื้อหญ้าบัวแดงอยู่หรอกหรือ เจ้าพูดว่าไก่มีปัญหา หรือเจ้าสงสัยว่า...” เขาก็คิดถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ ทว่าไม่พูดออกมา คราวนี้ ตงฟางซื่อก็ตาสว่าง “ความหมายก็คือ สืบหามาตั้งนาน ก็ไม่เจอเส้นทางการค้าของหญ้าบัวแดง นั่นอาจเป็นเพราะสืบหาผิดเส้นทาง สิ่งที่คนพวกนั้นซื้อ ไ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status