Share

บทที่ 19

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
last update Last Updated: 2024-09-10 13:53:34
ถึงแม้จ้าวเฉียนเรียกแทนตัวเองว่าบ่าว น้ำเสียงกลับแฝงไปด้วยความหยิ่งผยอง

เหมือนกับว่าเขามาเอา ฮองเฮาก็ต้องให้

แต่เรียกอยู่ตั้งนาน ก็ไม่ได้ยินเสียงคนพูดตอบ

กลับเป็นหัวหน้าหมัวมัว ที่อยู่ไกลยิ่งกว่าออกมา

สีหน้าหัวหน้าหมัวมัวเหี่ยวเฉา

เจ้านายไม่เป็นที่โปรดปราน นางที่เป็นถึงหัวหน้าหมัวมัว ยังมีอิทธิพลสู้บ่าวใช้ระดับล่างของตำหนักหลิงเซียวไม่ได้

เห็นจ้าวเฉียน นางถ่อมตัวอย่างต่ำต้อย

“จ้าวกงกง ท่านอย่าร้อนใจ ฮองเฮาอาจจะยังไม่ตื่น บ่าวจะไปเร่งให้”

จ้าวเฉียนเชิดสายตา เชิดคางสูงพร้อมพูดขึ้นมาว่า

“งั้นเจ้าก็ไวหน่อย”

“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ จะเข้าไปเดี๋ยวนี้”

หัวหน้าหมัวมัววิ่งไปในตำหนัก เห็นฮองเฮากำลังหวีผม

นางรีบเดินเข้าไปอย่างยิ้มแย้ม

“พระนาง อาการปวดหัวของหวงกุ้ยเฟยกำเริบอีกแล้ว หากท่านสามารถมอบยาให้ได้ในตอนนี้ ฮ่องเต้จะต้องจดจำความดีของท่าน ท่านก็จะมีโอกาสเป็นที่โปรดปรานแล้ว”

“ท่านว่า หลักการนี้ถูกต้องไหม?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนเขียนคิ้วอยู่อย่างเชื่องช้า ไม่ร้อนใจเลยสักนิด

“ยา ไม่มีแล้ว”

รอยยิ้มของหัวหน้าหมัวมัว หุบลงทันที

“พระนาง ไม่มีแล้วจริง ๆ หรือ? ท่าน...ท่านไม่หาดูหน่อยหรือ?
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (11)
goodnovel comment avatar
ส่วนเกินของหัวใจ ก็เป็นได้เงา
เบื่อระบบเติมเงิน เติมยาก
goodnovel comment avatar
paryboeing
สนุกดีค่ะ นางเอกเก่งมาก กี่ตอนจบค่ะ
goodnovel comment avatar
paryboeing
กี่ตอนจบอ่ะค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 20

    ริมฝีปากเซียวอวี้บางเหมือนมีด ดวงตายับยั้งความขุ่นเคืองไว้ยาที่ฮองเฮาให้มาก่อนหน้านี้นั้นใช้ได้ดี เขาจึงให้สำนักหมอหลวงไปศึกษาวิจัย แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีผลสรุป เพราะยังขาดยาสมุนไพรที่สำคัญหลายอย่างเดิมคิดว่าฮองเฮาจะใจดี ที่แท้นางกำลังรออยู่ตรงนี้ใช้ยาบีบบังคับเขา!ทำได้ดีมาก!สีหน้าเซียวอวี้ฉายแววดุร้าย“นางยังพูดอะไรอีก”หน้าผากจ้าวเฉียนเต็มไปด้วยเหงื่อ“ฮองเฮาพูดว่า ท่านลังเลนานเท่าไหร่ หวงกุ้ยเฟยก็จะเจ็บปวดนานเท่านั้น”“หากท่านไม่รับปาก นางก็จะทำลายยานั้น ก็ไม่ยกให้กับท่าน”“ยังพูดว่า... แม้สุภาพบุรุษรับปากแล้วไม่คืนคำ แต่พระราชโองการน่าเชื่อถือกว่า ท่านเพียงรับปากอย่างเดียวไม่ได้ ต้อง...ต้องมีพระราชโองการ”มือเท้าจ้าวเฉียนอ่อนแรงหมดกัน ฮ่องเต้คงไม่ประหารเขามั้ง?ฟังจ้าวเฉียนพูดจบ สีหน้าเซียวอวี้มืดครึ้ม เหมือนเมฆดำก่อนพายุจะมาตำหนักหลิงเซียวเงียบสงัดทางด้านตำหนักหย่งเหอ บรรยากาศก็แน่นิ่งเหมือนกันสีหน้าหัวหน้าซุนหมัวมัวขาวซีดคราวนี้แย่แล้ว!ฮองเฮาหลอกลวงฮ่องเต้ว่าไม่มียาก่อน จากนั้นก็ข่มขู่ให้ฮ่องเต้โปรดปราน...นางไม่กล้าคิด ฮ่องเต้จะต้องโกรธโมโหขนาดไหน

