Share

บทที่ 219

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
เฉียวม่อรับพระราชทานคุณของจักรพรรดิมา แล้วก็ยังถามขึ้นมาอย่างไม่วางใจว่า

“ฝ่าบาท อาจารย์กับอาจารย์หญิง จะไม่ได้รับการลงโทษใช่ไหม?”

สีหน้าเซียวอวี้เย็นชาเล็กน้อย

เฉียวม่อปลอมตัวเป็นเมิ่งสิงโจว ไม่มีทางที่สองสามีภรรยาตระกูลเมิ่งจะไม่รู้เรื่องเลย

เพราะนั่นคือลูกชายของพวกเขา

แต่ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิ บางครั้งก็ต้องเรียนรู้ที่จะเลอะเลือน

“เราประทานให้เจ้าใช้นามสกุลเมิ่ง นับจากนี้เมิ่งเฉียวม่อ เป็นบุตรสาวบุญธรรมของเมิ่งฉวี สืบทอดสายเลือดตระกูลเมิ่ง”

ได้ยินเช่นนี้ เฉียวม่อน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย

นางแสดงท่าทีได้รับความกรุณาอย่างไม่คาดฝัน จนรู้สึกประหลาดใจ

“ฝ่าบาท ข้าน้อยจักจงรักภักดีตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”

เหล่าขุนนางค่อยคิดขึ้นมาได้ ฝ่าบาทประธานนามสกุลเมิ่ง เพื่อรักษาชื่อเสียงของ “แม่ทัพน้อยเมิ่ง” เป็นการพระราชทานแก่ตระกูลเมิ่ง เพียงแต่ว่าคนที่คิดอยากแต่งงานกับเมิ่งเฉียวม่อนั้น จะต้องไปเป็นเขยของตระกูลเมิ่ง ยากยิ่งนัก

เหล่านางสนมเห็นการมีแม่ทัพหญิงคนหนึ่งกำเนิดขึ้นมาด้วยตาตนเอง ความรู้สึกนึกคิดในใจล้นหลาม

มีบางคนคิดว่าไม่มีอะไรแปลกประหลาด

และก็มีบางคนรู้สึกอิจฉา

ในฐานะที่เป็นผู้หญิง ส
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (3)
goodnovel comment avatar
Taow Noy
เมื่อไหร่จะรักกันซะที
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
เลวทรามมาก ตายซะได้ยิ่งดี
goodnovel comment avatar
Chatchanart Chanpaibool
จะลงโทษใครพูด พูดเมื่อไร
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 220

    เฉียวม่อแสดงสีหน้าไร้เดียงสา ดวงตาเปล่งประกายไปด้วยน้ำตา“ศิษย์พี่ ข้าไม่ได้...”มือของเฟิ่งจิ่วเหยียนออกแรงมากขึ้น ทำให้เฉียวม่อค่อนข้างหายใจไม่ออก“เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากท่านย่าตระกูลเมิ่งรู้เรื่องนี้ จะเป็นยังไง! เฉียวม่อ อาจารย์กับอาจารย์หญิงเลี้ยงดูเจ้ามาสิบกว่าปี จิตใต้สำนึกของเจ้าล่ะ!”“ศิษย์พี่...ข้า ข้าไม่ได้...ไม่ได้ตั้งใจทำให้หน้ากาก...แค่กๆ...”เห็นว่านางกำลังจะขาดอากาศหายใจตาย เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงปล่อยมือเฉียวม่อเอนพิงบนกำแพง หายใจหอบพร้อมหัวใจเต้นแรง มองดูนางด้วยน้ำตาคลอเบ้า“ศิษย์พี่ ข้ารู้ เจ้าโกรธที่ข้าแย่งความดีความชอบที่ควรเป็นของเจ้าไป แต่เจ้าเชื่อข้า ข้า...ข้าทำเพื่อปกป้องทุกคนจริงๆ !”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันหลังให้กับเฉียวม่อ กลัวว่าตนเองจะใจอ่อน“ไสหัวกลับไปยังชายแดนเหนือ ไปขอโทษอาจารย์กับอาจารย์แม่ด้วยตนเอง!”ตำแหน่งแม่ทัพน้อย นางไม่เคยสนใจมาก่อนตั้งแต่แรกที่นางปลอมตัวเป็นศิษย์พี่เมิ่ง ก็เพียงเพื่อท่านย่าตระกูลเมิ่งเฉียวม่อไม่ควรที่จะ เอาเรื่องของศิษย์พี่เมิ่งขึ้นมาพูด!เห็นนางโกรธโมโหขนาดนี้ เฉียวม่อคว้าจับมือของนาง พร้อมพูดร้องขอว่า“ศิษย์พี่...เจ้ารั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 221

    ดวงตาทั้งสองของเฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งสงบไร้ระลอก ลึกล้ำดุจทะเลลึกภายในระยะเวลาสั้น ๆ นางไม่อาจเชื่อได้ลงว่าศิษย์น้องที่เรียบร้อยเชื่อฟังทั้งยังขี้กลัว จะถึงกับทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนบรรลุเป้าหมายเช่นนี้“ฮองเฮา”เซียวอวี้พลันเรียกขัดจังหวะความคิดของนางเมื่อนางหันหน้ากลับมา ยังไม่ทันปรับอารมณ์ให้เรียบร้อย สีหน้าจึงยังคงเผยให้เห็นถึงความเคร่งขรึมและหงุดหงิด“มีเรื่องใดหรือเพคะ”เซียวอวี้เห็นนางในสภาพตึงเครียดเช่นนี้ คิ้วขมวดเข้าหากันจู่ ๆ เขามาที่นี่ ทำให้นางวิตกกังวลมากหรือยังไง สีหน้าถึงได้แปลกประหลาดเช่นนี้เซียวอวี้วางบัญชีวังหลังเล่มนั้นลงแล้วคุยกับนางด้วยท่าทางจริงจัง“เรื่องทายาท...”เฟิ่งจิ่วเหยียน: ทายาท? เกี่ยวอันใดกับนางกัน?ทว่าภายนอกนางทำเป็นตั้งอกตั้งใจฟังด้วยท่าทางเคารพนบนอบ“ท่านพูดต่อเลยเพคะ”“หากในบรรดาราชนิกูลมีคนใดพอใช้ได้...”เขาคิดอยากจะรับหลานซักคนมาเป็นโอรสบุญธรรมรึ?เฟิ่งจิ่วเหยียนมองเขาจากหัวจรดเท้าตอนนี้มาคิดดูอีกทีเขาไม่เคยสนใจเหล่าพระสนมในทั้งหกตำหนักเลย ก่อนหน้านี้ก็ใช้หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เป็นข้ออ้าง มันผิดปกติทว่าครานั้นที่เขาถูกซูกุ้ยเหรินวา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 222

    ณ จวนตระกูลเฟิ่งวันนี้นายท่านเฟิ่งรู้สึกสบายอกสบายใจเป็นอย่างมากฮูหยินเฟิ่งที่ปรนนิบัติเขาเปลี่ยนชุดเอ่ยปากถามนายท่านเฟิ่งเห็นว่าภายในห้องไม่มีคนนอกจึงบอกนางเสียงเบา“หลังจากนี้จิ่วเหยียนจะไม่กลับไปที่ชายแดนเหนืออีกแล้ว”ฮูหยินเฟิ่งแปลกใจเป็นอย่างมาก“เพราะเหตุใด?”นายท่านเฟิ่งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงวันนี้ให้ฮูหยินเฟิ่งฟังน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก“เป็นเช่นนี้ดียิ่ง แบบนี้พวกเราก็นอนหลับได้สบายไม่ต้องคอยกังวลอีกต่อแล้ว!”ฮูหยินเฟิ่งกลับไม่ยิ้มออกมานางรู้สึกเป็นกังวลมากกว่าเวลาแบบนี้ในใจจิ่วเหยียนจะต้องรู้สึกไม่สบายใจเป็นแน่วันรุ่งขึ้นเวลาเช้าตรู่ เจียงผินก็มาคารวะยามเช้าที่ตำหนักหย่งเหอ“ฮองเฮาเพคะ เมื่อวาน...โชคดีที่มีท่านให้ความช่วยเหลือ หม่อมฉันจึงไม่ถึงกับต้องตกเป็นเรื่องตลกในวังหลังแห่งนี้ ในตำหนักของหม่อมฉันไม่มีของมีค่าอะไร ทำได้เพียงนำของที่ฝ่าบาททรงพระราชทานให้มาถวาย ยืมดอกไม้ถวายพระเพื่อแสดงความขอบคุณเพคะ”นับตั้งแต่หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ออกจากวังไป สถานการณ์ของนางสนมเจียงก็ลำบากเป็นอย่างมาก เหล่านางสนมทิ้งให้นางอยู่อย่างโดดเดี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 223