    Last Updated : 2024-09-10
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 21

    หลังจากที่ฮ่องเต้ออกไปแล้ว สาวใช้ชุนเหอกังวลใจอย่างมาก“พระสนม หากฮองเฮาได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้จริง ตำแหน่งในวังของท่านไม่ใช่หนึ่งเดียวอีกต่อไปแล้ว”เพล้ง! ในมุ้งมีเสียงคับแค้นใจดังขึ้นแจกันดอกไม้ที่อยู่ตรงหัวเตียงลอยละลิ่วออกไปจากผ้าม่านมุ้งแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ สาวใช้ชุนเหอรีบเก็บเศษแก้วที่กระจายและคุกเข่ากับพื้นทันที“พระสนมเย็นพระทัยก่อนเพคะ!”หวงกุ้ยเฟยนั่งริมขอบเตียง มือข้างหนึ่งกำผ้าปูที่นอนไว้ แววตามืดทึมน่ากลัว เพ่งมองไปด้านหน้า ทำให้คนหวาดกลัว“ฮ่องเต้จะโปรดปรานนางได้อย่างไรกัน!”สตรีที่ชื่อเสียงเสื่อมเสียไปแล้ว ยังบังอาจหน้าด้านไร้ยางอายมาแย่งความโปรดปรานไปจากนาง ช่างไม่รู้จักเจียมตัว!ณ เวลานี้ สนมคนอื่นก็รวมกลุ่มกันพวกนางไม่เคยได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ จึงไม่ได้โมโหใหญ่โตเช่นหวงกุ้ยเฟยขนาดนั้น ทว่าก็ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรเลย“เฮ้อ! อย่างไรก็ตามก็เป็นเพราะฮองเฮาฝีมือดี คาดไม่ถึงเลยว่าฮ่องเต้จะตกปากรับคำจริง ๆ เสียด้วย ”นางสนมเจียงที่คอยเอาอกเอาใจหวงกุ้ยเฟยแต่ไหนแต่ไรมา อดไม่ได้ที่จะประชดประชัน“ฝีมืออะไรกัน? ก็แค่ใช้หวงกุ้ยเฟยมาบีบบังคับฮ่องเต้! ลูกไม

    Last Updated : 2024-09-10
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 22

    แววตาถมึงทึงแข็งกระด้างของเซียวอวี้แผ่ความเย็น มองสตรีตรงหน้าด้วยความเย็นชานางสนมเจียงคุกเข่าอยู่บนเตียง สวมชุดนอนบางเฉียบไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเยือกเย็นในวสันตฤดู หรือเป็นเพราะไฟความโกรธของฮ่องเต้ทำให้คนอยากแทรกแผ่นดินหนี นางก้มหน้า ตัวสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้“หม่อมฉัน...หม่อมฉันคือนางสนมเจียงอยู่ในตำหนักหวงกุ้ยเฟย หม่อมฉันเคยถวายบังคมฝ่าบาท...”นางฝืนพูดให้จบประโยค ลำคอทั้งแห้งและฝืดเคืองหน้าตาเซียวอวี้หล่อเหลา เย็นชาเขาเย็นยะเยือกจนทำให้คนกลัว ราวกับอสูรจากขุมนรกแม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะเรียบนิ่งอย่างมาก“ฮองเฮาล่ะ” เขาซักถามอีกครั้งอากาศรอบข้างเบาบางลงเรื่อย ๆ นางสนมเจียงปะทะกับความตกใจสุดขีดนั้นแทบจะหายใจไม่ออก“กราบทูลฝ่าบาท ฮองเฮาให้หม่อมฉันมา...ปรนนิบัติเพคะ”หลิวซื่อเหลียงได้ยินเสียงผิดปกติเมื่อครู่ จึงวิ่งเข้ามาดูโดยไม่รอมีดำรัสสั่งได้ยินคำพูดของนางสนมเจียงพอดี ตกตะลึงจนตาค้างอะไรกัน? ! !คนที่ปรนนิบัติคืนนี้ไม่ใช่ฮองเฮา?ฮองเฮาต้องการจะทำอะไร แสร้งปล่อยเพื่อจับหรือกระไร?ในสถานการณ์ตอนนี้ นางสนมเจียงเองก็ประหลาดใจมากเช่นกันนางไม่คิดเลยว่าตนเองจะได

    Last Updated : 2024-09-10
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 23

    ฮ่องเต้เสด็จมาที่ตำหนักหย่งเหออย่างกะทันหัน เหลียนซวงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก“ฝ่าบาทเสด็จมาทำอันใดกัน?”สีหน้าที่ซุนหมัวมัวมองนางราวกับเห็นคนต่างเผ่า“เจ้าไม่ทราบจริง ๆ หรือ? ตอนกลางวันฮองเฮาเราพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะรับความโปรดปราน ตกกลางคืนกลับให้นางสนมเจียงไปปรนนิบัติแทนฮองเฮา นี่ไม่ใช่แสดงอย่างชัดเจนว่ากำลังปั่นหัวฮ่องเต้อยู่รึ“ฮ่องเต้เป็นถึงจักพรรดิ! จะทนเรื่องเช่นนี้ไหวได้อย่างไรกัน!”“ฮองเฮา ท่านรีบเปลี่ยนอาภรณ์เถิด ชะตาชีวิตของพวกหม่อมฉันอยู่ในฝ่ามือของท่านนะเพคะ!”เฟิ่งจิ่วเหยียน: ?“เปิ่นกงได้กล่าวเมื่อใดว่าจะปรนนิบัติ!”นางเสียสติไปแล้วกระมัง!ซุนหมัวมัวเองก็สับสนงงงวยหรือว่านางคิดผิดไป?ทว่าไม่ใช่นางคนเดียวที่คิดเช่นนี้!อย่างไรเสียในวังนี้ ใคร ๆ ก็ต้องแย่งชิงความโปรดปรานเพื่อตัวเองทั้งนั้น จะให้โอกาสคนอื่นมาแย่งปรนนิบัติได้อย่างไรกัน สมองทึบหรือกระไร?เรื่องราวพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ซุนหมัวมัวคนเดียวที่คิดต่างค่ำคืนดึกดื่น พวกนางสนมที่นอนไม่หลับอยู่แล้ว หลังจากได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนักจื้อเฉิน ต่างพากันตะลึงงัน“อะไรกัน? คนที่ปรนนิบัติไม

    Last Updated : 2024-09-10
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 24

    เป็นเขาได้อย่างไรกัน!เฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าสงสัย เหงื่อออกตามมือเล็กน้อยคนที่อยู่ตรงหน้า หน้าตาเหมือนกับบุรุษที่นางเคยประลองมือในวันนั้นทุกกระเบียดนิ้ว!ไม่สิ พูดให้ถูกต้องก็คือพวกเขาคือคนเดียวกันต่างหาก!ใบหน้าหล่อเหลาเช่นเดียวกัน แววตาลึกลับ และยังมีรังสีอาฆาตที่คมคาย...หลังจากที่ประลองมือครั้งแรก นางคิดเองเออเองว่าเขาเป็นองครักษ์ในวังความจริงแล้ว เขาเป็นถึงฮ่องเต้เซียวอวี้!ทว่า จักรพรรดิที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี คิดไม่ถึงเลยว่าศิลปะการต่อสู้จะเก่งกาจขนาดนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนจำเซียวอวี้ได้ ทว่าเซียวอวี้กลับไม่รู้ คนตรงหน้าผู้นี้เป็นนักฆ่าสาวที่เขาเคยประลองมือมาแล้วสองครั้ง“ฮองเฮาจะจ้องเราไปตลอดเลยหรือกระไร” เซียวอวี้พูดอย่างไม่เป็นมิตรเฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งสติทันที หลุบสายตาลง“โปรดอภัยที่หม่อมฉันเสียมารยาท”ภายนอกของนางดูสงบนิ่งเป็นปกติ ความจริงแล้วในใจยังคงมีความประหลาดใจอยู่นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวอวี้ได้มองหน้านางในระยะใกล้เช่นนี้ครั้งก่อนที่เห็นนาง คือตอนที่นางควบม้าไปช่วยไทเฮา เขายืนอยู่ที่สูง มองจากไกล ๆ ...ทันใดนั้น นิ้วเรียวยาวของเซียวอวี้อันเย็นยะเยือกเชิดค

    Last Updated : 2024-09-10
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 25

    เฟิ่งจิ่วเหยียนที่ถูกบีบคออยู่ สีหน้าเริ่มซีดเซียว“เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่จดหมายตระกูลกล่าวถึง...”“จดหมายตระกูล?” เซียวอวี้ไม่เชื่ออย่างแน่นอนเขาสั่งให้นางนำสิ่งที่เรียกว่าจดหมายตระกูลฉบับนั้นออกมาซุนหมัวมัวที่อยู่ด้านนอกตกตะลึงตาค้างมีจดหมายตระกูลที่ใดกัน?พอหันกลับไป...คุณพระ นางเสียขวัญ!เด็กเหลียนซวงนี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?และในมือของนางถืออะไรอยู่?เหลียนซวงไม่สนใจซุนหมัวมัวที่ยืนแข็งเป็นหิน ตาลีตาเหลือกเดินเข้าในตำหนัก“ฝ่าบาท นี่เป็นจดหมายที่นายท่านส่งมาวันนี้”เซียวอวี้ปล่อยมือ เปิดดูด้วยตนเองนี่เป็นจดหมายที่บิดาเขียนให้ลูกสาว——“ลูกเวยเฉียง จดหมายของเจ้าก่อนหน้านี้ ภายใต้ความรับผิดชอบของฮองเฮา จะห่วงใยเหล่านางสนมราวกับเป็นพี่น้อง ทำให้พ่อรู้สึกสบายใจ ได้สืบทราบเรื่องบางอย่างที่เกี่ยวงข้อง หวังว่าจะช่วยเหลือเจ้าได้...”เนื้อหาหลังจากนี้ไม่เพียงแต่พูดถึงนางสนมเจียงเท่านั้น ยังกล่าวถึงนางสนมคนอื่นอีกด้วยทว่าใจความสำคัญของจดหมายคือ ช่วงเวลาที่พวกนางเข้าวัง ความสัมพันธ์ของบิดามารดาในครอบครัว รวมถึงสิ่งที่ชื่นชอบทว่าอ่านจดหมายฉบับนี้ รู้สึกได้ถึงคว