    เมื่อแม่ทัพเมิ่งอ่านจดหมายจบก็ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกร้อนใจกระสับกระส่ายเกลียดก็แต่เขาที่ต้องนำทัพเฝ้ารักษาชายแดน ไม่อาจออกไปได้โดยพลการ“หากท่านแม่รู้เข้าล่ะก็...”ฮูหยินเมิ่งกุมมืออันใหญ่โตของเขาด้วยความอ่อนโยน“มอบให้ข้าเป็นคนจัดการเถอะ”เมื่อกล่าวจบสายตาของนางก็มีความเย็นยะเยือกสายหนึ่งวาบผ่านไปอย่างรวดเร็ว “ทว่าท่านพี่ ท่านคิดจริง ๆ หรือว่าเฉียวม่อถูกบังคับอย่างไร้ทางเลือก”แม่ทัพเมิ่งไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน“เจ้าสงสัยว่าเฉียวม่อตั้งใจทำหรือ?”ทันใดนั้นเขาก็ส่ายหน้าติด ๆ กัน “ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้ นางมีเหตุผลอะไรให้ทำเช่นนี้กัน?”เขารับเฉียวม่อเป็นศิษย์ ย่อมปฏิบัติต่อนางเหมือนเป็นลูกของตนเองใช้ใจแลกใจ เขาไม่เชื่อหรอกว่าเฉียวม่อจะเนรคุณฮูหยินเมิ่งจ้องมองดวงตาของเขา“ท่านพี่ ข้าเองก็ไม่อยากสงสัยนาง“ทว่ามีคนบางคนเรื่องบางเรื่องที่จะไม่ระวังเลยไม่ได้“ท่านลองคิดดูสิ ตั้งแต่กองทัพมังกรพยัคฆ์ถูกโจมตี จนถึงตอนที่เฉียวม่อนำพันธมิตรอู่หลินมาสนับสนุน สวมรอยเป็นจิ่วเหยียนนำทัพ เรื่องเหล่านี้ดูเหมือนเกิดขึ้นอย่างถูกจังหวะเป็นขั้นเป็นตอน กลับเผยให้เห็นลับลมคมใน”เมื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 224

    เซียวอวี้ไล่ตามคนมาตลอดทางจนถึงตำหนักหย่งเหอ เขาเห็นกับตาว่านักฆ่าหญิงผู้นั้นเข้าไปในตำหนักบรรทม จึงสาวเท้าตามเข้าไปบนพื้นมีเลือดหยดอยู่หลายหยดยาวไปจนถึงห้องอาบน้ำสายตาเขาพลันเปลี่ยนเป็นคมปลาบทันใดนั้นประตูของห้องอาบน้ำก็เปิดออกเป็นฮองเฮา“ฝ่าบาททรงเสด็จมา เหตุใดจึงไม่มีคนมารายงาน?”หญิงสาวห่อหุ้มร่างกายด้วยชุดนอนบาง ๆ อย่างผู้ที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ ใบหน้าแดงเปล่งปลั่ง ปลายผมมีหยดน้ำ เท้าคู่นั้นเหยียบลงบนพรมเปอร์เซียที่ทำมาจากผ้าแคชเมียร์โดยตรง เหนือข้อเท้าเล็กบอบบางมีชายกระโปรงที่ถูกลมพัดจนโบกพลิ้ว เผยให้เห็นน่องขาที่กระชับได้รูปอย่างคลุมเครือใบหน้าที่เยือกเย็นของเซียวอวี้มีสีอื่นวาบผ่านมาแล้วหายไปทันทีเขามองไปด้านหลังนางปราดหนึ่งยามที่เพิ่งจะเดินไปด้านหน้าสองสามก้าว จังหวะที่เดินผ่านฮองเฮาไปเขาก็ถูกนางใช้มือเดียวจับแขนเอาไว้“ฝ่าบาท ข้างในยังไม่ได้ทำความสะอาดเพคะ”ควับ---ทันใดนั้นเซียวอวี้พลันคว้าจับไหล่ของนาง แล้วกดนางเข้ากับกำแพงด้านหลังสายตาดุดันโหดร้ายราวกับเหยี่ยวของเขามองใบหน้าของนางอย่างสงสัย“อาบน้ำอยู่ตลอดงั้นหรือ?”ยามที่เขามองประเมินเฟิ่งจิ่วเหยียน เ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 225