    Last Updated : 2024-09-10
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 26

    เฟิ่งจิ่วเหยียนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมา สายตาเรียบเฉย ราวกับเป็นน้ำนิ่งที่ไม่มีคลื่นเลยแม้แต่น้อย“ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้หม่อมฉันพูดจาอวดดี ทำให้ฝ่าบาททรงกริ้ว ทบทวความผิดของตนเองมาตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่คู่ควรที่จะปรนนิบัติพระองค์จริง ๆ เพคะ”ดวงตาของเซียวอวี้เย็นชาและล้ำลึก แอบซ่อนไปด้วยความอันตราย“ฮองเฮาก็รู้ตัวเองดีนี่”“เคลื่อนขบวน ไปตำหนักหลิงเซียว” ......หลังจากฮ่องเต้เสด็จกลับ เหลียนซวงดูเหมือนกับทั้งร่างแตกสลาย ตัวอ่อนยวบเท้ามุมโต๊ะเอาไว้“พระนาง บ่าวตกใจแย่แล้วเพคะ...”เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย เหลียนซวงกล่าวเตือนอย่างเป็นห่วง“พระนาง ฝ่าบาทไม่ได้ทรงโปรดปรานนางสนมเจียง ท่านอยากให้นางทำลายความเป็นสนมคนโปรดเพียงผู้เดียวของหวงกุ้ยเฟย ก็จัดว่าล้มเหลว”“ไม่เพียงแค่นี้ ท่านยังทำให้ฝ่าบาทไม่ทรงพอพระทัย ทั้งยังเกิดความบาดหมางกับหวงกุ้ยเฟย และนางสนมเจียงอีก สถานการณ์ของพวกเราจะไม่ยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมหรือเพคะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่คิดว่าล้มเหลวนางกล่าวอย่างสุขุม“นางสนมเจียงกับหวงกุ้ยเฟยสนิทกันมาก จะต้องได้รับผลประโยชน์เพราะอยู่ใกล้ชิดกัน หากฝ่าบาททรงมีใจให้กับนาง คงจะทรงโป

    Last Updated : 2024-09-10
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 27

    นางสนมเจียงทั้งประหลาดใจทั้งดีใจ รีบเช็ดน้ำตาหันหน้ามองออกไปเมื่อเห็นฉากบังลมสีทองนั้น นางลืมความเจ็บปวดที่แผลไปหมดแล้วสาวใช้ที่อยู่ข้างกายคาดเดา“พระนาง ได้ข่าวว่าหลังจากที่ฝ่าบาทเสด็จออกจากตำหนักหย่งเหอ ก็ไปที่ตำหนักหลิงเซียว จะต้องเป็นเพราะหวงกุ้ยเฟยกล่าวชื่นชมกับฝ่าบาท ถึงได้ตกรางวัลมา ท่านจะต้องซาบซึ้งให้มาก ๆ นะเจ้าคะ!”นางสนมเจียงพยักหน้าแรง ๆ“ถูกต้อง อย่างไรเสียพี่หญิงหวงกุ้ยเฟยก็ปฏิบัติต่อข้าด้วยความจริงใจ ไม่เหมือนกับฮองเฮานั่น!”เมื่อเอ่ยถึงฮองเฮา ความเคียดแค้นของนางก็พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้งความแค้นครั้งนี้ นางจะต้องเอาคืน!……ตำหนักจื้อเฉินภายในตำหนักใหญ่ที่เงียบสงัดกลางดึกฟึ่บ——มือข้างหนึ่งปัดผ้าม่านออกจากด้านใน แฝงไปด้วยความกระวนกระวายใจแสงจันทร์ที่เล็ดลอดเข้ามา สาดส่องมาที่ด้านในมุ้ง เซียวอวี้นั่งอยู่ตรงนั้น เสื้อคลุมที่เปิดออกกว้าง เผยให้เห็นแผ่นอกที่แข็งแกร่งมือข้างหนึ่งของเขาประคองหน้าผากเอาไว้ นวดหว่างคิ้วด้วยความวุ่นวายใจนอนไม่หลับเอาแต่คิดถึงบทสนทนาตอนที่อยู่ตำหนักหย่งเหอซ้ำไปซ้ำมาไม่ถูกต้อง!ตอนนั้นเขาอยากจะลงโทษสาวใช้ของฮองเฮา เ

    Last Updated : 2024-09-10

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 530

    ครึ่งชั่วยามต่อมา หลังจากรุ่ยอ๋องหารือเรื่องเข้าเมืองเซวียนกับตงฟางซื่อเสร็จ ก็อยู่ค้างที่หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ต่อเหล่าฝานพาพวกเขาไปยังที่พักทันใดนั้น รุ่ยอ๋องก็โค้งคารวะเฟิ่งจิ่วเหยียน“ท่านนี้คือรองผู้นำพันธมิตรสินะ ตอนมาข้าจำเจ้าไม่ได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนคารวะกลับอย่างเรียบเฉยในตอนนี้เอง เด็กน้อยเซี่ยวเซี่ยวก็วิ่งเข้ามานางโถมตัวเข้าใส่อ้อมกอดของเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างคุ้นเคย จากนั้นก็ออดอ้อนออเซาะ“พี่ชาย ข้ากลัวความมืด เจ้าไปนอนกับข้า…”พูดยังไม่จบ นางก็เหลือบเห็นพวกรุ่ยอ๋องเด็กมักจะเก็บอาการไม่ได้ สีหน้าพลันเผยแววดีใจออกมาคนนี้ เหมือนจะเป็นท่านพี่รุ่ยอ๋องเลย!เขาตั้งใจมารับนางโดยเฉพาะเลยหรือ?องค์หญิงน้อยทั้งดีใจ ทั้งยังไม่อยากกลับ สีหน้าจึงดูยุ่งเหยิงในตอนนี้เอง รุ่ยอ๋องก็มองมาที่เซี่ยวเซี่ยวด้วยใบหน้าอ่อนโยนองค์หญิงน้อยไม่ค่อยกลับเมืองหลวง ครั้งล่าสุดที่เจอนาง เห็นจะเป็นเมื่อสามปีที่แล้วได้ แต่เขาก็ยังจำนางได้ตั้งแต่เห็นครั้งแรกอีกอย่าง ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทได้รับจดหมายจากพันธมิตรอู่หลิน เขียนบอกเรื่องที่พวกเขาช่วยองค์หญิงน้อยเอาไว้การที่เขามาเยือนเมืองตงซิ่นในครั้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 529

    แม้นตงฟางซื่อจะไม่พอใจที่เฟิ่งจิ่วเหยียนหายไปจากพันธมิตรอู่หลินในตอนนั้น กระนั้นก็ทนเห็นนางเข้าไปในแดนศัตรูคนเดียวไม่ได้เขามองนางแน่นิ่ง พูดอย่างประเมินว่า“เจ้าเปลี่ยนไปนะ“เมื่อก่อนเจ้าหวงแหนชีวิตเสียยิ่งกว่าอะไรดี เอาแต่พูดว่าไม่มีผู้ใดสำคัญไปกว่าตัวของเจ้าเอง”เฟิ่งจิ่วเหยียนรัดสนับข้อมือให้แน่น แล้วกล่าวเสียงทุ้มต่ำ“ตอนนี้ข้าก็ยังเป็นเช่นนั้น”ตงฟางซื่อห้ามนาง “เช่นนั้นก็ไม่ต้องรับเรื่องทุกอย่างไว้คนเดียว เจ้าไม่ได้นามสกุลเซียวเสียหน่อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองมาที่เขาอย่างเรียบนิ่งจากนั้นก็ได้ยินเขาพูดอย่างแน่วแน่“ซูฮ่วน เจ้าตั้งใจสืบเรื่องของพรรคเทียนหลงก็พอ ส่วนเรื่องเมืองเซวียน ข้าจะจัดการเอง”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว“เจ้าจะจัดการอย่างไร?”ใบหน้าหล่อเหลาของตงฟางซื่อปกคลุมไปด้วยรอยยิ้ม“วิชาปลอมตัวไง ข้าก็คิดเหมือนเจ้านั่นแหละ ส่วนตัวเลือกนั้น ข้าคิดว่า ไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่าข้าแล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งค้าง “เจ้า?”ขณะที่นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ตงฟางซื่อก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน“นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำในฐานะผู้นำพันธมิตร อย่าคิดที่จะห้ามข้าล่ะ เรื่องดี ๆ ที่สร้างผล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 528