    หลังจากงานเลี้ยงเหล่าแม่ทัพจบลง เซียวอวี้ก็ยังต้องปรึกษากิจธุระเรื่องการยอมสวามิภักดิ์ของรัฐเหลียงกับแม่ทัพแต่ละภาคส่วนอีกด้วยเหตุนี้เฉียวม่อจึงยังรั้งอยู่ในเมืองหลวงอีกหลายวัน และต้องเข้าวังอยู่หลายครั้งนางมักจะเข้าไปในห้องทรงพระอักษรบ่อย ๆ เหล่านางสนมจึงเริ่มหึงหวงยามเช้าพอไปน้อมคารวะที่ตำหนักหย่งเหอ ก็มาบ่นต่อหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียน“ต่อให้เป็นแม่ทัพ ถึงอย่างไรก็เป็นสตรี เหตุใดจึงไม่รู้จักหนักเบาเช่นนี้!”“แม่ทัพน้อยเมิ่งผู้นั้น ยามนี้เป็นถึงคนโปรดของฮ่องเต้ อย่างไรพวกเราก็เทียบไม่ติด”“ฝ่าบาทไม่ค่อยเสด็จมาที่วังหลัง แต่กลับทรงประทับอยู่กับเมิ่งเฉียวม่อผู้นั้นอยู่เป็นประจำ วันนี้ยังไปขี่ม้ายิงธนูที่สนามม้าหลวงด้วยนะ ฮองเฮาเพคะ เกรงว่าวังหลังจะต้องมีพี่น้องเพิ่มมาอีกคนแล้ว”ปฏิกิริยาของเฟิ่งจิ่วเหยียนคือการดื่มชาอย่างนิ่งเฉยนางไม่แน่ใจในความคิดของเซียวอวี้นัก ทว่าเฉียวม่อที่ทุ่มเทความคิดเพื่อที่จะได้เป็นแม่ทัพหญิง ย่อมไม่คิดที่จะเข้าวัง“หากพวกเจ้าไม่มีอะไรทำก็ไปคัดกฎวังเถิด”เมื่อเหล่านางสนมได้ยินก็พลันเงียบปากทันทีหลังจากพวกนางกลับกันไปแล้ว นางสนมเจียงยังคงรั้งอยู่ต่อ แ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 226

    ยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ความจริงที่เฉียวม่อสามารถพูดได้มีไม่มากนางทำความเคารพเฟิ่งจิ่วเหยียน“ฮองเฮาทรงอธิษฐานขอพรให้เหล่าทหาร หม่อมฉันจึงคิดว่า ไม่ว่าเยี่ยงไรก็ต้องขอบพระทัยพระนางด้วยตนเอง“เมื่อครู่ตอนอยู่สนามม้าหลวงกับฝ่าบาท จึงกล่าวถึงคำขอที่ไม่เหมาะสมนี้“ฮองเฮา หม่อมฉันขอคารวะท่านด้วยน้ำชาจอกนี้แทนสุรา”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าเรียบนิ่ง“ท่านแม่ทัพ เกรงใจแล้ว”เซียวอวี้พูดออกมาทันที“อฐิษฐานขอพรเพียงเรื่องเล็กน้อย เหล่าทหารเสียสละเลือดเนื้อสู้ศึกต่างหากคือเรื่องจริง ฮองเฮาไม่คู่ควรกับคุณงามความดีนี้หรอก”เหลียนซวงอยากโต้กลับมากฮองเฮานำทัพไปทำสงครามที่ชายแดนแท้ ๆ ผลกลับกลายเป็นว่าคุณงามความดีนี้ตกไปอยู่ที่เฉียวม่อเสียอย่างนั้นเฉียวม่อกล่าวเหมือนให้ความเที่ยงตรง“ฝ่าบาท หากไม่มีคำอธิษฐานขอพรของฮองเฮา พวกข้าก็คงไม่สามารถเอาชนะกองทัพรัฐเหลียงได้รวดเร็วขนาดนี้”น้อยคนนักที่จะกล้าโต้แย้งฝ่าบาทเช่นนี้ซ้ำยังเป็นอิสตรีทว่าเซียวอวี้ไม่เพียงไม่ลงโทษ ยังเห็นด้วย“หากเจ้าบอกว่าฮองเฮาทำคุณงามความดี ย่อมเป็นเช่นนั้น”เท่านี้ก็ดูออกแล้วว่าเขาเชื่อใจและโปรดปรานยอดแม่ทัพหญิงม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 227