    “บุตรสาวของจู้กั๋วกง แสดงว่าเป็นองค์หญิงน้อย ลูกพี่ลูกน้องของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันน่ะสิ?!” ฝานจิ้นตกตะลึงชาวยุทธภพ ไม่ชอบทุกเรื่องในราชสำนัก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับราชวงศ์หากองค์หญิงน้อยเป็นอะไรไปในถิ่นของพวกเขา ก็คงกลายเป็นเรื่องยุ่งยากคนอื่น ๆ ค่อนข้างสงสัย“รองผู้นำพันธมิตร นางบอกเองกับปากหรือ?”“ข้าเดาเอา” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดตามตรง“เช่นนั้นท่านดูออกได้อย่างไร?”ในตอนนี้เอง ตงฟางซื่อก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา“เสื้อผ้าอาภรณ์ของเด็กคนนั้นดูธรรมดาก็จริง แต่ลืมเปลี่ยนมาใส่รองเท้าธรรมดา “ผ้ากำมะหยี่  ปักด้วยไหมฝูกวง ล้วนเป็นของพระราชทานในราชวงศ์“เท้าของเด็กคนนั้นโตเร็ว แถมยังมีลีลาเช่นนี้ ก็คงต้องเป็นองค์หญิงน้อยแห่งจวนจู้กั๋วกงแล้วล่ะ”เขาพูดจบ จากนั้นก็หันไปมองเฟิ่งจิ่วเหยียน ใช้สายตาถามว่าตัวเองพูดถูกหรือไม่เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าแทนคำตอบนางไม่ได้กล่าวสิ่งหนึ่ง จริง ๆ แล้ววินาทีแรกที่เจอองค์หญิงน้อย ก็รู้สึกว่าหน้าตาของนางกับเซียวอวี้ดูคล้ายคลึงกันอยู่บ้างฝานจิ้นเสนอตัวเป็นอาสาสมัคร“ข้าจะไปส่งนางเอง! ฝีเท้าข้าเร็ว แถมแรงเยอะ สามารถแบกนางวิ่งได้”ตงฟางซื่อไม่เลือก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 527

    เห็นเพียง บุรุษสวมใส่เสื้อแขนสั้นเนื้อหยาบสีเข้ม  ร่างกายเปื้อนไปด้วยดินโคลน มือหนึ่งจับไก่ มือหนึ่งคล้องตะกร้าผลไม้ไม่รู้ชื่อ ใบหน้าดำคล้ำ ประดับรอยยิ้มดีใจเปี่ยมล้น“เพิ่งหว่านเมล็ดพันธุ์เสร็จน่ะ เจอสภาพอากาศเหมาะพอดี” ตงฟางซื่อหน้าตาหล่อเหลา ภายนอกดูเหมือนพวกบัณฑิตหน้าดำ ไม่มีพิษภัยอะไรขณะที่อู๋ไป๋กำลังจะลุกขึ้น เตรียมทำความเคารพ ทันใดนั้นพลันรู้สึกได้ถึงไอสังหารบางอย่างชั่วขณะที่เหลือบเห็นซูฮ่วนท่ามกลางฝูงคน ดวงตาของตงฟางซื่อพลันทอประกายคมกริบ แล้วโยนไก่ในมือออกไปเป็นอันดับแรกผลปรากฏว่าไก่ตัวนั้นกางปีกบินพุ่งเข้าไปหาเฟิ่งจิ่วเหยียน ราวกับรู้จักเจ้าของ“ตุบ ๆ ๆ!”ในเวลาเดียวกัน เขาก็หยิบผลไม้ในตะกร้า ปาใส่เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ยั้ง ราวกับยิงอาวุธลับอู๋ไป๋เบิกตาอ้าปากค้าง แทบไม่รู้ว่าต้องหลบอย่างไรเมื่อหันไปมอง เหมือนทุกคนจะเตรียมป้องกันไว้ล่วงหน้า ต่างหลบกันถ้วนหน้า แม้แต่เซี่ยวเซี่ยวก็ยังรีบมุดลงใต้โต๊ะอย่างมีไหวพริบหันมามองอีกครั้ง ไม่รู้ว่าแม่ทัพน้อยถือร่มไว้ในมือตั้งแต่เมื่อไร นำมาบังตรงหน้าไว้ จากนั้นก็หุบร่มด้วยท่วงท่าสง่า ไร้วี่แววหมดสภาพส่วนอู๋ไป๋ที่ถูกผลไม้ป่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 526