    เฟิ่งเวยเฉียงฟื้นคืนสติ นี่เป็นข่าวดีอย่างยิ่งหลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนทราบเรื่องนี้ ก็ออกจากวังไปในคืนนั้นยามราตรีเงียบสงัด ไฉ่เยว่เปิดประตูเรือน ให้เฟิ่งจิ่วเหยียนเข้ามาข้างในจากนั้นไฉ่เยว่ก็ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกภายในเรือนเฟิ่งเวยเฉียงนั่งเหม่อลอยบนเตียง ยามเห็นคนใส่หน้ากาก ก็จำไม่ได้ว่าเป็นใครจนกระทั่งเฟิ่งจิ่วเหยียนถอดหน้ากากออก น้ำตาของเฟิ่งเวยเฉียงพลันเอ่อล้น“ท่านพี่…”เฟิ่งจิ่วเหยียนก้าวเท้าเร็ว ๆ ไปที่เตียงเฟิ่งเวยเฉียงนั่งอยู่ตรงนั้น กอดเอวของนางเอาไว้ แล้วร้องไห้ออกมายกใหญ่“ท่านพี่! เป็นท่าน...เป็นท่านจริง ๆ ใช่ไหม!”เฟิ่งจิ่วเหยียนควบคุมอารมณ์พลุ่งพล่านเอาไว้ ยกมือขึ้นตบหลังของเวยเฉียงเบา ๆ“ข้าเอง ข้ากลับมาแล้ว”เฟิ่งเวยเฉียงฟื้นขึ้นมาได้ไม่นาน จึงยังเลื่อนลอย ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาโลกภายนอกเกิดอะไรขึ้นบ้างนางจะใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งเหม่อลอยเพียงลำพังไฉ่เยว่ถามอะไร นางก็ไม่ตอบพอเห็นท่านพี่ของตนเอง จึงเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างเฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งลง เช็ดน้ำตาบนหน้าให้นางเองกับมือเวยเฉียงผอมลงเยอะมากนางเห็นแบบนั้นก็รู้สึกสงสาร“เราออกจากเมืองหลวง ไปที

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1202

    เฟิ่งจิ่วเหยียนอุ้มลูก ยืนอยู่บนที่สูง แววตาสุขุมแน่วแน่“หากข้าอยากว่าราชการหลังม่าน แล้วเหตุใดจะไม่ได้?”เมื่อคำนี้พูดออกมา ทุกคนต่างส่งเสียงเกรียวกราว“ฮองเฮา ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับให้แม่ไก่มาขันในตอนเช้า นั่นฝ่าฝืนกฎเกณฑ์!”“ขออภัยกระหม่อมขอคัดค้าน!”ไทฮองไทเฮามีสีหน้าโรยรา มองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียน แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอาฮองเฮาทำเช่นนี้ มันเสี่ยงมากเกินไปพูดตรงขนาดนี้ ขุนนางคนไหนจะยอมรับได้?เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น จึงวางองค์ชายลงบนบัลลังก์“ไม่ต้องกล่าวถึงว่าฝ่าบาทยังไม่เสด็จสวรรคต ถึงแม้ว่าท่านเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็ยังมีองค์ชายสืบราชบัลลังก์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงเวลาสำหรับทุกท่านหรอก“วันนี้พวกเจ้าต่างพูดกันเซ็นแซ่ ราวกับอยากวางแผนชิงบัลลังก์เลยนะ!”ทหารคนหนึ่งโต้กลับไปอย่างฮึกเหิม“ฮองเฮา พวกกระหม่อมบริสุทธิ์ใจ กลับถูกท่านหยามเกียรติเช่นนี้! พวกกระหม่อมไม่ยอม!”ท่านอ๋องผู้หนึ่งมองไปทางไทฮองไทเฮา“เสด็จย่า ท่านพูดอะไรบ้างสิ!”เด็กทารกจะไปทำอะไรได้? คุ้มครองแผ่นดินไหวหรือ?จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็บอกว่าปวดหัว แล้วให้สาวใช้ประคองตัวเองออกไปเหล่าท่านอ๋องต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1201

    แคว้นหนานฉีณ เมืองหลวงเรื่องที่ฮองเฮากลับวัง และให้กำเนิดฝาแฝด ใต้หล้าต่างรู้กันถ้วนหน้าอย่างรวดเร็วในวังหลวง ไทเฮาทั้งดีใจที่องค์ชายถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งกังวลเรื่องฝาแฝดนางเรียกฮองเฮามาที่ตำหนักฉือหนิง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับอีกฝ่าย“หากราชวงศ์มีฝาแฝด โดยเฉพาะองค์ชาย เช่นนั้นก็ต้องส่งคนหนึ่งออกไปนอกวัง“ฮองเฮา ข้ารู้ ไม่ว่าจะหน้ามือหรือหลังมือล้วนคือเลือดเนื้อ แต่เพื่อราชวงศ์ เจ้าต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด”ขนาดตอนนั้นตระกูลเฟิ่งมีลูกแฝดยังทอดทิ้งหนึ่งคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ใบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ กล่าวเหมือนไม่ได้ยิน“เด็กทั้งสองคน จะไม่มีใครถูกส่งออกไปทั้งนั้น”เซียวอวี้เองก็เคยพูด เขาจะปกป้องลูกของตัวเองไทเฮารู้เป็นอย่างดีว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กฎก็เป็นเช่นนี้“ฮองเฮา อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลย แม้นข้าจะยินยอม ขุนนางใหญ่เหล่านั้นก็คงไม่ยอมอยู่ดี“วันนี้อยากให้เจ้าเตรียมพร้อม“สุดท้ายเจ้าก็ต้องตัดสินใจ”วังหลังเหล่านางสนมรวมตัวกัน ต่างคนต่างมีความคิดแตกต่างกัน“มีคนบอกว่าฝ่าบาทเกิดเรื่อง  จริงหรือไม่?”“มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1200

    เซียวอวี้ที่ยังคงคอพับไร้เรี่ยวแรง ยกยิ้มเย็นที่มุมปากอย่างถากถางเขาไม่พูดอะไร ท่าทางทะนงองอาจคนที่อยู่ตรงหน้าแนะนำตัว “ข้าคือองค์ชายสี่แห่งแคว้นเป่ยเยี่ยน ครั้งนี้มาเป็นตัวแทนของเสด็จพ่อ เพื่อแสดงไมตรีในฐานะเจ้าบ้านต่อฮ่องเต้หนานฉี”เมื่อองค์ชายสี่มองส่งสัญญาณ ข้ารับใช้ก็นำอาหารเข้ามาเซียวอวี้ไม่แม้แต่จะมององค์ชายสี่มีความอดทน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม“ฮ่องเต้หนานฉี พวกเราแคว้นเป่ยเยี่ยนเชิญท่านมาเป็นแขกด้วยความจริงใจ“เพียงแต่ข้างนอกอันตรายเกินไป จึงได้แต่จัดให้ท่านอยู่ที่นี่“ท่านวางใจเถิด รอให้แคว้นเป่ยเยี่ยนขับไล่กองทัพแคว้นหนานฉีออกไปจนได้ดินแดนที่สูญเสียไปคืนมา ย่อมปล่อยตัวท่านกลับไป”ริมฝีปากบางของเซียวอวี้ยิ้มเยาะเบา ๆพูดเสียดูดี ที่จริงก็แค่เอาเขาเป็นตัวประกัน ทำให้กองทัพแคว้นหนานฉีต่อต้านไม่ได้ก็เท่านั้นองค์ชายสี่เห็นเขาเยือกเย็นเพียงนี้ จึงขอตัวไปก่อนทว่าเมื่อออกมาด้านนอก องค์ชายสี่ก็พูดอย่างเย้ยหยัน“ตกเป็นเชลยแล้วยังจะโอหังเพียงนี้!”ที่ปรึกษาที่อยู่ข้างกายเขาพูด“องค์ชาย ฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ได้ยินว่าฮ่องเต้หนานฉีผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1199

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพรวมเป็นสำคัญ จึงต้องกลับแคว้นหนานฉีก่อนอู๋ไป๋วิตกกังวล“ท่านประมุข กระหม่อมกลัวว่านักฆ่าพวกนั้นจะลงมือกับท่านด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าท่านประมุขเพิ่งจะคลอดลูก จะทนรับแรงสั่นสะเทือนจากการเดินทางได้เช่นไร?สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“กลับแคว้นหนานฉี”ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ต้องกลับไปกลัวก็กลัวแต่ เป้าหมายของนักฆ่าพวกนั้นคือก่อกวนแคว้นหนานฉี นางจะปล่อยให้พวกเขาสมหวังไม่ได้เด็ดขาดก่อนที่จะตามหาเซียวอวี้เจอ นางจะต้องช่วยเขาปกป้องแคว้นหนานฉีเอาไว้ให้ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดการเรื่องในแคว้นซีนี่ว์ไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงว่าจะจัดการขับไล่กองทัพแคว้นเป่ยเยี่ยนอย่างไร ไปจนถึงผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นคนใหม่ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ประมุขคนใหม่ใช้อำนาจอย่างเผด็จการ นางจึงจัดตั้งนโยบายสามประมุขขึ้นในบรรดาสามคนนี้ มีคนหนึ่งเป็นบุรุษทำเช่นนี้จะได้ปลอบโยนเหล่าบุรุษในแคว้นซีนี่ว์ ป้องกันไม่ให้พวกเขาสร้างเรื่องวุ่นวายอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนออกเดินทางกลับแคว้นหนานฉีอย่างรวดเร็วแม้ว่าหูย่วนเอ๋อร์จะตัดใจไม่ลง ทว่านางก็รู้ดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1198