    เมื่อออกมาจากเมืองเสี่ยวหลิน ก็มุ่งไปทางทิศใต้นั่นก็คือเมืองตงซิ่นพันธมิตรอู่หลินอยู่ในหมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ภายในเมืองตงซิ่นดูเผิน ๆ อาจจะเหมือนหมู่บ้านทั่วไป แต่เป็นสถานที่ตั้งสำนักใหญ่ของพันธมิตรอู่หลิน ในนั้นมียอดฝีมือแห่งยุทธภพมากมายจนนับไม่หวาดไม่ไหว หน้าทางเข้าหมู่บ้านมีหินก้อนใหญ่ตั้งอยู่ บนนั้นสลักชื่อไว้หลายคนบุรุษสองพาสาวน้อยมาด้วยหนึ่งคน ทั้งยังใส่หน้ากาก จึงทำให้คนระแวงอย่างเลี่ยงไม่ได้คนเฝ้าหมู่บ้านเข้ามาขวางทางทั้งสามคน เอ่ยถามว่า“มาจากไหน  ไปแห่งหนใด”อู๋ไป๋ตัดสินได้อย่างมีประสบการณ์ สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้คือตอบรับสัญญาณลับ ดังนั้น เขาจึงหันไปมองแม่ทัพน้อยเฟิ่งจิ่วเหยียนก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว คารวะตามขนบชาวยุทธภพอย่างเคร่งครัดต่อมานางก็กล่าวด้วยพลังเต็มเปี่ยม“มาจากปรโลก หวนคืนสู่ปรโลก! มิตรภาพแน่นแฟ้นร่วมมีเกียรติร่วมเสื่อมเสีย จับมือสร้างตำนานแห่งยุทธภพ! คารวะ! ผู้นำพันธมิตรทรงอำนาจ!”“พรืด——”อู๋ไป๋หลุดขำอย่างอดไม่ได้สัญญาณลับนี้…ฟังดูเชยอย่างยิ่ง!คนอย่างแม่ทัพน้อย ทนรับได้อย่างไรกันนะ?หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดจบ สีหน้าก็แข็งทื่อเล็กน้อยต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 525

    สาเหตุที่เมืองเซวียนเกิดการกบฎขึ้น เป็นเพราะเหล่าทหารไม่พอใจที่ราชสำนักให้เบี้ยเลี้ยงน้อยนิด เมื่อต่อสู้เรียกร้องไปก็ไร้ผล จึงก่อกบฏขึ้นพอก่อกบฏ จวนจู้กั๋วกงก็ต้องพบกับภยันตราย ราษฎรออกมาต่อต้านเป็นจำนวนมากเมืองเซวียนนี้เป็นป้อมปราการสำคัญที่ใช้ในการควบคุมขนส่งเสบียง เป็นเส้นทางที่ทหารจำเป็นต้องผ่านกลยุทธ์สร้างความวุ่นวายที่จุดยุทธศาสตร์นี้ทำให้ทั้งราชสำนักและประชาชนตื่นตกใจฤดูใบไม้ผลิ แสงอาทิตย์สาดส่อง เดิมควรมีบรรยากาศที่ดี ทว่าที่เมืองเซวียนกลับมีหมอกควันแห่งความทุกข์ปกคลุมไปทั่วเมืองด้านนอกประตูเมือง อู๋ไป๋กำลังคุมรถม้าและดึงบังเหียนให้ม้าหยุดจากนั้นเขาก็เปิดผ้าม่านออกแล้วเสนอว่า“ท่านแม่ทัพน้อย เมืองเซวียนเกิดความไม่สงบขึ้น พวกเราคงต้องอ้อมไปแล้วขอรับ”ด้านในรถม้าบาดแผลที่ตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนหายดีแล้ว ทว่าช่วงนี้ยังไม่อาจมองแสงที่จ้าเกินไปได้นางวางม้วนหนังสือในมือลง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า“อ้อมไปทางทิศตะวันออก”ตามข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกับสายสืบนั่นมา กากเดนบางส่วนที่เหลืออยู่ของพรรคเทียนหลงอยู่ที่เมืองผางเดิมแผนการของนางคือลงไปทางใต้ ไล่ฆ่าจนถึงเมืองผา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 524

    หลังมื้อเช้าซุนหมัวมัวก็มาที่ตำหนักหย่งเหอเมื่อนางเห็นเหลียนซวงที่ดูเหนื่อยล้าจากการนอนไม่พอ นางก็พูดประจบด้วยรอยยิ้ม“คารวะซินเฟยเพคะ!“เมื่อคืนพระสนมทรงเหน็ดเหนื่อยแล้ว นี่คือน้ำแกงบำรุงที่บ่าวตุ๋นให้ท่านด้วยตนเองเพคะ…”นางประเมินสาวน้อยผู้นี้ต่ำเกินไปจริง ๆมิน่าเล่า ไม่ว่านางจะพยายามโน้มน้าวอย่างไร สาวน้อยผู้นี้ก็ไม่ยอมไปจากตำหนักหย่งเหอ ไม่ยอมย้ายไปเกาะขาใหม่ ที่แท้สาวน้อยผู้นี้ก็คิดอยากเป็นผู้สูงศักดิ์เสียเอง!ยามนี้พอมองดูเหลียนซวงคนนี้ดี ๆ ก็นับว่าหน้าตาไม่เลวเลยจริง ๆ แม้จะไม่ถึงขนาดงามล่มเมือง ทว่าก็สวยสดงดงาม เป็นประเภทที่หน้าตาอ่อนโยนนุ่มนวล ทำให้บุรุษรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ มิน่าเล่าฝ่าบาทถึงชอบพอนางความคิดของซุนหมัวมัวชัดเจนจนผู้อื่นสัมผัสได้“พระสนม บ่าวเองก็เป็นคนเก่าคนแก่ บ่าว... บ่าวอยากกลับมาอยู่ที่ตำหนักหย่งเหอ ท่านเองก็ยังขาดคนที่เชื่อใจได้ ใช่หรือไม่เพคะ?”เหลียนซวงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด"ไม่จำเป็น!"เมื่อซุนหมัวมัวเห็นนางวางมาดใหญ่โตเช่นนี้ก็ไม่พอใจทันที จึงพูดเตือนสตินางอย่างเหน็บแนม“พระสนม ท่านทรงลืมเรื่องที่ผ่านมาแล้วหรือ?“ทรงรู้หรือไม่ว่าผู้อื่นมอง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 523