    ประตูตำหนักเปิดออก นางกำนัลเดินออกมาจากด้านในแล้วพูดกับหูย่วนเอ๋อร์: “ท่านแม่ทัพ ท่านประมุขคลอดองค์ชายพระองค์หนึ่งออกมาอย่างปลอดภัยเพคะ”ที่แคว้นซีหนี่ว์ มีเพียงองค์หญิงเท่านั้นที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขได้ ดังนั้นองค์ชายผู้นี้จึงไม่เป็นที่ต้องการทว่าหูย่วนเอ๋อร์ยังคงรู้สึกขอบคุณสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง“องค์ชายก็ดี ปลอดภัยก็ดีแล้ว”ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสายเลือดเชื้อพระวงศ์เพิ่งจะพูดจบ หมอตำแยข้างในก็ร้องตะโกนอย่างตกใจ“ยังมีอีกพระองค์หนึ่ง!”ที่แท้ท่านประมุขก็ทรงตั้งครรภ์ฝาแฝดนี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคนแววตาหูย่วนเอ๋อร์มีความยินดีและการเฝ้ารอพาดผ่านหวังว่าจะเป็นแฝดชายหญิงหากเป็นองค์หญิง อนาคตย่อมสามารถสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นได้ภายในตำหนักเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกไม่ถึงว่าคลอดออกมาแล้วคนหนึ่ง แล้วยังมีอีกคนโชคดีที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังใช้แรงไปไม่หมดก่อนหน้านี้เป็นเพราะตำแหน่งครรภ์ไม่ตรงจึงคลอดยากคนที่สองนี้กลับคลอดง่ายกว่ามาก ทว่าตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกอะไรแล้ว นางเจ็บปวดจนชาไปหมดแล้ว ร่างกายส่วนล่างบวมเสียจนเหมือนว่าเนื้อส่วนนั้นไม่ใช่ของนางอีกต่อไปจนกร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1197

    เคร้ง!พู่กันในมือเฟิ่งจิ่วเหยียนหล่นลง นางมองอู๋ไป๋ด้วยสีหน้าเย็นชา“พวกเฉินจี๋เล่า!”อู๋ไป๋ส่ายศีรษะ“เฉินจี๋เองก็หายตัวไปพ่ะย่ะค่ะ ไม่ง่ายเลยที่จะส่งข่าวนี้กลับมา! ท่านประมุข พวกเราทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตรายแต่ก็ไม่ตื่นตระหนก หลังจากสงบอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็วก็สั่งอู๋ไป๋“สั่งการลงไปให้ทุกจวนในแคว้นซีหนี่ว์ตามหาพระสวามี“พร้อมทั้งส่งองครักษ์ลับทุกคนออกไป รวมถึงกองทัพอินทรีเหิน“ให้พวกเขาตามหาฝ่าบาทตามแนวชายแดน!”อู๋ไป๋รีบไปจัดการตามคำสั่งหากเกิดอะไรขึ้นกับฝ่าบาทต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่!หลังจากอู๋ไป๋ออกไป เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าฝ่ามือของตนเต็มไปด้วยเหงื่อฎีกาบนโต๊ะนางก็ดูไม่รู้เรื่องแล้วทุกอย่างที่คิด มีแต่เรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของเซียวอวี้เป็นไปได้มากว่าคนที่ลงมือรู้ถึงฐานะของเขาดีเฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าเคร่งขรึม หน้าซีดไร้เลือดไม่นานอู่ไป๋ก็กลับมา“ท่านประมุข จัดการเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ยังมีองครักษ์ที่มาส่งข่าวผู้นั้น ท่านต้องการพบเขาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เขาพูดจบแล้ว ทว่ากลับไม่ได้ยินท่านประมุขตอบอะไรอู่ไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1196

    พรุ่งนี้เซียวอวี้ก็ต้องเดินทางกลับแคว้นหนานฉีแล้ว คืนนี้เขานอนกอดเฟิ่งจิ่วเหยียน ทั้งคืนไม่อาจหลับตาลงได้เขาวางมือข้างหนึ่งไว้บนท้องของนาง สัมผัสกับการเคลื่อนไหวในครรภ์ที่มีอยู่บางเวลาหากเวลาหยุดลงตรงนี้ได้ ก็คงจะดีทว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงเขายังคงเป็นฮ่องเต้แคว้นหนานฉี ไม่อาจเห็นแก่ความรู้สึกส่วนตัว ละเลยความปลอดภัยของแคว้นได้เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็นอนไม่หลับนางกุมแขนของเขาเบา ๆ พูดด้วยน้ำเสียงสงบและอ่อนโยน“อย่างมากสุดหนึ่งเดือน หม่อมฉันก็จะกลับแคว้นหนานฉีเพคะ”เซียวอวี้จุมพิตซอกคอนาง “ได้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะไม่ผิดคำพูด”ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใดเขาถึงรู้สึกกระวนกระวายใจเหมือนกับท้องฟ้าที่มืดครึ้มไปด้วยฝน ยากที่ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งวันที่สอง ในที่สุดเซียวอี้ก็ต้องออกเดินทางแล้ววันนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ว่าราชการ นางนั่งรถม้าไปส่งเขาออกจากเมืองด้วยตนเองข้างกายเซียวอวี้มีองครักษ์ติดตามมากมาย ส่วนเหล่าองครักษ์เงา เขาล้วนให้อยู่กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ให้พวกเขาคอยปกป้องฮองเฮาและเด็กให้ดีส่งกันพันลี้ ก็ต้องจากกันเซียวอวี้กำชับหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการกินข้าวและการนอน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1195

    ในใจเฟิ่งจิ่วเหยียนพลุ่งพล่านด้วยเพลิงอารมณ์อันร้อนแรง นางเม้มริมฝีปาก พูดกับเซียวอวี้“เราเป็นสามีภรรยากัน ข้าย่อมมิอาจทำใจห่างจากท่านได้ “แต่ราชการบ้านเมืองประดุจเพลิงโหมกระหน่ำ จะให้ข้ามีจิตห่วงใยแต่เรื่องรักใคร่ได้อย่างไร? “ฝ่าบาท ท่านก็เช่นกัน อย่าได้พูดสิ่งที่หามีสาระไม่ เร่งจัดการราชกิจให้เป็นกิจจะลักษณะเถิดเพคะ...”นางพลางพูด พลางถอยออกจากอ้อมกอดของเขา บีบคั้นให้เขาจำต้องให้ความสำคัญแก่งานราชกิจก่อนสิ่งอื่นใดเซียวอวี้จ้องนางนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างอดกลั้น“ได้”พูดจบ เขาก็หมุนตัวออกจากห้องทรงพระอักษร เหมือนกลั้นลมหายใจไว้ มิคาดหวังคำปลอบประโลมจากนางอีกต่อไปด้านนอกตำหนัก เซียวอวี้ยืนท่ามกลางลมห้วงราตรี สัมผัสได้ถึงไอสังหารเยือกเย็นของแคว้นซีหนี่ว์สายตาของเขาทอดมองไกลลิบ สั่งเฉินจี๋ด้วยสีหน้าเรียบเฉย“เตรียมรถม้า พรุ่งนี้กลับแคว้นหนานฉี”สีหน้าเฉินจี๋ไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใด ๆ แต่ในใจกลับแอบลิงโลด ในที่สุดก็ได้ออกจากแคว้นซีหนี่ว์แล้วเฉินจี๋ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม “จะให้จัดหมอตำแยติดตามไปด้วยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เผื่อฮองเฮาประสูติกลางทา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1194

    เฟิ่งจิ่วเหยียนจำลายมือในกระดาษนั้นได้แน่ชัด ว่าเป็นลายมือของเลี่ยอู๋ซิน เลี่ยอู๋ซินเป็นสหายสนิทของเมิ่งสิงโจวศิษย์พี่ของนาง ก่อนหน้านี้เพื่อสืบหาความจริงคดีมนุษย์โอสถ นางเคยติดต่อกับเลี่ยอู๋ซิน ได้ข่าวว่าหลังจากความจริงกระจ่าง เลี่ยอู๋ซินก้ไปยังแคว้นตงซาน ไล่ล่าซุนโฉวที่เป็นหัวหน้ากลุ่มมนุษย์โอสถที่หลงเหลือ ครั้งนี้เขาส่งข่าวสารมาโดยมิได้ปรากฏตัว ดูท่าออกจะลึกลับพิกลอยู่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “หากมีสิ่งใดเคลื่อนไหวผิดแผก ไยไม่เขียนบอกให้ชัดเจนโดยตรง?”นางก้มมองข้อความ เซียวอวี้ผู้ยืนอยู่ข้างตัวนางคาดคะเน “เลี่ยอู๋ซินอาจไม่สะดวกปรากฏตน หรือผู้ที่ส่งข่าวครั้งนี้ มิใช่เขาเองก็เป็นได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนโน้มเอียงไปทางข้อสันนิษฐานประการหลังมากกว่า อาจเป็นเลี่ยอู๋ซินมอบหมายให้คนนำข้อความมา หากมิใช่เช่นนั้น คงไม่จำต้องปิดบังอำพรางถึงเพียงนี้“แคว้นตงซาน…” เฟิ่งจิ่วเหยียนพึมพำในลำคอ ครานั้นแต่ละแคว้นโจมตีแคว้นหนานฉี ก็เพราะแคว้นตงซานเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง เห็นได้ชัดว่าความทะเยอทะยานของพวกเขาไม่ธรรมดา ยามนี้แคว้นตงซานเคลื่อนไหวผิดแผก เกรงว่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status