    ณ ตำหนักหย่งเหอผู้มาประกาศพระราชโองการคือหลิวซื่อเหลียง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับซินเฟยมากเพียงใดหลังจากอ่านพระราชโองการจบ หลิวซื่อเหลียงก็มองคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม“เหลียนซวง ท่านอย่าคุกเข่าต่ออีกเลย รีบรับราชโองการไปเถิด“นี่เป็นพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของฝ่าบาทเชียว! บ่าวอยู่ในวังมานานปี นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนได้รับตำแหน่งสนมชั้นเฟยโดยตรง สาวน้อยท่านก้าวถึงสวรรค์ในก้าวเดียว!”มิน่าเล่าฝ่าบาทถึงวิ่งไปที่ตำหนักหย่งเหออยู่บ่อย ๆ ไม่ใช่ว่าทรงลืมอดีตฮองเฮาไม่ลง แต่เป็นเพราะมีคนล่อลวงฝ่าบาทต่างหาก!ดวงตาของหลิวซื่อเหลียงเต็มไปด้วยความชื่นชมในวังหลวงแห่งนี้ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจมองข้ามได้จริง ๆผู้ใดเล่าจะคาดคิดว่าสาวใช้ที่เคยอยู่ข้างกายฮองเฮา จะสลัดร่างกลายเป็นซินเฟยในยามนี้ร่างของเหลียนซวงสั่นเทา“กงกง ข้า...ข้าทำไม่ได้ ข้าไม่อาจรับราชโองการได้!”นางจะเป็นสนมของฝ่าบาทได้อย่างไร!ทันใดนั้นน้ำตาของเหลียนซวงก็ไหลพรากนางกลัวเหลือเกิน!ฝ่าบาทบ้าไปแล้วจริง ๆ!นี่เป็นครั้งแรกที่หลิวซื่อเหลียงพบกับเหตุการณ์เช่นนี้“เหลียนซวง หรือว่าท่านดีใจมากเกินไปอย่างนั้นหรือ? ท่าน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 522

    เหลียนซวงที่ถูกฝ่ามือของฮ่องเต้นั้น นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในทั้งหมดของนางกำลังจะแตกสลายทว่านางไม่เสียใจที่พูดคำเหล่านั้นออกไปเมื่อนางฟังซุนหมัวมัวพูดเกี่ยวกับบุตรสาวตระกูลเจิน นางก็ตระหนักว่าประโยคนั้นเป็นเรื่องจริงที่ว่า ความจริงใจของบุรุษนั้น คงอยู่เพียงชั่วครู่นางเองก็เคยรู้สึกว่าคุณหนูจิ่วเหยียนใจร้ายเกินไป นางไม่ควรเหยียบย่ำความจริงใจของฝ่าบาททว่ายามนี้...นางกลับรู้สึกสมน้ำหน้าฝ่าบาท!หากเขาทำใจได้อย่างง่ายดายเพียงนี้ เหตุใดยามนั้นเขาถึงต้องกักขังคุณหนูจิ่วเหยียนเอาไว้แบบนั้นด้วยแล้วทำไมยามนี้ถึงต้องมาที่ตำหนักหย่งเหอ ราวกับว่าไม่อาจลืมคุณหนูจิ่วเหยียนได้ลงซุนหมัวมัวตกใจจนแข้งขาอ่อนแรง“ฝ่าบาท เหลียนซวงหมายถึงว่า...”“ไสหัวไป” แววตาของเซียวอวี้เย็นชาและดุร้ายราวกับคลื่นทะเลแห่งความโกรธที่กำลังพลุ่งพล่านซุนหมัวมัวไม่กล้ายุ่งกับไฟโกรธนี้จึงจากไปอย่างรวดเร็วข้าหลวงที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนในตำหนักหย่งเหอก็แยกย้ายกันไป ไม่กล้าเข้าใกล้ในลานตำหนักเหลือเพียงเซียวอวี้และเหลียนซวงเขาที่ครอบครองใต้หล้า สวมเสื้อคลุมลายมังกรที่ทำให้ดูสง่างามและเย็นชา ก้าวเข้าใกล้เหลียนซว

DMCA.com Protection Status